ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บุตรชายคนเล็ก ยุค 70

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3 ต่อเติมบ้าน

    • อัปเดตล่าสุด 10 ก.ย. 64


    เหยียนจิ้งนั้นคิดว่าจะต่อเติมบ้านให้กับแม่เลี้ยงของเขา อาจจะทำเป็นอีกห้องหนึ่งต่อไปก็ได้ ตอนนี้เขานั้นมีเพียงแค่ห้องนอนของเขาเท่านั้น แต่เมื่ออยู่กันสองคนแล้ว เขาจึงคิดที่จะาร้างอีกสองห้องขึ้นมา เป็นห้องของแม่เลี้ยง และ ห้องส่วนกลาง สำหรับทานอาหารหรือ ทำกิจกรรมต่างๆ 


    ส่วนครัวก็ยังคงอยู่หน้านอกเช่นเดิม จะทำหลังคายื่นออกมา เพื่อกันฝน และ หิมะในอนาคต ห้องเก็บฟืนและ เสบียงก็คือสิ่งที่เขาจะสร้างเช่นกัน 

    ห้องน้ำก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน 


    หากจะทำทุกอย่างให้เสร็จ อาจจะต้องใช้เวลานานเป็นอาทิตย์แน่นอน ดังนั้น เขาจึงจะสร้างส่วนที่สำคัญที่สุด อย่างรั้ว เพื่อป้องกันอันตรายก่อยเป็นอันดับแรก 

    กว่าจะขุดหลุมสำหรับเสาหลักของรั้วเสร็จ ก็เข้ากลางวันแล้ว 

    โชคดีที่เนื้อไก่จากเมื่อวานยังคงมีอยู่ แม่เลี้ยงนั้นมีฝีมือการทำอาหารอยู่แล้ว แม้จะไม่มีเครื่องปรุงมากนัก แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรสำหรับเธอที่จะรังสรรอาหารรสเลิศ ออกมา 


    หรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะว่า เหยียนจิ้งนั้น หิวเป็นมาก 

    แม้เลี้ยงเองก็ไม่ได้อยู่เฉย เธอนั้นเดินเข้าป่าเพื่อเก็บผักป่า หรือ อาหารป่า สำหรับทำอาหารในมื้อเย็นด้วยเช่นกัน และยังหาฟืนเพิ่มเติมอีกด้วย 


    เหยียนจิ้งเดินเข้าไปในป่าไผ่สำหรับตัดไม่ไผ่เพิ่ม ก็นำหน่อไม้กลับมาด้วยในตอนเย็น 


    เมื่อมาถึงบ้านเขาก็บอกกับแม่เลี้ยงเรื่องการใช้น้ำ 

    "ต่อจากนี้ เวลาจะใช้นำ แม่เลี้ยงให้นำมากรองในเครื่องกรองน้ำนี้ก่อนนะ" 

    "น้ำที่ตักมาจากลำธารก็ใสสะอาดอยู่แล้วไม่ใช่หรือ" เธอนั้นไม่เข้าใจว่าจะต้องทำอะไรให้ยุ่งยากทำไม 

    "นี่เป็นเครื่องกรองน้ำก็จริง แต่ประโยชน์ของมันคือการกรองแบคทีเลีย ที่มากับน้ำ เราไม่สามารถมองเห็นได้ จะได้ไม่ป่วยหรือมีอาการท้องร่วงจากน้ำที่ดื่มกิน ทางที่ดีหากต้องการจะดื่มน้ำ ให้นำไปต้มให้ร้อนก่อน แล้วรอให้เย็น จึงค่อยดื่มก็ได้เช่นกัน" 

    "เข้าใจแล้ว แมาจะทำแบบที่อาจิ้งบอกแล้วกัน" 

    "ดีครับ อ่อแม่เลี้ยงมีคูปองผ้าไหม"  

    "มีสิ แม่เก็บเอาไว้ มันเป์นคูปองผ้าของแม่แท้ๆของอาจิ้ง" 


    "ดีเลย เพราะว่าใกล้หน้าหนาวแล้ว ผมอยากได้ที่นอนที่จะช่วยให้อบอุ่น และเสือผ้าใหม่อีกด้วย  แม่เลี้ยงตัดเสื้อผ้าเป็นหรือไม่" 


    "ก็พอทำแบบง่ายๆได้บ้าง" 

    "แบบง่ายๆ ก็พอแล้ว" 


    ทั้งสองคนคุยเรื่องที่จะทำร่วมกันเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้ 


    เหยียนจิ้งใช้เวลาหลังทานข้าวเย็น ออกไปหาฟืนสำหรับคืนนี้อีกเช่นเคย  ส่วนแม่เลี้ยงนั้นก็นำผ้าที่เธอนำติดตัวออกมาด้วยนั้น เพื่อสำหรับทำเสื้อผ้าใหม่ให้กับลูกเลี้ยงตนเอง เธอทำช่องสำหรับยัดนุ่นตามที่เหยียนจิ้งบอก เธอตัดออกมาแบบง่ายๆ เย็บติดกัน ฝีมือการเย็บผ้าของเธอนั้น เรียบเนียนเป็นอย่างมาก แม้จะทำให้ที่ที่แสงไม่สว่างมากนัก แสงเพียงอย่างเดียวคือกองไฟในตัวบ้านที่จุดไว้สร้างความอบอุ่นนั่นเอง 


    ปัก 


    ปัก 


    เสียงผ่าฟืนดังเข้ามาในบ้าน เมิ่งเหลียงวางมือจากเสื้อทันที เดื่อที่จะออกไปช่วยเหยียนจิ้งทำงาน อย่างน้อย เธอก็ช่วยเรียงฟืนให้เป็นระเบียบได้ พวกเขาไม่ต้องกังวลถึงกองไฟที่จุดไว้ในตัวบ้านเลยสกนิดเดียว 


    ทั้งสองคนช่วยเหลือกัาและกันจนงานนั้นเสร็จเร็วมากขึ้น 



    เย็นมากจนมองไม่เห็นอาทิตย์แล้ว ดวงจันทร์ลอยเด่นบนฟ้า แล้วนั่นเอง 


    เหยียนจิ้งกำลังจะเดินไปอาบน้ำที่ลำธารเพราะว่าเชาทำงานมาทั้งวัน เหม็นเหงื่อจะแย่แล้ว แต่แม่เลี้ยงของเขานั้นห้ามไว้ แล้วบอกว่าได้เตรียมน้ำไว้ให้แล้ว แค่ต้มให้ร้อนก็อาบได้เลย 


    น้ำที่ใช้อาบนั้นไม่จะเป็นต้องกรองก่อน ทำให้เธอนั้นไม่เสียเวลาที่จะมากรองน้ำ 

    ถังน้ำจากไม้ไผ่ ง่ายๆ เมิ่งเหลียนนั้นสามารถทำได้นั่นเอง 




    ผ่านไปแล้ว 1 อาทิตย์ 


    ทั้งสองคนใช้ชีวิตด้วยกัน เหยียนจิ้งนั้นได้รู้ว่าแม่เลี้ยงของตนเองนั้นมีความสามารถในงานไม้ที่ยอดเยี่ยมมาก และยังมีฝีมือในการตัดเย็บที่ดีมากเช่นกัน เพียงบอกสิ่งที่ต้องการก็ได้ในสิ่งที่อยากได้ทันที 


    อุปกรณ์สำหรับทำงานไม้นั้น เมิ่งเหลียนได้นำติดตัวมาด้วย เพราะเป็นของของเธอตั้งแต่แรก พ่อของเธอนั้นเป็นช่างไม้ทีามีฝีมือเป็นอย่างมาก ได้สานต่อความรู้มามากมาวโดยเฉพาะการแกะสลั่กและการทำเครื่องมือจากไม้ หรือแม้แต่สิ่งของต่างๆ เช่นกัน 

    เหยียนจิ้งขอให้แม่เลี้ยงทำกระถางต้นไม้ให้กับเขา เพราะว่ากระถางต้นไม้นั้นแพงเป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้านำเข้าเสียมากกว่า 

    นอกจากกระถางต้นไม้แล้ว แม่เลี้ยงยังได้ทำ จาน ชาม ช้อน และซ่อม ตามคำบอกเล่าของเขาอีกด้วย แน่นอนว่าตระเกียมย่อมมีเช่นเดิม 



    เพื่อที่จะทำพื้นที่สำหรับปลูกผัก กระถางต้นไม้นั้นสำคัญมาก นอกจากวิ่งที่แม่เลี้ยงทำให้แล้ว เขาก็ใช้กระบอกไม้ไผ่ทำเป็นกระถางแทนเช่นการทำให้เป็นชั้นบันได มีพื้นที่ใส่ดิน เจาะรูด้านร่างเพื่อที่จะใช้วิธีลดน้ำจากด้านบนลงล่างเป็น เพื่อประหยัดเวลาในการลดน้ำ และยังทำให้น้ำไม่ขังจนเกินไปอีกด้วย 


    บ้านนั้นได้ต่อเติมเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาสร้างห้องนอนขึ้นมา อีก สองห้องแทน และใช้ส่วนที่สร้างไว้ในตอนแรกเป็นห้องส่วนรวมแทน และใช้สำหรับจุดไฟเพื่อสร้างความอบอุ่นในหน้าหนาว 


      เหยียนจิ้งทำเตียงไม้ไผ่ให้กับแม่เลี้ยงและตนเองเช่นกัน ผ้าที่ซื้อมาสำหรับการทำที่นอนและผ้านวมสำหรับห่มนั้น ก็มีนุ่นอยู่ด้านในทั้งหมด เย็บเป็นตารางเพื่อนุ่นจะได้ไม่ไหลไปรวมอยู่ที่เดียวกันหมด  เพื่อสร้างความอบอุ่นในตอนนอนอีกด้วย หมอนนั้นจะใช้ผ้าเก่าผสมกันเพราะจะได้ไม่อ่อนนุ่มจนเกินไปนั่นเอง 


    ทุกๆวัน เหยียนจิ้งจะออกไปล่าสัตว์ อย่างพวกไก่ป่า หมูป่า เป็นต้น มาทำเป็นอาหารและเสบียงสำหรับหน้าหนาว 


    เนื้อหมูก็นำไปแดดเดียวเก็บไว้กินได้ใน มันหมูนั้น ก็เอาไปเจียวน้ำมัน ไว้ใช้ 


    แม่เลี้ยงนั้นคิดไม่ถึงว่าลูกเลี้ยงของตนจะเก่งกาจเพียงนี้ เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นจะแสดงถึงความสามารถพวกนี้เลย แต่เธอก็ไม่ถามอะไร และไม่คิดที่จะถามด้วยเพราะขอเพียงแค่ลูกเลี้ยงของเธอคนนี้ เอาตัวรอดก็เพียงพอ 



    "กลับมาแล้ว ขายได้หรือไม่" เธอถามเหยียนจิ้งที่เดินเข้ามาในลานบ้าน หลังจากที่เขานั้นขนของไปขายในเมือง 


    เมืองของเหยียนจิ้งนั้น ยังไม่เป็นเมืองที่เจริญมากเท่าไรนัก แม้จะมีสิ่งที่เรียกว่าตลาดมืด แต่ก็ไม่ได้ใหญ่มาก ความเจริญยังเข้ามาไม่ถึงมากนัก แถมพวกเขายังอยู่ในพื้นที่ชนบท ไม่ใช่เกษตรกรรม หรือ การศึกษาที่จะมี ยุวปัญญาชนมากมาย ที่มีการศึกษา ดังนั้นเพื่อที่จะออกจากจุดนี้ เหยียนจิ้งจึงอยากจะเข้า โรงเรียน แต่เพราะถูกกีดกันจากพ่อแท้ๆของตนเอง 


    บรรพบุรุษ ของเขาคนนี้มีชีวิตที่ยากแท้ 


    "ขายได้ นี่คือ คูปองที่แลกมาได้ จากเครื่องกรองน้ำ มีคูปองอาหาร สองใบ คูปองผ้า สามใบ และ คูปองอุตสาหกรรม อีก หกใบ และเงินอีก 200 หยวน" เหยียนจิ้งนั้นขายให้กับพวกคนรวยในเมืองผ่านตัวแทนในตลาดมืด 


    เขานั้นไม่กังวลเรื่องที่อาจจะมีตนรู้ว่าเป็นสิ้นค้าของเขา เพราะกฎในตลาดมืดนั้น ข้อที่สำคัญที่สุดคือ 


    คุณไม่รู้จักฉัน ฉันไม่รู้จักคุณ เราสองคนไม่เคยเจอกัน  หากใครที่แหกกฎข้อสำคัญนี้ ไม่มีใครการันตีได้ว่า ชีวิตหลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร 



    "แม่จะไปซื้อข้าวสารมาเก็บไว้ และแลกเมล็ดพันธุ์ผัก เล็กน้อยกับเกษตรรายใหญ่ของที่นี่ดู บ้านนั้นเขามีหัวสมัยใหม่มากจนคนทั่วไป ไม่ชื่นชอบ เพราะแปลกแยกจนเกินไป จะได้ปลูกในสิ่งที่ลูกอยากทำ" เธอบอกเพราะ เขานั้นอายุ ยังไม่ถึงเกรฑ์ ใช้คูปองได้ ดังนั้น เธอจึงออกหน้าแทน 


    และนานแล้วที่เธอไม่ได้เข้าเมืองเลย สิ่งที่ต้องทำยังคงมีเรื่องของการแจ้งทางการว่าย้ายออกแล้ว เพื่อที่จะได้รับคูปองเป็นของครอบครัวตนเอง 


    "แม่เลี้ยงไปจัดการพรุ่งนี้เถอะ เย็นนี้ผมอยากเข้าป่าหาเห็ดสักหน่อย เพราะดูจากอากาศแล้ว น่าจะเกิดขึ้นมาดกน่าดู" 


    แน่นอนว่าเห็ดคืออาหารโปรดของเขานั่นเอง 


    "ถ้าสามารถปลูกเห็ดเองได้ คงสามารถทำน้ำปรุงรสได้ แต่คงต้องมีส่วนผสมอื่นๆ อีก" 


    การกระทำของเหยียนจิ้งนั้น เพื่อที่จะมีชีวิตรอด เขาไม่ได้คิดเลยว่า เขานั้นกำลังทำอะไรเพื่ออนาคต 


    ตามที่เขารู้นั้น จุดเริ่มต้นของกิจการของตระกูลหยวนนั้น เริ่มมาจาก น้ำปรุงรส นั่นเอง 


    เหยียนจิ้งพยายามที่จะเดินตามอนาคต โดยไม่รู้ตัวนั่นเอง 




    สั้นไปเหมือนเดิมหรือเปล่า?? 

    ไรท์ ทำงาน แล้วก็ฝึกงานด้วย เลยไม่ค่อยมีเวลา ขนาดนั้น ต้องขอโทษที่ทำให้รอนานด้วยนะคะ 

    ตอนนี้มีเวลานิดหน่อย ก่อนที่จะไปทำงาน ตอนเย็น.. (ไรท์อยู่ที่สวีเดนด้วย เวลาเราเลยไม่ตรงกัน ) 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×