ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Nor like(yaoi)

    ลำดับตอนที่ #9 : Nor Like 8 - Don't Care

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.พ. 53


    Nor Like


    08 Don't Care





    “วันนี้สึโยชิมาช้าจังเลย”ดวงตากลมโตทอดมองลงไปยังสนามเบื้องล่าง สอดส่ายสายตาไปทั่วบริเวณเผื่อจะเจอคนที่ต้องการหา


    ...ไม่ได้มองว่าคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามโต๊ะ กำลังทำสีหน้าเช่นไร...


    “บางทีวันนี้หมอนั่น ...อาจจะไม่มาโรงเรียนก็ได้”คำพูดแผ่วเบาเหมือนเปรยกับตัวเองแต่เรียกให้ยูยะหันมามอง เด็กหนุ่มกระพริบตากลมโตช้าๆ เอียงคอจ้องหน้าคนพูดก่อนริมฝีปากอิ่มหวานจะเอื้อนเอ่ยเบาๆ


    “ทำไมถึงคิดยังงั้นล่ะ นารุมิ?”คำถามใสซื่อแต่เล่นเอานารุมิสะดุ้งวาบ


    ...จะบอกได้ยังไงล่ะว่าโดนฉันกดจนไม่น่าจะมีแรงน่ะ...


    .
    แต่ขนาดไอ้คนแรงดีๆอย่างนั้นโดนเข้าก็หมดแรงได้ง่ายๆ...


    ...แม้จะพอดูออกว่าหมอนั่นน่ะท่าทางช่ำชองเชี่ยวชาญคงไม่ทำให้ยูยะเจ็บมากนัก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะห่วงร่างบอบบางตรงหน้า...


    ถึงแม้จะรู้ว่าการถาม จะเป็นการละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวก็เถอะ...


    คิดได้ดังนั้นดวงตาคมเรียวก็เหลือบมองดวงหน้าหวานจัดตรงหน้า
    ดวงตากลมโตเปล่งประกายบริสุทธิ์อยู่เสมอ...


    ...แม้เขาจะรู้ว่าร่างกายและหัวใจคนตรงหน้าตกเป็นของใครไปแล้ว แต่ก็ไม่อาจจะห้ามความรู้สึกที่มันอัดแน่นเต็มหัวใจนี่ได้...


    “ร่างกายเป็นยังไงบ้าง ยูยะ”นารุมิปล่อยให้ความรู้สึกนำหน้าสติที่พร่าเลือน ถามเองก็เจ็บแปลบเองที่ตรงหัวใจ แต่ก็ต้องข่มไว้ลึกๆ ไม่อยากให้คนตรงหน้าลำบากใจไปมากกว่านี้


    ...แต่ดวงหน้านั้นไม่ได้ขัดเขินแบบที่เขาคาด ดวงตาคู่โตส่อประกายงุนงงเหมือนจะไม่เข้าใจในคำถามเขานัก


    “ก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่ นารุมิ”ปากอิ่มหวานเอื้อนเอ่ย ทำหน้ายู่น้อยๆเมื่อเห็นว่าเขาทำท่าทางไม่ค่อยเชื่อถือ “ทำไมต้องเป็นอะไรด้วยล่ะ?”


    “ก็ที่โดนวาคาบายาชิทำ ...ช่างมันเถอะ”เขาตัดประโยคเอาดื้อๆเมื่อเห็นว่าดวงหน้าร่างเล็กเริ่มขึ้นสีเรื่อ ถามเองก็หงุดหงิดขัดใจเองจนไม่อยากจะฟังคำตอบที่รู้ว่าต้องทำร้ายหัวใจ


    “ไม่หรอก สึโยชิน่ะอ่อนโยนมากเลยนะ...”ร่างบางเอ่ยเหมือนอยู่ในห้วงแห่งความฝันจนนารุมิเริ่มจะเดือดปุดๆ


    ยิ่งยูยะรักมันมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเกลียดมันมากขึ้นเท่านั้น!


    ดวงตาโชนแสงของเขามองร่างเล็กที่ก้มหน้างุดตกอยู่ในภวังค์คนเดียวด้วยความหงุดหงิด แต่อารมณ์ที่ขุ่นมัวก็แทบจะมอดลงทันทีเมื่อได้ฟังประโยคถัดไปของคนตรงหน้า


    “พอฉันบอกให้หยุดเขาก็ไม่ทำอะไรเลย... แถมยังบอกให้กลับบ้านดีๆด้วย”


    .
    สิ้นประโยคนารุมิแทบจะหล่นลงไปกองกับพื้นด้วยอารามตกใจ!


    ดูเหมือนยูยะจะสังเกตเห็นท่าทางผิดปกติของร่างสูง ดวงตากลมโตจึงกระพริบถี่ๆด้วยความงุนงง


    “ทำไมเหรอ นารุมิ?”


    “เปล่า”เด็กหนุ่มเอ่ยช้าๆ พยายามสะกดอาการ ก่อนจะเอ่ยถามต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “แล้วตกลง... หมอนั่นทำอะไรนายบ้าง ยูยะ”


    คำถามตรงเป้าของเขาเล่นเอาร่างบางก้มหน้างุดอีกครั้งจนนารุมินึกหงุดหงิดอยู่ครามครัน นึกโมโหยูยะอยู่หน่อยๆที่เขินไม่เป็นเวล่ำเวลา


    กว่าร่างบางจะเงยหน้าขึ้นมาได้นารุมิก็เริ่มจะประสาทเสีย พยายามจะสะกดอาการหงุดหงิดขัดใจไว้ภายใต้ใบหน้าสงบเฉยชา...



    “เขา... เอ่อ ..แค่จูบ”



    คำบอกที่เหมือนฟ้าผ่าเปรี้ยง!

    แล้วที่เขาทำไปทั้งหมดนั่นมันเพื่ออะไรล่ะ!






    .
    “เป็นอะไรวะวาคาบายาชิ! แต่งตัวหยั่งกะมัมมี่!”

    การสนทนาของเขาทั้งคู่หยุดชะงักลงเมื่อได้ยินเสียงทักไอ้คนตายยาก เสียงหัวเราะครึกครื้นพร้อมกับการรุมล้อมของเพื่อนในห้องทำให้ทั้งคู่เห็นสภาพของอีกฝ่ายไม่ถนัดนัด


    ...แต่แค่เพียงหมอนั่นเดินเข้ามาใกล้ นารุมิคนนึงล่ะที่ขำไม่ออก...


    หมอนั่นแต่งตัวเหมือนคนหลงฤดูที่มีอาการเป็นโรคประสาทอ่อนๆ...


    ผ้าพันคอขนาดหนาพันแน่นรอบคอในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว หมวกไหมพรมสีน้ำตาลอ่อนคลุมทับเรือนผมสีดำขลับ ดวงหน้าขาวซีดที่ยังมีริ้วรอยของความอิดโรยโผล่พ้นผ้าปิดจมูกสีขาว


    สภาพการแต่งตัวที่ชวนขำแต่นารุมิกลับแสนจะสงสาร! เด็กหนุ่มดูเหมือนจะเป็นคนเดียวที่รู้อยู่เต็มอกว่าทำไมมันต้องแต่งตัวมาโรงเรียนสภาพนี้!
    .

    จริงๆแล้ววันนี้สึโบมิเสนอให้เขาหยุดอยู่บ้าน...


    แต่ถ้าเขาหยุดวันนี้ก็เหมือนกับเป็นการประกาศว่าเขายอมแพ้ไอ้หน้าด้านนี่น่ะสิ ไม่มีวันซะหรอก!


    ยิ่งมองไอ้หน้าหล่อขรึมนี่ก็ต้องหงุดหงิดเมื่อมันมองเขา


    เหมือนจะสงสาร


    เขาไม่หลงกลไอ้แววตานั่นหรอก! เพราะถ้ามันคิดจะสงสารเขา มันก็คงจะไม่ทำไอ้เรื่องบ้าๆที่คิดแล้วก็ต้องหัวเสีย!


    เขาสู้อุตส่าห์คิดแผนแก้แค้นมาเสียทั้งคืน และจะไม่ยอมให้ความใจอ่อนของเขาทำร้ายตัวเองอีกเป็นครั้งที่สอง!


    .
    “ยูยะ”น้ำเสียงแหบต่ำก่อนร่างผอมๆของสึโยชิจะโถมตัวกอดร่างบอบบางเสียเต็มแรง นารุมิถลึงตามองเสียจนลูกตาแทบจะหลุดออกจากเบ้า!


    “อะ อะไรเหรอสึโยชิ”น้ำเสียงของยูยะแฝงแววขัดเขินปนตะลึงอยู่ใช่น้อย มือบางได้แต่กอดไหล่ของอีกฝ่ายเบาๆไม่กล้าผลักออก


    “ไม่สบาย...”น้ำเสียงออดอ้อนเรียกความสงสารจากร่างบอบบางแต่ทำให้อีกคนแทบจะลุกขึ้นยันออกด้วยความหมั่นไส้


    ไอ้ความรู้สึกที่เคยสงสารมลายหายวับในพริบตา


    ไอ้คำขอโทษที่กะจะบอกก็กลืนหายไปพร้อมกับคำด่าที่เกือบจะเก็บไว้ไม่อยู่


    อย่างนี้มันน่าจะโดนอีกสักทีรักษาโรคตอแหล!
    .





    “ยูยะ ป้อน”ท่าทางกับน้ำเสียงออดอ้อนของเด็กหนุ่มทำให้คนโดนอ้อนเขินจัด มือบางที่จับตะเกียบอยู่สั่นน้อยๆก่อนจะคีบปลาชิ้นหนาส่งให้ที่ปากของคนที่อ้ารอไว้แล้ว


    เสียงไอแบบเสแสร้งทำให้ยูยะต้องกระวีกระวาดป้อนน้ำ มือเรียวของสึโยชิจับที่มือบางของยูยะที่ถือแก้วน้ำ ก่อนจะจับมือนั่นจ่อที่ริมฝีปากหลังจากดื่มน้ำไปอึกใหญ่


    “นี่ก็หวาน”น้ำเสียงหวานฉ่ำกับดวงตาหยาดเยิ้มถูกส่งให้ร่างบอบบางที่บัดนี้หน้าร้อนผะผ่าวจนจะกลายเป็นฮีทเตอร์


    บรรยากาศหวานเลี่ยนที่นารุมิอยากจะเอาจะเอาตะเกียบจิ้มตาเยิ้มๆของสึโยชิเหลือเกิน!


    “มือเป็นง่อยเหรอ วาคาบายาชิ?”นารุมิโพล่งขึ้นมากลางปล้องเมื่อไอ้ตัวดีออดอ้อนยูยะให้ป้อนข้าวอีกคำ ดวงตาโชนแสงของเขาสบสู้กับแววตาท้าทายของอีกฝ่าย ก่อนที่ไหล่ไม่บางไม่หนานั่นจะสั่นน้อยๆด้วยการไอ... ที่นารุมิรู้ชัดว่าแกล้งทำ!


    “ไม่ต้องหรอก ยูยะ”น้ำเสียงสึโยชิที่กดให้แหบต่ำเอ่ยปรามเมื่อมือบางเข้ามาลูบหลังช้าๆ เขาช้อนสายตาขึ้นมองยูยะก่อนจะไล่ไปที่นารุมิ “อย่าดูแลฉันมากเลย เดี๋ยวคาวามูระเขาจะหาว่าฉันสำออย...”ไอสำทับอีกทีเพื่อความสมจริงแต่เรียกให้ร่างบอบบางหน้าซีด


    “ไม่หรอก นารุมิเขาไม่คิดอย่างนั้นหรอก ใช่ไหม นารุมิ?”ร่างบางเอ่ยอย่างร้อนรนขณะหันไปทางคนโดนเอ่ยพาดพิงเหมือนจะฟังคำตอบ...


    “อือ!”นารุมิเอ่ยรับในลำคออย่างเสียไม่ได้ เขาเห็นไอ้บ้านั่นไออีกครั้งแต่คราวนี้เป็นการกลั้นเสียงหัวเราะเสียมากกว่า!

    .
    “ว่าแต่...”นารุมิเอ่ยขึ้นเบาๆลอยๆแต่เรียกสายตาของทั้งคู่ให้หันมามอง เด็กหนุ่มกล้ำกลืนความหงุดหงิดข่มลึกก่อนจะเอ่ยถามต่อเนิบช้า “...นายป่วยเป็นอะไรเหรอ วาคาบายาชิ”


    คำถามที่ไอ้คนถามก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาเป็นอะไรเรียกให้สึโยชิหน้าตึง เผลอสะบัดเสียงตอบจนลืมแกล้งป่วย

    “ไข้หวัด!”


    “เหรอ... แล้วไปทำอะไรมาล่ะถึงป่วยขนาดนี้... ฉันดูแค่ท่าการเดินนายยังจะเดินไม่ไหวเลยนี่”


    ไอ้คำถามแกล้งโง่ที่เปลี่ยนบรรยากาศตรงนั้นให้เครียดขรึมขึ้นมาในบัดดล คู่กรณีสองคนที่สบตากันเหมือนจะแช่งให้อีกฝ่ายตายไปต่อหน้า ...ไม่ได้ดูเลยว่าบุคคลที่สามจะแสดงอาการงุนงงสับสนแค่ไหน...

    .
    “วาคาบายาชิ มีคนมาหา”เสียงตะโกนจากหน้าห้องช่วยให้บรรยากาศตึงเครียดสลายลงในฉับพลัน ดวงหน้าขาวซีดแสดงความประหลาดใจน้อยๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปทางเสียงเรียก แต่มือบางรั้งเขาไว้เสียก่อน


    “ฉันไปด้วยนะ สึโยชิ นายไม่ค่อยสบาย ดูยังเดินแปลกๆอยู่เลย”น้ำเสียงห่วงใยของยูยะแต่ทำให้หน้าของเขาร้อนวาบด้วยความอับอาย เผลอเหลือบตาไปมองไอ้คนหน้าหนาที่บัดนี้ยืนขึ้น ส่งยิ้มเยาะๆมาให้เขา

    “ไปด้วยกันหมดนี่แหละ จะได้พาวาคาบายาชิไปส่งห้องพยาบาลด้วย จะได้รู้ว่า เป็นโรคอะไร”นารุมิเน้นเสียงคำสุดท้ายก่อนจะล็อคแขนอีกข้างของเขาไม่ให้มีโอกาสหนี
    .

    “นายเหรอวาคาบายาชิ สึโยชิ”คนที่ยืนรอเขาอยู่หน้าห้องเป็นผู้ชายคนผู้หญิงคน ชายหนุ่มร่างหนา สูงชะลูดพอๆกับนารุมิ ดูจากเครื่องแบบท่าทางจะเป็นรุ่นพี่ระดับชั้นปีสอง ส่วนผู้หญิงที่ท่าทางจะเป็นแฟนรุ่นพี่คนนี้...


    ...กำลังส่งสายตาหวานเชื่อมมาให้กับนารุมิ...


    “ใช่ ทำไม”เขาตอบเสียงแข็งเมื่อคนตรงหน้ามองเขาเหมือนประเมินราคา แต่กลับมองนารุมิเหมือนจะบอกว่า ‘ฉันอยากให้เป็นคนนี้มากกว่า’


    “แน่ใจนะ?”คำถามสำทับที่ทำให้ดวงตาของสึโยชิลุกโชน


    “หน้าตาผมดูโง่ขนาดจำชื่อตัวเองไม่ได้เหรอครับ รุ่นพี่”เขาประชดด้วยความหงุดหงิดเมื่ออีกฝ่ายมองเขาด้วยท่าทางไม่ศรัทธา
    และสายตานั่นยิ่งดูแคลนเข้าไปใหญ่เมื่อฟังคำประชดประชันของเขาจบ!


    “เปล่า... แต่คาดไม่ถึงว่าแชมป์คาราเต้ระดับม.ต้นของเขตคันโตจะหุ่นบอบบางขนาดนี้...”น้ำเสียงกึ่งดูถูกทำให้อารมณ์ที่ตึงเปรี๊ยอยู่แล้วข องสึโยชิขาดผึง


    หมัดทั้งดุ้นกระแทกใส่ลิ้นปี่ของรุ่นพี่ที่ตัวโตกว่าเกือบเท่าตัวลงไปกองกับพื้น หญิงสาวกรีดร้องในลำคอ เพื่อนๆที่เหลือก็ได้แต่ยืนมองด้วยความตะลึงงัน!


    “หุ่นโตๆกว่าแกฉันก็ล้มมาแล้ว ไอ้กระจอก!”สึโยชิก่นด่าอย่างคนอารมณ์เสีย ไม่ทันได้เหลือบมองปฏิกิริยาของยูยะที่บัดนี้กระพริบถี่ๆด้วยความสงสัย


    แต่ความสงสัยของยูยะก็ยิ่งทวีขึ้นเมื่อลำแขนของนารุมิกระชากเอวของสึโยชิก่อนจะกึ่งดึงกึ่งลากไปตามทาง เด็กหนุ่มแหกปากลั่น ก่อนจะรีบเงียบเสียงลงทันทีเมื่อสบตาเข้ากับแววตาสงสัยเต็มที่ของยูยะ


    “นายไม่สบายไม่ใช่เหรอ”นารุมิกระซิบลอดไรฟัน
    ...และนั่นทำให้สึโยชิหยุดขัดขืน


    ก่อนที่อาการไอที่เคยลืมจะกลับมาอีกครั้ง...






    “ขออนุญาตครับ”นารุมิเอ่ยขึ้นพร้อมเลื่อนบานประตูเปิดออก ลากไอ้คนดื้อเข้ามาในห้องก่อนจะเหวี่ยงลงบนเตียง โดยมียูยะตามมาติดๆก่อนจะปิดประตูไล่หลัง


    ดวงตาคมเรียวของนารุมิกวาดไปทั่วห้อง...


    ผ้าปูที่นอนสีขาวของทุกเตียงเรียบตึงบ่งบอกว่าวันนี้ยังไม่มีนักเรียนเข้ามาใช้ ...แล้วนอกจากพวกเขาสามคนแล้ว...


    ...ไม่มีวี่แววของอาจารย์ประจำห้องพยาบาล มีแต่กระดาษโน้ตแผ่นบางที่แปะไว้บนบอร์ดแจ้งว่าไปธุระ...


    “สึโยชิ เป็นไงบ้าง”กระแสเสียงห่วงใยก่อนร่างบอบบางจะทรุดตัวนั่งข้างๆ มือบางลูบดวงหน้าขาวที่เหงื่อออกซึมก่อนเอ่ยถามช้าๆ “ร้อนเหรอ?”


    มันก็แหงล่ะ! เขานึกตอบในใจแต่ไม่กล้าเอ่ยออกมาเป็นคำพูด อากาศก็ร้อนแต่ต้องทนใส่ผ้าพันคอปกปิดไอ้รอยที่คนหน้าหนามันทำ! แถมด้วยหมวกและฯลฯมากมายเต็มไปหมดเพื่อความสมจริง
    อย่างนี้ไม่ร้อนเขาก็ไม่ใช่คนล่ะ!


    “ถอดออกไหม?”ไม่ว่าเปล่า มือบางทำท่าจะเกี่ยวผ้าพันคอของเขาออกช้าๆ เล่นเอาสึโยชิตัวแข็งทื่อ รีบรั้งมือของของยูยะสุดกำลัง


    “ไม่ต้องหรอก ฉันหนาว”น้ำเสียงเกือบจะตะโกนด้วยความร้อนรน


    “แต่นายเหงื่อออก...”ร่างบางเอ่ยอย่างดื้อดึง พยายามจะดึงผ้าพันคอออกให้ได้
    .
    แต่เหมือนพระเจ้าทรงโปรด! ...รึเปล่าก็ไม่รู้...


    มือหนาของนารุมิรั้งมือของยูยะออก ก่อนจะหันไปมองด้วยสีหน้าเครียดขรึม
    “ปล่อยให้เขานอนไปเถอะ ยูยะ นายกลับไปแจ้งอาจารย์ประจำวิชาให้ทีว่าคาบนี้ฉันกับสึโยชิไม่เข้าเรียน”น้ำเสียงจริงจังที่เล่นเอาสึโยชิแทบสำลัก เด็กหนุ่มขยับปากจะเถียงแต่ก็ต้องเงียบกริบเมื่อโดนอีกฝ่ายชกท้องตอนไม่ทันตั้งตัว


    จุกจนพูดไม่ออก!



    “เอ๋!”ร่างบางอุทาน ตกใจไม่แพ้คนบนเตียงที่บัดนี้ตาเบิกโพรง
    ...ท่าทางยูยะจะไม่เห็นไอ้การใช่กำลังที่รวดเร็วปานสายฟ้าแล่บนั่น!


    “อาจารย์ไม่อยู่ ฉันจะดูแลเผื่อเขาเป็นอะไรขึ้นมากระทันหัน”คำชี้แจงเหตุผลที่ยูยะจะเถียงกลับ แต่ก็ต้องเงียบลงเมื่อสบเข้ากับดวงตาดุๆของนารุมิ ดวงหน้างามงอง้ำเป็นจวัก เหลือบตามองสึโยชิที่พูดอะไรไม่ออกเพราะโดนคนข้างๆชกท้องเสียจุกแอ้ก!


    เด็กหนุ่มหันไปกล่าวลาสึโยชิเบาๆเมื่อเห็นว่าเขาไม่พูดรั้งอะไร ก่อนจะเดินเร็วๆออกไปอย่างไม่ค่อยพอใจนัก







    .
    “เหลือแค่เราสองคนแล้วนะ ...สึโยชิ”นารุมิเอ่ยชื่อจริงของเขาด้วยความคับแค้น แม้จะอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบแต่เขายังถลึงตาสู้อีกฝ่ายแม้ในใจจะหวาดหวั่นไม่ใช่น้อย


    ...อีกฝ่ายมองเขาเหมือนจะขบขันซะเต็มประดา


    “ไหน... ขอตรวจร่างกายหน่อยสิว่าเป็นอะไร”น้ำเสียงเนิบช้าแต่เล่นเอาใจของเขาตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม!


    ไม่ว่าเปล่า นิ้วเรียวเกี่ยวผ้าพันคอของเขาช้าๆ ก่อนจะกระตุกออกอย่างแรง!
    รอยแดงช้ำเป็นสิบรอยปรากฏให้เห็นแก่สายตา แม้มันจะจางลงกว่าเมื่อสองวันก่อนแต่ยังคงเห็นเด่นชัด นิ้วเรียวไล้ไปตามผิวขาวนวลของเขาอย่างย่ามใจ ก่อนจะวนรอบรอยช้ำช้าๆคล้ายจะหยอกเย้า


    ดวงหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาใกล้เขาที่ยังจุกแอ้ก ริมฝีปากบางแย้มรอยยิ้มสะใจขณะเลื่อนมาที่ซอกคอขาว ขบเม้มรอยแดงให้มันเด่นชัดกว่าเดิม


    “ฉันรู้แล้วว่าเป็นโรคอะไร...”น้ำเสียงที่แสร้งทำเป็นตื่นเต้นทำให้สึโยชิตาลุกโชนด้วยความแค้น ดวงตาคมเรียวตวัดมองเขาที่ขยับตัวไม่ได้อย่างชอบใจ ก่อนจะกดนิ้วหนักๆลงบนรอยช้ำรอยหนึ่ง


    ...แล้วดวงหน้านั้นเลื่อนมาใกล้ๆกับริมฝีปากของเขา ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงสะกดกลั้นอารมณ์...


    “นายต้องเป็นไข้เลือดออกแน่ๆ...”


    แล้วหมอจำเป็นก็ต้องเห็นดาวระยิบเมื่อคนไข้ตัวแสบโขกหัวโป๊กเมื่อเขาโน้มหน้าเข้าไปใกล้! ขาขาวยันเต็มแรงจนคนเบื้องบนกระเด็นตกเตียง เด็กหนุ่มลุกขึ้นนั่ง มือกุมท้องด้วยความจุก แต่ท่าทางความโกรธจะสั่งให้เขาลุกขึ้นไปกระทืบคนบนพื้นซ้ำด้วยความแค้น!


    ยังดีที่นารุมิไหวตัวทัน!


    เด็กหนุ่มเบี่ยงตัวหลบเรียวขาขาวก่อนจะลุกพรวดขึ้นยืน ช้อนตัวไอ้เด็กแสบที่ยังไม่สมประกอบดีไว้ในอ้อมแขน แล้วโยนโครมลงบนเตียงอย่างไม่มีปราณี!


    ผ้าพันคอถูกแปรสภาพมาเป็นผ้าปิดปากไอ้คนที่ดิ้นพล่านเหมือนหนูติดจั่น นารุมิประชากผ้าปูที่นอนของเตียงข้างๆมาเป็นเชือกมัดแขนขาวให้ตรึงอยู่กับเตียง กว่าเขาจะจัดการมัดมันเสร็จก็โดนถีบไปหลายครั้งจนเส้นอารมณ์ชักจะตึงๆด้วยความโมโห


    เด็กหนุ่มผละจากร่างที่ดิ้นพล่านนั่นก่อนจะยักยิ้มดูแคลน
    “นอนไปอย่างนั้นจนกว่าจะหายบ้าละกัน!”ว่าแล้วก็เดินออกจากห้องพยาบาลก่อนจะกดล็อกประตู


    ...ไม่ได้หันมาดูสึโยชิที่ดิ้นสุดแรงด้วยความแค้น



    ไอ้เลวนารุมิ! ฉันจะต้องฆ่าแกให้ได้!







    สวัสดีค่า^^

    เห็นมีหลายท่านสนใจหนังสือ จะบอกว่าตอนนี้หมดไปแล้วนะคะ ถ้าใครเวบบอร์ดนาบูไม่ได้เห็นเป็นภาษาประหลาดให้คลิกขวา >> encodin>>thai ค่ะ^^

    ตอนนี้ยังไม่มีกำหนดจะออกใหม่ ต้องคอยติดตามเอานะคะ!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×