ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Because everything can’t still.[2min Feat.Kai]

    ลำดับตอนที่ #11 : NINTH STEP

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ค. 56




    NINTH STEP

     

     

     

     

    “นายยังรักฉันใช่มั้ยแทมิน ?”

     

     

    “ทะ ทำไม ถามแบบนั้นล่ะมินโฮ ?” เสียงเล็กเอ่ยถามตะกุกตะกัก

    “ฉันอยากรู้ไม่ได้หรือไง ...” มินโฮเอ่ยย้อนแต่สายตายังคงเพ่งมองไปยังถนนเบื้องหน้า ซึ่งมันดีกว่าให้มินโฮหันมาเห็นแววตาตื่นตระหนกของเขา

     

     

     

    “ฉันก็แค่อยากรู้ว่าเวลาที่เปลี่ยนไปทุกวัน มันทำให้นายเปลี่ยนไปด้วยมั้ย ?”

     

     

     

     

    “นายเบื่อฉันบ้างหรือเปล่าที่ฉันไม่ได้มีเวลาให้นายเหมือนกับ คนอื่น”

     

     

     

     

     

    “ฉันอาจไม่ได้ใส่ใจนายทุกนาที ไม่มีเวลาพานายไปทำเรื่องที่นายชอบ ไม่ได้คอยดูแล” เสียงทุ้มยังคงเอ่ยออกมาเรื่อยๆ ริมฝีปากหนาฉายยิ้มบางเบาให้กับเส้นทางที่ตนเองกำลังพบเจอเบื้องหน้า

     

     

     

    “เวลาที่นายรู้สึกเหงา ฉันอาจไม่ได้อยู่ข้างนาย ฉันอาจเป็นคนรักที่ไม่ดีพอ”

     

     

    น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย ถ้าหากจะมีใครเป็นคนรักที่ไม่ดีพอ

     

     

     

     

     

    คนคนนั้น คือ ลีแทมินต่างหาก

     

     

    “แต่ฉันอยากให้นายรู้ว่า ถึงเวลาจะเปลี่ยนแค่ไหน หรือมีเรื่องราวอะไรเข้ามามากมาย...”

     

     

     

     

    “ชเวมินโฮคนนี้ยังเป็นคนเดิม คนที่รักลีแทมินมากที่สุด ชเวมินโฮจะเป็นผู้ชายของลีแทมินตลอดไป

    “พอแล้ว ! แทมินรักมินโฮที่สุด ไม่มีอะไรหรือใครจะมาทำให้แทมินไม่รักมินโฮนะ ฮึก” น้ำตาหยดใสยังคงไหลออกมาจากดวงตากลมโตไม่หยุด เขาไม่เคยรู้ความในใจของมินโฮมากมายขนาดนี้

     

     

    นั่นทำให้แทมินยิ่งรู้สึกละอาย

     

     

     

    เขากล้าหักหลังผู้ชายที่รักเขามากมายขนาดนี้ได้ยังไง ?

     

     

    กล้าปล่อยให้ตัวเองเปลี่ยนไปตามเวลาอย่างที่มินโฮบอก

     

     

     

     

     

     

    กระนั้นแทมินก็ยังกล้าสาบานได้เต็มปากว่า เขาไม่เคยไม่รักมินโฮ

     

     

    “ร้องไห้ทำไม คนขี้แย” เหมือนสัญญาณไฟจราจรจะเป็นใจให้พวกเขา มินโฮหันหน้ามาสบตากับแทมิน มือหน้าไล่เช็ดน้ำตาบนแก้มใสของคนตัวเล็กอย่างเบามือ ราวกับว่ากลัวจะบอบช้ำ

    “ฮึก ฮือ มินโฮ ...แทมินขอโทษ” ร่างกายบอบบางโผเข้าซบอกหนา น้ำตาไหลซึมจนเปียกเสื้อเชิ้ตของอีกคน

    “ขอโทษ แทมินขอโทษที่ไม่เคยเข้าใจมินโฮ แทมินขอโทษ ฮือ”

     

    คนตัวเล็กได้แต่พร่ำคำว่าขอโทษออกมา เขารู้เพียงแต่ว่าเขาอยากขอโทษ ขอโทษทุกเรื่อง แม้ในเรื่องที่เขาไม่สมควรได้รับการให้อภัยก็ตาม

     

     

    หากมินโฮรู้เรื่องราวที่ไม่น่ารู้ระหว่างเขากับไค

     

     

     

    มินโฮจะยังอยู่ตรงนี้หรือเปล่า ...

     

     

     

    ทำไมนะ ในเมื่อมินโฮดีแสนดีกับเขาขนาดนี้

     

     

     

     

     

     

     

    ทำไมเขาถึงกล้าทำเรื่องน่าละอายลับหลังมินโฮได้อีก

     

     

     

     

     

     

     

     

    เขากับไค ...

     

     

     

    มันควรจะจบได้แล้ว

     

     

     

     

    หยุดเรื่องของเราเถอะนะ

     ฉันรักมินโฮ ฉันขอโทษ

                    แทมิน

     

     

     

     

     

    sending a message …

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ไง ไอ้น้องชายกลับมาแล้วเหรออออออออออออออ~ ทันทีที่แทมินก้าวพ้นประตูบ้านตัวเอง เสียงต้อนรับจากพี่ชายที่ชอบทำตัวประหลาดเป็นกิจวัตรอย่างอนยู(บทก็น้อย โถ : ไรท์เตอร์) ก็ดังขึ้นทันที

    “ทำไมพี่ต้องเสียงดังด้วยเนี่ย ?”

    “คีย์กุนมาด้วยหรือเปล่า พี่คิดถึงคีย์กุน น้ำตาจะไหลแล้ว” พี่ชายตัวขาวแสร้งยกมือขึ้นมาขยี้ตาเหมือนเด็กจะร้องไห้

    “คีย์กุนไม่ได้มาหรอกครับ มาแต่มินโฮกุน” มินโฮที่เพิ่งเดินเข้ามาพร้อมกระเป๋าสัมภาระของแทมิน จงใจพูดออกมาอย่างนึกขำที่เห็นในท่าทางของอนยู

    “แกมาทำไมเนี่ย ฉันเบื่อหน้าแกจะแย่แล้ว” ดวงตาเล็กเรียวเหล่มองชเวมินโฮอย่างเซ็งๆ นิสัยหวงน้องชายของอนยูมันทำให้มินโฮนึกขำมากกว่ากลัวเสียอีก

    “แต่น้องชายพี่เขาไม่ได้เบื่อหน้าผมนี่ครับ ไม่เชื่อพี่อนยูก็ตามน้องชายตัวเองดูสิครับ” คิ้วหนายักขึ้นลงอย่างกวนประสาท

    “เอาไว้น้องชายพี่อนยูเขาเบื่อหน้าผมเมื่อไหร่ ผมจะไม่มาให้พี่เห็นหน้าเลยละครับ”

    “บ้าหรอ ! แทมินไม่มีวันเบื่อหน้ามินโฮหรอกนะ” คนตัวเล็กส่งเสียงขึ้นมาบ้าง

    “ฮึ่ย !” ส่วนพี่ชายตัวขาวก็ทำท่ากระฟัดกระเฟียดก่อนจะเดินขึ้นบันไดไป เปิดโอกาสให้แทมินกับมินโฮหันมาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

     

     

     

     

     

     เช้านี้มินโฮมารับแทมินที่บ้าน แถมยังร่วมโต๊ะทานอาหารเช้าอีกด้วย อนยูยังบ่นเบื่อหน้าเขาเหมือนเคย หากแต่มินโฮไม่เคยโกรธเพราะรู้ดีว่าลึกๆแล้วนั้นอนยู ไม่ได้จงเกลียดจงชังตนเองอย่างที่ท่าทีแสดงออกมา

     

    “เฮ้โย่ว เพื่อนรัก อ้าว สวัสดีแทมิน” คิมจงฮยอนที่มักจะเข้ามาทักทายมินโฮในห้องทำงานตอนเช้าเสมอ วันนี้ก็ไม่พลาดเช่นกัน ไม่ลืมที่จะหันไปสวัสดีแทมินอย่างผู้ชายมีมารยาท คนตัวเล็กได้เพียงยิ้มและก้มหัวเล็กน้อยตอบกลับไป

    “ไง มีธุระอะไร งานการไม่มีทำหรือไงไอ้จง ?” ใบหน้าหล่อแสดงอาการเบื่อหน่ายหน้าเพื่อนรักตัวเองเต็มทน

    “โอ้ะโห่ พูดอย่างนี้เพื่อนก็เซ็งนะครับ แค่มีอะไรอยากปรึกษาหน่อยว่ะ” จงฮยอนเอ่ย พร้อมกับดึงเก้าอี้มานั่งโดยไม่ขออนุญาตเจ้าของห้องแม้แต่น้อย

    “เรื่องอะไรวะ ถ้าไร้สาระไม่ต้องนะเว่ย งานเยอะแยะ” ใบหน้าหล่อเหลาก้มหน้ามองเอกสารในมือ แถมยังจรดปากกาเซ็นชื่อเสียจนมือเป็นระวิง

    “ก็ ... เรื่องญาติฉันน่ะ”

    พลันแทมินที่กำลังตรวจเอกสารอยู่ก็ชะงักเช่นกันที่คิมจงฮยอนพูดจบ ญาติของจงฮยอนจะเป็นใครไม่ได้นอกเสียจาก คิมจงอิน

    “ไอ้จงอินน่ะ”

    เกร๊ง   ปากกาด้ามงามถูกปล่อยร่วงจากมือเล็กกระทบลงกับพื้นห้องจนเกิดเสียงดัง

    “มีอะไรหรือเปล่าแทมิน ?” มินโฮเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารก่อนจะหันไปถามร่างบางด้วยความสงสัย

    “มะ ไม่มี ปากกาตกเฉยๆน่ะ นาย เอ่อ คุยกันต่อเถอะ”

                ใบหน้าหวานแสร้งทำเป็นไม่สนใจก้มหน้าก้มตาตรวจเอกสารในฐานะเลขาต่อไป ทั้งที่ในใจอยากรู้เรื่องราวของอีกคนจนแทบแย่

     

     

    ไคเป็นอะไรกันนะ ?

    ทำไมจงฮยอนถึงต้องมาปรึกษามินโฮด้วย ?

    และต้นเหตุ ... ใช่คนที่นั่งอยู่ตรงนี้หรือเปล่า

     

     

                “หมู่นี้มันดูแปลกๆไปว่ะ ไม่ค่อยร่าเริงเหมือนเมื่อก่อนเลย”

                “งั้นหรอ...”

                “เออดิ นี่ฉันก็โทรไปถามคุณน้าคิมนะเว่ย คุณน้าแกก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนแรกก็นึกว่าบ้านคุณน้าคิมแกอาจจะมีปัญหาเรื่องเงิน แต่ก็ไม่ใช่ คุณน้าแกเลิกเข้าบ่อนแล้ว ไอ้จงอินก็ไม่น่าจะมีอะไรต้องเครียดนี่หว่า” จงฮยอนยังคงเอ่ยต่อไปไม่หยุด

                “งั้นก็อาจจะเป็นเรื่องอื่น คนเรามันเครียดได้ตั้งหลายเรื่อง” มินโฮแสดงความเห็นออกไปอย่างไม่ใส่ใจนัก

                “แล้วมันเรื่องอะไรละวะ ถ้าไม่ใช่เรื่องเงินฉันพร้อมจะช่วยมันนะเว่ย แต่ที่มานั่งกังวลอยู่นี่เพราะไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรต่างหาก...” คิ้วหนาขมวดกันเป็นปม บ่งบอกว่าจงฮยอนเป็นกังวลกับเรื่องนี้แค่ไหน

     

                “เออใช่ ! แทมินเป็นเพื่อนจงอินนี่ พอจะรู้มั้ยว่ามันเป็นอะไร ?” ร่างหนาพุ่งตัวมายังโต๊ะทำงานแทมิน สองมือวางทาบบนโต๊ะ หน้าคมยื่นเข้าใกล้ใบหน้าหวาน จนแทมินต้องถดหน้าออกมาด้วยความตกใจ

                “เฮ้ยใกล้ไปแล้วไอ้จง!” เสียงของเพื่อนรักทำให้จงฮยอนได้สติ ปรับท่าทางของตนเองให้ปกติ ก่อนจะส่งยิ้มแหยๆไปให้

                “เอ่อขอโทษทีแทมิน พอดีฉันตกใจมากไปหน่อยน่ะแหะๆ”

                “ไม่เป็นไร ฮ่ะๆ” แทมินตอบอ้อมแอ้มออกไป เขาพอจะรู้ว่าคิมจงฮยอนเป็นคนที่ล้นๆเกินๆอยู่ตามคำบอกเล่าของมินโฮ

                “ตกลงว่านายรู้หรือเปล่าแทมินว่าจงอินมันเป็นอะไร ?”

     

     

     

                เมสเสจในวันนั้นนับเป็นครั้งสุดท้ายที่แทมินติดต่อไค โดยที่ไคไม่ได้ติดต่อกลับมา 



     

                แทมินคงจะนึกสบายใจกว่านี้ถ้าเห็นไคยังใช้ชีวิตปกติ แต่ดูเหมือนเรื่องราวจะไม่เป็นแบบนั้น ไคอาจจะกำลังเศร้าเสียใจ และเขาคือต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด จากการบอกเล่าของคิมจงฮยอน ทั้งหน้าตาที่ดูเป็นกังวลนั่น ยิ่งทำให้แทมินรู้สึกกระวนกระวาย จะว่าเป็นห่วงก็ใช่ ถึงแม้จะอยู่ในสถานะคลุมเครือ แต่เขาก็ควรจะใส่ใจไคให้มากกว่านี้ อย่างน้อยไคก็ได้ชื่อว่าเป็น เพื่อน ของเขา 

               

     

     

     

     

     

     

     

     

    พักเที่ยงเจอกันที่ห้องถ่ายเอกสารนะ

    มีเรื่องจะคุยด้วย

                                     แทมิน

     

    _______________________________________________

    สั้นจังเลยตอนที่9 เนี้ย !!!!

    คือความจริงยาวกว่านี้ แต่อยากอัพแค่นี้
    เพราะไรท์เตอร์ชอบทรมานรีดเดอร์ *หัวเราะโรคจิต*

    ตกลงประโยคที่รีดเดอร์สงสัยกันจากตอนที่แล้วก็ทราบกันแล้วใช่ม้า
    ว่ามินโฮพระเอกสุดหล่อเป็นคนพูด
    (ดูเหมือน)แทมินจะคิดได้แล้ว ... หรือเปล่า หรือยังไง ให้รีดเดอร์เดา
    ชอบมากคือชอบอ่านคอมเม้นท์ของรีดเดอร์มาก บอกเลยว่าอ่านทุกคอมเม้นท์
    อ่านแล้วกำลังใจพุ่งพรวด อยากทอล์คยาวๆ ถึงแม้รีดเดอร์จะไม่อยากฟัง 5555
    ตามความตั้งใจไรท์เตอร์คิดไว้ว่าฟิคเรื่องนี้จะไม่เกิน 15 ตอน
    ไม่อยากให้ยาวมากเพื่อให้สะดวกกับการรวมเล่มในอนาคต
    รีดเดอร์สนใจรวมเล่มของไรท์เตอร์บ้างม้าย งุ้งงุ้งงุ้ง ????


    คือไม่รู้นะแต่คิดว่าตอนหน้าน่าจะเป็นอะไรที่ทุกคนควรติดตาม
    ดังนั้น ติดตามด้วยนะคะ ฮิฮิฮิฮิ


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×