คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ช่องว่างที่ 1
TITLE : ไม่มีตรงกลาง...ระหว่างเรา
AUTHOR : nanda_ray
LEADING : TaoKacha สวนด.
NOTE : ฟิคสั้นที่แอบยาว เกิดจากการเวิ่นเพลง ไม่มีตรงกลาง อย่ากระนั้นเลย อิ๊บมาทั้งชื่อและเพลง -*-
“พี่เต๋าคะ ขอถ่ายรูปหน่อย”
“ได้สิครับ”
“พี่เต๋าคะ มองกล้องนี้หน่อยค่ะ”
“ครับๆ ได้ครับ”
“พี่เต๋าคะ นี่ขนมหนูทำเอง ช่วยรับไว้ด้วยนะคะ”
“ครับๆ ขอบคุณมาก”
การรับมือกับเด็กผู้หญิงเป็นสิ่งที่เต๋าต้องเจอเป็นประจำทุกวัน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ชินเสียที ชายหนุ่มเริ่มสับสนไม่รู้ว่าจะหันหน้าเข้าหากล้องไหน ในเมื่อเสียงเรียกพี่เต๋า เต๋า น้องเต๋า ดังอยู่รอบตัว รอยยิ้มของเขาชักชืดลงเรื่อยๆ แต่ก็ยังหาทางผละออกไปจากตรงนี้ไม่ได้สักที
“เต๋าเอ๋อ! บ้านอ่ะจะกลับไหม?!” เหมือนเสียงสวรรค์ลงมาโปรด แม้เสียงนี้จะฟังดูโหดไปหน่อยแต่เต๋าก็รีบคว้าเอาไว้อย่างยินดี เขารีบหันไปหาต้นเสียง เห็นใบหน้านิ่งๆ ของเพื่อนรักตั้งแต่เด็ก ดวงตาเล็กหยีคู่นั้นจ้องมองมาทางเขาอย่างเอาเรื่อง ตีความได้ชัดเจนว่าถ้าเขาไม่ออกไปภายในนาทีนี้ คชาจะต้องหนีกลับบ้านคนเดียวแน่นอน
“ไปครับไป ขอตัวก่อนนะครับ...” ผู้หญิงรอบตัวส่งเสียงหงุงหงิงบ่นเสียดาย แต่ไม่มีใครกล้าท้วงขึ้นมาสักคน อาจมีเด็กใจกล้าไม่ดูตาม้าตาเรือบางคนยังคงพยายามเบียดเข้ามาขอถ่ายรูป เต๋าก็ได้แต่ปฏิเสธอย่างสุภาพกลับไป “ไว้โอกาสหน้านะครับ เพื่อนพี่รอกลับบ้านแล้ว...เฮ้ย ชา! รอก่อนดิ่!”
เขารีบวิ่งตามเพื่อนรักที่เดินลิ่วนำไปแล้ว ทั้งๆ ที่ตัวเล็กแค่นั้น ไม่รู้ทำไมเดินเร็วชะมัด “เฮ้ย ชา...เดินช้าหน่อยก็ได้ รีบไปไหนเนี่ย บ้านไม่ย้ายหนีหรอก”
“ก็ถ้าไม่รีบเดินมาก่อน กว่าเต๋าจะแทรกตัวออกมาได้คงต้องรอชาติหน้า” ชาตอบเรียบๆ แต่เจ็บถึงใจ เต๋าได้แต่ยิ้มแหยๆ ตอบ
“ก็วันนี้มันมีประกวดเดือน แล้วคนมาขอถ่ายรูป...เต๋าก็...”
“...ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง” ชาต่อประโยคให้พลางเบ้หน้า “ฮอทเหลือเกิน หมั่นไส้ว่ะ!”
“ก็คนมันหล่อ” เต๋าหัวเราะพลางยักคิ้ว เรียกให้คนข้างตัวกลอกตา ท่าทางหมั่นไส้ถึงขีดสุด เลยพาเปลี่ยนเรื่องซะดื้อๆ
“วันนี้ไปเตะบอลป่าว?” คำถามของคชาที่เต๋ารีบพยักหน้ารับรัวๆ คชาหัวเราะ ก่อนจะเริ่มไล่รายชื่อเพื่อนที่กะจะชวนทีละคน “ก็เดี๋ยวชวนเบียร์ เบน ต้น เออ ห้ามลืมอ้น!”
พอถึงชื่อสุดท้ายเต๋าก็แทบหน้าทิ่มหัวคะมำ หน้าบึ้งตึ้ง “ไม่เอาอ้นดิ่...” เป็นคำพูดที่หลุดออกมาจิตใต้สำนึกมากกว่าผ่านการกลั่นกรองจากสมอง พอพูดจบ เต๋าก็คิดในใจว่าตายแน่ เมื่อชาตวัดมองขวับ ขมวดคิ้วมอง
“ทำไมไม่เอาอ้น?” นั่นไง...เสียงเริ่มโหด เต๋ารีบคิดหาทางเอาตัวรอดอย่างรวดเร็ว
“ก็...คือว่า...เอ่อ...ก็ตอนเตะบอลคราวที่แล้วอ้นยังเจ็บขาไง” พูดจบเขาก็ยิ้มตบท้าย เห็นชากวาดมองจับผิดคร่าวๆ แล้วปล่อยผ่านไป
“อ้นหายแล้ว เมื่อกี้อ้นเนี่ยแหละที่โทรมาชวนเตะบอล” ฟังคำตอบแล้วเต๋าได้แต่กลอกตา
เซ็ง! ซ็งโคตร! เต๋าเพลียเหลือเกิน!
แต่ถึงจะเซ็งแค่ไหนเต๋าก็ได้แต่ฝืนใจพยักหน้ารับ ในเมื่ออ้นไปเตะบอล หัวเด็ดตีนขาดยังไง ต่อให้เดินตกท่อขากะเผลกเขาก็ต้องตะเกียกตะกายไปเตะบอลกันท่าด้วยให้ได้ เพื่อความปลอดภัยเขาควรจะชวนต้นกับเจมส์ไปด้วย ไปช่วยกันกันท่าอีกสองคน
อยากรู้เหรอว่าทำไมต้องกันท่า?
จะบอกว่าเขาหวง ‘เพื่อน’ ก็ได้ ด้วยความที่เขากับคชาบ้านติดกัน เล่นด้วยกันมาตั้งแต่ยังไม่เข้าอนุบาล พอเข้าเรียน ตั้งแต่อนุบาลยันมหาลัย เขากับคชาก็เรียนที่เดียวกันมาตลอด เรียกได้ว่าถ้าเจอเขาต้องเจอคชา
ตอนที่ยังเด็กๆ เต๋าตัวเล็กกว่าเพื่อน เลยต้องมีเด็กชายคชาคอยปกป้อง เต๋ายังจำได้ว่าเมื่อตอนประถมเขาถูกเพื่อนรังแก ก็มีคชาเนี่ยล่ะที่คอยตามล้างแค้นให้อยู่เนืองๆ จนเมื่อขึ้นมัธยม สถานการณ์เริ่มกลับกัน เขาตัวใหญ่ขึ้นมาก ในขณะที่คชาแทบไม่ได้ตัวโตขึ้นเลย แถมยังตัวผอมๆ เล็กๆ แล้วยังขี้แยอีก เขาเลยกลายเป็นคนคอยปกป้องคชาไม่ให้ใครมารังแก
ตอนช่วง ม.ปลายเป็นช่วงที่เต๋าเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองเป็นที่สนใจของเพศตรงข้าม มีสาวน้อยสาวใหญ่มากหน้าหลายตาผ่านเข้ามาในชีวิต เขาคบกับพวกเธออยู่หลายคน แต่ก็ต้องเลิกรากันไปด้วยเหตุผลที่พวกเธอให้กับเขามาว่า “ถ้าเป็นห่วงคชานัก ก็กลับไปดูแลคชาเถอะ” นั่นเป็นประโยคที่ทำให้เต๋าตัดสินใจบอกเลิกพวกเธอทุกคน เขาไม่ชอบให้ใครมาบังคับ ในเมื่อเพื่อนสนิทกับแฟน...สถานะมันต่างกันเห็นๆ ถ้าจะงี่เง่าพูดกับเขาอย่างนี้ เต๋าก็ไม่ใช่สุภาพบุรุษพอที่จะทนเหมือนกัน
แล้วสถานการณ์ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปอีกครั้งเมื่อพวกเขาขึ้นมหาลัย เต๋าไม่ได้หลงตัวเอง...แต่เขายังคงป๊อปปูล่าในหมู่สาวๆ เหมือนเคย ส่วนคชา...เปลี่ยนแปลงจากเด็กชายคชาตัวเล็กผอมแห้ง ท่าทางอมโรค ไปเป็นคชาที่แสนน่ารัก ยิ้มทีโลกสดใส มองเผินๆ เหมือนทอมชะมัดยาด ขนาดเพื่อนตั้งแต่เด็กอย่างเขายังต้องยอมรับเลยว่าบางครั้งก็นึกว่าตัวเองมีเพื่อนเป็นทอมหรือเปล่า? นี่ถ้าพวกเขาไม่แก้ผ้าอาบน้ำกันมาแต่เล็กแต่น้อย ป่านนี้อาจจะนึกว่าคชาเป็นผู้หญิงปลอมตัวมาเหมือนในนิยายก็ได้
นอกเรื่องไปไกล สรุปว่าที่เขาต้องกันท่าเพราะคชามีหนุ่มๆ มารุมตอมไม่เว้นวัน คอยเทียวไล้เทียวขื่อ เดี๋ยวขอไปส่งบ้านบ้างล่ะ ขอเบอร์บ้างล่ะ แถมคชายังทำหน้าตาไม่ทุกข์ไม่ร้อน มีแต่เขาคนเดียวที่คอยกันท่าเป็นไอ้บ้าไอ้บอ จนคนเข้าใจผิดทั้งมหาลัยแล้วว่าเขากับคชามีซัมทิงรองกัน...ขอบอกไว้ตรงนี้ว่าเต๋าน่ะแมนทั้งแท่ง!! ไม่มีทางชอบผู้ชายแน่นอน คอนเฟิร์ม!!
พวกเขานัดกับเพื่อนไว้ที่สนามบอลในหมู่บ้าน เขากับคชาเลยเอาของไปเก็บที่บ้านก่อนแล้วปั่นจักรยานของเต๋าออกมาที่สนามบอลสองคน คชาซ้อนอยู่ด้านหลังแล้วทำหน้าที่แบกลูกบอลมาด้วย กว่าเพื่อนๆ ที่นัดจะมาครบทุกคนก็เริ่มค่ำ ฟรีคิกลูกแรกเปิดได้เกือบ 10 นาที คชาก็ลากบอลยิงเข้าประตูอย่างงดงาม
“ไอ้เต๋า มึง...ที่รักมึงเอาตัวไปเกาะกับอ้นอีกแล้ว” หมีเจมส์รีบปรี่เข้ามาฟ้องเขาทันทีเมื่อคชาเตะบอลเข้าประตูได้แล้ววิ่งเข้าไปกอดอ้น เดิมทีเห็นภาพนี้เขาก็บาดตาจะแย่ แถมไอ้หมีอ้วนนี่ยังใส่ไฟอีก!
“กูเห็นละ มีตา...” รู้งี้เขาไม่ทำเป็นสกัดบอลพลาด ให้คชาลากผ่านไปทำประตูได้ก็ดี อุตส่าห์อยากเห็นคชาดีใจ แต่ถ้ารู้ว่าดีใจแล้วจะวิ่งไปกอดอ้นนะเขาจะพุ่งเสียบสุดชีวิตเลย!
“โหยมึง...ไม่ปฏิเสธคำว่า ‘ที่รัก’ สักคำเลยเหรอ?” พอโดนจี้จุด เต๋าถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ เขาเลยยกเท้าถีบก้นหมีไปอีกหนึ่งดอก
“เพื่อนกัน! มึงนี่อย่ามาชักใบให้เรือเสีย”
“โหยยยยย เพื่อนกันมากกกกกกก ระวังเหอะมึ๊งงง ลีลามากหมาจะคาบไปแดก”
“หมาเหมอห่าอะไร เพื่อนกันทั้งนั้นอ่ะ กูก็แมน คชาก็แมน” เขาเถียงคอเป็นเอ็น คราวนี้คนสวนกลับไม่ใช่เจมส์ แต่ดันเป็นต้นที่ยืนฟังอยู่ก่อนแล้ว
“ก็ไม่ได้บอกว่าไม่แมน...แต่คนจะชอบกันบางทีเรื่องเพศก็ไม่เกี่ยว เต๋าอาจจะชอบเพราะคชาคือคชา ไม่ใช่เพราะคชาเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย” ต้นยังคงพูดจามีเหตุมีผลเสมอต้นเสมอปลาย หมีเจมส์ได้ยินเข้าก็หัวเราะก๊าก ในขณะที่เต๋ารู้สึกหน้าร้อนวูบอย่างไม่มีเหตุผล
“จะพยายามยุให้ชอบกันให้ได้เลยใช่ป่ะ? ก็บอกว่าเพื่อนก็เพื่อนกันดิ่เฮ้ย! ยุจริงพวกนี้!”
“คือจะชอบหรือไม่ชอบก็ไม่ได้อยากรู้...ตอนนี้อยากรู้แต่ว่าจะเตะบอลมั้ย? หรือถ้าอยากปรึกษาปัญหาหัวใจต่อก็เชิญออกไปนอกสนาม เกะกะ”
ได้ยินคำพูดนี้ เสียงนี้...บอกได้คำเดียวว่าเต๋าหน้าซีด จากที่ซีดอยู่แล้วยิ่งซีดลงไปอีก เหลือบมองสองหน่อต้นเจมส์ก็เห็นมันมองไปทางข้างหลังเขาแล้วกลั้นขำกันคิกคัก ตลกตายห่า!
“เตะดิ่ชา เตะๆ ไม่พูดแล้ว” เขากลั้นใจหมุนตัวกลับไป พอสบเข้ากับใบหน้าเฉยเมยของคชาก็ได้แต่ฝืนยิ้มฝืดๆ แล้วยิ่งมองเลยไปด้านหลังของคชาที่มีอ้นยืนยิ้มหวานแล้วยักคิ้วกวนๆ ให้ เต๋ายิ่งรู้สึกแย่มากขึ้นไปอีก
หลังจากนั้นเต๋าก็ฝืนใจเตะบอลต่ออย่างแกนๆ กว่าจะเลิกเตะบอลก็สองทุ่มครึ่ง พวกเขาเปียกเหงื่อจนชุ่ม ตัวเหม็นหึ่ง แต่อ้นยังคว้าคชาไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ไม่รู้จะอะไรกันนักกันหนา เขาเตรียมพุ่งเข้าไปแยก หากเสียงหวานๆ คุ้นหูก็ดันเอ่ยเรียกขึ้นมาก่อน
“พี่เต๋า เตะบอลเสร็จแล้วเหรอ?” ตัวเล็กๆ บางๆ กับหน้าลูกครึ่งของญี่ปุ่นโผล่เข้ามาในจอโฟกัสพร้อมกับน้ำเปล่าหนึ่งขวด เขาชะงักฝีเท้า แล้วฝืนส่งยิ้มให้น้องสาวคนสนิท
“เสร็จแล้ว แล้วนี่ค่ำขนาดนี้เพิ่งกลับบ้านเหรอเนี่ย? เดี๋ยวก็โดนพี่ชายเราว่าเอาหรอก” เต๋าบุ้ยปากไปยังคชาที่อยู่อีกฝากสนาม กำลังคุยไปหัวเราะไปกับอ้นอยู่อย่างร่าเริง...ยิ่งเห็นก็ยิ่งหงุดหงิดอย่างไม่มีเหตุผลจนต้องดึงสายตากลับมา
“กลับถึงบ้านนานแล้ว แต่เห็นแม่บอกว่าพี่คชากับพี่เต๋าเตะบอลอยู่เลยอยากมาดู”
“ดีเลย์ไปแล้ว กว่าจะมาพวกพี่ก็เตะเสร็จแล้ว จะกลับกันแล้วเนี่ย” เขาขยี้หัวยูกิจนยุ่ง น้องสาวข้างบ้านรีบร้องโวยวายว่ามือเขาสกปรกแล้วพยายามหันหนีเรียกให้เขายิ่งแกล้งหนักมือ...เป็นการแกล้งระบายอารมณ์ หงุดหงิดคนพี่ก็เอามาลงกับคนน้องเนี่ยแหละ อยากสวีทกันดีนัก ฮึ่ย!!
“งั้นเดี๋ยวหนูไปตามพี่คชาก่อน จะได้กลับพร้อมกัน” พอได้ยินยูกิพูดแบบนั้น เต๋าก็รีบหยุดมือ แทบจะอัญเชิญให้เธอรีบไปตามพี่ชายกลับบ้านทันที เขาหัวเราะอย่างสมใจขณะเฝ้ามองยูกิวิ่งรี่ไปหาพี่ชายคนละแม่ ...แต่อาการทุกอย่างของเขาดันอยู่ในสายตาของต้นกับเจมส์ตลอด พวกมันเลยเอามาแซวเสียสนุกปาก
“สรุปมึงจะเป็นพระยาเทครัว เอาทั้งพี่ชายแล้วก็น้องสาวเลยเหรอวะ?” ปากหมาๆ อย่านี้มีเจมส์คนเดียว เขามองมันตาเขียว อยากจะเอารองเท้าฟาดปากสักที
“กูคิดกับยูกิแบบน้อง! เห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ กูชอบไม่ลงอ่ะ”
“ทีกับคชามึงยังชอบแบบนั้นได้เลย...” ไอ้เจมส์ไม่จบประเด็นนี้ง่ายๆ เขามองไปทางคชาแว่บหนึ่ง เห็นว่ายังยืนคุยอยู่กับยูกิอยู่อีกฝากสนาม ถึงได้วางใจ กล้าพูดออกมาได้
“กูกับคชาก็แค่เพื่อนสนิท ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยไปกว่านั้น”
“งั้นถ้าเราจะขอจีบคชา เต๋าก็ไม่ว่าอะไรใชไหม?”
เหมือนสายฟ้าฟาดเปรี้ยง!
เต๋าจำเสียงได้ จำได้ดี...แล้วพอหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้าเขาก็เจอกับอ้นตามคาด หมอนั่นยังคงประดับยิ้มนุ่มนวลอยู่บนริมฝีปาก แต่เป็นรอยยิ้มที่ทำให้คนมองหงุดหงิดมากกว่ารู้สึกดี
“คชาไมได้ชอบผู้ชาย...” เต๋าเน้นเสียง “อย่ามาทำให้เพื่อนเราเบี่ยงเบน”
“เราก็ไม่ได้ชอบที่คชาเป็นผู้ชาย...แต่ชอบที่คชาคือคชาต่างหาก”
“ก็เหมือนกันนั่นล่ะ!” เต๋ากดเสียงต่ำ ความหงุดหงิดพลุ่งพล่าน เขามองสบตากับอ้น เห็นประกายตาท้าทายในนั้นแล้วก็ยิ่งทำให้คลื่นอารมณ์ปั่นป่วน “อย่ามาทำให้คชาเบี่ยงแบน เพื่อนเราเป็นผู้ชายปกติ...”
“สำหรับเรา รักคือรัก ไม่ว่าคชาจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ไม่เกี่ยว...เต๋าอย่ามาทำเป็นคิดแทนคชาหน่อยเลย คชาไม่ใช่ของเต๋าสักหน่อย คชามีสิทธิ์เลือกแล้วก็ตัดสินใจ”
เต๋าขบฟัน กำหมัดแน่น อยากจะชกหน้าหล่อๆ นั้นสักเปรี้ยง เหตุผลข้างๆ คูๆ!! “ขอบอกไว้ตรงนี้เลย...ว่าคชาไม่มีวันชอบผู้ชาย เรารู้จักเพื่อนเราดี!”
อ้นมองเต๋านิ่งๆ ...นิ่ง...นาน ก่อนรอยยิ้มมุมปากนั้นจะกว้างขึ้น “งั้นเราว่าเราคงรู้จักคชาดีกว่าเต๋าแล้วล่ะ...”
ไม่รู้ทำไม แต่คำพูดนี้ทำให้เต๋าหน้าชา เขาอ้าปากจะสวนกลับแต่ต้นรีบสะกิดเรียกไว้ก่อน “เต๋า ชามาแล้ว...” เต๋าถึงได้หุบปาก สะบัดหน้าหนีอย่างฮึดฮัด
“คุยอะไรกันอยู่?” คชาถามพลางมองหน้าเต๋า ไล่ไปยังต้น เจมส์ แล้วหยุดยังอ้นที่ยิ้มรับ
“สร้างความสนิทสนมกับเต๋านิดหน่อย ไม่มีอะไรหรอกชา”
กูอยากสนิทกับมึงตายห่าล่ะ!
“ชา กลับ!” เขาไม่รอฟังคำตอบก็คว้ามือคชาเดินลิ่วไปที่จักรยาน ได้ยินเสียงโวยวายว่าให้รอยูกิก่อน แต่เต๋าหงุดหงิดจนไม่คิดจะหยุดรอ
“มาเองก็ให้กลับเองดิ่” พอหลุดปากพูดไปก็รู้สึกตัวว่าตายห่าอีกแล้ว นั่นน้องสาวคชา...แต่นอกจากคชาจะไม่ท้วงแล้วยังเลิ่กคิ้วพลางส่งยิ้มบางๆ ให้ เล่นเอาเต๋าหายโกรธกลายเป็นงุนงงไปแทน “ยิ้มไรอ่ะ?”
“เปล่า”
“ก็เห็นยิ้มอยู่เนี่ย ยังบอกเปล่าอีก”
“ก็ยิ้มจะได้กลับบ้านไง” คชาพาเปลี่ยนเรื่องเฉยเลย แถมพอถึงจักรยานก็เอ่ยเร่งเข้าซะอีก “เร็วดิ่ อยากกลับบ้าน” เต๋าเลยได้แต่ไปทำหน้าที่สารถีอย่างมึนๆ
อากาศรอบด้านเริ่มเย็น เต๋าได้กลิ่นชื้นๆ เหมือนตอนใกล้ฝนตกเลยรีบเร่งฝีเท้า เสียงล้อจักรยานบดไปกับพื้นถนนคลอไปกับเสียงฮัมเพลงในลำคอของคชา...ไม่รู้ไปอารมณ์ดีมาจากไหน
“ทำไมอารมณ์ดีจัง?” เขาเอ่ยถามคชาแต่พอถามปุ๊บ ในหัวดันโยงถึงใบหน้าหวานๆ ของไอ้หนุ่มผมยาวซะได้ น้ำเสียงที่ใช้ถามต่อมาถึงได้เริ่มโหด “หรือเป็นเพราะอ้น?”
คชายิ่งหัวเราะเสียงดัง “งั้นมั้ง”
ฟังคำตอบแล้วเต๋าชักรู้สึกเสียใจที่ถาม เขารู้สึกหมดแรงปั่นเอาดื้อๆ หัวใจร่วงลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม “ชา...” ชอบอ้นเหรอ?
ประโยคหลังเพียงแค่ดังอยู่ในใจ เต๋ายอมรับว่าไม่กล้าถาม...เขากลัวคำตอบ ถ้าเกิดคำตอบของคชาออกมาว่าใช่ เต๋าก็จินตนาการไม่ออกเหมือนกันว่าตัวเองจะรู้สึกยังไง...
“ล้อเล่นหรอกน่า อารมณ์ดีได้เตะบอลต่างหาก” คำตอบกลั้นเสียงหัวเราะของชาทำให้เต๋ารู้สึกดีขึ้นเยอะ แม้จะฝืนยิ้มฝืดๆ แต่ก็ดีกว่าความรู้สึกแย่ๆ เมื่อนาทีก่อน
“ให้มันจริงเหอะ”
“จริงดิ่ ชารักเต๋าคนเดียวหรอกน่า...”
โครม!!!
ทันทีที่คชาพูดจบประโยคเต๋าก็เสยเข้ากับฟุตบาทแล้วกลิ้งตกลงมาจากจักรยานด้วยอารามตกใจ แต่คชาทำตัวเหมือนรู้ทันว่าเขาจะทำจักรยานล้ม กระโดดลงจากรถอย่างว่องไว ผลสรุปเลยมีแต่เต๋าที่ลงไปจับกบอยู่บนพื้น หน้าจูบฟุตบาท เข่าถลอกปอกเปิด หมดสภาพเดือนคณะอย่างสิ้นเชิง
“อ่อนว่ะเต๋า!” ชาหัวเราะเสียงดังแล้วยื่นมือให้เขาที่ตะเกียกตะกายลุกขึ้นมานั่งด้วยสติที่ยังไม่กลับมาครบสมบูรณ์ เขาเงยหน้ามองคชา เห็นยิ้มสว่างสดใส เจิดจ้ายิ่งกว่าไฟถนนแล้วรู้สึกแสบตาอย่างบอกไม่ถูก...แถมหัวใจยังเต้นรัวๆ ได้แต่เม้มริมฝีปากหลบสายตา ท่าทางเอียงอายจนเขาสมเพชตัวเองขึ้นมาอีก 5 เลเวล
“ชาอย่าล้อเล่นแบบนี้ดิ่...เต๋าตกใจนะ” เขาเอ่ยแก้เก้อพลางยกมือขึ้นเกาหลังคอ ได้ยินเสียงหัวเราะขึ้นจมูก
“เต๋าเอ๊ย! โอเค ไม่ล้อเล่นแล้ว ลุกเร็วดิ่! ค่ำแล้วอยากกลับบ้านเนี่ย”
เต๋าพยักหน้า คว้ามือที่ยื่นมาเพื่อยันตัวลุกขึ้น แต่พอลุกขึ้นได้ครึ่งทาง หน้าที่เคยสว่างกลับเขียวคล้ำ คชามองอาการนั้นเงียบๆ แล้วเอ่ยปากถาม “เป็นไรอ่ะ? เจ็บตรงไหนเหรอเต๋า?”
“ทั้งตัวอ่ะชา” อันนี้ไม่ได้สำออยแต่เจ็บจริง...โอเค มันอาจจะมีอารมณ์อยากอ้อนด้วยส่วนหนึ่ง แต่ไอ้เจ็บนี่ไม่ได้โกหกเลยสักนิด
คชาไล่มองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า ตาใสๆ นั้นหยุดอยู่ที่เข่าเปื้อนเลือด ข้อศอกถลอกปอกเปิกและใบหน้าก่อนระบายลมหายใจ หัวทุยๆ ส่ายไปมา “อ่อน! ไปซ้อนเลยปะ เดี๋ยวชาปั่นเอง”
“จะดีเหรอ?”
“อย่าลีลา อยากกลับบ้าน”
เมื่อคชาบัญชา เต๋าเลยเปลี่ยนหน้าที่จากสารถีไปเป็นสก๊อยส์ เขากลั้นยิ้มตอนได้ยินเสียงคชาบ่นฮึดฮัดทำนองว่าหนักเป็นบ้า แต่ก็ยังปั่นต่อไปช้าๆ
เต๋าก้มลงมองพื้นถนนที่วิ่งผ่านไปเงียบๆ เขารู้สึกสงบ...ชายหนุ่มจุดยิ้มบางแล้ววางหัวตัวเองแปะลงบนแผ่นหลังเล็กๆ กลิ่นเหงื่อลอยมาแตะจมูก แต่เขาไม่ได้รังเกียจเลย... ตรงข้าม กลิ่นของคชาทำให้เขาสงบ...สงบจริงๆ
“เต๋า ง่วงเหรอ? อย่าเพิ่งหลับนะ จะถึงแล้ว...” น้ำเสียงนั้นค่อนข้างอ่อนโยน ...อ่อนโยนจนเต๋าชักหวั่นใจ
“เปล่า...เป็นลมเพราะคชาตัวเหม็น” เขาเอ่ยขัดกับความคิด ได้ยินเสียงคชาโวยวายก็ได้แต่หัวเราะรับ บางที... เต๋าก็กลัวบรรยากาศดีๆ ตอนอยู่กับคชา
ตอนพูดคุยกับอ้น บอกตามตรงที่เขาระเบิดอารมณ์ เหตุผลหนึ่งมาจากความหงุดหงิดในความงี่เง่าของตัวเอง ตอนคุยกับอ้น...เขานึกรังเกียจตัวเองขึ้นมาจับใจ อ้นกล้าเปิดเผยทุกสิ่งทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมา แต่เขากลับ...
มันทำให้เขาหวั่นใจ
ไม่ใช่ว่าเขากลัวว่าความรู้สึกตัวเองจะเปลี่ยนไป แต่เขากลัว...กลัวจะต้องยอมรับ...
ว่าความรู้สึกของเขาไม่เคยเปลี่ยนไปเลย มันไม่เคยเปลี่ยนไป และคงจะไม่มีวันเปลี่ยนไป
TBC
ห้ามทวงเรื่องอื่น-*-
ไม่ได้แต่งฟิคที่เคะแบ้วมา...นานนมกเลแล้วทีเดียวเชียว ขอย้ำอีกครั้ง ห้ามทวงฟิคเรื่องอื่น เปลี่ยน-*-
ความคิดเห็น