ลำดับตอนที่ #31
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #31 : Nor Like 26 - Go!Go! Fuji Q Highland![A]
Nor Like
26 Go!Go! Fuji Q Highland![A]
เป็นครั้งแรกที่นารุมิรู้สึกเสียใจที่สุดในชีวิต...
คุณชายคาวามูระเอามือยันกำแพง พยายามอดกลั้นอาการคลื่นเหียนที่มันพุ่งมาจุกบริเวณลำคออย่างสุดความสามารถ ใบหน้าหล่อเหลาเป็นสีซีด ท่าทางพะอืดพะอมคล้ายจะเป็นลมในวินาทีใดวินาทีหนึ่งอันใกล้ แม้นัยน์ตาคมเข้มนั้นจะเป็นประกายระริกอย่างคนโกรธจัด... แต่สภาพสังขารกลับไม่อำนวยเลยได้แค่ยืนนิ่ง และปล่อยให้ไอ้คนข้างตัวหัวเราะอย่างสาแก่ใจแบบที่อดคิดไม่ได้ว่ามันน่าขำอะไรนักหนา!
“หัวเราะพอรึยัง”น้ำเสียงเย็นเยียบที่ได้ผลทุกครั้งแต่คราวนี้กลับทำให้คนฟังกลั้นขำ แถมยังเลิ่กคิ้วแบบกวนๆให้กับเขาเสียอีก
“แล้วนายล่ะ...หายคลื่นไส้ยัง?”พูดเสร็จก็หัวเราะสำทับจนนารุมิได้แต่คาดโทษในใจ
เรื่องของเรื่องก็คือเขาดันไปเผลอไว้ใจให้ไอ้เจ้าตัวแสบมันพามาเที่ยว ไอ้คำพูดสวยหรูที่ว่าจะพามาไถ่โทษเรื่องยูยะกลับเป็นทัวร์นรกที่แทบจะฆ่านารุมิทั้งเป็น! เพราะไอ้ที่เที่ยวที่หมอนั่นหมายมาดนักหนาคือสวนสนุก ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับภูเขาไฟฟูจิและห่างจากที่ซึ่งเขาจะต้องไปเข้าค่ายกับชมรมเคนโด้ไม่เท่าไหร่ ...คำเชิญชวนของหมอนั่นฟังแล้วมันก็ดูสะดวกดี...แต่ที่ไหนได้....
นารุมิทรุดกายลงนั่งคุกเข่ากับพื้น หมดมาดคุณชายที่เพียรพยายามสั่งสมมาทั้งชีวิต ร้อนถึงสึโยชิต้องเข้ามาลูบๆหลังให้แต่มือนั้นก็โดนนารุมิปัดออกอย่างหงุดหงิด เพราะนึกเจ็บใจไม่หายกับไอ้เครื่องเล่นชิ้นแรกที่หมอนั่นอยากนั่ง ใช่ dodonpa! เครื่องเล่นทรมานทรกรรมที่ตลอดชาตินี้เขาจะไม่ย่างกรายเข้าไปใกล้อีกเป็นอันขาด!
ไอ้ตอนเริ่มต้นมันก็ “เหมือนจะ” ไม่มีอะไร แต่พอนับ 1 2 3 จบปุ๊ป เครื่องมันก็แกล้งหยุดนิ่งให้ตายใจก่อนจะกระชากเขาขึ้นไปด้วยความเร็ว 172 km/h แล้วทิ้งดิ่งลงมาทันทีเป็นมุม 90 องศา! สภาพของเขาตอนนี้เลยไม่ต่างอะไรกับซากศพ จะมีข้อดีอยู่อย่างเดียวเท่านั้นคือมันทำให้เขาค้นพบว่าเขาแพ้เครื่องเล่นหวาดเสียวแค่ไหน!
“เอายาดมมั้ย?”สึโยชิถามเบาๆหลังจากเห็นสภาพของอีกฝ่ายดูไม่ค่อยดีนัก
จริงๆแล้วเขาก็รู้สึกผิดอยู่นิดหน่อยที่ทำให้นารุมิกลายเป็นสภาพนี้... ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะว่าไอ้ท่าทางแมนเกินร้อยอย่างหมอนี่มันจะแพ้เครื่องเล่นหวาดเสียวไปได้
แล้วไอ้ปากเขาเนี่ย...มันก็อดแซวได้ที่ไหนล่ะ... ทั้งๆที่เขามานี่ก็ไม่ได้จะมาชวนทะเลาะซะหน่อย ...แล้วก็ไม่ได้มาเพราะว่าจะพามาไถ่โทษเรื่องยูยะอีกเหมือนกัน... แต่ที่มาเนี่ย ...ก็เพราะ...
เขาไม่แน่ใจตัวเองว่ากำลังชอบนารุมิอยู่รึเปล่า...
คิดเองก็ขนลุกเองจนต้องรีบสลัดไล่มันทิ้งเป็นพัลวัน เขาอุตส่าห์ลงทุนมาตั้งไกลเผื่อเวลาอยู่ด้วยกันแล้วอะไรๆมันจะได้ชัดเจน... เพราะตั้งแต่วันที่ไปหาหมอนั่นวันนั้น เขาก็ไม่เข้าใจในอาการของตัวเองมาตลอด แถมไม่กล้าด่วนสรุปกับไอ้ความคิดน่ากลัวๆที่ว่าเขากำลัง ‘ตกหลุมรัก’ ไอ้คุณชายคาวามูระคนนั้น เพราะถ้าเกิดมันเป็นเรื่องจริงขึ้นมา... มันจะเป็นความผิดพลาดที่สุดในชีวิตลูกผู้ชายของ วาคาบายาชิ สึโยชิ!
เมื่อสงสัยมันก็ต้องพิสูจน์... และหลังจากที่เขาพยายามคิดทบทวนหาสถานที่มาตลอด ที่ๆจะสะดวกที่สุดคือสวนสนุก Fuji Q Highland แห่งนี้ เพราะนอกจากจะเป็นสวนสนุกแนวโหดที่เพื่อนผู้ชายมาเที่ยวด้วยกันก็ไม่แปลกแล้ว เขายังมองล่วงหน้าไปถึงการหาข้อด้อยของไอ้คุณชายมาดล้นเหลือคนนี้อีก จากการคำนวณของเขาถ้าเห็นข้อด้อยมันก็คงเลิกชอบไปเองนั่นล่ะ
ยิงปืนนัดเดียวได้นกสอง! เขานี่ช่างชาญฉลาดอะไรขนาดนี้!
สึโยชิปรายตามองร่างสูงที่เริ่มจะมีอาการดีขึ้นเป็นลำดับ ใบหน้าหล่อเหลาเริ่มซับสีเลือดจางๆแม้จะยังดูอ่อนเปลี้ยไปบ้าง
มันเป็นอะไรที่เกินความคาดหมายของสึโยชิไปหน่อยที่หมอนั่นดันแพ้เครื่องเล่นหวาดเสียว... ไอ้ยุทธการหาข้อด้อยของเขาจริงๆแล้วมันก็เพิ่งจะเริ่มเมื่อกี้นี้ล่ะ เพราะไม่คิดเลยจริงๆว่าหมอนั่นจะมีจุดอ่อนแบบปุถุชนคนธรรมดา ...แต่ก็ดีนะ...
...ดูๆไปมันก็น่ารักดี...
......................
...............
.........
...
เฮ้ย! เมื่อกี้เผลอคิดเรื่องน่ากลัวๆแบบนั้นเข้าไปได้ไงวะ!
สึโยชิถึงกับช็อครีบไล่ความคิดฟุ้งซ่านเป็นพัลวัน เด็กหนุ่มพยายามเพ่งมองนารุมิและสะกดจิตตัวเองว่า ‘จุดอ่อนๆ’ สุดความสามารถ...
...คล้ายว่าจะมีรัศมีบางอย่างแผ่พุ่งออกมาจากร่างของสึโยชิและเรียกให้คุณชายคาวามูระหันไปมอง... แล้วเพียงสบตากันเท่านั้น ใบหน้าขาวซีดของคนที่เพียรพยายามหาจุดอ่อนก็ขึ้นสีก่ำ สะบัดหัวแรงๆจนนารุมิได้แต่มองอย่างงงงัน ไม่รู้ตัวสักนิดว่ากำลังจะต้องรับกรรมที่ตนเองไม่ได้ก่อ...
ในเมื่อเป็นอย่างนี้ก็ต้องย้ำจุดอ่อนมันไปเลยล่ะวะ!
ความคิดของคนที่ยังสับสนกับตนเองก่อนจะคว้าข้อมือคุณชายคาวามูระที่ยังไม่สมประกอบดีนักไปยังเครื่องเล่นที่ตนเองหมายมาดไว้ ตั้งแต่เข้ามา
ความซวยจึงตกอยู่กับนารุมิไปโดยปริยาย...
ให้ตาย...นี่มันเป็นสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตเท่าที่นารุมิเคยประสบมา...
ไอ้เครื่องเมื่อกี้ว่าแย่แล้ว...แต่ไอ้ที่เขากำลังนั่งอยู่นี่...มันแย่จนเอ่ยเป็นคำพูดไม่ได้...
แค่อ่านสรรพคุณที่แปะอยู่บนบอร์ดนารุมิก็แทบลมจับ Eejanaika เป็นเครื่องเล่นที่ติดอันดับสี่ของโลก โดยการหมุนขึ้นลงซ้ายขวาสิบสี่ครั้งในระยะทาง 1.53 km ...สรรพคุณเหล่านี้มากพอที่จะทำให้เขาเลือกที่จะไปให้ไกล จากไอ้เครื่องนรกนี่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
...แต่มันติดปัญหาที่ว่า... เขาโดนลากมานั่งบนเครื่องนี้เรียบร้อยแล้วน่ะสิ...
ทั้งๆที่ต่อคิวยาวชั่วโมงกว่าจนเขามีเวลาให้หนีเหลือเฟือ แต่ไอ้ความทิฐิของเขามันจะฆ่าตัวเองก็งานนี้แหละ เพราะเสียงหัวเราะยวนๆกับท่าทางกวนประสาทของสึโยชิมันทำให้เขาอารมณ์เสีย แล้วศักดิ์ศรีมันก็ค้ำคอจนไปไหนไม่ได้...สงสัยเขาจะติดนิสัยชอบเอาชนะของสึโยชิมาแล้วเต็มๆ!
พลันความคิดของเด็กหนุ่มก็ชะงักค้างเมื่อเครื่องเล่นเริ่มออกตัว... นารุมิรีบเกาะแท่นล็อคเอาไว้แน่น เหงื่อซึมชื้นขึ้นมาตามฝ่ามือและใบหน้าทั้งๆที่เจ้าตัวหลับตาแน่น ...ประสบการณ์เมื่อกี้ยังตราตรึงอยู่ในใจจนเขานั่งตัวแข็ง...
เมื่อตอนรอคิวเขาไม่กล้ามองว่าต้องเจออะไรบ้าง ...แต่ฟังจากเสียงกรี๊ด...ไม่น่าจะใช่เรื่องดี
แต่เครื่องเล่นกลับไต่ความสูงไปอย่างเชื่องช้า... เป็นเวลาพักหนึ่งจนนารุมิตัดสินใจเปิดเปลือกตาขึ้น ...และเห็นท้องฟ้าเบื้องหน้าเต็มตา...
ตอนนี้ร่างของเขาเอนราบไปกับพื้น ขาที่ลอยอยู่ในอากาศแค่ให้ความรู้สึกเสียววูบไปทั้งร่างแต่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก ลมเย็นบาดผิวหน้าจนชา จริงๆแล้วไอ้ความรู้สึกนี้มันก็โอเค... ไม่ได้แย่อะไรมากนักก็แค่สูงไปหน่อย... เขาตัดสินใจลองเหลือบไปทางด้านซ้ายซึ่งมีเพียงความว่างเปล่าแลเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ลางๆ แล้วพอเหลือบมาทางขวา... เขาก็ประสานสายตากับสึโยชิที่กำลังส่งยิ้มมาให้... พูดได้คำเดียว...ว่าเขาไม่ชอบรอยยิ้มนี้เลยสักนิด...
แล้วก็เป็นไปตามคาด... ไอ้เครื่องเล่นที่มันดูไม่มีอะไรอันนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเครื่องสูบวิญญาณอย่างแท้จริง!
เพราะเมื่อมันขึ้นไปถึงจุดสูงสุด มันก็ทิ้งตัวลงมาด้วยความเร็วสูงก่อนจะควงสว่านหมุนไปมาจนนารุมิแทบลมจับ แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่แย่ที่สุด... เพราะไอ้ที่แย่กว่านั้นคือมันดันวิ่งถอยหลังนี่สิ!
นารุมิมองทัศนียภาพที่ไกลออกไปด้วยความรู้สึกสุดจะบรรยาย มันเป็นอะไรที่ผสมระหว่างพะอืดพะอมกับปลงอนิจจัง... เด็กหนุ่มจะไม่แปลกใจสักนิดถ้าเกิดว่าเขาเป็นลมสลบคาเครื่องเล่นบ้าๆนี่ขึ้นมาจริงๆ เวลามันคว่ำหน้าลงกับพื้นก็เตี้ยแทบจะเรี่ยดิน ทะยานขึ้นก็เหมือนจะร่วงลงไปข้างล่างเสียให้ได้ จะร้องก็ร้องไม่ออกเลยได้แต่นั่งตัวแข็งสบถสาปแช่งไอ้ตัวแสบในใจ
อย่าให้ถึงทีเขาบ้างละกัน!
ทันทีที่ถึงพื้นนารุมิก็แทบทรุด หน้าซีดจนไร้สีเลือด แขนขาอ่อนเปลี้ยจนสึโยชิต้องรีบเข้ามาพยุงไปนั่งบนที่นั่งใกล้ๆ มาดคุณชายถูกฉีกกระชากจนป่นปี้แบบที่เจ้าตัวเองยังแทบจะรับไม่ได้
“เป็นไรมากมั้ย?”น้ำเสียงสำนึกผิดที่นารุมิตวัดมองตาขวาง นัยน์ตาคู่คมเป็นประกายระยับจนคนโดนจ้องสะดุ้งเฮือก
สึโยชิยิ้มแหย ลองๆเอื้อมมาแตะๆหลังอย่างไม่แน่ใจนัก แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้อีกฝ่ายรีบเอามือมาปิดปาก ท่าทางเหมือนจะขย้อนของเก่าจนสึโยชิกระเด้งพรวด
“เฮ้ยๆ อย่าเพิ่งอ้วกตรงนี้นะนารุมิ ห้องน้ำๆ มาเร็วๆ”ร่างโปร่งลนลาน เหลียวซ้ายแลขวาไปทั่วพร้อมกับพยายามรั้งแขนของอีกฝ่ายให้ลุกขึ้น ทั้งๆที่สึโยชิเจตนาดี แต่เสียงโวยวายเป็นป่าแตกของเขากลับเรียกให้คนทั้งลานหันมามองพลางหัวเราะคิกคัก
...และนั่นถือเป็นฟางเส้นสุดท้ายของนารุมิ...
ร่างสูงถลันตัวลุกขึ้นรวดเร็วจนสึโยชิสะดุ้ง ...ใบหน้านั้นยังคงซีดเซียว ...แต่ไอ้ลูกตานี่สิ... ฟ้องชัดว่าอยากจะฆ่าเขาเต็มแก่!
แล้วคนที่อ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรงเมื่อครู่ก็กระชากแขนของเขาลากไปตามทางแบบที่ไม่รู้ว่าไปเอาแรงมาจากไหน! ออร่าน้ำแข็งประจำตัวแผ่พุ่งออกมาจากร่างขณะที่นารุมิแสยะยิ้มมุมปาก...ซึ่งบอกได้เลยว่าสภาพนี้ถึงมันจะหล่อแค่ไหนแต่ก็ดูไม่ต ่างอะไรไปจากศพสักนิด...
...และท่าทางจะเป็นศพที่เพิ่งตายใหม่ๆ แล้วขึ้นมาจากหลุมเพื่อทวงแค้นเสียด้วยสิ...
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะโว้ยยยยย ปล่อยยยยย!!”เสียงตะโกนแบบไม่อายใครของสึโยชิดังลั่นจนคนที่ต่อคิวอยู่มองมาเป็นตาเดียว ร่างโปร่งพยายามขืนตัวสุดความสามารถ แต่ก็ไม่อาจต้านทานแรงของนารุมิที่ใช้ความแค้นเป็นระบบนำร่องไปได้
“ฉันตามใจนายมามากแล้ว ...นายก็เล่นตามใจฉันบางสิสึโยชิ”รอยยิ้มแสยะของนารุมิดูน่ากลัวกว่าทุกที ...บางทีอาจจะน่ากลัวกว่าไอ้สถานที่ๆเขากำลังจะต้องเข้าไปก็ได้ แต่ถึงยังไงหัวเด็ดตีนขาดเขาก็เลือกจะเผชิญกับมาดฆาตกรโหดของหมอนี่ ดีกว่าเข้าไปในบ้านผีสิงนี่แน่ๆ!
สึโยชิพยายามไม่ฟังเสียงกรีดร้องที่ดังออกมาจากประตูข้างๆพร้อมๆกับอาการ ‘วิ่งกระเจิง’ ของคนที่เข้าไปก่อนหน้านี้ ...ซึ่งสามารถการันตีความน่ากลัวของสถานที่นี้ได้เป็นอย่างดี ใบหน้าของสึโยชิซีดขึ้นทุกขณะเมื่อแถวขยับเลื่อนไปใกล้ประตู จนบอกยากว่าตอนนี้หน้าของเขากับนารุมิใครจะซีดมากกว่ากัน...
แต่อะไรที่ภาวนาให้ถึงช้ามันจะมาถึงเร็วเสมอ...
ทั้งๆที่นารุมิแค่ควักเงินพันเยนออกมาจ่ายค่าตั๋ว...แต่กลับดูเหมือนเพชรฆาตที่กำลังจะบั่นคอเขายังไงยังงั้น... ดวงหน้าหล่อเหลากลับมาราบเรียบตามปกติ จะมีก็แต่นัยน์ตานั่นล่ะ...ที่มันยังเต้นระริกแบบคนโกรธจัดและท่าทางจะไม่เย็นลงง่ายๆ
หลังจากที่ชั่งใจอยู่พักหนึ่งสึโยชิก็ตัดสินใจซื้อเครื่องลางที่ขายหน้าประตูไว้กันเหนียว แน่นอนว่าเขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ซื้อ แต่ยังไงเด็กหนุ่มก็ถือคติ ‘อุ่นใจไว้ก่อน’ เพราะดูท่าเขาคงจะไม่รอดจากการแก้แค้นของคุณชายคาวามูระเป็นแน่...
และแล้ววินาทีที่ไม่อยากรอคอยก็มาถึง...
คนประมาณเกือบๆยี่สิบถูกนำมานั่งในโรงพยาบาลคล้ายๆกับกำลังรอตรวจโรค ผิดไปแต่ว่าสถานที่นี้มันดูเหมือนโรงพยาบาลร้างที่ไม่ได้ใช้มาหลายสิบปี ...ไม่ใช่เหมือนสินะ... ที่นี่มันของจริงต่างหาก...
สึโยชิพยายามไม่คิดถึงความเป็นจริงซึ่งอาจทำให้เขาสติแตกได้ง่ายๆ ...ป้ายเตือนหน้าทางเข้ามันเด่นหราอยู่ว่าที่นี่คือสถานที่จริง... และอาจจะมีของจริงตามกลับบ้าน...
เด็กหนุ่มสะดุ้งสุดตัวเมื่อรู้สึกว่ามีมือเย็นๆมาสัมผัสที่แขน เขารีบตวัดมองลนลานและพบผู้หญิงสวมชุดพยาบาลกำลังส่งยิ้มมาให้เขาอย่างเป็นมิตร
“เชิญห้องทางโน้นค่ะ”เธอว่าพลางผายมือไปยังประตูซึ่งกำลังมีคนทยอยเดินเข้าไปช้าๆ
เด็กหนุ่มพยักหน้ารับอย่างงกๆเงิ่นๆพลางค่อยๆยันกายลุกขึ้น ขาเขามันเหมือนจะหมดแรงทรยศเอาซะดื้อๆ แถมไอ้คนลากเขามามันก็เดินลิ่วเข้าห้องไปโดยไม่รอกันสักนิด ทิ้งให้เขาอยู่คนเดียวในห้องมืดๆสลัวๆ... แล้วเพียงปรายตาไปรอบๆ... สึโยชิก็โกยอ้าวตามเข้าประตูไปติดๆ ไม่คิดจะรั้งรอแม้แต่วินาทีเดียว!
ห้องที่เข้ามาใหม่นี้ยังคงคอนเซ็ปมืดสลัวแบบที่คนสร้างคงจะใช้นโยบายประหยัดไฟเกินความพอดี สึโยชิลองกวาดสายตาไปรอบๆและเห็นว่าคนร่วมห้องยังหัวเราะกันคิกคัก ค่อยทำให้เด็กหนุ่มใจชื้นขึ้นบ้าง นัยน์ตาเรียวเล็กลองเหลือบมองนารุมิซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ...ใบหน้านั้นยังคงนิ่งเฉยไม่บ่งอารมณ์ใดๆ... เป็นสัญญาณที่ดีที่ว่าหมอนั่น ‘อาจจะ’ กลับมาเป็นปกติแล้ว
เสียงวิดีโอดึงดูดความสนใจของทุกคนในห้องรวมถึงสึโยชิ... เมื่อภาพในหน้าจอตรงหน้าห้องเริ่มฉายวิธีการเล่นและข้อควรระวังต่างๆให้เข้าใจได้อย่างง่ายๆ และเด็กหนุ่มก็พยายามซึมซับทุกคำพูด ไอ้ตอนแรกก็น่าฟังดีอยู่หรอก แต่พอตอนที่เครื่องเริ่มฉายประวัติความเป็นมาของที่นี่... สึโยชิก็เผลอขยับเข้าไปใกล้นารุมิโดยไม่รู้ตัว...
...เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อเด็กสาว ม.ปลาย หน้าตาน่ารักมาเยี่ยมเพื่อนของเธอที่โรงพยาบาลและเอาประกาศนียบัตรจบการศึกษามาให้ แต่ระหว่างที่เธอกำลังเปลี่ยนดอกไม้ในแจกันอยู่นั้นจู่ๆแจกันก็หล่นแตกพร้อมๆกับที่ได้ยินเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่งมาจากที่ไหนส ักแห่ง... แล้วไฟโรงพยาบาลก็พร้อมใจกันดับพรึ่บ! ทั้งสองจึงรีบวิ่งออกมาดูว่าภายนอกเกิดอะไรขึ้น(ซึ่งถ้าเป็นสึโยชิเขาจะไม่มีวันเดินออกไปเด็ดขาด) แต่ทางเดินมีพียงความว่างเปล่า...และเงียบจนผิดสังเกต...
ทั้งคู่ตัดสินใจวิ่งไปยังเคาท์เตอร์พยาบาล แต่ภาพที่เห็นกลับทำให้ทั้งคู่ช็อคค้าง! เมื่อศพพยาบาลแน่นิ่งไม่ไหวติง... ชุดเครื่องแบบสีขาวชโลมไปด้วยเลือด แล้วก่อนที่ทั้งสองจะได้ทำอะไรมากไปกว่านี้ ร่างๆนั้นก็ถูกลากเข้าไปข้างใน!
ไม่มีเวลาให้คิด ทั้งสองรีบวิ่งเต็มเหยียดไปตามทางที่มีเลือดอาบนองจนทั่ว พวกเขาตัดสินใจเข้าไปหลบในห้องๆหนึ่งแต่กลับไม่พ้น ประตูห้องถูกทุบอย่างแรง และนั่นคืvภาพสุดท้ายที่เห็นก่อนที่ทั้งคู่จะสลบไป...
...หญิงสาวค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ... เธอเหลียวไปรอบกายและพบว่าตนเองนอนอยู่บริเวณทางเดิน โดยที่ข้างๆเธอมีเพื่อนผู้ชายซึ่งยังนอนสลบไม่ได้สติ เธอพยายามชันกายลุกขึ้นและลากเพื่อนของเธอให้ลุก แต่ความเจ็บที่บริเวณช่องท้องกลับทำให้เธอไม่มีเรี่ยวแรง... เด็กสาวจึงตัดสินใจค่อยๆเลิ่กเสื้อของตนเองขึ้นก่อนที่ใบหน้าขาวจะซีดจนไร้สีเลือด...เมื่อเห็นรอยโดนเย็บเป็นทางยาว... หลังจากที่ชั่งใจอยู่ครู่เธอก็หันกลับไปมองร่างที่ยังไม่ได้สติ ด้วยความใคร่รู้นิ้วเรียวก็ค่อยๆปัดผมที่ปรกหน้าเด็กหนุ่มออก...แล้ว...
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!
ฉับพลันตุ๊กตาซอมบี้จำนวนมากก็ร่วงกราวลงมาบริเวณด้านหน้าเหล่าคนดูแล้วภาพก็ตัด ซ่า!!!
สึโยชิเผลอคว้าแขนของนารุมิโดยไม่รู้ตัว เด็กหนุ่มไม่รู้สึกขำสักนิดตอนที่เชือกมันดึงตุ๊กตาซอมบี้กลับคืนที่เดิม หัวใจเขายังเต้นตุบๆ พยายามฝืนยิ้มแห้งๆตามคนอื่นทั้งที่ในใจกำลังร้องไห้
“จะเกาะอีกนานมั้ย?”เสียงกระซิบเย็นๆบริเวณใบหูที่สึโยชิถึงกับสะดุ้ง เขาเงยหน้ามองใบหน้าเย็นชาที่ทอดมองลงต่ำ แล้วรีบตวัดมองตามสายตานั้น...
เด็กหนุ่มรีบปล่อยมือที่คว้าแขนของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็วก่อนจะพลุนพลันลุกขึ้น เขาเห็นว่านารุมิปัดแขนบริเวณที่โดนเขาเกาะนิดหนึ่งแล้วเดินผ่านเลยเขาไปยังอีกห้องโดยไม่คิดจะรอ...
หนอย! เก๊กนักนะไอ้บ้า แล้วเราจะได้เห็นดีกัน!
สึโยชิกระฟัดกระเฟียดในใจทั้งๆที่สองขากลับเดินตามร่างสูงไปไม่ได้ห่าง...
ห้องที่เข้ามาใหม่นี้เป็นห้องเอ๊กซ์เรย์... บรรยากาศยังคงทึบทึมชวนหดหู่เหมือนเก่า เสียงพยาบาลสาวคนเดิมยังคงเจื้อยแจ้ว เธอส่งยิ้มเป็นมิตรก่อนจะพูดตามสคริปที่วันหนึ่งคงพูดเป็นร้อยๆรอบ
“ที่นี่จะแบ่งการเล่นเป็นสองระดับนะคะคือธรรมดากับจบการศึกษา แบบธรรมดาเราจะให้เข้าไปทีละสามคน ส่วนแบบจบการศึกษาเนี่ยเราจะให้เข้าไปทีละสองคน ...แต่แบบจบการศึกษาเนี่ยจะพิเศษหน่อยตรงที่ต้องผูกข้อมือกัน”
“หา!!”สึโยชิร้องลั่นจนคนในห้องหันมามองเป็นตาเดียว เขารีบตะครุบปิดปากตนเองอย่างรวดเร็วก่อนจะยกมือขอโทษขอโพยที่เสียมรรยาท
พี่พยาบาลใจดีดูจะไม่ว่าอะไร เธอเพียงแค่ยิ้มก่อนจะเอ่ยต่อ
“เอาล่ะค่ะ คู่ไหนที่จะไปแบบจบการศึกษายกมือขึ้นค่ะ?”
แน่นอน แทบทุกคนในห้องไม่มีใครยก และสำหรับสึโยชิมันเป็นเรื่องที่ฉลาดที่สุดที่ทำแบบนี้ แต่เพียงเหลือบไปข้างตัว... สึโยชิก็รู้สึกเหมือนโลกกำลังถล่มอยู่ข้างๆเขา...
“ผมจะไปแบบจบการศึกษาครับ”เสียงดังฟังชัดของนารุมิเรียกให้เลือดมลายหายวับไปจากใบหน้าของสึโยชิ ร่างสูงวางมือบนไหล่ของเขา ก่อนจะส่งยิ้มหวานที่ดูสยองเยือกที่สุดมาให้...
“ได้เวลานายต้องทำตามใจฉันบ้างล่ะนะ ...เพื่อนรัก”
แน่นอน... สึโยชิรู้สึกอยากจะตัดเพื่อนกับนารุมิซะเดี๋ยวนี้เลย!
to be continue...
26 Go!Go! Fuji Q Highland![A]
เป็นครั้งแรกที่นารุมิรู้สึกเสียใจที่สุดในชีวิต...
คุณชายคาวามูระเอามือยันกำแพง พยายามอดกลั้นอาการคลื่นเหียนที่มันพุ่งมาจุกบริเวณลำคออย่างสุดความสามารถ ใบหน้าหล่อเหลาเป็นสีซีด ท่าทางพะอืดพะอมคล้ายจะเป็นลมในวินาทีใดวินาทีหนึ่งอันใกล้ แม้นัยน์ตาคมเข้มนั้นจะเป็นประกายระริกอย่างคนโกรธจัด... แต่สภาพสังขารกลับไม่อำนวยเลยได้แค่ยืนนิ่ง และปล่อยให้ไอ้คนข้างตัวหัวเราะอย่างสาแก่ใจแบบที่อดคิดไม่ได้ว่ามันน่าขำอะไรนักหนา!
“หัวเราะพอรึยัง”น้ำเสียงเย็นเยียบที่ได้ผลทุกครั้งแต่คราวนี้กลับทำให้คนฟังกลั้นขำ แถมยังเลิ่กคิ้วแบบกวนๆให้กับเขาเสียอีก
“แล้วนายล่ะ...หายคลื่นไส้ยัง?”พูดเสร็จก็หัวเราะสำทับจนนารุมิได้แต่คาดโทษในใจ
เรื่องของเรื่องก็คือเขาดันไปเผลอไว้ใจให้ไอ้เจ้าตัวแสบมันพามาเที่ยว ไอ้คำพูดสวยหรูที่ว่าจะพามาไถ่โทษเรื่องยูยะกลับเป็นทัวร์นรกที่แทบจะฆ่านารุมิทั้งเป็น! เพราะไอ้ที่เที่ยวที่หมอนั่นหมายมาดนักหนาคือสวนสนุก ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับภูเขาไฟฟูจิและห่างจากที่ซึ่งเขาจะต้องไปเข้าค่ายกับชมรมเคนโด้ไม่เท่าไหร่ ...คำเชิญชวนของหมอนั่นฟังแล้วมันก็ดูสะดวกดี...แต่ที่ไหนได้....
นารุมิทรุดกายลงนั่งคุกเข่ากับพื้น หมดมาดคุณชายที่เพียรพยายามสั่งสมมาทั้งชีวิต ร้อนถึงสึโยชิต้องเข้ามาลูบๆหลังให้แต่มือนั้นก็โดนนารุมิปัดออกอย่างหงุดหงิด เพราะนึกเจ็บใจไม่หายกับไอ้เครื่องเล่นชิ้นแรกที่หมอนั่นอยากนั่ง ใช่ dodonpa! เครื่องเล่นทรมานทรกรรมที่ตลอดชาตินี้เขาจะไม่ย่างกรายเข้าไปใกล้อีกเป็นอันขาด!
ไอ้ตอนเริ่มต้นมันก็ “เหมือนจะ” ไม่มีอะไร แต่พอนับ 1 2 3 จบปุ๊ป เครื่องมันก็แกล้งหยุดนิ่งให้ตายใจก่อนจะกระชากเขาขึ้นไปด้วยความเร็ว 172 km/h แล้วทิ้งดิ่งลงมาทันทีเป็นมุม 90 องศา! สภาพของเขาตอนนี้เลยไม่ต่างอะไรกับซากศพ จะมีข้อดีอยู่อย่างเดียวเท่านั้นคือมันทำให้เขาค้นพบว่าเขาแพ้เครื่องเล่นหวาดเสียวแค่ไหน!
“เอายาดมมั้ย?”สึโยชิถามเบาๆหลังจากเห็นสภาพของอีกฝ่ายดูไม่ค่อยดีนัก
จริงๆแล้วเขาก็รู้สึกผิดอยู่นิดหน่อยที่ทำให้นารุมิกลายเป็นสภาพนี้... ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะว่าไอ้ท่าทางแมนเกินร้อยอย่างหมอนี่มันจะแพ้เครื่องเล่นหวาดเสียวไปได้
แล้วไอ้ปากเขาเนี่ย...มันก็อดแซวได้ที่ไหนล่ะ... ทั้งๆที่เขามานี่ก็ไม่ได้จะมาชวนทะเลาะซะหน่อย ...แล้วก็ไม่ได้มาเพราะว่าจะพามาไถ่โทษเรื่องยูยะอีกเหมือนกัน... แต่ที่มาเนี่ย ...ก็เพราะ...
เขาไม่แน่ใจตัวเองว่ากำลังชอบนารุมิอยู่รึเปล่า...
คิดเองก็ขนลุกเองจนต้องรีบสลัดไล่มันทิ้งเป็นพัลวัน เขาอุตส่าห์ลงทุนมาตั้งไกลเผื่อเวลาอยู่ด้วยกันแล้วอะไรๆมันจะได้ชัดเจน... เพราะตั้งแต่วันที่ไปหาหมอนั่นวันนั้น เขาก็ไม่เข้าใจในอาการของตัวเองมาตลอด แถมไม่กล้าด่วนสรุปกับไอ้ความคิดน่ากลัวๆที่ว่าเขากำลัง ‘ตกหลุมรัก’ ไอ้คุณชายคาวามูระคนนั้น เพราะถ้าเกิดมันเป็นเรื่องจริงขึ้นมา... มันจะเป็นความผิดพลาดที่สุดในชีวิตลูกผู้ชายของ วาคาบายาชิ สึโยชิ!
เมื่อสงสัยมันก็ต้องพิสูจน์... และหลังจากที่เขาพยายามคิดทบทวนหาสถานที่มาตลอด ที่ๆจะสะดวกที่สุดคือสวนสนุก Fuji Q Highland แห่งนี้ เพราะนอกจากจะเป็นสวนสนุกแนวโหดที่เพื่อนผู้ชายมาเที่ยวด้วยกันก็ไม่แปลกแล้ว เขายังมองล่วงหน้าไปถึงการหาข้อด้อยของไอ้คุณชายมาดล้นเหลือคนนี้อีก จากการคำนวณของเขาถ้าเห็นข้อด้อยมันก็คงเลิกชอบไปเองนั่นล่ะ
ยิงปืนนัดเดียวได้นกสอง! เขานี่ช่างชาญฉลาดอะไรขนาดนี้!
สึโยชิปรายตามองร่างสูงที่เริ่มจะมีอาการดีขึ้นเป็นลำดับ ใบหน้าหล่อเหลาเริ่มซับสีเลือดจางๆแม้จะยังดูอ่อนเปลี้ยไปบ้าง
มันเป็นอะไรที่เกินความคาดหมายของสึโยชิไปหน่อยที่หมอนั่นดันแพ้เครื่องเล่นหวาดเสียว... ไอ้ยุทธการหาข้อด้อยของเขาจริงๆแล้วมันก็เพิ่งจะเริ่มเมื่อกี้นี้ล่ะ เพราะไม่คิดเลยจริงๆว่าหมอนั่นจะมีจุดอ่อนแบบปุถุชนคนธรรมดา ...แต่ก็ดีนะ...
...ดูๆไปมันก็น่ารักดี...
......................
...............
.........
...
เฮ้ย! เมื่อกี้เผลอคิดเรื่องน่ากลัวๆแบบนั้นเข้าไปได้ไงวะ!
สึโยชิถึงกับช็อครีบไล่ความคิดฟุ้งซ่านเป็นพัลวัน เด็กหนุ่มพยายามเพ่งมองนารุมิและสะกดจิตตัวเองว่า ‘จุดอ่อนๆ’ สุดความสามารถ...
...คล้ายว่าจะมีรัศมีบางอย่างแผ่พุ่งออกมาจากร่างของสึโยชิและเรียกให้คุณชายคาวามูระหันไปมอง... แล้วเพียงสบตากันเท่านั้น ใบหน้าขาวซีดของคนที่เพียรพยายามหาจุดอ่อนก็ขึ้นสีก่ำ สะบัดหัวแรงๆจนนารุมิได้แต่มองอย่างงงงัน ไม่รู้ตัวสักนิดว่ากำลังจะต้องรับกรรมที่ตนเองไม่ได้ก่อ...
ในเมื่อเป็นอย่างนี้ก็ต้องย้ำจุดอ่อนมันไปเลยล่ะวะ!
ความคิดของคนที่ยังสับสนกับตนเองก่อนจะคว้าข้อมือคุณชายคาวามูระที่ยังไม่สมประกอบดีนักไปยังเครื่องเล่นที่ตนเองหมายมาดไว้ ตั้งแต่เข้ามา
ความซวยจึงตกอยู่กับนารุมิไปโดยปริยาย...
ให้ตาย...นี่มันเป็นสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตเท่าที่นารุมิเคยประสบมา...
ไอ้เครื่องเมื่อกี้ว่าแย่แล้ว...แต่ไอ้ที่เขากำลังนั่งอยู่นี่...มันแย่จนเอ่ยเป็นคำพูดไม่ได้...
แค่อ่านสรรพคุณที่แปะอยู่บนบอร์ดนารุมิก็แทบลมจับ Eejanaika เป็นเครื่องเล่นที่ติดอันดับสี่ของโลก โดยการหมุนขึ้นลงซ้ายขวาสิบสี่ครั้งในระยะทาง 1.53 km ...สรรพคุณเหล่านี้มากพอที่จะทำให้เขาเลือกที่จะไปให้ไกล จากไอ้เครื่องนรกนี่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
...แต่มันติดปัญหาที่ว่า... เขาโดนลากมานั่งบนเครื่องนี้เรียบร้อยแล้วน่ะสิ...
ทั้งๆที่ต่อคิวยาวชั่วโมงกว่าจนเขามีเวลาให้หนีเหลือเฟือ แต่ไอ้ความทิฐิของเขามันจะฆ่าตัวเองก็งานนี้แหละ เพราะเสียงหัวเราะยวนๆกับท่าทางกวนประสาทของสึโยชิมันทำให้เขาอารมณ์เสีย แล้วศักดิ์ศรีมันก็ค้ำคอจนไปไหนไม่ได้...สงสัยเขาจะติดนิสัยชอบเอาชนะของสึโยชิมาแล้วเต็มๆ!
พลันความคิดของเด็กหนุ่มก็ชะงักค้างเมื่อเครื่องเล่นเริ่มออกตัว... นารุมิรีบเกาะแท่นล็อคเอาไว้แน่น เหงื่อซึมชื้นขึ้นมาตามฝ่ามือและใบหน้าทั้งๆที่เจ้าตัวหลับตาแน่น ...ประสบการณ์เมื่อกี้ยังตราตรึงอยู่ในใจจนเขานั่งตัวแข็ง...
เมื่อตอนรอคิวเขาไม่กล้ามองว่าต้องเจออะไรบ้าง ...แต่ฟังจากเสียงกรี๊ด...ไม่น่าจะใช่เรื่องดี
แต่เครื่องเล่นกลับไต่ความสูงไปอย่างเชื่องช้า... เป็นเวลาพักหนึ่งจนนารุมิตัดสินใจเปิดเปลือกตาขึ้น ...และเห็นท้องฟ้าเบื้องหน้าเต็มตา...
ตอนนี้ร่างของเขาเอนราบไปกับพื้น ขาที่ลอยอยู่ในอากาศแค่ให้ความรู้สึกเสียววูบไปทั้งร่างแต่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก ลมเย็นบาดผิวหน้าจนชา จริงๆแล้วไอ้ความรู้สึกนี้มันก็โอเค... ไม่ได้แย่อะไรมากนักก็แค่สูงไปหน่อย... เขาตัดสินใจลองเหลือบไปทางด้านซ้ายซึ่งมีเพียงความว่างเปล่าแลเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ลางๆ แล้วพอเหลือบมาทางขวา... เขาก็ประสานสายตากับสึโยชิที่กำลังส่งยิ้มมาให้... พูดได้คำเดียว...ว่าเขาไม่ชอบรอยยิ้มนี้เลยสักนิด...
แล้วก็เป็นไปตามคาด... ไอ้เครื่องเล่นที่มันดูไม่มีอะไรอันนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเครื่องสูบวิญญาณอย่างแท้จริง!
เพราะเมื่อมันขึ้นไปถึงจุดสูงสุด มันก็ทิ้งตัวลงมาด้วยความเร็วสูงก่อนจะควงสว่านหมุนไปมาจนนารุมิแทบลมจับ แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่แย่ที่สุด... เพราะไอ้ที่แย่กว่านั้นคือมันดันวิ่งถอยหลังนี่สิ!
นารุมิมองทัศนียภาพที่ไกลออกไปด้วยความรู้สึกสุดจะบรรยาย มันเป็นอะไรที่ผสมระหว่างพะอืดพะอมกับปลงอนิจจัง... เด็กหนุ่มจะไม่แปลกใจสักนิดถ้าเกิดว่าเขาเป็นลมสลบคาเครื่องเล่นบ้าๆนี่ขึ้นมาจริงๆ เวลามันคว่ำหน้าลงกับพื้นก็เตี้ยแทบจะเรี่ยดิน ทะยานขึ้นก็เหมือนจะร่วงลงไปข้างล่างเสียให้ได้ จะร้องก็ร้องไม่ออกเลยได้แต่นั่งตัวแข็งสบถสาปแช่งไอ้ตัวแสบในใจ
อย่าให้ถึงทีเขาบ้างละกัน!
ทันทีที่ถึงพื้นนารุมิก็แทบทรุด หน้าซีดจนไร้สีเลือด แขนขาอ่อนเปลี้ยจนสึโยชิต้องรีบเข้ามาพยุงไปนั่งบนที่นั่งใกล้ๆ มาดคุณชายถูกฉีกกระชากจนป่นปี้แบบที่เจ้าตัวเองยังแทบจะรับไม่ได้
“เป็นไรมากมั้ย?”น้ำเสียงสำนึกผิดที่นารุมิตวัดมองตาขวาง นัยน์ตาคู่คมเป็นประกายระยับจนคนโดนจ้องสะดุ้งเฮือก
สึโยชิยิ้มแหย ลองๆเอื้อมมาแตะๆหลังอย่างไม่แน่ใจนัก แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้อีกฝ่ายรีบเอามือมาปิดปาก ท่าทางเหมือนจะขย้อนของเก่าจนสึโยชิกระเด้งพรวด
“เฮ้ยๆ อย่าเพิ่งอ้วกตรงนี้นะนารุมิ ห้องน้ำๆ มาเร็วๆ”ร่างโปร่งลนลาน เหลียวซ้ายแลขวาไปทั่วพร้อมกับพยายามรั้งแขนของอีกฝ่ายให้ลุกขึ้น ทั้งๆที่สึโยชิเจตนาดี แต่เสียงโวยวายเป็นป่าแตกของเขากลับเรียกให้คนทั้งลานหันมามองพลางหัวเราะคิกคัก
...และนั่นถือเป็นฟางเส้นสุดท้ายของนารุมิ...
ร่างสูงถลันตัวลุกขึ้นรวดเร็วจนสึโยชิสะดุ้ง ...ใบหน้านั้นยังคงซีดเซียว ...แต่ไอ้ลูกตานี่สิ... ฟ้องชัดว่าอยากจะฆ่าเขาเต็มแก่!
แล้วคนที่อ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรงเมื่อครู่ก็กระชากแขนของเขาลากไปตามทางแบบที่ไม่รู้ว่าไปเอาแรงมาจากไหน! ออร่าน้ำแข็งประจำตัวแผ่พุ่งออกมาจากร่างขณะที่นารุมิแสยะยิ้มมุมปาก...ซึ่งบอกได้เลยว่าสภาพนี้ถึงมันจะหล่อแค่ไหนแต่ก็ดูไม่ต ่างอะไรไปจากศพสักนิด...
...และท่าทางจะเป็นศพที่เพิ่งตายใหม่ๆ แล้วขึ้นมาจากหลุมเพื่อทวงแค้นเสียด้วยสิ...
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะโว้ยยยยย ปล่อยยยยย!!”เสียงตะโกนแบบไม่อายใครของสึโยชิดังลั่นจนคนที่ต่อคิวอยู่มองมาเป็นตาเดียว ร่างโปร่งพยายามขืนตัวสุดความสามารถ แต่ก็ไม่อาจต้านทานแรงของนารุมิที่ใช้ความแค้นเป็นระบบนำร่องไปได้
“ฉันตามใจนายมามากแล้ว ...นายก็เล่นตามใจฉันบางสิสึโยชิ”รอยยิ้มแสยะของนารุมิดูน่ากลัวกว่าทุกที ...บางทีอาจจะน่ากลัวกว่าไอ้สถานที่ๆเขากำลังจะต้องเข้าไปก็ได้ แต่ถึงยังไงหัวเด็ดตีนขาดเขาก็เลือกจะเผชิญกับมาดฆาตกรโหดของหมอนี่ ดีกว่าเข้าไปในบ้านผีสิงนี่แน่ๆ!
สึโยชิพยายามไม่ฟังเสียงกรีดร้องที่ดังออกมาจากประตูข้างๆพร้อมๆกับอาการ ‘วิ่งกระเจิง’ ของคนที่เข้าไปก่อนหน้านี้ ...ซึ่งสามารถการันตีความน่ากลัวของสถานที่นี้ได้เป็นอย่างดี ใบหน้าของสึโยชิซีดขึ้นทุกขณะเมื่อแถวขยับเลื่อนไปใกล้ประตู จนบอกยากว่าตอนนี้หน้าของเขากับนารุมิใครจะซีดมากกว่ากัน...
แต่อะไรที่ภาวนาให้ถึงช้ามันจะมาถึงเร็วเสมอ...
ทั้งๆที่นารุมิแค่ควักเงินพันเยนออกมาจ่ายค่าตั๋ว...แต่กลับดูเหมือนเพชรฆาตที่กำลังจะบั่นคอเขายังไงยังงั้น... ดวงหน้าหล่อเหลากลับมาราบเรียบตามปกติ จะมีก็แต่นัยน์ตานั่นล่ะ...ที่มันยังเต้นระริกแบบคนโกรธจัดและท่าทางจะไม่เย็นลงง่ายๆ
หลังจากที่ชั่งใจอยู่พักหนึ่งสึโยชิก็ตัดสินใจซื้อเครื่องลางที่ขายหน้าประตูไว้กันเหนียว แน่นอนว่าเขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ซื้อ แต่ยังไงเด็กหนุ่มก็ถือคติ ‘อุ่นใจไว้ก่อน’ เพราะดูท่าเขาคงจะไม่รอดจากการแก้แค้นของคุณชายคาวามูระเป็นแน่...
และแล้ววินาทีที่ไม่อยากรอคอยก็มาถึง...
คนประมาณเกือบๆยี่สิบถูกนำมานั่งในโรงพยาบาลคล้ายๆกับกำลังรอตรวจโรค ผิดไปแต่ว่าสถานที่นี้มันดูเหมือนโรงพยาบาลร้างที่ไม่ได้ใช้มาหลายสิบปี ...ไม่ใช่เหมือนสินะ... ที่นี่มันของจริงต่างหาก...
สึโยชิพยายามไม่คิดถึงความเป็นจริงซึ่งอาจทำให้เขาสติแตกได้ง่ายๆ ...ป้ายเตือนหน้าทางเข้ามันเด่นหราอยู่ว่าที่นี่คือสถานที่จริง... และอาจจะมีของจริงตามกลับบ้าน...
เด็กหนุ่มสะดุ้งสุดตัวเมื่อรู้สึกว่ามีมือเย็นๆมาสัมผัสที่แขน เขารีบตวัดมองลนลานและพบผู้หญิงสวมชุดพยาบาลกำลังส่งยิ้มมาให้เขาอย่างเป็นมิตร
“เชิญห้องทางโน้นค่ะ”เธอว่าพลางผายมือไปยังประตูซึ่งกำลังมีคนทยอยเดินเข้าไปช้าๆ
เด็กหนุ่มพยักหน้ารับอย่างงกๆเงิ่นๆพลางค่อยๆยันกายลุกขึ้น ขาเขามันเหมือนจะหมดแรงทรยศเอาซะดื้อๆ แถมไอ้คนลากเขามามันก็เดินลิ่วเข้าห้องไปโดยไม่รอกันสักนิด ทิ้งให้เขาอยู่คนเดียวในห้องมืดๆสลัวๆ... แล้วเพียงปรายตาไปรอบๆ... สึโยชิก็โกยอ้าวตามเข้าประตูไปติดๆ ไม่คิดจะรั้งรอแม้แต่วินาทีเดียว!
ห้องที่เข้ามาใหม่นี้ยังคงคอนเซ็ปมืดสลัวแบบที่คนสร้างคงจะใช้นโยบายประหยัดไฟเกินความพอดี สึโยชิลองกวาดสายตาไปรอบๆและเห็นว่าคนร่วมห้องยังหัวเราะกันคิกคัก ค่อยทำให้เด็กหนุ่มใจชื้นขึ้นบ้าง นัยน์ตาเรียวเล็กลองเหลือบมองนารุมิซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ...ใบหน้านั้นยังคงนิ่งเฉยไม่บ่งอารมณ์ใดๆ... เป็นสัญญาณที่ดีที่ว่าหมอนั่น ‘อาจจะ’ กลับมาเป็นปกติแล้ว
เสียงวิดีโอดึงดูดความสนใจของทุกคนในห้องรวมถึงสึโยชิ... เมื่อภาพในหน้าจอตรงหน้าห้องเริ่มฉายวิธีการเล่นและข้อควรระวังต่างๆให้เข้าใจได้อย่างง่ายๆ และเด็กหนุ่มก็พยายามซึมซับทุกคำพูด ไอ้ตอนแรกก็น่าฟังดีอยู่หรอก แต่พอตอนที่เครื่องเริ่มฉายประวัติความเป็นมาของที่นี่... สึโยชิก็เผลอขยับเข้าไปใกล้นารุมิโดยไม่รู้ตัว...
...เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อเด็กสาว ม.ปลาย หน้าตาน่ารักมาเยี่ยมเพื่อนของเธอที่โรงพยาบาลและเอาประกาศนียบัตรจบการศึกษามาให้ แต่ระหว่างที่เธอกำลังเปลี่ยนดอกไม้ในแจกันอยู่นั้นจู่ๆแจกันก็หล่นแตกพร้อมๆกับที่ได้ยินเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่งมาจากที่ไหนส ักแห่ง... แล้วไฟโรงพยาบาลก็พร้อมใจกันดับพรึ่บ! ทั้งสองจึงรีบวิ่งออกมาดูว่าภายนอกเกิดอะไรขึ้น(ซึ่งถ้าเป็นสึโยชิเขาจะไม่มีวันเดินออกไปเด็ดขาด) แต่ทางเดินมีพียงความว่างเปล่า...และเงียบจนผิดสังเกต...
ทั้งคู่ตัดสินใจวิ่งไปยังเคาท์เตอร์พยาบาล แต่ภาพที่เห็นกลับทำให้ทั้งคู่ช็อคค้าง! เมื่อศพพยาบาลแน่นิ่งไม่ไหวติง... ชุดเครื่องแบบสีขาวชโลมไปด้วยเลือด แล้วก่อนที่ทั้งสองจะได้ทำอะไรมากไปกว่านี้ ร่างๆนั้นก็ถูกลากเข้าไปข้างใน!
ไม่มีเวลาให้คิด ทั้งสองรีบวิ่งเต็มเหยียดไปตามทางที่มีเลือดอาบนองจนทั่ว พวกเขาตัดสินใจเข้าไปหลบในห้องๆหนึ่งแต่กลับไม่พ้น ประตูห้องถูกทุบอย่างแรง และนั่นคืvภาพสุดท้ายที่เห็นก่อนที่ทั้งคู่จะสลบไป...
...หญิงสาวค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ... เธอเหลียวไปรอบกายและพบว่าตนเองนอนอยู่บริเวณทางเดิน โดยที่ข้างๆเธอมีเพื่อนผู้ชายซึ่งยังนอนสลบไม่ได้สติ เธอพยายามชันกายลุกขึ้นและลากเพื่อนของเธอให้ลุก แต่ความเจ็บที่บริเวณช่องท้องกลับทำให้เธอไม่มีเรี่ยวแรง... เด็กสาวจึงตัดสินใจค่อยๆเลิ่กเสื้อของตนเองขึ้นก่อนที่ใบหน้าขาวจะซีดจนไร้สีเลือด...เมื่อเห็นรอยโดนเย็บเป็นทางยาว... หลังจากที่ชั่งใจอยู่ครู่เธอก็หันกลับไปมองร่างที่ยังไม่ได้สติ ด้วยความใคร่รู้นิ้วเรียวก็ค่อยๆปัดผมที่ปรกหน้าเด็กหนุ่มออก...แล้ว...
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!
ฉับพลันตุ๊กตาซอมบี้จำนวนมากก็ร่วงกราวลงมาบริเวณด้านหน้าเหล่าคนดูแล้วภาพก็ตัด ซ่า!!!
สึโยชิเผลอคว้าแขนของนารุมิโดยไม่รู้ตัว เด็กหนุ่มไม่รู้สึกขำสักนิดตอนที่เชือกมันดึงตุ๊กตาซอมบี้กลับคืนที่เดิม หัวใจเขายังเต้นตุบๆ พยายามฝืนยิ้มแห้งๆตามคนอื่นทั้งที่ในใจกำลังร้องไห้
“จะเกาะอีกนานมั้ย?”เสียงกระซิบเย็นๆบริเวณใบหูที่สึโยชิถึงกับสะดุ้ง เขาเงยหน้ามองใบหน้าเย็นชาที่ทอดมองลงต่ำ แล้วรีบตวัดมองตามสายตานั้น...
เด็กหนุ่มรีบปล่อยมือที่คว้าแขนของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็วก่อนจะพลุนพลันลุกขึ้น เขาเห็นว่านารุมิปัดแขนบริเวณที่โดนเขาเกาะนิดหนึ่งแล้วเดินผ่านเลยเขาไปยังอีกห้องโดยไม่คิดจะรอ...
หนอย! เก๊กนักนะไอ้บ้า แล้วเราจะได้เห็นดีกัน!
สึโยชิกระฟัดกระเฟียดในใจทั้งๆที่สองขากลับเดินตามร่างสูงไปไม่ได้ห่าง...
ห้องที่เข้ามาใหม่นี้เป็นห้องเอ๊กซ์เรย์... บรรยากาศยังคงทึบทึมชวนหดหู่เหมือนเก่า เสียงพยาบาลสาวคนเดิมยังคงเจื้อยแจ้ว เธอส่งยิ้มเป็นมิตรก่อนจะพูดตามสคริปที่วันหนึ่งคงพูดเป็นร้อยๆรอบ
“ที่นี่จะแบ่งการเล่นเป็นสองระดับนะคะคือธรรมดากับจบการศึกษา แบบธรรมดาเราจะให้เข้าไปทีละสามคน ส่วนแบบจบการศึกษาเนี่ยเราจะให้เข้าไปทีละสองคน ...แต่แบบจบการศึกษาเนี่ยจะพิเศษหน่อยตรงที่ต้องผูกข้อมือกัน”
“หา!!”สึโยชิร้องลั่นจนคนในห้องหันมามองเป็นตาเดียว เขารีบตะครุบปิดปากตนเองอย่างรวดเร็วก่อนจะยกมือขอโทษขอโพยที่เสียมรรยาท
พี่พยาบาลใจดีดูจะไม่ว่าอะไร เธอเพียงแค่ยิ้มก่อนจะเอ่ยต่อ
“เอาล่ะค่ะ คู่ไหนที่จะไปแบบจบการศึกษายกมือขึ้นค่ะ?”
แน่นอน แทบทุกคนในห้องไม่มีใครยก และสำหรับสึโยชิมันเป็นเรื่องที่ฉลาดที่สุดที่ทำแบบนี้ แต่เพียงเหลือบไปข้างตัว... สึโยชิก็รู้สึกเหมือนโลกกำลังถล่มอยู่ข้างๆเขา...
“ผมจะไปแบบจบการศึกษาครับ”เสียงดังฟังชัดของนารุมิเรียกให้เลือดมลายหายวับไปจากใบหน้าของสึโยชิ ร่างสูงวางมือบนไหล่ของเขา ก่อนจะส่งยิ้มหวานที่ดูสยองเยือกที่สุดมาให้...
“ได้เวลานายต้องทำตามใจฉันบ้างล่ะนะ ...เพื่อนรัก”
แน่นอน... สึโยชิรู้สึกอยากจะตัดเพื่อนกับนารุมิซะเดี๋ยวนี้เลย!
to be continue...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น