ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fate chain[yaoi]

    ลำดับตอนที่ #2 : Fate chain 1.1- ผู้ช่วยเหลือ?

    • อัปเดตล่าสุด 12 พ.ค. 52


    Fate chain 1







    นัยน์ตาเรียวสีน้ำตาลอ่อนเพ่งมองซองเงินในมือ... ริมฝีปากบางเม้มแน่นขณะเหลียวไปรอบด้านพร้อมกับซุกซองนั้นลงในกระเป๋ากางเกง  เขายกมือขึ้นขยี้ผมย้อมสีแดงเพลิงเล็กน้อยก่อนจะเปิดประตูโรงรถออกไปยังเบื้องนอก

                    เรียวจัง  มืดขนาดจะไปไหนอีกเหรอจ้ะ คุณป้าร่างท้วมทักเขาอย่างใจดี  เด็กหนุ่มขยับยิ้มตอบ

                    เดี๋ยวผมไปเยี่ยมแม่ก่อนครับ  อีกสักพักคงกลับ  คุณป้าอย่าเพิ่งล็อคห้องนะครับ

                    ได้จ้ะ  แต่อย่าดึกนักนะเดี๋ยวตาแก่จะโวยวายเอา

                    เขาโค้งให้หญิงที่เป็นทั้งนายจ้างและเจ้าของที่ซุกหัวนอนอย่างนอบน้อม  รอยยิ้มบางๆ ซึ่งประดับบนเรียวปากสวยของเด็กหนุ่มชวนให้คนมองนึกเอ็นดู...

                   

                    เรียวกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปตามทาง  เขายกมือขึ้นมองนาฬิกาด้วยความเคยชินและลืมไปสนิทว่าเขาเพิ่งเอามันไปจำนำเมื่อวันก่อน  เด็กหนุ่มย้ายไปล้วงกระเป๋ากางเกงและคว้าโทรศัพท์มือถือเก่าคร่ำคร่าจนไม่น่าเชื่อว่าจะยังใช้ได้อยู่

                    เกือบ 6 โมงแล้ว เขาพึมพำเบาๆ เร่งฝีเท้ายิ่งขึ้น

                    เด็กหนุ่มเกือบหงายท้องเมื่อชนเข้ากับใครคนหนึ่งเข้าจังเบ้อเร่อ  เรียวเงยหน้าขึ้น  แต่เมื่อพบคู่กรณี  ใบหน้าก็พลันเปลี่ยนสีอย่างรวดเร็ว

                    เรียว! มิจจี้บอกฉันว่านายเอามอเตอร์ไซค์ไปขายเป็นความจริงเหรอ เสียงนั้นเหมือนสายฟ้าฟาดและแผดลงกลางใจของเด็กหนุ่มที่ฝืนยิ้มฝืดเฝื่อน

                    เพียงเขาพยักหน้าเบาๆ อีกคนก็เหมือนพองลมขึ้น 2-3 เท่า  ใบหน้าของหมอนั่นเปลี่ยนเป็นสีเขียวสลับซีดดูน่าตลก...แต่เขาก็ขำไม่ออก

                    รถนั่นมันเป็นชีวิตจิตใจของนายไม่ใช่เหรอ! แล้วนาย...

                    พูดหยั่งกับฉันมีทางเลือกอื่น  นายก็รู้นี่หว่าโย...กำหนดจ่ายของโรงพยาบาลใกล้จะมาถึงแล้ว

                    แต่ถึงอย่างนั้น...

                    ฉันไม่มีทางเลือก  แต่ถึงให้เลือกอีกครั้งฉันก็จะทำ  แม่ของฉันสำคัญกว่า...นายก็รู้...ฉันเหลือแม่แค่คนเดียว

                    ใช่... ชีวิตเขามันเหมือนละครน้ำเน่าไม่มีผิด!

                    ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงไปเมื่อแม่ป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลเมื่อ 1 ปีก่อน  แม่ที่เสมือนหลักยึดของบ้านล้มลงเหลือเพียงเขาที่เป็นเด็ก ม. ต้น เพียงคนเดียว  พวกเขาต้องขายบ้านมาจ่ายค่าโรงพยาบาล  ย้ายไปอยู่ อพาร์ทเมนต์เล็กๆ ขายเครื่องเรือนเกือบทุกชิ้นจนไม่มีเหลือ  ท้ายสุด... เขาต้องย้ายจากที่นั่นไปอยู่ที่ห้องเช่าเก่าซอมซ่อและแคบเท่ารูหนูที่มีคนใจบุญอุทิศให้  โดยเขาต้องทำงานในอู่ซ่อมรถเป็นการตอบแทน

                    แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก  เพราะตั้งแต่ ม.ต้น เขาก็อุทิศชีวิตให้กับเครื่องยนต์กลไกพวกนี้มาตลอด  เขาหลงรักเจ้าเครื่อง 2 ล้อนี่อย่างถอนตัวไม่ขึ้น  เรียวยังจำได้ดีเมื่อตอน ม.ต้น ปี 2 เงินเก็บเขารวมกับเงินที่แม่ช่วยเหลือนิดหน่อยสามารถถอยเจ้ามอเตอร์ไซค์คันงามสุดที่รักของเขาออกมาได้  เกือบทุกคืนเขาจะขับมันออกไปร่อนพร้อมเพื่อนร่วมอุดมการณ์โดยไม่สนใจว่าใครจะว่ายังไง  แต่โชคชะตาก็ตลกร้ายอย่างไม่น่าเชื่อ...เพราะเขาจะต้องเสียมันไปภายในระยะเวลาแค่ปีเดียว

                    ฉันได้ยินมาอีกว่านายจะไม่เรียน ม.ปลาย น้ำเสียงของโยเรียกให้เขาถอนหายใจก่อนจะพยักหน้ารับ

                    ฉันไม่มีเงิน  อีกอย่าง  ตัวฉันก็หัวไม่ดีอยู่แล้ว  นายอย่าพูดอีกเลยว่ะโย  ฉันตัดสินใจแล้ว  หลีกทางฉันรีบ

                    เรียว!”

                    และไม่ว่าอีกฝ่ายจะเรียกยังไงเขาก็ไม่หันกลับไปอีก...

     

     

                   

                    ร่างสูง 173 ซม. ของเรียวเคลื่อนที่ไปบนทางเดินโรงพยาบาลอย่างรวดเร็วแม้จะพยายามถนอมดอกไม้ในมือสุดความสามารถ  เขาแย้มรอยยิ้มให้พยาบาลหน้าห้องเล็กน้อยก่อนจะเลื่อนเปิดประตู

                    แม่! ดูสิผมมีอะไรมาฝาก

                    หญิงบนเตียงปรายตามามองทางเรียว  เธอยิ้มกว้างพลางกวักมือเรียกเขาที่ยืนมองรอบด้านปริบๆ

                    ชายในชุดสูทสีดำซึ่งยืนอยู่ข้างเตียงขยับกรอบแว่นตาดันขึ้น  นัยน์ตาสีน้ำตาลมองเขาเพียงชั่วครู่ก่อนจะเลื่อนสายตากลับไปที่เดิม

                    งั้นผมขอตัว เขาโค้งอย่างสุภาพและเดินสวนเรียวออกไปจากห้อง  เด็กหนุ่มกระพริบตางุนงง

                    ใครครับแม่? เจ้าหนี้รึเปล่านะ...

                    อีกฝ่ายเลี่ยงคำถามด้วยรอยยิ้ม  รอยยิ้มหวานที่ดูสดใสเสมอแบบที่กาลเวลาไม่อาจพรากความอ่อนละมุนไปจากใบหน้านั้น  เรียวระบายลมหายใจหนักๆ  เขาตัดใจว่าคงไม่ได้คำตอบจึงเดินไปเปลี่ยนดอกไม้ในแจกันแทน

                    ผอมลงไปนะ ...กินข้าวครบรึเปล่า?

                    เรียวฝืนไม่สบตาขณะพยักหน้ารับทั้งๆ ที่กระเพาะกำลังส่งเสียงประท้วง แม่ไม่ต้องห่วงผมหรอกครับ  รักษาตัวให้หายเถอะ

                    เรียว...เสียงนั้นเจือแววกังวล  ปลายนิ้วสวยเอื้อมจับมือลูกชายรั้งให้หันมาสบตา 

                    ดวงตาของเธอวูบไหวราวกับแสงเทียน  ความหมายหลากหลายถ่ายทอดผ่านแววตาอบอุ่นห่วงหา  เด็กหนุ่มบีบกระชับมืออ่อนนุ่มของมารดาก่อนจะยิ้มหวานสร้างความมั่นใจให้อีกฝ่าย ผมสบายดีครับแม่...ไม่ต้องห่วงนะ

                    มารดาหลุบตาลงต่ำก่อนจะช้อนมองอีกครั้ง  ริมฝีปากบางเม้มแน่น

                    เรียว...ไปอยู่กับเพื่อนแม่เถอะลูก

                    เพื่อนแม่? เขาทวนคำ  มารดาหยักหน้ารับ

                    ลูกเห็นคนเมื่อกี้แล้วใช่ไหม  เขาเป็นพ่อบ้านของเพื่อนแม่

                    ผมไม่ยักเคยรู้ว่าแม่มีเพื่อนแบบนั้น เรียวประชดเพราะรู้ว่าคนตรงหน้าโกหก  แต่เมื่อสบกับดวงตาสีน้ำตาลอ่อนฉายประกายจริงจังก็ชักเริ่มไม่แน่ใจ

                    เรารู้จักกันตอนที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัย...ก่อนจะมาแต่งงานกับพ่อ เธอเว้นช่วง  อะไรบางอย่างในน้ำเสียงนั้นเรียกให้เด็กหนุ่มสนใจ ตอนนี้เขาเป็นเจ้าของทาคาซึกิกรุ๊ป  ทาคาซึกิ  ฮิโรเสะ

                    ไม่ยักรู้จัก

                    ก็เราน่ะอ่านข่าวกับเขาที่ไหนล่ะ เรียวยิ้มเผล่รับ  พลางยักไหล่ไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญ

                    ผมก็ไม่ยักรู้ว่าแม่เริ่มอ่านนิยาย  ไม่ต้องมาหลอกให้ผมดีใจหรอกครับ  ผมดูแลค่าใช้จ่ายไหวน่า

                    แม่พูดเรื่องจริงอยู่เรียว น้ำเสียงนั้นเริ่มดุ

                    ดวงตากลมโตงดงามไล่มองลูกชายเพียงคนเดียวนิ่งอยู่เช่นนั้น  เธอระบายลมหายใจหนักๆ แม่ไม่น่าล้มป่วย...

                    เราห้ามไม่ให้ป่วยได้หรือไงกันครับ?

                    ถ้าแม่ไม่ป่วยลูกคงไม่ต้องลำบาก...ไปอยู่กับทาคาซึกิซังสักพักนะเรียว  เขาสัญญากับแม่ว่าจะช่วยลูก

                    ผมไม่อยากอยู่กับคนที่ไม่รู้จักหรอกครับเด็กหนุ่มตอบตรงๆ  จริงอยู่ที่ว่าเป็นเพื่อนแม่...แต่ยังไงก็ไม่ใช่คนที่เขารู้จักคุ้นเคย  จะให้ไปอยู่ด้วยมันก็ไม่สนิทใจ

                    แม่รู้เรื่องมาจากโยว่าลูกจะไม่เรียน ม.ปลาย

                    มือที่กำลังจะคลุมผ้าห่มให้มารดาชะงักค้าง  สีหน้าของเด็กหนุ่มเปลี่ยนรวดเร็วจนไม่อาจกลบเกลื่อนได้ทัน

                    ไอ้เพื่อนปากสว่าง!

                เชื่อแม่เรียว...แม่คิดดีแล้ว

                    แต่ผม...

                    ไม่มีแต่...วันนี้เตรียมตัวกลับไปขนของ  พ่อบ้านเขายืนคอยลูกอยู่หน้าห้อง

                    นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!

                   

    *************

     

                    เรียวหยุดยืนอยู่หน้าคฤหาสน์หลังงามด้วยความงุนงงอย่างถึงที่สุด  5 ชั่วโมงที่ผ่านมาสร้างความประหลาดใจให้เขาได้มากพอๆ กับความดีใจ

                    ราวกับนิยาย...ที่จู่ๆ ก็มีเศรษฐีจากที่ไหนก็ไม่รู้มารับอุปการะทั้งเขาและแม่  ฟังจากที่แม่เล่าความสัมพันธ์ของแม่กับเพื่อนของแม่คนนี้คงจะสนิทสนมกันมาก  แล้วทำไมเขาไม่ยักเคยได้ยินมาก่อน?

    แต่อะไรก็ช่าง  ตอนนี้เขาโล่งใจหนักหนาที่ตัดค่าใช้จ่ายด้านค่ารักษาพยาบาลไปได้  แถมเขาก็จะได้กลับไปเรียน  ถ้าตบท้ายด้วยการได้รักกับคุณหนูคนสวยของบ้านคงจะเหมือนพล็อตน้ำเน่าตามตลาด

                    เด็กหนุ่มสะพายกระเป๋าเป้ใบเก่าๆ โทรมๆ  ข้าวของของเขาไม่มีอะไรมากนอกจากเสื้อผ้าไม่กี่ชิ้น  ของมีราคาทั้งหลายเขาเอาไปจำนำจนหมดแล้ว  เรียวหันรีหันขวางไปรอบๆ ตัว

                    บ้านตรงหน้าไม่ผิดไปจากบ้านคนรวยที่มีอยู่ในละคร  บ้านใหญ่โตโอ่อ่า  เขากำลังคะเนในใจว่าตัวเองจะมาอยู่ในฐานะอะไรกันแน่  ระหว่างแขกหรือคนรับใช้

                    เชิญ  คุณชายรออยู่แล้วเสียงของพ่อบ้านบอก  ห้วนสั้นได้ใจความ 

                    เรียวขมวดคิ้วนิดหนึ่งแต่ก็เลือกที่จะนิ่งเงียบ  เหตุการณ์หลายๆ อย่างในชีวิตสอนเขาให้ใจเย็น  ถ้าไม่งั้นเขาคงจะตั๊นหน้าพ่อบ้านคนนี้ไปแล้วหลังจากมองเขาด้วยหางตาเป็นครั้งที่สาม

                มาเป็นคนใช้แน่ๆ ลองมาอีหรอบนี้...

                    เรียวสรุปกับตนเองขณะเดินตามชายหนุ่มตรงหน้าไปเงียบๆ

     

                    นอกตัวบ้านเทียบไม่ได้กับภายใน  เด็กหนุ่มลืมความหงุดหงิดไปจนหมดเมื่อมองเห็นระเบียงทางเดินปูด้วยพรมสีน้ำเงินทอดยาวไปยังประตูต่างๆ  สาวใช้หลายคนอยู่ในชุดเมทเหมือนแต่งคอสเพลย์  หลายคนก้มลงทักทายพ่อบ้านก่อนจะผละจากไป  ไม่วายส่งสายตาเป็นเชิงคำถามมายังเรียวซึ่งเดิมตามต๊อกๆ มาเบื้องหลัง

                    ก่อนอื่นฉันขอเตือนเธอก่อนว่าอย่าทำอะไรเป็นการเสียมรรยาทต่อคุณชายโดยเด็ดขาด เข้าใจใช่ไหม?นากาโนะ  พ่อบ้านที่นำเขาไปเบื้องหน้ากล่าวด้วยเสียงเข้มๆ  เด็กหนุ่มพยักหน้ารับ

                    ทั้งคู่หยุดยืนอยู่หน้าประตุไม้แกะสลักบานสวย  เรียวเผลอประเมินราคามันในใจอย่างเผลอไผล  แต่นิ้วที่ยื่นมาด้านหน้าพลางกระดิกดิ๊กๆ กลับเรียกให้เขากลับมาสนใจอีกครั้ง

                    เอากระเป๋ามาให้ฉัน  แล้วเข้าไปมือเปล่า

                    เรียวปลดกระเป๋าให้อย่างไม่ลังเล  เขาเห็นคิ้วของนากาโนะเลิ่กขึ้นด้วยความหงุดหงิดก่อนจะปล่อยผ่านไป  ชายหนุ่มบิดลูกบิดก่อนจะเปิดแง้มเล็กน้อย

                    เชิญ  อย่าลืมที่สั่งไว้

                    เรียวพยักหน้าครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินเข้าไปภายในประตูที่เปิดแง้มไว้

                   

                    ดวงตาสีน้ำตาลกวาดไปรอบๆ อย่างค้นหา...ส่วนที่เขาเข้ามาคือห้องสมุด  หนังสือนับพันวางเรียงอยู่ตามชั้นต่างๆ แน่นขนัดไม่ผิดไปจากห้องสมุดประจำเมือง  เด็กหนุ่มมองมันอย่างตื่นตาก่อนจะสะดุดลงยังโซฟาสีครีมอ่อนนุ่มใกล้กับหน้าต่างบานใหญ่

                    ...ร่างๆ หนึ่งนั่งอยู่ที่นั่น

                    เอ่อ...ขอโทษครับเขาเอ่ยเรียกความสนใจ  ร่างนั้นชะงัก  เงยหน้าขึ้นจากหนังสือและเรียวก็เห็นใบหน้านั้นเต็มตา

                    ไม่มีทางที่คนๆ นี้จะเป็นเพื่อนแม่เขาได้เลย...

                    คะเนจากสายตาคนตรงหน้าของเขาอายุคงประมาณเขา  หรือไม่ก็แก่กว่า 2-3 ปี  ใบหน้าได้รูปหลังกรอบแว่นนั้นดูดีจนพูดได้เต็มปากว่าหล่อเอาการ  ผิวขาวสะอาดผิดกับผิวกระด่างกระดำของเรียว  อีกทั้งสีผมกับดวงตาสีดำสนิทส่งให้ใบหน้านั้นนุ่มละมุนแต่ก็เคร่งขรึมอยู่ในที 

                    ริมฝีปากบางเฉียบนั้นกระตุกยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร สวัสดี วาคาบะ เรียว

                    คนโดนทักสะดุ้งคล้ายหลุดจากภวังค์  เขาหัวเราะแหะๆ แก้เก้อ สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าคุณคือ...

                    ทาคาซึกิ  ทาคาโตะ

                    ไม่ใช่ทาคาซึกิ  ฮิโรเสะจริงๆ แต่ดูจากนามสกุลถ้าไม่ใช่ลูกก็คงเป็นหลาน

                    ดวงตาเบื้องหลังกรอบแว่นนั่นเป็นประกายวับ นั่งลงสิ

                    เรียวเกาหัวแก้เก้อ  เขานั่งลงที่เก้าอี้ว่างข้างๆ พลางหัวเราะแห้งๆ อย่างไม่รู้จะพูดอะไรดี เอ่อ...บ้านสวยดีนะครับ

                    เด็กหนุ่มตรงหน้าไม่ได้ตอบ  แต่รอยยิ้มน้อยๆ ที่ประดับมุมปากกลับทำให้เขายิ่งประหม่า

                    ทาคาโตะเคาะปลายนิ้วบนพนักวางแขน  ดวงตารียวรีเป็นประกาย วาคาบะ เรียว...เสียงเปรยนุ่มนวลเรียกดวงตาของเรียวให้จ้องมอง เธอไม่นึกสงสัยบ้างรึไง  เรื่องของ...เพื่อนของแม่

    หางเสียงนั้นมีแววเยาะเย้ยตรงข้ามกับใบหน้าท่าทางที่ดูเป็นมิตรโดยสิ้นเชิง  เรียวกระพริบตาถี่ๆ หัวเราะแหะ กลบเกลื่อนอย่างไม่รู้จะพูดอะไร

    ทาคาซึกิ ทาคาโตะ ขยับแว่นตา  มุมปากขยับยิ้มหวาน ไม่แปลกหรอกที่นายจะไม่รู้  ในเมื่อเรื่องของแม่ของนาย...กับพ่อของฉัน เป็นเรื่องที่ น่ารังเกียจเกินกว่าที่แม่นายจะกล้าบอก

    หมายความว่ายังไงน่ารังเกียจ!”เรียวตวัดเสียงถาม 

    เขาเริ่มไม่ชอบหน้าทาคาซึกิ  ทาคาโตะมากขึ้นทุกที  ใบหน้าใจดีเป็นมิตรไม่เข้ากับคำพูดเชือดเฉือน  ยิ่งทำให้คนฟังโมโหมากขึ้นไปอีก

    แม่นาย...เป็นชู้กับพ่อของฉัน ถ้านายอยากรู้นักล่ะก็

    ตอแหล!”วาคาบะ  เรียว ผุดลุกรวดเร็วจนเก้าอี้ล้มลงกับพื้น  ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงจัดยิ่งกว่าเรือนผมสีแดงของเจ้าตัว แม่ฉันไม่มีทางทำแบบนั้น  แกเป็นใครวะ! มีสิทธิ์อะไรมาด่าแม่ฉัน!”

    สิทธิ์?คนถูกถาม  เอ่ยทวนเหมือนเป็นเรื่องขำเสียเต็มประดา สิทธิ์ของผู้เสียหายที่ถูกแม่ของนาย...ทำลายครอบครับจนย่อยยับยังไงล่ะ

    ดวงตาเบื้องหลังกรอบแว่นนั้นวาวโรจน์  รอยยิ้มหวานเปลี่ยนเป็นแสยะ แล้วเป็นยังไง  แม่ของนายก็ต้องชดใช้กรรมโดยการเป็นมะเร็ง...น่าสมเพชจริงๆ

    เรียวพุ่งเข้าไปหมายคว้าคอคุณชายที่นั่งพล่ามอยู่ตรงหน้า  กองหนังสือบนโต๊ะร่วงลงบนพื้นเสียงดังสนั่น  แต่เด็กหนุ่มกลับคว้าได้เพียงความว่างเปล่า  แขนของเขาถูกจับล็อคไพล่หลังในชั่วเสี้ยววินาที  ใบหน้าถูกกระแทกลงกับพื้น  แก้มขาวเบียดแน่นกับพื้นไม้เย็นชืดหากในใขจองเด็กหนุ่มกลับร้อนยิ่งกว่าไฟ

    ปล่อยฉันนะ!”เขาคำราม  และคำตอบที่ได้คืออาการล็อคที่แน่นขึ้น

    ไม่ต้องดิ้นรนไป  นับตั้งแต่วินาทีที่นายก้าวเข้ามาในบ้านนี้...นายก็กลายเป็นเหยื่อของฉันแล้ว

    แก!”

    เคยเห็นนรกบนดินรึเปล่า?ทาคาโตะถามเรื่อยเฉื่อย  พลางเพิ่มแรงกดอัดใบหน้าของเรียวให้บดเบียดกับพื้นแน่นสนิท

    ถ้ายังไม่เคยล่ะก็...นายจะได้รู้จักนับแต่นี้เป็นต้นไป










    TBC







    สวัสดีค่ะทุกท่าน^^

    มาพบกับเองใหม่หลังจาก Nor like มันจะจบแว้ววววว 

    คราวนี้ก็จะมีเวลามาต่อเรื่องนี้มากขึ้นค่ะ อยากแต่งแนนตบจูบมานานแล้ว พระเอกโหดๆ ทำร้ายร่างกายและจิตใจเนี่ย ชอบนักล่ะ!

    แต่ว่าจะโหดก็ต้องโหดอย่างมีที่มาที่ไปค่ะ อ่านไปเรื่อยๆ จะรู้ว่าทำไมพระเอกเราถึงได้ร้ายได้ขนาดนี้ ไปรู้กับพร้อมๆ นายเอกเราเลยดีกว่า 

    ต่อจากนี้ชีวิตของนายเอกเราจะได้ระทมยิ่งกว่าดาวพระศุกร์ โฮะๆๆๆๆ แต่อย่าหวังว่าจะแสนดีแบบนางเอก ใครเคยอ่านเรื่องที่เราแต่งก็คงจะรู้นะคะ โฮะๆๆๆๆ แต่คงจะร้ายไม่ได้มากเพราะพระเอกมันถือไพ่เหนือกว่าทุกอย่าง แล้วมันจะรักกันยังไงล่ะ?

    อันนี้น่าคิดเพราะคนแต่งก็ยังคิดไม่ออก นายเอกเราก็ไม่ใช่หนุ่มน้อยหน้าหวานน่ารักเสีนด้วย เป็นเด็กแว้นซ์บอยย้อมผมแดงแปร๊ดอย่าบอกใคร พระเอกก็คุณชายพันธุ์ดุ เหอๆ งานนี้ถ้านายเอกไม่ตายคนแต่งก็ม้วยล่ะค่ะ แหงะ!

    พบกันตอนหน้ เรื่องใหม่นี้ก็ฝากตัวด้วยนะคะ เม้นท์กันเยอะๆนะจ้ะ^^ จะพยายามมาต่อให้เร็วๆ แบบอาทิตย์ละครั้ง หรือ 3-4 วัครั้ง ไม่รุจิ่ ต้องดูอารมและคนเม้นนะ!

    ฝากด้วยนะจ้ะ~

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×