คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : สถานะ : เพื่อนสนิท (Status1 ไม่ใช่ไม่ใช่ ) #chenbaek 100%
สถานะ : เพื่อนสนิท
Status 1ไม่ใช่ไม่ใช่
เช้าวันนี้บรรยากาศก็ดีอยู่จะถ้าไม่ติดว่าไอคนตัวขาวอย่างกับหลอดไฟเรืองแสงตอนนี้อาการเหมือนไฟตกหรือสตาร์ทเตอร์จะขาดวะ ไอห่วงเพื่อนมันก็ห่วงแค่ผมหิว แบคฮยอนหิวเว้ย พอเห็นว่าจุนมยอนบอกไม่เป็นไรผมก็แสดงเจตนาทันที
“ตามใจ ไปเถอะจงแด ท่านบยอนคนนี้หิว” คุณเพื่อนก็ไม่ขัดพยักหน้ารับทันที แหม่เพื่อนใครวะ น่ารักจริงจริงๆ
“เอาอะไรไหมจุนมยอน” จงแดหันไปถามก่อนจะไปหาของกินตามที่ผมชวน
“ไม่ล่ะจงแด ขอบใจ” แล้วมันก็พยักหน้ารับ
ตอนแรกผมกะจะชวนจงแดไปกินข้าวที่โรงอาหารให้เป็นเรื่องเป็นราว แต่พอคิดดูอีกเรียนแค่สองชั่วโมงก็พัก ค่อยกินตอนนั้นดีกว่า
“จงแดไปเซเว่นนะ” ไม่ต้องรอให้มันตอบหรอกเพราะยังไงจงแดมันก็ต้องตามใจผมอยู่ดี แต่ระหว่างทางที่เดินนี่ดิ บังเอิญหรือซวยก็ไม่รู้ดันเดินผ่านโต๊ะสาวคณะบริหาร คณะเดียวกับพวกผมนี่แหละกำลังเมาส์กันอย่างเมามันส์เลย มันจะไม่อะไรถ้ามันไม่ใช่
“นี่แกตกลงแบคฮยอนกับจงแดเขาเป็นแฟนกันจริงป่ะ” คนผมยาวเปิดประเด็น
“แต่เห็นเพื่อนๆในกลุ่มบอกเพื่อนนะ” อันนี้คนพูดย้อมผมสีน้ำตาล
“แน่ใจเหรอ” คนผมหน้าม้าถาม
“แกถามทำไมย๊ะ” เจ้กระเทยที่นั่งโบ๊ะแป้งครับประโยคนี้
“ก็ ช่างเถอะ เปลี่ยนเรื่องๆ”
อ้าวยัยพวกนี้คนแอบเผือกมันค้างนะเว้ยครับ โห้ยแบคเซ็ง แต่เดี๋ยวฟังเรื่องชาวบ้าน ไม่ใช่สิเรื่องผมที่ชาวบ้านพูดหาก
“ว่าแต่ทำไมใครชอบคิดว่าเราเป็นแฟ...”
อ้าวไอคนที่มากับผม คิมจงแดมันไปไหนแล้วอ่ะ เวรเพื่อนทิ้ง หาสิหา แต่เดี๋ยวสงสัยมันเดินไปเซเว่นแล้วอ่าไปสิรอไร
ผมใช่เวาลาไม่นานในการเดินมายังที่หมาย มาถึงเซเว่นผมก็พยายามมองหาไอคุณเพื่อนตัวดี แต่ก็ไม่เห็นเลย คิมจงแดนายกำลังทำให้ฉันหงุดหงิดนะ ทำแบบนี้ได้ไงมาด้วยกันแท้ๆทิ้งกันเฉย แล้วผมก็บ่นไปเรื่อยเปื่อยจนซื้อของเสร็จ พอก้าวออกมาจากเซเว่นผมก็เจอกับไอเพื่อนตัวดี กำลังจะอ้าปากเรียก ก็ค้างกึก ก็มันไม่ได้ยืนอยู่คนเดียว มีผู้หญิงยืนคุยอยู่ด้วย ว่าแต่หน้าคุ้นๆคนในคณะนั้นแหละผมรู้แต่ทำไมคนนี้มันคุ้นจัง แล้วนั่นอะไรมีให้ของกันด้วย นี่ใช่ป่ะสาเหตุ แหม่เจอสาวแล้วทิ้งเพื่อน ฉันขอให้นายโดนทิ้งไอไดโนเสาร์ เหอะคิดว่าแบคฮยอนจะสนใจเหรอ สวยยังไม่ได้ครึ่งจุนมยอนตอนแต่งหญิงด้วยซ้ำ แบร่
“จงแด” แต่ปากกก็ตะโกนเรียกแบบไม่ต้องคิด พร้อมก้าวตรงไปยังเจ้าของชื่อ ส่วนผู้หญิงคนนั้นน่ะเหรอ ไปตั้งแต่ผมตะโกนเรียกแล้ว สงสัยอายมั้ง หรือเขิน จะอะไรก็ช่างนางเถอะ
“นั่นอะไร” ผมจ้องมองไอกล่องที่อยู่ในมือเพื่อน แบคฮยอนไม่ได้อยากรู้นะถามเฉยๆ
“ไม่รู้สิ เขาให้มา” เอาตรงๆนะผมหมั่นไส้ไออาการแล้วไม่รู้ไม่ชี้แบบนี้ของเพื่อนตัวเองมาก คือคิดว่าหล่อมากว่างั้น
“ทำไม มาสารภาพรักไง” ไม่ตอบครับแล้วเดินหนีอีก จำไว้นะได้หญิงแล้วทิ้งเพื่อน หงุดหงิดคูณร้อย
ในเมื่อมันไม่พูดผมก็ไม่จะไม่พูดบ้าง ผมไม่ได้งอนนะแค่อยากให้มันสำนึกบ้าง แล้วก็รีบเดินไปกระแทกไหล่จงแดจนแซ แล้วก็รีบก้าวโดนไม่หันมามองคนโดนชน
จงแดได้แต่สายหน้ากับอาการเด็กๆของเพื่อน ผมกับแบคฮยอนรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆเรียนด้วยกันตลอดเพิ่งจะมาแยกกันก็ตอนมอปลาย แต่ดันมาเจอกันอีกทีตอนมหาลัย มันก็แปลกใจและดีใจนะที่ได้เจอเพื่อนเก่า อีกอย่างถ้าผมพูดไปแล้วอย่าไปบอกแบคฮยอนนะ ผมจะบอกว่าเขาดูดีขึ้นมากเลยนะ 5555 แน่ะอย่าเพิ่งคิดว่าผมแอบชอบเพื่อนตัวเองนะไม่ใช่นะ มันก็แค่เพื่อนสนิทนั้นแหละ เราพักอยู่ห้องเดียวกัน เวลาวันหยุดก็กลับบ้านด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน ไปเที่ยวดูหนังฟังเพลง เออผมว่ามันเริ่มเยอะล่ะ แต่เพื่อนที่ไหนเขาก็ทำกันป่ะ เนาะ แต่คงต้องไปง้อหน่อยแล้วล่ะ
“นี่งอนอะไร” ไม่ต้องมาถามกุไม่ตอบหรอก
“แบคฮยอน จะไม่พูดกันหน่อยเหรอ” ไม่สนเว้ยคนจะเดิน
“ถ้าบอกเรื่องเมื่อกี้จะยอมพูดด้วยป่ะ” กึก ไม่ดิถ้ายอมง่ายๆมันจะหาว่าเสือกได้ ไม่ไม่
“ตกลงไม่อยากรู้?” ผมหันกลับไปมองหน้าเพื่อนสนิทตัวเองอย่างใช่ความคิด
“มันเรื่องของนาย อยากบอกไม่อยากก็ไม่เกี่ยวกับฉัน” จงแดแอบเสียศูนย์ไปไม่น้อยก็นี่มันไม่ใช่คำตอบที่ควรออกมาจากปากคนอย่างแบคฮยอน สงสัยจะงานใหญ่แล้วหล่ะงานนี้
จงแดรีบก้าวไปจนทันกับแบคฮยอนจนตอนนี้ทั้งสองกลับมาเดินคู่กันเหมือนเดิม
“ที่ไม่บอกเพราะฉันคิดว่ามันไม่ได้สำคัญ อีกอย่างเขาขอแค่ให้ฉันรับของ” คำพูดยืดยาวถูกส่งมาอธิบายให้เพื่อนสนิทฟัง แต่สิ่งที่ได้กลับมาเพียงแค่
“อืม”
“อืม เนี่ยนะ” คนฟังแทบอยากจะกัดลิ้นตาย อะไรกันมันเกิดอะไรกับแบคฮยอน ใครก็ได้ช่วยบอกผมที
พอเดินกลับมาที่โต๊ะก็เจอเข้ากับเรื่องคาดไม่ถึง ท่านประธานคิมของพวกผมกำลังแยกเขี้ยวใส่คู่ปรับคนสำคัญ แล้วก็ยังทันเหล่ามนุษย์เพื่อนกำลังตั้งวงพนันกันอย่างคึกคัก
“โคตรจะรักเพื่อนนะพวกคุณ” แบคฮยอนที่เดินกลับมาพร้อมกับผมก็ส่งเสียงไปตั้งแต่ขายังไม่ถึงโต๊ะ
“แล้วทำไมไม่แยกวะ” ผมได้แต่มองอย่างงงนี่ใจคอพวกมันจะปล่อยให้คู่นี้ตีกันหรือไง
“ก็เผื่อเขาจะจ้องนานแล้วจิตใจตรง ปิ๊ง อะไรแนวนี้” คริสตอบผมทั้งที่ตายังมองอยู่ที่เดิม
“พ่องแกดิ” และท่านประธานคิมก็สนองตอบอย่างไว
“ชื่นใจไหมคริส น้ำไม่ต้องเนาะ” แบคฮยอนกำลังหยิบส่งให้ถึงกับเก็บกลับ ผมก็ได้แต่แอบขำ อย่างน้อยเรื่องนี้ก็ทำให้เพื่อนสนิทผมอารมณ์ดีขึ้น พวกเรามองดูเหตุการณ์ตรงหน้า และมันมีบางอย่างที่มันทำให้ผมรู้สึกแปลก
“แบค ๆ นายว่าแปลกมั้ย” ผมกำลังใช้มุกที่ชอบใช่กันประจำเพื่อคุยกับคนงอน
“ฉันก็ ไม่รู้” แล้วแบคฮยอนที่เหมือนจะคล้อยตามก็ปล่อยผมไว้กลางทาง เอาเหอะค่อยหาทางง้อกันใหม่ละกัน
อาหารกลางวันนี้ควรจะบอกมันว่าไงดีอาหารมันก็อร่อยปกติของมันแหละถ้าไม่ติดว่าคนร่วมโต๊ะมันทำลายรสชาติอาหารได้แบบไม่มีดี จุนมยอนที่นั่งเงียบไม่พูดไม่จาโดยมีอี้ชิงนั่งยิ้มหวานส่งให้ แล้วก็ไอตัวสำคัญบยอนแบคฮยอน ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ ตกลงเข้างอนผมเรื่องอะไรเนี่ย ถ้าเรื่องไปของขวัญนั้นก็ยอมเล่าแล้วไง แล้วก็บอกเองนี้ว่าไม่อยากรู้แล้วมันยังไม่จบอีกเหรอ หรือผมเผลอไปทำอะไรให้เขาโกรธโดยไม่รู้ตัว เค้กในตู้เย็น ไม่ยังไม่ได้กินนะ ช็อกโกแลตอันนี้ก็ยังไม่ไม่ได้เกะ แล้วมันอะไรวะ ถุงเท้าซักแล้วนะ ผ้าก็ตากแล้ว โห้ยแล้วมันอะไรวะ ขนาดเมื่อกี้ก่อนก็ยอมเสี่ยงเดินไปเคลียส์กับอี้ชิงตรง ถ้าปกติแบคฮยอนคงจะชมแล้วยิ้มหน้าบานว่าเพื่อนตัวเองเก่ง แต่นี่อะไรมองนิ่งๆเหมือนไม่ได้ใส่ใจ ฉันจะน้อยใจแล้วนะไอหมาแบค
“วันนี้เลิกไวใครมีโปรแกรมจะเสนอปะ” คนยังไม่อยากกลับห้องตะโกนถาม
“จะมีโปรแกรมอะไรหล่ะแบค ไหนนายชวนฉันไปซื้อของขวัญให้เทาไง” อ้าวกรรมชวนเขาแล้วดัน ไอ ลืมไปไม่ได้บอกจงแดนี่หว่า
“แบคฮยอนไม่ได้ลืมจะจุนมยอน แค่ถามเผื่อๆ” ตอนกลับบ้านต้องไปเปิดดูสีข้างหน่อยแหะๆ
“เหรอ” จุนมยอนอ่าอย่าทำเสียงแบบนี้สิแบคฮยอนอาย
“อ้าวจงแดงั้นนายก็ต้องไปกับสองคนนี้สิ” คริสนายนี่แสนรู้ไปแล้วนะ แล้วอะไรไม่ต้องมาเหล่มองเลยไอไดโนเสาร์
“ไม่ต้องฉันจะไปกับจุนมยอน” จบปิ๊ง ในความคิดของแบคฮยอนนะ แต่สำหรับอีกคนมันเพิ่งเริ่มต้น
“มีไรกันป่ะวะ เห็นแบคมันแปลกๆตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว” จงแดเหล่ตามองเพื่อนหน้าหวานนิดนึง แล้วจ้องมองแผ่นหลังของแบคฮยอนที่เดินออกไป
“งอนมั้ง ไม่รู้หว่ะ” ตอบแค่นั้นก็เดินออกมา ไม่ได้สนใจหรอกว่าลู่หานมันจะรู้สึกยังไง เพราะตอบนี้จงแดไม่มีอารมณ์จะคิดอะไรทั้งนั้น
กลับถึงจงแดก็แทบจะทิ้งตัวลงกับพื้นไม่สงไม่สนมันแล้วโซฟา ก็ตั้งแต่รู้จักกันมาไอหมาแบคมันไม่เคยทำแบบนี้นี่หว่า ถึงจะเคยงอนกันก็ไม่เคยชั่วโมงแล้วนี่ พอเหลือบตาไปเห็นกระเป๋าสะพายขอตัวที่อยู่ข้างตัวก็เกิดหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก ก็ในนั้นมันมีของขวัญบ้าๆนั้นอยู่ว่าจะทิ้งก็ไม่ได้โอกาสสักทีเลยต้องเก็บเอามาด้วย
“แม่ง หงุดหงิดห่าไรวะ งงเว้ย กูงงตัวเอง”
“แบคเลือกได้ยังจะซื้ออะไร” เจ้าของชื่อยังหันซ้ายหันขวาแบบงง เอาตรงๆจะที่ชวนเอนมาคือแบคไม่ได้คิดอะไรเลย แค่เคืองไอบีหนึ่ง ถ้ามากับมันป่านนี้ เฮ้ยไม่เอาไม่คิด แล้วกับสะบัดหัวไปมา
“ยังไม่ได้เหรอ” แต่กลับทำให้จุนมยอนเข้าใจว่ามันคือคำตอบ แบคฮยอนก็ได้แต่ตามน้ำ
“เอางั้นดีมั้ยจุน เทามันขี้กลัวผีซื้อโครมไฟไปให้มันจะได้เปิดให้สว่างทั้งห้อง” และจุนมยอนก็ไม่ขัดเพราะมันก็เข้าท่านะสำหรับคนอย่างจื่อเทา ขี้กลัวจะตายแต่ดันเสือกเจอผีเป็นประจำ เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะซื้ออะไร ตอนนี้ก็แค่กำลังเลือกว่าจะเอาแบบไหนดี แค่โครมไฟก็จริงนะ แต่แบบนี่เยอะยิ่งกว่าหน้านี่พิซซ่าอีก
สองหนุ่มตั้งหน้าตั้งตาเลือกโครมไฟ ที่มีอยู่เยอะแยะมากมาย แบคฮยอนตัดสินใจโครมไฟรูปทรงเรือใบ และโลกมาอย่างอันถือตรงไปยังเพื่อนสนิทที่กำลังเลือกของแบบเดียวกันอยู่ หาที่กำลังก้าวก็ต้องหยุดเมื่ออยู่ก็มีผู้หญิงที่ถ้าเขาจำไม่ผิดก็คนเดียวกับที่ส่งของขวัญให้จงแดเมื่อเช้า แล้วจะขวางทางทำมั้ยว่ะเนี่ย
“เอ่อ แบคฮยอนคือ” คงไม่เสียมารยาทใช่มั้ยถ้าจะบอกว่าเขากำลังรำคาญ
“มีอะไรกับหรือเปล่า” เดี๋ยวถามแค่นี้จะเขินทำไมเนี่ยพี่แบคงง
“ “ อ้าวเงียบ
“คือผมทำกำลังยุ่งนิดหน่อยนะ มีอะไรหรือเปล่าถ้าไม่ผมขอตัวนะ”
“ชอบของขวัญเราหรือเปล่า” และสงสัยแบคฮยอนคงจะแสดงออกชัดเจนไปหน่อย
“ก็ที่เราฝากจงแดไปเมื่อเช้า” ถึงบางอ้อเลยครับ แหม่ไอเป็ดของคนอื่นเอาไปทำเป็นเจ้า เย็นนี้ทำเป็ดกินเป็นอาหารเย็นดิมั้ยคิมจงแด
“อ๋อได้แล้ว คือผมยังไม่ได้ดู แต่ยังไงก็ขอบใจนะ ผมของตัวก่อน เอิ่มคุณ”
“ฮโยจิน เราชื่อฮโยจิน”
“อ่าฮโยจิน แล้วเจอกันใหม่นะ”
“อ่ะ เอาแบบไหน” ยื่นโครมไฟที่เลือกมาส่งให้จุนมยอนดู
“สวยเลยอ่ะ ยิ้มอะไร” แค่เจอโครมไฟนี้มันน่าดีใจขนาดต้องยิ้มหน้าบานขนาดนี้เลย
“เปล่า”
“โกหก”
“อ้าว”
“ทำไมจงแดมันโทรมาง้อไง”
“ง้อ? หมายความว่าไง”
“ก็ใครจะรู้ ฉันไม่ใช่เพื่อนสนิทแบบนายกับจงแดนี่ เอาแบบเรื่อใบนะเดี๋ยวฉันไปจ่ายเงินก่อน” แล้วก็ดึงโครมไฟในมือแบคฮยอนไปปล่อยให้เพื่อนได้แค่ยืนอ้าปากพะงาบๆเหมือนปลาขาดน้ำ ให้ตายเหอะใครบอกจุนมยอนไม่กวน แบคฮยอนคนนี้ของเถียงขาดใจ
“อย่าให้ถึงทำฉันบ้างนะ แล้วมันไม่ได้โทรมาเว้ย”
กว่าจะถึงห้องก็เกือบสองทุ่ม แต่น่าแปลกทำไมมันมืดแบบนี้ จงแดไปไหนมือบางก็ทำการสร้างความสว่างเปิดไฟมันทำดวงที่มี แค่คิดว่าจงแดแล้วจะมีอาการยังไงก็สนุกแล้ว
“อ่า ทีนี้ก็รอเวลา”
“สนุกเนาะผลาญพลังงานชาติเนี่ย แล้วก็เงินในกระเป่าพ่อแม่”
“ของขวัญ” ไม่ได้สนใจกับคำบ่นใดใดแต่กลับทำในสิ่งที่คนบ่นถึงกับคง
“ของขวัญ?”
“เออดิ ก็ที่ฮโยจินฝากมาไง” จงแดนึกสภาพตัวเองไม่ออกเลยว่าตอนนี้เขาทำหน้าแบบไหนอยู่แบคฮยอนถึงได้ขำเอาจะเป็นจะตาย
“ไงครับน้องเป็ดมีคนฝากของขวัญมาให้พี่ทำเนียนเหรอ” แบคฮยอนน่ะสนุกแต่จงแดนี้ดิ เดินหายเข้าไปในห้องแล้วเดินออกมาพร้อมกล่องของขวัญแล้วก็โยนให้เจ้าของ
“ที่โกรธจะเป็นจะตายเพราะอยากได้ไอของบ้านี่น่ะเหรอ เหอะ”
ปัง เสียงประตูปิดลงแบบที่สื่ออารมณ์ของเจ้าของห้องได้ชัดเจน
แล้วไปคนที่คิดว่าจะแกล้งให้อีกฝ่ายง้อตอนนี้เหมือนคดีจะพลิก
“เวรกรรม” มือบางยกขึ้นกุมขมับ ง้อคิมจงแดนี่มันงานช้างชัดๆ
เช้าวันเสาร์ภาระกิจทุกอย่างยังเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือง้อจงแด
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“do you want to build a snowman” เงียบ เอาวะลองอีกที
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“do you want to build a snowman” เงียบ?
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“do you want to build a snowman”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“do you want to build a……” สโนว์ไม่มันมาคนในห้องก็เปิดประตูออกมาก่อน
“ปั้นหิมะพ่อง เหรอกรกฏา” ไม่ต้องบอกนะว่า อาการจงแดเป็นยังไง ฟังจากคำพูดก็พอรู้ใช่มั้ยล่ะว่ายิ้มหวานมาเลย #เดี๋ยวๆผิด
“แหม่ก็เค้าไม่รู้จะง้อตะเองยังไงเนี่ย” แบคฮยอนเดินมาเกาะแขนแล้วเอาหน้ามาถูกบริเวณไหล่ของคนงอน
“ไม่ต้องตะองตะเอง ไปไกลเลย” จงแดพยายามสะบัดออก แต่สงสัยว่าเจ้าเพื่อนตัวดีจะเตรียมการมาดีล็อกแขนเสียแน่น
“ปล่อยจะไปอาบน้ำ” ข้ออ้างที่ต่อให้สิบจงแดพูดแบคฮยอนก็ไม่มีทาปล่อย
“ไม่จนกว่าคุณออมม่าจะหายโกรธอัปป้า” คำเรียกแทนตัวแบบแปลกของแบคฮยอนทำเอาคิ้วของคนฟังแทบจะผูกโบแต่มีเหรอแบคฮยอนจะสน
“อัปปาไม่ได้สนใจของขวัญอะไรนั้นจริงๆนะ แค่อยากล้อเล่นเอง ออมม่าไม่งอนนะ” แล้วทำตาปริบๆ
“เออหายก็ได้ ปล่อยเว้ยรำคาญ” ถ้าขืนปล่อยให้แบคฮยอนง้อต่อเขาคงต้องประสาทกินแน่ ออมม่าเขาเนี่ยนะ คิมจงแดคนนี้เนี่ยนะ ไอลูกหมาไม่ได้ดูตัวเองเลย
ภารกิจประจำวันหยุดเสร็จเพื่อนสนิททั้งสองเลยมาใช่ชีวิตสโลว์ไลฟ์อยู่ตรงหน้าทีวี
“เราจะไปห้องเทากันกี่โมงอ่ะ” จงแดเอ่ยถามขนาดที่ส่งขนมเข้าปากไอตัวขี้เกียจที่นอนอ้าปากรออยู่
“บ่ายๆอ่ะ ลู่หานจะมารับ”
“อ้าวทำไม่เอารถไปเองวะ”
“เปลืองจะเอารถไปทำไมยังไงลู่หานมันก็ผ่านทางนี้อยู่แล้ว”
“งก” พอเริ่มรู้สึกว่านอนอยู่แล้วเถียงไม่ถนัดแบคฮยอนก็รีบเด้งตัวขึ้นมานั่ง
“แหมไอไม่งก แค่กูเปิดไฟทั้งบ้านบ่นยังกับกูเผาบ้านอ่ะเมื่อวาน”
“ก็กู...” ยังพูดไม่ทันจบมือบางของแบคฮยอนก็ยกมาปิดปากจงแดซะแล้ว
“อย่าเถียงอัปป้าสิออมม่า อัปป้าแค่ยกตัวอย่างเฉยๆ นี้เค้าก็ช่วยประหยัดไงเลยให้ลู่หานมารับ ตะเองเข้าใจนะ เข้าใจก็พยักหน้า” แล้วจงแดก็ได้แต่กรอกตามองบนจน
“ยังอีก ยัง พยักหน้าเร็ว” จนคนโดนปิดปากต้องยอมทำตามอย่างเลี่ยงไม่ได้
“อีกสิบนาทีฉันจะถึงหน้าหอ พวกนายออกมารอได้เลย” วางสายจากคนขับรถจำเป็นแล้วทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไปจัดการตัวเอง สิบนาทีของคุณชายลู่นะเหรอ ชั่วโมงนึงอย่างน้อยเชื่อพี่แบคเถอะ
“แบคฮยอนเว้ยเสร็จยัง เดี๋ยวลุ่หานมันรอนาน”
“นายทำเหมือนไม่รู้จักลู่หานงั้นแหละ” แบคฮยอนได้แต่แอบแบะปากแรงให้กับตรงเวลาของเพื่อนสนิท
“ก็สิบนาทีที่มันโทรมาอ่ะเมื่อชั่วโมงที่แล้ว แต่ฉันไม่ได้บอกนาย” แบคฮยอนเหรออ้าปากค้างไปแล้ว โอ๊ยโดนลู่หานบ่นจนหูชาแน่ๆ”แล้วทำไมเพิ่งบอกวะ” แล้วอะไรคือยักไหล่ กวนตรีนกันงี่ เหอะ
พอขึ้นรถมาได้ทุกอย่างกลับผิดคาด ไม่มีเสียงบ่น แถมยังมีรอยยิ้มหวานๆส่งมาให้อีก ผมกับจงแดได้แต่หันมองหน้ากัน ก่อนจากบ้านมันลืมกินยาเหรอทำมันถึงได้มีอาการแบบนี้ อมยิ้มตลอดเวลา ขับรถไปก็ร้องเพลงไปหรือเมื่อคือหัวมันฟาดกับหัวเตียงหว่า จงแด เค้ากลัว และเหมือนความรู้สึกนี้ของเรามันจะสื่อถึงกัน
“มีอะไรดีเหรอ อารมณ์ดีเชี่ยว”
“นิดหน่อย ทำไมหรืออยากให้กูบ่นเรื่องที่พวกคุณช้าครับ” กริบครับ ความเงียบคือคำตอบที่ดี จงแดหันมาสบตาผมอีกครั้งเหมือนจะบอกว่าปล่อยมันยิ้มไป จะได้ไม่ลำบากหู
จนถึงคอมโดจื่อเทาถามว่าบรรยากาศในรถอึดอัดมั้ย ตอบเลยว่าไม่เพราะผมกับจงแดเอาแต่สังเกตุอาการของคนขับเฉพาะกิจอยู่ตลอดเวลา ก็มันน่าสงสัยนี่หว่า ขนาดตอนอยู่ในลิทฟ์มันยังยิ้ม มันคงจะอาการหนักจริงๆ
“จงแด เดี๋ยวดิ”
“ไร”
“ออมม่ารูปสึกเหมือนอัปป้ามั้ย มันต้องมีอะไร”
“จะอะไรสงสัยเจอหญิงถูกใจ ได้นาฬิกาใหม่ หรือไม่ก็แมนยูชนะ”
“แมนยูไม่มีเตะเว้ย”
“งั้นก็สองอย่างแรก ไปรีบเดิน ลู่หานมันจะถึงห้องแล้ว” ไม่แบคฮยอนจะไม่ยอนจบแค่นี้แน่
กดกริ้งแค่ครั้งเดียวประตูห้องก็เปิดออกโดน จงอิน เป็นไปไงจงอินมาถึงก่อนพวกผม
“ต้องทำหน้าแบบใส่กูเลยแบคฮยอน เมื่อคืนกูนอนนี่”
แล้วก็ต้องร้องกันเป็นสามประสาน ผมหันไปเหร่อีกสองคน คือมึงก็สงสัย แค่อะไรคือผมโดนอยู่คนเดียว แบคฮยอนไม่ยอม
“รีบๆเข้ามาดิไปยืนออกันที่ประตูเพื่อ” เสียงเจ้าของห้องตะโกนมาจากด้านใน แล้วจะช้าอยู่ใยลุยครับ อาหารเครื่องดื่มพร้อมเพรียง
“เออเทาอะนี่ของขวัญ” ผมส่งของขวัญให้กับเจ้าภาพขนาดที่กำลังนั่งล้อมวงกันอยู่ ทุกอย่างมันก็ปกติ ถ้าจุนมยอนจะไม่แบะปากทุกครั้งที่มีเสียงเตือนจากแอพพิเคชั่นไลน์ ซึ่งตรงข้ามกับคริสที่เอาแต่ยิ้มขำๆกับแอพเดียวกัน เออผมว่าคงมีคนต้องการหมออย่างน้อยก็สองคนจากที่ผมมอง ต่างกับลู่หานที่ตอนนี้ไออาการอมยิ้มแบบเพ้อๆของมันหายไปแล้ว
“เฮ้ยจุนไปเดิมดูห้องเทากันมั้ย”
“ก็ดีตั้งแต่มายังไม่ได้สำรวจเลย อยู่แต่ครัว”
“มันไม่มีอะไรหรอก มีห้องนอนสองห้อง ห้องน้ำสาม ครัวหนึ่ง แล้วว่าห้องรับแขก พวกนายจะดูไปทำไม”
“พูดเหมือนไม่อยากให้ดูแบบนี้ ไมวะแอบใครไว้ป่ะ” ต่อมสังเกตการณ์แบคฮยอนกระตุกเลยครับ
“เออใช่กูก็สงสัย”
“ทำไมวะจงอิน” ลู่หานอดจะถามไม่ได้
“ก็เมื่อวานตอนกูโทรหามัน กูได้ยินเสียงใครไม่รู้พูดงุ้งงิ้งเข้าในโทรศัพท์ พอถามมันบอกไม่มี”
“ก็มันไม่มีจริงๆนี่หว่า” จงอินยกมือขึ้นข้ามแล้วพูดต่อ
“อย่าเพิ่งขัดครับคุณจื่อเทา พอจะนอนก็ไล่กูไปนอนห้องเล็ก ทั้งที่ปกติก็นอนด้วยกัน ทุกคนว่าแปลกป่ะ”
“พอเถอะ ถ้ากูซ้อนใครไว้ป่านนี้พวกนายก็ต้องเห็นแล้วดิ ใครจะไปแอบอยู่ในห้องได้เป็นวัน เลิกมโนเลย อยากดูอะไรก็ไปดูเลย”
อนุญาตมาขนาดนี้ก็จัดเลยครับห้องแรกเปิดประตูไปปั๊บ เออไม่มีอะไรอย่างที่มันบอกจริงนั้นแหละมีแค่ขององจงอินวางทิ้งอยู่บนเตียง มานอนคืนเดียวทำรกอย่างกับมาอยู่เป็นเดือน จุนมยอนเลยจัดการปิดประตูแล้วตรงไปยังอีกห้อง จุนมยอนเปิดประตูออกกว้าง แล้วเดินเข้าไป ผมก็เดินตาม
“เฮ้ย”
“อะไรแบค”
“เออคือ ปะ..เปล่า”
“ห้องวิวมระเบียง วิวสวยด้วยอ่ะแบค มาดูสิ”
“เอ่อจุน จุนนาย” ผมยังพูดไม่ทันจบจุนมยอนก็เปิดประตูออกไปยืนตรงระเบียงแล้ว เหท่านประธานนายไม่เห็นคนที่นั่งอยู่ตรงเตียงเหรอทำไมเสียมารยาทแบบนี้ ได้แต่บ่นในใจแล้วรีบออกไปหาคนที่เผลอทำตัวเสียมารยาท
“จุนนายเป็นคนแบบตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่เห็นเหรอว่ามีคนนั่งอยู่ที่เตียง” คำพูดของแบคฮยอนทำให้จุนมยอนเหวอได้ไม่น้อย
“มีคนอยู่ที่เตียงเหรอ จะบ้าเหรอแบคไม่มีใครเลย”
“จะไม่มีได้ไง ก็คน เฮ้ยไปไหนแล้ว หรือว่าเข้าห้องน้ำ” ไม่พูดเปล่ารบเดินตรงไปยังตำแหน่งที่คิดว่าคนแปลกหน้าคนนั้นจะอยู่ แต่พบว่า
“เงียบ ไม่เห็นมีเลยแบค”
“จุนนาไม่เห็นจริงๆเหรอ” จุนมยอนพยักหน้างึกๆ
“แต่เมื่อกี้ฉันจริงๆนะ เขายังยิ้มให้เราด้วย แง่ แง่ ออมม่า อัปป้าอยากกลับบ้าน” ไม่สนแล้วแบคฮยอนไม่สนแล้วไม่รู้ด้วยว่าจุนยอนเดินตามมามั้ย แบคไม่อยู่แล้ว
แบคฮยอนเดินกลับมาร่วมวงกับเพื่อนไม่พูดไม่จา ไม่สนรอยยิ้มล้อเลียนของจุนมยอนเอาแต่สะกิดแขนเพื่อนสนิทร่วมห้องไม่หยุด
“อะไรของแกวะแบค”
“ออมม่า อัปป้าอยากกลับแล้ว”
“อุต๊ะ ลู่หานต้องเมาแน่เลยอ่ะเพื่อนคริส”
“ทำวะ”
“ก็เพื่อนสนิทคู่นี้เขามีชื่อเรียกแทนตัวกันด้วย ออมม่า อัปป้า”
“หวายๆ หรือขยับสถานะแล้วไม่บอกเพื่อนวะ”
“เงียบพวกแกอ่ะ เมาแล้วก็ทำเหมือนจงอินนู้หลับๆไปซะ ไปจงแดกลับเหอะนะ นะ”
“ไหนว่าจะนอน”
“ไม่นอนแล้วจะกลับ”
“จุนมยอนกลับเหอะนะน ลู่หานไม่อยากนอนนี่แล้ว” ไม่ว่าว่างคล้องแขนจุนมยอนตามแบบที่แบคฮยอนที่ทำกับจงแดอีต่างหาก
“ลู่หาน!!! ไม่พูดด้วยแล้วเว้ยเจอแล้วจะรู้สึก”
“เจอไรวะ”
“ไม่บอก ไปเหอะจงแด”
“เออๆ กลับก่อนนะเว้ย” จงแดลุกขึ้นตามแรงฉุดของแบคฮยอนบอกลาเพื่อน
“เดี๋ยวจะกลับไง พวกแกมากับฉันนะ”
“ฉันจะกลับพอดีเดี๋ยวฉันไปส่ง” จุนมยอนอาสาที่จะไปส่งจงแดและแบคฮยอนเพราะเข้าเองก็ยังมีงานเอกสารนิดหน่อยที่ต้องทำ
“ขอบใจนะ”
เสียงแจ้งเตือนของไลน์ของแขกทั้งสามดังในเวลาไร่เรี่ยกันเรียกความสนใจได้เป็นอย่างดีแต่แปลกตรงทำไมของจื่อเทาไม่มี
และข้อความที่ปรากฏอยู่หน้าจอก็เรียกสติของทั้งสามได้อย่างดี
“จากแบคฮยอน” สามเสียงประสาน สบตากันชนิดที่ไม่ต้องบอกอะไร
“เฮ้ยเทาพวกเรากลับก่อนนะ”
ดึ้ง
Byunny กูเจอผี
......................................................................
สอบกันเสร็จยัง ยังไงก็สู้ๆนะเบื่อๆก็แวะมาอ่านฟิคเรานะ
มีอะไรก็ไปตามเราได้ตามที่ที่อยู่หน้าฟิคนะ555555
""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
ความคิดเห็น