ลำดับตอนที่ #33
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #33 : Nor Like 27 - Ferris wheel[A]
Nor Like
27 Ferris wheel[A]
ไม่รู้ว่ากรรมอะไรของเขากันแน่...
สึโยชิรำพึงในใจพลางกอดกระชับร่างเล็กๆในอ้อมแขนแน่น สงสัยเขาจะเผลอกอดแรงไปหน่อย ร่างเล็กถึงได้หัวเราะคิกคักพลางดิ้นกระแด่วๆ แต่กลับเหมือนสนุกมากกว่าเจ็บ
“พี่สึโยชิแกล้งมายุอ่ะ”เธอทำแก้มป่องพลางใช้หัวขวิดพุงเขา ไอ้จะหลบก็เกรงใจเขาเลยปล่อยให้ยัยตัวเล็กใช้หัวไซร้พุงเขาต่อไป ส่วนตัวเองก็แกล้งกระตุกเปียจนเด็กน้อยกรี๊ดกร๊าดแล้วตีมือเขาเป็นพัลวัน
“พี่สึโยชิขี้แกล้ง มายุจะย้ายไปนั่งกับพี่นารุมิ”
“จะย้ายไปตอนนี้ได้ไง ม้าหมุนมันยังไม่ครบรอบเลย”
“พี่สึโยชิก็อุ้มมายุไปสิ!”
แหนะ ยังมีออกคำสั่ง...
สึโยชิส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปยังนารุมิที่ขี่ม้าตัวข้างๆ แต่สีหน้าของนารุมินั้นบอกบุญไม่รับ... ใบหน้าหล่อเหลาบูดบึ้ง ซึ่งเขาก็เข้าใจเหตุผลของอาการบึ้งตึงนั้นเป็นอย่างดี ออกจะนึกสงสารด้วยซ้ำที่เด็ก ม.ปลาย ต้องมานั่งม้าหมุนที่รายรอบด้วยเด็กเล็กเป็นโขยง
ตัวเขาโชคดีหน่อยที่ได้นั่งในม้าหมุนที่เป็นแบบรถม้า แต่ก็ยังพ่วงด้วยโชคร้ายที่ต้องพายัยเด็กเอาแต่ใจมานั่งด้วยอย่างช่วยไม่ได้ ไม่รู้ว่ากรรมอะไรของพวกเขาที่ต้องมานั่งดูแลเด็กหลงทาง...แถมเด็กหลงนั่นยังเป็นลูกสาวคนเล็ก ของเจ้าของเรียวกังที่พวกเขาพักอยู่ตอนนี้ด้วยสิ
แต่จะว่าแปลกมันก็แปลก...
เพราะมายุเล่าว่ามาเที่ยวกับพี่สาว แต่เกิดพลัดหลงกันกลางทาง... พวกเขาลองไปประกาศหาผู้ปกครองก็ไม่มีใครมารับ แต่ที่แปลกยิ่งกว่านั้นคือ...ที่กระเป๋าห้อยคอของเธอดันมีกระดาษแผ่นเล็กซึ่งเขียนข้อความไว้ว่า
...ถ้าเจอเธอพาเธอมาส่งที่ชิงช้าสวรรค์ตอน 5 โมงเย็น...
ตอนแรกพวกเขาเซ็งจัดเลยจะพาไปส่งบ้าน แต่ยัยเด็กแสบดันแผลงฤทธิ์ อาละวาดซะลั่นสวนสนุกจนทั้งคู่เกือบประสาทเสีย รบกันอยู่เกือบสิบนาทีจนพวกเขาต้องเป็นฝ่ายยอมจำนนแล้วกลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กอย่างไม่คาดฝัน จากทริปที่ตอนแรกเริ่มจะสนุกกลายเป็นเฉาสนิทเพราะยัยตัวเล็กจะเล่นนั่นเล่นนี่ไม่ได้ขาด แถมแต่ละอย่างของแม่เจ้าประคุณนี่ก็ชวนให้พวกเขาอยากเอาปี๊ปคลุมหัวเสียเหลือเกิน ตั้งแต่ม้าหมุน รถไฟของเด็ก และอะไรต่อมิอะไรที่สึโยชิอยากจะประสาทกินเสียให้ได้ ...แต่ก็ยังน้อยกว่านารุมิที่ตอนนี้หน้าตาเหมือนจะฆ่าคนอยู่รอมร่อ...
ขนาดนั่งอยู่ไกลๆเขายังรับรู้ถึงรัศมีที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวของคุณชายคาวามูระ... เห็นหมอนั่นเป็นอย่างนั้นจากที่เขาเคยอารมณ์ขึ้นก็ขึ้นไม่ลง... เลยได้แต่ทำใจรับหน้าที่ดูแลมายุจังแม้จะลอบชำเลืองมองอีกคนเป็นระยะๆ...
“กินไอติมไหม มายุจัง?”สึโยชิกำมือเล็กพลางเดินไปยังร้านขายไอศกรีมที่ตั้งอยู่ไม่ไกลนัก เด็กน้อยนิ่งคิดอยู่ครู่ ก่อนจะกระตุกชายกางเกงเขาแล้วเรียกให้ก้มลงมาใกล้ๆ
“ใกล้อีกสิ มายุกระซิบไม่ถึง”คำเอาแต่ใจที่สึโยชิยิ้มรับ เอียงหูเข้าไปใกล้ก่อนจะฟังข้อความที่น่ารักน่าเอ็นดูเสียเหลือเกิน
“งั้นมายุเอาไปให้นะ...”เขาตอบคำกระซิบนั้นเบาๆ ซึ่งยัยตัวเล็กรีบส่ายหัว
“ไม่เอา มายุกลัว พี่นารุมิดุ”
“ไม่ดุหรอก หมอนั่นปากร้ายใจดี”เขาลูบหัวเธอเบาๆอย่างเอ็นดู เมื่อเห็นว่านัยน์ตากลมแป๋วแหววนั่นยังดูไม่ค่อยเชื่อ เขาเลยพูดสำทับอีกครั้ง “เอาน่า ให้เองเถอะ พี่นารุมิจะได้ดีใจไง”
“จริงนะ...”
“จริงสิ ไม่โกหกหรอกน่า”
หลังจากนิ่งคิดแว่บหนึ่งมายุถึงได้พยักหน้า สึโยชิจึงเดินไปซื้อไอศกรีมให้สองโคนพลางยื่นให้เด็กน้อยที่รับมาอย่างกล้าๆกลัว
“สู้เขา”สึโยชิลูบหัวเด็กน้อยก่อนจะขยิบตาให้หนึ่งที
มายุแข็งใจเดินตรงไปยังพี่ชายอีกคนที่นั่งนิ่งมาได้ครู่ใหญ่ เธอรู้สึกเหมือนพี่ชายจะรำคาญเลยอยากให้พี่ชายอารมณ์ดีขึ้นบ้าง เด็กหญิงมองไอศกรีมในมือด้วยรอยยิ้มบางๆก่อนจะออกวิ่งอย่างสดใสไปยังเป้าหมาย แต่ก้าวได้เพียงไม่กี่ก้าว...
พลั่ก
มายุสะดุดชายกระโปรงตัวเองจนหกล้มหน้าทิ่ม ไอศกรีมในมือหล่นลงพื้น เปื้อนฝุ่นจนกินไม่ได้ เสียงร้องไห้ดังลั่นลานจนสึโยชิต้องรีบวิ่งไปทางมายุ ...แต่ยังไม่ทันถึงตัว... ใครคนหนึ่งก็อุ้มเธอขึ้นมาจากพื้นพลางปัดเศษฝุ่นให้อย่างเบามือ
“วิ่งระวังหน่อยสิ...เปื้อนหมดแล้ว”นารุมิถอนหายใจขณะปัดหัวและขาที่ถลอกปอกเปิก เด็กสาวตัวแข็งทื่อ รีบกลั้นน้ำตาเป็นการใหญ่เพราะกลัวว่าจะโดนพี่ชายคนหล่อว่าเอา
นารุมิมองหน้าของอีกฝ่ายอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก นัยน์ตาคมลองมองไปทั่วๆก่อนจะสะดุดอยู่ที่ไอศกรีมสองโคนซึ่งหล่นอยู่บนพื้น... มุมปากได้รูปจึงกระตุกยิ้มบางๆก่อนจะยันกายขึ้นแล้วช้อนร่างเด็กน้อยมาไว้กับอ้อมแขน
“ไม่ต้องร้องไห้ เดี๋ยวพี่ซื้อให้ใหม่”คำพูดพร้อยรอยยิ้มที่เรียกให้เด็กหญิงหน้าขึ้นสีชมพูจางๆ เธอเกาะบ่านารุมิแน่นพลางพยักหน้ารับ
“พี่นารุมิไม่รำคาญมายุนะ...”
“ก็...ไม่หรอก”
ตอแหล...
สึโยชิที่เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่โดยตลอดแทบกลั้นขำไม่ไหว เขามองภาพนารุมิที่อุ้มเด็กผู้หญิงเดินตรงไปที่ร้านขายไอศกรีม โดยมีสาวๆมองตามเหลียวหลังแล้วก็ค้นพบสัจธรรมที่ว่า
...เพศหญิงทุกคนแพ้ความหล่อ...
ยิ่งหล่อระดับไม่ธรรมดาอย่างคุณชายคาวามูระนี่แล้วยิ่งแพ้หนักเป็นสองเท่า ไม่ว่าจะเป็นเด็กตัวเล็กๆ สาวมัธยม สาวออฟฟิศ หรือคุณป้าที่เรียวกังก็หลงหมอนี่กันทั้งนั้น... เขาล่ะนึกสงสัยจริงๆว่าไอ้คนตระกูลนี้มันทำบุญมาด้วยอะไรหน้าตาถึงได้ดีทั้งพี่ทั้งน้อง! แต่ก็อย่างว่า... ข้อเสียอย่างเดียวของหมอนั่นคือมันชอบผู้ชายด้วยกันเท่านั้นล่ะ...
“สึโยชิ”น้ำเสียงเย็นๆคุ้นหูที่ปลุกสึโยชิให้ตื่นจากภวังค์ เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมอง และก็พบว่าตรงหน้าเขาดันมีแท่งไอติมยื่นตรงมา...
สึโยชิมองไอศกรีมค้างด้วยความงุนงง เด็กหนุ่มมองไอศกรีมสลับกับคนถือไปมาจนคนโดนจ้องเริ่มขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิด
“นายจะรับไปหรือจะรอให้มันละลายหมดก่อน?”
เสียงดุที่เขาต้องรีบรับไอศกรีมมาอย่างเสียไม่ได้ พอแอบมองมายุ เขาก็พบว่าเด็กหญิงเดินจูงมือกับนารุมิและลืมเขาสนิท เด็กหนุ่มกระตุกยิ้มบางๆพลางก้มลงเลียไอศกรีมนิดหนึ่งและพบว่ามัน...
โคตรเค็มเลยว้อยยยยยย!!!!
“ไอ้เลวนารุมิ!!!”สึโยชิแทบจะคายทิ้งเสียตรงนั้น เขารีบวิ่งไปที่ถังขยะก่อนจะถุยน้ำลายออกมาอย่างพะอืดพะอม
ไอ้ชั่วเอ๊ย!! บ้านแกเหรอใส่เกลือในไอติมน่ะ ไอ้หอก!
สึโยชิถลึงตาใส่นารุมิที่เหลียวกลับมาเมื่อได้ยินเสียง เขาสบถอะไรอีกสองสามคำเมื่อพบว่าหมอนั่นยิ้มบางๆ แสร้งทำเป็นยักไหล่แบบไม่รู้สึกรู้สาอะไร ซึ่งบอกได้ทันทีเลยว่ามันจงใจทำแน่ๆ!
ตอนนี้ก็ห้าโมงครึ่งเข้าไปแล้ว...
สึโยชิเหลือบมองนาฬิกาเป็นรอบที่ 10 พลางสบถเบาๆด้วยความหงุดหงิด ไอ้กระดาษสัปรังเคนั่นบอกว่ายัยพี่สาวจะมารับตอนห้าโมงเย็น แต่ตอนนี้ก็ยังไม่เห็นหัว! แถมยัยเด็กดื้อนั่นก็รบเร้าจะมาขึ้นชิงช้าสววรค์ให้ได้ รบกันอยู่เกือบสิบนาทีแล้วก็จบลงที่น้ำตาของยัยตัวแสบที่เล่นเอาพวกเขาสองคนใจอ่อนยวบ
พวกเขาเลยต้องมาต่อแถวขึ้นชิงช้าสวรรค์อย่างเสียไม่ได้... แม้แถวจะไม่ยาวนักแต่พอพ่วงด้วยอากาศร้อนอบอ้าวและความหงุดหงิดที่สะสมมาทั้งวัน จุดเดือดของสึโยชิก็เข้าขั้นวิกฤติ ยิ่งพอหางตาของเด็กหนุ่มเหลือบเห็นอาการอี๋อ๋อที่ยัยตัวดีนัวเนียนารุมิจนดูเหมือนลิงปีนต้นไม้แล้วก็ให้นึกฉุน... ไอ้ตอนแรกน่ะมันก็น่าเอ็นดูดีอยู่หรอก... แต่พอหลังๆเขาก็อดคิดไม่ได้ว่ายัยเด็กนี่มันหัดสตรอเบอร์รี่ตั้งแต่เด็กๆ ...มีอย่างที่ไหน... เหนื่อยมันทุกห้านาที เดี๋ยวๆก็ ‘พี่นารุมิอุ้มหนูหน่อย’ หรือไม่ก็ ‘พี่นารุมิหนูเมื่อย’ ทีตอนแรกล่ะก็ทำไม่กล้าเข้าใกล้ เฮ้อ.... เซ็งว้อยยยยย
“เฮ้ย!!”
จู่ๆสึโยชิก็สบถลั่นแล้วกระโดดแทบตัวลอย ใบหน้าซีดขาวเปลี่ยนเป็นสีเข้มจัดจนเขียวคล้ำเหมือนคนใกล้ขย้อน ขณะรีบตวัดหันกลับไปมองแถวด้านหลัง
เสียงอุทานของเขานั้นไม่เบาเลย... คนเกือบทั้งแถวหันมาจ้องเด็กหนุ่มเป็นตาเดียว... แต่เจ้าตัวกลับไม่พูดอะไร ได้แต่เหลียวซ้ายแลขวาพลางสบถอะไรในลำคอ
“เป็นอะไร?”นารุมิถามเบาๆเมื่อเห็นร่างโปร่งเหลือบไปทางด้านหลังอย่างหวาดระแวงอีกครั้ง ปมคิ้วเรียวขมวดมุ่น ก่อนจะเงยหน้ามาแล้วพูดอะไรงุบงิบ เบาจนนารุมิต้องเอียงหูเข้าไปใกล้
“ฉันโดนจับตูด”
“หา?!”
สึโยชิถลึงตาใส่นารุมิเมื่ออีกฝ่ายอุทานดังลั่น นัยน์ตาสองคู่ประสานกันก่อนจะพร้อมใจเหลียวไปทางด้านหลังอีกครั้ง
“ใคร?”
“ไม่รู้”สึโยชิส่ายหน้า ริมฝีปากเม้มแน่น
“เขาอาจจะเผลอโดนก็ได้”นารุมิพยายามแย้ง แต่อีกฝ่ายส่ายหน้าเป็นพัลวัน
“เผลอโดนบ้านแกจะบีบด้วยเหรอ”
หน้าขาวซีดขึ้นสีคล้ำอีกครั้งเมื่อสำนึกได้ว่าตัวเองโดนลวนลาม เขาลองพิจาราณาคนต่อแถวอยู่ด้านหลังอย่างพินิจ พลางเปรียบเทียบความน่าจะเป็นในใจ
มี 3 คนที่น่าจะเป็นไปได้....
คนแรกคือคนที่ต่อจากเขา ....ผู้ชายหน้าตาท่าทางไม่สนใจใครมองแว่บแรกก็รู้ทันทีว่าป็นพวกโอตะคุ ตัวนั้นค่อนไปทางอวบอ้วน หมอนั่นกำลังก้มหน้าก้มตาดูคู่มืออะไรบางอย่างโดยไม่ได้หันมามองพวกเขา...
คนที่สอง...มาเป็นแพ็คคู่กับคนที่สาม... สาวสวยในชุดกางเกงขาสั้นกุดกับเสื้อตามสมัยนิยม ผมยาวของเธอดัดเป็นลอนอ่อนๆแล้วปล่อยสยายยาวประบ่า ใบหน้าถูกตบแต่งด้วยเครื่องสำอางจนสวยโดดเด่นสะดุดตา มือเรียวคล้องอยู่ที่ท่อนแขนของคนที่พวกเขาขาดว่าน่าจะเป็นคนรักของเธอ...ผู้ชายรูปร่างสูงพอๆกับนารุมิ ใบหน้านั้นสึโยชิเห็นไม่ค่อยชัดเพราะถูกปิดไว้ด้วยหมวกแก๊ปยี่ห้อดัง ซ้ำเจ้าตัวยังก้มหน้าลงพูดคุยกับแม่สาวข้างๆอย่างออกรส ดูๆไปสองคนนี้ไม่น่าใช่... แต่ตัวผู้ชายนี่มันดูคุ้นๆยังไงชอบกล...
“พี่นารุมิๆ”เสียงเรียกเจื้อยแจ้วที่เรียกสายตาของนารุมิให้ละความสนใจจากด้านหลัง เด็กหนุ่มเลิ่กคิ้วน้อยๆพลางโน้มกายลงไปใกล้ยัยตัวเล็ก
“มีอะไร?”
“พี่นารุมิมีแฟนยังคะ?”
“หืม?!”คำถามที่นอกจากจะสร้างความงงงันให้นารุมิแล้วยังสร้างความหมั่นไส้ให้สึโยชิที่ได้ยินคำถามชัดเต็มสองหู เล่นเอาลืมเรื่องที่ตัวเองโดนลวนลามไปเสียสนิท
เด็กบ้าอะไรแก่แดดชิบเป๋ง!
“หนอยยยย มีใครใช้ให้มาถามรึไงเนี่ยมายุ!”สึโยชิก้มลงหยิกแก้มแรงๆจนเด็กหญิงร้องกรี๊ด ทุบสึโยชิเป็นการใหญ่
“โอ๊ย มายุเจ็บนะ”เด็กหญิงดิ้นรนพลางรัวกำปั้นลงบนแขนของเด็กหนุ่ม“พี่สึโยชิไม่เกี่ยว อย่ายุ่งนะ!”
“หนอยยย ใช้กันแล้วทิ้งด้วยนะ พอมีพี่นารุมิแล้วทิ้งพี่เลย”
“ก็พี่สึโยชิไม่หล่อเท่าพี่นารุมินี่”ทิ้งท้ายด้วยการแลบลิ้นหลอก แบร่ ก่อนจะสะบัดเขาแรงๆแล้ววิ่งไปซ่อนหลังนารุมิ เล่นเอาสึโยชิเต้นผาง
มันน่าเจ็บใจก็ไอ้คำสุดท้ายนี่ล่ะวะ!
นารุมิกลายเป็นคนกลางในการห้ามมวยคู่ที่น่าสมเพชที่สุดไปโดยปริยาย... เขาเหลือบมองยัยตัวเล็กที่ยืนนัวเนียข้างๆขา แล้วไล่ไปยังไอ้คนที่โตแต่ตัวซึ่งทำหน้าบึ้งอยู่เบื้องหลัง...
มุมปากนารุมิกระตุกยิ้มบางๆ แกล้งทำเป็นไม่สนใจพลางขยับไปข้างหน้า ซึ่งตอนนี้แถวเริ่มสั้นลงจนเหลือคนยืนอยู่เบื้องหน้าพวกเขาเพียงแค่ไม่กี่คน
“เฮ้ย!”เสียงสบถก่อนที่ร่างเบื้องหลังเขาจะกระเด้งพรวดมาชนเรียกให้นารุมิหันขวับ เหลือบมองร่างที่หน้าแดงก่ำพลางใช้สองมือกุมบั้นท้ายตัวเองแน่น นัยน์ตาของสึโยชินั้นไหวระริกขณะจับจ้องไปยังใครคนหนึ่ง...แล้วก่อนที่จะเกิดเรื่องแย่ไปมากกว่านี้ นารุมิที่รู้แกวก็รีบปิดปากของสึโยชิก่อนที่เด็กหนุ่มจะทันได้ตะโกนอะไรแย่ๆออกไป
“อ่อยอะโอ้ยอาอุมิอันอะอ่าอัน โอ้ย! อ่อยๆๆๆ”
“อายเขาบ้างสิ”นารุมิกระซิบแต่อีกร่างกลับยิ่งเต้นผาง สึโยชิพยายามกระทุ้งเขาพลางชี้โบ๋ชี้เบ๋ไปยังร่างของชายหนุ่มที่ใส่หมวกปิดหน้าเหมือนจะบอกว่า ‘ไอ้เนี่ยแหละที่ทำ!’
แต่ยังไม่ทันที่นารุมิจะตัดสินใจทำอะไรเสียงเรียกจากด้านหลังก็ดังขึ้นมาราวกับช่วยชีวิต...
“จะขึ้นกระเช้าไหมครับ?”พนักงานประจำเครื่องเล่นที่สะกิดเรียกเขาเมื่อถึงคิว นารุมิเลยถือโอกาสลากสึโยชิเหวี่ยงเข้าไปในเครื่องเล่น ก่อนจะหันกลับไปอีกครั้งเพื่อจะดึงมายุเข้าไปด้วย
...แต่อะไรๆก็ดันไม่เป็นไปตามที่เขาคาด...
“มินะ!”มายุเรียกใครบางคนเสียงใสก่อนจะวิ่งลิ่วออกจากแถวเล่นเอานารุมิอ้าปากค้าง เด็กหนุ่มรีบผละออกจากกระเช้าเพื่อไปดึงยัยตัววุ่นกลับมา เขามัวแต่ตกใจอยู่กับการวิ่งหนีปุปปัปของมายุจนลืมสังเกตว่าใครบางคนทางด้านหลังมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น...
“วันนี้มันวันบ้าอะไรวะเนี่ย!”สึโยชิสบถหลังจากไอ้คนที่โยนเขาเข้ามาในกระเช้าดันวิ่งลิ่วตามมายุออกไปข้างนอก เด็กหนุ่มยันกายลุกขึ้น เตรียมเดินตามนารุมิออกไปแต่ยังไม่ทันจะก้าวออกไปข้างนอก แขนของใครบางคนก็กันไว้ที่ประตู ...พลางส่งรอยยิ้มกว้างมาให้...
“ไม่ได้เจอกันน้าน~นาน... คิดถึงจัง”
แค่ประโยคเดียว...
แค่เห็นหน้าชัดๆแว่บเดียว...
สึโยชิผงะถอยหลังติดกระเช้า นัยน์ตาเบิ่งกว้างเหมือนเห็นผี ปากอ้าพะงาบๆแต่ไม่อาจหลุดถ้อยคำใดๆออกมาได้ด้วยอารามตกสุดขีด มือสั่นเทาชี้ไปยังชายหนุ่มที่เคยใส่หมวกปิดใบหน้า คนที่เขาจับได้ว่ามันจับก้นเขา ...ถึงจะว่าหน้าคุ้น...แต่ไม่น่า...นี่มันต้องฝันร้ายแน่ๆ....
ทำไมไอ้บ้านี่ถึงมาโผล่ที่นี่ได้วะ!
27 Ferris wheel[A]
ไม่รู้ว่ากรรมอะไรของเขากันแน่...
สึโยชิรำพึงในใจพลางกอดกระชับร่างเล็กๆในอ้อมแขนแน่น สงสัยเขาจะเผลอกอดแรงไปหน่อย ร่างเล็กถึงได้หัวเราะคิกคักพลางดิ้นกระแด่วๆ แต่กลับเหมือนสนุกมากกว่าเจ็บ
“พี่สึโยชิแกล้งมายุอ่ะ”เธอทำแก้มป่องพลางใช้หัวขวิดพุงเขา ไอ้จะหลบก็เกรงใจเขาเลยปล่อยให้ยัยตัวเล็กใช้หัวไซร้พุงเขาต่อไป ส่วนตัวเองก็แกล้งกระตุกเปียจนเด็กน้อยกรี๊ดกร๊าดแล้วตีมือเขาเป็นพัลวัน
“พี่สึโยชิขี้แกล้ง มายุจะย้ายไปนั่งกับพี่นารุมิ”
“จะย้ายไปตอนนี้ได้ไง ม้าหมุนมันยังไม่ครบรอบเลย”
“พี่สึโยชิก็อุ้มมายุไปสิ!”
แหนะ ยังมีออกคำสั่ง...
สึโยชิส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปยังนารุมิที่ขี่ม้าตัวข้างๆ แต่สีหน้าของนารุมินั้นบอกบุญไม่รับ... ใบหน้าหล่อเหลาบูดบึ้ง ซึ่งเขาก็เข้าใจเหตุผลของอาการบึ้งตึงนั้นเป็นอย่างดี ออกจะนึกสงสารด้วยซ้ำที่เด็ก ม.ปลาย ต้องมานั่งม้าหมุนที่รายรอบด้วยเด็กเล็กเป็นโขยง
ตัวเขาโชคดีหน่อยที่ได้นั่งในม้าหมุนที่เป็นแบบรถม้า แต่ก็ยังพ่วงด้วยโชคร้ายที่ต้องพายัยเด็กเอาแต่ใจมานั่งด้วยอย่างช่วยไม่ได้ ไม่รู้ว่ากรรมอะไรของพวกเขาที่ต้องมานั่งดูแลเด็กหลงทาง...แถมเด็กหลงนั่นยังเป็นลูกสาวคนเล็ก ของเจ้าของเรียวกังที่พวกเขาพักอยู่ตอนนี้ด้วยสิ
แต่จะว่าแปลกมันก็แปลก...
เพราะมายุเล่าว่ามาเที่ยวกับพี่สาว แต่เกิดพลัดหลงกันกลางทาง... พวกเขาลองไปประกาศหาผู้ปกครองก็ไม่มีใครมารับ แต่ที่แปลกยิ่งกว่านั้นคือ...ที่กระเป๋าห้อยคอของเธอดันมีกระดาษแผ่นเล็กซึ่งเขียนข้อความไว้ว่า
...ถ้าเจอเธอพาเธอมาส่งที่ชิงช้าสวรรค์ตอน 5 โมงเย็น...
ตอนแรกพวกเขาเซ็งจัดเลยจะพาไปส่งบ้าน แต่ยัยเด็กแสบดันแผลงฤทธิ์ อาละวาดซะลั่นสวนสนุกจนทั้งคู่เกือบประสาทเสีย รบกันอยู่เกือบสิบนาทีจนพวกเขาต้องเป็นฝ่ายยอมจำนนแล้วกลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กอย่างไม่คาดฝัน จากทริปที่ตอนแรกเริ่มจะสนุกกลายเป็นเฉาสนิทเพราะยัยตัวเล็กจะเล่นนั่นเล่นนี่ไม่ได้ขาด แถมแต่ละอย่างของแม่เจ้าประคุณนี่ก็ชวนให้พวกเขาอยากเอาปี๊ปคลุมหัวเสียเหลือเกิน ตั้งแต่ม้าหมุน รถไฟของเด็ก และอะไรต่อมิอะไรที่สึโยชิอยากจะประสาทกินเสียให้ได้ ...แต่ก็ยังน้อยกว่านารุมิที่ตอนนี้หน้าตาเหมือนจะฆ่าคนอยู่รอมร่อ...
ขนาดนั่งอยู่ไกลๆเขายังรับรู้ถึงรัศมีที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวของคุณชายคาวามูระ... เห็นหมอนั่นเป็นอย่างนั้นจากที่เขาเคยอารมณ์ขึ้นก็ขึ้นไม่ลง... เลยได้แต่ทำใจรับหน้าที่ดูแลมายุจังแม้จะลอบชำเลืองมองอีกคนเป็นระยะๆ...
“กินไอติมไหม มายุจัง?”สึโยชิกำมือเล็กพลางเดินไปยังร้านขายไอศกรีมที่ตั้งอยู่ไม่ไกลนัก เด็กน้อยนิ่งคิดอยู่ครู่ ก่อนจะกระตุกชายกางเกงเขาแล้วเรียกให้ก้มลงมาใกล้ๆ
“ใกล้อีกสิ มายุกระซิบไม่ถึง”คำเอาแต่ใจที่สึโยชิยิ้มรับ เอียงหูเข้าไปใกล้ก่อนจะฟังข้อความที่น่ารักน่าเอ็นดูเสียเหลือเกิน
“งั้นมายุเอาไปให้นะ...”เขาตอบคำกระซิบนั้นเบาๆ ซึ่งยัยตัวเล็กรีบส่ายหัว
“ไม่เอา มายุกลัว พี่นารุมิดุ”
“ไม่ดุหรอก หมอนั่นปากร้ายใจดี”เขาลูบหัวเธอเบาๆอย่างเอ็นดู เมื่อเห็นว่านัยน์ตากลมแป๋วแหววนั่นยังดูไม่ค่อยเชื่อ เขาเลยพูดสำทับอีกครั้ง “เอาน่า ให้เองเถอะ พี่นารุมิจะได้ดีใจไง”
“จริงนะ...”
“จริงสิ ไม่โกหกหรอกน่า”
หลังจากนิ่งคิดแว่บหนึ่งมายุถึงได้พยักหน้า สึโยชิจึงเดินไปซื้อไอศกรีมให้สองโคนพลางยื่นให้เด็กน้อยที่รับมาอย่างกล้าๆกลัว
“สู้เขา”สึโยชิลูบหัวเด็กน้อยก่อนจะขยิบตาให้หนึ่งที
มายุแข็งใจเดินตรงไปยังพี่ชายอีกคนที่นั่งนิ่งมาได้ครู่ใหญ่ เธอรู้สึกเหมือนพี่ชายจะรำคาญเลยอยากให้พี่ชายอารมณ์ดีขึ้นบ้าง เด็กหญิงมองไอศกรีมในมือด้วยรอยยิ้มบางๆก่อนจะออกวิ่งอย่างสดใสไปยังเป้าหมาย แต่ก้าวได้เพียงไม่กี่ก้าว...
พลั่ก
มายุสะดุดชายกระโปรงตัวเองจนหกล้มหน้าทิ่ม ไอศกรีมในมือหล่นลงพื้น เปื้อนฝุ่นจนกินไม่ได้ เสียงร้องไห้ดังลั่นลานจนสึโยชิต้องรีบวิ่งไปทางมายุ ...แต่ยังไม่ทันถึงตัว... ใครคนหนึ่งก็อุ้มเธอขึ้นมาจากพื้นพลางปัดเศษฝุ่นให้อย่างเบามือ
“วิ่งระวังหน่อยสิ...เปื้อนหมดแล้ว”นารุมิถอนหายใจขณะปัดหัวและขาที่ถลอกปอกเปิก เด็กสาวตัวแข็งทื่อ รีบกลั้นน้ำตาเป็นการใหญ่เพราะกลัวว่าจะโดนพี่ชายคนหล่อว่าเอา
นารุมิมองหน้าของอีกฝ่ายอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก นัยน์ตาคมลองมองไปทั่วๆก่อนจะสะดุดอยู่ที่ไอศกรีมสองโคนซึ่งหล่นอยู่บนพื้น... มุมปากได้รูปจึงกระตุกยิ้มบางๆก่อนจะยันกายขึ้นแล้วช้อนร่างเด็กน้อยมาไว้กับอ้อมแขน
“ไม่ต้องร้องไห้ เดี๋ยวพี่ซื้อให้ใหม่”คำพูดพร้อยรอยยิ้มที่เรียกให้เด็กหญิงหน้าขึ้นสีชมพูจางๆ เธอเกาะบ่านารุมิแน่นพลางพยักหน้ารับ
“พี่นารุมิไม่รำคาญมายุนะ...”
“ก็...ไม่หรอก”
ตอแหล...
สึโยชิที่เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่โดยตลอดแทบกลั้นขำไม่ไหว เขามองภาพนารุมิที่อุ้มเด็กผู้หญิงเดินตรงไปที่ร้านขายไอศกรีม โดยมีสาวๆมองตามเหลียวหลังแล้วก็ค้นพบสัจธรรมที่ว่า
...เพศหญิงทุกคนแพ้ความหล่อ...
ยิ่งหล่อระดับไม่ธรรมดาอย่างคุณชายคาวามูระนี่แล้วยิ่งแพ้หนักเป็นสองเท่า ไม่ว่าจะเป็นเด็กตัวเล็กๆ สาวมัธยม สาวออฟฟิศ หรือคุณป้าที่เรียวกังก็หลงหมอนี่กันทั้งนั้น... เขาล่ะนึกสงสัยจริงๆว่าไอ้คนตระกูลนี้มันทำบุญมาด้วยอะไรหน้าตาถึงได้ดีทั้งพี่ทั้งน้อง! แต่ก็อย่างว่า... ข้อเสียอย่างเดียวของหมอนั่นคือมันชอบผู้ชายด้วยกันเท่านั้นล่ะ...
“สึโยชิ”น้ำเสียงเย็นๆคุ้นหูที่ปลุกสึโยชิให้ตื่นจากภวังค์ เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมอง และก็พบว่าตรงหน้าเขาดันมีแท่งไอติมยื่นตรงมา...
สึโยชิมองไอศกรีมค้างด้วยความงุนงง เด็กหนุ่มมองไอศกรีมสลับกับคนถือไปมาจนคนโดนจ้องเริ่มขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิด
“นายจะรับไปหรือจะรอให้มันละลายหมดก่อน?”
เสียงดุที่เขาต้องรีบรับไอศกรีมมาอย่างเสียไม่ได้ พอแอบมองมายุ เขาก็พบว่าเด็กหญิงเดินจูงมือกับนารุมิและลืมเขาสนิท เด็กหนุ่มกระตุกยิ้มบางๆพลางก้มลงเลียไอศกรีมนิดหนึ่งและพบว่ามัน...
โคตรเค็มเลยว้อยยยยยย!!!!
“ไอ้เลวนารุมิ!!!”สึโยชิแทบจะคายทิ้งเสียตรงนั้น เขารีบวิ่งไปที่ถังขยะก่อนจะถุยน้ำลายออกมาอย่างพะอืดพะอม
ไอ้ชั่วเอ๊ย!! บ้านแกเหรอใส่เกลือในไอติมน่ะ ไอ้หอก!
สึโยชิถลึงตาใส่นารุมิที่เหลียวกลับมาเมื่อได้ยินเสียง เขาสบถอะไรอีกสองสามคำเมื่อพบว่าหมอนั่นยิ้มบางๆ แสร้งทำเป็นยักไหล่แบบไม่รู้สึกรู้สาอะไร ซึ่งบอกได้ทันทีเลยว่ามันจงใจทำแน่ๆ!
ตอนนี้ก็ห้าโมงครึ่งเข้าไปแล้ว...
สึโยชิเหลือบมองนาฬิกาเป็นรอบที่ 10 พลางสบถเบาๆด้วยความหงุดหงิด ไอ้กระดาษสัปรังเคนั่นบอกว่ายัยพี่สาวจะมารับตอนห้าโมงเย็น แต่ตอนนี้ก็ยังไม่เห็นหัว! แถมยัยเด็กดื้อนั่นก็รบเร้าจะมาขึ้นชิงช้าสววรค์ให้ได้ รบกันอยู่เกือบสิบนาทีแล้วก็จบลงที่น้ำตาของยัยตัวแสบที่เล่นเอาพวกเขาสองคนใจอ่อนยวบ
พวกเขาเลยต้องมาต่อแถวขึ้นชิงช้าสวรรค์อย่างเสียไม่ได้... แม้แถวจะไม่ยาวนักแต่พอพ่วงด้วยอากาศร้อนอบอ้าวและความหงุดหงิดที่สะสมมาทั้งวัน จุดเดือดของสึโยชิก็เข้าขั้นวิกฤติ ยิ่งพอหางตาของเด็กหนุ่มเหลือบเห็นอาการอี๋อ๋อที่ยัยตัวดีนัวเนียนารุมิจนดูเหมือนลิงปีนต้นไม้แล้วก็ให้นึกฉุน... ไอ้ตอนแรกน่ะมันก็น่าเอ็นดูดีอยู่หรอก... แต่พอหลังๆเขาก็อดคิดไม่ได้ว่ายัยเด็กนี่มันหัดสตรอเบอร์รี่ตั้งแต่เด็กๆ ...มีอย่างที่ไหน... เหนื่อยมันทุกห้านาที เดี๋ยวๆก็ ‘พี่นารุมิอุ้มหนูหน่อย’ หรือไม่ก็ ‘พี่นารุมิหนูเมื่อย’ ทีตอนแรกล่ะก็ทำไม่กล้าเข้าใกล้ เฮ้อ.... เซ็งว้อยยยยย
“เฮ้ย!!”
จู่ๆสึโยชิก็สบถลั่นแล้วกระโดดแทบตัวลอย ใบหน้าซีดขาวเปลี่ยนเป็นสีเข้มจัดจนเขียวคล้ำเหมือนคนใกล้ขย้อน ขณะรีบตวัดหันกลับไปมองแถวด้านหลัง
เสียงอุทานของเขานั้นไม่เบาเลย... คนเกือบทั้งแถวหันมาจ้องเด็กหนุ่มเป็นตาเดียว... แต่เจ้าตัวกลับไม่พูดอะไร ได้แต่เหลียวซ้ายแลขวาพลางสบถอะไรในลำคอ
“เป็นอะไร?”นารุมิถามเบาๆเมื่อเห็นร่างโปร่งเหลือบไปทางด้านหลังอย่างหวาดระแวงอีกครั้ง ปมคิ้วเรียวขมวดมุ่น ก่อนจะเงยหน้ามาแล้วพูดอะไรงุบงิบ เบาจนนารุมิต้องเอียงหูเข้าไปใกล้
“ฉันโดนจับตูด”
“หา?!”
สึโยชิถลึงตาใส่นารุมิเมื่ออีกฝ่ายอุทานดังลั่น นัยน์ตาสองคู่ประสานกันก่อนจะพร้อมใจเหลียวไปทางด้านหลังอีกครั้ง
“ใคร?”
“ไม่รู้”สึโยชิส่ายหน้า ริมฝีปากเม้มแน่น
“เขาอาจจะเผลอโดนก็ได้”นารุมิพยายามแย้ง แต่อีกฝ่ายส่ายหน้าเป็นพัลวัน
“เผลอโดนบ้านแกจะบีบด้วยเหรอ”
หน้าขาวซีดขึ้นสีคล้ำอีกครั้งเมื่อสำนึกได้ว่าตัวเองโดนลวนลาม เขาลองพิจาราณาคนต่อแถวอยู่ด้านหลังอย่างพินิจ พลางเปรียบเทียบความน่าจะเป็นในใจ
มี 3 คนที่น่าจะเป็นไปได้....
คนแรกคือคนที่ต่อจากเขา ....ผู้ชายหน้าตาท่าทางไม่สนใจใครมองแว่บแรกก็รู้ทันทีว่าป็นพวกโอตะคุ ตัวนั้นค่อนไปทางอวบอ้วน หมอนั่นกำลังก้มหน้าก้มตาดูคู่มืออะไรบางอย่างโดยไม่ได้หันมามองพวกเขา...
คนที่สอง...มาเป็นแพ็คคู่กับคนที่สาม... สาวสวยในชุดกางเกงขาสั้นกุดกับเสื้อตามสมัยนิยม ผมยาวของเธอดัดเป็นลอนอ่อนๆแล้วปล่อยสยายยาวประบ่า ใบหน้าถูกตบแต่งด้วยเครื่องสำอางจนสวยโดดเด่นสะดุดตา มือเรียวคล้องอยู่ที่ท่อนแขนของคนที่พวกเขาขาดว่าน่าจะเป็นคนรักของเธอ...ผู้ชายรูปร่างสูงพอๆกับนารุมิ ใบหน้านั้นสึโยชิเห็นไม่ค่อยชัดเพราะถูกปิดไว้ด้วยหมวกแก๊ปยี่ห้อดัง ซ้ำเจ้าตัวยังก้มหน้าลงพูดคุยกับแม่สาวข้างๆอย่างออกรส ดูๆไปสองคนนี้ไม่น่าใช่... แต่ตัวผู้ชายนี่มันดูคุ้นๆยังไงชอบกล...
“พี่นารุมิๆ”เสียงเรียกเจื้อยแจ้วที่เรียกสายตาของนารุมิให้ละความสนใจจากด้านหลัง เด็กหนุ่มเลิ่กคิ้วน้อยๆพลางโน้มกายลงไปใกล้ยัยตัวเล็ก
“มีอะไร?”
“พี่นารุมิมีแฟนยังคะ?”
“หืม?!”คำถามที่นอกจากจะสร้างความงงงันให้นารุมิแล้วยังสร้างความหมั่นไส้ให้สึโยชิที่ได้ยินคำถามชัดเต็มสองหู เล่นเอาลืมเรื่องที่ตัวเองโดนลวนลามไปเสียสนิท
เด็กบ้าอะไรแก่แดดชิบเป๋ง!
“หนอยยยย มีใครใช้ให้มาถามรึไงเนี่ยมายุ!”สึโยชิก้มลงหยิกแก้มแรงๆจนเด็กหญิงร้องกรี๊ด ทุบสึโยชิเป็นการใหญ่
“โอ๊ย มายุเจ็บนะ”เด็กหญิงดิ้นรนพลางรัวกำปั้นลงบนแขนของเด็กหนุ่ม“พี่สึโยชิไม่เกี่ยว อย่ายุ่งนะ!”
“หนอยยย ใช้กันแล้วทิ้งด้วยนะ พอมีพี่นารุมิแล้วทิ้งพี่เลย”
“ก็พี่สึโยชิไม่หล่อเท่าพี่นารุมินี่”ทิ้งท้ายด้วยการแลบลิ้นหลอก แบร่ ก่อนจะสะบัดเขาแรงๆแล้ววิ่งไปซ่อนหลังนารุมิ เล่นเอาสึโยชิเต้นผาง
มันน่าเจ็บใจก็ไอ้คำสุดท้ายนี่ล่ะวะ!
นารุมิกลายเป็นคนกลางในการห้ามมวยคู่ที่น่าสมเพชที่สุดไปโดยปริยาย... เขาเหลือบมองยัยตัวเล็กที่ยืนนัวเนียข้างๆขา แล้วไล่ไปยังไอ้คนที่โตแต่ตัวซึ่งทำหน้าบึ้งอยู่เบื้องหลัง...
มุมปากนารุมิกระตุกยิ้มบางๆ แกล้งทำเป็นไม่สนใจพลางขยับไปข้างหน้า ซึ่งตอนนี้แถวเริ่มสั้นลงจนเหลือคนยืนอยู่เบื้องหน้าพวกเขาเพียงแค่ไม่กี่คน
“เฮ้ย!”เสียงสบถก่อนที่ร่างเบื้องหลังเขาจะกระเด้งพรวดมาชนเรียกให้นารุมิหันขวับ เหลือบมองร่างที่หน้าแดงก่ำพลางใช้สองมือกุมบั้นท้ายตัวเองแน่น นัยน์ตาของสึโยชินั้นไหวระริกขณะจับจ้องไปยังใครคนหนึ่ง...แล้วก่อนที่จะเกิดเรื่องแย่ไปมากกว่านี้ นารุมิที่รู้แกวก็รีบปิดปากของสึโยชิก่อนที่เด็กหนุ่มจะทันได้ตะโกนอะไรแย่ๆออกไป
“อ่อยอะโอ้ยอาอุมิอันอะอ่าอัน โอ้ย! อ่อยๆๆๆ”
“อายเขาบ้างสิ”นารุมิกระซิบแต่อีกร่างกลับยิ่งเต้นผาง สึโยชิพยายามกระทุ้งเขาพลางชี้โบ๋ชี้เบ๋ไปยังร่างของชายหนุ่มที่ใส่หมวกปิดหน้าเหมือนจะบอกว่า ‘ไอ้เนี่ยแหละที่ทำ!’
แต่ยังไม่ทันที่นารุมิจะตัดสินใจทำอะไรเสียงเรียกจากด้านหลังก็ดังขึ้นมาราวกับช่วยชีวิต...
“จะขึ้นกระเช้าไหมครับ?”พนักงานประจำเครื่องเล่นที่สะกิดเรียกเขาเมื่อถึงคิว นารุมิเลยถือโอกาสลากสึโยชิเหวี่ยงเข้าไปในเครื่องเล่น ก่อนจะหันกลับไปอีกครั้งเพื่อจะดึงมายุเข้าไปด้วย
...แต่อะไรๆก็ดันไม่เป็นไปตามที่เขาคาด...
“มินะ!”มายุเรียกใครบางคนเสียงใสก่อนจะวิ่งลิ่วออกจากแถวเล่นเอานารุมิอ้าปากค้าง เด็กหนุ่มรีบผละออกจากกระเช้าเพื่อไปดึงยัยตัววุ่นกลับมา เขามัวแต่ตกใจอยู่กับการวิ่งหนีปุปปัปของมายุจนลืมสังเกตว่าใครบางคนทางด้านหลังมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น...
“วันนี้มันวันบ้าอะไรวะเนี่ย!”สึโยชิสบถหลังจากไอ้คนที่โยนเขาเข้ามาในกระเช้าดันวิ่งลิ่วตามมายุออกไปข้างนอก เด็กหนุ่มยันกายลุกขึ้น เตรียมเดินตามนารุมิออกไปแต่ยังไม่ทันจะก้าวออกไปข้างนอก แขนของใครบางคนก็กันไว้ที่ประตู ...พลางส่งรอยยิ้มกว้างมาให้...
“ไม่ได้เจอกันน้าน~นาน... คิดถึงจัง”
แค่ประโยคเดียว...
แค่เห็นหน้าชัดๆแว่บเดียว...
สึโยชิผงะถอยหลังติดกระเช้า นัยน์ตาเบิ่งกว้างเหมือนเห็นผี ปากอ้าพะงาบๆแต่ไม่อาจหลุดถ้อยคำใดๆออกมาได้ด้วยอารามตกสุดขีด มือสั่นเทาชี้ไปยังชายหนุ่มที่เคยใส่หมวกปิดใบหน้า คนที่เขาจับได้ว่ามันจับก้นเขา ...ถึงจะว่าหน้าคุ้น...แต่ไม่น่า...นี่มันต้องฝันร้ายแน่ๆ....
ทำไมไอ้บ้านี่ถึงมาโผล่ที่นี่ได้วะ!
TBC
ใครยังไม่รู้ว่านาบูเปลี่ยนบอร์ดแล้วบ้างคะ?
http://nabu.gooboards.com/ บอร์ดใหม่ใช้ง่าย น่ารัก และไม่เป็นภาษาต่างดาว กำลังเปิดให้สมัครแบบไม่ต้องตอบคำถามด้วย^^
ไปสมัครกันได้นะคะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น