ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บุตรชายคนเล็ก ยุค 70

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 ชีวิตใหม่ของเหยียจิ้ง (แก้ไข + เพิ่มเติมเล็กน้อยและคำผิด)

    • อัปเดตล่าสุด 25 เม.ย. 65


    เหยียจิ้งก็คิดถึงแผนการเอาตัวรอดของเขา ในระหว่างที่ทำการขุดโสมคน ขึ้นมา ตอนนี้เขาทำได้สามต้นแล้ว แต่ละต้นค่อนข้างมีอายุเยอะมากแล้ว คาดว่าจะขายได้เงินดี  

    ปัญหาของเขาตอนนี้คือ ไม่มีเงิน ถ้าไม่มีก็ทำอะไรไม่ได้มากนัก แต่เขาที่เคยสามารถควบคุมอำนาจทั้งหมดของตระกูลไว้ได้ จะไม่ยอมแพ้แน่นอน มันจะต้องมีทางไหนสักทางหนึ่ง 

    อย่างน้อยๆ ก็ขายโสมคนพวกนี้แล้วเอาเงินมาใช้ก่อนก็แล้วกัน 

    เมื่อเดินมาถึงตัวเมือง เขาก็เข้าร้านสมุนไพร 

    "เถ้าแก่ ลื้อรับซื้อสมุนไพรไหม" เหยียจิ้งถามเถ้าแก่ ที่บังเอิญอยู่หน้าร้านพอดี 

    " รับซื้อ ว่าแต่ลื้อมีอะไรมาขายล่ะ" เถ้าแก่ เซ้ง เจ้าของร้านขายสมุนไพร 

    "นี่จ้ะ" เหยียจิ้งนำโสมคน วางไว้บนโต๊ะ ที่ทั้งสองนั่งคุยกัน 

    "นี่มัน โสมคน ลื้อไปหาจากไหนมา จัดการได้ดีมาก สมส่วนถึง 10 ส่วน ไม่เสียหายเช่นนี้ อั๋วให้ลื้อ ขีดละ 500 หยวน เอาไหม" เถ้าแก่ถาม 

    "ก็ได้เถ้าแก่ แต่อั๋วขอ 550 ได้ไหม อั๋วจำเป็นต้องใช้เงิน แถมกว่าจะได้โสมพวกนี้มา อั๋วเข้าป่าไปลึกมาก เสี่ยงตายมาก็หลายครั้ง" เหยียจิ้ง รู้มูลค่าขอโสมคนเป็นอย่างดีไม่ว่าจะยุคไหน สมัยใด โสมคนก็เป็นสิ่งของราคาแพงอยู่เสมอ เมื่อไรที่ยิ่งอายุเยอะ ยิ่งแพง 

     

    "ก็ได้ๆ 550 ก็ 550 ลื้อรออั๋ว เดี๋ยวจะไปเอาตาชั่งก่อน ลื้อรอเดี๋ยวเดียว" รอไม่นานเถ้าแก่ก็กลับมาพร้อมตาชั่งที่ให้คนงานในร้านช่วยยกมาให้ 

    ทำการชั่งโสมคนทันที แต่ละต้นก็หนัก 15 ขีดแล้ว ก็จะเป็นเงินอยู่ที่ต้นละ 8 250 หยวน แต่เพราะสมบูรณ์มากเถ้าแก่พอใจ เลยให้เพิ่มต้นละ 50 หยวน

    เมื่อขายเสร็จเรียบร้อยได้เงินมา เหยียจิ้งจึงเดินไปทั่วเพื่อหาข่าวสำหรับตลาดมืดนั่นเอง และเขาก็สามารถหาคนที่ยอมบอกเขาจนได้  และได้มองการใช้ชีวิตของคนทั่วไป ไปในตัวด้วย เขานั้นไม่รู้ว่าจะต้องวางแผนทำอย่างไรดี เพื่อที่จะหาเงินมาใช้และความปลอดภัยของเขาและแม่

    ระหว่างทางกลับที่พักของตนเอง หลังจากที่ซื้ออุปกรณ์ทุกอย่างที่ต้องใช้ได้แล้วจากตลาดมืด ที่มีราคาแพงกว่าปกติอยู่มากเลยทีเดียว ร้านค้านั้นจะตั้งเป็นแผงที่เก็บง่ายและสลายตัวได้เร็วเพื่อทางการนั้นมาตรวจสอบเจอ

    เขานึกไปถึงสิ่งที่บรรพบุรุษของเขาทำในการเริ่มต้นบริษัท เป็นเพียงแค่คนขายถ่านจากรัฐ ที่แอบนำออกมาเพื่อเก็บหอมออมริดในการซื้อขาย  

    แต่เขาคงไม่ทำแบบเดิม แต่เรื่องให้ขายถ่านก็ไม่แน่ ในเมื่อเขานั้นรู้วิธีเผาถ่าน แล้วไหนจะยังป่าของเขาอีก สถานที่ทำเงินทั้งนั้น แต่ก่อนหน้าที่จะเผาถ่านเขาก็ตัดไม้สำหรับสร้างที่พักชั่วคราวของเขาก่อน การสร้างบ้านเเบบง่ายๆ นั้นใช้เวลาวันเดียวก็ทำเสร็จแล้ว

    นำเศษไม้ขนาดเล็กลงมาหน่อยตอกลงไปให้แน่นและนำดินกลบให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อเสร็จแล้ว เขาก็นำไม้ที่ทำให้มีขนาดเท่ากัน มาวางเรียงกันในแนวนอนเพื่อเป็นกำแพงทั้ง 4 ด้าน โดยเว้นตรงกลางไว้เล็กน้อยสำหรับเป็นประตู เขานำไม้มามุงเป็นหลังคาและนำผ้าใบที่ซื้อมา มาคลุมไว้ด้านบนจนเป็นหลังคา เพื่อที่เมื่อเวลาฝนตกจะได้ไม่มีรูรั่ว โดยเขาได้เหลือที่ไว้เล็กน้อยสำหรับ เป็นปล่องไฟ ปล่อยควัน สำหรับหน้าหนาวที่ใกล้เข้ามาแล้วนั่นเอง  นำหินที่หามาได้มาทำเป็นที่ก่อไฟด้านในบ้าน สำหรับสร้างความอบอุ่นด้านใน และทำไว้ด้านนอกสำหรับการทำอาหาร พื้นที่ด้านในนั้นกว้างมากพอที่จะก่อไฟได้โดยที่ไม่ต้องกังวลถึงตอนที่เศษไฟกระเด็นแล้วจะเกิดไฟไหม้เลย เขาทำผ้าใบที่เหลือจากหลังคามาใช้ทำเป็นประตู กว่าจะทำงานเสร็จเขาใช้เวลาไปทั้งวันเลยทีเดียว หากเป็นร่างกายเดิมเขาจะไม่ต้องใช้เวลานานขนาดนี้ แต่เป็นเพราะร่างนี้ยังคงไม่โตเต็มที่ สามารถทำให้เสร็จได้ภายในวันเดียวก่อนมืดก็ถือว่าเก่งมากแล้ว 

    เหยียจิ้งจุดไฟด้านนอกสำหรับทำอาหาร เขานำเนื้อไก่ป่าที่ล่าได้ระหว่างทางกลับบ้าน มาต้มในหม้อที่เขาซื้อมา น้ำก็ตักมาจาก ลำธารสายเล็กที่ไหลผ่าน ลึกเข้าไปอีกหน่อยมาใช้ 

    เขาได้ทำเครื่องกรองน้ำขนาดเล็กสำหรับกรองน้ำไว้ใช้ดื่มกินด้วยเช่นกัน นำถ่านที่ได้จากการเผาไม้ตอนทำอาหาร หินกรวดขนาดเล็กตามลำธารและขนาดใหญ่ ด้วยความบังเอิญที่ป่าด้านในนั้นมีต้นนุ่นอยู่ ทำให้เขาได้นุ่นมาอีกชั้นหนึ่ง แม้ว่าจะไม่ดีที่สุดแต่ก็ถือว่าได้น้ำที่สะอาดไว้ดื่ม นอกจากจะกรองน้ำแล้ว เหยียนจิ่งยังต้มน้ำให้เดือดอีกด้วย  ตามจริงแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้ก็ได้ เพราะสภาพอากาศที่ดีแบบนี้ สามารถที่จะดื่มได้เลย แต่เพราะเขานั้นเคยแก่มาแล้วครั้งหนึ่ง อะไรที่มีผลต่อสุขภาพเขา เขาก็จะระวังให้ได้มากที่สุด การที่มีสุขภาพที่แข็งแรงไว้ก่อน และป้องกันแบคทีเรียได้เขาก็จะทำ

    เขานั่งกินไก่ต้มเป็นอาหารเย็นเพียงอย่างเดียว โดยที่เริ่มคิดว่าจะปลูกผักไว้ทานเองแต่เขาไม่ต้องการให้ใครรู้ ดังนั้นเขาไม่สามารถที่จะเป็นแปลงขนาดใหญ่ได้ 

    "หรือจะลอง ปลูกผักใส่กระถางแขวน" เหยียนจิ้งพูดออกมา “เอาไว้ก่อนแล้วกัน หาฟืนมาให้พอสำหรับคืนนี้ก่อนที่ฟ้าจะมืดก่อน” เมื่อเขาคิดได้ก็เริ่มลงมือทำในทันที เขาเริ่มตัดต้นไม้อีกครั้ง แต่ครั้งนี้เลือกที่ไม่ใหญ่มาก เพราะเขาต้องการทำมาทำเป็นฟืนสำหรับผ่านคืนนี้ไปและไล่แมลงและสัตว์ป่ากลางคืน 

    เหยียจิ้งนำเศษซากของไก่ป่าไปทิ้งให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ วางกับดักเอาไว้ ด้วยเช่นกัน 

    อากาศนั้นจะหนาวมากในตอนกลางคืน เพราะว่าเริ่มเข้าหน้าหนาวแล้วนั่นเอง 

     

    ทางด้านของ เมิ่งเหลียง ก็มีปากเสียงกับสือซานอย่างหนัก เพราะเขานั้นได้รู้ว่า ภรรยาตนเองแอบเอาเงินให้กับลูกชายคนเล็กของเขา 

    "เงินนั่นเป็นของฉันตั้งแต่แรก ตั้งแต่ก่อนที่จะเป็นภรรยาคุณ" เมิ่งเหลียงไม่ยอมเช่นกัน เธอนั้นยอมเขามาโดยตลอด จนทำร้ายคนที่เธอรัก เหมือนลูกของตนเอง และทรยศต่อคนที่เธอนับถืออย่างแม่ของเหยียจิ้งเช่นกัน 

    "ออกไปจากบ้านฉัน จะไปตายที่ไหนก็ไปเลย" สือซานกล่าวออกมาด้วยความโมโห เขานั้นทำแม้กระทั่งลงมือพลักเมิ่งเหลียง เมื่อเธอถูกทำร้ายร่างกาย เธอก็ถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาเลยทีเดียว เพราะเธอไม่เคยต้องการที่จะอยู่บ้านหลังนี้อยู่แล้วตั้งแต่คุณหนูของเธอเสียชีวิตไป หากเพราะว่าไม่ต้องดูแลลูกชายของเธอที่ทิ้งไว้  เมิ่งเหลียงก็คงเดินทางกลับบ้านเกิดของตนเองไปตั้งนานแล้ว และคงไม่ถูกล่วงเกินจนกลายเป็นภรรยาคนใหม่ของสือซานเช่นนี้ 

     

    เธอเก็บข้าวของของตัวเองทั้งหมดและมุ่งหน้าไปหาลูกเลี้ยงของเธอ ในเช้าวันต่อมาทันที 

     

    เหยียจิ้งนั้นตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เขาก็ลงมือสร้างรั้วขึ้นมารอบบ้านของเขา เพราะต้องการป้องกันจากการบุกรุกของสัตว์ป่า และบดบังสายตาของคนนอกเช่นกัน แม้ว่าจะไม่มีใครบ้าพอที่จะมาในป่าฝั่งนี้ก็ตาม เขาตัดต้นไผ่ที่ขึ้นมาตามตลิ่งลำธาร เพื่อมาสร้างรั้วบ้านของเขานั่นเอง ในตอนที่ลากไม้มาจึงบ้านของเขา ก็เห็นแม่เลี้ยงพร้อมกับข้าวของส่วนตัวของเธอก็รีบวางไม้ และไปหาเธอทันที 

     

    "แม่ถูกไล่ออกจากบ้าน เพราะสือซานจับได้ว่า แม่แอบให้เงินเจ้า" เธอเล่าให้เขาฟัง 

    "แม่มาอยู่ที่นี่ได้อยู่กับอั๊ว อั๊วสร้างบ้านไว้หลังไม่ใหญ่มาก เพราะคิดว่าจะต้องอยู่คนเดียว แม่นอนอีกฝั่งหนึ่งแล้วกัน ผมจะทำห้องเก็บของเล็กๆ แบบง่ายๆ เราจะได้มีที่นอนเพิ่มมากขึ้น" เหยียจิ้งนั้น แม้จะตกใจต่อสิ่งที่พ่อของตนทำ แต่เขาก็สามารถที่จะแก้ไขและจัดการกับปัญหาได้อย่างรวดเร็ว 

     

     

     

     

    ไรท์จะหาเวลา ว่างๆ ไปแก้ไขข้อผิดพลาดในตอนที่ 1 นะคะ อย่างเช่นการใช้สรรพนาม ช่วงนี้อาจจะแปลกหน่อย นะ 

    เมนต์อะไรก็ได้นะคะ ไรท์ขอ 10 เมนต์ ขึ้นไป แล้วจะมาต่อตอนต่อไปให้อย่างเร็วที่สุดนะ 

    อะไรที่มันไม่สมจริงมากนัก ก็ขออภัยด้วยนะคะ จะพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้น ตอนรีไรท์ นะคะ 

    (บทนำ อย่าข้ามอ่านกันนะคะ มันมีข้อมูลหลายอย่างอยู่นะ) 

    ต้องการให้ เหยียจิ้งทำอะไร? 

     

    (ยังไม่ได้เช็คคำผิด คำตกหล่น คำเบียด, ไรท์พิมพ์ในโทรศัพท์นะ ) 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×