คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 6 ถ่าน 2 (แก้ไข) คำผิด บวกเพิ่มเติมเล็กน้อย
เหยียจิ้งสำรวจอาคารอยู่สักพักใหญ่ๆ ในหัวเริ่มคำนวนว่าจะปรับปรุงอย่างไรบ้าง อาคารที่ซื้อมาเป็นคล้ายกับโกดังเก็บของเสียมากกว่า มีหลังคาที่สูงขึ้นไป และยาวไปด้านหลัง
เขาตั้งใจจะทำอาคารนี้เป็นที่ขายถ่าน และจะแบ่งเป็น ห้องๆ สำหรับถ่านคุณภาพที่แตกต่างกัน บางคนต้องการเพียงเศษถ่าน บางคนต้องการถ่านที่ให้ความร้อนนาน และบางคนก็ต้องการที่ใช้จุดไฟเพียงชั่วคราวเท่านั้น
ส่วนเรื่องของร้านอาหาร เขานั้น ยังต้องหาทุนเพิ่มในการซื้อที่ดินในตัวเมืองก่อน และค่อยๆ ซื้อที่ดินรอบเมือง เพราะเมื่อไร ที่ความเจริญไปถึงตรงนั้น เขาก็จะมีที่ทางเพื่อสร้างอนาจักรการค้าของเขาเองขึ้นมา
วันต่อมา เหยียจิ้งได้นัดให้ช่างมาสำรวจพื้นที่ พูดคุยถึงสิ่งที่ต้องการ และ ราคา กว่า 3000 หยวนที่ต้องจ่ายไป เพราะจะมีการซ่อม ส่วนต่างๆ และเพิ่ม ที่กั้นเป็นห้องอีกด้วย 3 000 หยวน ค่อนข้างถูกมากแล้วทีเดียว
เหยียจิ้ง ทำการติดต่อ บริษัทขนส่ง ที่มีชื่อเสียงยาวนานจนถึงปัจจุบันในอนาคต อย่าง บริษัทเจิ้งเทียน ที่ภายหลังเปลี่ยนเป็น หยางกรุ๊ป
ระยะทางจากบ้านของเขามายังเมืองหลวงนั้น ใช้เวลาเดินทางด้วยเกวียน 15 วัน แต่ถ้าเดินทางด้วยรถไฟ จะใช้เวลาแค่ 2 วันเท่านั้น
ดังนั้น การขนส่งถ่านของเขา จึงเลือกที่จะใช้รถไฟแทน ซึ่งยังไม่มีคนทำมากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นการขนส่งด้วยเกวียนอยู่ แต่หลังจากนี้อีกไม่กี่ปี รถบันทุก ก็จะเข้ามาแทนที่ การขนส่งด้วยรถไฟ ก็จะรวดเร็วกว่า ทันที
นอกจากจะใช้บริการการขนส่งจาก เจิ้งเทียนแล้ว เขายังได้เสนอแนวทาง ที่จะสามารถเป็นใหญ่ทางธุรกิจขนส่ง ในด้านการใช้รถไฟ หรือ แม้แต่ เครื่องบิน ที่ ประเทศภายนอก ได้เริ่มใช้กันบ้างแล้ว
ปี 1987 ปี ดูเหมือนว่าประเทศจีน จะเพิ่งเริ่มปลดล็อคจาก อะไรหลายๆ อย่าง แต่ขอให้รอ อีก 3 ปี เท่านั้น จีนก็จะเริ่มก้าวเข้าสู่ช่วงเวลา มหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ของโลกได้ในไม่ช้า
"ตกลงตามนี้นะครับ เราเป็นหุ้นส่วนกัน 30 % จะเป็นของผม ส่วน อีก 70% พี่หยางก็เอาไป ผมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับ บริหาร แต่ภายใน 3 ปี ผมต้องการเงินทุนของผมคืน อย่างน้อย 3 เท่า เท่านั้นนะครับ" เหยียจิ้ง ให้ทั้งขอกำหนดและ ทั้งเรื่องของจำนวนเงิน และระยะเวลา ให้กับ หยาง เจิ้งหลวน ที่ยากในการจัดการเป็นอย่างมาก แต่ทางนั้นกลับมั่นใจในฝีมือของตนเอง ที่กล้าเสี่ยง และลงมือทำ
"ได้เลยน้องเหยีย พี่ไม่ทำให้น้องผิดหวังแน่นอน" หยางเจิ้งหลวน รับปากด้วยปนะกายแววตาที่พร้อมจะร่ำรวยแล้วนั่นเอง
เมื่อตกลงธุรกิจกันเรียบร้อยแล้ว เหยียจิ้งก็เดินทางไปยังที่ร้านโรงพิมพ์ เพื่อทำประกาศ แจกใบปลิว เรื่องของการจะเปิดร้านขายถ่านนั่นเอง
ถ่าน เป็นสินค้าที่จำเป็นต้องใช้ อย่างมาก เพราะการกดขี่ที่เกิดจากรัฐบาล ก่อนทำให้ ถ่านเป็นสินค้าหายากเป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่แล้วจะซื้อไม้มาใช้เป็นฟืน กันทั้งนั้น ไม่ว่าจะในเมืองหลวง หรือ เมืองรอบๆ มีเพียงพวก ชนชั้นสูงที่สามารถใช้ถ่านได้ เพราะพวกเขาเชื่อว่า ถ่าน เป็นของที่ทำยาก และ หายากเป็นอย่างมาก เนื่องจากถูกจำกัดการซื้อขาย และถ่านจากไม้ส่วนมากจะส่งให้ทางการสำหรับอุตสาหกรรม
เขาสั่งให้พิมพ์ ออกมากว่าร้อยแผ่น เพื่อติดประกาศไปให้ทั่วเมืองหลวง และเมืองรอบข้างนั่นเอง ที่เหลือก็จะใช้วิธีปากต่อปาก โดยการจ้างคนให้ เริ่มพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ โดยให้ปล่อยในร้ายเหล้า ร้านอาหารทั่วไป เมื่อข่าวลือเรื่องนี้กระจ่ายไปทั่ว เมื่อวันที่เปิดจริง แล้วมีคนรับรู้มากว่าเป็นเรื่องจริง เงินก็จะไหลมาเทมานั่นเอง
นอกจากประกาศเรื่อง เปิดร้านแล้ว ก็ให้พิมพ์ประกาศรับสมัครงาน ด้วยเช่นกัน โดยที่ต้องการ ชายฉกรรจ์ ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา 5 คน เงินเดือน 300 หยวน ทุกๆ 20 วัน และ หญิง ที่เย็บปิดปากกระสอบได้ 2 คน เงินเดือน 150 หยวน ทุกๆ 20 วัน รวมทั้ง พนักงานหน้าร้าน อีก 2 คน เงินเดือน 170 หยวน ทุกๆ 20 วัน ไม่จำกัดอายุ และ วุฒิการศึกษา จะหญิงหรือ ชายก็ได้เช่นกัน โดยนัด สัมภาษณ์งาน ใน วัน อาทิตย์ ที่ห้องประชุม ที่ว่าการ ห้อง 2 เวลา 10:00 โมงตรง นั่นเอง
หมายเหตุ หากทำงานได้ดี จะมีการพิจารณา ขึ้นเงินเดือนให้ตามความเหมาะสม, ทดลองงาน 20 วัน
หมายเหตุ 2 วันสัมภาษณ์ ให้เตรียม หลักฐานที่เป็นเอกสารยืนยันตัวตน หากมีวุฒิการศึกษา ก็ให้นำมาเป็นส่วนพิจารณา เพิ่มเติมได้
ชาย 5 คนจะเป็นคนบรรจุ ถ่านใส่กระสอบ และขนกระสอบ หญิงสองคน หน้าที่ชัดเจนอยู่แล้ว คือเย็บปิดกระสอบ อีกสองคนที่จะให้อยู่หน้าร้าน ต้องมีทักษะการพูด และแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี
หลังจากที่เข้าร้านเครื่องพิมพ์เรียบร้อย เหยียจิ้งก็เข้าร้านขายกระสอบต่อ เขาต้องการนำกระสอบ มาใส่ถ่านของเขา เพื่อสร้างมูลค่าของถ่าน และง่ายต่อการจัดเก็บ เขาได้สั่งจำนวนมาก ที่ต้องการ คือ ถุงขนาด 5 ลิตร จำนวน 200 ถุง ต่อวัน และ จำนวน 50 ลิตร 50 ถุง ต่อวัน และ 100 ลิตร จำนวน 20 ถุง ต่อวัน
ราคา ถุงขนาดเล็ก จะอยู่ที่ 2 หยวน ขนาดกลาง ราคาอยู่ที่ 6 หยวน และ ขนาดใหญ่ ถุงละ 10 หยวน ในต่อวัน เขาจะต้องจ่าย 900 หยวน สำหรับค่ากระสอบ เริ่มนัดรับ อีก 7 วัน แล้ว เหลือเวลา อีก 10 ก็จะเปิดร้าน เพราะต้องเตรียมคนงาน และ สินค้า ส่วนอาคาร จะแล้วเสร็จ ภายใน 15 วัน
เหยียนจิ้งจะขาย ถุงเล็ก 5 ลิตร ในราคา 150 หยวน ต้นทุนหนึ่งถุงเล็กจะอยู่ที่ 50หยวน โดยที่จะสามารถใส่ถ่านได้ประมาณ 200 ก้อนเล็ก ตกก้อนละ 0.25 หยวน
ถุงขนาดกลาง ราคา 1000 หยวน ซึ่งต้นทุนก็จะ 500 หยวน เพราะขนาดถ่านเดียวกันกับถุงเล็ก ได้ถ่านประมาณ 4000 ชิ้น หากใช้อย่างประหยัดก็จะสามารถอยู่ได้นานกว่าสองเดือนเลยทีเดียว
และ ขนาดใหญ่ที่สุด ราคา 5000 หยวน
แม้ว่า ยิ่งซื้อขนาดใหญ่ จะราคาถูกกว่า แต่เพราะมีน้อยมาก จึงทำให้ต้องซื้อขนาดเล็กได้ มากกว่า ดังนั้นเงินที่ได้ ก็จะได้เยอะเป็นอย่างมาก แต่ว่า แค่ถุงเล็ก ก็สามารถอยู่ได้ นานถึง 10 วัน หากเป็นครอบครัวเล็ก ส่วนร้านอาหาร ก็จะแนะนำให้ ขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่จะดีกว่า
เหยียนจิ้ง ต้สามารถขายให้ได้อย่าง น้อย 60 ถุงเล็ก 8 ถุงกลาง และ 1 ถุงใหญ่ เขาก็ได้ทุนคืนค่าของคืน แต่ถ้าเขาสามารถ ขายได้ในปริมาณนี้ และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในไม่กี่เดือน เขาจะได้ทุนค่าที่ดิน คืน และก็จะแต่กำไร เพื่อ การขยับขยายไปในเมือง และทำร้านอาหาร
ในที่สุด วันอาทิตย์ ที่จะนัดสัมภาษณ์คนงานในร้านก็มาถึง มีคนสนใจ มากกว่า 100 คน เพราะ หลายคนก็ต้องการที่จะหางานที่ได้เงิน และมั่นคงทำ
ส่วนใหญ่เป็น ชาวบ้าน ที่มาสมัครตำแหน่งที่ต้องการ 5 คน รวมกับ ตำแหน่งเย็บปากกระสอบด้วยเช่นกัน พนักงานต้อนรับนั้น ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคาที่อาศัยอยู่ในเมือง
เหยียนจิ้ง ออกมาที่ลานที่ว่าการ และขอความร่วมมือ ให้แยกเป็นกลุ่ม กับตำแหน่งที่ต้องการจะสมัคร เพื่อง่ายต่อการ สัมภาษณ์ ซึ่ง เขาเลือก ให้ ผู้สัมภาษณ์เป็นพนักงานต้อนรับ เริ่มก่อน เพราะคนน้อยกว่า โดยที่ ให้จับคู่กัน แล้วเขาจะให้ปัญหา และ จะต้องช่วยกันแก้ปัญหา ว่าจะทำอย่างไร ให้เวลาหาลือกัน 2 ชั่วโมงเท่านั้น และแน่นอนว่า มีปัญหา มากกว่า 20 ข้อ ด้วยกัน และเขาจะทำการสุ่มถามนั่นเอง
ส่วนอีกสองตำแหน่งนั้น สำหรับคนที่ต้องการ เย็บปิดปากกระสอบ เขาจะให้ แข่งกัน ที่ความปรานีต และความรวดเร็ว หากใครทำได้ดี ก็จะผ่าน ส่วนชายฉกรรจ์ กว่า 50 คนที่มา นั้น ก็จะวัดกันที่ความแข็งแกร่ง และความรวดเร็วในการแบกหาม ส่วนการบรรจุนั้น จะได้รับการอบรมจากเขาก่อน ที่จะลงมือทำนั่นเอง
การสอบรอบแรก ของ กลุ่มพนักงานต้อนรับนั้น สามารถแบ่ง ออกมา ได้ มากถึง 10 คู่เลยทีเดียว มีทั้ง ชาย ๆ และ หญิงๆ แน่นอนว่า คู่ชายหญิง นั้นมี แค่ คู่เดียว เพราะทั้งสอง ต่างก็เป็นเศษเหลือจาก เพศตนเองทั้งสิ้น
เขาเรียกคู่แรก เข้ามาสัมภาษณ์ ก่อน
"เรามาเริ่มกันเลยนะครับ ต้องเสียมารยาท หากไม่ให้พวกคุณแนะนำตัวในตอนนี้เพราะ ผมคิดว่า มันอาจจะเร็วไปที่เราจะต้องรู้จักกัน นะครับ"
"ค่ะ" ทั้ง สองตอบรับพร้อมกัน
"เริ่มที่ข้อแรก ถ้าหากว่า มีลูกค้าโวยวายว่า ของที่ซื้อจากเราไปนั้นไม่ได้คุณภาพ จะทำอย่างไรครับ"
"ทำการแจ้งผู้จัดการร้านค่ะ"
"ครับ? แค่นั้นเลย"
"ใช่ค่ะ"
"เข้าใจแล้วครับ แล้วถ้าเกิดว่า คุณสองคน โดนลูกค้าที่หยาบคาย ด่าทอพวกคุณ จะทำอย่างไรครับ"
"ต้องอดทนค่ะ เพราะพวกเขาก็คือ ลูกค้าของร้าน"
"เข้าใจแล้วครับ หมดคำถามแล้วครับ"
"หมดแล้วหรอคะ แล้วอีกกว่า 10 คำถามจะไม่ถามหรอคะ"
"ไม่จำเป็นหรอกครับ" เหยียจิ้งมองหน้าทั้งสองคนอย่างเงียบเชียบ "ยังไงคุณก็ไม่ผ่านอยู่แล้ว ส่วนคุณอีกคน ก็ไม่ผ่านเช่นเดียวกันครับ การที่ยอมให้เพื่อนอีกคน ข่มขนาดนี้ ผมว่าเราคงทำงานกันลำบากแล้ว คุณสองคนไม่ผ่านครับ ถ้าอยากอยู่รอผล หรือกลับย้านก็เชิญได้เลยนะครับ"
"แต่ว่า" แม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะอยากพูดอะไรออกมา แต่เพราะสายตาของเหยียจิ้งที่ไม่แยแสนั้นแล้ว ก็เลยเงียบไป และยอมเดินคอตกออกจากห้องไปทันที สำหรับเขาแล้ว ต้องการที่จะหาคนที่ต้องการที่จะทำงานจริงๆ แม้จะไม่มีความรู้มากนัก แต่ไหวพริบและจิตใจที่รักงานของตัวเองนั้น ที่เขามองว่าสำคัญ ส่วนเรื่องอื่นๆ สามารถฝึกฝนกันได้
เป็นแบบนี้ ไปเรื่อยๆ จนคนหลังๆ ที่เข้ามาสัมภาษณ์ ทั้งใจชื้น และใจฝ่อ ในเวลาเดียวกันเลยทีเดียว เพราะว่า ถ้ายังไม่มีใครถูกจ้าง แสดงว่าตัวเองยังมีสิทธิ์ แต่ดูแล้ว ก็คงจะได้ยากพอดูเลย
เหยียจิ้งใช้เวลาสัมภาษณ์ ได้ไม่นาน ก็มีคู่ที่โชคดี ได้อยู่รอในรอบต่อไปแล้วหลังจากมีผ่านเข้าไป ถึง 4 คู่แล้วด้วยกัน บางคนก็ออกมาคนเดียว เพราะแม้ว่าจะประกาศรับที่เสนอไป แต่ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่ต้องการพนักงานในการทำงานด้านอื่นๆ
อย่างพนักงานบัญชี ผู้จัดการ หลายๆอย่างรวมด้วยกัน นี่ถือเป็นการคัดกรองคนเบื้องต้นเท่านั้น หากผ่านการเป็นพนักงานต้อนรับไปแล้วจึงจะเลื่อนต่ำแหน่งได้ หรือไม่ก็โชคดีเพราะความสามารถถึงมาตรฐานที่เขาต้องการแต่แรกได้ทำงานเลย
คู่สุดท้ายดำเนินการมาถึงเรียบร้อยแล้ว
"สวัสดีครับ"
"สวัสดี ครับ/ค่ะ" เขาทั้งสองคนกล่าวสวัสดี อย่างกดดัน เพราะมีสายตาของคนทั้ง 6 จ้องดูอยู่ เหยียนจิ้ง ต้องการให้ทุกคนเห็นว่า คู่แข่งของคุณจับตามองอยู่นะ จงทำออกมาให้เต็มที่สะ
"ถ้าเกิดว่า มีคนมาลวนลามเพื่อนร่วมงาน คุณจะทำอย่างไร"
"ผมก็คงจะ ไม่อยู่เฉย อาจจะเข้าไปต้อนรับลูกค้ากลุ่มนั้นเเทน เพื่อนร่วมงาน"
"แล้วถ้าลูกค้าไม่พอใจ"
"ก็คงต้องขอโทษ แต่ก็จะยืนยันต้อนรับต่อไปครับ"
"แล้วเธอล่ะ ถ้าเกิดเหตุการ์ณ อย่างการโดนลวนลามจะทำอย่างไง"
"อย่างแรก จะไม่โวยวายค่ะเพราะถ้าโวยวาย อาจจะทำให้ลูกค้าไม่พอใจได้ แต่พยายามเอาตัวออกห่างมา หากลูกค้าไม่ได้ทำอะไรที่รุนแรงจนเกินกว่าเหตุ จากนั้นก็จะเปลี่ยนให้พนักงานชายไปแทน"
"ถ้าให้เลือก ช่วยเหลือพนักงานแต่แลกมาด้วยการที่ทำให้ลูกค้าไม่พอใจ พวกคุณจะทำอย่างไร"
"จะช่วยเหลือพนักงาน และพยายามทำให้ลูกค้าพอใจมากที่สุด ครับ ถ้าหากว่าเป็นพนักงานของเราผิดจริง ก็จะขอโทษ ลูกค้าและชดเชยให้อย่างเหมาะสม และจะมีการลงโทษตามความเหมาะสมของร้านในภายหลัง"
"เข้าใจแล้ว...ที่เหลือ ลุกมาด้านหน้าได้เลย"
อีก 5 คนที่เหลือได้ยินก็เดินมารวมตัวกัน
"ผมจะจ้างพวกคุณ ทุกคน ในหน้าที่ที่ต่างกันไป คุณไป๋ จะได้เป็นผู้จัดการร้าน คุณหลิง จะได้เป็นหัวหน้าพนักงาน คอยดูแลความเรียบร้อยของพนักงาน ส่วนคุณซีและคุณหนาน จะเป็นหนักงานต้อนรับ และสุดท้าย อีก สองคนคุณ หม่าย และคุณ หม่า ก็รบกวนมาเป็นผู้ช่วยผม พอใจไหมครับ"
"ขอบคุณ คุณเหยียมากเลยครับ/ค่ะ"
"ทดลองงาน 3 เดือน หลังจากสามเดือนจะได้เป็นพนักงานประจำเงินเดินที่ 200 หยวนนะครับ"
ความคิดเห็น