คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Fate chain 2.1 - ปลอกคอ และ ข้อต่อรอง
Fate chain
คฤหาสน์ตระกูลทาคาซึกิงดงามแม้จะมองผ่านความมืดมิด แสงไฟสปอตไลท์สีส้มส่องสวนสวยสะท้อนประกายราวกับอยู่ในแดนสวรรค์
...แต่เรียวกลับชิงชังสถานที่นี้จับใจ
รถตู้จอดลงหน้าประตู พ่อบ้านวัยกลางคนรีบกระวีกระวาดมายืนต้อนรับ ‘คุณชาย’ ซึ่งย่างเท้าลงจากรถ ดวงตาสีดำนิลกวาดไปรอบๆ อย่างไร้อารมณ์
“ตามฉันมา” เขาปรายหางตามองร่างที่นั่งนิ่งอยู่บนเบาะรถ ใบหน้าซีกซ้ายของเรียวบวมช้ำ แต่ดวงตากลับสาดประกายมุ่งร้าย
“ตามมา...เดี๋ยวนี้” ทาคาโตะสั่งอีกครั้ง ท่าทางยังคงสงบเยือกเย็น
เรียวกัดกรามแน่น เขาพยายามระงับอารมณ์เดือดดาลซึ่งพลุ่งขึ้นมาก่อนจะตัดสินใจก้าวเท้าลงจากรถ...ในเมื่อมีแม่เป็นตัวประกันเขาจะไปทำอะไรได้
เด็กหนุ่มกลั้นใจเดินตาม ทาคาซึกิ ทาคาโตะ เข้าไปภายในบ้าน ร่างซึ่งเดินนำอยู่เบื้องหน้าสูงกว่าเขาเพียงนิดหน่อย...น่าจะสัก 176 ซม. ถ้าเขาต้องสู้ด้วยจริงๆ ก็น่าจะสูสี ต่อให้ต้องตายก็เถอะ...เขาจะลากมันตายไปด้วย!!
“อย่าคิดอะไรไร้สาระอย่างเช่น ฆ่าฉันแล้วหนีไปเด็ดขาด” ทาคาโตะเปรยขึ้นราวอ่านใจออก เรียวสะดุ้งเฮือก หากก็ไม่คิดจะปิดบังสิ่งที่ตัวเองคิดแต่อย่างใด ใบหน้านั้นฟ้องอารมณ์และความคิดทั้งหมดออกมาโดยที่อีกฝ่ายไม่ต้องเสียเวลาตีความ
“ฉัน เกลียด แก” เรียวเน้นคำชัดช้า สติที่มีเหลืออยู่น้อยนิดบอกเขาว่าคำด่านี้คงอยู่ในระดับที่ทาคา
โตะพอรับได้ เพราะหมอนั่นเพียงยักไหล่ แต่ไม่ได้ข่มขู่ตอบโต้กลับ
“หมาที่ไม่รักเจ้าของ ...ฉันว่าเลี้ยงไว้แล้วตื่นเต้นกว่าลูกหมาเชื่องๆ เยอะ”
“แกว่าใครเป็นหมา!!”
“หุบปากแล้วตามฉันมาเงียบๆ ไม่ต้องให้เตือนก็รู้ใช่ไหมว่าฉันไม่ใช่คนใจดีเท่าไหร่?”
คำนั้นยังน้อยไป...ฉันรู้ว่าแกเลวแค่ไหน ไม่ต้องย้ำ!
โถงทางเดินปูด้วยพรมชั้นดี...เรียวจ้องมองมันด้วยอารมณ์บูดบึ้ง รู้สึกขัดหูขัดตาไปหมดทุกอย่าง ส่วนลึกในใจของเขากระวนกระวายจนแทบจะเป็นบ้า แต่ก็รู้ดีว่าไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่จะตีโพยตีพายนอกจากจะต้องการหาเหตุให้ทาคาซึกิ ทาคาโตะทำร้ายแม่ของเขา...เด็กหนุ่มกัดกรามแน่น เผลอกัดเล็บนิ้วโป้งอย่างเคยเวลามีเรื่องกลุ้มใจ
เขารู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนฉลาด แต่ก็ไม่โง่พอที่จะไม่รู้ว่าอาการกระวนกระวายและทุรนทุรายของตัวเองจะสร้างความสุขให้หมอนี่มากแค่ไหน และอะไรก็ตามที่จะเป็นความสุขของ ทาคาซึกิ ทาคาโตะ...เขาจะไม่ทำ!
เด็กหนุ่มพยายามข่มอารมณ์ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด โชคดีที่ช่วงชีวิตหลายปีที่ผ่านมาซึ่งต้องหาเลี้ยงปากท้องตัวเองทำให้เขามีความคิดและนิสัยที่โตขึ้น ซึ่งถ้าเป็นเมื่อสักปีก่อน เขาต้องอาละวาดหรือไม่ก็คลั่งไปแล้ว...แต่นี่เขาไม่ใช่เด็ก และไม่ต้องการเสี่ยงให้แม่ที่รักของเขาเป็นอะไรไปทั้งสิ้นแม้แต่รอยขีดข่วนสักรอย
ความคิดของเรียวหยุดชะงักเมื่อทั้งคู่หยุดยืนอยู่หน้าประตูไม้บานสวยแกะลวดลายงดงาม เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว...จำได้ว่าประตูห้องเก่าของเขาเป็นประตูไม้ธรรมดาๆ ไม่ใช่บานนี้แน่ๆ
ทาคาโตะเหลียวกลับมามองร่างโปร่งซึ่งยืนนิ่งงันอยู่เบื้องหลัง ดวงตาหลังกรอบแว่นเป็นประกายวาว มุมปากสวยยกยิ้มหวาน ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่เรียวเกลียดเป็นที่สุด
ทาคาโตะเปิดประตูบานตรงหน้าก่อนจะเดินตรงดิ่งเข้าไปภายใน เรียวเดินตามหลังไปอย่างหวาดระแวง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกวาดไปรอบด้าน คิ้วสวยขมวดจนแทบจะชนกันเมื่อเตียงนอนสี่เสาสวยสะอาดและห้องกว้างๆ นี่มันไม่น่าจะเป็นห้องที่เขาอยู่...ไม่ใช่แน่ๆ ถ้าดูจากอาการที่หมอนี่ปฏิบัติต่อเขา
“นายจะนอนที่นี่” คำพูดของทาคาโตะทำให้สมองรับรู้ของเขายิ่งสุมด้วยคำถาม
ที่นี่? เขาไม่เชื่อหรอกว่าทาคาซึกิ ทาคาโตะ จะเป็นคนดีขนาดนี้
ทาคาโตะเปรยยิ้ม...ใบหน้าหล่อเหลาขยับเข้ามาใกล้เขาที่ถอยหนีโดยอัตโนมัติ ปฏิกิริยาที่เรียกให้รอยยิ้มยิ่งสยายกว้าง หมอนั่นเอื้อมมือก่อนจะคว้าคางของเขาไว้แน่น เรียวดิ้น เขาปัดมือคู่นั้นออกก่อนจะรู้ว่าไม่ควรทำเมื่ออีกฝ่ายกระชากผมของเขาแล้วรั้งใบหน้าให้เชิดเงยขึ้น มือเรียวสวยข้างหนึ่งขยุ้มกลุ่มผมสีแดงก่อนที่อีกข้างจะเลื่อนไล้ไปที่ลำคอแล้วลูบสัมผัสแผ่วเบาจนคนโดนลูบตัวสั่นด้วยความขยะแขยง
“ปล่อยนะโว้ย! ทำอะไรวะ!”
“นายต้นคอสวยดีนี่...”
“ไอ้โรคจิต! ปล่อยนะโว้ยยย แม่ง โอ๊ย!!!” ประโยคสุดท้ายเขาร้องลั่นเมื่อทาคาโตะโยนเขากระแทกกำแพง เขาพยายามขัดขืน เด็กหนุ่มศอกหนักๆ เข้าไปที่สีข้าง ทาคาโตะสบถอะไรออกมาคำหนึ่งก่อนจะบดหน้าเขาเข้ากับผนัง
“นายนี่มันเป็นหมาที่เลี้ยงไม่เชื่องจริงๆ นะ!”
“แกสิหมา! ชอบกัดคนอื่นลับหลัง น่าสมเพช!”
“ตกลงใจได้แล้วสิว่าอยากเอาตัวรอดคนเดียวมากกว่าเอาแม่ไปด้วย?”
“แกก็ได้แต่ขู่!”
“อ๋อเหรอ งั้นก็ได้!” ทาคาโตะเหวี่ยงร่างเขาไปที่พื้น เรียวยันกายไว้ได้อย่างทุลักทุเล เขาตวัดมองฉับ และเห็นว่าร่างนั้นควักมือถืออกมาจากกระเป๋าด้วยสีหน้าราบเรียบคาดเดาอารมณ์ไม่ถูก
“ฮัลโหล...นี่ฉันเอง นังนั่นเป็นยังไงบ้าง”
ไม่ต้องเสียเวลาเดาเลยว่า ‘นังนั่น’ หมายถึงใคร เรียวรู้สึกเหมือนลมหายใจถูกพราก...เขาสบกับสายตาเย็นชาของทาคาโตะ แต่ก็พูดอะไรไม่ออกสักคำเดียว...
“แกมียานอนหลับอยู่กับตัวใช่ไหม?” คำถามนั้นยังคงเรียบเฉย...นิ่งสงบ “ดี ผสมน้ำให้มันกินแล้วลากมันไปนอนในอ่างอาบน้ำ จะได้ดูเป็นการฆ่าตัวตาย”
“ไม่ได้นะ!”
ทาคาโตะเลิ่กคิ้ว ทำท่าประหลาดใจขณะยกโทรศัพท์ห่างจากใบหู “ทำไมล่ะ? ไม่ต้องห่วง พอแม่แกตายฉันจะปล่อยแกไป ให้แกทนทุกข์ทรมานก็มีความสุขดีเหมือนกัน”
“ไอ้สารเลว!”
“จัดการได้เลย”
“หยุดนะ!” บัดนี้ความคิดของเรียวตีกันยุ่ง ความเกลียดพุ่งริ้วไปทั่วร่าง เขาพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แต่ก็ยังรู้สึกว่าสมองว่างเปล่า
“แกจะทำร้ายแม่ฉันไม่ได้”
“ทำไม?”
แกมันเลือดเย็น ไม่มีหัวใจ!
เรียวกล้ำกลืนคำสบถด่าลงคอ...การต่อปากต่อคำกับหมอนี่ตอนนี้ไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย ไม่ใช่ตอนนี้ ตอนที่เขาหวาดกลัวจับใจและไม่มั่นใจในชะตากรรมของแม่แบบนี้
“ฉันจะเชื่อแกได้ยังไงว่าแม่อยู่ในกำมือของแก” เขาต่อรอง อย่างน้อยถ้าต้องทนทรมานเขาก็ต้องแน่ชัดว่าไม่ได้ทำฟรีๆ ต้องแน่ว่าเขาทำเพื่อแม่จริงๆ ไม่ใช่ว่าอีกฝ่ายกุเรื่องขึ้นมาหลอกเขา
ถ้าทาคาซึกิ ทาคาโตะ ปฏิเสธเขาจะมั่นใจในทันทีว่านี่เป็นแค่เรื่องโกหก
แต่หมอนั่นกลับยิ้ม พูดอะไรบางอย่างกับปลายสายก่อนจะยื่นมือถือมาให้เขา “คุยกันสิ...”
เรียวเกือบถามไปแล้วว่าใคร แต่เด็กหนุ่มก็ยั้งใจไว้ได้ทัน เขาเอื้อมรับโทรศัพท์มาไว้ในมือ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วยกแนบกับหู
“...แม่”
“เรียว...” เสียงที่ตอบมาอีกฝากสาย...ไม่มีทางผิดตัวได้เลย น้ำเสียงอ่อนโยนใจดีเรียกให้ขอบตาของเด็กหนุ่มร้อนผ่าว ทั้งดีใจและเสียใจมากพอกัน
“แม่...แม่สบายดีรึเปล่าครับ”
“แม่...สบายดี” คำสุดท้ายแผ่วหวิว เขากำลังจะถามอาการต่อแต่อีกคนกลับคว้ามือถือกลับคืนไป ดวงตานั้นยังคงสงบและไร้อารมณ์
“ร่ำลากันพอแล้ว คราวหน้าก็ไปเจอกันในนรก”
“แกจะฆ่าแม่ฉันไม่ได้!!!”
“ทำไม?” ยังเป็นคำถามคำเดิม...
เรียวกำมือแน่น เขาไม่อาจปิดบังดวงตาอาฆาตมาดร้ายของตัวเองยามที่มอง ทาคาซึกิ ทาคาโตะ ได้เลย และรู้สึกอยู่ลึกๆ ว่าหมอนี่ดีใจที่เห็นเขาทนทุกข์ทรมานมากแค่ไหน อยากเห็นเขาฝืนใจทำ เจ็บปวด และทุกๆ อย่างที่ทำให้ชีวิตเขาพังพินาศและไม่มีความสุข
แต่ไม่มีทางเลือก...ในตอนนี้เขาจะยอมไปก่อนก็ได้
“ฉันจะเชื่อฟังนาย” เรียวเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและประชดประชัน ทาคาโตะเพียงเปรยยิ้มน้อยๆ
“จริงรึ?”
“เออ!”
“ก็ดี...งั้นฉันจะให้นายพิสูจน์” เรียวตวัดมองขวับ เห็นร่างสูงนั้นเดินไปหยิบอะไรบางอย่างที่ลิ้นชักข้างเตียง และเดินกลับมาด้วยท่าทางอารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด
เด็กหนุ่มขมวดคิ้วแน่น จ้องมองของในมือของอีกฝ่ายตาแทบถลน...ปลอกคอสีดำสนิท...ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้นอกจากปลอกคอพร้อมสายจูงแบบเดียวกับสุนัข!
“สวมซะ”
“แก!”
“นายบอกว่าจะเชื่อฟัง...ไม่ใช่รึไง?”
เรียวกัดกราม รู้สึกโมโหจนแทบจะเป็นลม เลือดสูบฉีดไปทั้งร่าง เขาเป็นคน! นี่มันดูถูกยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด!
หากแต่ภาพแม่ที่ลอยเข้ามาในมโนสำนึกกลับทำให้ศักดิ์ศรีทั้งมวลถูกเขวี้ยงทิ้ง อะไรก็ไม่สำคัญเท่าความปลอดภัยของแม่ที่เหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย และเป็นด้ายกลางพายุอารมณ์ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้เสียด้วย
“อย่าลืมว่าฉันสั่งฆ่าแม่นายไปแล้ว...ถ้าชักช้าอาจจะไม่ทันก็ได้นะ” หมอนั่นพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติ
เรียวแทบคลั่ง เขาจ้องมองทาคาโตะตาลุกวาว ความเกลียดเพิ่มมากขึ้นจนไม่อยากจะอยู่ใกล้แม้เพียงนิดเดียว มือเรียวสวยยื่นไปข้างหน้า ก่อนกลั้นใจเอ่ย “ส่งมา”
ร่างสูงส่งให้โดยไม่พูดอะไร ใบหน้าของเรียวเป็นสีแดงจัด แดงพอๆ กับเส้นผม “ถ้าฉันใส่แล้ว แกต้องบอกยกเลิกแผนสั่งฆ่าแม่ฉัน”
“ไม่มีปัญหา” หมอนั่นกอดอก ดวงตาสีดำทอดมองมายังเขาด้วยประกายวาววับ “แต่ถ้าช้าอาจไม่ทัน... ฉันมีเวลารอได้เสมอ แต่แม่นายออาจจะไม่มีก็ได้”
ไม่มีทางเลือกอีกแล้ว!
เรียวกลั้นใจสวมปลอกคอ แทบจะกัดลิ้นตายเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสของหนังที่บาดผิว ทาคาโตะเปรยยิ้มอย่างถูกใจพลางเอื้อมมือมาข้างหน้า จัดแต่งปลอกคอให้เข้าที่เข้าทางแล้วดึงสายจูงมาไว้ในมือ
“เก่งมาก...เด็กดี”
รางวัลที่ให้ไม่ใช่กระดูก แต่เป็นข้อความสั้นๆ ที่เอ่ยสั่งผ่านสายโทรศัพท์ หมอนั่นใจดีถึงขนาดเรียกแม่มาพูดกับเขาอีกประโยคเดียวก่อนจะตัดสายไป
“คงรู้แล้วนะ...ว่าไม่ควรขัดขืนฉัน”
“แกมัน...” เรียวพูดถึงเพียงแค่นั้น ประสบการณ์ที่ผ่านมาสอนว่าความคะนองปากเพียงชั่วครั้งชั่วคราวจะได้ผลเสียมากกว่าผลดี เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แต่สัมผัสเย็นๆ ของหนังตรงลำคอกลับทำให้ทุกสิ่งขุ่นมัวกว่าที่ควรจะเป็น
ทาคาโตะกระตุกสายจูงไปแขวนไว้กับเสาเตียง ร่างสูงทรุดนั่งบนเตียงสีขาวสะอาดขณะก้มมองเรียวซึ่งพยายามปั้นหน้าให้สงบราบเรียบ
“ที่นี่...ห้องนอนฉัน”
คำพูดที่เหมือนคำสาป...ร้ายแรงยิ่งกว่าปลอกคอ!
ปฏิกิริยารังเกียจเด่นชัดของเขาสร้างความพึงพอใจให้คนมอง รอยยิ้มหวานยิ่งขยายกว้างขณะพยักเพยิดไปยังผ้านวมผืนบางซึ่งปูรองอยู่บนพื้น ไม่มีวี่แววของผ้าห่มหรือหมอน
“นั่นคือที่นอนนาย...”
ก็กะอยู่แล้ว ว่ามันคงไม่ใจดีพอจะให้เขานอนบนเตียง
“หรือนายอยากนอนบนเตียง ก็ไม่ว่ากัน”
เขาตัวแข็ง และอีกคนก็หัวเราะชอบใจ “ก็ได้...ฉันจะยอมตามใจนายสักครั้ง ต่อไปนี้กล้องวงจรปิดไม่จำเป็นแล้ว ฉันจะจับตาดูนายด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะตอนนอน กินข้าว อาบน้ำ นายจะต้องอยู่ในสายตาของฉัน ห้ามถอดปลอกคอออกถ้าไม่ได้รับคำสั่ง!”
เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากพยักหน้ารับอย่างยอมจำนน เขาคงไม่คิดหนีอยู่แล้วถ้ายังมีแม่ของเขาเป็นตัวประกันอยู่ แต่ถ้ามีตัวเลือกที่ดีกว่าการที่จะไม่ต้องอยู่ที่นี่เขาก็พร้อมจะเลือก...แต่มันไม่มี
“เรียว...”
เสียงสะอื้นสะท้อนในห้องผู้ป่วยมืดสลัว...
ใบหน้าของ วาคาบะ นาเดชิโกะอาบไปด้วยสายน้ำตา หมอนสีขาวมีรอยน้ำหยดเป็นวงกว้าง เธอกำมือแน่น ภาพของลูกชาย...ที่ได้เห็นผ่านทางวิดีโอทำให้หัวใจสลาย
“สิ่งที่คุณต้องทำคือวิดีโอทุกวัน... เราจะรักษาคุณอย่างดีที่สุดเป็นการแลกเปลี่ยน โปรดจำไว้ว่าอย่าคิดฆ่าตัวตาย เพราะเราจะส่งลูกคุณตามไปด้วย”
คำขู่มาพร้อมกับซีดีแผ่นบาง...
ภาพของเรียวที่ถูกคุมขังอยู่ในห้อง ภาพที่ไปตามหาเธอที่โรงพยาบาล กระชากหัวใจจนร้าวราน เธออยากจะไปหาลูกชายแล้วบอกว่า ปล่อยให้เธอตายไปซะ! แต่ก็รู้ดีว่าผลที่ออกมาต้องเป็นตรงกันข้าม เรียวเป็นเด็กดี แม้จะหัวแข็งและดื้อดึงแต่ก็แสนอ่อนโยน...
“ทำไมเรื่องมัน...ถึงกลายเป็นแบบนี้” เธอถามตัวเองกลางความเงียบ
ที่คุณบอกว่าจะดูแลเรียว หมายถึงอย่างนี้เองหรอกเหรอ ทาคาซึกิ ฮิโรเสะ?!
TBC
ขี้เกียจพูดมากกลัวคนอ่านจะเบื่อซะก่อน แง่มๆ รวบไปคุยตอนหน้าไม่นานเกินรอ ชอบไม่ชอบก็เม้นท์ติ๊ดนึงนะจ้ะ^^
ความคิดเห็น