ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fate chain[yaoi]

    ลำดับตอนที่ #3 : Fate chain 1.2 - ข้อต่อรอง

    • อัปเดตล่าสุด 12 พ.ค. 52


    Fate chain






    นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันนี่

                เรียวฟาดเท้าลงบนประตูระบายอารมณ์หงุดหงิดงุ่นง่าน  เขาเดินพล่าน  ในสมองวุ่นวายสับสนไปหมด

                    ไม่กี่นาทีก่อนเขายังคิดว่าเขาช่างโชคดีเหลือเกิน  แล้วนี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!

                เด็กหนุ่มกัดริมฝีปากจนช้ำเลือด  ดวงตาสีน้ำตาลพราวระยับขณะหันรีหันขวางไปรอบตัว  ห้องนี้มันคุกดีๆ นี่เอง! เตียงสีขาวโทรมๆ ตั้งอยู่ริมห้องมุมหนึ่ง  ตู้เสื้อผ้าเก่าๆ วางอยู่ทางปลายเท้า  มีโต๊ะเขียนหนังสือวางตั้งไม่ห่างกันนัก โอเค...เรียวไม่เถียงว่าห้องนี้ดูดีกว่าห้องเช่าเก่าๆ ของเขามาก  แต่ที่บอกได้เต็มปากว่าคุกเพราะไอ้กล้องวงจรปิดเหนือหัวนี่ต่างหาก!

                    เวรเอ๊ย!”เขาสบถพำ  เหลียวไปรอบๆ เหมือนสัตว์ที่กำลังโกรธจัด 

                    เขาคว้าได้เก้าอี้ไม้  กำลังเตรียมจะขว้างไปยังกล้องตัวที่ใกล้ที่สุด แต่เสียงๆ หนึ่งกลับหยุดการกระทำของเขาให้ชะงักงัน

                    ถ้าฉันเป็นนาย...ฉันจะไม่ทำอะไรโง่ๆ แบบนั้นแน่!”เสียงเย็นเยียบฟังดูราวกับสะท้อนมาจากรอบทิศทาง

                    เรียวจำได้ทันทีว่ามันเป็นเสียงของ ทาคาซึกิ  ทาคาโตะ เจ้าคนที่จับเขายัดเข้าห้องบ้าๆ นี่!

                เด็กหนุ่มขยี้ริมฝีปากที่ช้ำเลือดอย่างหงุดหงิด  เสียงนั้นคงดังออกมาจากลำโพงที่ใดที่หนึ่ง  เขาแกล้งทำเป็นหูทวนลม  พลางเล็งกล้องเหนือหัวอย่างเหมาะเหม็งแล้วเขวี้ยงสุดแรง! 

                    เด็กหนุ่มเล็งได้อย่างแม่นยำ  กระจกของกล้องแตกกระจาย  เศษแก้วปลิวฟุ้ง  เก้าอี้ไม้ตกลงกระแทกพื้นจนขาเก้าอี้หักไม่มีชิ้นดี  เรียวหัวเราะเยือกเย็น

                    นายนี่มันโง่เง่า...เสียงของทาคาโตะเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน คิดว่ามีกล้องอันเดียวรึไง?

                    ไอ้ขี้ขลาด! แน่จริงก็ออกมาเจอกันตัวๆ สิวะ!”เด็กหนุ่มคำราม  หันรีหันขวางไปรอบๆ พร้อมๆ กับกระชากขาเก้าอี้รุ่งริ่งออกมาสุดแรง

                    ถ้าฉันเป็นนายฉันจะอยู่เฉยๆ

                    แก! ถ้าฉันออกไปได้แกตายแน่!”

                    ...ถ้าฉันตาย  นายก็ต้องตายด้วยเหมือนกัน  หรือบางที...นายอาจจะตายคนเดียวก็ได้

                    ช่างแม่ง! ฉันจะฆ่าแกให้ได้!”

                    นายนี่มันโง่งมเสียเหลือเกิน...หางเสียงผสมกับเสียงหัวเราะเสียดแทงใจ คงยังไม่เข้าใจจริงๆ สินะ ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในสถานะไหน?

                    ก็สถานะพ่อแกไง!”เรียวสบถ  ชูนิ้วกลางไปรอบทิศ

                    ฉันจะให้อภัยในความไร้มรรยาทและแสดงความต่ำของสติปัญญาของนาย...และขอเตือนอีกครั้งว่าอยู่เฉยๆ ไม่งั้นจะหาว่าฉันไม่เตือนไม่ได้...

                    ฉันไม่กลัวแกหรอก! ไอ้สารเลว!”

                    ...ไม่มีเสียงใดๆ ตอบกลับมาอีก...        

     

     

                    โว้ยยยยยยยยยยเรียวทิ้งตัวลงบนพื้นอย่างสิ้นเรี่ยวแรง

                บัดนี้ห้องที่เขาอยู่ไม่มีเค้าโครงสภาพเดิมอีกต่อไป...ทุกอย่างกระจัดกระจาย  และพังเสียหายแทบทั้งหมด  เก้าอี้ตัวสวยเละไม่มีชิ้นดี  ตู้เสื้อผ้ากระจุยกระจายหน้าคว่ำกับพื้น  ผ้าปูที่นอนถูกฉีกทึ้งเป็นชิ้นๆ  เรียวหอบระรวย 

                    อารมณ์ของเขาสงบลงไปมาก...แต่ก็ยังไม่ทั้งหมด

                    เขาเจอกล้องวงจรปิดที่ถูกซ่อนไว้ 5 ตัว และตอนนี้มันก็กลายเป็นเศษเหล็กไปเรียบร้อย  เจ้าทาคาโตะทำแสบมาก! มันเล่นฝังลำโพงไว้ในกำแพง  แถมคล้องโซ่ล็อคห้องจากข้างนอกเขาเลยสะเดาะกุญแจไม่ได้  หน้าต่างบานเดียวก็เป็นหน้าต่างระบายอากาศบานเหล็กกะจิ๋วแบบที่เขาไม่มีทางลอดผ่านไปได้

                    หงุดหงิดชะมัด!

                ว่าแล้วว่าทุกอย่างมันดูดีเกินไป! คนที่ไม่รู้จักกันทำไมถึงคิดจะเลี้ยงดูเขา  นอกจากจะมีจุดประสงค์แบบนี้มาแต่แรก  คนสมัยนี้มันเชื่อใจไม่ได้  โดยเฉพาะพวกคนรวย!

                    ว่าไง  หมดฤทธิ์แล้วเหรอ?

                    เสียงเรื่อยเฉื่อยที่สะท้อนไปมาทำให้อารมณ์ที่ตกตะกอนขุ่นข้นขึ้นมาอีกครั้ง  ...เขายังทำลายกล้องได้ไม่หมด  ไม่งั้นมันคงไม่รู้ถึงการเคลื่อนไหวของเขา...

                    อยากออกไปจากที่นี่รึเปล่า?

                    ถ้าฉันออกไปได้  แกตายแน่!”

                    ฉันไม่คิดอย่างนั้นหรอกนะหางเสียงแฝงความนัยอย่างประหลาด  หากอารมณ์โมโหของเรียวปิดบังดวงตาจนพร่าเลือน 

                    วันที่ฉันออกไปได้จะเป็นวันตายของแก!”

                    ของแม่นายด้วยรึเปล่า?

                    คำพูดด่าที่เตรียมไว้จุกอัดอยู่ที่ลำคอ

                    ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้าง  ร่างโปร่งยันกายพรวดขึ้น  หัวใจเต้นถี่ระรัวด้วยความหวาดหวั่น หมายความว่าไง  แกทำอะไรกับแม่ฉัน!”

                    ทำอะไร...จะให้ฉันทำอะไรกับคนที่ทำให้ครอบครัวฉันพังกันล่ะ?

                เหมือนโดนค้อนทุบหัวจนมึนงงไปหมด  เขาหมุนคว้าง  สับสนจนทำอะไรไม่ถูกทั้งสิ้น แกทำอะไรแม่ฉัน! บอกมาเดี๋ยวนี้ ทาคาซึกิ  ทาคาโตะ! บอกมา!”เด็กหนุ่มกรีดเสียง

                    เสียงหัวเราะเยือกเย็นฟังราวกับเสียงจากนรก  เรียวสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงดัง ...แกร๊ก... จากหน้าประตู

                    ค่าเดินทางอยู่หน้าห้อง  อย่าลืมหยิบไปล่ะ

                    นั่นเป็นคำพูดสุดท้าย  พร้อมๆ กับประตูห้องซึ่งเปิดออกกว้างเชิญชวนให้เขาก้าวเดินออกไป...เรียวรู้อยู่เต็มอกว่าการเดินออกไป  ก็เหมือนกับเดินไปติดกับดัก  แต่ไม่มีทางเลือกอีกแล้ว...

                    ...ต่อให้ต้องกระโจนลงสู่กับดัก  เขาก็ต้องไป...

     

    *************

     

                    ที่แรกที่เรียวไปคือโรงพยาบาลซึ่งแม่รักษาตัวอยู่

                    ตลอดทางที่มาโรงพยาบาล  ในหัวของเขาตีกันสับสนไปหมด...คำพูดเมื่อตอนเย็นของ ทาคาซึกิ ทาคาโตะ ยังวนเวียนอยู่ในหัว  เขาพยายามตีความซ้ำไปซ้ำมาจนหัวแทบระเบิดแต่ก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลยสักนิด

                    หมอนั่นบอกว่าแม่เขาเป็นชู้  ไม่มีทาง! แม่ของเขาเป็นคนดี  เขารู้จักแม่ของตัวเองดีกว่าใครๆ  ไม่มีทางที่แม่จะทำเรื่องแบบนั้น 

    เรียวกัดเล็บ  ชะเง้อชะแง้นั่งไม่ติดที่  เขากระวนกระวายจะไปให้ถึงโรงพยาบาลโดยไว  มันต้องมีอะไรแน่ๆ เจ้าหมอนั่นถึงปล่อยเขาออกมาได้ง่ายดายขนาดนี้  คนที่บอกว่าจะทำให้เขาตกนรกทั้งเป็นซ้ำยังโยนใส่ห้องขังอย่างไม่มีปราณี  แต่ไม่กี่ชั่วโมงถัดมากลับปล่อยเขาออกมาแล้ว

    มันต้องมีอะไรแน่...ต้องมีอะไร

    เขาไม่สบายใจเอาเสียเลย

     

    เรียวรีบกระโจนออกจากรถเมื่อถึงที่หมาย  ท้องฟ้าเริ่มมืดลงทุกขณะอีกไม่นานจะหมดเวลาเยี่ยม...เด็กหนุ่มกดลิฟท์อย่างเอาเป็นเอาตาย  ในหัวใจเต้นระรัว  รู้สึกสังหรณ์อย่างประหลาด

    อย่าเป็นอะไรไปนะแม่  อย่าเป็นอะไรไปนะ

                    เด็กหนุ่มพุ่งออกจาลิฟท์  ขาทั้งสองข้างวิ่งให้ไวที่สุดเท่าที่กำลังจะอำนวย  พยาบาลคนหนึ่งตำหนิเมื่อเขาวิ่งผ่านแต่คำพูดนั้นลอยผ่านหูไปเหมือนสายลมเบาบาง  ...ประตูห้อง 709 อยู่ตรงหน้าแล้ว  เรียวกระชากเปิดออกอย่างรวดเร็ว

                    ภายในห้องนั้น...มืดสนิทและว่างเปล่า

                    เรียวควานหาสวิตซ์ไฟอย่างเอาเป็นเอาตาย  รู้สึกได้ว่ามือที่กวาดสะเปะสะเปะนั้นสั่นระริก  มีกี่วินาทีเขาก็คลำเจอ  แสงไฟกระพริบวาบก่อนจะให้ความสว่างไปรอบห้องพัก...แต่ก็ยังไม่มีแม้แต่เงาของมารดา

                    แม่  แม่อยู่ไหมครับ!”เด็กหนุ่มพุ่งไปที่ประตูห้องน้ำ  แต่ก็ไม่มีใคร  กระเบื้องสีขาวแห้งสนิท...

                    เรียวรู้สึกว่าโลกทั้งโลกหมุนคว้าง  ริมฝีปากบางสั่นระริก  เด็กหนุ่มพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ  ความหวาดหวั่นเกือบจะทำให้เขาทรงกายอยู่ไม่ได้  แม่ของเขา...หายไปอย่างไร้ร่องรอย

                    เขาพยายามตั้งสติ  เป็นไปไม่ได้ที่คนหายไปทั้งคนจะไม่มีใครรู้ 

    บางที...  เขาพยายามมองโลกในแง่ดี  แม่อาจจะแค่ย้ายห้องพัก  ใช่  ต้องเป็นแบบนั้นแน่!

    เรียววิ่งกลับไปยังเคาท์เตอร์พยาบาล  มือสองข้างที่ยันพื้นโต๊ะสั่นระริก  พยาบาลสาวเหลือบตาขึ้นมองด้วยอาการงุนงง  เรียวปากที่เคลือบไว้ด้วยลิปสติกสีวาวขยับเป็นรอยยิ้ม

    มีอะไรรึเปล่าจ้ะ?

    คือ...หายใจเข้าลึกๆ ใจเย็นๆ คุณ วาคาบะ  นาเดชิโกะ  คนไข้ห้อง 709 ย้ายไปอยู่ห้องไหนเหรอครับ?

    วาคาบะ....อ๋อ! เอ...แต่ไม่ได้ย้ายห้องนี่คะพยาบาลสาวก้มลงมองเอกสารในมือ  รอยยิ้มบางๆ จับบนเรียวปาก เธอพื่งออกจากโรงพยาบาลไปวันนี้เองค่ะ

    ออกจากโพรงพยาบาล!”เรียวตะโกนลั่น 

    มันจะเป็นไปได้ยังไง! แม่เขายังไม่หายดีเลยแท้ๆ!

    ใช่ค่ะ ออกจากโรงพยาบาลไปวันนี้เอง...

    แต่แม่ผมยังไม่หายดีเลย  ย้ายไปไหนครับ  คุณพยาบาลรู้ไหม

    ไม่ทราบค่ะ  แจ้งแค่ว่ากลับบ้านนี่คะ  คุณหมอเซ็นรับรองด้วย

    เรียวเกือบจะประคองร่างกายไว้ไม่อยู่...เหตุผลที่หมอนั่นปล่อยเขาออกมา  ประจักษ์ชัดอยู่นี่แล้ว  หมอนั่นแค่อยากบอกกับเขาว่า  ไม่มีวันที่เขาจะหนีไปพ้น

    ในเมื่อมีแม่ของเขาเป็นตัวประกัน

    เด็กหนุ่มกัดริมฝีปากแน่น  ตัวสั่นระริกด้วยความโกรธ  เกิดมาไม่เคยเจอใครเลวขนาดนี้!! เอาผู้หญิงป่วยกระเซาะกระแซะเป็นตัวประกัน!!

                    ดวงตาสีน้ำตาลวาววับ  ความโกรธพลุ่งพล่านจนหูอื้อ  เขาทุบโต๊ะแรงๆ  ไม่สนใจว่าใครจะมองอย่างไรอีกแล้ว  เขารู้แต่ว่าอยากฆ่าหมอนั่น!

                เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าเขาลงมาถึงชั้น 1 ของรงพยาบาลได้อย่างไร  สติทั้งหมดเหมือนถูกกดจมอยู่ในความมืด  ไม่มีน้ำตาสักหยดเดียว... เพราะนี่ไม่ใช่เวลาจะมาร้องไห้

                    จะไปไหน?

                    ใครบางคนถามขึ้น...เรียกให้ฝีเท้าซึ่งเคลื่อนไปอย่างไร้จุดหมายหยุดชะงักอยู่ตรงนั้น  ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้าง  ระเบิดที่ถูกซุกไว้ในร่างกายถูกจุดชนวนในความเงียบ

                    ไม่มีคำตอบใดๆ ทั้งสิ้น  เรียวหมุนตัว  เขาสบตากับ ทาคาซึกิ  ทาคาโตะ ที่นั่งขยับยิ้มนุ่มนวลอยู่บนเก้าอี้รอผู้ป่วยของโรงพยาบาล  ดวงตาเบื้องหลังกรอบแว่นนั้นเป็นประกายล้อเลียน

                    พลั๊วะ!!!

                หมัดหนักๆ อัดเข้าที่ใบหน้าของทาคาโตะ  ร่างสูงนั้นเกือบตกจากเก้าอี้  เรียวพุ่งปราดไปหมายจะคว้าคอเข้ามาบีบให้ตายคามือ  ให้สมกับความเลวที่หมอนั่นทำไว้  แต่ทว่า  มือของเขากลับถูกรวบจับ  ก่อนอีกฝ่ายจะปล่อยหมัดพุ่งเข้าที่ช่องท้อง  ร่างโปร่งทรุดฮวบ  เกือบจะอาเจียนออกมา

                    เสียงกรี๊ดดังลั่นโรงพยาบาลเมื่อทาคาโตะเหวี่ยงร่างในอุ้งมือกระแทกกับเก้าอี้  รอยยิ้มหยันผุดพรายที่มุมปาก  เขาก้มลงกระชากคอเสื้อร่างที่ล้มลลุกคลุกคลานอยู่บนพื้นแล้วลากออกจากประตูโรงพยาบาลไปโดยที่ไม่มีใครห้ามเลยแม้แต่คนเดียว

                    อย่าได้กล้าหือกับฉันอีกเป็นครั้งที่สอง...ไม่งั้นนายเจ็บตัวแน่เด็กหนุ่มโยนเรียวเข้าไปในรถตู้ที่จอดรออยู่หน้าโรงพยาบาลก่อนจะตามเข้าไปสมทบแล้วปิดประตูดังลั่น

                    เรียวเบิกตากว้าง  ดวงตาสีสวยเป็นประกายวาวด้วยความเดือดดาล ก็เอาสิ! ฆ่าฉันเลย  เอาให้มันตายไปเลยดีกว่าจะให้อยู่เป็นทาสรองมือรองเท้าแก ไอ้สารเลว!”

                ทาคาโตะขยับยิ้ม  เขาเอนกายพิงเบาะรถซึ่งเคลื่อนที่ออกไปช้า ถ้านายอยู่แล้วทรมานกว่า...ฉันจะต้องฆ่านายทำไมล่ะ? อยู่แบบตายทั้งเป็นเนี่ยล่ะสะใจดี

                    เรียวทำท่าจะพุ่งเข้าใส่ทาคาโตะอีกครั้งแต่บอดี้การ์ดซึ่งประชิดอยู่ข้างตังล็อคแบนทั้งสองของเขาไว้  มือที่ราวกับคีมคีบเหล็กจับไหล่เขาซึ่งดิ้นรนสุดกำลัง  ดวงตาไม่ละไปจากใบหน้าของทาคาโตะ

                    นายคงยังไม่รู้สถานะตัวเองสินะ วาคาบะ เรียวร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงเบิกบานใจ หน้าที่ของนายมีเพียงอย่างเดียวคือฟังคำสั่งฉัน  ฉันบอกให้ซ้ายก็ซ้าย  บอกให้ขวาก็ขวา  นายจะขัดไม่ได้เด็ดขาด

                    เรียวถุยน้ำลายใส่หน้าอีกคนแทนคำตอบ  ซึ่งนั่นก็เพียงพอ...เมื่อมือขวาของทาคาโตะตวัดฉาด! ใบหน้าของเรียวสะบัดหัน  แก้มด้านซ้ายเป็นรอยแดง  เลือดไหลย้อยจากมุมปาก

                    ฟังให้ดี  วาคาบะ เรียว...ฉันจะพูดอีกครั้งจำใส่กะโหลกนายไว้  ถ้านายขัดคำสั่งฉัน  คนที่ได้รับโทษจะไม่ใช่นายแต่เป็น วาคาบะ  นาเดชิโกะถ้านายฆ่าตัวตาย คนที่จะตายก็คือ วาคาบะ นาเดชิโกะและถ้านายหนีไป  คนที่จะหายไปจากโลกนี้ก็คือ วาคาบะ  นาเดชิโกะ’”

                    ทาคาซึกิ  ทาคาโตะ  พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ...หากพุ่งลงทิ่มแทงใจของคนฟังจนแทบครองสติไม่อยู่ 

                    แกมัน...เรียวกลืนน้ำลลายหนืดๆ ลงคอ  พยายามสรรหาคำที่บรรยายความชั่วร้ายของคนตรงหน้า  หากก็แทบจะนึกไม่ออก หน้าตัวเมีย!”

                    จะต้องให้ฉันทวนอีกครั้งมั้ว่าแกอยู่ในสถานะอะไร!”เขาเอื้อมมือบีบกรามเรียว  จ้องมองดวงตาสีน้ำตาลใสซึ่งแลบเลียด้วยเพลิงแค้นกับเรือนผมสีแดงจัดจนส่งให้ดูเหมือนเขากำลังลุกไหม้

                    แกไม่มีสิทธิ์ด่า! ไม่มีสิทธิ์ขัดคำสั่งหรือทำอะไรทั้งสิ้นที่ฉันไม่อนุญาต! ไม่มีสิทธิ์ตายถ้าฉันไม่ได้สั่ง  เข้าใจรึเปล่า!”

                    ไอ้สารเลว!”

                    ถ้าแกด่าฉันอีกครั้งพรุ่งนี้แกได้ศพแม่วางอยู่ในห้องนอนแน่! ถ้าคิดว่าฉันไม่กล้าจะลองดูก็ได้!”

                    ดวงตาของทาคาโตะไม่มีแววล้อเล่น  เรียวกัดกรามแน่น  กล้ำกลืนคำสบถด่าเอาไว้ในลำคอ...เขาไม่กล้าเสี่ยง  ไม่กล้าลองว่าหมอนั่นจะทำจิงรึเปล่า  เพราะแม้จะมีกาสแค่เศษเสี้ยวเดียวที่จะทำให้แม่เป็นอันตรายเขาก็จะไม่ทำ

                    ดวงตาสีน้ำตาลใสจับจ้องทุกอณูใบหน้าของ ทาคาซึกิ  ทาคาโตะ ให้รับรู้ไปถึงวิญญาณว่าคนๆนี้เลวมากแค่ไหน! ให้มันรับรู้...ว่าถ้าถึงทีเขาบ้าง  มันจะต้องได้รับผลทุกอย่างที่เขาได้รับกลับไป!

                    อย่าให้ถึงทีเขาบ้างละกัน!!






    TBC




    ชอบๆ ก็เม้นท์กันหน่อยนะจ้ะ ดดส่วนตัวเพิ่งเคยแต่งแนวนี้นะ เม้นท์กันเข้านะคะ!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×