คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : คาร์เนชั่นสีชมพู 2
คาร์เนชั่นสีชมพู 2
“ความลับที่ยากจะบอก”
ความลับเอะอะอะไรก็ความลับ มันจะอะไรกันหนักหนา ไม่เคยได้ยินหรือไง ว่าความลับมันไม่มีในโลก แต่ถ้ามินซอกไม่ยอมบอกแล้วเก็บไว้คนเดียวมันก็จะเป็นความลับนะ ว่าแต่ไม่อึดอัดบ้างไง ไม่อยากระบายบ้างเหรอ ไม่มีทางลู่หานจะไม่ยอมให้มันเป็นแบบนั้นแน่นอน ผมต้องรู้ให้ได้ว่าใครกันที่เป็นเจ้าของดอกคาร์เนชั่น งานนี้ลู่หาน #ทีมเซฮุน พี่บอกเลยต้องช่วยให้รู้ความจริงให้ได้
อาทิตย์ที่สามของการมาส่งดอกคาร์เนชั่นสีชมพู ที่บ้านหลังเดิมให้กับคนคนเดิมด้วยเหตุผลเดิมๆ คือมีคนจ้าง ผมมีโอกาสได้คุยกับผู้รับดอกไม้มากขึ้น ได้รู้ว่า โอเซฮุนคนนี้ทำงานเป็นคอลัมนิสต์รับเขียนบทความให้กับนิตยสารหลายเล่มอยู่แต่ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักมากเท่าไหร่ และที่สำคัญกำลังจะแต่งงานกับแฟนสาวที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่ถึงสามเดือนด้วยซ้ำ โดยให้เหตุผลว่าเวลาไม่จำเป็นสำหรับการตัดสินใจ ขุ่นพระ!!! พี่นี่ตะลึงในความติส อ่าถึงพอดีขอไปทำหน้าที่ก่อนนะครับ
“ไม่ต้องกดหรอกครับ”
“อ้าว” จะไม่ได้อ้าวได้ไงล่ะครับก็คนที่ควรจะอยู่ข้างใน กำลังวิ่งและส่งเสียงตะโกนมาแต่ไกล
“ใจเย็นๆครับไม่ต้องรีบขนาดนั้น” จากสภาพประเมินด้วยสายตา คุณเซฮุนคงจะวิ่งมาไกล
ก็ขนาดมาหยุดตรงหน้าผมพักหนึ่งแล้วยังหอบอยู่เลย
“ไม่ให้รีบได้ไงครับ ก็ผมกลัวจะไม่ทันคุณลู่หานนี่” คุณว่าผมควรตกใจไหมกับคำพูดแบบนี้ เข้าใจนะว่าผมหล่อแต่ว่า...
“คิดอะไรครับคุณ ผมแค่กลัวจะไม่ได้ดอกไม้ต่างหาก” ไม่มีอะไรนอกจากเสียงหัวเราะของเราทั้งคู่ที่หลุดออกมาพร้อมๆกัน และในเมื่อคนรับรออย่างใจจดจ่อขนาดนี้ก็ไม่มีความจำเป็นที่ผมต้องเก็บมันไว้
“สวัสดีครับจากร้าน Flower for you ดอกไม้ถึงคุณเซฮุนครับ”
“ขอบคุณมากครับ”
“เรียบร้อยแล้วงั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ขอให้วันนี้เป็นวันดีๆนะครับ”
“เดี๋ยวครับคุณลู่หาน” เสียงเรียกจากเจ้าของบ้านทำให้ผมต้องหยุดชะงักอีกครั้ง เกิดอะไรขึ้นกับคนตรงหน้า
“ผมแค่อยากรู้ว่าผมจะมีโอกาส ได้รู้จักกับเจ้าของดอกคาร์เนชั่นนี่หรือเปล่า” คุณเคยรู้สึกผิดทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดไหม นั่นแหละคือสิ่งที่ผมเป็นอยู่
“ผมว่างแล้วหลังจากส่งดอกไม้ให้คุณเสร็จ เรามาคุยกันหน่อยไหมครับ” ไม่ได้คำตอบจากมินซอกแต่ถ้าผมได้รู้จักเขามากขึ้นผมอาจจะได้ข้อมุงอะไรเพิ่มเติม
“งั้นเชิญเข้าไปในบ้านก่อนครับ” บ้านชั้นเดียวภายในข้าวของถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ผมนั่งรออยู่ที่โซฟาห้องรับแขกระหว่างเจ้าของบ้านไปเตรียมของรับรองแขกจำเป็นอย่างผม ใจจริงก็อยากลุกไปดูให้มันทั่วๆ แต่เท่าที่ดูส่วนใหญ่พื้นที่ที่ถูกใช่สอยมากที่ของบ้านคงเป็นส่วนที่ผมนั่งอยู่ เพราะนอกจากโซฟารับแขกยังมีโต๊ะทำงาน ที่เต็มไปด้วยหนังสือและหนังสือ แต่สิ่งที่ผมสนใจคงจะเป็นรูปภาพของคนสองคนที่วางอยู่บนตู้หนังสือหลังโต๊ะทำงานมากกว่า
“ขนมครับ”
“ขอบคุณครับที่จริงไม่ต้องลำบากก็ได้นะครับ”
“ไม่หรอกครับ นานได้ทำทีปกติก็ไม่ค่อยมีใครมาเท่าไหร่” ฟังจากเสียงและดูท่าทางเขาคงจะเหงามากหน้าดู
“คุณเซฮุนอยู่บ้านนี้คนเดียวเหรอครับ”
“ตอนนี้ใช่ครับ”
“ตอนนี้?” หรือเขาเพิ่งเลิกกับแฟน เจ้าของดอกไม้อาจจะเป็นแฟนเก่า
“ใช่ครับ เมื่อก่อนผมอยู่กับรุ่นพี่น่ะ แต่ตอนนี้เหลืออยู่คนเดียว”
“อ๋อ” ไม่ใช่แฟน
“แล้วบ้านหลังนี้ก็บ้านของเขาแหละครับ แต่ตอนนี้เจ้าของบ้านเขาหายไป ติดต่อก็ไม่ได้ ผมเองก็กำลังจะย้ายออกเลยไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี” ย้ายเหรอเดี๋ยวนะมินซอกรู้เรื่องนี้ยังไหนบอกผมต้องส่งถึงกลางเดือนหน้านี่อีกตั้งสิบกว่าวันนะกว่าจะถึงวันแต่ง หรือต้องตามไปส่งถึงที่อยู่ใหม่ด้วย
“แล้วไม่ลองติดต่อไปที่ทำงานล่ะครับ”
“คือผมไม่รู้ว่าพี่เขาทำงานที่ไหนน่ะ ฟังดูแย่มากใช่ไหมครับ มาอาศัยบ้านเขาอยู่แต่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย” ผมควรยิ้มหัวเราะหรือร้องไห้ดีครับทุกคน ตั้งแต่เกิดมาเป็นลู่หานเพิ่งเคยเจอคนแบบนี้ เป็นรุ่นน้องรอดรับน้องมาได้ไง ผมนี่ตอนรับน้องแทบจะจำได้ว่าบ้านรุ่นพี่เดินจากปากซอยไปกี่ก้าวถึง เฮ้อคุณโอเซฮุน
“รุ่นที่คุณใช่คนในรูปนั่นหรือเปล่าครับ” ผมหันไปยังภาพถ่ายภาพเดิมที่ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นแสงสว่างเพียงอย่างเดียว ใช่ผมกำลังคิดว่า เจ้าของดอกไม้กับรุ่นพี่ของคุณเซฮุนอาจจะใช่คนคนเดียวกัน
“ใช่ครับ”
“ผมขอเดินไปดูใกล้หน่อยนะครับ”
“เชิญครับ ตามสบาย” ภาพขนาด 6x8 นิ้วภาพเล็กขนาดนั้นยังจะไปวางที่ซะสูงอีก ไอคนวางมันคิดอะไร ลู่หานคนนี้อยากถามเสียงจริง พอได้มองชัดๆ พี่นี่ช็อกแป๊บก็ไอคนในภาพ 55555น้องซอกจ๋างานนี้พี่หานชนะขาด
“คุณลู่หาน เป็นอะไรหรือเปล่าเห็นจ้องภาพซะนานเลย” ทำอะไรไม่ถูกก็ยิ้มไว้ก่อนแหละครับ แหม่ก็ผมอดตื่นเต้นไม่ได้นี่กับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้
“คุณเซฮุนจะย้ายออกเมื่อไหร่ครับ”
“สิ้นเดือนนี้ครับ”
“อ๋อ”
“เอิ่ม ว่าแต่ถ้าผมย้ายบ้านคุณจะยังไปส่งดอกไม้อยู่หรือเปล่า” ผมว่าเขากำลังคาดหวังอะไรบางอย่างจากผมนะ และผมว่าผมพอจะรู้ว่าคืออะไร
“ผมจะพยายามให้ถึงที่สุดครับ ส่วนเรื่องดอกไม้คงต้องแล้วแต่คนจ้างนะครับ”
จากนั้นเราก็แต่คุยเรื่องทั่วๆไปอีกนิดหน่อยแล้วก็ขอตัวกลับ ผมพร้อมสำหรับเรื่องตื่นเต้นที่กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว แต่ก่อนอื่นขอกลับไปจัดการคุณเจ้าของร้านก่อน อยากจะเห็นหน้ากลมๆนั่นตอนที่รู้ว่าผมรู้ความจริงแล้ว แต่เดี๋ยวนะมั่นหน้าไปหน่อยป่ะเช็คความมั่นใจอีกนิดล่ะกัน
“ว่าไงลู่หาน”
“นายอยู่ไหน”
“บริษัท และไม่ว่ากำลังจะเข้าประชุมด้วย” ฟังเสียงมาตามสายแล้วลู่หานก็ได้แต่แอบแขวะในใจ ทำเข้มไปเถอะ พี่หานจะแกล้งให้เงิบเลย
“ก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่จะถามนิดหน่อย”
“ว่ามา ฉันจะเข้าประชุมแล้ว”
“นายรู้จักคนชื่อโอเซฮุนป่ะ”
“อ่ะ...ถามทำไม” แหม่มีชะงัก
“แล้วนายจะย้อนฉันกลับทำไม แค่บอกมาว่ารู้จักหรือเปล่า”
“แล้วทำไมนายคิดว่าฉันต้องรู้จักฮะ”
“ก็เห็นจบจากที่เดียวกัน”
“นายบ้าป่ะ มหาลัยคนมีตั้งเยอะแยะจะไม่รู้จักคนทั้งหมดได้ไง แล้วถามถึงคนคนนี้ทำไม”
“ก็เห็นน่ารักดี เผื่อนายช่วยได้”
“อย่าไปยุ่งกับคนมีเจ้าของเลย”
“ไม่รู้จักแล้วรู้ได้ไงเขามีเจ้าของ” ปลายสายเงียบไป ขอโทษนะเพื่อนแต่นายปากแข็งเอง
“ถึงมีเจ้าของถ้าฉันชอบนายก็รู้นี่ว่า..”
“ไม่ได้นะลู่หาน “
“เย็นนี้เจอกันที่Flower for you”
ผมไม่ได้รอฟังคำตอบหรอก และก็มีความมั่นใจแค่50%เท่านั้น แล้วก็ไม่ได้มั่นใจด้วยว่าเขาจะใช่เจ้าของดอกไม้หรือเปล่า อาจจะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่เป็นห่วงกันเฉยๆก็ได้
กรุ๊งกริ๊ง
“กลับมาแล้วครับ” เงียบไอเด็กโย่งไปไหนหว่า
“นี่ชานยอลล่ะ”
“ไปส่งดอกไม้ที่โรงพยาบาล” แล้วก็เมินหน้าหนี มันน่ามั้ยล่ะ
“มินซอก มินซอกถามอะไรหน่อยสิ” แล้วดูเธอ ทำหน้าเหมือนรำคาญพี่หานแบบนี้ได้ไงกัน แต่มีเหรอพี่จะยอม
“โอ๊ยจะสะกิดอะไรนักหนา มีไรก็ถามมา”
“ทำไมต้องดอกคาร์เนชั่น แล้วทำไมต้องสีชมพู” มินซอกพยักหน้ารับ แล้วปากรูปกระจับก็เผลอยิ้มออกมา เรื่องดอกไม้คงทำให้นายมีความสุขมากสินะ
“ดอกคาร์เนชั่นน่ะ ดูเหมือนจะเข้มแข็ง แต่แท้จริงแล้วบอบบางมากเลยนะ ก็เหมือนกับคนที่มอบดอกไม้ให้กับคุณเซฮุนนั่นแหละ ภายนอกดูเข้มแข็ง แต่จริงๆแล้วเขากลับบอบบางและอ่อนแอ ส่วนสีชมพู หลายคนมักจะคิดถึงความรักที่สดใส
แต่ดอกคาร์เนชั่นสีชมพู ของคนนี้แค่อยากจะบอกแทนเจ้าของ ว่า จะจดจำไม่ลืมเลือนและคิดถึงตลอดเวลา “
“มินซอก นายว่าคนที่จ้างเราจะเคยสารภาพรักกับคุณเซฮุนมั้ย” ผมเห็นว่าคิ้วของมินซอกกำลังขมวด บ้างทีผมอาจกำลังจะทำอะไรผิดพลาดไป
“นายรู้แล้วเหรอว่าคนจ้างเป็นใคร” แปลกทำไมคนตัวเล็กดูไม่แปลกใจเลย กลับเป็นตัวผมเองเสียอีกก็ดูจะสูญเสียความมั่นใจไป
“แค่คิดว่าน่าจะใช่”
“จากที่นายดูเหตุการณ์ นายว่าเจ้าของดอกไม้กับคุณเซฮุนรู้จักกันมานานหรือยัง แล้วนานพอที่จะทำให้ใครสักคนรู้หรือเปล่าว่าเขาคือคนพิเศษ หากใครคนนั้นใส่ใจสักนิด ในวันที่เรายังยืนอยู่ข้างๆ แต่นั้นแหละเมื่อเราไม่ใช่คนที่ถูกเลือก ผลมันก็คือไม่ใช่”
“แต่ถ้าบอกเขาอาจจะเอะใจขึ้นมาก็ได้”
“ความรู้สึกมันเปลี่ยนง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ”
“มินซอก” ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองควรเริ่มจากตรงไหนก่อน ผมเข้าใจนะว่ามินซอกทำเพราะเป็นห่วงความรู้สึกของคนจ้าง และกำลังคิดว่าผมไม่ควรบอกเรื่องนี้กับคุณเซฮุนเช่นกัน แต่ถ้าผมได้รู้เหตุผลอีกสักนิดว่าที่คุณเซฮุนอยากรู้ว่าเพราะอะไรเขาจึงอยากเจอเจ้าของดอกไม้
“ความรู้สึกมันไม่ได้เปลี่ยนกันง่ายๆ แต่ถ้าเขาคิดตรงกันแต่ไม่มีโอกาสบอกกัน ไม่คิดว่ามันไม่ยุติธรรมเหรอ”
“ไม่ยุติธรรมสำหรับใคร ในเมื่ออีกคนก็เลือกที่จะไม่แสดงตัว และอีกคนก็กำลังจะแต่งงานแล้วก็มีครอบครัวในแบบที่เลือก นายกำลังคิดอะไรลู่หาน ความรักสวยงานที่จบแบบในละครตัวเอกรู้ใจตัวเองแล้วก็รักกันแบบนั้นเหรอ นายลืมอีกตัวละครที่โอเซฮุนสร้างขึ้นหรือเปล่า ผู้หญิงคนนั้นนายจะเอาเธอไปไว้ที่ไหน” ครับตามนั้นผมแทบจะไม่ได้อ้าปากพูดอีกเลยก็มินซอกจัดมากชุดใหญ่ และก็ทำให้ผมได้คิดใช่คุณเซฮุนอาจจะแค่อยากรู้ว่าใครคือส่งดอกไม้ให้ แล้วเจ้าของดอกไม้หละจะเป็นยังไงในเมื่อ....นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่
“มินซอก” นั้นงอนใส่กันซะแล้ว เฮ้อเรื่องคนอื่นแท้ๆ
“มินซอก อ่า หานขอโทษ หานคิดน้อย แต่ตอนนี้หานคิดมากแล้ว ช่วยหานหน่อย เอาไงดี” ดวงตาที่ใครก็บอกว่าเป็นเสน่ห์ของลู่หาน ตอนนี้กำลังออดอ้อนสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามินซอกสุดชีวิต
“เดี๋ยวจิ้มตาบอด ชอบจริงสร้างปัญหาเนี่ย จะเอาไงว่ามา”
“ก็”
กรุ๊งกริ๊ง
เสียงเปิดประตูทำให้เราทั้งคู่ต้องหยุดหันไปมอง ใจผมหวังว่าคงจะเป็นชานยอล
“สวัสดีครับ”
“คุณหมอแบค/หมอแบค” บางทีเราสองคนอาจจะแสดงออกมากไปนิดเพราะตอนนี้คุณหมอตัวเล็กออกอาการงงอย่างเห็นได้ชัด
“เออ ผมมาผิดเวลาหรือเปล่าครับ”
“เปล่าครับ ผมกับลู่หานก็กำลังรอลูกค้าปกติแหละครับ แต่คุณหมอมาร้านผมทีไรฝนตกทุกทีเลยนะ”
“นั้นซิครับ เปียกไปหมดเลย”
“ว่าแต่วันนี้จะรับดอกไม้อะไรเพิ่มหรือเปล่าครับ ที่จริงคุณหมอโทรสั่งก็ได้นะครับ”
“อ๋อใช่เกือบลืมเลย ผมจะไปประชุมอาทิตย์นึง ฝากคุณมินซอกบอกคุณชานยอลให้ไปส่งของให้ที่ห้อง107เลยนะครับ”
“ได้ครับไม่มีปัญหาแล้วดอกไม้?”
“เหมือนเดิมครับ”
“โอเคครับ ผมจะจัดการตามนี้นะครับ”
“ขอบคุณครับ” ตามที่เห็นแหละครับผมปล่อยหน้าที่ดูแลลูกค้าให้เป็นของคุณเจ้าของร้านไปส่วนผมอะนะ นั่งกุมหมับอยู่ไงหล่ะ เผลอทำเรื่องจนได้ เวรแล้วลุ่หาน
“โชคดีนะครับ ไงคนเก่งมานั่งทำหน้าหมาป่วยอะไรตอนนี้” ประโยคแรกอ่ะส่งลูกค้าเสียงอ่อนเสียงหนาวส่วนประโยคหลังอย่าให้พูดเลย ทับถมมาเต็ม
“ตกลงจะเอาไงคิดออกยัง” มินซอกเลือกนั่งตรงเก้าอี้ฝั่งตรงข้างกับผม ตากลมโตกำลังจ้องมองผมเหมือนกำลังลุ้นหวยอ่ะบอกเลย
“ไม่รู้”
“อะไรเนี่ย” เสียงสูงวิ่งเข้าหูซ้ายขวาแล้วพุ่งสู่สมองเลย
“น้องมินซอกจ๋า ช่วยคิดหน่อยสินะ ลู่หานคนนี้ควรทำไงดี”
“ไม่”
“อ้าวเฮ้ย ทำไม”
“ฉันไม่ชอบประโยคที่นายพูดเมื่อกี้” เอาหัวโขกโต๊ะแล้วตายไปตอนนี้เลยได้มั้ย เล่นตัวเหลือเกินแม่คุณ
“มินซอกครับ ลู่หานควรทำไงดี ช่วยคิดหน่อยเถอะครับ”
“ก็....”
กรุ๊งกริ๊ง
“ไค!!!/คุณไค!!!”
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
ดีจ้า มีใครอยู่แถวนี้บ้างมั้ยน้อ
แหะๆ ลงช้าจังเลยเนาะว่ามั้ย
แต่แบบ..............ตอนแรกจะแก้ตัวแหละแต่ไม่รู้จะพูดอะไรดี
เอาเป็นว่าจะพยายามลงให้บ่อยกว่านี้นะคะ
ส่วนใครจะคู่ใคร หรือใครจะมาตอนไหนและรูปแบบไหน ต้องลุ้นกันเอาแล้วล่ะ
แต่ต้องบอกไว้ก่อนเลย ว่าคู่หลักคือลู่หมิน อันนี้ไม่มีทางเปลี่ยนแปลง แต่คู่อื่นนั้น เราจะไปเคาะประตูทุกบ้าน บอกไม่ได้จริงค่ะ เพราะหลายครั้งเขียนไปกะว่าจะให้คู่คนนี้ อยู่หน้าอีกคนแว๊บเข้ามาลบเขียนใหม่เฉย ยังไงพนักงานร้านดอกไม้คนนี้ก็ยังต้องการกำลังนะคะ
หวังมากๆว่าทุกคนจะชอบและสนุกตอนที่อ่านนะ
^______________^
ความคิดเห็น