คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : สถานะ : เด็กข้างบ้าน (Status 2 พี่นี่มันน่า.......) #lumin
Status 2 พี่นี่มันน่า.......
อากาศเย็นๆยามเช้านี่มันเหมาะแก่การนอนจริงนะ ลู่หานยืนยัน อากาศจากทำธรรมชาติก็เย็นสบาย
อากาศจากเครื่องปรับอากาศในห้องก็กำลังดี โอ๊ยชีวิตดี้ดี
“ตื่น ได้แล้วอาลู่เดี๋ยวก็สายหรอก”
คนกำลังเคลิ้มได้แต่เซ็ง มันเกิดอะไรกับคุณนายเสี่ยว ใครก็ได้บอกพี่หานที
ร้อยวันพันปีไม่เคยอะ ที่จะมาปลุกมาเรียกให้ตื่นไปเรียน แล้วนี่อะไร
“ม๊า!!!” เสียงเรียกแทบเหมือนตะโกน เรียกความสนใจจากคนที่กำลังเปิดหน้าต่างอยู่เป็นอย่างดี
พร้อมกับเสียงจิ๊อย่างขัดใจ
“จะเสียงดังทำไมไอลูกคนนี้” แล้วก็เปิดหน้าต่างจนครบทุกบาน
เอาตรงๆนะหน้าต่างห้องผมมีสองบานคุณนายแกเปิดจนหมดพร้อมปิดแอร์เสร็จสัพ มันต้องมีอะไร
“ม๊านั่นแหละมีอะไร จะสารภาพดีๆหรือต้องรอให้จำนนด้วนหลักฐาน” หรี่ตามองคนเป็นแม่อย่างจับผิด
“พูดมาก ไปอาบน้ำได้แล้ว” มีพิรุธ
แต่ยังไม่ทันได้คิดไปไกลจรวดกระดาษสีฟ้าก็ลอยมาตกลงตรงพื้นห้องใกล้ๆกับที่คุณนายแกยืนอยู่
นั่นไงงานนี้ต้องมีกบฏพี่หานฟันธง
“บังเอิญจังเลยเนาะ ม๊าเนาะ” คราวนี้ลู่หานขอเอาคืนม๊าตัวเองหน่อย แต่มีเหรอคุณนายจะยอม
ยังลอยหน้าลอยตาไม่แคร์สื่อ
“อะไรยะ” พร้อมกับโบกมือไปมาในอากาศแล้วก็ออกจากห้องไป
“เฮ้อ เชื่อเจ้เขาเลย” ลู่หานก้าวลงจากเตียง ไปหยิบจรวดกระดาษสีฟ้าที่เพิ่งทำการลงจอดเมื่อกี้
“คราวนี้อะไรอีกหละ” มือหนาคลี่จรวดกระดาษออกอ่าน
ข้อความเมื่อคืนยังไม่ทันได้ชำระความ อันใหม่มาอีกแล้ว ไหนดูหน่อยสิว่าไอเด็กนั่นจะทำอะไรอีก
-เช้านี้อากาศดีนะครับ
ผมรอตั้งนานกว่าหน้าต่างจะเปิดอ่ะ
อ่าเขิน>//<ผมเขินจริงนะ
ผมต้องไปเรียนแล้ว
เย็นนี้เจอกันนะ
พี่คนสวย-
ลู่หานที่กำลังอ่านข้อความก็เผลอยิ้มออกมา แต่ไอประโยคสุดท้ายนี่สิ อืมจะโกรธก็โกรธไม่ลง
“เด็กนี่ตลกดีหวะ
มีใครเขาเขียนจดหมายถึงคนอื่นแล้วบอกว่าตัวเองเขินกันวะ” เมื่อกี้ก็หงุดหงิดอยู่หรอกนะที่ถูกปลุก
แต่เอาเถอะ เย็นนี้เจอกันเหรอ แค่คิดลู่หานก็สนุกแล้ว เด็กนั่นคิดว่าเขาคือผู้หญิงถ้ารู้ความจริงจะเป็นไงนะ
แล้วไอความกล้าที่เขียนจดหมายจรวดนี่มาอีก
“555 เออรู้สึกเหมือนโดนจีบเลยเว้ย”
ร่างโปร่งเดินลงมายังชั้นล่างของบ้าน วันนี้นอกจากจะอากาศดีแล้วลู่หานยังอารมณ์ดีอีก
“อารมณ์ดีเชียวนะคุณชาย”
“ม๊านั้นแหละ มีอะไรก็รีบสารภาพมา” คนเป็นแม่แค่ยิ้มปนขำ
แหม่ก็ใครใช้ให้เจ้าหนูข้างบ้านหน้าตาน่ารักกันหละ แล้วก็ยิ่งน่ารักน่าแกล้งเข้าไปอีก
เมื่อเจ้าตัวเล็กคิดว่าลูกชายของเธอเป็นผู้หญิงไม่ใช่ผู้หญิงเฉยๆนะ เป็นทอมอีกต่างหาก
ช่างคิดจริงๆเด็กอะไร เห็นลู่หานชอบแหย่ชอบแกล้งบอกเลยว่าหม่าม๊าลู่หานก็ไม่แพ้กัน
พอเห็นว่าเด็กน้อยเข้าใจผิดก็เอาใหญ่แนะนำบอกชื่อเรียบร้อย
แล้วที่ดูจะถูกใจเธอสุดๆคงเป็นตอนที่เธอพูดถึงพี่อาลู่เจ้าตัวเล็กแก้มป่องก็สนอกสนใจจน
แม่ของเจ้าตัวยังอดแซวไม่ได้จนแก้มกลมนั้นแดงราวกับมะเขือเทศสุก คิดแล้วอดจะเอ็นดูไม่ได้
ถ้าสนิทกันมากกว่านี้อีกคิดจะขอเป็นลูกเพิ่มอีกซักคน
“ยิ้มนานไปนะม๊า คิดอะไรเนี่ย”
“ไว้แกเจอน้องเดี๋ยวแกก็รู้เอง” เชื่อผมเถอะคุณไม่อยากรู้หรอก ว่าหน้าผมเป็นแบบไหนตอนนี้
“เอาที่คุณนายสบายใจเลยครับ”
เช้านี้อากาศสดใสที่สุดมินซอกสัมผัสได้ ท้องฟ้า ต้นไม้ ดอกไม้และสายลม
ว๊ากโรแมนติก เมื่อเช้าอุตส่าตื่นแต่เช้ารอพี่สาวข้างบ้านให้เปิดหน้าต่าง รอตั้งนานก็ไม่เปิดสักที
จนต้องแบกหน้าไปขอความช่วยเหลือจากคุณป้า แล้วคุณป้าก็ใจดี คุณแม่ยายสนับสนุนมินซอกก็ลั้ลล้า
มินซอกเขินออมม่าผมเขิน แล้วก็ยกมือขึ้นจับแก้มตัวเอง เมื่อรู้สึกว่าแก้มมันตึงๆ
“อุยปวดแก้ม แหะๆ” พูดคนเดียว ยิ้มคนเดียว ใครจะมองมินซอกไม่สนหรอก
มินซอกมีความสุข
“เฮ้ มินซอก มินซอก” เสียงเรียกจากด้านหลังไม่ได้มีผลต่อโลกส่วนตัวของเจ้าแก้มกลมเลย
จนคนเรียกต้องออกแรงวิ่งเร็วขึ้น พอได้จังหวะก็กระโดดล็อคคอจากด้านหลัง
“โอ๊ย เล่นอะไรเนี่ยดงอู เจ็บนะ”
ปากคว่ำ หางคิ้วชี้ขึ้น อาการโกรธสไตล์คิมมินซอก แต่เอาจริงๆนะมันไม่ได้เห็นน่ากลัวตรงไหน
ตรงกันข้ามเขาได้ยินเพื่อนๆทั้งผู้หญิงแล้วก็ผู้ชายบางส่วนบอกว่ามันน่ารัก
เฮ้อเอาวะกลัวให้เขาหน่อยเดี๋ยวเพื่อนจะเสียน้ำใจ
“แหะ ไม่โกรธนะ ไม่ได้ตั้งใจให้เจ็บนี่หว่า” ยกมือขึ้นบีบนวดตามไหล่ลงมาแขนไปมาอย่างเอาใจ
“แล้วทำไมไม่เรียกดีๆหา” ดงอูถอนหายใจเฮือกพร้อมกับกรอกตามองบน
“ฉันเรียกนายจนคนเขามองกันทั้งถนนแล้วเถอะ” ตากลมเบิกกว้างเมื่อได้ยินที่เพื่อนบอก
แต่ใครจะบอกกันเล่าว่ามัวแต่คิดถึง...อ๊ากแค่คิดก็เขินแล้ว
“มินซอก นายไม่สบายป่ะ อยู่ๆก็หน้าแดง” ดงอู ถามเพราะเป็นห่วง แต่คนโดยถามนี่สิ
นอกจากจะไม่ตอบแล้วหน้าที่แดงเมื่อครู่ ตอนนี้มันลามไปถึงหูแล้ว
“เอิ่ม มินซอกนายจะระเบิดหรือเปล่า” ดงอูไม่ได้จะกวนนะ
ไอแก้มกลมๆของเพื่อนเขาตอนนี้มันแดงมากแดงจนอดกลัวไม่ได้ หวายแฮมเตอร์แก้มแตก สยอง
“จะบ้าเหรอ ไปรีบเดินเดี๋ยวสาย”
จ้ำอ้าวไม่สนเลยว่าเพื่อนฝูงจะงงขนาดไหน มันต้องมีอะไร
ต่อมเผือกของจางดงอูมันกระตุกตะหงิดตะหงิด ครับท่านผู้ชม
พอมาถึงห้องทุกอย่างก็ดูปกติ มีแต่ก็คุณแฮมเตอร์ที่นั่งข้างผมนี่สิครับ
เอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่าง ไม่มองเปล่านะ มันยิ้มด้วย ยิ้มจนผมต้องแอบเหล่ตามองตาม
มันยิ้มกับใครวะ เท่าที่เห็นก็ไม่มีนะแล้วยิ้มอะไรของมัน พี่จางอยากรู้ พี่จะลงไปชักดิ้นชักงอแล้วนะ
เมื่อกี้ยิ้มเฉยๆ ตอนนี้มีพับจรวดไปยิ้มไป
เกิดอะไรขึ้นกับนายหรือเปล่ามินซอกเพื่อนรัก
เมื่อวานก่อนกลับบ้านนายยังดีๆอยู่เลยนะ ดงอูอยากจิร้อง
และคนถูกมองก็เริ่มรู้ตัว เพราะคุณแฮมเตอร์เพื่อนยากของคุณจางหันมามองหน้าและยักคิ้วแถมให้อีกหนึ่งที
โอ้พี่จางจิไม่ทน
“มินซอกนายมีแฟนเหรอ” ถามตรง จนคนโดนถามแทบหงายหลังตกเก้าอี้
พอตั้งสติได้ปากรูปกระจับนั้นก็เอาแต่ยิ้ม จนคนมองขัดใจ
“ตกว่ามีใช่ป่ะ” ไม่ตอบกูสรุปเองก็ได้วะ
“แหะมันคือ คือ” อ้าวพอจะตอบก็ดันมาทำเป็นติดอ่าง ตบกระบาลสักทีดีมั้ย
เอาวะยอมทำลายภาพลักษณ์อันสดใสทำร้ายร่างกายเพื่อนรักตัวเองสักครั้ง
ตบเสร็จค่อยว่ากัน แล้วก็ยกมือเตรียมโบก แต่มือเล็กของเป้าหมายกับยื้อไว้ก่อน
“นี่นายจะตีฉันเลยเหรอ ใจร้าย” แล้วก็ช้อนตาขึ้นมองพร้อมค้อนให้อีก
เอาเลยเพื่อนเอาซะให้พอ พอใจเมื่อไหร่ไลน์มาบอกนะ ดงอูหมดคำพูดเว้ย แล้วก็ฟึดฟัดงอนกลับ
แต่ไม่ถึงนาทีคนที่แกล้งงอนก็สัมผัสได้ถึงแรงกดเบาๆที่แขน
แหม่ไอที่มันจิ้ม จึ้กๆอยู่นี่มันคิดว่าเพื่อนหรือขี้วะจิ้มซะ
คิดภาพตามนะครับมินซอกมันเอานิ้วมาจิ้มแขนผม ให้อารมณ์เด็กน้อยเจอของแปลกแล้วอยากรู้เลยเอาไม้มาลองจิ้มดู
แต่ในกรณีผมพิเศษหน่อยมินซอกมันเลยใช้นิ้ว เอาที่สะดวกเลยเพื่อน
“ไม่ต้องมาจิ้ม งอน ปากก็บอกว่าเพื่อน แต่แม่ง”
บ่นๆแล้วก็สะบัดหน้ากลับ มินซอกมองแล้วก็เบะปาก
ทำไมจะไม่รู้ดงอูโกรธใครเป็นที่ไหน
“เอ่อดี ไม่หายงอนงั้นก็ไม่เล่า” ไม่ต้องถามนะว่าเหตุการณ์ต่อมาเป็นยังไง
ดงอูอยากรู้มากจริงๆนะเนี่ยมินซอกเชื่อแล้ว
“จัดมาเลยเพื่อน เดี๋ยวอาจารย์มาอดเล่ากันพอดี”
“พักเที่ยงจะเล่า ตอนนี้ขอทำใจก่อน”
พักกลาง
“มินซอกป่ะกัน” กอดคอแล้วลากด้วยความไวดุจแสง ความอยากรู้ของคนนี่มันสุดๆจริงๆเลย
มินซอกยืนยัน
“นั่งตรงไหนดีนะ” ดงอูกวาดสายตามองหาที่นั่งสำหรับเขาสองคน
อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าเราสองคนไม่มีคนคบนะฮะ ที่จริงยังมีอีกสองคนแต่วันนี้ โดดอ่ะ
“อ่ะตรงนั้นไง เหมาะดีติดกับสวนหย่อมด้วยบรรยากาศสดชื้น”
กะไอแค่อยากรู้เรื่องฉันถึงกับต้องหาที่ที่มี บรรยากาศด้วย? โอ้มินซอกอยากจะมองแรงเพื่อนสักที
ผมพยักเข้าใจแล้วกะจะแยกไปซื้อข้าวแต่กับโดนดงอูรั้งไว้
“ไม่ต้อง เดี๋ยวเพื่อนคนนี้บริการเอง อยากกินไรว่ามา”
“นายกินอะไรก็เอาแบบนั้นล่ะกัน”
ขัดไปก็เท่านั้นปล่อยให้ดงอูได้ทำในสิ่งที่อยากทำเถอะ มินซอกได้แต่ถอนหายใจ
15นาทีต่อมาสปาเก็ตตี้กุ้งก็มาวางลงตรงหน้าพร้อมด้วยน้ำอีกหนึ่งขวด
บริการดีน่าดู
“กินไปเล่าไป หรือกินเสร็จค่อยเล่าดีอะ”
มินซอกแทบสำลักเส้นสปาเก็ตตี้เลยทีเดียว ฉันยอมนายแล้วดงอู ยอมแล้ว
“เล่าเลยก็ได้ วุย” พอผมพูดตัวคำนี้ออกไปคุณรู้ป่ะ ผมสังเกตเห็นประกายบางอย่างออกมาจากดงอู
ไอกู ดงอูนายน่ากลัวมากเลยนะตอนนี้อ่ะ
“555555”
นั้นคือผลตอบรับจางดงอูหลังจากที่ผมเล่าเรื่องพี่อาลู่ให้ฟัง
“จะขำอะไรนักหนาวะ คราวหน้าไม่เล่าอะไรให้ฟังแล้ว” ปากที่เคยอ้าขำจะเป็นจะตายหุบสนิททันที
แต่ก็แอบมีหลุดคิกคักมานิดหน่อย
“มันขำหนิ สาวๆในโรงเรียนที่แอบชอบนายก็มีตั้งเยอะนั่นยังไปรวมหนุ่มๆนะก็ไม่เคยเห็นนายจะสน
แล้วนี่อะไรไปแอบชอบทอม 55555” พูดจบก็หลุดหัวเราะออกมาอีก มินซอกที่เริ่มหมั่นไส้จนสุดจะทนก็คว้าขวดน้ำตรงหน้ากระฟาดให้สะใจ
แต่ดงอูก็คว้าไว้ทัน
“โห้ยเล่นแรง” ดงอูดึงขวดจากมือมินซอกมาถือไว้เอง ส่วนมินซอกพอไม่ได้ดั่งใจก็มาเลยครับปากคว่ำคิ้วชี้
เฮ้อแล้วจะไปจีบทอม ฉันกลัวก็แต่นายจะโดนทอมจีบนะสิ
“นายว่าฉันควรทำไงดี
เย็นนี้แม่กับป้าหลินเฟยนัดกันจะทำอาหารด้วยที่บ้านป้าเขาด้วย
ฉันกลัวไปทำอะไรแปลกๆแล้วพี่เขาจะเกลียดเอา” โอ้หน้าตากังวลระดับสุด
“ฉันมันก็ไม่เคยจีบใครด้วยดิ
แต่ทางที่ดีที่สุดก็เป็นแบบที่นายเป็นนั้นแหละดีสุดแล้ว” ดงอูกับท่านั่งมือลูบคางอย่างพวกใช้ความคิด
ถึงบุคลิกท่าทางจะดูไม่น่าเชื่อถือเท่าไหร่ แต่คำพูดถือว่าโอเคนะ
“อ๋อถ้านายไม่มั่นใจ เย็นนี้ฉันไปกินข้าวบ้านนายด้วยดีป่ะ”
“ไม่”
“ง่ะ ไม่คิดก่อนพูดหน่อยเหรอ”
“ไม่”
“วันนี้เลิกไวใครมีโปรแกรมจะเสนอปะ”
“จะมีโปรแกรมอะไรหละแบค ไหนนายชวนฉันไปซื้อของขวัญให้เทาไง”
คนโดนขัดได้แต่หันยิ้มแหยๆให้
“แบคฮยอนไม่ได้ลืมจะจุนมยอน แค่ถามเผื่อๆ”
“เหรอ” ท่านประธานได้แต่สายหน้าให้กับความขี้ลืมของเพื่อน
“อ้าวจงแด งั้นนายก็ต้องไปกับสองคนนี้สิ” ไม่ใช่แค่คุณชายอู๋หรอกที่จะคิดแบบนั้น
ก็แหม่มีแบคฮยอนที่ไหนก็มีจงแดที่นั่นนี่ คนถูกถามไม่ได้ตอบแค่เหล่ตาไปมองรูมเมทของตัวเอง
“ไม่ต้องฉันจะไปกับจุนมยอน” เป็นอันเข้าใจ
“มีไรกันป่ะวะ เห็นแบคมันแปลกๆตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว” อย่าว่าพี่หานเสือกเลยนะ
แต่เห็นไอหมาแบคง่องแง่งตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว
“งอนมั้ง ไม่รู้หวะ” ถ้าผมถีบเพื่อน ผมจะดูโหดไปมั้ย
“ไงมึงต่อมเสือกสะดุดเลยดิ”
“มึงไม่อยากรู้เลยเนอะ ตอนกูถามนี่ฟังกันเงียบเลยนะครับคุณจงอิน”
แหม่แล้วมาแซะพี่หานไม่ได้กินพี่หรอก
“เออ ไม่มีไรแล้วงั้นกูกลับ วันนี้ม๊าเขาจะจัดแฟนมีทติ้งด้วย”
“แฟนมีทติ้ง? นี้ม๊ามึงมาอยู่ไม่เท่าไหร่มีแฟนคลับเลยเหรอวะ” ฟังอยู่นานแล้วขอจื่อเทาเสือกบ้างนะ
“นี่ก็คิดได้เนาะแค่กินข้าวกับเพื่อนบ้านโว้ย” จื่อเทาพยักหน้างึกๆ
“เฮ้ยจงอินวันนี้จะออกหายเหยื่อเหรอ” ลู่หานที่เห็นว่ารถที่จงอินใช้วันนี้เป็นมอเตอร์ไซค์
ก็อดจะถามไม่ได้
“นิดหน่อยหวะ” หน้านิ่งๆแต่ยิ้มมุมปาก
“ยิ้มแบบนี้ระวังตรีนนะคร้าบเพ่” แต่เหมือนคนโดนแซวจะไม่ได้สนเพราะพอสตาร์ทเสร็จก็บึ่งออกไปเลย
“ลู่หานมึงว่ามันจะรอดตรีนมั้ยคืนนี้” จื่อเทาที่ยืนมองมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ของเพื่อนที่หายลับไป
“มันอะกูไม่รู้ แต่ถ้ากูยังช้าไม่รีบไปซื้อของให้ม๊าทำอาหารหละ กูไม่รอด
แล้วนี่จะให้ไปส่งป่ะ” หันไปถามเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆก่อนจะเปิดประตูรถ
“เอารถมา เดี๋ยวมึง” ลู่หานจิ๊ปากอย่าขัดใจ
“ไรวะ”
“ไอคริสอะ”
“เออหวะ” เพิ่งคิดได้ว่าเพื่อนหาย หันซ้ายหันขวาก็ไม่เห็น
“แวะทักสาวมั้ง ช่างมันเหอะ กูไปก่อนนะ”
“เออ พรุ่งนี้เจอกัน”
กว่าจะถึงซุปเปอร์กว่าจะซื้อของเสร็จนี่แค่ทำอาหารมันวุ่นวายขนาดนี้เลย
ขับรถไปก็บ่นไปพอถึงบ้านก็รีบหยิบถุงทั้งหมดใส่ให้เต็มทั้งสองมือ
คือไม่อยากเดินหลายรอบไงเอาไปให้หมดมันซะทีเดียว
“อ่ะม๊าของที่สั่ง” หิ้วของพะรุงพะรังเข้ามาส่งให้คุณนายเธอในครัว
“ครบนะอาลู่” ปากนะถาม แต่ตาไม่ได้สนเลยมองแต่ซุปในหม้อ
หานล่ะเชื่อเลย
“ก็ม๊าจดอะไรไปก็ได้มาเท่าที่จดนั่นแหละ”
ถึงไม่มองพี่หานก็ตอบนะหานเป็นเด็กดี
“งั้นไปอาบน้ำอาบท่าไปเดี๋ยวอีกแป๊บคุณน้ามินอาก็จะมาแล้ว”
“คร้าบบบบ คุณนาย”
เสียงดังตึงตังจากชั้นบนของบ้านทำให้คนเป็นแม่ได้แต่ส่ายหน้า
บอกไม่เคยจำเลยลูกคนนี้
“มินซอก เบาสิลูกเดี๋ยวบ้านพังพอดี” ตะโกนเตือนไปส่ง
“โห้ย แม่อะ” กะจะแอบเดินมากอดแม่อ้อนหน่อยแต่ดูแม่พูดดิ
“อะไรแก้มกลม” เมื่อกี้ก็ว่ามินซอกจะทำบ้านพัง นี่ว่าแก้มมินซอกอีก งือมินซอกจะงอนแม่แล้วนะ
นอกจากจะไม่ตอบแล้วยังทำเสียงงุ้งงิ้งในคอให้คนเป็นแม่ได้ขำเล่นอีก
“นี่มอปลายแล้วนะเราหนะ ยังจะอ้อนเป็นเด็กๆอีก”
“แม่อะทำเขางอนแล้วยังมาว่าเขาอีก”
แล้วก็ปากคว่ำหรี่ตาคิ้วชี้ฟ้าตามสไตล์
“แล้วแม่ทำอะไรเราตอนไหนจ๊ะ” นี่จะสิบเจ็ดแล้วจริงๆเหรอ
แต่ทำไมคิมมินอากำลังคิดว่าคุยกับมินซอกสิบขวบอยู่เลย
“ก็แม่ว่ามินซอกอ้วน” คุณนายคิมได้แต่งง
“แม่ไปว่าเราตอน อย่ามากล่าวหากันมั่วๆนะไอตัวดื้อ”
พอโดนแม่ว่าก็เริ่มเบะปากหน้าเหมือนจะร้องไห้
“ก็แม่ว่ามินซอกจะทำบ้านพัง แล้วยังว่าแก้มกลมอีก”
พูดจบก็ส่งค้อนให้อีกที
“5555พอๆเลยเจ้าลูกคนนี้
มาช่วยแม่ถือของคุณป้าหลินเฟยรอแย่แล้ว”
ไม่อยากต่อความยาวกับเจ้าลูกชายให้มากความเลยตัดบทเสียง่าย
และมันก็ได้ผลแค่ได้ยินว่าคุณป้าหลินเฟยรอเจ้าตัวเล็กก็ระริกระรี้เชียว
เดินไปยิ้มไปแหม่มินอาเห็นแล้วก็รู้สึกหมั่นเขี้ยวเสียจริงๆ
ถ้ารู้ความจริงจะทำหน้ายังไงนะ
“มากันแล้วเหรอ ฉันก็เตรียมใกล้จะเสร็จพอดีเลย” คุณนายคิมยิ้ม
“เตรียมอะไรเยอะแยะหลินเฟยฉันบอกแล้วไง ว่าฉันจะเอามาด้วย”
“แหม่ก็อยากโชว์บ้างนี่จ๊ะ”
บทสนทนาขอผู้ใหญ่ทั้งสองไม่ได้เข้าหูมินซอกเลย
เพราะตั้งแต่เลยเข้ามาในบ้านเจ้าตัวก็เอาแต่มองไปรอบๆ
เดินตามแม่กับป้าเข้ามาในครัววางตะกร้าเสร็จมินซอกก็หมดหน้าที่
คงจะมีก็แต่แม่กับป้านั่นแหละที่ยังไม่หยุดพูดเลย งะสนใจมินซอกหน่อยสิ
แก้มกลมได้แต่นั่งอมกลมแล้วเป่าเล่นแก้เบื่อ
และเหมือนฟ้าดินจะสงสารกลัวว่าแก้มมินซอกมันจะขยายไปกว่านี้ก็ไม่รู้ คุณหลินเฟยที่น่ารัก
วานให้มินซอกช่วยขึ้นไปตามพี่อาลู่ หน้าประตูติดโปสเตอร์แมนยูนะลูก
ป้าเขาบอกมาแบบนั้น
แล้วตอนนี้ขาเล็กๆก็พามินซอกมายืนอยู่ตรงหน้าประตูที่ว่าแล้ว โห้ยแค่จะเคาะประตูยังประหม่า
มินซอกจะทำไงดี ใจเต้นจนจะเป็นจังหวะร็อคอยู่แล้ว
มือเล็กกำไว้หลวมๆตั้งท่าจะกดลงที่บานประตูแต่ยังไม่ทันได้เคาะ
ประตูก็เปิดออกซะแล้ว มินซอกที่ตอนนี้ทำอะไรแทบจะไม่ถูกมือที่ยกอยู่ก็คามันอยู่
ลืมแม้กระทั้งเสียงพูด ใครจะคิดว่าอยู่ๆประตูจะเปิดกัน
“เป็นอะไรมากป่ะเตี้ย มายืนทำอะไรหน้าห้องฉัน” เดี๋ยวนะอะไรเตี้ย
พอเริ่มตั้งสติได้ตากลมก็เริ่มสังเกต
“ผู้ชาย!!!” เสียงแหล่มพุ่งเข้าระบบประสาทหูจนลู่หานต้องเอามือปิด
“เออดิผู้ชาย อ๋อไอเด็กข้างบ้าน ชื่อไรนะมินซอกใช่มั้ย”
ลู่หานที่พอเดาได้ว่าคนตัวเล็กตรงหน้าคงจะเป็นไอเด็กที่ส่งจรวดมาก็รีบคว้าข้อมือเล็กที่เผลอยกค้างอยู่เอาไว้
“มะ ไม่ใช่นะปล่อยดิ” ดิ้นรนทุกทางเพื่อให้รอดออกไปจากตรงนี้
“ไม่ใช่ได้ไง งั้นบอกมาสิว่าชื่ออะไร” ลู่หานที่จากตอนแรกแค่จับข้อมือ
ตอนนี้ก็ใช่แขนล็อคคนตัวเล็กไว้
“ชะชื่อ ชื่อ”
“มินซอกทำไรอยู่ลูกทำไมช้าจัง”
จบกัน มินซอกหันไปยิ้มฝืนๆให้กับคนที่กำลังล็อคตัวเขาจากด้านหลัง
“ไม่รอดเนาะ” พูดตามประสาคนที่หมดหนทาง ไหนๆก็ไหนเผื่อขำ
แต่ลู่หานแค่อืมตอบมา
“งือชอบแกล้งมินซอกนักนะ” คนอายุน้อยสุดกำลังงอนขั้นmax ที่โดนทั้งแม่และป้าแกล้ง
“แกล้งอะไรแม่กับป้าหลินเฟยไม่เคยบอกสักหน่อยว่าอาลู่เป็นผู้หญิง” ชิส์
ยิ่งฟังมินซอกก็ยิ่งงอน ค้อนส่งให้แม่ตัวเองไปอีกที แต่หันผิดทิศไปหน่อยดันไปจ๊ะเอ๋กับตัวต้นเหตุอย่างจัง
“งอนไรนักหนาเตี้ย มากินข้าวได้แล้วหิว” นี่ก็อีกคนเพิ่งรู้จักกันแท้มาเรียกเขาว่าเตี้
มินซอกงอน แล้วก็สะบัดหน้าหนีลู่หาน คนเป็นพี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไอเด็กนี่
“เปาจือ” คำแปลกๆที่ออกมาจากลู่หานเรียกความสนใจจากคนกำลังงอนได้เป็นอย่าดี
แต่ก็ยังฟอร์มไม่สนใจ
“เปาจือ นี่พี่เรียกเป็นน้องไม่หันได้เหรอ” ไม่ใช่แค่มินซอกที่งงนะ
ทั้งม๊าลู่หานและแม่ของมินซอกก็ไม่แพ้กัน แต่ผู้ใหญ่ทั้งสองก็ไม่ได้พูดอะไรปล่อยให้ลู่หานลองจัดการกับเจ้าตัวดื้อดู
“เปาจือ เปาจือ”
ลู่หานยังคงเรียกมินซอกด้วยคำแปลกที่คนโดนเรียกไม่เข้าใจ
แต่มินซอกขอตีความเอาเองว่าต้องเป็นคำไม่ดีแน่ๆ
เมื่อกี้ก็เรียกเตี้ยนี้ยังจะมาเรียกอะไรแปลกอีก ที่เคยบอกว่าสวย น่ารัก มินซอกยึดคือ
แล้วยังจะเป็นผู้ชายด้วยมินซอกยึดๆๆๆๆๆๆยึดหมดเลยที่เคยชมไป
คนที่มัวแต่งอนไม่ทันระวังตัวตอนนี้กำลังโดนคนที่แอบย่องมาทางด้านหลังช้อนตัวอุ้มด้วยท่าที่มินซอกไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตนี้จะมีใครมาทำแบบนี้
ไม่เอาแบบนี้มินซอกไม่ใช่ผู้หญิงนะไม่เอาออกแรงดิ้นขลุกขลักในกอดอ้อมแขนแกร่ง
ลู่หานได้แต่แอบขำกับท่าทางนั้น ไอเด็กนี่ นี่มัน....เดี๋ยวหานมึงตั้งสติก่อน
ถึงจะตัวเล็ก ผิวขาว ตากลม ปากนิด จมูกหน่อย แต่ก็ผู้ชายนะ ไม่ดิหานไม่
แต่เด็กมันน่ารักนี่หว่า คนนี้หานอยากลอง
“หยุดดิ้นเดี๋ยวก็ปล่อยให้ตกเลย” ตกเหรอ?ตกสิดีมินซอกไม่ได้อยากให้อุ้มซักหน่อย
แล้วก็ยิ่งดิ้น
“ไม่หยุดใช่มั้ย ไม่หยุดจูบนะ” กึกนิ่งสงบอย่างกับโทรศัพท์แบตหมด
แต่ตากลมกำลังจ้องลู่หานราวกับขู่ มือเล็กสองข้างยกขึ้นมาปิดปากจนสนิท
เมื่อเห็นว่าคนตัวอุ้มอยู่นิ่งแล้วลู่หานก็อุ้มร่างเล็กตรงไปยังโต๊ะกินข้าว
ที่มีแม่แม่ของทั้งคู่รออยู่
ตอนแรกว่าจะแกล้งเล่นๆเอาคืนเรื่องจดหมายจรวดกับไอที่บังอาจมาคิดว่าเขาเป็นผู้หญิงซะหน่อย
แต่เด็กมันดันน่ารักพี่หานให้อภัย ก็เลยไม่แกล้งเล่นๆแล้วพี่ลู่หานจะแกล้งเอาจริง
อาหารอร่อยแต่มินซอกไม่มีอารมณ์จะกินเลยก็ไอพี่ลู่เหี่ยวเอาแต่ส่งสายตาล้ออยู่ได้
อย่าพลาดบ้างนะมินซอกจะเหยียบให้จมดินเลย พอทานเสร็จก็โดนไล่ออกมาให้ไปรอที่ห้องนั่งเล่น
ทีวีก็ดูไม่ค่อยจะรู้ก็ไอพี่ลู่เหี่ยวอีกนั้นแหละ จะเปลี่ยนช่องหาอะไรนักหนา
“นี่เปาจือ จะดูการ์ตูนป่ะ”
“ผมไม่ใช่เด็กนะ แล้วเลิกเรียกอะไรแบบนั้นซะทีไม่เห็นจะรู้เรื่อง”
จิ๊ปากอย่างขัดใจ
“อ่าฮะ เปาจือ”
“บอกว่าอย่าเรียกแบบนั้นไง” เสียงเล็กเริ่มดังกว่าเดิม
“จะเรียก” ลอยหน้าลอยตาตอบหน้าตาเฉย
“ไม่คุยด้วยแล้ว” แล้วก็ลุกเดินออกไป
“ไหนบอกไม่ใช่เด็กไง” เดิมตามออกมาตอนไหนไม่รู้ แต่ที่รู้ๆมินซอกตกใจนะ
กำลังเปิดประตูรั่วก็หลุดสะดุ้งให้คนจงใจแกล้งได้ขำเล่น
“พี่จะอะไรกับผมนักหนาเนี่ย ถ้ายังโกรธเรื่องที่ผมคิดว่าพี่เป็นทอม
ก็บอกไปแล้วไงว่าไม่ได้ตั้งใจ พี่ก็รู้ว่าผมโดนแกล้ง” พูดออกมาเป็นชุดโดยไม่มีการเว้นจังหวะให้อีกฝ่ายได้ขัด
แต่ลู่หานก็มัวแต่ยิ้ม
“ยิ้มอะไรของพี่นักหนา” คิ้วเริ่มขมวดหงายชี้ฟ้า ลู่หานก็ยังคงทำหน้าเป็นไม่เลิก
สายตาแบบที่มินซอกรู้สึกบอกไม่ถูก ว่าควรจะโกรธหรืออายดี
“เปาจือ”
“บอกว่าไม่ให้เรียก”
“ไม่อยากรู้เหรอว่าหมายถึงอะไร” การหลอกล่อได้ผล ตากลมสะท้อนความอยากรู้อยากเห็นอย่างปิดไม่อยู่
“ก็บอกมาสิ” อยากรู้ก็อยากรู้จะแต่ขอมีฟอร์มหน่อยนะ
“ไว้ให้สนิทกันกว่านี้จะบอก ฝันดีนะเปาจือ”
ส่งยิ้มหวานแล้วก็เดินจากไป
“พี่แม่ง.....” คำหลังได้แต่ทำปากขมุบขมิบ
ไม่ได้หรอกแม่เดินออกมาพอดีถ้าได้ยิน โดนบ่นแน่
ไม่สนิทกันแล้วมาตั้งชื่อเรียกแบบนี้ได้ยังไงกัน
"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
ดีจ้า วันนี้เราเอาพี่ชายกับเด็กข้างบ้านมาส่ง
ไม่รู้จะน่ารักถูกใจกันหรือเปล่านะ
ตอนแรกสั้นไปนิดตอนเลยยาวขึ้นมาอีกหน่อย
กำลังตกลงกับตัวเองอยู่ว่าครั้งหน้าจะอัพทีเดียวสองคู่เลย
อิอิเราไม่บอกหรอกว่าคู่ไหน
เลิฟยูนะ
ความคิดเห็น