คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4
“ว่าไง วันนี้มีอะไรไปฝากปู่ย่ากับพ่อ” เก่งร้องทักน้องสาวเมื่อเปิดประตูเดินเข้ามาในห้อง วันนี้เขานัดกับจิ๊กกี๋กลับบ้านที่สระบุรีหลังจากที่ไม่ได้กลับไปเยี่ยมหลายอาทิตย์
“กี๋ซื้อเสื้อไปฝากลุงกับตา แล้วก็ซื้อผ้าซิ่นไปฝากยาย คิดถึงลุงกับตายายจังเนอะ”
“คิดถึงก็รีบไป มาพี่ถือให้” เก่งช่วยน้องสาวหิ้วกระเป๋า พร้อมกับล็อกประตูห้องให้
จิ๊กกี๋เดินคุย เกาะแขนพี่ชายจนถึงลานจอดรถ ก่อนจะหยุดยืนมองหญิงสาวผมยาว หน้าตาเรียบร้อย เดินส่งยิ้มมาให้เธอกับพี่ชาย
“กี๋นี่พี่ฝน” เก่งเอ่ยปากแนะนำขึ้นเมื่อเห็นแฟนสาวเดินเข้ามาใกล้
“อ้าวกี๋ ยืนเฉยเลย ทำไมไม่ไหว้พี่เขาล่ะ พี่เขาโตกว่าเราต้องเยอะนะ” เก่งร้องทักขึ้นเมื่อเห็นน้องสาวยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน ก่อนจะหลุดยิ้มออกมาเมื่อเห็นจิ๊กกี๋ยอมยกมือขึ้นไหว้แฟนสาวและเอามือกลับมาเกาะแขนเขาแน่น
“ฝนจ๊ะ นี่น้องจิ๊กกี๋ น้องสาวที่ผมพูดให้คุณฟังบ่อยๆ” เก่งแนะนำต่อ
“หน้าตาสวยน่ารักจังนะคะ” น้ำฝนเอ่ยปากชม พร้อมกับส่งยิ้มให้กับสาวสวยหน้าหวาน ที่มีองค์ประกอบรูปหน้ารับกันอย่างลงตัว ใบหน้ารูปไข่ หน้าผากนูนอวบ คิ้วโก่ง ดวงตาคมหวาน รับกับจมูกที่โด่งเป็นสันและปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อ ทำให้เธอสะดุดตาตั้งแต่เห็นสาวน้อยเดินคุยจ้อกับพี่ชายออกมาจากตัวตึก
สาวสวยตรงหน้าไม่มีเค้าหน้าเหมือนพี่ชายเลยสักนิด เก่งของเธอเป็นผู้ชายหน้าจืดไม่มีองค์ประกอบส่วนใดของใบหน้าโดดเด่นเหมือนน้องสาว แต่ดูรวมๆแล้วเขาเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีคนหนึ่ง ดูจากรูปครอบครัวพ่อแม่และปู่ย่าของเขาที่ตั้งอยู่บนโทรทัศน์ แฟนหนุ่มของเธอได้รับองค์ประกอบหน้าตาทั้งหมดมาจากแม่ของเขา ส่วนน้องสาวที่เป็นเพียงลูกของอากลับมีส่วนละม้ายคล้ายพ่อและปู่ของแฟนหนุ่ม
“เอ้ากี๋ ปล่อยแขนพี่ได้แล้ว พี่จะเอาของไปเก็บท้ายรถ ไปขึ้นรถได้แล้ว ไปขึ้นฝั่งโน้นก็ได้” เก่งร้องบอกน้องสาว เนื่องจากรถของเขาเป็นกระบะสองตอน มีประตูแค่สองประตู เขาจึงไม่อยากให้แฟนสาวต้องลำบากในการเลื่อนผลักเบาะใหม่
“ได้ข่าวว่าน้องจิ๊กกี๋กำลังจะย้ายงานเดือนหน้าหรือคะ” น้ำฝนหันมาชวนจิ๊กกี๋คุยขณะรอแฟน
จิ๊กกี๋มองหน้าหญิงสาวที่นั่งอยู่เบาะหน้า ถึงพี่เก่งจะไม่ได้บอกว่าเป็นแฟน แต่การพาหญิงสาวตรงหน้าไปหาลุงกับตายายมันเป็นตัวเฉลยที่ไม่ต้องเอ่ยถึง เธอไม่เคยคิดว่าพี่เก่งจะใจร้ายกับเธอขนาดนี้ อาทิตย์ที่แล้วเธอเพิ่งบอกไม่ให้เขารักใคร เวลาผ่านไปไม่ถึงเจ็ดวัน พี่เก่งกลับพาผู้หญิงคนนี้มาอวดเธอ แถมยังให้นั่งเบาะหน้า ปล่อยให้เธอต้องมานั่งคุดคู้อยู่เบาะหลัง
“รอนานไหมฝน” เก่งถามขึ้นกับแฟนสาวเมื่อเดินขึ้นรถ
“ไม่ค่ะ คอนโดของน้องจิ๊กกี๋น่าอยู่จังนะคะ” น้ำฝนเอ่ยปากชม ตั้งแต่นั่งรถเข้ามา เธอสังเกตเห็นบรรยากาศรอบๆตัวตึก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สวนหย่อม สระว่ายน้ำ สนามเทนนิส รวมไปถึงร้านอาหารหรู และร้านค้าต่างๆที่อยู่ใต้ตึก
“อือ พ่อเป็นคนเลือกให้” เก่งตอบรับแฟนสาวอย่างขอไปที จริงๆกว่าจะหาคอนโดให้น้องสาวได้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขาเลย ข้อจำกัดมากมายที่พ่อตั้งขึ้นทำให้เขาต้องตระเวนไปดูคอนโดใหม่ๆอยู่หลายแห่ง ก่อนจะพาพ่อตระเวนตรวจสอบอีกรอบเพื่อตัดสินใจเลือก
“แล้ววันทำงานน้องจิ๊กกี๋ต้องออกจากบ้านกี่โมงคะ” น้ำฝนหันมาชวนจิ๊กกี๋คุยอีกครั้ง
เก่งไม่ได้ยินเสียงตอบจากน้องสาวจึงเงยหน้าขึ้นมองกระจกหลัง เห็นจิ๊กกี๋กำลังมองออกไปนอกหน้าต่างจึงร้องทักขึ้น
“กี๋พี่ฝนเขาถาม ทำไมไม่ตอบ อะไรกันเรา พี่อุตส่าห์ไปคุยว่าเราคุยเก่ง”
จิ๊กกี๋หันมาส่งค้อนใส่กระจกให้พี่ชาย ก่อนจะหันออกไปมองนอกรถเหมือนเดิม
“สงสัยกี๋เขายังง่วงอยู่ ฝนหิวไหม” เก่งหันมายิ้มและแก้ตัวแทนน้องสาว
“ไม่ค่ะ เก่งหิวหรือยัง เดี๋ยวฝนเอาแซนวิชให้”
“ยัง ฝนหิวก็กินไปก่อน”
“สงสัยน้องจิ๊กกี๋จะง่วงจริงๆนะคะ” น้ำฝนหันไปคุยกับเก่งเสียงเบา เมื่อหันไปเห็นน้องสาวแฟนนั่งหลับตาอยู่
เก่งเหลือบตาขึ้นมองกระจกหลังก่อนจะถอนหายใจเบาๆ
********
“สวัสดีค่ะยาย ตา” จิ๊กกี๋รีบวิ่งลงจากรถ เข้าไปไหว้ยายและตาที่อกพร้อมกับกอดทั้งสองทีละคน
“หลานยาย เป็นยังไงบ้าง” นวลยิ้มทักหลานสาวอย่างมีความสุข
“สบายดีค่ะ ยายยังสาวเหมือนเดิมเลยนะ” จิ๊กกี๋พูดแซวยายเหมือนทุกครั้ง
“นั่นมาถึง ก็มาหยอดคำหวานกับยายเลยนะ” ก้องแซวหลานสาวอย่างอารมณ์ดี
“สวัสดีค่ะลุง” จิ๊กกี๋หันไปยิ้ม พร้อมกับกระโดดเข้าไปกอดลุงสุดแรง ก่อนจะเขย่งขึ้นหอมแก้ม “คิดถึงลุงที่สุดในโลกเลย”
ก้องหัวเราะกอดหลานสาวกลับ “คิดถึงอะไรกัน ไม่เห็นจะมาหาเท่าไหร่เลย”
“แหมก็จิ๊กกี๋ต้องทำงานนี่ ลุงนั่นแหละไม่คิดถึงจิ๊กกี๋ ไม่เห็นไปหาจิ๊กกี๋ที่กรุงเทพเลย” จิ๊กกี๋ทำเสียงกระเง้ากระงอดใส่ลุง
“อ้าว ลุงก็ต้องดูแลสวนเหมือนกัน” ก้องยกมือขึ้นขยี้หัวหลานสาวอย่างอารมณ์ดี
“คนงานต้องเยอะ ไม่เห็นต้องดูเองเลย”
“สวัสดีครับปู่ ย่า พ่อ”
“ไหว้พระเถอะลูก” นวลยิ้มรับหลานชาย ก่อนจะเหลือบตาไปมองสาวหน้าจืดท่าทางเรียบร้อย
“ฝนนี่ปู่ ย่า แล้วก็พ่อพี่จ๊ะ” เก่งเอ่ยปากแนะนำ
“สวัสดีค่ะ” ฝนยกมือไหว้ญาติผู้ใหญ่
“นั่งรถมาไกลเหนื่อยไหม” ก้องยิ้ม พร้อมกับร้องทักแฟนสาวของบุตรชายก่อนจะเหลือบตาไปมองหลานสาวที่ปล่อยแขนออกจากเขาทันทีที่เขาเอ่ยปากทักหญิงสาวตรงหน้า
“เข้าบ้านกันดีกว่าตา ยาย จิ๊กกี๋มีของมาฝากด้วยนะ” จิ๊กกี๋รีบเข้าไปโอบตากับยายพร้อมกับพาเดินเข้าบ้าน
ก้องมองหน้ากับลูกชาย ก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้กับหญิงสาวที่เพิ่งทำให้เขาถูกหลานสาวทิ้ง
“ไปหนู ตามคนงานไปที่ห้อง ล้างหน้าล้างตาเก็บข้าวเก็บของแล้วค่อยออกมานั่งคุยกัน”
“ค่ะพ่อ” น้ำฝนรับคำพ่อของเก่ง ก่อนจะเดินตามคนงานที่กำลังยกกระเป๋าของเธอเดินนำไปที่ห้อง
“ว่าไง รายนี้โดนจิ๊กกี๋เล่นงานอะไรไปแล้วบ้าง” ก้องส่งยิ้มล้อลูกชาย ก่อนจะเดินเข้าไปกอดคอพร้อมกับถามขึ้นด้วยน้ำเสียงขำๆ
อาการหวงพี่ชายและลุงคงไม่มีใครเกินหลานสาว ส่วนวิธีการนะหรือไม่ต้องพูดถึง มีพัฒนาการขึ้นทุกปี เริ่มจากการร้องไห้กระจองอแงเกาะติดแข้งติดขา ไปจนถึงแกล้งโยนพวงมดแดงกับโรยหมามุ่ยใส่ แต่ที่หนักสุดเห็นจะเป็นการผลักเพื่อนสาวของลูกชายตกน้ำและตามด้วยก้อนหินเข้าที่หัว จนเขาต้องตามไปจ่ายค่าทำขวัญให้พ่อแม่ของเด็กสาวอยู่หลายพัน และหลังจากนั้นก็ไม่มีสาวหน้าไหนกล้ามาเป็นเพื่อนกับลูกชายของเขาอีกเลย
ก้องเข้าใจและยอมรับกับการแสดงออกที่รุนแรงของหลานสาว เด็กสาวสูญเสียคนที่เธอรักอย่างสุดหัวใจไปแล้วหนหนึ่ง และเธอไม่อาจที่จะยอมสูญเสียใครต่อไปได้อีก การแสดงออกของเด็กประถมสี่ไม่มีอะไรซับซ้อนไปกว่าความรู้สึกหวงแหน จิตใจของหลานสาวยังคงบริสุทธิ์โดยมีเขา พ่อแม่ และลูกชายช่วยกันฟูมฟักเธอด้วยความรักและความห่วงใย
“ไม่ครับ” เก่งตอบพ่ออย่างไม่เต็มเสียงนัก
“อย่างนี้แสดงว่าจิ๊กกี๋เขาโตและเข้าใจ ยอมให้พี่ชายมีแฟนได้แล้วซินะ” ก้องยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“เปล่าครับพ่อ”
ก้องมองหน้าลูกชายที่ตอบกลับด้วยใบหน้าและน้ำเสียงที่อ่อนแรง ก่อนจะดึงมือลูกชายให้ลงนั่งที่แคร่หน้าบ้านและถามขึ้นอย่างเป็นห่วง “มีอะไรหรือเปล่าเก่ง”
“ครับพ่อ ผมกับน้ำฝนพยายามชวนกี๋คุย แต่กี๋ไม่ยอมพูดอะไรกับผมเลย ตั้งแต่ขึ้นรถ นั่งหลับตามาตลอดทาง”
ก้องหัวเราะ ยกมือขึ้นตบบ่าลูกชาย “น้องคงงอน เดี๋ยวเราเข้าไปง้อเขาหน่อยก็คงจะหายแล้วล่ะ”
********
“ว่าไงจิ๊กกี๋ ไม่คิดจะมาเยี่ยมตากับยายบ้างหรือไง ปล่อยให้ตากับยายคิดถึง” โก่งบ่นหลานสาวด้วยความเอ็นดู
“คิดซิตา แต่ว่าจิ๊กกี๋ไม่มีเวลา จิ๊กกี๋กำลังจะเปลี่ยนงานก็เลยยุ่งๆนิดหน่อย”
“แล้วเปลี่ยนไปทำอะไรล่ะลูก” นวลถามขึ้น
“ทำเหมือนเดิมแหละยาย แต่เปลี่ยนบริษัท” จิ๊กกี๋ไม่พูดเปล่าล้มตัวลงนอนที่ตักของตา “คิดถึงตักนุ่มๆของตาจัง”
โก่งนั่งหัวเราะชอบใจ ขณะที่นวลเอามือมาลูบหัวหลานสาวด้วยความเอ็นดู
“อะไรกัน มาถึงก็นอนตักตาเลยหรือเรา ทำไมขี้เกียจจัง” ก้องเดินเข้ามาพร้อมกับลูกชาย ก่อนจะทรุดลงนั่งใกล้ๆหลานสาว
“ก็จิ๊กกี๋นั่งรถมาตั้งนาน เมื่อยจะตาย” จิ๊กกี๋หันมาบอกลุงก่อนจะหันไปคุยกับยายอีกครั้ง “วันนี้ยายทำอะไรให้จิ๊กกี๋กิน จิ๊กกี๋หิวแล้ว”
“ยายทำของชอบของจิ๊กกี๋ทั้งนั้นแหละ” นวลยิ้มและบอกกับหลานสาวคนโปรด
“อะไรกันครับ แล้วไม่มีของชอบของผมบ้างหรือย่า” เก่งรีบท้วงขึ้น
“ของเก่งเอาไว้พรุ่งนี้ละกันนะลูก” นวลหันไปตอบหลานชาย
“อ้าว ทำไมย่าลำเอียงอย่างนี้ล่ะ” เก่งบ่นขึ้น
นวลหัวเราะ หันมาลูบหัวหลานสาวเล่นต่อด้วยความเอ็นดู
“ผึ้งๆ เอากระเป๋าฉันมาที่นี่ก่อน” จิ๊กกี๋ลุกขึ้นนั่ง ตะโกนเรียกสาวใช้ที่กำลังจะยกกระเป๋าเธอไปที่ห้อง ก่อนจะหยิบห่อของขวัญออกจากกระเป๋าส่งให้ตา ยาย และลุง
“นี่ของยาย แล้วนี่ก็ของตา ส่วนนี่ของลุง”
“อะไรกัน มีของฝากยายทุกครั้งเลยหรือ ไหนดูซิว่าอะไร” นวลนั่งแกะห่อของขวัญอย่างมีความสุข
“ตา ลุง แกะซิ” จิ๊กกี๋หันไปเร่งทั้งสองเมื่อเห็นตากับลุงนั่งเฉย
“เอาให้ผึ้งไปซักเลยนะคะ พรุ่งนี้ตา ยาย กับลุงต้องใส่ด้วย” จิ๊กกี๋ร้องบอกเมื่อเห็นทุกคนแกะของขวัญเสร็จ
“อีกแล้วเหรอ ลุงเก็บไว้ใส่ตอนปีใหม่ได้ไหม” ก้องร้องบอกกับหลานสาว
“จริงด้วย ยายเอาไว้ใส่ตอนปีใหม่ดีกว่านะจิ๊กกี๋” นวลรีบเห็นด้วยกับลูกชาย
“ไม่ได้ค่ะ ปีใหม่ก็ค่อยซื้อใหม่ พรุ่งนี้ต้องใส่ให้จิ๊กกี๋ดูด้วย มาค่ะตา ยาย ลุง เอามาเดี๋ยวจิ๊กกี๋ให้ผึ้งเอาไปซัก”
“เรานี่จริงๆเลย” ก้องขยี้หัวหลานสาว
“ผึ้ง เอาไปซักนะ แล้วก็เอากระเป๋าฉันไปเก็บที่ห้องได้แล้ว” จิ๊กกี๋หันไปส่งของพร้อมกับสั่งสาวใช้
“กี๋พรุ่งนี้เช้าพี่จะพาพี่ฝนเขาไปเดินเล่นที่สวน ไปกับพี่ไหม” เก่งรีบเอ่ยปากชวนน้องสาวทันทีที่มีโอกาส
จิ๊กกี๋ชำเลืองตามองพี่ชาย พร้อมกับล้มตัวลงนอนบนตักของตาอีกครั้ง ก่อนจะหันไปคุยกับยายต่อ “ยาย จิ๊กกี๋อยากกินมะม่วงแช่อิ่ม ยายทำไว้ให้จิ๊กกี๋หรือเปล่า”
ก้องอมยิ้มหันไปสบตากับลูกชายเมื่อเห็นพฤติกรรมของหลานสาว สงสัยงานนี้เก่งต้องรับศึกหนัก จิ๊กกี๋ยังขี้งอนเหมือนเดิม ดีที่โตเป็นผู้ใหญ่ไม่คิดแกล้งแฟนสาวของพี่ชายเหมือนสมัยเด็ก แต่ยังไงคงจะต้องเตือนเก่งไว้หน่อย เกิดคึกขึ้นมาไปเอารังมดแดงบนต้นมะม่วงมาเล่นงานแฟนสาวของลูกชาย คราวนี้ลูกชายได้อยู่เป็นโสดอีกนานแน่ คนนี้ยิ่งท่าทางเรียบร้อย หงอๆอยู่ด้วย
“ทำซิ ยายทำไว้เยอะเลยนะ เดี๋ยวเอากลับไปกินที่โน่นด้วย”
“ตา แล้วตาหายปวดหลังหรือยัง ไปหาหมอหรือเปล่า”
“หายแล้ว แล้วอาทิตย์หน้าจะกลับมาอยู่กับตากับยายจริงหรือเปล่า ตาจะได้ให้คนไปบอกแม่เขา”
“ตาจะไปบอกแม่ทำไม แม่เขาไม่สนใจหรอกว่าจิ๊กกี๋จะมาหรือไม่มา จิ๊กกี๋ไปจัดของในห้องก่อนดีกว่า” จิ๊กกี๋ทำหน้ามุ่ย ลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะส่งเสียงกระเง้ากระงอดตอบกลับไปพร้อมกับลุกเดินไปที่ห้อง
โก่งกับนวลได้แต่มองหน้ากัน ส่ายหัวระอาใจในความขี้งอนและเอาแต่ใจของหลานสาว ถึงลูกสาวจะเป็นแม่ที่ใช้ไม่ได้ แต่ยังไงทั้งสองก็เป็นแม่ลูกกันไม่มีวันที่จะตัดกันขาด
ก้องถอนหายใจยาว มองแฟนสาวของลูกชายที่เดินมารวมกลุ่มได้ถูกเวลา ไม่งั้นเขากับพ่อแม่คงไม่มีโอกาสได้สัมภาษณ์หญิงสาว เมื่อครู่เขาเองก็โดนจิ๊กกี๋งอนไปแล้วทีหนึ่งที่ไปยิ้มและทักทายแฟนสาวของลูกชาย ขณะที่พ่อแม่ของเขาเอาตัวรอดโดยการพยักหน้ารับไหว้เท่านั้น หลานสาวของเขาโตเป็นผู้ใหญ่พอที่จะไม่โวยวายทำให้เขาสบายใจไปได้เปาะหนึ่ง แต่ใช่ว่าเขาจะไม่เห็นดวงตาเศร้าและตัดพ้อของหลานสาวที่แอบเหลือบมองลูกชายของเขา จิ๊กกี๋คงจะเสียใจไม่น้อยไปกว่าคราวที่แม่แต่งงานใหม่ เขาได้แต่หวังว่าลูกชายจะยังเอ็นดูและไม่ทิ้งน้องสาวเหมือนกับที่น้องสาวของเขาทำกับจิ๊กกี๋
********
ก๊อกๆๆๆ “ลุงเข้าไปได้ไหม”
“ได้ค่ะ ไม่ได้ล็อก”
จิ๊กกี๋ผวาเข้ากอดลุงทันทีที่ลุงทรุดตัวลงนั่งบนเตียงกับเธอ
“ว่าไงเรา ขี้งอนเหมือนเดิมเลยนะ แม่เราเขาไม่ค่อยสบาย ไปเยี่ยมเขาหน่อยก็ดีเหมือนกันนะ” ก้องลูบหัวหลานสาว พร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ใช่ว่าพ่อแม่ และเขาจะไม่โกรธแม่ของจิ๊กกี๋ การทุ่มเทเวลาให้กับครอบครัวใหม่เป็นสิ่งสำคัญก็จริง แต่ถึงขนาดไม่กลับมาเหลียวแลลูกสาว ไม่มาเยี่ยม ไม่โทรหา มันก็เกินไปหน่อย ดีที่น้องสาวยังคิดได้หลังจากเวลาผ่านไปได้สามปี แต่มันก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น หลานสาวของเขายังคงเจ็บปวดและทุกข์ใจกับช่วงเวลาที่หายไปของแม่จนถึงบัดนี้ เนื่องจากน้องสาวของเขาไม่ได้ทุ่มเทหรือใส่ใจที่จะเยียวยาลูกสาวของตัวเองอย่างจริงจัง หลายเดือนโทรมาถามข่าวสักครั้ง ปีหนึ่งถึงได้โผล่หน้ามาให้ลูกได้เห็น และนั่นไม่สามารถทำให้ความสัมพันธ์ของแม่ลูกดีขึ้นเลย ฝ่ายหลานสาวก็ทิฐิเกินกว่าจะยอมไปหาแม่
“แม่เป็นอะไรหรือลุง”
ก้องยกมือขึ้นลูบหัวหลานสาว น้ำเสียงแสดงความเป็นห่วงเป็นใยแม่หลุดออกจากปากของจิ๊กกี๋ทุกครั้งที่เธอเผลอตัว ความรักที่ต้องเก็บซ่อนไว้เพราะกลัวที่จะต้องเจ็บปวดกลับการไม่ได้รับคืนเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถเยียวยาได้ เมื่อคนกลางไม่ให้ความร่วมมือ
คุณนายนายอำเภอออกเฉิดฉาย ร่วมงานทุกงานของชาวบ้านแต่ไม่คิดจะเหลียวแลลูกสาว งานวันแม่หลานสาวของเขาถูกทิ้งให้จูงมือยายไปร่วมงาน ขณะที่น้องสาวของเขาไปเป็นประธานให้กับโรงเรียนประจำอำเภอของสามีที่อยู่ใกล้กับโรงเรียนลูกสาวแค่เอื้อม
“ลุงก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่สามวันดีสี่วันไข้”
“ปล่อยให้สามีกับลูกใหม่เขาดูแลไปเถอะ คงไม่ต้องถึงจิ๊กกี๋หรอก” จิ๊กกี๋คิดได้ว่าไม่ควรจะสนใจ จึงปล่อยแขนที่กอดลุงไว้แล้วลุกขึ้นนั่งตัวตรง
ก้องมองกิริยาของหลานสาวก่อนจะส่ายหัว และถอนหายใจออกมาเบาๆ “ไปกินข้าวได้แล้ว ยายเขาทำแต่ของชอบของเราทั้งนั้นเลยนะ”
จิ๊กกี๋เดินกอดลุงออกมาที่โต๊ะกินข้าว ก่อนจะทรุดลงนั่งที่เดิมของเธอที่ติดกับเก่ง ขณะที่ก้องเดินอ้อมไปนั่งฝั่งตรงข้ามใกล้กับแม่ของเขา
“กินเยอะๆนะลูก ดูซิไปอยู่กรุงเทพ ผอมไปเยอะเลยนะเรา” นวลบ่นหลานสาว
“จิ๊กกี๋ตั้งใจลดความอ้วนต่างหากล่ะยาย สมัยนี้เขาต้องผอมๆถึงจะใส่ชุดสวย”
“ไม่ไหวมั้ง จะเหลือแต่กระดูกแล้วเรา” นวลยังบ่นหลานสาวต่อ
“เอ้า กินเยอะๆยายจะได้ไม่บ่น” โก่งตักกับข้าวให้กับหลานสาว
“ขอบคุณค่ะตา” จิ๊กกี๋ยิ้มให้ตา
“กินเยอะๆ เอ้านี่ของโปรดของกี๋” เก่งหันมาตักเนื้อน้ำมันหอยให้กับน้องสาว หลังจากเพิ่งตักให้แฟนสาวเสร็จ ก่อนจะนั่งอึ้งเมื่อเห็นจิ๊กกี๋เขี่ยเนื้อที่เขาตักให้ไปไว้ริมจาน และใช้ช้อนกลางตักเนื้อจากจานที่เขาตักเมื่อครู่มานั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย
“ป้าเนียมฝีมือไม่ตกเลยนะ สงสัยจิ๊กกี๋มาอยู่สองวันน้ำหนักต้องขึ้นแน่เลย” จิ๊กกี๋ร้องชมแม่บ้านที่ยืนดูแลอยู่ใกล้ๆ
“ขึ้นนะดีแล้วลูก อ้วนอีกนิดถึงจะสวยรู้ไหม” นวลบอกหลานสาว
“ค่ะยาย”
น้ำฝนขยับตัวอย่างอึดอัด ตั้งแต่อยู่บนโต๊ะอาหาร จนกระทั่งทั้งหมดย้ายมานั่งคุยกันต่อที่กลางบ้าน ไม่มีใครเอ่ยปากคุยกับเธอสักคนแม้แต่แฟนหนุ่ม
“น้องจิ๊กกี๋คุยเก่งจัง เห็นคุยไม่หยุดตั้งแต่ที่โต๊ะอาหารแล้ว” น้ำฝนรีบพูดแทรกขึ้นเมื่อมีโอกาส พร้อมกับส่งยิ้มให้กับจิ๊กกี๋ที่กำลังนอนหนุนตักพ่อของแฟน
เก่งกลืนน้ำลายดังเฮือกเมื่อเห็นน้องสาวเมินหน้าไม่สนใจที่จะคุยกับน้ำฝน แต่กลับหันไปคุยกับปู่แทน
“กี๋เขาไม่ได้เจอพ่อ ปู่ย่านานเขาก็เลยคุยไม่หยุดแบบนี้แหละ ฝนง่วงหรือยัง เดี๋ยวผมเดินไปส่งที่ห้อง” เก่งรีบพูดขึ้นเมื่อเห็นแฟนสาวหน้าเสีย พ่อกับปู่ย่าคงไม่กล้าคุยกับแฟนของเขาเพราะกลัวโดนหลานสาวคนโปรดงอนใส่
“ค่ะ” น้ำฝนมองหน้าเก่งก่อนจะหันไปบอกลากับผู้ใหญ่ “งั้นฝนขอตัวก่อนนะคะพ่อ ปู่ ย่า”
“ไปเถอะ เดินทางมาเหนื่อยๆ นอนแต่หัวค่ำก็ดี” ก้องยิ้มและพูดกับแฟนของลูกชาย
เก่งกลับมานั่งรวมกลุ่มกับพ่ออีกครั้ง ฟังจิ๊กกี๋เล่าเรื่องต่างๆให้พ่อ และปู่ย่าฟังต่อ เขาสามารถรับรู้ถึงความโกรธของน้องสาวได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่อยู่บนรถจนถึงบัดนี้จิ๊กกี๋ยังไม่ยอมพูดกับเขา ที่สำคัญเรื่องเล่าในครั้งนี้ไม่มีเรื่องหรือชื่อของเขาเกี่ยวข้องด้วยเลยสักเรื่องเหมือนทุกครั้ง
“ไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาเล่าต่อ ตากับยายง่วงแล้ว” โก่งยิ้มเอามือมาจับหัวหลานสาวอย่างเอ็นดู
จิ๊กกี๋ลุกขึ้นนั่งอย่างว่าง่าย เขยิบไปกอดและหอมแก้มตาและยาย “ฝันดีนะคะตา ยาย”
“จ๊ะ” นวลจับหัวหลานด้วยความรักใคร่ ก่อนจะลุกตามสามี พากันเดินไปที่ห้อง
“ลุงไปส่งจิ๊กกี๋ที่ห้องหน่อย” จิ๊กกี๋ชำเลืองตามองพี่ชายที่กำลังนั่งมองเธออยู่ พร้อมกับฉุดแขนลุงให้ลุกขึ้นยืน
“อะไรกัน แทนที่เราจะไปส่งลุง ให้ลุงไปส่งซะนี่ ไปก็ไป” ก้องบ่นหลานสาวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะลุกขึ้นยืนตามแรงฉุดของเธอ
“กู๊ดไนท์ค่ะลุง” จิ๊กกี๋เขย่งตัวขึ้นหอมแก้มลุงเมื่อถึงหน้าห้อง ขณะที่แขนทั้งสองยังเกี่ยวแขนของลุงไว้
ก้องยกมือขยี้หัวหลานสาว “ฝันดีนะลูก”
“ว่าไง นั่งหน้าเครียดเลยนะเรา” ก้องเดินกลับมาหาลูกชายที่กลางบ้าน ทรุดลงนั่งพร้อมกับใช้มือตบลงที่บ่าของลูกชายเบาๆ
“กี๋เขาไม่ยอมพูด ไม่ยอมมองหน้าผมเลยพ่อ” เก่งเริ่มเครียด ได้แต่หวังว่าน้องสาวจะไม่งอนเขาเหมือนกับที่งอนแม่ของตัวเอง จิ๊กกี๋ไม่เคยแสดงกิริยาแบบนี้กับเขามาก่อน ให้งอนยังไง จิ๊กกี๋ก็ยังยอมพูดจากับเขาแม้ว่าจะเป็นเสียงสะบัด หรือกระเง้ากระงอดก็ตาม
ก้องมองสีหน้ากังวลของลูกชาย ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ “น้องเขางอนเรานะซิ พ่อบอกแล้วว่าอย่าพามาให้น้องเห็น”
“ก็ผมคิดว่าไม่เป็นไรนี่ครับ”
“ตอนนี้ก็ไปง้อน้องเขาเองละกัน ท่าทางจะโกรธมากด้วยนะ” ก้องยิ้มพร้อมกับแกล้งพูดขู่ลูกชาย
“พ่อช่วยพูดให้ผมหน่อยซิ”
“เฮ้ย ไม่เอาหรอก เดี๋ยวจิ๊กกี๋จะงอนพ่อไปอีกคน ไปง้อน้องเขาเอง”
ความคิดเห็น