คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ (แก้ไข)
ในคืนที่ฟ้านั้นเต็มไปด้วยแสงดาว
หยวน เหยียจิ้ง ทายาทคนสุดท้ายของตระกูล หยวน
กำลังยืนมองเมืองเซียงไฮ้จากห้องทำงานของตนเองที่อยู่ในตึกสูงใจกลางเมือง ขึ้นชื่อว่าเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศเป็นอันดับ 1 ห้องทำงานของผู้บริหารคงไม่ได้ธรรมดาแน่นอน เพราะว่านอกจากเป็นห้องทำงานแล้ว ยังเป็นห้องดูวิว แบบพาราโนม่า ที่ใหญ่ที่สุดอีกด้วย
เหยียจิ้ง ไม่เคยมีความสุขกับสิ่งที่เขาได้มาเลยแม้แต่น้อย หลายคนอาจจะมองว่า เขาโชคดีที่ได้เกิดมาในตระกูลที่ร่ำรวย แต่หลายคนที่ว่า อาจจะเพราะไม่เคยมาสัมผัสตัวตนของเขาอย่างแท้จริง ชายที่เกิดมาได้ชื่อว่าเป็นตัวซวยตั้งแต่แรกแบบเขา จะมีความสุขได้อย่างไร
วันที่เกิดมา กลายเป็นวันตายของแม่ตัวเอง ทุกปีไม่เคยได้รับคำอวยพร นอกจากคำสาปแช่ง จากผู้เป็นบิดา
เขาต้องอยู่คนเดียวในวันเกิดของตัวเอง ฉลองวันเกิดคนเดียว จนเมื่อถึงวันหนึ่งมันก็กลายเป็นแค่วันธรรมดาเท่านั้น เมื่อโตพอ จนเข้าใจอะไรมากขึ้น เหยียจิ้งก็เลิกหวังที่จะให้พ่อภูมิใจ เขาทำทุกทางเพื่อให้ตนเองไม่ต้องอยู่ใต้เท้าใครในตระกูล และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ เหยียจิ้ง
กว่า 60 ปี ที่ดิ้นรนมาเพื่อเป็นใหญ่ที่สุดในตระกูลนี้ จนร่วงเลยอายุมาจนแก่เฒ่า แต่กลับไม่เคยมีความสุขแม้แต่ปั้นปลายของชีวิต
เหยียจิ้ง ละสายตาออกจากภาพตรงหน้า เดินไปยังห้องนอนที่มีอยู่ในชั้นเดียวกัน ก่อนที่จะล้มตัวลงนอนไป
“เหนื่อยเหลือเกิน” คือความรู้สึกของเขาในตอนนี้
เหยียจิ้งคิดถึงเรื่องราวที่ผ่่านมาจนหลับ แต่ใครจะรู้ว่าเขาจะไม่มีวันได้ตื่นขึ้นมาอีกเลย
ปี ค.ส. 1957
"แอ้ แอ้ แอ้" เสียงทารกร้องไห้ เสียงดังไปทั่วบริเวณ ดังมาพร้อมๆ กับเสียงร้องไห้ ของสาวใช้ข้างกายผู้เป็นมารดาของทารกน้อย
"ว่าอย่างไรนะ ได้ลูกชาย แต่ ไช้สือ ต้องตายอย่างนั้นหรือ" ผู้นำตระกูลอย่าง หยวน สือซาน ร้องออกมาอย่างตกใจ หลังจากตั้งสติได้ เขานั้นก็เข้าสู่ภาวะเสียใจอย่างถ่องแท้ เพราะภรรยาสุดที่รักของเขานั้นเสียชีวิตไป
เพราะ เด็กเวรอย่างมันคนเดียว ความโกรธทุกอย่างที่เขามีนั้นถูกลงให้กับเด็กที่เพิ่งเกิดมา หยวน เหยียจิ้ง นามที่ได้รับไว้ก่อนที่ มารดาจะเสียได้บอกกล่าวกับ เมิ่งเหลียน สาวใช้ข้างกาย
สือซานนั้น อายุ ได้ 45 ปีแล้ว และ ไช้สือ นั้นอายุเยอะเกินกว่าที่จะคลอดบุตรแล้วในเวลานั้น เธออายุมากถึง 40 ปีแล้ว ในปี 1957 คือช่วงเวลาที่ผู้หญิงคลอดตอนอายุเยอะเกินไปนั้นมีสิทธิ์เสียชีวิตสูงมาก
หลังจากนั้น ลูกชายคนเล็กก็เป็นที่ชังของคนทั้งบ้าน เพราะสือซานไม่ได้อยากได้ลูกชาย เมื่อ เหยียจิ้ง ไม่ใช่ที่รักของผู้นำตระกูล ก็พลอยทำให้ทุกคนเกลียดชังเด็กน้อยคนนี้ไปด้วย
เขานั้นมีลูกชายมาแล้วถึงสองคน อย่าง
หยวน หลงตี้ พี่ชายคนโต อายุ 25 ปี แล้ว มีภรรยา ชื่อ เหลียน เสียนตี้ อายุ 22 ปี ภายหลังเปลี่ยนสกุลเป็น หยวน มีบุตรร่วมกันถึง สองคน เป็นชาย ชื่อ หยวน ต้าไห้ อายุ 6 ปี และ หญิงชื่อ หยวน เหยียนลี่ อายุ 4 ปี ครอบครัวของพี่ใหญ่จะไม่ชอบมายุ่งวุ่นวายกับน้องรองหรือน้องเล็กมาก จะสันโดดอยู่ครอบครัวเดียวแม้จะยังไม่แยกบ้านกันก็ตามที หลงตี้นั้นได้งานทำในเมือง ทำให้เขาไม่สนใจปัญหาในครอบครัวมากนัก ทำตัวเป็นเมฆลอยเหนือปัญหา
หยวน หลางเซี่ย พี่ชายคนรอง อายุ 23 ปีแต่งภรรยาแล้วเช่น ชื่อ หลาน เสียงช่าย อายุ 18 ปี เปลี่ยนสกุลเป็น หยวน มีลูกด้วยกัน แต่งมา 3 ปี ก็มีลูกมีหลานให้ถึง 2 คน ลูกชายของหลางเซี่ย คนแรก นามว่า หยวน จางต้า อายุ 2 ปี และ คนรองเป็นลูกสาว นามว่า หยวน หลานตี้ อายุ 1 ปี เกิดก่อน เหยียนจิ้งแค่ปีเดียวเท่านั้น
เรียกได้ว่า เหยียจิ้งนั้นเป็นราวกับลูกหลง และก็เป็นตัวซวยของบ้านที่เกิดมา ก็พลากภรรยาสุดที่รักของผู้นำตระกูลไป แถมยังเจ็บป่วยง่ายจน เงินที่มีมากก็ต้องใช้จ่ายไปกับค่ายาของเขา
ตระกูลหยวนนั้นเป็นตระกูลที่ใหญ่เป็นอย่างมาก แต่บ้านนั้นไม่ได้ใหญ่ตามจำนวนคน ทั้ง 11 คนต้องอยู่เบียดกัน ในบ้านที่มีเพียง 5 ห้องนอนเท่านั้น
ภายหลังจากความโศกเศร้า เพราะความเมามายจึงทำให้ สือซานล่วงเกิน สาวใช้อย่างเมิ่งเหลียน ทำให้สถานะของเธอเลือนมาเป็นมารดาเลี้ยงของตระกูลแทน
ตลอดระยะเวลา กว่า 13 ปี นั้น เหยียนจิ้งอยู่ในความดูแลของ เมิ่งเหลี่ยน เพราะพ่อของตนเองนั้นไม่รัก และยังเกลียดมาก ทำให้ เหยียนจิ้งรักและเคารพ เมิ่งเหลียนอยู่มาก และเธอเองก็ไม่เคยโกหกว่าตนเป็นมารดาเลย แต่บอกความจริงเมื่อตอนเขาอายุได้ 8 ปี
"ดูเหมือนว่า จะยังโชคดีอยู่ อย่างน้อยก็มีแม่เลี้ยงที่รักสินะ" เหยียนจิ้งพึมพำออกมา 'คงต้องรีบลุกแล้วล่ะ นอนมานานมากแล้ว' เขาคิดในใจเมื่อ รู้ตัวว่าเผลอพูดสิ่งที่คิดออกมาเสียงดัง เพราะความทรงจำที่กลับมาทำให้เขาสับสนเล็กน้อย แต่อาการเล่านั้นก็หายไปทันที
"เหยียจิ้ง สายป่านนี้แล้ว ทำไมยังนอนกินบ้านกินเมืองอยู่อีก" เสียงพี่สะใภ้ใหญ่ ที่ไม่ชอบขี้หน้าของเขา ตามพ่อสามี ที่มักจะมาขึ้นเสียงใส่เขาเป็นประจำด้วยความสนุก "รีบออกไปหา ฟืน ให้อาหารสัตว์ได้แล้ว" เธอยังคงโวยวายต่อไป
เหยียจิ้งเปิดประตูออกมา สายตาที่เขาใช้มองเธอนั้นเย็นชาเป็นอย่างมาก เพราะกว่า 40ปีแล้ว ที่ไม่มีใครกล้าที่จะขึ้นเสียง หรือสั่งให้เขาทำอะไร เขาจึงไม่พอใจ และแน่นอนว่า เหยียจิ้งคนเดิมคงไม่กล้าเช่นนี้เพราะไม่อยากจะมีปัญหา จนทำให้พ่อยิ่งเกลียดเขาเข้าไปอีก จนลืมคิดไปว่า ไม่ว่าเขาจะทำอะไรหรือไม่ทำอะไร สือซานก็ไม่มีวันที่จะรักหรือเอ็นดู เมื่อเธอได้เห็นก็โกรธตาลุกเป็นไฟเลยทีเดียว
"หนอยแหนะ แกกล้ามองอั๊วด้วยสายตาแบบนั้นได้ยังไง ไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่เสียแล้ว ถ้าวันนี้ไม่สามารถตีลื้อให้เลือดออกได้ อย่ามาเรียกอั๊วว่า เสียนตี้" เธอชี้มือชี้ไม้ไปทางเขา ด้วยความโกรธ โกรธที่เหยียจิ้งมองมาทางเธอด้วยสายที่ไม่เห็นหัวและสมเพชตัวเธอ
"แล้วจะให้เรียกว่าอะไร เพราะอั๊วมั่นใจว่า จะไม่มีทางตีได้" โดยนิสัยส่วนตัวแล้ว เหยียนจิ้งจะเป็นคนค่อนข้างจะกวนประสาทอยู่เสมอ แต่ก็เย็นชามากกับคนที่ไม่รู้จัก และจัดการได้เด็ดขาดกับศัตรูของเขาเช่นกัน ผู้คนจึงหวาดกลัวเขาในที่สุดเมื่อได้ขึ้นเป็นใหญ่ของตระกูล แล้วยิ่งปัญหาที่ต้องจัดการกับคนในบ้านแล้วนั้น เขายิ่งไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำอย่างไร ประสบการ์ณ 60ปี ของเขานั้น ได้หล่อหลอมให้เขา แข็งแกร่ง
ความคิดเห็น