คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2
ชาติยืนรอรถของคู่หมั้นสาวออกไปได้สักพักจึงขึ้นรถขับตามสามสาวออกจากบ้าน วันนี้เขาว่างช่วงบ่ายจึงคิดจะใช้เวลาที่เหลือสานสัมพันธ์กับมัณฑนากรคนสวย ชายหนุ่มตั้งใจจะแวะรับสาวน้อยที่ปากทางหน้าหมู่บ้าน แต่เธอขึ้นรถแท็กซี่ทันทีที่ลงจากรถ ทำให้เขาต้องขับรถตามหญิงสาวไปห่างๆอีกครั้ง
“มาเที่ยวห้างหรือ” ชาติพึมพำขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวลงจากรถแท็กซี่เดินเข้าห้าง ก่อนที่เขาจะเลี้ยวรถเข้าไปในที่จอดรถ
โชคดีที่เธอเลือกมาห้างสรรพสินค้าไม่ใช่ศูนย์การค้าไม่งั้นเขาคงต้องตัดใจขับรถกลับบ้าน ชาติคิด ก่อนจะเดินตรงไปที่ชั้นเสื้อผ้า และเขาก็ไม่ผิดหวัง เป้าหมายของเขากำลังเดินดูเสื้อผ้าตามทางที่เธอเดินผ่านด้วยความสนใจแต่ไม่มีทีท่าว่าจะแวะสักร้าน
ชาติรู้สึกขำตัวเองที่ทำตัวเหมือนคนโรคจิตเดินตามหญิงสาวไปเรื่อย ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเดินเข้าไปทักเธอเมื่อเห็นสาวสวยหยุดอยู่ที่ร้านขายเกมส์คอมพิวเตอร์และคุยกับพนักงานขายอยู่นาน
“ซื้ออะไรครับ”
หยกหันไปมองหน้าชายหนุ่มด้วยความแปลกใจ “เกมส์ค่ะ คุณมาซื้ออะไร”
“คุณหยกเล่นของพวกนี้ด้วยหรือครับ” ชาติอมยิ้มมองของเล่นกับแผ่นเกมส์ที่วางอยู่บนตู้โชว์
“ค่ะ แต่นานๆเล่นที พวกนี้ของหลานชาย” หยกวาดนิ้วไปที่แผ่นเกมส์สองแผ่นและกล่องตัวประกอบรถยนต์บนตู้กระจก
“มีหลานชายกี่คนครับ”
“สองค่ะ”
“นี่ครับ จะรับอะไรเพิ่มอีกไหมครับ” พนักงานส่งแผ่นเกมส์อีกแผ่นที่เพิ่งเดินไปหยิบมาจากสต็อกให้หญิงสาว
“ไม่ค่ะ แค่นี้” หยกตอบพนักงานพร้อมกับก้มลงล้วงกระเป๋าหยิบบัตรเครดิต
“นี่ครับ” ชาติส่งบัตรเครดิตให้พนักงาน
“ขอโทษนะคะ อย่าเพิ่งไป ใช้บัตรนี้ค่ะ” หยกดึงบัตรเครดิตของชาติออกจากมือพนักงานและส่งของตัวเองให้แทน ก่อนจะหันมาส่งบัตรเครดิตคืนให้ชาติ “ฉันไม่รับค่าจ้างเป็นของเล่นหรอกค่ะ”
“ทานข้าวเย็นด้วยกันไหมครับ” ชาติยิ้มรับบัตรคืนจากหญิงสาว
“ฉันมีนัดแล้วค่ะ คุณมีธุระจะซื้ออะไรก็ตามสบายเลยนะคะ ฉันต้องรอของ” หยกบอกกับชายหนุ่มก่อนจะหันมาสนใจแผ่นเกมส์ในตู้อีกครั้ง
“คุณหยกนัดเพื่อนไว้กี่โมงครับ ผมขอคุยกับคุณหยกเรื่องบ้านได้ไหม”
หยกหันมามองหน้าชายหนุ่ม สงสัยจะไม่ชอบสไตร์ของคู่หมั้นแน่เลย แต่ไม่กล้าพูดต่อหน้า หยกนึกในใจก่อนจะตอบรับกลับไป “ได้ค่ะ งั้นคุณรอสักครู่ เดี๋ยวไปหาที่นั่งคุยกัน”
ชาติอาสาถือโน๊ตบุ๊คและถุงของเล่นให้กับหญิงสาว ก่อนที่ทั้งสองจะพากันมานั่งที่ร้านอาหาร
“คุณไม่ชอบห้องไหนคะ ฉันจะแก้ไขให้ แต่ยังไงคงจะต้องเหลือบางส่วนที่เป็นความคิดของคุณผิงไว้บ้าง” หยกเลือกที่จะพูดตรงๆกับลูกค้า ความคิดเห็นไม่ตรงกันของเจ้าของบ้านมักจะเกิดขึ้นเสมอแต่ถ้าเป็นไปได้ เธอมักจะเสนอให้ลูกค้าพบกันครึ่งทาง ที่สำคัญเธอไม่อยากที่จะเปลี่ยนแบบไปๆมาๆตามคนโน้นทีคนนี้ทีแน่ๆ
“ผมชอบแบบเรียบๆ ไม่ชอบหรูหรา หรือหวานจนเลี่ยน แล้วสไตร์ห้องรับแขก ผมว่า...มันดูอลังการณ์เกินไป”
“คุณจะบอกว่าคุณชอบสไตร์คลาสสิกๆใช่ไหมคะ”
“คงอย่างนั้น ที่แน่ๆผมไม่ชอบห้องรับแขก”
“อืม สักครู่นะคะ” หยกเปิดโน๊ตบุ๊ค จัดการดึงแฟ้มภาพของห้องที่คิดว่าน่าจะเป็นสไตร์ของชายหนุ่มตรงหน้าออกมา ก่อนจะยกโน๊ตบุ๊คและย้ายมานั่งข้างเดียวกับลูกค้า “คุณชอบแบบประมาณนี้ไหมคะ”
“ครับ ผมว่ามันก็ดี แต่ผมคงไม่เปลี่ยนหมดทุกห้อง ส่วนเครื่องใช้ เครื่องประดับบ้านผมอยากไปเลือกพร้อมคุณหยก ได้ไหมครับ” ชาติรู้สึกเห็นใจหญิงสาว เขารับรู้ถึงความเอาจริงเอาจังในการทำงานของเธอ แต่เขาไม่มีทางเลือกมากนัก
หยกหันไปมองหน้าชายหนุ่ม “ค่ะ ได้ แต่คงต้องสรุปรูปแบบการตกแต่งห้องก่อน”
********
มือถือของหยกดังขึ้นหลังจากที่เธอคุยกับลูกค้าไปได้พักใหญ่ เธอไม่ได้ลุกออกจากโต๊ะเพราะตั้งใจจะให้ลูกค้าได้ยินบทสนทนาเพื่อถือโอกาสไล่ชายหนุ่มทางอ้อม
“เพื่อนคุณหยกมาแล้วหรือครับ” ชาติทักขึ้นหลังจากที่สาวสวยวางสาย
“ค่ะ”
“งั้น พรุ่งนี้ผมโทรไปคุยรายละเอียดเพิ่มเติมอีกที”
หยกขมวดคิ้วมองหน้าลูกค้าหนุ่ม พร้อมกับนึกโอดครวญในใจ ที่คุยมาชั่วโมงกว่ายังไม่หมดอีกหรือ แล้วฉันจะสรุปงานเสร็จเมื่อไหร่นี่ งานใหม่ก็นัดลูกค้ามาคุยวันศุกร์ โอ้แม่เจ้า หวังว่าลูกค้ารายใหม่จะไม่เป็นเหมือนลูกค้ารายนี้นะ
“ได้ค่ะ ถ้าพรุ่งนี้คุณสรุปได้ ฉันคงจะสรุปงานให้คุณดูได้อีกทีวันพุธหน้า ถ้าตกลงกันได้ ช่างจะได้เริ่มเข้าไปทำงานต้นเดือนพฤศจิ น่าจะใช้เวลาประมาณสองถึงสามเดือน” หยกหันไปสรุปโครงงานคร่าวๆให้ชายหนุ่มฟัง
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่รีบ คุณทำงานให้ลูกค้ารายอื่นไปก่อนก็ได้”
“แต่ฉันรีบค่ะ ฉันอยากได้เงินค่าจ้างเร็วๆ”
ชาติยิ้มมองหน้าสาวสวย “ไม่ทราบว่าคุณหยกรับงานต่างจังหวัดด้วยหรือเปล่าครับ ผมกำลังคิดจะปรับปรุงการตกแต่งรีสอร์ทของผมที่บางแสน”
“รับค่ะ คุณสะดวกให้ฉันไปคุยรายละเอียดกับคุณที่บริษัทเมื่อไหร่คะ” หยกยิ้ม รีบตอบรับทันที
“นี่ครับนามบัตรของผม คุณสะดวกวันไหนก็โทรเข้ามือถือผมได้เลย แต่ผมยังไม่มีเบอร์คุณหยก”
“ขอโทษค่ะ ฉันลืมไป” หยกรีบล้วงนามบัตรส่งให้ลูกค้า ก่อนจะหยิบออแกนไนซ์เซอร์ขึ้นเช็คตารางงาน เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่คุ้นเคยเดินเข้ามาใกล้จึงเงยหน้าขึ้นทัก “มาแล้วหรือ ศรนี่คุณอภิชาติลูกค้าหยก คุณอภิชาติคะนี่คุณอดิศรค่ะ”
ศรยกมือไหว้ลูกค้าหนุ่มท่าทางภูมิฐาน ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งที่ฝั่งตรงข้าม เขายอมเสียมารยาทเดินเข้ามาหาแฟนสาวถึงโต๊ะทั้งๆที่เธอยังติดลูกค้า เพราะ เห็นสายตาของลูกค้าที่มองคนรักของเขาจากบานกระจกนอกร้าน
“ตกลงวันพุธหน้าคุณสะดวกให้ฉันสรุปงานเรือนหอของคุณกี่โมงคะ”
“ไว้ค่อยโทรคุยกันอีกทีก็ได้ครับ พรุ่งนี้ผมโทรหา วันนี้ผมคงจะต้องขอตัวกลับก่อน” ชาติหันไปมองหน้าเพื่อนของสาวสวยอีกครั้ง เขาไม่ปฎิเสธว่าชายหนุ่มตรงหน้าหน้าตาดีถึงขั้นเรียกว่าหล่อ แต่ผิวพรรณหน้าตาไม่ได้มีราศีจับเลยสักนิด ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้ามีราคาแต่มันไม่ได้ทำให้เขาดูแตกต่างจากมนุษย์กินเงินเดือนที่ขึ้นลงรถเมล์ กินข้าวแกงตามข้างทาง ผิดกับหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างเขา ประกายรัศมีในตัวเธอเปล่งชัดว่าเป็นคุณหนูแม้เสื้อผ้าเครื่องประดับรวมกันทั้งตัวจะราคาไม่ถึงสองพัน ชายหนุ่มไม่รู้สึกหนักใจกับเกมการแข่งขันครั้งนี้ เพราะให้มองอย่างไรคู่แข่งของเขาก็ดูจะไม่เหมาะสมกับเป้าหมายของเขาโดยสิ้นเชิง ราวกับเอานกยูงรำแพนมาคู่กับหมาขี้เรื้อนอย่างไงอย่างงั้น
********
“งานเยอะไหมศร” หยกเก็บงานบนโต๊ะก่อนจะหันมายิ้มทักทายแฟนหนุ่ม
“เรื่อยๆ หยกล่ะ งานเข้าเยอะเลยซิท่า”
“อืม ได้อาจารย์กับพี่ๆช่วยส่งมาให้ ตอนนี้รับไว้ห้าชิ้นรวมกับงานรีสอร์ตที่เพิ่งรู้เมื่อกี้”
“เก่ง ยังเปิดบริษัทไม่ถึงสองเดือนเลย”
“แน่นอน แฟนใครให้มันรู้บ้าง กินร้านนี้หรืออยากกินอย่างอื่น” หยกยักคิ้วพร้อมกับยิ้มรับ
“ร้านนี้ก็ได้ ไม่ต้องหาคนช่วยหรือ”
“ศรมาช่วยหยกซิ” หยกรีบชวนแฟนหนุ่มด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นเหมือนทุกครั้ง
“ไม่เอาหรอก” อดิศรปฏิเสธแฟนสาวคนสวย แค่นี้เขาก็รู้สึกต่ำต้อยกว่าเธอมากพอแล้ว ชายหนุ่มต้องการยืนด้วยขาของตัวเอง เขาเลือกที่จะทำงานกับบริษัทออกแบบเล็กๆแทนที่จะทำงานกับเธอ หรือกับบริษัทใหญ่ที่แฟนสาวฝากให้
ศรเริ่มจีบหยกตั้งแต่เจอกันครั้งแรกตอนรับน้องพร้อมๆกับเพื่อนและรุ่นพี่อีกหลายคน และเขาก็เป็นผู้ชายโชคดีที่สามารถชนะใจสาวน้อยน่ารักคนนี้ได้ เขาไม่เคยรับรู้มาก่อนว่าแฟนคนสวยเป็นลูกสาวเศรษฐีเพราะเธอทำตัวติดดินจนไม่น่าเชื่อ แถมยังหาเงินตัวเป็นเกลียวโดยรับจ๊อปทำงานให้กับรุ่นพี่และอาจารย์ ศรเพิ่งรับรู้ว่าแฟนสาวฐานะดีเมื่อตอนปิดเทอมกลางภาคชั้นปีที่สอง หยกไปเที่ยวเมืองนอกโดยมีของฝากราคาไม่น้อยให้กับทุกคนที่เธอรู้จัก และเครื่องยืนยันต่อมาในความสงสัยของชายหนุ่มก็ถูกเฉลยเมื่อแฟนสาวตัดสินใจพาเขาไปแนะนำให้รู้จักกับครอบครัวของเธอ
ทุกคนที่บ้านของแฟนสาวมองเขาราวกับลูกสาวพาตัวประหลาดจากสวนสัตว์มาโชว์ ชายหนุ่มตัดสินใจไม่ไปเหยียบที่นั่นอีกจนกว่าเขาจะมั่นใจว่าสามารถดูแลคนรักได้ในระดับหนึ่ง เขาไม่ได้ฝันถึงขนาดว่าต้องรวย เพราะคนรักของเขาไม่ใช่สาวหัวสูง แฟนสาวเคยไปบ้านเขาหลายครั้ง เธอรักและให้ความเคารพพ่อแม่ของเขาที่เป็นแค่ข้าราชการระดับล่าง ที่สำคัญหยกไม่ได้รังเกียจทาวน์เฮ้าท์เล็กๆที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของพ่อแม่ที่เขาอาศัยมาตั้งแต่เกิด ศรตั้งใจจะเก็บเงินสักก้อนเพื่อดาวน์รถและจัดงานแต่งงานให้สมเกียรติแฟนคนสวย อีกไม่กี่ปีข้างหน้าเงินเดือนของเขาคงพอจะเลี้ยงเธอกับลูกได้ และเมื่อถึงวันนั้นเขาจะเดินยืดอกเข้าไปบอกกับพ่อแม่ของหยกว่าเขาเป็นแฟนของลูกสาวท่าน
“อย่างนี้แสดงว่าไม่ห่วงแฟน ปล่อยให้แฟนคนสวยทำงานงกๆอยู่คนเดียว” หยกแกล้งพูดเสียงงอน
“ทำไม่ไหวก็รับสมัครลูกน้องซิ ทั้งบริษัทมีอยู่คนเดียว เดี๋ยวก็รวยแย่”
“ตอนนี้ยังทำไหว เสาร์นี้ว่างไหม หยกจะพาคิมกับเคี้ยงมาเดินเที่ยวห้าง”
“ศรต้องไปต่างจังหวัดอาทิตย์หนึ่ง แต่ถ้าลูกค้าโอเคอาจจะต้องไปทำงานต่างจังหวัดหลายเดือน”
“ไปไหน ไกลหรือเปล่า”
“เชียงใหม่”
“รับงานไกลขนาดนั้นเชียว” หยกถามกลับเสียงสูง
“ญาติเจ้าของบริษัทจะทำสปาคอมเพล็กซ์ “
หยกนั่งคุยเล่นกับศรระหว่างกินข้าวอยู่เกือบสองชั่วโมง ก่อนที่ทั้งสองจะพากันออกมาเดินย่อยในห้างอีกพักใหญ่
“ดึกแล้ว กลับเถอะ เดี๋ยวศรเดินไปส่งที่รถ” ศรยกนาฬิกาขึ้นดู เมื่อเห็นว่าเป็นเวลาเกือบสามทุ่มจึงเอ่ยปากกับแฟนสาว
“รถเสีย เดี๋ยวขึ้นรถเมล์กลับ”
“เรียกแท็กซี่เถอะ หิ้วโน๊ตบุ๊คกับของเล่นขึ้นรถเมล์ลำบาก” ศรเตือนแฟนสาว นี่ล่ะลูกคนรวยที่เขารัก เธอไม่เคยเกี่ยงที่จะใช้รถสาธารณะ ตลอดช่วงเวลาที่เรียนสาวสวยไปกลับด้วยรถเมล์ทั้งๆที่ที่บ้านมีรถให้ใช้อยู่หลายคัน และเขาก็ไม่เคยมีโอกาสได้ไปส่งแฟนสาวเพราะเธอยืนยันหนักแน่นว่าอยากกลับเอง เนื่องจากไม่อยากให้แฟนหน้าตาหล่อเหลาอย่างเขาเกิดอันตรายในการเดินเข้าซอยเปลี่ยวและลึกเพื่อกลับบ้าน
“ศรก็เหมือนกัน กลับแท็กซี่เถอะ หยกชวนคุยซะดึกเลย”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวศรส่งหยกขึ้นรถเสร็จแล้วค่อยขึ้นรถไฟฟ้าไปต่อมอเตอร์ไซด์หน้าปากซอย”
“ไปอยู่เชียงใหม่ ถ้างานไม่ยุ่งก็โทรมาคุยบ้างนะ”
“ศรว่าคนที่งานยุ่งน่าจะเป็นหยกมากกว่านะ” ศรยิ้มล้อแฟน
“เอาน่า รู้ๆกันอยู่ ถ้าไม่รับสายก็แสดงว่ายุ่ง ฝากความคิดถึงถึงพ่อกับแม่ด้วยนะ ไม่ได้ไปหาตั้งเกือบสองเดือนแล้ว”
“พ่อกับแม่ก็บ่นถึงอยู่เหมือนกัน”
“เหรอ ไม่เป็นไร ไว้อาทิตย์ไหนว่างแล้วจะแวะเข้าไป แม่กินยาบำรุงหมดไปหรือยัง”
“ไม่ต้องซื้อไปให้แล้ว เห่ออยู่อาทิตย์เดียว ตอนนี้ยายังเต็มขวดตั้งอยู่บนตู้โชว์ ถึงบ้านแล้วส่งข้อความมาบอกด้วยนะ” ศรยกมือขึ้นโบกรถให้แฟนสาว
“ศรก็เหมือนกัน แล้วเดินทางวันไหน อ้าว!แท็กซี่มาแล้ว ไว้จะโทรไปคุยอีกที บาย” หยกรีบขึ้นรถพร้อมกับโบกมือลาแฟนหนุ่ม
ความคิดเห็น