คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Fate chain 2.2 - ละเมอ
Fate chain
เรียวเอามือก่ายหน้าผาก จ้องมองเพดานห้องในความมืดมิดอย่างอ่อนล้า...
ไม่รู้กี่ชั่วโมงที่เขาได้แต่นอนอยู่นิ่งๆ ข่มตาหลับไม่ลง ในสมองมีแต่เรื่องให้คิดซ้ำไปซ้ำมา...เขาควรจะทำยังไงต่อไป? ไม่ว่าจะถามตัวเองซ้ำอีกกี่ครั้งก็ไม่ได้คำตอบที่น่าพอใจเลยสักครั้ง ปัญหาใหญ่ของเขาคือไม่รู้ว่าแม่อยู่ที่ไหน มันทำให้ทุกอย่างดูมืดมนไปหมด
เขาขยับตัว ปลอกคอหนังบาดผิวกายและเรียกให้ความหงุดหงิดพุ่งริ้วขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ถูกกระทำราวกับเป็นสุนัข... เด็กหนุ่มแค่นยิ้มในความมืด ถ้าหมอนั่นจะคิดว่าเรื่องแค่นี้จะทำให้เขายอมแพ้ก็คิดผิดไปแล้ว!
เด็กหนุ่มซุกกายลงใต้ฟูกซึ่งนำมาแทนผ้าห่ม อากาศในห้องเย็นเฉียบ เขาขยับปลอกคอให้หลวมขึ้นอีกนิด พยายามปิดเปลือกตาและทำสมองให้ว่างเปล่า เขาต้องหลับ...จะได้มีแรงสู้ในวันพรุ่งนี้
เขาจะต้องไม่พ่ายแพ้...เพราะถ้าเขาแพ้ก็หมายถึงว่าแม่จะหายไปจากชีวิตเขาตลอดกาล เขาต้องทนให้ได้ ไม่ว่าจะต้องเจอกับอะไร ต้องทน...จนกว่าจะหาทางออกพบ
“น...ซึมิ...”
เสียงแผ่วเบาลอยละล่องในความมืดมากระทบหู...
เรียวขมวดคิ้ว ผงกศีรษะขึ้นเล็กน้อย พยายามจับเสียงให้ได้ชัดถนัดหู
“น...ซึม...อย่าทำเธอ!! ไม่ อย่า!!!”
เด็กหนุ่มสะดุ้งพรวดเมื่อเสียงแผ่วเครือในตอนแรกกลับกลายเป็นตะโกนลั่น เขามองขึ้นไปบนเตียง เห็นใบหน้าหล่อเหลาจองหองของทาคาโตะอาบชุ่มด้วยเม็ดเหงื่อ
“ไม่ใช่...ไม่ใช่ความผิดแม่ อย่า!!!!!!”
“คุณชาย!”
เรียวเกือบก้มหลบไม่ทันเมื่อพ่อบ้านพุ่งพรวดเข้ามาในห้อง โชคดีที่เขานอนคนละฝั่งกับประตู เด็กหนุ่มแกล้งทำเป็นหลับขณะเงี่ยหูฟังบทสนทนาทุกถ้อยคำ
“คุณชาย...เป็นอะไรรึเปล่าครับ?”
เสียงหอบหายใจแผ่วระรัวแทนคำตอบ เด็กหนุ่มได้ยินเสียงถอนหายใจหนักๆ ก่อนรอบห้องจะโอบล้อมด้วยความเงียบ
“ไม่เป็นไร...แค่ฝันร้ายน่ะ”
“ก่อนนอนไม่ได้ทานยาเหรอครับ?”
“ฉันจะไม่กินยาแล้ว ตอนนี้ฉันต้องคอยดู วาคาบะ เรียว ขืนนอนหลับไม่รู้เรื่องอาจจะไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีกแล้วก็ได้...”
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่ ออกไปเถอะ ฉันดูแลตัวเองได้”
“คุณชาย”
“ออกไป” น้ำเสียงเฉียบขาดทำให้อีกคนไม่กล้าโต้แย้ง
เรียวได้ยินเสียงประตูห้องปิดลง เขาลอบถอนหายใจในความมืด สมองพยายามประมวลอย่างรวดเร็วว่าสิ่งที่เพิ่งได้ยินไปคืออะไรกันแน่?
ฝันร้าย...หมอนั่นฝันร้าย แม้ทุกๆ คนจะต้องเคยฝันร้ายแต่อะไรบางอย่างในนั้นมันดูผิดปกติ พ่อบ้านนั่นบอกว่าไอ้คุณชายนั่นไม่ได้กินยา ยาอะไร? ระงับประสาท?
“วาคาบะ เรียว” เสียงเปรยลอยๆ เรียกให้คนที่จมอยู่ในความคิดสะดุ้งเฮือก เขาแกล้งทำเป็นนอนนิ่งๆ ไม่กระดุกกระดิก แต่ดูท่าจะไม่ได้ผล
“ฉันรู้ว่านายไม่ได้นอน ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้”
เสียงนั้นวนเวียนอยู่ข้างใบหู...
เรียวยังแกล้งทำเป็นหลับ... หมอนั่นจะทำไมถ้าเขาไม่ตื่น? จะขู่เหรอ? อย่างมากเขาก็แค่บอกว่าเหนื่อยมากเลยหลับลึก ไม่รู้ไม่เห็นอะไรก็สิ้นเรื่อง ใครจะมีหลักฐานล่ะว่าเขา...
“เฮ้ย!!!!” ร่างโปร่งลอยไปครึ่งตัว รู้สึกแสบที่รอยปลอกคอขึ้นมาทันตาเมื่อทาคาโตะกระชากเขาสุดแรง หน้าของเรียวพังพาบอยู่ที่เตียง ทั้งตกใจทั้งโมโหจนพูดอะไรไม่ออก
“...ตื่นได้แล้วสินะ” เสียงถามนั้นราบเรียบไม่บ่งอารมณ์ใดๆ
เรียวตวัดใบหน้าขึ้น ดวงตาสีน้ำตาลลุกโชนจ้องมองใบหน้าฝ่ายตรงข้าม เขาขบฟันแน่นจนปวดกราม กล้ำกลืนคำสบถด่าอย่างยากลำบาก
ใจเย็น...ใจเย็นไว้เรียว...
“เมื่อกี้...นายได้ยินอะไรบ้าง?”
“ไม่ได้ยิน!” เขาตะโกนตอบ มุมปากขยับเป็นรอยยิ้ม “ทำไม? มีอะไรที่ฉันได้ยินไม่ได้รึไง?”
เขาคาดว่าจะเห็นใบหน้าหยิ่งๆ ของทาคาโตะเปลี่ยนสี หรืออาการอะไรก็ตามที่บ่งบอกความตกใจ แต่เปล่า... หมอนั่นเพียงขยับยิ้มเย็นเช่นทุกครั้ง มือขวาเอื้อมมือบีบคางเขาจนเจ็บหนึบ
“ได้ยินอะไรบ้างล่ะ?”
“ก็บอกไงเล่าว่าไม่ได้ยิน หูหนวกรึไง!!”
“นัทซึมิ...ได้ยินชื่อนี้รึเปล่า?”
เรียวนิ่ง สมองของเขาคำนวณอย่างรวดเร็วว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ตกลงว่าหมอนี่มีจุดประสงค์อะไรกัน แกล้งละเมองั้นเหรอ แล้วทำไปเพื่ออะไร? ที่สำคัญ
นัทซึมิคือใคร?
“ฉันจะบอกอีกครั้งว่าไม่ได้ยินอะไร ถ้าไม่ได้หูหนวกก็รู้ไว้ซะ!” เรียวปัดมือที่บีบคางของเขาออก แต่เสี้ยววินาทีนั้น ร่างทั้งร่างของเขาก็ลอยหวือ ปลอกคอรัดแน่นจนสำลัก
ร่างโปร่งนอนพังพาบอยู่บนเตียง งอตัวไอโขลกพลางสูดลมหายใจเข้าปอดหนักๆ เจ็บแสบบริเวณลำคอจนตาพร่าไปหมด
“ฉันก็คิดอยู่แล้วว่านายคงไม่รู้จัก...ไม่สิ คงจำไม่ได้...” ทาคาโตะพูดอยู่เหนือหัว ร่างที่ทาบทับเขาอยู่เหมือนมีรังสีเย็นเยียบแผ่ออกมาจากรอบตัวเรียกให้ขนในกายลุกชัน
ปลายนิ้วที่สัมผัสใบหน้าของเรียวราวกับก้อนน้ำแข็ง... เขาเผลอกลั้นลมหายใจเมื่อสบกับดวงตาว่างเปล่าของร่างเบื้องบน ริมฝีปากบางเม้มแน่น ความหวาดกลัวเสียดแทงกลางใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึก
“แกต้องการจะพูดอะไรกันแน่” เขาเอ่ยทำลายความเงียบชวนขนลุก มุมปากบางสวยของทาคาโตะยกขึ้น เหมือนแสยะแยกเขี้ยวมากกว่ายิ้ม
“ในเมื่อนายยังไม่รู้ตัวฉันก็จะไม่พูดให้เปลืองน้ำลาย ในเมื่อคนทำยังไม่รู้สึกว่าเป็นความผิด...แล้วฉันจะพูดไปเพื่ออะไรกันล่ะ?”
“ความผิดอะไรของแก ฉันไม่เคยรู้จักคนชื่อนัทซึมิมาก่อน แล้วจะไปรู้ได้ไงว่าทำอะไรไว้!”
“แล้วแกทำผิดกับผู้หญิงมากี่คนกันล่ะ!” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยหนักๆ ดวงตาสีดำเปล่งประกายวาววับ เมื่อไม่มีกรอบแว่นบดบังใบหน้าเหมือนเวลานี้ ทาคาโตะก็ดูราวกับมัจจุราชที่พร้อมจะปลิดชีพเขาได้ทุกเมื่อ
นิ้วเย็นๆ ไล่จากใบหน้า ลากต่ำไปที่ลำคอ...ก่อนจะสอดหายไปใต้ปลอกคอหนังสีดำ เรียวกลั้นหายใจเมื่อรอยบาดสัมผัสกับความเย็นแสบผิว
“วาคาบะ เรียว” น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยกระซิบข้างหู เรียวกัดฟันแน่นเมื่อเล็บของฝ่ายตรงข้ามจิกผิวเนื้อจนความปวดแสบแล่นจุกไปจนถึงปลายเท้า
“นายมัน...” ทาคาโตะเว้นช่วง ดวงตาสีดำวาวอยู่ห่างเพียงคืบเดียว “สารเลวกว่าที่ฉันคิดไว้มากจริงๆ”
“ไม่ต้องพูดถึงตัวเองให้ฉันฟังก็ได้นะ” เรียวโต้กลับด้วยความเดือดดาล เขาเห็นฝ่ายตรงข้ามเลิ่กคิ้วน้อยๆ นิ้วเย็นถอนกลับมาก่อนจะวาดไปที่ลูกกระเดือก
“หืม...ปากเก่งเสียจริง” ทาคาซิกิ ทาคาโตะยิ้มหวาน “ฉันกำลังคิด...ว่าถ้านายผ่านประสบการณ์เฉียดตาย อาจจะใช้สมองดีขึ้นมาก็ได้”
สิ้นคำ แรงกดหนักๆ บริเวณลำคอก็เรียกให้เรียวเบิกตากว้าง เด็กหนุ่มดิ้นปัดๆ ตะกุยมือไปในอากาศ เขาคว้าลำคอของร่างเบื้องบนได้ก่อนจะออกแรงกดเช่นเดียวกัน
เอาสิ! เขาไม่ยอมให้มันทำฝ่ายเดียวหรอก!
ทาคาโตะคำรามในลำคอ เขาปล่อยมือก่อนจะกระชากมือของฝ่ายตรงข้าม ออกซิเจนไหลเข้าไปสู่สมองของเรียวเพียงชั่วครู่ ก่อนร่างของเขาจะถูกพลิกคว่ำ ใบหน้าแนบอยู่กับหมอน ท้ายทอยโดนตรึงไว้แน่นปิดโอกาสดิ้นรนโดยสิ้นเชิง
เรียวตะกุยตะกายที่นอน เขาพยายามคว้าไปรอบๆ อย่างอับจนหนทาง อากาศที่มีถูกใช้ไปเรื่อยๆ สมองมึนงงจนจับต้นชนปลายไม่ถูก เขาจับได้อะไรบางอย่างที่ดูเหมือนจะเป็นกางเกง เด็กหนุ่มฝังเล็บลงไปสุดแรง กดผิวเนื้อใต้ผ้านั้นด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดหวังจะให้ความเจ็บปวดช่วยให้เขารอด
แต่ดูเหมือนจะสิ้นหนทางแล้วจริง เขาหายใจไม่ออก ...เขากำลังจะตาย! ในชั่วขณะที่ความหวาดกลัวเข้าครอบคลุมหัวใจ เสี้ยววินาทีที่คิดว่ากำลังจะจบชีวิตลง มือหนาก็ขยุ้มกลุ่มผมแดงสดก่อนจะกระชากเขาขึ้นมาจากหมอน
เรียวสำลักจนตัวงอ เด็กหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอด นัยน์ตาเบิกโพลง ริมฝีปากขาวซีด
“เป็นไง สะใจไหม?” ถ้อยคำเยาะหยันดังอยู่ข้างหู หัวใจของเรียวเต้นระรัว ความหวาดกลัวเมื่อครู่ไม่ใช่เรื่องโกหก เขามีชีวิตรอดมาได้ยังไง? แม้จะเจ็บปวด แต่ก็ต้องยอมรับตามตรงว่าเขาดีใจที่ยังไม่ตาย ยังมีชีวิตรอดมาอีกครั้ง
เรียวพยายามรวบรวมสติที่กระเจิดกระเจิงกลับคืนมาอย่างยากลำบาก มือเขาสั่นระริก ก่อนจะเพิ่งรู้สึกตัวว่ายังกำต้นขาของอีกฝ่ายแน่น
ทาคาโตะปัดมือของเขาออกอย่างง่ายดาย มือหนาบีบคางแล้วรั้งใบหน้าของเขาให้เบือนกลับมา แววตาคู่นั้นอ่านไม่ออก...ราวกับผืนน้ำมัน ไม่ว่าจะมีแสงสว่างสาดมาต้องกระทบก็ไม่มีประกายขึ้นมาแม้แต่นิดเดียว
“วาคาบะ เรียว” ร่างนั้นพูดชัด ช้า ราวกับต้องการจะฝังทุกคำลงไปในร่างกายที่แข็งค้างด้วยความตะลึงงัน
“ฉันจะรอวันที่นายจำได้ว่าทำไรลงไปบ้าง...แล้วฉันจะปล่อยนายไป”
TBC
ต่อแบบขยักขย่อน(ฮ่าๆๆๆ) ตอน 2 ไม่จบสักที ทำไมฉันซาดิสม์นักก็ไม่รู้ วิบากกรรมของนายเอกยังดำเนินต่อไป เลวร้ายกว่าจำเลยรัก 555+ ต่อจากกรรมนายเอกพระเอกก็ต้องรับกรรมบ้าง แต่ก็คงอีกยาวไกลมากกกกกกกกกก
มะไหร่มันจะรักกันสักที ตบตีกันขนาดนี้(ปวดหัว) ลุ้นเข้าค่ะ อิฉันจะไปแต่งต่อแล้ว เจอกันจ้า
ความคิดเห็น