ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BE DIFFERENT [kaido x kyungsoo]

    ลำดับตอนที่ #2 : BE DIFFERENT - 1

    • อัปเดตล่าสุด 27 เม.ย. 56


     

           BE DIFFERENT – 1

     

     








     

                10 years ago

     

     

              “ดีโออย่าเอาของคยองไป ฮือๆๆๆ” เด็กชายแก้มย้วยวัย 8 ขวบร้องไห้เสียงดังโวยวาย ทั้งแขนและมือเล็กไขว่คว้าหวังจะได้ตุ๊กตาของตนคืนอย่างเต็มที่

              “ขอเล่นบ้างได้มั้ยล่ะ ? อย่ามาทำเป็นงกไปหน่อยเลย !” เด็กชายผู้ที่ถือตุ๊กตาไว้ในมือพูดออกมาเสียงดัง พร้อมกับแสดงสีหน้ามีความสุขเสียเต็มประดายามเห็นเด็กที่หน้าตาเหมือนตัวเองราวกับแกะร้องไห้งอแง ตัวป้อมๆกระโดดขึ้นลงบนโซฟานุ่มสีครีมโหยงเหยง พร้อมกับมือที่ถือตุ๊กตาก็ส่ายไปมาไม่ให้อีกคนมาแย่งไปได้

              “ดีโอไม่น่ารัก ฮือๆ ดีโอชอบแย่งของคยองฮือ คยองจะฟ้องคุณแม่” เสียงร้องไห้ ปนสะอื้นฮึกๆยังคงดังต่อไปอย่างน่าสงสาร

             

    “ดีโอ!!!” ร่างกลมๆของเด็กชายดีโอหยุดกระโดดโลดเต้นบนโซฟาทันทีที่ได้ยินเสียงกร้าวเรียกชื่อตัวเองเช่นนั้น ... ใช่แล้ว คุณแม่ของพวกเขากำลังมา

     

     

     

    และก็ไม่พ้น

     

     

     

    เผียะ เผียะ

     

     

    เสียงไม้เรียวกระทบลงบนก้นกลมๆของเด็กชายดีโอตัวน้อย ข้อหาคือแกล้งน้องชายฝาแฝดที่คลานตามกันมาติดๆ อย่างคยองซู

     

     

    หากจะถามหาน้ำตาของเด็กชายวัย 8 ขวบอย่างดีโอคนนี้

     

     

    บอกได้คำเดียวว่า ...  ไม่มี

     

     

     

     

    เขาโดนคุณแม่ตีจนชินเสียแล้วล่ะ

     

    ก็เขาแกล้งคยองซูทุกวัน ก็โดนตีทุกวัน แต่กลับไม่เคยจำ

     

    “เมื่อไหร่จะเลิกแกล้งน้องฮะดีโอ ?!

    “...” เงียบไม่มีเสียงตอบรับ มีเพียงเสียงฮึดฮัดตามจังหวะที่ไม้เรียวฟาดตัวลงมา

    “แม่ไม่เคยสอนให้แกทำแบบนี้กับน้องนะ ตุ๊กตาแม่ก็ซื้อให้แกเหมือนกัน ทำไมไม่เอามาเล่น ?”

     

     

    ใช่แล้ว ดีโอก็มีตุ๊กตาตัวนั้นเหมือนกัน

     

     

    คุณแม่ของพวกเขาไม่ใช่คุณแม่ใจร้ายที่ลำเอียงรักลูกไม่เท่ากันหรอกนะ เขาให้ลูกเท่ากันทั้งสองคน ทั้งเสื้อผ้า ของเล่น ถ้าคยองซูมี ดีโอก็ต้องมี แต่นิสัยชอบแกล้งน้องของดีโอก็ยังไม่หายซักที

     

    “คุณน้าหยุดตีดีโอเถอะครับ” เด็กผู้ชายตัวสูงผิวสีแทนเดินเข้ามาห้ามไม้เรียวที่กำลังจะฟาดลงไปบนก้นของเด็กตัวเล็กนั่น

     

    “น้องตัวเล็กนิดเดียวเองครับ คุณน้าอย่าตีน้องเลย” ตากลมโตเหลือบขึ้นมามองพี่ชายข้างบ้านตัวสูงที่กำลังห้ามแม่ของเขาให้หยุดตี

     

     

     

    ตากลมเริ่มมีน้ำใสๆคลออยู่เต็มเบ้า จมูกเล็กก็เริ่มแดง

     

     

    ฮีโร่ ของเขามาช่วยแล้ว

     

     

     

    “เจ็บมั้ยล่ะเรา ?” มือผอมบางของเด็กผู้ชายวัย13 กำลังป้ายยาลงไปบนสะโพกนุ่มนิ่มของเด็กน้อยอย่างเบามือ

    “ชินแล้วฮะ” ปากรูปหัวใจยู่ลงน้อยๆ เรียกรอยยิ้มจากคนเป็นพี่ได้ดีทีเดียว

    “ก็ดีโอล่ะน้า เมื่อไหร่จะเลิกแกล้งคยองซูสักทีละ เป็นฝาแฝดกันแท้ๆทำไมไม่รักกันเข้าไว้” ร่างอ้วนป้อมน่าฟัดของเด็กน้อยขยับตัวขลุกขลักลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะจ้องหน้าพี่ชายตัวสูงแล้วเอ่ยออกมาอย่างจริงจัง

     

    “ดีโอรักคยองซูนะฮะ คยองซูนั่นแหละที่ไม่รักดีโอ คยองซูรักแต่พี่ไค !

     

    “หืม ... แล้วดีโอไม่รักพี่หรือไง ?” อดจะยีกลุ่มผมนุ่มสีดำสนิทนี้ด้วยความเอ็นดูไม่ได้ ก่อนจะเป็นแก้มย้วยๆนั่นที่ถูกดึงให้ยืดจนย้วยกว่าเดิม

    “รักสิฮะ ดีโอรักพี่ไคจะตาย” เอ่ยตอบก่อนจะกอดคอพี่ชายตัวสูงเอาไว้ด้วยความรักจนล้นใจของเด็กชายตัวเล็กๆ

     

     

     

    Present

     

    “หึหึ” เสียงหัวเราะในลำคอดังขึ้นหลังจากนึกถึงอดีตเมื่อสิบปีที่แล้วของตัวเอง สมัยที่ยังเป็นเด็กชายฝาแฝดตัวป้อม

     

    ดีโอ  คยองซู

     

    คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อยเมื่อนึกถึงหน้าพี่ชายคนนั้น หึ หายไปตั้ง 10 ปีแล้วนี่ ลืมกันไปแล้วมั้ง ป่านนี้คงจะรับปริญญาตรีแล้ว หรือไม่ก็คงเรียนต่อปริญญาโทที่อังกฤษเลยนั่นแหละ

     

     

    คงจะไม่มานั่งคิดถึงเด็กดื้อที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยอย่างเขาหรอก

     

     

     

    “สวัสดีฮะพี่หมอ” ดีโอเอ่ยทักผู้ชายรูปร่างอ้อนแอ้นหน้าตาสวยหวานราวกับผู้หญิงที่เขาสนิทสนมคุ้นเคยเป็นอย่างดีรองจากไค

     

     

    พี่หมอแทมิน ... พี่ชายของไค  

     

     

    “สวัสดีดีโอ วันนี้พร้อมเรียนหรือยังเจ้าเด็กดื้อ ?”

    คุณหมอหน้าหวานเอ่ยด้วยรอยยิ้มขำขัน ใช่แล้ว แทมินคือครูสอนพิเศษของดีโอ เจ๋งใช่ไหมล่ะ ? ดีโอมีครูสอนพิเศษเป็นถึงคุณหมอเลยนะ ฮ่าๆ

     

    “แหม พี่หมอก็รู้นี่ฮะว่าถึงผมไม่เรียนพิเศษ ผมก็สอบได้ที่หนึ่งของสายชั้นอยู่แล้ว” คนตัวเล็กยืนกอดอกและเอ่ยขึ้นมาอย่างภาคภูมิใจ แน่นอนว่าดีโอไม่ได้โกหก เขาทำได้อย่างที่เขาพูดจริงๆ

    “จ้า พี่รู้ว่าดีโอเก่ง แต่สอบเข้ามหาวิทยาลัยครั้งนี้ มีแต่คนเก่งๆมาแข่งกันนะ อย่าประมาทเชียว”

    “ผมอยากไปเรียนต่างประเทศจังฮะพี่หมอ ...” เสียงเล็กๆที่ปกติร่าเริงอยู่เสมอเศร้าสร้อยลงอย่างเห็นได้ชัด

    ไม่ใช่ว่าครอบครัวของเขาไม่มีเงินเพียงพอที่จะส่งลูกชายไปเรียนต่างประเทศ หรือตัวดีโอเองไม่มีปัญญาสอบชิงทุนไปเสียที่ไหน แต่ด้วยเหตุผลเรื่องความเท่าเทียมกันของแม่เขาที่ว่า

     

    ถ้าคยองซูไม่ได้ไปเรียนต่างประเทศ ดีโอก็จะไปไม่ได้ ... จะไม่มีใครได้มากไปกว่าใคร

     

    และแน่นอนว่าคยองซูไม่มีทางได้ไป เพราะปัญหาเรื่องสุขภาพที่ต้องนอนโรงพยาบาลตั้งแต่เด็กเป็นเวลาหลายปี ดีโอจำยอมต้องเรียนที่เกาหลีต่อไป ถึงแม้ในใจจะอยากไปเรียนที่อังกฤษแบบพี่ชายข้างบ้านก็ตามที

     

    “เอาน่า เรียนที่เกาหลีก็ดีแล้วนะดีโอ ไปอยู่ต่างประเทศน่ะเหงาจะตาย ดูอย่างไคสิ นายนั่นบ่นคิดถึงบ้านแทบจะทุกนาทีเลยมั้ง” แทมินเอ่ยปลอบใจคนตัวเล็กตรงหน้า โดยอ้างถึงน้องชายผิวเข้มของตัวเอง ดีโอถึงกับหูผึ่ง ความอยากรู้เรื่องราวของคนๆนั้นมันตีตื้นอยู่ในใจ

     

     

    ถาม ...

    ไม่ถาม...

     

     

     

    ถาม ....

     

     

     

    ไม่ถาม ...

     

     

     

     

     

     

     

    “เอ่อ แล้วเขาจะกลับมาเมื่อไหร่ฮะ ?”

     

     

    ในที่สุดก็ตัดสินใจถามออกไป ...

     

     

     

    “เขา ? อ่อ ไคน่ะหรอ ?”

     

    “ก็...ฮะ พี่ไคน่ะ”

    “พี่ยังไม่ได้บอกหรอ ไคจะกลับมาอาทิตย์หน้าแล้วนะดีโอ อ้าว คยองซู” สายตาของทั้งคู่หันไปมองคนที่เพิ่งก้าวลงมาจากบันได

     

     

    หน้าตาของดีโอและคยองซูเหมือนกันก็จริง

     

     

    หากแต่คนใกล้ชิดจะสัมผัสได้ถึงแววตาหม่นๆและอ่อนแอของคยองซู ซึ่งหาไม่ได้จากดีโอ คยองซูเด็กผู้ชายวัย 18 ปีที่มีใบหน้าเศร้าหมองอยู่ตลอดเวลา ต้องคอยได้รับการประคบประหงมจากคนที่บ้านและคุณหมอประจำตัว ด้วยอาการป่วยโรคผนังกั้นหัวใจรั่ว* ที่ตรวจพบเมื่อตอนอายุ 9 ขวบ ทำให้ต้องไปนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนานหลายปี ถึงแม้จะหายเป็นปกติแล้วก็ตาม แต่คุณแม่ก็ไม่เคยปล่อยให้คยองซูได้ไปไหนไกลๆ จะเรียนหนังสือก็ต้องเรียนหนังสือแบบโฮมสคูล*

    ส่วนดีโอเป็นผู้ชายที่ร่าเริงสดใส กล้าคิด กล้าทำ มีความมั่นใจในตัวเอง ดูเข้มแข็งในสายตาทุกคน เรียนเก่ง เกือบเรียกได้ว่าอัจฉริยะจากการที่เขาไม่เคยพลาดตำแหน่งการสอบได้ที่หนึ่งของระดับเลยสักครั้ง คุณแม่ดูจะภูมิใจในตัวของดีโออยู่ไม่น้อยทีเดียว

     

    “จะไปไหนละคยองซู มานั่งติวกับพี่หมอมั้ย ?” แทมินเอ่ยถามคยองซูด้วยรอยยิ้มหวานเช่นเคย ตาโตของคยองซูเหลือบมองดีโอนิดหน่อย ก่อนจะหันมาตอบแทมินอย่างมีมารยาท

    “ไม่ดีกว่าฮะ คยองปวดหัว คยองอยากออกไปนั่งเล่นที่สวน”

    “ก็ขี้เกียจอย่างเนี้ยแหละน้า สอบวัดระดับออกมานายถึงได้คะแนนไม่ถึงครึ่ง เหอะๆ” ดีโอลอยหน้าลอยตาเอ่ยออกมาอย่างเคย เรื่องปั่นป่วนคยองซูเนี่ยงานถนัดดีโอเขาล่ะ แทมินถึงกับสายหน้าเบาๆ ก่อนจะหันมาตำหนิดีโอ

    “ดีโอ ไม่น่ารักเลยนะ พูดกับคยองแบบนี้ได้ไง”

    “ก็มันจริงนี่ฮะ วันๆเอาแต่ทำอะไรก็ไม่รู้ ไม่ยอมอ่านหนังสือหนังหา เฮอะ”

    “ช่างดีโอเขาเถอะฮะพี่หมอ คยองชินแล้ว คยองไปก่อนนะฮะ” เอ่ยน้ำเสียงราบเรียบแล้วค้อมหัวให้ก่อนจะเดินผ่านหน้าแทมินและดีโอไป

     

     

    เป้าหมายคือสวนดอกไม้ที่เขาปลูกเองกำลังบานสะพรั่งเชียวล่ะ

     

     

    เมื่อไหร่กันนะ ที่จิตใจห่อเหี่ยวของคยองซูจะได้เบ่งบานเหมือนกับดอกไม้เหล่านั้นบ้าง ?

     

     

    โรคผนังกั้นหัวใจรั่ว* โรคผนังกั้นห้องหัวใจรั่วเป็นโรคพิการแต่กำเนิด ผู้ป่วยจะมีอาการจนกระทั่งมีอาการเหนื่อยง่ายกว่าปกติ  ตัวเขียว เพราะมีเลือดดำไปปนกับเลือดแดงเยอะ ออกซิเจนไม่เพียงพอ หัวใจโตจนถึงขั้นมีโอกาสหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ถ้าตรวจพบตั้งแต่เด็กสามารถรักษาให้หายได้

    โฮมสคูล* การจัดการศึกษาในครอบครัว ในประเทศไทยอนุญาตให้มีการจัดการเรียนการสอนแบบนี้ในครอบครัวได้ โดยต้องมีการยื่นคำร้องต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาผู้สอนต้องมีวุฒิการศึกษาตามที่กระทรวงกำหนด และมีการวัดระดับโดยการสอบวัดผลผู้เรียนอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง

    ขอบคุณข้อมูลจากปู่เกิ้ล อิอิ

     

     

    เม้นกันซักนิด ไรท์เตอร์กำลังไฟแรงค่ะ 555555

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×