ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Girl In Red | The Clown & The Little Girl (Pennywise x OC)

    ลำดับตอนที่ #13 : Keith's Head In River

    • อัปเดตล่าสุด 2 มิ.ย. 64


    "พระเจ้าช่วย ร็อดริก! นายเสียสติไปแล้วรึไง" เสียงของคีธตะโกนขึ้น เขาดูลนลานเป็นที่สุด หนุ่มพั้งค์ในเสื้อลายทางรีบพุ่งถลาเบียดผ่านเพื่อนอีกสองคนมายังราวสะพาน มือค้ำจับราวไว้แน่น ใบหน้าก้มลงมองไปในแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว

    ร่างของเธอกระทบกับผิวน้ำ สร้างแรงกระเพื่อมของคลื่นมันทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อทิศทางของกระแสได้พัดเอาร่างเด็กปลิวไหลไปอย่างต่อต้านไม่ได้ เมื่อพวกเขาทั้งสามคนมองใต้สะพานลงไปกลับไม่เห็นเธอแล้ว

    "คิดว่ายัยนั่นว่ายน้ำเป็นมั้ย" ดีแลน หนุ่มเสื้อฮู้ดถามอีกฝ่าย

    "คิดว่าไม่.." ร็อดริกตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย พลางมองหาแอกเนส

    "เฮ้ๆๆ ไหนเราตกลงกันว่าจะแกล้งเฉยๆ ให้มันสำนึกไม่ได้ถึงตายไง" คีธที่ดูจะเป็นห่วง ก็เริ่มแสดงด้านอ่อนไหวออกมา มือของเขาทั้งลูบใบหน้าลากไปหลังต้นคอ คีธเดินวนไปวนมาอยู่อย่างนั้นจนร็อดริกต้องทักขึ้น

    "ใจเย็นไว้ ถึงยัยนั่นจะเป็นไรมา มันก็ไม่เกี่ยวกับพวกเราซักหน่อย"

    "ไม่เกี่ยวหรอ!? แต่นั่นเด็กนะ!! เธอเป็นแค่เด็กอายุ 11 " เขาขึ้นเสียงตะโกนจนเห็นเส้นเลือดขึ้นที่คอ มือของเขาพยายามปัดป้องไปมา แสดงออกถึงการไม่พอใจและไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรง

    "คิดสิร็อด ถ้าเธอตายขึ้นมา คนที่ต้องติดตะรางก็คือพวกเรา"

    "ก็บอกว่ามันไม่เกี่ยวกับฉันไง!!!" ร็อดริกโมโหและโต้กลับอย่างหนักหน่วง ก่อนจะกล่าวกับคีธต่อ เขาได้วางมือทั้งสองข้างอันหนักอึ้งไว้บนไหล่กว้างของหนุ่มพั้งค์ "ถ้าเธอตาย คนที่ต้องติดคุกก็คือนาย ไม่ใช่ฉัน"

    "ดูสิ่งที่มันทำกับแขนฉันและเมลแมนสิ!!" ว่าเสร็จเขาก็หันไปถามดีแลน "แล้วนายล่ะอายุเท่าไหร่?"

    " สิบเจ็ด..." ดีแลนให้คำตอบกลับมาด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนะ และคอยมองดูเพื่อนทั้งสองของเขาถกเถียงกัน

    "ก็อย่างที่รู้ ฉันกับดีแลน เราเพิ่งจะอายุ 17 อย่างมากที่สุดพวกฉันก็แค่ดำเนินการตามกฎหมายเยาวชน"

    "แล้วนายล่ะคีธ หนุ่มเกรด 12 โอ้...ฉันจำวันเกิดนายได้ เพิ่งผ่านไปเมื่อ 4 เดือนที่แล้ว แก่ขึ้นอีกปีแล้วนะพี่ชาย" ร็อดริกตบไหล่เขา ส่วนมืออีกข้างก็ตบแก้มคีธเบาๆ ทำเอาเจ้าตัวนั้นพูดไม่ออก ได้แต่ส่อแววตาอย่างสิ้นหวัง

    "ถ้าอยากจะไปช่วย ก็เชิญ ฉันจะไม่ทำอะไรเพื่อห้ามนาย แต่ฉันเตือนนายแล้วนะเรื่องแอกเนส"

    คีธมองหน้าร็อดริกอย่างไม่มีทางเลือก ถ้าหากลงไปช่วยตอนนี้ทัน มันก็ยังไม่สาย นึกแล้วเขาก็วิ่งลงไปตามทางลาดชันข้างล่างใต้สะพานลอย

    "ดีแลน ขึ้นรถ..." ร็อดริกสั่งดีแลน แต่คนร่างท้วมกลับทำหูทวนลม ยังคงยืนมองคีธ

    "เดี๋ยวนี้" เมื่อเขากำชับอีกครั้งด้วยเสียงโทนต่ำปนเริ่มจะโมโห ดีแลนก็ยอมขึ้นรถไปกับเขา

    ส่วนคีธได้ยินเสียงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ เขามั่นใจว่านั่นคือเสียงของแอกเนส เขาไม่รีรอที่จะกระโดดลงไปช่วยเธอ เด็กหญิงรู้สึกกระอักกระอ่วน เธอสำลักน้ำและพยายามโผล่หัวขึ้นมาเอาอากาศอย่างทุลักทุเล และเมื่อถูกทำให้จมอีกครั้ง วิสัยทัศน์ในน้ำเริ่มเปลี่ยนไป ความขุ่นมัวทำให้เกิดความกลัว

    เสียงกระซิบที่เมื่อดำดิ่งและจมลง เธอกลับรู้สึกถึงมันอีกครั้ง เหตุการณ์อันดำมืดที่ถูกนำมาฉายและทำให้เกิดภาพทับซ้อน เหมือนฝันร้ายเล็กๆที่ก่อตัวพร้อมกันฉีกกระชากจิตใต้สำนึกของเธอ มันเปลี่ยนน้ำทั้งหมดให้กลายเป็นสีแดงของโลหิต เพื่อเค้นความกลัวจากก้นบึ้งของจิตใจออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

    เด็กสาวเพ่งสายตาในน้ำด้วยวิสัยทัศน์ที่ยากต่อการมอง ทำให้เธอเห็นอะไรซักอย่างที่คล้ายสาหร่ายสีส้ม กำลังเคลื่อนไหวในน้ำ หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นแทบจะกระเด็นออกจากอก และเมื่อมันคืบคลานใกล้เข้ามากลับเป็นเส้นผมสีเปลวไฟ และปรากฏหน้าคนที่เป็นเจ้าของเส้นผมนั่น ริมฝีปากสีแดงของมันยิ้มให้เธอ

    และเมื่อปากของตัวตลกเปิดกว้างอีกครั้งเหมือนปากวาฬเพชฌฆาต ฟันอันแหลมคมจำนวนพันซี่เรียงเป็นแถว ปากของมันถูกปรับใหม่เพื่อให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น เพื่อจะได้กลืนกินเธอทั้งตัวในคำเดียว ความหวาดกลัวทำเธอสติแตกแทบบ้า เสียงหวีดร้องภายใต้แรงดันน้ำ เกิดเป็นฟองอากาศมากมาย น้ำได้ทะลักเข้าสู่ปอด เธอเริ่มไม่เป็นตัวของตัวเอง

    "พวกเรากำลังลอย ฮาฮ่าฮ่าๆๆๆ!!!!!" เสียงโทนต่ำปนคำรามยากที่จะฟัง ที่มีความดังและความถี่คลื่นเหมือนวาฬชัดเจน มันพูดกับเธอ

    แขนและขาตะเกียกตะกายพยายามว่ายขึ้นเหนือผิวน้ำอย่างสุดความสามารถ จนมันทำให้เธอเริ่มหมดแรงเมื่อเธอค้นพบว่ายิ่งว่ายไปเท่าไหร่ก็ดูเหมือนจะไม่มีจุดสิ้นสุด เมื่อมองขึ้นไปที่ผิวน้ำกลับเหมือนว่าถูกทำให้จมลงทุกขณะ แสงจากเบื้องบนเริ่มส่องมาไม่ถึงเหมือนกับจะจมลงสู่ใต้ท้องทะเล

    แอกเนสก้มมองใต้เท้าทั้งสองข้างของตัวเอง ความสยดสยองเมื่อเธอโดนมือนับร้อยของศพเด็กปริศนาพยายามคว้าตัวและดึงเธอลงมา และเมื่อมองให้ลึกลงไป ใต้ความมืดมิดนั้นมีปากขนาดยักษ์ของเพนนี่ไวซ์อีกตัวที่รอเขมือบเธออยู่ จู่ๆแอกเนสก็คุ้นหน้าพวกเขาขึ้นมา เธอรู้ได้ทันทีว่าพวกนี้คือเด็กที่หายตัวไปตามใบประกาศเด็กหาย ที่แท้พวกเขาก็อยู่ที่นี่ ข้างใต้เมืองเดอร์รี่ และรอวันที่จะได้กลับขึ้นไป

    ความกลัวและการดิ้นรนหนีสุดชีวิตก็ทำให้ศรีษะของเธอไปกระแทกเข้ากับบางอย่างที่อยู่ในน้ำจนหมดสติ แรงพยุงทำเธอลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำ คีธคว้าร่างของแอกเนสขึ้นมาจากฝั่ง เธอนอนหมดสติแน่นิ่งไป ชายหนุ่มกระวนกระวายไม่รู้ควรจะทำอย่างไร เขาตั้งสติพยายามเช็คชีพจรของเธอและช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นโดยการกดหน้าอก

    เขาวางมือทั้งสองข้างกดมันลงไป โดยให้ส้นมือไว้กลางอกบริเวณครึ่งล่างของกระดูกช่วงอก เขากดมันนาน 30 ครั้ง เด็กสาวกระแอมจนเธอสำลักน้ำออกมาและได้สติกลับมาอีกครั้ง เธอรีบสะดุ้งตื่นพอเห็นว่าเป็นคีธ และพยายามตีตัวออกห่างจากเขา

    "เฮ้ๆ ไม่ต้องกลัว เชื่อฉัน ฉันมาดีเพราะอยากช่วย" คีธพยายามอธิบายและหาข้อแก้ตัวให้กับตัวเองที่ดันไปแกล้งเธอ ทั้งคู่ไม่ทันจะได้ทำความรู้จักกัน บทสนทนาก็ถูกขัดโดยเพนนี่ไวซ์ เขาพุ่งขึ้นมาจากแม่น้ำในร่างของปลาขนาดใหญ่ ตัวตลกเขมือบหัวคีธ ก่อนทั้งคู่จะหายลงน้ำไปพร้อมกัน แม่น้ำได้กลายเป็นสีแดงในจุดที่คีธถูกลากไป

    "อร๊ากกกกก!!!!"

    แอกเนสกรีดร้อง เธอตกใจและไม่ทันได้ตั้งตัวกับการจากไปของคีธ ซึ่งมันเป็นครั้งที่สองแล้วที่มีคนมาตายต่อหน้าเธอ เด็กสาวได้สูญเสียความเป็นตัวของตัวเองและวิ่งหนีไป อย่างแรกที่เธอกลับมาตั้งสติและคิดได้ คือ การตามหากริลล์บี้






    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×