คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Fate chain 1.2 - ข้อต่อรอง
Fate chain
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันนี่
เรียวฟาดเท้าลงบนประตูระบายอารมณ์หงุดหงิดงุ่นง่าน เขาเดินพล่าน ในสมองวุ่นวายสับสนไปหมด
ไม่กี่นาทีก่อนเขายังคิดว่าเขาช่างโชคดีเหลือเกิน แล้วนี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!
เด็กหนุ่มกัดริมฝีปากจนช้ำเลือด ดวงตาสีน้ำตาลพราวระยับขณะหันรีหันขวางไปรอบตัว ห้องนี้มันคุกดีๆ นี่เอง! เตียงสีขาวโทรมๆ ตั้งอยู่ริมห้องมุมหนึ่ง ตู้เสื้อผ้าเก่าๆ วางอยู่ทางปลายเท้า มีโต๊ะเขียนหนังสือวางตั้งไม่ห่างกันนัก โอเค...เรียวไม่เถียงว่าห้องนี้ดูดีกว่าห้องเช่าเก่าๆ ของเขามาก แต่ที่บอกได้เต็มปากว่าคุกเพราะไอ้กล้องวงจรปิดเหนือหัวนี่ต่างหาก!
“เวรเอ๊ย!”เขาสบถพำ เหลียวไปรอบๆ เหมือนสัตว์ที่กำลังโกรธจัด
เขาคว้าได้เก้าอี้ไม้ กำลังเตรียมจะขว้างไปยังกล้องตัวที่ใกล้ที่สุด แต่เสียงๆ หนึ่งกลับหยุดการกระทำของเขาให้ชะงักงัน
“ถ้าฉันเป็นนาย...ฉันจะไม่ทำอะไรโง่ๆ แบบนั้นแน่!”เสียงเย็นเยียบฟังดูราวกับสะท้อนมาจากรอบทิศทาง
เรียวจำได้ทันทีว่ามันเป็นเสียงของ ทาคาซึกิ ทาคาโตะ เจ้าคนที่จับเขายัดเข้าห้องบ้าๆ นี่!
เด็กหนุ่มขยี้ริมฝีปากที่ช้ำเลือดอย่างหงุดหงิด เสียงนั้นคงดังออกมาจากลำโพงที่ใดที่หนึ่ง เขาแกล้งทำเป็นหูทวนลม พลางเล็งกล้องเหนือหัวอย่างเหมาะเหม็งแล้วเขวี้ยงสุดแรง!
เด็กหนุ่มเล็งได้อย่างแม่นยำ กระจกของกล้องแตกกระจาย เศษแก้วปลิวฟุ้ง เก้าอี้ไม้ตกลงกระแทกพื้นจนขาเก้าอี้หักไม่มีชิ้นดี เรียวหัวเราะเยือกเย็น
“นายนี่มันโง่เง่า...”เสียงของทาคาโตะเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “คิดว่ามีกล้องอันเดียวรึไง?”
“ไอ้ขี้ขลาด! แน่จริงก็ออกมาเจอกันตัวๆ สิวะ!”เด็กหนุ่มคำราม หันรีหันขวางไปรอบๆ พร้อมๆ กับกระชากขาเก้าอี้รุ่งริ่งออกมาสุดแรง
“ถ้าฉันเป็นนายฉันจะอยู่เฉยๆ”
“แก! ถ้าฉันออกไปได้แกตายแน่!”
“...ถ้าฉันตาย นายก็ต้องตายด้วยเหมือนกัน หรือบางที...นายอาจจะตายคนเดียวก็ได้”
“ช่างแม่ง! ฉันจะฆ่าแกให้ได้!”
“นายนี่มันโง่งมเสียเหลือเกิน...”หางเสียงผสมกับเสียงหัวเราะเสียดแทงใจ “คงยังไม่เข้าใจจริงๆ สินะ ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในสถานะไหน?”
“ก็สถานะพ่อแกไง!”เรียวสบถ ชูนิ้วกลางไปรอบทิศ
“ฉันจะให้อภัยในความไร้มรรยาทและแสดงความต่ำของสติปัญญาของนาย...และขอเตือนอีกครั้งว่าอยู่เฉยๆ ไม่งั้นจะหาว่าฉันไม่เตือนไม่ได้...”
“ฉันไม่กลัวแกหรอก! ไอ้สารเลว!”
...ไม่มีเสียงใดๆ ตอบกลับมาอีก...
“โว้ยยยยยยยยยย”เรียวทิ้งตัวลงบนพื้นอย่างสิ้นเรี่ยวแรง
บัดนี้ห้องที่เขาอยู่ไม่มีเค้าโครงสภาพเดิมอีกต่อไป...ทุกอย่างกระจัดกระจาย และพังเสียหายแทบทั้งหมด เก้าอี้ตัวสวยเละไม่มีชิ้นดี ตู้เสื้อผ้ากระจุยกระจายหน้าคว่ำกับพื้น ผ้าปูที่นอนถูกฉีกทึ้งเป็นชิ้นๆ เรียวหอบระรวย
อารมณ์ของเขาสงบลงไปมาก...แต่ก็ยังไม่ทั้งหมด
เขาเจอกล้องวงจรปิดที่ถูกซ่อนไว้ 5 ตัว และตอนนี้มันก็กลายเป็นเศษเหล็กไปเรียบร้อย เจ้าทาคาโตะทำแสบมาก! มันเล่นฝังลำโพงไว้ในกำแพง แถมคล้องโซ่ล็อคห้องจากข้างนอกเขาเลยสะเดาะกุญแจไม่ได้ หน้าต่างบานเดียวก็เป็นหน้าต่างระบายอากาศบานเหล็กกะจิ๋วแบบที่เขาไม่มีทางลอดผ่านไปได้
หงุดหงิดชะมัด!
ว่าแล้วว่าทุกอย่างมันดูดีเกินไป! คนที่ไม่รู้จักกันทำไมถึงคิดจะเลี้ยงดูเขา นอกจากจะมีจุดประสงค์แบบนี้มาแต่แรก คนสมัยนี้มันเชื่อใจไม่ได้ โดยเฉพาะพวกคนรวย!
“ว่าไง หมดฤทธิ์แล้วเหรอ?”
เสียงเรื่อยเฉื่อยที่สะท้อนไปมาทำให้อารมณ์ที่ตกตะกอนขุ่นข้นขึ้นมาอีกครั้ง ...เขายังทำลายกล้องได้ไม่หมด ไม่งั้นมันคงไม่รู้ถึงการเคลื่อนไหวของเขา...
“อยากออกไปจากที่นี่รึเปล่า?”
“ถ้าฉันออกไปได้ แกตายแน่!”
“ฉันไม่คิดอย่างนั้นหรอกนะ”หางเสียงแฝงความนัยอย่างประหลาด หากอารมณ์โมโหของเรียวปิดบังดวงตาจนพร่าเลือน
“วันที่ฉันออกไปได้จะเป็นวันตายของแก!”
“ของแม่นายด้วยรึเปล่า?”
คำพูดด่าที่เตรียมไว้จุกอัดอยู่ที่ลำคอ
ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้าง ร่างโปร่งยันกายพรวดขึ้น หัวใจเต้นถี่ระรัวด้วยความหวาดหวั่น “หมายความว่าไง แกทำอะไรกับแม่ฉัน!”
“ทำอะไร...จะให้ฉันทำอะไรกับคนที่ทำให้ครอบครัวฉันพังกันล่ะ?”
เหมือนโดนค้อนทุบหัวจนมึนงงไปหมด เขาหมุนคว้าง สับสนจนทำอะไรไม่ถูกทั้งสิ้น “แกทำอะไรแม่ฉัน! บอกมาเดี๋ยวนี้ ทาคาซึกิ ทาคาโตะ! บอกมา!”เด็กหนุ่มกรีดเสียง
เสียงหัวเราะเยือกเย็นฟังราวกับเสียงจากนรก เรียวสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงดัง ...แกร๊ก... จากหน้าประตู
“ค่าเดินทางอยู่หน้าห้อง อย่าลืมหยิบไปล่ะ”
นั่นเป็นคำพูดสุดท้าย พร้อมๆ กับประตูห้องซึ่งเปิดออกกว้างเชิญชวนให้เขาก้าวเดินออกไป...เรียวรู้อยู่เต็มอกว่าการเดินออกไป ก็เหมือนกับเดินไปติดกับดัก แต่ไม่มีทางเลือกอีกแล้ว...
...ต่อให้ต้องกระโจนลงสู่กับดัก เขาก็ต้องไป...
*************
ที่แรกที่เรียวไปคือโรงพยาบาลซึ่งแม่รักษาตัวอยู่
ตลอดทางที่มาโรงพยาบาล ในหัวของเขาตีกันสับสนไปหมด...คำพูดเมื่อตอนเย็นของ ทาคาซึกิ ทาคาโตะ ยังวนเวียนอยู่ในหัว เขาพยายามตีความซ้ำไปซ้ำมาจนหัวแทบระเบิดแต่ก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลยสักนิด
หมอนั่นบอกว่าแม่เขาเป็นชู้ ไม่มีทาง! แม่ของเขาเป็นคนดี เขารู้จักแม่ของตัวเองดีกว่าใครๆ ไม่มีทางที่แม่จะทำเรื่องแบบนั้น
เรียวกัดเล็บ ชะเง้อชะแง้นั่งไม่ติดที่ เขากระวนกระวายจะไปให้ถึงโรงพยาบาลโดยไว มันต้องมีอะไรแน่ๆ เจ้าหมอนั่นถึงปล่อยเขาออกมาได้ง่ายดายขนาดนี้ คนที่บอกว่าจะทำให้เขาตกนรกทั้งเป็นซ้ำยังโยนใส่ห้องขังอย่างไม่มีปราณี แต่ไม่กี่ชั่วโมงถัดมากลับปล่อยเขาออกมาแล้ว
มันต้องมีอะไรแน่...ต้องมีอะไร
เขาไม่สบายใจเอาเสียเลย
เรียวรีบกระโจนออกจากรถเมื่อถึงที่หมาย ท้องฟ้าเริ่มมืดลงทุกขณะอีกไม่นานจะหมดเวลาเยี่ยม...เด็กหนุ่มกดลิฟท์อย่างเอาเป็นเอาตาย ในหัวใจเต้นระรัว รู้สึกสังหรณ์อย่างประหลาด
อย่าเป็นอะไรไปนะแม่ อย่าเป็นอะไรไปนะ
เด็กหนุ่มพุ่งออกจาลิฟท์ ขาทั้งสองข้างวิ่งให้ไวที่สุดเท่าที่กำลังจะอำนวย พยาบาลคนหนึ่งตำหนิเมื่อเขาวิ่งผ่านแต่คำพูดนั้นลอยผ่านหูไปเหมือนสายลมเบาบาง ...ประตูห้อง 709 อยู่ตรงหน้าแล้ว เรียวกระชากเปิดออกอย่างรวดเร็ว
ภายในห้องนั้น...มืดสนิทและว่างเปล่า
เรียวควานหาสวิตซ์ไฟอย่างเอาเป็นเอาตาย รู้สึกได้ว่ามือที่กวาดสะเปะสะเปะนั้นสั่นระริก มีกี่วินาทีเขาก็คลำเจอ แสงไฟกระพริบวาบก่อนจะให้ความสว่างไปรอบห้องพัก...แต่ก็ยังไม่มีแม้แต่เงาของมารดา
“แม่ แม่อยู่ไหมครับ!”เด็กหนุ่มพุ่งไปที่ประตูห้องน้ำ แต่ก็ไม่มีใคร กระเบื้องสีขาวแห้งสนิท...
เรียวรู้สึกว่าโลกทั้งโลกหมุนคว้าง ริมฝีปากบางสั่นระริก เด็กหนุ่มพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ความหวาดหวั่นเกือบจะทำให้เขาทรงกายอยู่ไม่ได้ แม่ของเขา...หายไปอย่างไร้ร่องรอย
เขาพยายามตั้งสติ เป็นไปไม่ได้ที่คนหายไปทั้งคนจะไม่มีใครรู้
บางที... เขาพยายามมองโลกในแง่ดี แม่อาจจะแค่ย้ายห้องพัก ใช่ ต้องเป็นแบบนั้นแน่!
เรียววิ่งกลับไปยังเคาท์เตอร์พยาบาล มือสองข้างที่ยันพื้นโต๊ะสั่นระริก พยาบาลสาวเหลือบตาขึ้นมองด้วยอาการงุนงง เรียวปากที่เคลือบไว้ด้วยลิปสติกสีวาวขยับเป็นรอยยิ้ม
“มีอะไรรึเปล่าจ้ะ?”
“คือ...”หายใจเข้าลึกๆ ใจเย็นๆ “คุณ วาคาบะ นาเดชิโกะ คนไข้ห้อง 709 ย้ายไปอยู่ห้องไหนเหรอครับ?”
“วาคาบะ....อ๋อ! เอ...แต่ไม่ได้ย้ายห้องนี่คะ”พยาบาลสาวก้มลงมองเอกสารในมือ รอยยิ้มบางๆ จับบนเรียวปาก “เธอพื่งออกจากโรงพยาบาลไปวันนี้เองค่ะ”
“ออกจากโพรงพยาบาล!”เรียวตะโกนลั่น
มันจะเป็นไปได้ยังไง! แม่เขายังไม่หายดีเลยแท้ๆ!
“ใช่ค่ะ ออกจากโรงพยาบาลไปวันนี้เอง...”
“แต่แม่ผมยังไม่หายดีเลย ย้ายไปไหนครับ คุณพยาบาลรู้ไหม”
“ไม่ทราบค่ะ แจ้งแค่ว่ากลับบ้านนี่คะ คุณหมอเซ็นรับรองด้วย”
เรียวเกือบจะประคองร่างกายไว้ไม่อยู่...เหตุผลที่หมอนั่นปล่อยเขาออกมา ประจักษ์ชัดอยู่นี่แล้ว หมอนั่นแค่อยากบอกกับเขาว่า ไม่มีวันที่เขาจะหนีไปพ้น
ในเมื่อมีแม่ของเขาเป็นตัวประกัน
เด็กหนุ่มกัดริมฝีปากแน่น ตัวสั่นระริกด้วยความโกรธ เกิดมาไม่เคยเจอใครเลวขนาดนี้!! เอาผู้หญิงป่วยกระเซาะกระแซะเป็นตัวประกัน!!
ดวงตาสีน้ำตาลวาววับ ความโกรธพลุ่งพล่านจนหูอื้อ เขาทุบโต๊ะแรงๆ ไม่สนใจว่าใครจะมองอย่างไรอีกแล้ว เขารู้แต่ว่าอยากฆ่าหมอนั่น!
เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าเขาลงมาถึงชั้น 1 ของรงพยาบาลได้อย่างไร สติทั้งหมดเหมือนถูกกดจมอยู่ในความมืด ไม่มีน้ำตาสักหยดเดียว... เพราะนี่ไม่ใช่เวลาจะมาร้องไห้
“จะไปไหน?”
ใครบางคนถามขึ้น...เรียกให้ฝีเท้าซึ่งเคลื่อนไปอย่างไร้จุดหมายหยุดชะงักอยู่ตรงนั้น ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้าง ระเบิดที่ถูกซุกไว้ในร่างกายถูกจุดชนวนในความเงียบ
ไม่มีคำตอบใดๆ ทั้งสิ้น เรียวหมุนตัว เขาสบตากับ ทาคาซึกิ ทาคาโตะ ที่นั่งขยับยิ้มนุ่มนวลอยู่บนเก้าอี้รอผู้ป่วยของโรงพยาบาล ดวงตาเบื้องหลังกรอบแว่นนั้นเป็นประกายล้อเลียน
พลั๊วะ!!!
หมัดหนักๆ อัดเข้าที่ใบหน้าของทาคาโตะ ร่างสูงนั้นเกือบตกจากเก้าอี้ เรียวพุ่งปราดไปหมายจะคว้าคอเข้ามาบีบให้ตายคามือ ให้สมกับความเลวที่หมอนั่นทำไว้ แต่ทว่า มือของเขากลับถูกรวบจับ ก่อนอีกฝ่ายจะปล่อยหมัดพุ่งเข้าที่ช่องท้อง ร่างโปร่งทรุดฮวบ เกือบจะอาเจียนออกมา
เสียงกรี๊ดดังลั่นโรงพยาบาลเมื่อทาคาโตะเหวี่ยงร่างในอุ้งมือกระแทกกับเก้าอี้ รอยยิ้มหยันผุดพรายที่มุมปาก เขาก้มลงกระชากคอเสื้อร่างที่ล้มลลุกคลุกคลานอยู่บนพื้นแล้วลากออกจากประตูโรงพยาบาลไปโดยที่ไม่มีใครห้ามเลยแม้แต่คนเดียว
“อย่าได้กล้าหือกับฉันอีกเป็นครั้งที่สอง...ไม่งั้นนายเจ็บตัวแน่”เด็กหนุ่มโยนเรียวเข้าไปในรถตู้ที่จอดรออยู่หน้าโรงพยาบาลก่อนจะตามเข้าไปสมทบแล้วปิดประตูดังลั่น
เรียวเบิกตากว้าง ดวงตาสีสวยเป็นประกายวาวด้วยความเดือดดาล “ก็เอาสิ! ฆ่าฉันเลย เอาให้มันตายไปเลยดีกว่าจะให้อยู่เป็นทาสรองมือรองเท้าแก ไอ้สารเลว!”
ทาคาโตะขยับยิ้ม เขาเอนกายพิงเบาะรถซึ่งเคลื่อนที่ออกไปช้า “ถ้านายอยู่แล้วทรมานกว่า...ฉันจะต้องฆ่านายทำไมล่ะ? อยู่แบบตายทั้งเป็นเนี่ยล่ะสะใจดี”
เรียวทำท่าจะพุ่งเข้าใส่ทาคาโตะอีกครั้งแต่บอดี้การ์ดซึ่งประชิดอยู่ข้างตังล็อคแบนทั้งสองของเขาไว้ มือที่ราวกับคีมคีบเหล็กจับไหล่เขาซึ่งดิ้นรนสุดกำลัง ดวงตาไม่ละไปจากใบหน้าของทาคาโตะ
“นายคงยังไม่รู้สถานะตัวเองสินะ วาคาบะ เรียว”ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงเบิกบานใจ “หน้าที่ของนายมีเพียงอย่างเดียวคือฟังคำสั่งฉัน ฉันบอกให้ซ้ายก็ซ้าย บอกให้ขวาก็ขวา นายจะขัดไม่ได้เด็ดขาด”
เรียวถุยน้ำลายใส่หน้าอีกคนแทนคำตอบ ซึ่งนั่นก็เพียงพอ...เมื่อมือขวาของทาคาโตะตวัดฉาด! ใบหน้าของเรียวสะบัดหัน แก้มด้านซ้ายเป็นรอยแดง เลือดไหลย้อยจากมุมปาก
“ฟังให้ดี วาคาบะ เรียว...ฉันจะพูดอีกครั้งจำใส่กะโหลกนายไว้ ถ้านายขัดคำสั่งฉัน คนที่ได้รับโทษจะไม่ใช่นายแต่เป็น ‘วาคาบะ นาเดชิโกะ’ ถ้านายฆ่าตัวตาย คนที่จะตายก็คือ ‘วาคาบะ นาเดชิโกะ’ และถ้านายหนีไป คนที่จะหายไปจากโลกนี้ก็คือ ‘วาคาบะ นาเดชิโกะ’”
ทาคาซึกิ ทาคาโตะ พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ...หากพุ่งลงทิ่มแทงใจของคนฟังจนแทบครองสติไม่อยู่
“แกมัน...”เรียวกลืนน้ำลลายหนืดๆ ลงคอ พยายามสรรหาคำที่บรรยายความชั่วร้ายของคนตรงหน้า หากก็แทบจะนึกไม่ออก “หน้าตัวเมีย!”
“จะต้องให้ฉันทวนอีกครั้งมั้ว่าแกอยู่ในสถานะอะไร!”เขาเอื้อมมือบีบกรามเรียว จ้องมองดวงตาสีน้ำตาลใสซึ่งแลบเลียด้วยเพลิงแค้นกับเรือนผมสีแดงจัดจนส่งให้ดูเหมือนเขากำลังลุกไหม้
“แกไม่มีสิทธิ์ด่า! ไม่มีสิทธิ์ขัดคำสั่งหรือทำอะไรทั้งสิ้นที่ฉันไม่อนุญาต! ไม่มีสิทธิ์ตายถ้าฉันไม่ได้สั่ง เข้าใจรึเปล่า!”
“ไอ้สารเลว!”
“ถ้าแกด่าฉันอีกครั้งพรุ่งนี้แกได้ศพแม่วางอยู่ในห้องนอนแน่! ถ้าคิดว่าฉันไม่กล้าจะลองดูก็ได้!”
ดวงตาของทาคาโตะไม่มีแววล้อเล่น เรียวกัดกรามแน่น กล้ำกลืนคำสบถด่าเอาไว้ในลำคอ...เขาไม่กล้าเสี่ยง ไม่กล้าลองว่าหมอนั่นจะทำจิงรึเปล่า เพราะแม้จะมีกาสแค่เศษเสี้ยวเดียวที่จะทำให้แม่เป็นอันตรายเขาก็จะไม่ทำ
ดวงตาสีน้ำตาลใสจับจ้องทุกอณูใบหน้าของ ทาคาซึกิ ทาคาโตะ ให้รับรู้ไปถึงวิญญาณว่าคนๆนี้เลวมากแค่ไหน! ให้มันรับรู้...ว่าถ้าถึงทีเขาบ้าง มันจะต้องได้รับผลทุกอย่างที่เขาได้รับกลับไป!
อย่าให้ถึงทีเขาบ้างละกัน!!
TBC
ชอบๆ ก็เม้นท์กันหน่อยนะจ้ะ ดดส่วนตัวเพิ่งเคยแต่งแนวนี้นะ เม้นท์กันเข้านะคะ!
ความคิดเห็น