ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Nor like(yaoi)

    ลำดับตอนที่ #3 : Nor Like 2 - The Beginning

    • อัปเดตล่าสุด 5 ม.ค. 53


    Nor Like


    02 The Beginning




    “อรุณสวัสดิ์วาคาบายาชิ”


    เสียงทักทายดังขึ้นเมื่อเด็กหนุ่มเดินเข้าห้อง เขาเดินเข้าไปทักทายเฮฮาตามประสา ก่อนจะเดินผ่านเลยไปวางกระเป๋าที่โต๊ะข้างหน้าต่าง


    “อรุณสวัสดิ์สึโยชิ”คำทักทายเสียงใสที่สึโยชิหันไปยิ้มกว้างรับ ก่อนจะรีบกระวีกระวาดไปนั่งข้างๆเด็กหนุ่มหน้าหวานคนทัก


    “อรุณสวัสดิ์ยูยะ ...คาวามูระ”เขาเรียกเด็กหนุ่มหน้าหวานอย่างสนิทสนมก่อนจะขยี้ผมสีน้ำตาลนั้นอย่างมันเขี้ยว แสร้งทำเป็นไม่มองอีกคนที่เขาเอ่ยอรุณสวัสดิ์ไปพร้อมกับยูยะ


    “พอแล้ว สึโยชิ”เสียงหวานเอ่ยปราม มือบางพยายามจัดทรงผมของตนให้เข้าที่เข้าทาง

    พอเห็นกิริยาอาการอย่างนั้นสึโยชิก็อดจะยิ้มเอ็นดูไม่ได้ เขาเท้าคางเข้ากับโต๊ะเรียนก่อนจะเหม่อมองร่างเล็กๆที่ตอนนี้หน้าขึ้นสีก่ำ แสร้งหลบสายตาของเขาด้วยท่าทางน่ารัก...




    ปัง!


    บรรยากาศหวานๆนั่นถูกขัดด้วยเสียงเตะโต๊ะโครมใหญ่
    เขาถึงกับสะดุ้ง หันไปมองคนทำเสียงด้วยแววตาไม่ชอบใจอย่างไม่คิดจะปิดบัง


    คาวามูระ นารุมิ!


    เจ้าคนที่บัดนี้จ้องเขาด้วยท่าทางชิงชังพอๆกัน ดวงตาสีดำคมสบกับดวงตาเล็กเรียวของสึโยชิด้วยท่าทางเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ


    หมอนี่ดูจะไม่ชอบตั้งแต่เขาเข้ามาสนิทกับยูยะ
    ความผิดของเขารึไงที่เก็บยางลบให้ยูยะวันสอบเข้า แล้วเจ้าตัวก็ถือเป็นบุญคุณใหญ่หลวงจนเข้ามาสนิทสนมกับเขาก่อน!


    ความผิดของเขารึไงที่เขาจะอดเอ็นดูยูยะไม่ได้!(ก็น่ารักซะขนาดนั้น)
    ความผิดของเขารึไงที่เขากับยูยะจะสนิทสนมกัน!(ก็เล่นมาพัวพันนัวเนียตลอดใครจะใจไม่อ่อนบ้างล่ะ)


    จะผิดอยู่เรื่องเดียวก็เรื่องที่ยูยะมีไอ้บอดี้การ์ดตัวโตติดมาด้วยตลอดน่ะแหละ!




    “สึโยชิ... จะเข้าชมรมอะไรคิดไว้รึยังล่ะ”เสียงเรียกของยูยะที่ดูเหมือนจะพยายามทำลายบรรยากาศร้อนระอุ เขาหันกลับมามองยูยะ ทำเป็นไม่ใส่ใจดวงตาแค้นเคืองของบุคคลที่สาม


    “ชมรมรักบ้าน”เขาตอบยิ้มๆ แต่เล่นเอาอีกฝ่ายหลุดขำออกมา


    “บ้าเหรอ!”คำว่าไม่จริงจังทำให้บรรยากาศตรงนั้นกลับมาหวานเชื่อมอีกครั้ง


    “แล้วนายล่ะ”สึโยชิถามกลับ


    “ชมรมเคนโด้ ชมรมเดียวกับนารุมิ”คำบอกที่สึโยชิค้างไปนิดหนึ่งก่อนจะพยักหน้าหงึกหงักรับรู้


    เหลือบไปมองเจ้าคนนั่งหน้าตึงแล้วก็พาลให้เสียอารมณ์ หมอนั่นน่ะเขาไม่อยากจะยอมรับหรอกว่าหน้าตาดีจัดว่าดีมาก บวกกับท่าทางเงียบขรึมเย็นชาทำให้ตั้งแต่เริ่มเข้าโรงเรียน สาวๆก็พากันกรี๊ดกร๊าดหมอนี่


    แต่ก็ไม่เห็นว่าหมอนี่จะสนใจใครหน้าไหนนอกจากยูยะ ที่ตัวติดกันตั้งแต่เช้าจรดเย็น ถ้าเขาจำไม่ผิด ยูยะเคยเล่าให้เขาฟังว่าเป็นเพื่อนกับหมอนั่นมาตั้งแต่เด็กๆ ...เขาสงสัยว่า ที่เจ้าหมอนั่นไม่พอใจเขาก็คงจะเป็นเรื่องที่เขาเข้ามาสนิทสนมกับยูยะเกินไป แต่นี่เขายังรู้จักยูยะไม่ถึงเดือนเสียหน่อย บางทีถ้าคบกันไปเรื่อยๆหมอนั่นอาจจะเลิกเหม็นหน้าเขาก็ได้ ...บางทีนะบางที...





    ข้าวกล่องถูกกินไปแค่3-4คำเท่านั้นเมื่อสึโยชิรับรู้ถึงการสั่นของโทรศัพท์มือถือ เขาคว้าโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงก่อนจะจ้องชื่อของคนโทรเข้าด้วยท่าทางแปลกใจน้อยๆ


    “มีอะไรสึโบมิ”เด็กหนุ่มกดรับก่อนจะพูดกรอกลงไปเสียงเอื่อยๆ


    ยูยะเงยหน้าขึ้นมามองก่อนจะก้มลงไปเมื่อเขายิ้ม พร้อมโบกมือว่าไม่มีอะไร






    “พี่... พี่ทำไปรึยัง?”


    คำถามที่สึโยชิเลิ่กคิ้วอย่างฉงน เขาโยกเก้าอี้เล่นอย่างเคยนิสัยพลางถามกลับ


    “ทำอะไร?”ว่าพลางตักข้าวเข้าปากอีกคำ


    ...ดูเหมือนคำถามของเขาจะสร้างความลำบากใจให้ทางปลายสาย เด็กสาวอึกอักไปครู่ก่อนจะพ่นลมหายใจใส่โทรศัพท์...


    “ดีแล้วล่ะค่ะที่ไม่กล้าลอง หนูไม่กวนแล้วล่ะค่ะ แค่นี้นะคะ”


    “เฮ้ย เดี๋ยวเด่ะสึโบมิ!”เขารีบพูดเมื่ออีกฝ่ายทำท่าจะวาง
    สมองของเด็กหนุ่มประมวลผลอย่างรวดเร็ว ...ดูเหมือนว่ามันจะติดๆอยู่ที่หัวแต่ก็นึกไม่ออก


    “คือ... ฉันลองไปแล้วน่ะ”เด็กหนุ่มแกล้งพูดเผื่ออีกฝ่ายจะตกหลุมพราง ...และดูเหมือนจะได้ผล...


    “หา! พี่มีอะไรกับผู้ชายแล้วเหรอคะ”เสียงตะโกนที่เล่นเอาเขาพลัดตกจากเก้าอี้ โทรศัพท์แทบลื่นหลุดจากมือ ยังดีที่สติของเขายังดีพอที่จะคว้าไว้ทัน


    นี่ยัยสึโบมิยังจำเรื่องที่เขาพูดส่งๆไปเมื่อคืนได้อีกเหรอเนี่ย!








    เขาโบกมือบอกยูยะที่ทำท่าจะเข้ามาประคองว่าไม่เป็นไร ก่อนจะจับเก้าอี้ตั้งแล้วทรุดตัวลงนั่งด้วยท่าทางที่พยายามจะให้เป็นปกติที่สุด


    เด็กหนุ่มรวบรวมสติอยู่ครู่ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาแนบหูอีกครั้ง


    “นี่เธอยังไม่ลืมอีกเหรอ”เขาพูดเสียงแห้ง มือเสยผมขยี้ไปมา


    “ก็... มันคาใจนี่... แต่พี่ไม่กล้าลองก็ดีแล้วนะคะ”


    “ใครว่าไม่กล้า!”เขาชักจะเสียงแข็งเมื่อได้ยินคำสบประมาท


    “ก็พี่น่ะแหละ ไม่รอดหรอกค่ะ จากจะไปจับเขากดจะไปโดนเขากดมากกว่า”


    “แล้วฉันจะพิสูจน์ให้ดูว่าทำได้!”เสียงคราวนี้เป็นตะโกนจนคนทั้งห้องหันมามองเป็นตาเดียว เด็กหนุ่มกดวางก่อนจะยัดโทรศัพท์ลงกระเป๋าด้วยท่าทางหงุดหงิด



    ...เขาไม่รู้หรอกว่าได้ตกหลุมพรางของทางปลายสายที่จ้องมองโทรศัพท์ด้วยรอยยิ้มละไม...




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×