ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fate chain[yaoi]

    ลำดับตอนที่ #16 : Fate chain 5.3 - อิสรภาพ3

    • อัปเดตล่าสุด 6 ต.ค. 53


    Fate chain








    ร่างของเรียวถูกดึงให้ลุกขึ้น ทาคาโตะไม่ได้ออกแรงอะไรมากมายเพราะอีกฝ่ายไม่เหลือเรี่ยวแรงพอที่จะขัดขืน เขาผลักร่างที่บนใบหน้าเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาให้ทรุดลงนั่งบนเก้าอี้ข้างเตียง ส่วนตัวเองเดินไปนั่งบนโซฟา เด็กหนุ่มประสานมือเข้าไว้ด้วยกัน ดวงตาเบื้องหลังกรอบแว่นทอดมองสองแม่ลูกวาคาบะที่ตอนนี้ดูเสียขวัญกันทั้งคู่

     

    ทาคาโตะจ้องมองมือของสองแม่ลูกที่จับกันแน่น ความเกลียดชังพลุ่งขึ้นมาจับใจ เขาแค่นยิ้ม ดวงตาเป็นประกายวาววับสะกดกลั้นอารมณ์ “มีอะไรอยากสารภาพไหม?”

     

    เสียงสะอื้นเบาๆ ของนาเดชิโกะเป็นเพียงเสียงเดียวในห้อง ทาคาโตะเบนสายตาไปยังลูกชายของเธอ เขาเห็นว่าเรียวก้มหน้านิ่ง เส้นผมสีแดงจัดกลืนไปกับแสงอาทิตย์ยามเย็นที่ส่องเข้ามาจากด้านหลัง หมอนั่นไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้สะอึกสะอื้น แต่เขาเห็นหยดน้ำตกกระทบเข่าเป็นวง ร่างนั้นเกร็งสั่น มือที่จับมารดาสั่นระริกจนน่าสงสาร...

     

    ใจของเขาอ่อนยวบลงไปอีกครั้ง...เป็นแบบนี้ไม่ดีเลย เจ้าตัวอาจจะไม่รู้ แต่การจะทรมาน...ถ้าเขาต้องการทรมานให้หนักกว่านี้มันง่ายดายแค่เพียงกระดิกนิ้ว เขาจะปล่อยเรียวไว้ในห้องแช่แข็งก็ได้ ให้หนาวเจียนตายก่อนจะช่วยออกมา หรือว่า...ไม่จำเป็นต้องใช้ไทระ ไม่จำเป็นต้องให้โอกาสหรือทางเลือกแก่เรียว เขาสามารถให้ผู้ชายหลายคนมา...มันง่ายดายเหลือเกิน  

     

    แต่แค่เห็นท่าทางอ่อนแอไร้ทางสู้ของคนตรงหน้า...เหมือนแก้วที่กำลังแตกสลาย เรียวที่เคยมีดวงตาเข้มแข็งไม่ยอมแพ้เช่นวันก่อน เขาแทบจะนึกไม่ออกแล้ว

     

    สุดท้าย...ยังไงเรื่องทุกอย่างก็ต้องเดินไปจนถึงตอนจบ เขาไม่มีความสุขที่ต้องทรมานสองแม่ลูกนี่ มันยิ่งทำให้เขานึกถึงแม่และนัทสึมิ เขาอาจจะใจอ่อนเกินไปก็ได้...ถึงได้หยิบยื่นโอกาสให้เรียวครั้งแล้วครั้งเล่า...

     

    เขาหวังว่า...วาคาบะ เรียวยังจะ ทนรับความจริงอย่างสุดท้ายไหว

     

    “วาคาบะ เรียว...ฉันมีของบางอย่างอยากจะให้นาย” ทาคาโตะเปิดกระเป๋าเดินทางก่อนจะล้วงมือลงไปหยิบปึกจดหมายหลากสีที่ถูกห่อด้วยเชือกฟางเรียบๆ นาเดชิโกะเบิกตากว้าง ริมฝีปากของเธอสั่นระริก

     

    “ม...ไม่” เธอเอ่ยเสียงสั่นเครือ พยายามยื้อยุดมือของลูกชายที่ผุดลุกขึ้น “เรียว...อย่าดู”

     

    “วาคาบะ...มานี่ อ่านซะ ทุกอย่างจะได้จบๆ ไป...” ทาคาโตะใช้สายตาแทนคำสั่ง “ฉันคัดมาแต่อันที่มันเด็ดๆ เลยนะ...นายจะต้องสนุกแน่ๆ”

     

    ฟังดูก็รู้ว่ามันต้องไม่สนุก แต่เรียวอ่อนล้าเกินกว่าจะคิดอะไรออก เขามองมารดาสลับกับสายตาข่มขู่ของทาคาโตะ “มาสิ...ฉันสัญญาว่าจบจากวันนี้ นายจะได้อิสรภาพ” นั่นเป็นคำพูดที่ทำให้เรียวตัดสินใจเด็ดขาด

    เด็กหนุ่มเดินไปนั่งข้างทาคาโตะ เขารับกองจดหมายมาวางไว้บนตัก หน้าซองทุกอันจ่าหน้าถึง ทาคาซึกิ มายูริ คนที่เขาไม่รู้ว่าเป็นใคร

     

     

    วันที่ **/**/**

     

    นังแพศยา แกควรจะรู้ได้แล้วนะว่าฮิโรเสะน่ะเขายังรักฉันแค่คนเดียว! เลิกงมงายแล้วหย่ากับเขาซะ อย่ามาทำหน้าด้านชูคอเป็นคุณนายอยู่เลย นั่นเป็นตำแหน่งที่ควรจะเป็นของฉัน! แกมันสาวเลว นังผู้หญิงที่แย่งของของคนอื่น!

     

     

    ลายมือที่คุ้นตาเรียกให้มือของเรียวสั่นระริก เขากลั้นใจหยิบรูปที่ถูกแนบไว้ท้ายซอง มันเป็นภาพ...ภาพถ่ายคู่ของแม่เขากับผู้ชายที่เขาไม่รู้จัก แต่เรียวจำชุดที่แม่ใส่ได้ มันเป็นชุดที่พ่อซื้อให้แม่ตอนแต่งงานกันใหม่ๆ แม่เคยบอกเขาว่าชอบมันมาก พ่อก็บอกว่าแม่ใส่ชุดนี้ได้ขึ้นที่สุด

     

     

     

    วันที่ **/**/**

    วันนี้เราไปเที่ยวนาโกย่าด้วยกัน เขาโกหกแกว่าไปดูงานใช่ไหม? เห็นรูปแล้วแกหายโง่รึยังล่ะ?

    แกรู้ไหม ถ้าฉันเป็นแก ฉันคงจะไม่ทนอยู่กับผู้ชายที่รู้อยู่แก่ใจว่าไม่รักตัวเองหรอก มันน่าสมเพช น่าขยะแขยง คุณฮิโรเสะก็คงคิดแบบนั้นเหมือนกันล่ะ แกมันผู้หญิงหน้าด้านไร้ยางอาย

     

     

     

     

     

     

     

    วันที่ **/**/**

    แกคลอดลูกแฝดชายหญิงเหรอ...ยินดีด้วยนะนังแพศยา แต่อย่าคิดว่าคลอดลูกให้แล้วคุณฮิโรเสะจะหันไปรักแก เพราะว่าตอนนี้เขายังพาฉันไปฝากครรภ์บ่อยๆ ดูแลดียิ่งกว่าสามีฉันอีก เขาบอกว่าจะรับลูกของฉันเป็นลูกบุญธรรมด้วย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขารักลูกฉันมากกว่าลูกแก...มากกว่าลูกแท้ๆของเขา เพราะเขารักฉันมากยังไงล่ะ ไม่มีวันจะเปลี่ยนใจ

     

     

     

     

     

    วันที่**/**/**

    ลูกฉันคลอดแล้ว ฉันถ่ายรูปเขากับพ่อทูนหัวมาให้แกดูด้วย น่าเสียดายที่คุณฮิโรเสะไม่ใช่พ่อของแก...น่าเสียดายจริงๆ แต่ขนาดนี้เขายังรักเรียวมาก ถ้าเรียวเป็นลูกของเขานะ...ลูกชายของแกคงเป้นหมาหัวเน่าแน่ๆ

     

     

     

     

     

     

    วันที่ **/**/**

    ฉันได้ข่าวว่าแกคลอดลูกคนที่3วันนี้ ฮึ! นังสารเลว ฉันรู้นะว่านั่นไม่ใช่ลูกคุณฮิโรเสะ เขาบอกกับฉันเองว่าหลังจากคลอดพวกลูกแฝดของแกเขาก็ไม่ได้มีอะไรกับแกอีก สำหรับเขา แกมันก็แค่ผู้หญิงที่มีไว้คลอดคนสืบตระกูล นังโง่

     

     

     

     

     

     

     วันที่ **/**/**

    ผู้หญิงบ้าๆ อย่างแกยังมีหน้ามายืนเคียงข้างคุณฮิโรเสะอีกเหรอ? ฉันรูปในหนังสือพิมพ์วันนี้แล้วอยากจะอ้วก คุณฮิโรเสะเล่าให้ฉันฟังแล้วว่าแกต้องพึ่งจิตแพทย์ทุกเดือน ดูสภาพแกสิ...ดูสารรูปของแก ตอนแกยังปกติเขาก็ไม่เหลียวแลแก ตอนแกบ้าแกคิดว่าเขาจะยังสนใจใยดีแกอยู่อีกเหรอ?

     

     

     

     

     

     

     วันที่ **/**/**

    ตอนนี้สามีฉันตายแล้ว แกรู้ไหมนั่นหมายถึงอะไร...ฉันเป็นโสด นับวันรอที่แกจะโดนเฉดหัวออกจากบ้านได้เลย ฉันเฝ้านับวันรอวันที่ฉันจะได้เป็นอิสระแทบไม่ไหวอยู่แล้ว ฉันอยากให้งานศพผ่านไปเร็วๆ จะให้ดีจัดงานศพแกต่อไปเลยก็ดี

     

     

     

     วันที่ **/**/**

    เมื่อไหร่แกจะตายตามลูกสาวแกไปสักที...คุณฮิโรเสะจะได้เป็นอิสระ

     

     

     

     

    “เรียว...พอแล้ว...อย่าอ่านอีกเลย...” เสียงของมารดาสั่นสะท้าน เธอกำผ้าปูที่นอนจนยับย่น สายน้ำตาไหลอาบแก้ม ดวงตาคู่หวานหลุบต่ำไม่กล้าสู้หน้าลูกชาย

     

    เรียวไม่ได้ยิน...เขากำลังรู้สึกเหมือนโลกกำลังค่อยๆ พังทลายลงต่อหน้า...เรี่ยวแรงที่มีไม่มากพอที่จะเปลี่ยนหน้ากระดาษแผ่นใหม่ มือของเขาสั่น สติโคลงเคลงวูบไหวเหมือนกำลังยืนอยู่บนเรือกลางทะเลเชี่ยวกราก เขาไม่รู้ว่าจะทำอะไร ต้องทำอะไร หรือเขากำลังทำอะไรอยู่

     

    ทาคาโตะเอื้อมมือมากุมมือเขาไว้ ก่อนจะแกะกระดาษจดหมายออกไปอย่างนุ่มนวล เกือบจะเรียกได้ว่าอ่อนโยน

     

    “แม่ของนายกับพ่อของฉันรักกันตั้งจอนเรียน แต่พ่อต้องแต่งงานเพราะเหตุผลทางธุรกิจ แต่ว่าหลังจากต่างคนต่างแต่งงาน...แม่ของนายก็ส่งจดหมายมาให้แม่ฉันตลอด 16 ปีที่ผ่านมา....” ทาคาโตะพูดน้ำเสียงเรียบเฉยขณะเก็บกองจดหมายยัดใส่ลงในกระเป๋าที่อัดแน่นไปด้วยจดหมายแบบเดียวกัน “แม่ของฉันทั้งเสียใจ ทั้งเศร้า เพราะท่านรู้ว่าทุกอย่างเป็นความจริง พ่อไม่เคยมาสนใจไยดีท่านเลย...แม่เคยถามเรื่องนี้กับพ่อตรงๆ แต่ผู้ชายคนนั้น...ก็ตอบมาตามตรงว่าหัวใจของเขาไม่เหลือพื้นที่พอให้ใครนอกจากผู้หญิงคนนี้” ผู้หญิงคนนี้ของทาคาโตะได้แต่กรีดเสียงเครือเบาๆ แล้วทิ้งตัวลงบนเตียง...ไม่ยอมรับความจริง

     

    “ตอนนั้นฉันอยู่อเมริกา พอกลับมาอีกทีทุกอย่างก็สายเกินแก้ไปแล้ว...ฉันบอกนัทสึมิว่าอย่าทำอะไร เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ แต่เธอไม่ฟัง นั่นเป็นเหตุผลที่เธอเข้าหานาย...”

     

    เหมือนกำลังเล่าเรื่องทั่วไป น้ำเสียงไม่แสดงความรู้สึกอะไรของทาคาโตะกลับบาดลึกลงกลางใจของคนฟัง “เธออยากจะสั่งสอนบทเรียนเล็กๆ ให้แม่นาย เธอแค่อยากหลอกให้นายรักแล้วทิ้ง เป็นความคิดโง่ๆ ของเด็กผู้หญิงไม่ประสาโลกคนหนึ่ง แต่นัทสึมิกลับหลงรักนายจริงๆ...ฉันที่เป็นพี่ไม่ได้ห้ามอะไรเลย มารู้เรื่องอีกครั้งตอนที่ฉันพบศพเธอในห้องน้ำ...เธอกรีดข้อมือฆ่าตัวตาย เลือดไหลนองเต็มไปหมด”

     

    “หลังจากนั้นแม่ก็เป็นบ้า ตอนแรกแม่ก็เสียใจจนมีสุขภาพทางจิตอยู่แล้ว การตายของนัทสึมิเป็นเหมือนชนวนให้ทุกอย่างเลวร้ายลง...แต่ผู้ชายคนนั้นยังไม่สนใจใยดีแม่ คอยปกป้องผู้หญิงคนนั้นตลอด จนวันนั้น...แม่พยายามจะฆ่ามานามิ แม่พูดแค่ว่าพวกเราไม่เป็นที่ต้องการของพ่อ ก็ไม่ควรมีชีวิตอยู่ เราแย่งมีดกันแล้ว...ฉันพลาด แม่แทงมีดลงไปที่หัวใจ ฉันแย่งกลับมาไม่ทัน แล้วแม่ก็ตาย...”

     

    ห้องปกคลุมด้วยความเงียบ...ไม่เหลือแม้แต่เสียงร้องไห้หรือเป็นเพราะเรียวหูอื้อตาลายไปหมดก็ไม่รู้ ทุกอย่างเหมือนกำลังหมุน โลกกำลังพลิกกลับด้าน ร่างกายที่ปวดระบมไม่สามารถรองรับความจริงที่หนักอึ้งได้ไหว

     

    มือเย็นเฉียบเหมือนน้ำแข็งที่เขาคุ้นเคยสัมผัสกับเรือนแก้ม แผ่วเบา เนิบนาบ แต่กรีดเฉือนทุกอย่างจนแหลกสลาย ทาคาซึกิรั้งใบหน้าของเขาให้หันมาสบตา ในแววตานั้น...เจือด้วยประกายบางอย่างที่เขาไม่คุ้นเคย แต่เรียวไม่เหลือกำลังมากพอจะตีความได้อีก

     

    “อิสรภาพเป็นของนายแล้ว...ฉันจะปล่อยนายกับแม่ให้เป็นอิสระ”

     

    มันเป็นคำพูดที่เขารอคอยมาตลอดแท้ๆ...แต่ทำไมนะ ทำไม...เขากลับรู้สึกว่าทุกอย่างยังไม่จบสิ้นกัน?

    TBC

    สวัสดีค่า^^
    หนึ่งเดือนไม่ขาดไม่เกิน เสร็จร้อนๆ พร้อมเสิร์ฟกันเลยทีเดียว สนุกไหมคะ? หุหุ(หัวเราะชั่วร้าย) หรือใครอยากได้ดราม่ากว่านี้? 555+ พอยังๆ หุหุ ไม่อยากได้ก็จะจัดให้ อีกประมาณ 2 ตอนก็จบภาคหนึ่งละ จดราม่ากันไปถึงไหนต้องติดตาม จะพยายามปั่นให้จบภายในสองอาทิตย์เพราะมีเวลาปิดเทอมแค่นั้น พอเปิดเทอมจะไม่มีเวลามาปั่นแล้ว

    เรื่องนี้ความรู้สึกของทุกคนสับสน(อาจรวมถึงไรท์เตอร์ที่งงเหมือนกัน)
    สำหรับทาคาโตะ มันเป็นความรู้สึกเกลียดชัง สงสาร โกรธ เคียดแค้น หลงใหล ปนๆกันจนแทบแยกไม่ออก แต่บอกแล้ว โดยพื้นฐานพระเอกเป็นคนใจอ่อน ในการทรมานจะมีการให้โอกาสปนมาอยู่เสมอ ทาคาดตะมักมี "ทางเลือก" ให้เรียวตลอดเวลา แค่ว่าเรียวสำนึกผิด เรียวไม่ทำ ถ้ารู้สึกผิดจากใจ ทาคาโตะก็พร้อมจะให้อิสรภาพเสมอ อย่างตอนที่แล้ว ทาคาโตะไม่ได้ทำอะไรเลย แค่เสนอทางออก มันต้องย้อนไปก่อนหน้านั้นที่ว่าเรียวรู้ความจริงเรื่องนัทสึมิ ถ้าตอนนั้นเรียวสำนึกผิด แค่นั้น เรียวก็ไม่โดน...
    ส่วนเรียว...อืม เป็นตัวละครที่แต่งไปก็ว่าน่าสงสาร เป็นตัวละครที่มีความเป็นคนสูง คือจริงๆแล้วเป็นคนที่มีความอ่อนแอแต่ไม่รู้ว่าตัวเองอ่อนแอ คิดว่าตัวเองเข้มแข็งมาตลอด ไม่ใช่คนไม่ยอมรับความจริงนะ...แต่เป้นคนที่ไม่กล้ายอมรับความจริง ไม่กล้าจะเผชิญความเจ็บปวดและความจริงตรงๆ เรียวร้ายมาก่อน แต่นั่นไม่ใช่ตอนที่ร้ายที่สุด

    มาลุ้นกับตอนหน้า อิสรภาพไม่ได้หอมหวานอย่างที่ใครๆ คาดเดา

    ปล.อีกประมาณสองตอนเตรียมพบกับ "ฉากที่รอคอย" ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×