คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3
“หยกเสร็จหรือยังลูก ม่าม๊าจะให้เขาตั้งโต๊ะแล้วนะ” เสียงมารดาดังผ่านเครื่องอินเตอร์คอมที่ถูกติดตั้งไว้ทุกจุดภายในบ้าน
“เสร็จแล้วม๊า กำลังจะลงไป” สาวน้อยกดเครื่องอินเตอร์คอมบนโต๊ะทำงานหรูระดับผู้บริหารโต้ตอบมารดา ก่อนจะเดินมุ่งหน้าไปที่ลิฟท์
อาณาเขตกว้างขวางบนชั้นห้าของตึกแถวยาวเรียงรายกันนับสิบห้องที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมถนนสุขุมวิท ถูกครอบครองโดยสาวสวยเพียงคนเดียว บิดาตั้งใจสร้างตึกหลังนี้ให้เหมือนคอนโด ทุกชั้นถูกจัดแต่งและแบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นสัดส่วนอย่างลงตัว พร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นห้องครัว ห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องรับแขก รวมไปถึงห้องนอนแขก ซึ่งเตรียมไว้สำหรับแขกคนสนิทเท่านั้น เนื่องจากชั้นถัดไปมีห้องนอนแขกอีกสิบสองห้องไว้รองรับญาติและเพื่อนๆของทุกคนในครอบครัว
ตึกหกชั้นของตระกูลจิระวงศ์มหาเดชา ถูกจัดแบ่งอย่างลงตัว ขั้นสี่ถูกจับจองโดยพี่สาวและครอบครัว ชั้นสามเป็นของหัวหน้าครอบครัว ส่วนชั้นสองที่เธอกำลังจะลงไปเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ทุกคนในครอบครัวจะพร้อมใจมารวมตัวกันเสมอถ้าไม่ติดธุระ
หยกเป็นลูกสาวคนเล็กของบ้าน เป็นที่รักของพ่อ แม่ พี่สาว พี่เขย และหลานชายทั้งสอง หญิงสาวได้รับการเอาใจใส่จากทุกคนอย่างดีมาก ด้วยความที่เธอเป็นลูกหลงจึงอายุห่างจากพี่สาวมากกว่าหนึ่งรอบ ทำให้พี่สาวและพี่เขยทำตัวเหมือนพ่อแม่เธออีกคน ส่วนลูกชายทั้งสองของพี่สาวที่อายุเพียงแปดและหกขวบ ก็มักจะทำตัวราวกับเป็นพี่ชายเธอบ่อยๆ ทั้งๆที่เธอจะอายุครบยี่สิบเอ็ดในอีกไม่กี่เดือนนี้แล้ว
“อี๊หยกทำงานเสร็จแล้วหรือ” เคี้ยงละสายตาจากจอพาสมาที่กว้างใหญ่ราวกับมินิเทียร์เตอร์ หันมาตะโกนทักน้าสาวคนสวยเมื่อได้ยินสัญญานลิฟท์ดังขึ้น
“ถามใคร ฝีมือระดับไหนแล้ว” หยกเดินไปนั่งแทรกตรงกลางระหว่างหลานชายทั้งสอง
“โอ๊ยอี๊หยก ทับขาคิม ตัวหนักชะมัด” คิมหลานชายคนโตโวยวายขึ้นเมื่อขยับขาหลบไม่ทัน
“อะไรแค่นี้ทำบ่น ไปถามป๊าโน่น เวลาไปเที่ยวเขาก็ต้องให้สาวๆนั่งตักแบบนี้ทั้งนั้น”
“เฮ้ย!เฮียไม่เคยไป หาเหาใส่หัวให้เฮียแล้วไง” กวงรีบปฏิเสธพร้อมกับหันไปส่งยิ้มแหยๆให้กับเมียที่นั่งอยู่ข้างๆ
“ไปเอามาจากไหน เคยไปเที่ยวหรือไง ไม่เห็นเคยเล่าให้ฟัง” เล้งขมวดคิ้วถามขึ้นกับน้องสาว เธอรับรู้ว่าน้องสาวชอบไปสังสรรค์กับเพื่อนบ่อยๆแต่ไม่คิดว่าน้องจะเคยไปสถานที่แบบนั้น
“เคยที่ไหนเล่าเจ๊เล้ง ฟังเขาเล่ามาอีกต่อหนึ่ง แล้วมันจริงหรือเปล่าป๊า” หยกหันไปถามพ่อ
“ป๊าก็ไม่เคยไปเหมือนกัน” หลงรีบปฏิเสธลูกสาว
“จริงหรือป๊า ไม่น่าเป็นไปได้ ถ้าเป็นเฮียกวงก็ว่าไปอย่าง” หยกทำหน้าทะเล้นใส่พ่อ แม่ของเธอไม่ดุเหมือนพี่สาวและพ่อก็ไม่ได้เป็นคนกลัวเมียเหมือนพี่เขย รวมทั้งพ่อของเธอเป็นหนุ่มสังคม มักจะมีกิจกรรมสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนบ่อยๆ เธอจึงคิดว่าพ่อน่าจะต้องเคยไปค็อกเทลเล้าท์บ้าง
“ไม่เคย” หลงปฏิเสธเสียงหนักแน่น
“ป๊าอุตส่าห์ทำออฟฟิตข้างล่างให้ซะสวย ทำไมถึงไปทำงานข้างบนล่ะหยก” สุ่ยเปลี่ยนเรื่อง ถามขึ้นกับลูกสาว
“หยกรำคาญคนเดินไปเดินมาน่ะม๊า เอาไว้เป็นที่ติดต่อลูกค้าอย่างเดียวดีกว่า” หยกหันไปบอกแม่ เธอชอบทำงานอย่างมีสมาธิ ห้องที่พ่อทำให้ถึงจะมีกระจกเพียงด้านเดียวและมีมู่ลี่บังตาไว้แล้วก็ตาม แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะมองคนที่เดินผ่านไปมา
ชั้นล่างของบ้านเป็นพื้นที่ขายอุปกรณ์ก่อสร้าง ซึ่งบริเวณห้องของเธอเป็นทางผ่านของลูกจ้างและลูกค้าที่ต้องเดินไปมาเพื่อผ่านไปทางโกดัง ที่จอดรถ และที่พักคนงานหลังตึก
“จะย้ายไปอยู่ด้านอื่นไหม เดี๋ยวป๊าดูให้” หลงหันไปถามลูกสาวคนเล็กเสียงอ่อนด้วยความเอาใจใส่ เขาตั้งใจทำออฟฟิตให้ลูกสาวแยกออกจากออฟฟิตทำงานของร้านเพราะรู้ว่างานที่ลูกสาวทำต้องใช้สมาธิ แต่ครั้นจะทำห้องทึบทั้งสี่ด้านก็ดูจะอึดอัดเกินไปจึงเว้นด้านหนึ่งไว้เป็นกระจกและลูกสาวก็เห็นด้วย
“ไม่ต้องหรอกป๊า หยกชอบทำงานข้างบน เอาห้องไว้ตรงนั้นดีแล้ว เวลาลูกค้ามาหาจะได้สะดวก”
“ตามใจ งั้นไปกินข้าว” หลงตัดบท ลุกขึ้นยืน เดินนำทุกคนไปที่โต๊ะอาหาร
“อี๊หยกไหนบอกว่าได้งานแล้วจะมีของขวัญชิ้นใหญ่ให้เคี้ยงกับเฮียคิมไง” เคี้ยงลุกเดินไปที่โต๊ะอาหารพร้อมกับหันไปคุยกับน้าสาว
“ยังไม่ได้เงินเลย งกชะมัด ลูกใครก็ไม่รู้” หยกกระแหนะกระแหนขึ้นอย่างอารมณ์ดี
“อ้าว พูดอย่างนี้เดี๋ยวสวยหรอก” เล้งหันมาต่อว่าน้องสาวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ไม่ต้องเดี๋ยวหรอกเจ๊เล้ง ตอนนี้ก็สวยอยู่แล้วจริงไหมคิม เคี้ยง”
คิมกับเคี้ยงหันไปมองหน้ากัน ก่อนที่จะหันมาส่ายหัวปฏิเสธเพื่อแกล้งน้าสาวคนสวย
“ลูกใครให้มันรู้บ้าง” เล้งยักคิ้วกับน้องสาว
หยกส่งค้อนให้ทั่วถึงไล่ไปจากพี่สาว หลานชายทั้งสอง เกือบเลยไปถึงพี่เขยแล้วแต่ถูกขัดขึ้นเสียก่อน
“เฮียยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ”
“แต่เฮียก็ต้องเข้าข้างเจ๊เล้งอยู่ดี” หยกพูดขึ้นและไม่ลืมที่จะส่งค้อนให้พี่เขยหนึ่งวง
“ก็นะ หยกก็รู้” กวงหันไปส่งยิ้มให้กับภรรยา จริงๆเขาก็ไม่ได้กลัวอะไรภรรยานักหนาแต่เล่นบทนี้จนชินแล้ว จึงเล่นต่อไปให้กลมกลืน เมียของเขาไม่ได้เป็นคนไม่มีเหตุผล ทุกเรื่องที่พูดหรือบ่นเป็นเรื่องที่เขาทำผิดจริง แต่เมียเขาก็ไม่เคยต่อว่าเขาต่อหน้าคนอื่นเลยสักครั้ง จะมีก็แต่ทำเล่นๆต่อหน้าครอบครัวเท่านั้น
“โตขึ้นคิ้มกับเคี้ยงต้องเอาอย่างป๊าเขารู้ไหม” หยกยกแขนขึ้นโอบไหล่หลานชายทั้งสอง
“เอาอย่างเรื่องอะไรอี๊หยก” เคี้ยงถามขึ้นด้วยความงง
“กลัวเมียไง” หยกหันไปยิ้มล้อพี่เขย
“ป๊านี่นะกลัวม๊า อี๊หยกเอาอะไรมาพูด ไปเที่ยวกับเพื่อนกลับดึก ดูบอลดึกดื่น แถมยัง” เคี้ยงหันไปมองหน้าพ่อพร้อมกับบรรยาย ก่อนที่จะโดนพ่อพูดแทรกขึ้น
“พอเลยเคี้ยง สามสี่เดือนป๊าถึงจะไปสังสรรค์กับเพื่อนสักที แล้วไอ้ดูบอลดึกเนี่ย ก็ดูกันหมดทุกคน” กวงยกมือขึ้นเขกหัวลูกชายช่างพูด
เล้งหลุดขำออกมาเบาๆ สามีเธอเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีเลยทีเดียว นับว่าพ่อแม่ของเธอตาแหลม ที่เลือกลูกเขยคุณสมบัติเพียบพร้อมมาให้กับลูกสาว กวงเป็นคนขยัน ไม่ขี้เหล้าจะกินเฉพาะเวลาสังสรรค์เท่านั้น ส่วนนิสัยไม่ต้องพูดถึง สามีของเธออยู่ในขั้นดีถึงดีมากที่สุด เธอไม่เคยรู้สึกเสียใจที่เชื่อฟังคำแนะนำของพ่อแม่ ถึงตอนนั้นหญิงสาวจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว แต่เธอก็เลือกที่จะแต่งงานกับคนที่พ่อแม่เลือกให้แม้ว่าจะพบกับเขาเพียงสองครั้งก่อนแต่งงานก็ตาม
“นั่นซิเคี้ยง อากงยังไปบ่อยกว่าอีก” สุ่ยยิ้มและบอกกับหลานชายคนเล็ก
“เคี้ยงก็ไม่ได้ว่าอะไรป๊าสักหน่อยม่า แค่เล่าให้ฟังเฉยๆ” เคี้ยงหันไปบอกยาย
“วันหลังไม่ต้องเล่าก็ได้ ไอ้เรื่องดีๆไม่รู้จักเล่า” กวงบ่นลูกชายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“มันนึกไม่ออกอ่ะป๊า” เคี้ยงหันไปบอกพ่อพร้อมกับส่งยิ้มจนเห็นฟันสามสิบสองซี่
“อี๊หยก คิมอยากได้แผ่นเกมส์ใหม่ เกมส์เก่าเบื่อแล้ว” คิมตักกับข้าวให้น้าสาวพร้อมกับชวนคุย
“เมื่อวานซื้อมาให้แล้ว อยู่บนห้องลืมเอามาให้ ซื้อรถมาให้เคี้ยงด้วย เดี๋ยวให้พี่สำลีขึ้นไปเอามาให้” หยกหันไปมองคนรับใช้ผิวเข้มที่พยักหน้ารับพร้อมกับรีบเดินมุ่งหน้าไปที่บันไดเพื่อไปเอาของตามสั่ง
“ไปห้างไม่เห็นชวนเลย” เคี้ยงต่อว่าน้าสาวไม่จริงจังนัก พร้อมกับตักกับข้าวอีกอย่างวางลงบนจานให้น้าสาว
ครอบครัวของหยกเลือกที่จะใช้โต๊ะกลมในเวลาที่ไม่มีแขก เนื่องจากสะดวกในการหมุนวนจานกับข้าวที่ไม่เคยต่ำกว่าแปดอย่างบนแป้นหมุน และหลานชายทั้งสองก็เลือกที่จะนั่งประกบน้าสาวทุกครั้งเพื่อบริการความสะดวกให้กับน้าสาวคนสวย เรียกได้ว่าน้อยครั้งนักที่สาวสวยจะได้มีโอกาสเอื้อมมือออกจากจานข้าวของตัวเอง
“รถเสีย ก็เรานัดกันว่าจะไปวันเสาร์ไง”
“ดีนะที่คิมกับเคี้ยงยังไม่โตเป็นหนุ่ม ไม่งั้นอี๊หยกคงจะหาแฟนไม่ได้” เล้งพูดขึ้นอย่างขำๆ ลูกชายทั้งสองของเธอชอบที่ไปเที่ยวกับหยกมากกว่าจะไปกับเธอและสามี ทั้งสามสนิทกันราวกับพี่น้องคลานตามกันมา
หยกหันไปยิ้มบางๆให้กับพี่สาว จริงๆแล้วเธอพาศรมาแนะนำให้ทุกคนในบ้านรู้จักแล้วถึงสองครั้ง ครั้งล่าสุดเพิ่งผ่านไปเมื่อไม่ถึงสองเดือนนี้เองในวันเปิดบริษัท แต่ไม่มีใครในบ้านยอมรับในตัวแฟนหนุ่ม ถึงขั้นเรียกว่ารังเกียจด้วยซ้ำ ไม่ใช่เพราะฐานะ เนื่องจากทางบ้านเฮียกวงก็ฐานะธรรมดา แต่เพราะแฟนหนุ่มของเธอเป็นคนไทย ถึงขนาดเรียกได้ว่าไทยแท้ซะด้วย หน้าตาและผิวพรรณบ่งบอกออกมาอย่างชัดเจนจนพ่อแม่ พี่สาวและพี่เขยถึงขั้นแสดงออกถึงความไม่ถูกชะตาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น
“เพื่อนป๊ากำลังมองหาลูกสะใภ้คนเล็กอยู่ แต่ขอป๊าไปสืบมาก่อนว่าคนนี้เป็นอย่างไร คนโตที่เพิ่งหมั้นไปเมื่อต้นปีไม่ไหว เจ้าชู้ วันงานมีผู้หญิงมาโวยวายตั้งสองคน ถ้าป๊าเป็นพ่อฝ่ายหญิงรับรองประกาศยกเลิกงานหมั้นวันนั้นเลย” หลงบอกเล่าให้ลูกสาวและทุกคนในครอบครัวฟัง เขารังเกียจผู้ชายเจ้าชู้ ขี้เหล้า และจะไม่มีทางให้ลูกสาวได้สามีเป็นคนประเภทนี้เด็ดขาด
“ใครเหรอเฮีย พรรณก็ติดต่ออั้วมาว่าจะขอดูตัวหยกเหมือนกัน”
“งั้นพาไปให้ลูกชายคุณพรรณดูก่อน ของลูกชายสมานไม่รีบ คนโตยังไม่ยอมแต่ง แค่หมั้นกันเฉยๆ” หลงหันไปบอกภรรยา เขารู้จักลูกชายของเพื่อนภรรยาและคิดว่าอายุอานามน่าจะเหมาะสมกับลูกสาวคนเล็กของเขามากกว่าลูกชายของเพื่อน
“ป๊ากับม๊าไม่อยากเลี้ยงหยกแล้วหรือ หยกยังไม่ยี่สิบเอ็ดเลยนะ ทีเจ๊เล้งยังแต่งตอนยี่สิบสี่ยี่สิบห้าเลยไม่ใช่หรือ ขอหยกทำงานก่อน” หยกแย้งขึ้น เธอไม่คิดจะยกเรื่องอดิศรขึ้นมาง้างกับบุพพาการีเพราะเธอเองก็ยังไม่แน่ใจในตัวเขา แฟนหนุ่มดูไม่กระตือรือร้นที่จะมาแสดงตัวและนิสัยใจคอของเขาให้ทุกคนในบ้านลดอคติในตัวเขาลง แต่กลับใช้วิธีหลีกเลี่ยงซึ่งเป็นวิธีที่เธอไม่ชอบแต่ไม่คิดจะบังคับ หยกมั่นใจว่าถ้าพ่อแม่ได้รู้จักนิสัยของศร พ่อแม่จะต้องยอมรับในตัวเขา
“แค่ดูตัว ยังไม่ได้ให้แต่งสักหน่อย ดูแล้วชอบก็คบเป็นแฟนกันไปก่อน” สุ่ยบอกกับลูกสาว
“แล้วหาเองไม่ได้เหรอ” หยกยิ้มและถามขึ้นกับพ่อแม่
“ได้ซิ ป๊ากับม๊าไม่ได้บังคับว่าต้องเลือกคนที่ป๊ากับม๊าหามาให้สักเมื่อไหร่ เล้งเขาก็ตัดสินใจเลือกกวงเอง” สุ่ยหันไปยิ้มกับลูกสาวคนโตเมื่อเอ่ยถึง
“เจ๊เล้งดูตัวไปกี่ครั้ง” หยกหันไปถามพี่สาวเนื่องจากเธอไม่ได้สนใจใคร่รู้กับการไปไหนมาไหนของพี่สาวกับพ่อแม่สักเท่าไหร่ และเธอก็ไม่เคยคุยเล่นกับพี่สาวเรื่องแฟน ด้วยความห่างของอายุหยกจึงไม่เคยปรึกษาเรื่องพวกนี้กับพี่สาว ถึงเธอจะสนิทกับพี่สาวแต่ส่วนใหญ่จะคุยเล่นในเรื่องทั่วๆไปมากกว่า
“ครั้งเดียว”
“งั้นป๊ากับม๊าไปเลือกมา เอาแบบดีที่สุดก่อนแล้วค่อยดูทีเดียว ลูกชายใครดีก็เอามาเทียบกันคนไหนไม่ดีก็คัดออก หยกไม่รีบ ให้เวลาป๊ากับม๊าห้าปี” หญิงสาวยิ้มทะเล้นพร้อมกับชูมือบอกจำนวนปียื่นไปให้พ่อแม่ดูประกอบคำพูด
“ที่โรงเรียนเคี้ยงก็มีครูพละหล่อๆนะอี๊หยก” หลานชายคนเล็กขอมีส่วนร่วมในเรื่องที่คุยทันทีที่มีโอกาส
“แล้วสอนอะไรล่ะ”
“แชร์บอล วิ่ง ชักคะเย่อ แล้วก็เป็นโค้ชวอลเล่ย์บอลของโรงเรียนด้วย”
“ว้าย..ไม่เอาหรอก เดี๋ยวครูของเคี้ยงเกิดโมโหขึ้นมาเห็นหัวอี๊หยกเป็นลูกบอลแล้วตบหัวอี๊หยกหลุดออกจากคอ อี๊หยกต้องแย่แน่ๆเลย” หยกหันไปคุยเล่นกับหลานชาย
“บรรยายซะเห็นภาพเชียว” เล้งยิ้มขำน้องสาว
“เฮียกวงเห็นนะ เมื่อวานแอบไปนั่งหลับในห้องทำงานหยก” หยกยิ้มทะเล้นเปลี่ยนเรื่องแซวขึ้นกับพี่เขย ทำให้ทุกคนบนโต๊ะหันไปมองหน้ากวงเป็นตาเดียว
“บอกให้ขึ้นไปนอนบนห้องก็ไม่เชื่อ แล้ววันนี้กินยาหรือเปล่าเฮีย” เล้งหันไปถามสามี
“ไม่ได้กิน ว่าจะกินตอนเย็นครั้งเดียวพอ กินแล้วง่วง”
“แล้วมันจะหายหรือกวง หมอให้กินสามมื้อก็ต้องกินสามมื้อซิ” สุ่ยบ่นลูกเขย
“เฮียกวงเป็นอะไร” หยกถามขึ้นด้วยน้ำเสียห่วงใย
“ปวดหัว คลื่นไส้”
“อาการเหมือนคนแพ้ท้องเลยเนอะ มีคลื่นไส้ด้วย” หยกพึมพำขึ้นก่อนจะก้มหน้ากินข้าวต่อ ขณะที่หลง สุ่ย และกวงหันไปมองหน้าเล้งเป็นตาเดียว
“เดือนที่แล้วประจำเดือนไม่มา” เล้งยิ้มอายๆ บอกกับพ่อแม่และสามีด้วยเสียงที่แผ่วเบา
“ท้องหรือเปล่า” สุ่ยถามขึ้นกับลูกสาว เนื่องจากนึกได้ว่าลูกเขยมักจะมีอาการนี้เมื่อลูกสาวท้อง
หยกตาโตเงยหน้าขึ้นมองพี่สาวพร้อมกับถามขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “เจ๊เล้งกำลังจะมีน้องให้คิมกับเคี้ยงเหรอ”
“จริงหรือม๊า เคี้ยงเอาน้องผู้หญิงนะ เอาสวยๆเหมือนอี๊หยก” เคี้ยงหันไปบอกแม่
“ไม่เอาอ่ะ เอาผู้ชาย ถ้าเป็นผู้หญิงอี๊หยกก็โดนคิมกับเคี้ยงเขี่ยตกกระป๋องกันพอดี” หยกโวยวาย
“คิมไม่ทิ้งอี๊หยกหรอกน่า ให้คิมมีน้องผู้หญิงเถอะ คิมอยากมี” คิมหันไปบอกน้าสาวคนสวย
“มันเลือกไม่ได้หรอกลูก ตอนนี้น้องอยู่ในท้องของม๊าแล้ว ไว้รอม๊าไปอุลตร้าซาวน์ก่อน ไม่ต้องเถียงกัน” เล้งหันไปบอกลูกชายทั้งสองกับน้องสาว
“ไม่เห็นบอกเลย” กวงหันไปตำหนิภรรยา
“จริงๆก็ยังไม่แน่ใจเท่าไหร่” เล้งยิ้มแหยๆส่งให้สามี
“งั้นพรุ่งนี้กวงพาเล้งไปหาหมอ เดี๋ยวป๊ากับม๊าลงมาเฝ้าร้านให้เอง” หลงบอกขึ้นกับลูกเขย เขากับภรรยาโอนความรับผิดชอบกิจการขายอุปกรณ์ก่อสร้างให้ลูกเขยกับลูกสาวคนโตดูแลแทน หลังจากที่ทั้งสองแต่งงานกันได้ไม่นาน โดยที่เขากับภรรยาจะลงมาช่วยดูแลแทนเป็นบางครั้งเท่านั้น
“ครับป๊า”
ความคิดเห็น