ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] Status The Series

    ลำดับตอนที่ #3 : สถานะ:เพื่อนเล่น (Status1 มนุษย์แปลกๆ) #taohun

    • อัปเดตล่าสุด 31 ต.ค. 58











    สถานะ:เพื่อนเล่น

    Status1 มนุษย์แปลกๆ

     

     
     

    การต้องย้ายที่อยู่เป็นเรื่องน่ารำคาญคุณว่าไหม ถึงผมจะไม่ต้องออกแรงขนของเอง หรือจัดตกแต่งห้องก็ตาม

    เมื่อกี้หลังจากแยกกับเพื่อนๆที่ร้านเนื้อย่างผมก็กะจะเลยกลับบ้านเลย แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้แวะมาที่นี่ก่อน คอนโดใหม่ที่ผมจะย้ายเข้ามาอยู่ในอีกสองวัน ต้องบอกว่ามะรืนนี้สินะ ตอนนี้ทุกอย่างก็ดูจะเรียบร้อยสมบูรณ์ดี คงเหลือแค่ของใช้ส่วนตัวเล็กๆน้อยของผมที่จะนำมาพร้อมกับวันเข้าอยู่

     

     

    บรรยากาศโดนรอบก็ถือว่าโอเค ถ้าไม่ติดว่าตรงระเบียงมันดุมืดชวนหลอนไปหน่อย สงสัยตอนเข้ามาอยู่คงต้องเพิ่มไฟที่ระเบียงสักหน่อย

    “ไหนๆก็มาแล้ว ค้างที่นี้เลยแล้วกัน” แต่ก็คิดขึ้นได้ว่าตู้เย็นที่เพิ่งเอามายังไม่มีแม้แต่น้ำเปล่า

    “ไปซื้ออะไรมาไว้หน่อยแล้วกัน” ตอนที่ขับรถเข้ามาผมเห็นว่าบริเวณใกล้ๆมีทั้งซุปเปอร์แล้วก็ยังมีสวนสาธารณะเล็กๆสำหรับให้คนไปออกกำลังกายหรือนั่งพักผ่อน ดีเลยเวลาพวกเพื่อนเขามาจะได้มีอะไรทำนอกจากจะมานั่งดื่มและนอน

     

     

     

    ผมเดินเลือกซื้อจนพอใจตอนนี้สองมือเต็มไปด้วยขนมและกิน ชนิดที่เรียกว่าติดอยู่ในห้องสักสามวันก็ไม่อดตาย ขายาวก้าวเดินเรื่อยๆไปตามฟุตบาทตอนนี้ผมไม่ต้องรีบเดินเหมือนตอนมา เลยขอเดินเก็บบรรยากาศสักนิด เดินมาถึงบริเวณสวนตอนนี้ทั้งสวนเงียบสงัด แต่ก็มีแสงสว่างอำนวยความสะดวกให้กับพวกที่ชอบมาออกกำลังก่ายในช่วงเวลานี้ ขายาวก็เปลี่ยนทิศทางอย่างกะทันหัน

     

     

    จากที่คิดว่าจะกลับห้องก็ก้าวเข้าไปยังสวนเพื่อสำรวจเสียหน่อย เดินมาถึงจุดที่เป็นสนามเด็กเล่น เสียง อ๊อดแอด ของเฟืองหมุนชิงช้าทำให้ผมต้องหันไปมอง ก็ดึกป่านนี้ยังมีเด็กที่ไหนมาเล่นชิงช้าอยู่อีก แต่เหมือนผมจะคิดผิด เพราะคนที่นั่งอยู่ที่ชิงช้าไม่ใช่เด็กอย่างที่ผมคิด แต่กลับเป็นผู้ชายรูปร่างผอม สีขาวแต่ผมเห็นหน้าไม่ชัดเท่าไหร่เพราะเสื้อฮู้ดสีดำมันบังอยู่ สงสัยอกหัก ไม่งั้นก็ทะเลาะกับแฟน เลยมานั่งทำตัวเป็นพระเอกมิวสิคไกว่ชิงช้าตามฟิวส์อารมณ์  ช่างเถอะยังไงก็ไม่เกี่ยวกับผม

     

     

    ผมเดินมุ่งหน้าไปยังสนามบาสที่ตอนนี้ยังมีเด็กวัยรุ่นประมาณสี่ห้าคนกำลังเล่นอยู่  แต่ยอมรับเลยว่าเสียอ๊อดแอด ของชิงช้าที่ดังอยู่ด้านหลังทำให้ผมแอบหลอนไม่ใช่น้อย ขนาดที่กำลังสติหลุด สายตาก็หันไปเห็นลูกบอสบาสที่กำลังลอยมาแล้วถ้ากะไม่ผิดคนที่นั่งอยู่ตรงชิงช้าคงโดนไปเต็มๆ ไว้เท่าความคิดหรืออะไรดลใจก็ไม่รู้ให้ผมกระโดดเข้าไปหวังคว้าเจ้าลูกกลมๆนั้น

     

     

    แต่มันกลับวืดข้ามมือไปและพุ่งไปที่คนที่นั่งอยู่ตรงชิงช้า

    “คุณระวัง” แต่เหมือนคนที่กำลังเหม่อจะไม่ทันได้ฟัง ลูกบาสก็ลอยไปถึงพอดี จากจุดที่ผมยืนอยุ่มองไปเห็นว่าโดนหัวอีกคนเต็มๆ ผมรีบวิ่งเข้ามาดูคงเจ็บไม่น้อยเลย แต่พอมาถึงกลับต้องแปลกใจก็คนที่นั่งอยู่ตรงชิงช้ากลับไม่มีอาการอย่างที่คิดสักนิด หรือจะอกหักจนเบลอ

    “คุณ คุณครับ ไม่เจ็บตรงไหนใช่ไหม” ในขณะที่ผมถามอยากร้อนล้นแต่คนที่ถูกถามกลับดูงงๆ นี่การอกหักมันทำให้คนมันลืมเจ็บได้ขนาดนี้เลยเหรอ  เขาดูงงๆทำหน้าเหรอหราหันซ้ายหันขวา เหมือนกำลังมองหาอะไรสักอย่าง และตอนนี้เองที่ผมได้เห็นหน้าเขาชัดๆ ก็น่าตาดีใช่ได้นี่หว่า แต่ก็อย่าว่าความรักมันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับน่าตานี่เนอะ อ้าวแล้วจะหันอีกนานมั้ยก็เห็นอยู่ว่ามีกันอยู่สองคนเนี่ย พี่เทาล่ะเพลีย(ยืมแบคฮยอนมันมา)

    “เออคุณ คุณนั้นแหละ จะหันอีกนานไหม” เขาเงยขึ้นสบตาผมแล้วชี้นิ้วเข้าหาตัว คิ้วนี้แทบจะผูกกัน

    “ใช่คุณนั้นแหละ” ผมพยักหน้ารับกับคำพูดของตัวเอง เพียงเท่านั้นคนที่นั่งซึมหน้างงเมื่อครู่ก็ยิ้มกว้างจนตาเป็นสละอี เอิ่มโดนลูกบาสอัดหัวตนเพี้ยนเหรอ

    “น..นี่ คุณเห็นผมเหรอ” คุณว่าผมควรคิดยังไงกับคำถามนี้ หน้าตาก็ดีไม่หน้าบ้าเลย แล้วอะไรไอหน้าตาเหลือเชื่อแบบนั้น

    “ไม่เห็นมั้งคุณ” ก็นะเห็นอยู่ว่ายืนพูดอยู่ตรงหน้า แล้วยังนะมาถาม

    “คุณเห็นผม คุณเห็นผม มีคนเห็นเราแล้ว มีคนเห็นแล้ว เย้ๆๆๆๆ” แล้วก็ลุกขึ้นจากชิงช้ากระโดดไปมาดีใจอย่างกับถูกลอตเตอร์รี่อย่างนั้นแหละ แต่ถ้าผมฟังไม่ผิดดีใจที่มีคนเห็นงั้นเหรอ สบายล่ะมึงจื่อเทาอยู่ดีๆไม่ชอบมาคุยกับคนสติไม่ดีตอนดึกๆ เออเอาวะอย่างน้อยก็หน้าตาดียกประโยชน์ให้ และเหมือนผมจะจ้องมากไปหน่อยคนถูกจ้องก็เหมือนจะรู้สึกตัว หันมายิ้มกว้างส่งให้ แล้วเดินตรงมาที่ผม

    “ทำไมคุณถึงเห็นผมล่ะ” คำถามนั้นทำเอาผมแทบสำลักนำลายตัวเอง จะบอกว่ากูมีตานี้มันจะเสยมารยาทไปไหมสำหรับคนเพิ่งเจอกัน และไม่รู้แม้กระทั่งชื่อ

    “เฮ้อ แล้วทำไมผมต้องมองไม่เห็นคุณ” เหมือนคำถามผมมันจะเรียกความสนใจจากคนตรงหน้า เขาไม่ตอบเอาแต่จ้องหน้าผม จนผมเองนี่แหละที่ทนไม่ไหว

    “เออ คุณไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ผมกลับล่ะ ดึกมากแล้ว” ก้มลงหยิบของที่วางอยู่และหันหลังกลับ แต่แรงดึงที่ชายเสื้อทำให้ต้องหันกลับมาอีก

    “มีอะไรหรือเปล่า” ท่าทีอึกอักของอีกคนทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะถาม

    “ผมชื่อโอเซฮุน คุณชื่ออะไรเหรอ” อย่างน้อยก็ไม่บ้าร้อยเปอร์เซ็นแหละวะอย่างน้อยก็รุ้จักที่จะถามชื่อ

    “ฮวาง จื่อเทา” เออผมว่าเขาแสดงออกโอเว่อร์ไปนะ แค่ผมบอกชื่อทำอย่างกะแฟนมาขอคืนดี มึงควรไปได้แล้วจื่อเทาก่อนที่มึงจะบ้าตามเขาไป เพราะตอนนี้ชายเสื้อผมถูกปล่อยให้เป็นอิสระแล้ว

    “เดี๋ยว คุณพักอยู่ห้องนั้นเหรอ” พอผมหันหลังจะเดินอีกรอบคนที่เหมือนจะปล่อยผมไปแล้วก็ทักขึ้นมาอีก กับประโยคคำถามแปลกๆ

    “คุณหมายถึงอะไร” ผมว่าผมชักจะสงสัยโอเฮซุนคนนี้แปลกๆ

    “เออ คุณอย่างมองผมแบบนั้นสิ คือชั้นสิบสองของคอนโดนXมันมีแค่สองห้องใช่มั้ยล่ะ” ผมทำแค่พยักหน้า เออออไป เพราะจริงๆแล้วผมไม่รู้หรอกว่ามันมีกี่ห้องไม่เคยสนใจ

    “แล้วผมก็เห็นที่อยู่ฝั่งด้านเดียวกับสวน พักนี้เปิดไฟบ่อยๆ อีกอย่างไม่เคยเห็นคุณแถวนี้มาก่อน” คนพูดเขาเป็นนายอำเภอเหรอครับ มีจำหน้าลูกบ้านได้ด้วย ล้ำอ่ะ

    “อ่าฮะ” ตอบไปแค่นั้นผมไม่ได้จะกวนนะแค่ไม่รู้จะพูดอะไร มันดูไม่ได้จำเป็นอะไร แต่คนตรงหน้าก็ยังมองผมเหมือนลุ้นๆ ลุ้นอะไรของเค้า

    “เออ ผมต้องกลับแล้ว คุณก็กลับบ้านได้แล้วนะ บาย” ผมพูดเท่านั้นแล้วรีบเดินออกมา

    “ผมกลับไปได้จริงๆเหรอ”   อะไรของเขาวะ ผมเลยยกมือโบกไปมา ประมาณให้รีบๆไป

    “อ่า ขอบคุณนะ คุณนี่มันน่าทึ่งจัง” ผมไม่ได้ทันได้หันไปมองหรอกว่าเขามีท่าทางหรือทำหน้าตายังไงรู้แต่ว่าควรรีบไปจากตรงนี้ให้ไว้ที่สุด 

    “เฮ้อ คนอะไรแปลกชะมัด”

     

     



     

    “เจอกันนะคุณฮวางจื่อเทา”







    ...............................................................................

    สั้นไปนิดไม่ว่ากันนะ สถานะที่2 แล้ว
    แต่เทาคะฮุนน่ารักนะว่าฮุนได้ไง 
    แล้วกันนะใหม่นะว่าแต่สถานะต่อไป สถานะไหนดีคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×