คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3
“เพื่อนๆว่าไงบ้างแมว” ชนิตาร้องทักเพื่อนสนิททันทีที่เปิดประตูห้องรับเพื่อน
“ก็ไม่ว่าอะไร พวกนั้นแค่สงสัยว่าเธอมีธุระอะไรสำคัญนักหนา นานๆถึงจะนัดกันสักที”
“แล้วเธอบอกพวกนั้นไปว่าไง”
“ก็ไม่ได้บอกอะไร ไหนมีอะไรให้กินบ้าง” แมวเดินตามเพื่อนรักเข้าห้อง จะมีใครว่าอะไรได้ล่ะ พวกที่เคยอยู่กลุ่มเดียวกัน ก็รู้ๆกันอยู่ว่าธุระสำคัญของชนิตาคืออะไร ส่วนพวกที่ไม่สนิทกันนักคงไม่แปลกใจอะไรที่จะขาดเพื่อนสักสี่ห้าคนที่มักจะหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลุ่มเสมอ
“เปิดดูเอาเองในตู้เย็นซิ เอามาเผื่อฉันด้วยนะ”
“ดีนะ มาถึงก็ใช้ฉันเลย” แมวเดินไปเปิดตู้เย็นก่อนจะร้องอุทานขึ้น “โอ้โฮ ของกินเต็มตู้เลยแฮะ”
“อือ พี่เก่งซื้อมาให้”
“พี่เก่งอีกแล้ว” แมวหยิบผลไม้กับน้ำ เดินไปนั่งบนโซฟาก่อนจะถามต่อด้วยความข้องใจ “ชีวิตเธอนี่ไม่คิดจะมีคนอื่น นอกจากพี่เก่งเลยหรือ”
“อือแมว ฉันว่าฉันรักพี่เก่งล่ะ” ชนิตาขยับตัวนั่งประชันหน้ากับเพื่อนรัก
“อะไรนะ” แมวหันมามองหน้าเพื่อน อ้าปากค้างทั้งๆที่มีแอปเปิ้ลคาอยู่
“ฉันบอกว่าฉันรักพี่เก่ง” ชนิตาทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ ก่อนจะพูดประโยคเดิมอย่างชัดถ้อยชัดคำให้เพื่อนฟังอีกครั้ง
“เขาเป็นพี่ชายเธอไม่ใช่หรือ” แมวถามเพื่อนกลับด้วยน้ำเสียงตระหนก ถึงแม้ว่าระยะเวลาสี่ปีที่คบกันจะไม่มีวันไหนที่เพื่อนสาวไม่พูดถึงพี่ชาย แต่ความรู้สึกของผู้ฟังอย่างเธอ ไม่เคยคิดว่าเพื่อนรักจะมีความรู้สึกพิเศษแบบนี้กับผู้ชายที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ห้าหกขวบ
แมวไม่อาจปฏิเสธว่าทั้งเธอและกลุ่มเพื่อนต่างระอาใจในความช่างเลือกของเพื่อนรักคนนี้ ไม่มีผู้ชายคนไหนที่พวกเธอเชียร์ขึ้น ชนิตาปฏิเสธที่จะคบหากับเพื่อนชายแม้ว่าคนๆนั้นจะมีคุณสมบัติเกินมาตรฐานในสายตาของเพื่อนๆ ซึ่งมาตรฐานที่ว่าก็ไม่ใช่ใครอื่นเป็นบุคคลสองคนที่เพื่อนทุกคนรับรู้ว่ามีความสำคัญกับชนิตาที่สุด
“ก็ใช่ แต่เขาไม่ได้เป็นพี่ชายแท้ๆของฉันซะหน่อย เขาเป็นแค่ลูกลุง”
แมวมองหน้าเพื่อน “ฉันว่าเธอเห็นพี่เก่งเป็นฮีโร่ เธอไม่ได้รักพี่เขาหรอก”
“จริงเหรอ แต่ฉันมีความสุขที่ได้อยู่กับพี่เก่ง อยากจะเจอ อยากจะคุยกับพี่เก่งเขาทุกวันเลยนะแมว” ชนิตาทำหน้ายุ่งพร้อมกับบอกเล่าความรู้สึกของเธอกับเพื่อนรัก หญิงสาวไม่เคยปริปากปรึกษาเรื่องนี้กับใครเนื่องจากเธอเองก็ยังไม่มั่นใจและไม่รู้จักความรักแบบหนุ่มสาว แต่ความรู้สึกที่บอกเล่ากับเพื่อนรักมันไม่เคยเกิดกับใคร เธอรู้สึกและเก็บความรู้สึกนี้ไว้ในใจตั้งแต่ย้ายเข้ามาเรียนในกรุงเทพใหม่ๆ
“แล้วพี่เขารู้เรื่องนี้หรือเปล่า”
“ยังไม่รู้หรอก ฉันว่าฉันจะหาโอกาสบอกกับพี่เก่ง เธอว่าดีไหม”
แมวมองดวงตาคู่สวยของเพื่อนที่กำลังจ้องมองเธอเพื่อรอคำตอบอย่างอึ้งๆ “แต่ฉันว่าพี่เก่งเขาเห็นเธอเป็นแค่น้องสาว”
“นั่นแหละ ฉันถึงเรียกเธอมาปรึกษานี่ไง”
“ฮึ ไม่ดีหรอก เพราะฉันไม่เชื่อว่าเธอรักพี่เก่ง”
“รักซิ ฉันรักพี่เก่งจริงๆ ไม่ได้รักเหมือนที่รักลุง รักตา รักยาย” ชนิตายืนยันเสียงหนักแน่น
“ตา ฉันว่าเธออย่าเพิ่งบอกพี่เขาเลยนะ ลองคิดให้ดีๆอีกทีก่อนเถอะ”
“เธอไม่เชื่อฉันเหรอ ฉันหึงพี่เก่งตั้งแต่ฉันยังอยู่ชั้นประถมเลยนะ อย่างนี้เขาเรียกว่ารักหรือเปล่า”
“ฉันว่าหวงมากกว่ามั้ง ว่าแต่ถ้าเธอบอกพี่เก่ง แล้วพี่เก่งบอกว่ารักเธอแค่น้องสาวเธอจะทำอย่างไง”
“ฉันก็แค่ไปบอกให้ลุงช่วย พี่เก่งเขาเชื่อลุงทุกอย่างแหละ”
“บ้า นั่นมันเรื่องเด็กๆ เรื่องเล็กๆ แต่นี่มันเรื่องใหญ่นะยายตา ฉันว่าลุงเขาคงไม่เออออไปกับเธอด้วยเหมือนทุกครั้งหรอก” แมวรีบร้องค้านขึ้น พร้อมกับนึกบ่นในใจ ลุงก้องจะได้ช็อกตาตั้งนะซิ ที่อยู่ดีๆหลานสาวสุดที่รักดันมารักพี่ชายของตัวเองแบบชู้สาว ดีนะไม่มาบอกว่าหลงรักลุงก้อง ฉันจะลงไปนอนดิ้นแด๋วๆให้เธอดูตอนนี้เลย
เพื่อนทุกคนในกลุ่มรับรู้ถึงอาการฟีเวอร์ลุงกับพี่ชายของชนิตาเป็นอย่างดี ความสัมพันธ์ของเพื่อนรักกับสองหนุ่มสองวัยกลายเป็นที่อิจฉาตาร้อนของเธอและเพื่อนในหอพักเป็นอย่างมาก ไม่มีวันหยุดไหนที่ชนิตาจะไม่ได้รับการติดต่อจากบุคคลทั้งสอง โดยเฉพาะเรื่องการคุยโทรศัพท์เพื่อนรักจะต้องโทรไปรายงานตัวกับพี่ชายทุกวัน จนคนที่มีพี่ชายแท้ๆอย่างเธอยังนึกอยากจะลองเปลี่ยนตัวพี่ชายกับเพื่อนบ้าง
“ทำไมฉันสวยไม่พอหรือไง มีผู้ชายมาเรียงคิวจีบฉันเป็นแถวเลยนะ”
แมวถอนหายใจยาว มองหน้าเพื่อนสาวสุดสวย ถึงแม้ชนิตาจะไม่ใช่ดาวของคณะ ไม่ใช่ลีดเดอร์ของมหาวิทยาลัย แต่หน้าตาและรูปร่างของเธอไม่ได้ด้อยไปกว่าสาวๆพวกนั้นเลย แต่.....ผู้ชายที่เห็นและเลี้ยงสาวสวยมาตั้งแต่เล็กจนโตอย่างพี่เก่งคงจะชินกับความสวยของน้องสาว จนไม่สะดุดใจแน่ แมวคิดอย่างปลงๆ ก่อนจะถามขึ้นทั้งๆที่รู้คำตอบอยู่แล้ว
“แล้วพี่เก่งเขาหึงเธอบ้างหรือเปล่าล่ะ”
“หึงซิ ตอนฉันเด็กๆไม่มีใครกล้ามาแหยม พี่เก่งจัดการไล่ทุกคนซะเปิดเปิงไปหมด”
“แล้วตอนโตล่ะ” แมวถามขึ้นด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเบื่อหน่าย
“ก็พี่เขาไม่ได้ไปมหาวิทยาลัยกับฉันนี่ แล้วฉันจะรู้ได้ไง”
“แล้วพี่เขาถามถึงเรื่องแฟนหรือเรื่องคนมาจีบบ้างหรือเปล่าล่ะ” แมวยังคงใช้สีหน้าและน้ำเสียงเหมือนเดิม
“ไม่ ส่วนใหญ่เวลาฉันอยู่กับพี่เก่ง เราคุยเล่นเรื่องทั่วไป ไม่เคยถามถึงเรื่องส่วนตัว ฉันก็ไม่เคยถามพี่เขาเหมือนกัน”
“นั่นไง แสดงว่าเธอกับพี่เก่งไม่ได้รักกันแบบนั้น” แมวยิ้ม กระเด้งตัวขึ้นนั่งตัวตรงพร้อมกับสรุป
“ไม่จริง ฉันรักพี่เก่งที่ฉันไม่ถามก็เพราะฉันเชื่อใจพี่เก่ง แล้วฉันต้องถามเหรอ งั้นพรุ่งนี้ฉันลองถามพี่เก่งดูดีไหม ว่ามีผู้หญิงมาจีบพี่เก่งบ้างหรือเปล่า”
“จะบ้าเหรอ พี่เก่งเป็นผู้ชายนะ เธอต้องถามซิว่าพี่เก่งมีแฟนหรือยัง ไปจีบผู้หญิงที่ไหนหรือเปล่า” แมวร้องค้านเสียงดัง พร้อมกับส่งค้อนให้เพื่อนวงใหญ่
“ได้ งั้นพรุ่งนี้ฉันจะลองถามดู แล้วฉันควรจะบอกพี่เก่งไหมว่าฉันรักเขา”
“อย่าเพิ่ง ไว้ก่อน รอให้เธอแน่ใจก่อนแล้วค่อยบอก”
“ก็ฉันแน่ใจอยู่นี่ไง” ชนิตาบอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“เฮ้อ! งั้นก็ตามใจ” แมวถอนหายใจ ก่อนจะตอบเพื่อนด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย
********
จิ๊กกี๋ตื่นแต่เช้าแต่งตัวด้วยชุดสวยรอเก่งเหมือนทุกอาทิตย์ ถึงแม้ว่าพักหลังๆพี่ชายจะมาหาเธอสายขึ้นแต่มันยังคงเป็นวันอาทิตย์ที่แสนสุขของเธออยู่ดี
“พี่เก่ง พี่เก่งแอบมีผู้หญิงไว้ที่ไหนหรือเปล่า” จิ๊กกี๋ถามขึ้นขณะนอนหนุนตักพี่ชายดูทีวีเหมือนทุกครั้ง
“อะไรกันเรา ถามเหมือนเป็นเมียพี่เลยนะ ดูหนังมากไปหรือเปล่าเหอะ” เก่งยิ้ม ขยี้หัวน้องสาว พร้อมกับถามกลับด้วยน้ำเสียงขำๆ
“ก็กี๋อยากรู้นี่ พี่เก่งห้ามมีผู้หญิงคนอื่นนะ” จิ๊กกี๋จ้องหน้าเก่ง
เก่งเอามือขยี้หัวน้องสาวอีกครั้ง “ตกลงเราจะเป็นน้องสาวหรือเป็นเมียพี่กันแน่ฮะยายกี๋ แล้วกลางวันนี้อยากกินอะไรเดี๋ยวพี่ไปทำให้” เก่งดันตัวน้องสาวให้ลุกขึ้น ก่อนที่จะลุกเดินไปหยิบของสดออกจากตู้เย็น
จิ๊กกี๋เดินตามไปเกาะแขนพี่ชายไว้ “พี่เก่งจะไม่รักใครนอกจากกี๋ใช่ไหม”
เก่งหัวเราะพร้อมกับเอามือมาขยี้หัวจิ๊กกี๋ “น้องสาวพี่ออกจะน่ารัก ขี้อ้อนขนาดนี้ จะให้พี่ไปรักใครมากกว่ากี๋อีกล่ะ ไปนั่งดูทีวีต่อ ไป พี่จะไปทำข้าวให้กิน”
“รักน้อยกว่าก็ไม่ได้ ต้องไม่รักใครเลยนอกจากกี๋”
“อะไรกันเรา อยู่ดีๆจะมาห้ามพี่ไม่ให้รักใครได้ไง พี่แก่แล้วนะ ต้องมีแฟน ต้องแต่งงาน” เก่งเดินเลี่ยง ถือของเข้าครัว
จิ๊กกี๋รีบเดินตามหลังพี่ชายไปติดๆ “ถ้าพี่เก่งอยากมีแฟน อยากแต่งงาน กี๋จะเป็นแฟน และแต่งงานกับพี่เก่งเอง”
เก่งหันมามองหน้าน้องสาวที่กำลังส่งยิ้มหวานมาให้ “เลิกพูดเล่นได้แล้ว ไปหยิบไข่มา เดี๋ยวพี่ทำข้าวผัด”
“แต่กี๋”
“เร็วเข้า พี่หิวแล้ว เดี๋ยวกินเสร็จพี่ต้องไปธุระต่อด้วย” เก่งรีบพูดตัดบทเพราะรู้ว่าน้องสาวกำลังจะพูดอะไร เขามองสายตาของจิ๊กกี๋ออกว่าเธอไม่ได้พูดเล่น เขารู้ว่าตัวเองเป็นฮีโร่ของเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้า แต่เขารักและเอ็นดูจิ๊กกี๋เหมือนน้องสาว
“ว้า วันนี้พี่เก่งไม่อยู่กับกี๋ทั้งวันเหรอ มีธุระอีกแล้ว น่าเบื่อจัง กี๋ขอไปด้วยได้ไหม กี๋ไม่อยากอยู่บ้านคนเดียว” จิ๊กกี๋หน้างอ บ่นขึ้นอย่างขัดใจ ดูเหมือนว่าพักหลังๆพี่ชายจะงานยุ่งทุกวันไม่เว้นแม้แต่วันอาทิตย์ การย้ายมาอยู่คอนโดหลังจากเรียนจบเป็นเรื่องไม่น่าพิศมัยสำหรับจิ๊กกี๋เลยสักนิด ความคาดหวังที่จะได้ย้ายไปอยู่กับพี่ชายหลังจากย้ายออกจากหอพักของมหาวิทยาลัยถูกทำลายลงโดยลุงก้องและพี่เก่ง
ความคับแคบของห้องพักพี่ชาย รวมไปถึงความเก่าของคอนโดที่พี่ชายอยู่ ทำให้หญิงสาวต้องระเห็ดมาอยู่ในคอนโดหรูคนเดียวอย่างจนด้วยข้อโต้แย้ง ส่วนพี่เก่งก็กลัวการจราจรในกรุงเทพเกินกว่าจะย้ายมาอยู่คอนโดเดียวกับเธอ
“ไม่ได้หรอก พี่ไปธุระ”
“ทำไมเดี๋ยวนี้พี่เก่งมีธุระเยอะจัง แล้วตอนเย็นพี่เก่งจะมากินข้าวเป็นเพื่อนกี๋หรือเปล่า”
เก่งเห็นน้องสาวทำหน้าเศร้าเหมือนจะร้องไห้แล้วรู้สึกสงสาร จึงตอบรับออกไป “โอเค แล้วพี่จะแวะกลับมากินข้าวเย็นด้วย แต่ต้องดึกหน่อยนะ”
จิ๊กกี๋ยิ้ม “ไม่เป็นไร กี๋จะรอ เดี๋ยวกี๋จะทำกับข้าวไว้รอพี่เก่ง”
“งั้นก็ไปหยิบไข่มาให้พี่ได้แล้ว”
********
“พี่เก่งทำข้าวผัดอร่อยที่สุดในโลกเลย” จิ๊กกี๋ร้องชมพี่ชายเมื่อตักข้าวเข้าปากเป็นคำแรก
“คราวที่แล้วก็เห็นชมพ่อแบบนี้” เก่งแซวน้องสาว
“งั้นเอาใหม่ พี่เก่งกับลุงก้องทำข้าวผัดอร่อยที่สุดในโลก” จิ๊กกี๋นั่งยิ้มมองหน้าเก่ง
“อร่อยก็กินซิ มานั่งมองหน้าพี่อยู่ได้ เร็วเข้า กินเสร็จแล้วล้างจานเองด้วยนะ เดี๋ยวพี่กินเสร็จแล้วจะไปเลย”
“อ้าว ไปต้องเลย แล้วจะกลับมาทันกินข้าวเย็นกับกี๋เหรอ”
เก่งเอากำปั้นมาทุบหัวน้องสาว “งั้นพี่ไม่มากินข้าวเย็นด้วยแล้วนะ ทางมันไกล”
จิ๊กกี๋รีบจับมือพี่ชายไว้ “ขอโทษ พี่เก่งกลับมากินข้าวกับกี๋นะ นะ”
“รู้แล้ว ไม่ต้องอ้อน ปล่อยมือพี่ได้แล้ว พี่จะกินข้าว”
การนั่งรอพี่ชายดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติสำหรับหญิงสาว พักหลังๆพี่เก่งมักจะผิดเวลาเสมอ แต่เธอโตพอที่จะไม่โวยวายหรือฟ้องลุงเหมือนที่เคยทำสมัยเด็กๆ การย้ายเข้ามาอยู่กรุงเทพทำให้จิ๊กกี๋ต้องละทิ้งนิสัยเอาแต่ใจเนื่องจากที่นี่ไม่มีตา ยายและลุง ที่สำคัญพี่เก่งไม่ได้ตามใจเธอทุกเรื่องเหมือนแต่ก่อน
“กี๋ กี๋” เก่งเขย่าแขนปลุกน้องสาวที่ฟุบหลับคาโต๊ะอาหาร
จิ๊กกี๋เงยหน้าขึ้นมอง พร้อมกับส่งยิ้มให้พี่ชาย “ขอโทษค่ะ กี๋รอจนง่วงเลยหลับไป กี่โมงแล้วพี่เก่ง”
“อะไรกันเรา อยู่คนเดียวทำไมไม่ล็อกประตู อันตรายรู้ไหม แล้วพี่โทรเข้ามือถือทำไมไม่เปิดเครื่อง” เก่งบ่นขึ้น พร้อมกับมองกับข้าวที่วางเรียงรายบนโต๊ะ เขาตั้งใจจะโทรมายกเลิกนัดกับน้องสาว แต่ติดต่อไม่ได้
“กี๋ปิดเครื่องชาร์ตแบต”
“แล้วพี่โทรมาที่ห้อง ทำไมไม่รับสาย”
“โทรศัพท์มันเจ๊งอยู่ กี๋ลืมบอกพี่เก่ง”
“เรานี่มันจริงๆเลย แล้วนี่ยังไม่กินข้าวกินปลาอีกเหรอ”
“กี๋รอพี่เก่ง”
“วันหลังถ้าพี่มาช้ามาก ก็ไม่ต้องรอ แล้วทำไมไม่โทรไปถาม”
“ก็พี่เก่งไปทำธุระ กี๋ไม่กล้าโทรไปกวน” จิ๊กกี๋ตอบพี่ชายเสียงอ่อย
เก่งถอนหายใจ “เดี๋ยวพี่เอากับข้าวไปอุ่น กี๋ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนไป เดี๋ยวกินเสร็จจะได้เข้านอน”
จิ๊กกี๋พยักหน้ารับ เดินงัวเงียกลับเข้าห้อง
“โทรศัพท์เสียนานหรือยัง” เก่งถามขึ้นขณะแงะเครื่องโทรศัพท์ออกดู หลังจากทั้งสองกินข้าวเสร็จ
“ตั้งแต่วันพุธ”
“แล้วทำไมไม่บอกพี่”
“กี๋ลืม”
เก่งเงยหน้าขึ้นมองน้องสาวพร้อมกับส่ายหัว โชคดีที่วันนี้พ่อไม่โทรมาหาหลานรัก ไม่งั้นเขาคงต้องรีบแจ้นกลับมา
“ใช้ได้แล้ว” เก่งร้องบอกน้องสาวเมื่อลองใช้มือถือโทรเช็คเครื่อง
“พี่เก่งเก่งจัง”
เก่งยิ้มกับคำพูดและสายตาชื่นชมของน้องสาว การกำพร้าแม่ตั้งแต่แบเบาะทำให้เขาสนิทสนมกับพ่อมากเป็นพิเศษ เขาจึงได้รับการถ่ายทอดทุกอย่างมาจากพ่อ ดังนั้นมันจึงไม่แปลกที่น้องสาวจะมีโอกาสได้ใช้ประโยคพวกนี้บ่อยจนเขาชิน
“พี่จะกลับแล้วนะ แล้ววันหลังอยู่ห้องคนเดียวต้องล็อกประตูตลอดเวลารู้หรือเปล่า ดูซิเมื่อกี้พี่เปิดประตูเข้ามาถึงในห้อง กี๋ยังไม่รู้เรื่องเลย ถ้าเป็นโจรป่านนี้ของหมดบ้านแล้ว”
“ค่ะ” จิ๊กกี๋ตอบรับพี่ชายเสียงอ่อย
“กู๊ดไนท์ค่ะ พรุ่งนี้กี๋โทรไปหานะ” จิ๊กกี๋เดินไปส่งพี่ชายที่หน้าประตูห้อง พร้อมกับโน้มตัวไปหอมแก้มเขาเหมือนทุกครั้ง
“อย่าลืมล็อกประตูด้วยล่ะ รู้ไหม” เก่งจับหัวน้องสาวโยกเบาๆ ก่อนจะช่วยจิ๊กกี๋ปิดประตูห้อง
ความคิดเห็น