ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fate chain[yaoi]

    ลำดับตอนที่ #4 : Fate chain 2.1 - ปลอกคอ และ ข้อต่อรอง

    • อัปเดตล่าสุด 15 พ.ค. 52


    Fate chain










    คฤหาสน์ตระกูลทาคาซึกิงดงามแม้จะมองผ่านความมืดมิด  แสงไฟสปอตไลท์สีส้มส่องสวนสวยสะท้อนประกายราวกับอยู่ในแดนสวรรค์

    ...แต่เรียวกลับชิงชังสถานที่นี้จับใจ

                    รถตู้จอดลงหน้าประตู  พ่อบ้านวัยกลางคนรีบกระวีกระวาดมายืนต้อนรับ คุณชายซึ่งย่างเท้าลงจากรถ  ดวงตาสีดำนิลกวาดไปรอบๆ อย่างไร้อารมณ์

                    ตามฉันมา เขาปรายหางตามองร่างที่นั่งนิ่งอยู่บนเบาะรถ  ใบหน้าซีกซ้ายของเรียวบวมช้ำ  แต่ดวงตากลับสาดประกายมุ่งร้าย

                    ตามมา...เดี๋ยวนี้ ทาคาโตะสั่งอีกครั้ง  ท่าทางยังคงสงบเยือกเย็น

                    เรียวกัดกรามแน่น  เขาพยายามระงับอารมณ์เดือดดาลซึ่งพลุ่งขึ้นมาก่อนจะตัดสินใจก้าวเท้าลงจากรถ...ในเมื่อมีแม่เป็นตัวประกันเขาจะไปทำอะไรได้

                เด็กหนุ่มกลั้นใจเดินตาม ทาคาซึกิ  ทาคาโตะ เข้าไปภายในบ้าน  ร่างซึ่งเดินนำอยู่เบื้องหน้าสูงกว่าเขาเพียงนิดหน่อย...น่าจะสัก 176 ซม. ถ้าเขาต้องสู้ด้วยจริงๆ ก็น่าจะสูสี  ต่อให้ต้องตายก็เถอะ...เขาจะลากมันตายไปด้วย!!

                อย่าคิดอะไรไร้สาระอย่างเช่น ฆ่าฉันแล้วหนีไปเด็ดขาด ทาคาโตะเปรยขึ้นราวอ่านใจออก  เรียวสะดุ้งเฮือก  หากก็ไม่คิดจะปิดบังสิ่งที่ตัวเองคิดแต่อย่างใด  ใบหน้านั้นฟ้องอารมณ์และความคิดทั้งหมดออกมาโดยที่อีกฝ่ายไม่ต้องเสียเวลาตีความ

                    ฉัน เกลียด แก เรียวเน้นคำชัดช้า  สติที่มีเหลืออยู่น้อยนิดบอกเขาว่าคำด่านี้คงอยู่ในระดับที่ทาคา
    โตะพอรับได้  เพราะหมอนั่นเพียงยักไหล่  แต่ไม่ได้ข่มขู่ตอบโต้กลับ

                    หมาที่ไม่รักเจ้าของ ...ฉันว่าเลี้ยงไว้แล้วตื่นเต้นกว่าลูกหมาเชื่องๆ เยอะ

                    แกว่าใครเป็นหมา!!”

                    หุบปากแล้วตามฉันมาเงียบๆ  ไม่ต้องให้เตือนก็รู้ใช่ไหมว่าฉันไม่ใช่คนใจดีเท่าไหร่?

                    คำนั้นยังน้อยไป...ฉันรู้ว่าแกเลวแค่ไหน  ไม่ต้องย้ำ!

                โถงทางเดินปูด้วยพรมชั้นดี...เรียวจ้องมองมันด้วยอารมณ์บูดบึ้ง  รู้สึกขัดหูขัดตาไปหมดทุกอย่าง  ส่วนลึกในใจของเขากระวนกระวายจนแทบจะเป็นบ้า  แต่ก็รู้ดีว่าไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่จะตีโพยตีพายนอกจากจะต้องการหาเหตุให้ทาคาซึกิ  ทาคาโตะทำร้ายแม่ของเขา...เด็กหนุ่มกัดกรามแน่น  เผลอกัดเล็บนิ้วโป้งอย่างเคยเวลามีเรื่องกลุ้มใจ

                    เขารู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนฉลาด  แต่ก็ไม่โง่พอที่จะไม่รู้ว่าอาการกระวนกระวายและทุรนทุรายของตัวเองจะสร้างความสุขให้หมอนี่มากแค่ไหน  และอะไรก็ตามที่จะเป็นความสุขของ ทาคาซึกิ  ทาคาโตะ...เขาจะไม่ทำ!

                    เด็กหนุ่มพยายามข่มอารมณ์  ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด  โชคดีที่ช่วงชีวิตหลายปีที่ผ่านมาซึ่งต้องหาเลี้ยงปากท้องตัวเองทำให้เขามีความคิดและนิสัยที่โตขึ้น  ซึ่งถ้าเป็นเมื่อสักปีก่อน  เขาต้องอาละวาดหรือไม่ก็คลั่งไปแล้ว...แต่นี่เขาไม่ใช่เด็ก  และไม่ต้องการเสี่ยงให้แม่ที่รักของเขาเป็นอะไรไปทั้งสิ้นแม้แต่รอยขีดข่วนสักรอย

                    ความคิดของเรียวหยุดชะงักเมื่อทั้งคู่หยุดยืนอยู่หน้าประตูไม้บานสวยแกะลวดลายงดงาม  เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว...จำได้ว่าประตูห้องเก่าของเขาเป็นประตูไม้ธรรมดาๆ ไม่ใช่บานนี้แน่ๆ

                    ทาคาโตะเหลียวกลับมามองร่างโปร่งซึ่งยืนนิ่งงันอยู่เบื้องหลัง  ดวงตาหลังกรอบแว่นเป็นประกายวาว  มุมปากสวยยกยิ้มหวาน  ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่เรียวเกลียดเป็นที่สุด

                    ทาคาโตะเปิดประตูบานตรงหน้าก่อนจะเดินตรงดิ่งเข้าไปภายใน  เรียวเดินตามหลังไปอย่างหวาดระแวง  ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกวาดไปรอบด้าน  คิ้วสวยขมวดจนแทบจะชนกันเมื่อเตียงนอนสี่เสาสวยสะอาดและห้องกว้างๆ นี่มันไม่น่าจะเป็นห้องที่เขาอยู่...ไม่ใช่แน่ๆ ถ้าดูจากอาการที่หมอนี่ปฏิบัติต่อเขา

                    นายจะนอนที่นี่ คำพูดของทาคาโตะทำให้สมองรับรู้ของเขายิ่งสุมด้วยคำถาม

    ที่นี่? เขาไม่เชื่อหรอกว่าทาคาซึกิ  ทาคาโตะ จะเป็นคนดีขนาดนี้ 

    ทาคาโตะเปรยยิ้ม...ใบหน้าหล่อเหลาขยับเข้ามาใกล้เขาที่ถอยหนีโดยอัตโนมัติ  ปฏิกิริยาที่เรียกให้รอยยิ้มยิ่งสยายกว้าง  หมอนั่นเอื้อมมือก่อนจะคว้าคางของเขาไว้แน่น  เรียวดิ้น  เขาปัดมือคู่นั้นออกก่อนจะรู้ว่าไม่ควรทำเมื่ออีกฝ่ายกระชากผมของเขาแล้วรั้งใบหน้าให้เชิดเงยขึ้น  มือเรียวสวยข้างหนึ่งขยุ้มกลุ่มผมสีแดงก่อนที่อีกข้างจะเลื่อนไล้ไปที่ลำคอแล้วลูบสัมผัสแผ่วเบาจนคนโดนลูบตัวสั่นด้วยความขยะแขยง

    ปล่อยนะโว้ย! ทำอะไรวะ!”

    นายต้นคอสวยดีนี่...

    ไอ้โรคจิต! ปล่อยนะโว้ยยย แม่ง  โอ๊ย!!!” ประโยคสุดท้ายเขาร้องลั่นเมื่อทาคาโตะโยนเขากระแทกกำแพง  เขาพยายามขัดขืน  เด็กหนุ่มศอกหนักๆ เข้าไปที่สีข้าง  ทาคาโตะสบถอะไรออกมาคำหนึ่งก่อนจะบดหน้าเขาเข้ากับผนัง

    นายนี่มันเป็นหมาที่เลี้ยงไม่เชื่องจริงๆ นะ!”

    แกสิหมา! ชอบกัดคนอื่นลับหลัง  น่าสมเพช!”

    ตกลงใจได้แล้วสิว่าอยากเอาตัวรอดคนเดียวมากกว่าเอาแม่ไปด้วย?

    แกก็ได้แต่ขู่!”

                    อ๋อเหรอ  งั้นก็ได้!” ทาคาโตะเหวี่ยงร่างเขาไปที่พื้น  เรียวยันกายไว้ได้อย่างทุลักทุเล  เขาตวัดมองฉับ  และเห็นว่าร่างนั้นควักมือถืออกมาจากกระเป๋าด้วยสีหน้าราบเรียบคาดเดาอารมณ์ไม่ถูก

                    ฮัลโหล...นี่ฉันเอง  นังนั่นเป็นยังไงบ้าง

                    ไม่ต้องเสียเวลาเดาเลยว่า นังนั่นหมายถึงใคร  เรียวรู้สึกเหมือนลมหายใจถูกพราก...เขาสบกับสายตาเย็นชาของทาคาโตะ  แต่ก็พูดอะไรไม่ออกสักคำเดียว...

                    แกมียานอนหลับอยู่กับตัวใช่ไหม? คำถามนั้นยังคงเรียบเฉย...นิ่งสงบ ดี  ผสมน้ำให้มันกินแล้วลากมันไปนอนในอ่างอาบน้ำ  จะได้ดูเป็นการฆ่าตัวตาย

                    ไม่ได้นะ!”

                    ทาคาโตะเลิ่กคิ้ว  ทำท่าประหลาดใจขณะยกโทรศัพท์ห่างจากใบหู ทำไมล่ะ? ไม่ต้องห่วง  พอแม่แกตายฉันจะปล่อยแกไป  ให้แกทนทุกข์ทรมานก็มีความสุขดีเหมือนกัน

                    ไอ้สารเลว!”

                    จัดการได้เลย

                    หยุดนะ!” บัดนี้ความคิดของเรียวตีกันยุ่ง  ความเกลียดพุ่งริ้วไปทั่วร่าง  เขาพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ  แต่ก็ยังรู้สึกว่าสมองว่างเปล่า

                    แกจะทำร้ายแม่ฉันไม่ได้

                    ทำไม?

                    แกมันเลือดเย็น  ไม่มีหัวใจ!

                    เรียวกล้ำกลืนคำสบถด่าลงคอ...การต่อปากต่อคำกับหมอนี่ตอนนี้ไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย  ไม่ใช่ตอนนี้  ตอนที่เขาหวาดกลัวจับใจและไม่มั่นใจในชะตากรรมของแม่แบบนี้

                    ฉันจะเชื่อแกได้ยังไงว่าแม่อยู่ในกำมือของแก เขาต่อรอง  อย่างน้อยถ้าต้องทนทรมานเขาก็ต้องแน่ชัดว่าไม่ได้ทำฟรีๆ  ต้องแน่ว่าเขาทำเพื่อแม่จริงๆ  ไม่ใช่ว่าอีกฝ่ายกุเรื่องขึ้นมาหลอกเขา

                    ถ้าทาคาซึกิ ทาคาโตะ ปฏิเสธเขาจะมั่นใจในทันทีว่านี่เป็นแค่เรื่องโกหก

                    แต่หมอนั่นกลับยิ้ม  พูดอะไรบางอย่างกับปลายสายก่อนจะยื่นมือถือมาให้เขา คุยกันสิ...

                    เรียวเกือบถามไปแล้วว่าใคร  แต่เด็กหนุ่มก็ยั้งใจไว้ได้ทัน  เขาเอื้อมรับโทรศัพท์มาไว้ในมือ  สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วยกแนบกับหู

                    ...แม่

                    เรียว... เสียงที่ตอบมาอีกฝากสาย...ไม่มีทางผิดตัวได้เลย  น้ำเสียงอ่อนโยนใจดีเรียกให้ขอบตาของเด็กหนุ่มร้อนผ่าว  ทั้งดีใจและเสียใจมากพอกัน

                แม่...แม่สบายดีรึเปล่าครับ

                    แม่...สบายดี คำสุดท้ายแผ่วหวิว  เขากำลังจะถามอาการต่อแต่อีกคนกลับคว้ามือถือกลับคืนไป  ดวงตานั้นยังคงสงบและไร้อารมณ์

                    ร่ำลากันพอแล้ว  คราวหน้าก็ไปเจอกันในนรก

                    แกจะฆ่าแม่ฉันไม่ได้!!!”

                    ทำไม? ยังเป็นคำถามคำเดิม...

                    เรียวกำมือแน่น  เขาไม่อาจปิดบังดวงตาอาฆาตมาดร้ายของตัวเองยามที่มอง ทาคาซึกิ  ทาคาโตะ ได้เลย  และรู้สึกอยู่ลึกๆ ว่าหมอนี่ดีใจที่เห็นเขาทนทุกข์ทรมานมากแค่ไหน  อยากเห็นเขาฝืนใจทำ  เจ็บปวด  และทุกๆ อย่างที่ทำให้ชีวิตเขาพังพินาศและไม่มีความสุข

                    แต่ไม่มีทางเลือก...ในตอนนี้เขาจะยอมไปก่อนก็ได้

                    ฉันจะเชื่อฟังนาย เรียวเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและประชดประชัน  ทาคาโตะเพียงเปรยยิ้มน้อยๆ

                    จริงรึ?

                    เออ!”

                    ก็ดี...งั้นฉันจะให้นายพิสูจน์ เรียวตวัดมองขวับ  เห็นร่างสูงนั้นเดินไปหยิบอะไรบางอย่างที่ลิ้นชักข้างเตียง  และเดินกลับมาด้วยท่าทางอารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด

                    เด็กหนุ่มขมวดคิ้วแน่น  จ้องมองของในมือของอีกฝ่ายตาแทบถลน...ปลอกคอสีดำสนิท...ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้นอกจากปลอกคอพร้อมสายจูงแบบเดียวกับสุนัข!

                    สวมซะ

                    แก!”

                    นายบอกว่าจะเชื่อฟัง...ไม่ใช่รึไง?

                    เรียวกัดกราม  รู้สึกโมโหจนแทบจะเป็นลม  เลือดสูบฉีดไปทั้งร่าง  เขาเป็นคน! นี่มันดูถูกยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด!

                    หากแต่ภาพแม่ที่ลอยเข้ามาในมโนสำนึกกลับทำให้ศักดิ์ศรีทั้งมวลถูกเขวี้ยงทิ้ง  อะไรก็ไม่สำคัญเท่าความปลอดภัยของแม่ที่เหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย  และเป็นด้ายกลางพายุอารมณ์ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้เสียด้วย

                    อย่าลืมว่าฉันสั่งฆ่าแม่นายไปแล้ว...ถ้าชักช้าอาจจะไม่ทันก็ได้นะ หมอนั่นพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติ

                    เรียวแทบคลั่ง  เขาจ้องมองทาคาโตะตาลุกวาว  ความเกลียดเพิ่มมากขึ้นจนไม่อยากจะอยู่ใกล้แม้เพียงนิดเดียว  มือเรียวสวยยื่นไปข้างหน้า  ก่อนกลั้นใจเอ่ย ส่งมา

                    ร่างสูงส่งให้โดยไม่พูดอะไร  ใบหน้าของเรียวเป็นสีแดงจัด  แดงพอๆ กับเส้นผม ถ้าฉันใส่แล้ว  แกต้องบอกยกเลิกแผนสั่งฆ่าแม่ฉัน

                    ไม่มีปัญหา หมอนั่นกอดอก  ดวงตาสีดำทอดมองมายังเขาด้วยประกายวาววับ แต่ถ้าช้าอาจไม่ทัน... ฉันมีเวลารอได้เสมอ  แต่แม่นายออาจจะไม่มีก็ได้

                    ไม่มีทางเลือกอีกแล้ว!

                    เรียวกลั้นใจสวมปลอกคอ  แทบจะกัดลิ้นตายเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสของหนังที่บาดผิว  ทาคาโตะเปรยยิ้มอย่างถูกใจพลางเอื้อมมือมาข้างหน้า  จัดแต่งปลอกคอให้เข้าที่เข้าทางแล้วดึงสายจูงมาไว้ในมือ

                    เก่งมาก...เด็กดี

                    รางวัลที่ให้ไม่ใช่กระดูก  แต่เป็นข้อความสั้นๆ ที่เอ่ยสั่งผ่านสายโทรศัพท์  หมอนั่นใจดีถึงขนาดเรียกแม่มาพูดกับเขาอีกประโยคเดียวก่อนจะตัดสายไป

                    คงรู้แล้วนะ...ว่าไม่ควรขัดขืนฉัน

                    แกมัน... เรียวพูดถึงเพียงแค่นั้น  ประสบการณ์ที่ผ่านมาสอนว่าความคะนองปากเพียงชั่วครั้งชั่วคราวจะได้ผลเสียมากกว่าผลดี  เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ  แต่สัมผัสเย็นๆ ของหนังตรงลำคอกลับทำให้ทุกสิ่งขุ่นมัวกว่าที่ควรจะเป็น

                    ทาคาโตะกระตุกสายจูงไปแขวนไว้กับเสาเตียง  ร่างสูงทรุดนั่งบนเตียงสีขาวสะอาดขณะก้มมองเรียวซึ่งพยายามปั้นหน้าให้สงบราบเรียบ

                    ที่นี่...ห้องนอนฉัน

                    คำพูดที่เหมือนคำสาป...ร้ายแรงยิ่งกว่าปลอกคอ!

                ปฏิกิริยารังเกียจเด่นชัดของเขาสร้างความพึงพอใจให้คนมอง  รอยยิ้มหวานยิ่งขยายกว้างขณะพยักเพยิดไปยังผ้านวมผืนบางซึ่งปูรองอยู่บนพื้น  ไม่มีวี่แววของผ้าห่มหรือหมอน

                    นั่นคือที่นอนนาย...

                    ก็กะอยู่แล้ว  ว่ามันคงไม่ใจดีพอจะให้เขานอนบนเตียง

                    หรือนายอยากนอนบนเตียง  ก็ไม่ว่ากัน

                    เขาตัวแข็ง  และอีกคนก็หัวเราะชอบใจ ก็ได้...ฉันจะยอมตามใจนายสักครั้ง  ต่อไปนี้กล้องวงจรปิดไม่จำเป็นแล้ว  ฉันจะจับตาดูนายด้วยตัวเอง  ไม่ว่าจะตอนนอน  กินข้าว  อาบน้ำ  นายจะต้องอยู่ในสายตาของฉัน  ห้ามถอดปลอกคอออกถ้าไม่ได้รับคำสั่ง!”

                    เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากพยักหน้ารับอย่างยอมจำนน  เขาคงไม่คิดหนีอยู่แล้วถ้ายังมีแม่ของเขาเป็นตัวประกันอยู่  แต่ถ้ามีตัวเลือกที่ดีกว่าการที่จะไม่ต้องอยู่ที่นี่เขาก็พร้อมจะเลือก...แต่มันไม่มี

     

     

     

     

                เรียว...

                เสียงสะอื้นสะท้อนในห้องผู้ป่วยมืดสลัว...

                    ใบหน้าของ วาคาบะ  นาเดชิโกะอาบไปด้วยสายน้ำตา  หมอนสีขาวมีรอยน้ำหยดเป็นวงกว้าง  เธอกำมือแน่น  ภาพของลูกชาย...ที่ได้เห็นผ่านทางวิดีโอทำให้หัวใจสลาย

                    สิ่งที่คุณต้องทำคือวิดีโอทุกวัน... เราจะรักษาคุณอย่างดีที่สุดเป็นการแลกเปลี่ยน  โปรดจำไว้ว่าอย่าคิดฆ่าตัวตาย  เพราะเราจะส่งลูกคุณตามไปด้วย

                    คำขู่มาพร้อมกับซีดีแผ่นบาง...

                    ภาพของเรียวที่ถูกคุมขังอยู่ในห้อง  ภาพที่ไปตามหาเธอที่โรงพยาบาล  กระชากหัวใจจนร้าวราน  เธออยากจะไปหาลูกชายแล้วบอกว่า  ปล่อยให้เธอตายไปซะ! แต่ก็รู้ดีว่าผลที่ออกมาต้องเป็นตรงกันข้าม  เรียวเป็นเด็กดี  แม้จะหัวแข็งและดื้อดึงแต่ก็แสนอ่อนโยน...

                    ทำไมเรื่องมัน...ถึงกลายเป็นแบบนี้ เธอถามตัวเองกลางความเงียบ

                    ที่คุณบอกว่าจะดูแลเรียว  หมายถึงอย่างนี้เองหรอกเหรอ ทาคาซึกิ  ฮิโรเสะ?!




    TBC



    ขี้เกียจพูดมากกลัวคนอ่านจะเบื่อซะก่อน แง่มๆ รวบไปคุยตอนหน้าไม่นานเกินรอ ชอบไม่ชอบก็เม้นท์ติ๊ดนึงนะจ้ะ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×