ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Girl In Red | The Clown & The Little Girl (Pennywise x OC)

    ลำดับตอนที่ #4 : Watch Your Language

    • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 64


    ภาพแรกที่สาวน้อยเห็นจากอาการสะลึมสะลือ พบว่าเป็นเพดานห้องโทรมๆที่มีรอยแตกตำหนิเล็กๆสีเทาที่ชวนให้เศร้าสร้อย เธอรู้ได้ทันที่ว่านี่เป็นห้องของเธอ สัมผัสแรกคือเตียงนุ่มๆและผ้าห่มอุ่นๆ เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างกลับเป็นวันที่ท้องฟ้าหม่นหมอง พายุกำลังจะมาและลมทำให้ม่านในห้องของเธอสะบัดอย่างรุนแรงเหมือนสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นนับจากนี้

    เสียงบทสนทนาจากข้างล่างดังขึ้นเป็นระยะ พวกเขากำลังพูดคุยถึงแอกเนส ต้นเหตุอะไรก็ตามที่ทำให้เธอต้องมานอนป่วย แอกเนสเธอคิดว่ามันเป็นแค่ฝัน เป็นเพียงฝันร้ายที่อยากจะลืมแต่เมื่อเธอเปิดผ้าห่มและเห็นมัน รอยกัดสีแดงก่ำระหว่างขา ที่ย้ำเตือนว่าสิ่งที่เธอพบเจอนั้นมีตัวตนจริง

     "พวกเขาพบเธอที่ไหนคะ? คุณตำรวจ" น้ำเสียงของคนเป็นแม่สั่นคลอน แน่นอนว่าเธอกำลังวิตกกังวลเป็นอย่างมาก ถึงอันตรายที่จะมาทำร้ายลูกสาว 

    "พวกเขาแจ้งมาว่าพบเธอนอนสลบอยู่ที่ลานม้าหมุนเก่า ใกล้ๆงานเทศกาล" คำชี้แจงของตำรวจนายนี้ทำให้แคโรลต้องหันมองมอร์ติเมอร์ที่นั่งฟังอยู่ข้างๆและอดกลั้นความโกรธที่มีต่อสามีเอาไว้ เธออยากจะตะโกนด่าเขาว่าเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่องซะตรงนี้เลยเสียด้วยซ้ำ

     "จากผลตรวจลักษณะรอยแผลแล้ว เราสันนิษฐานว่าโดนสัตว์ป่าทำร้าย" เมื่อเสร็จธุระพวกเขาก็เดินกลับออกไป แอกเนสที่ตั้งใจฟังตั้งแต่ต้นจนจบก็เกิดคำถามมากมายเข้ามาในหัว 

    มีแต่คำว่าทำไมเต็มไปหมด ทั้งการกระทำ สายตาของเขา มันเห็นได้ชัดว่าเขาพยายามจะฆ่าเธอ! แต่อยู่ๆทำไมเขาถึงเปลี่ยนใจ และแอกเนสก็ยังมีชีวิตอยู่ เธอนึกว่าตัวเองน่าจะไม่รอดตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ไม่นานนักคำถามที่คาใจก็ถูกปัดตกด้วยน้ำเสียงทุ้มที่ดังมาจากมุมห้อง มันยืนอยู่ตรงนั้นนานแล้วรึยัง? มันจ้องตลอดที่เธอหลับด้วยรึเปล่า? เป็นสิ่งที่เด็กสาวแทบไม่ทันได้สังเกต การปรากฏตัวของมันทำให้เธอกลัว 

    "แอกเนส~" 

    เขาเดินออกมาจากมุมมืดมาหยุดอยู่ที่ปลายเตียง ความใกล้ชิดที่ใกล้เข้ามาทำให้เธอเห็นรายละเอียดของไอ้ปีศาจในคราบชุดตัวตลกได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นไปอีก ตัวของเขาทั้งสูงใหญ่แทบจะติดเพดานห้องเธอ ชุดผ้าแพรสีขาวที่มีรอยเปรอะเล็กๆ ซึ่งน่าจะเป็นเลือดของใครซักคน

    "ฉันรู้ว่าเธอกำลังสงสัย" 

    "แกรู้?" 

    "ช่าย ก็เธอคิดดังเองนิช่วยไม่ได้ ฮ่าฮ่าๆ" เขาทำท่าทางเยาะเย้ย ก่อนจะชี้นิ้วไปที่แผลและทำตาลุกวาว

    "ฮรุ๊ก เจ็บใช่มั้ยล่ะสมน้ำหน้า ฉันยังจำความรู้สึกตอนฝังเขี้ยวลงบนเนื้อเธอได้อยู่เลยนะ"

    พอโดนยั่วโมโหและเหมือนดูถูกว่าเป็นพวกขี้แพ้แบบนั้นมีหรือที่เธอจะอยู่เฉย นั่นจึงทำให้เธอพลั้งพูดสบถคำหยาบออกไป "แกมันไอ้ตัวตลกเศษสวะ!"

    เพนนี่ไวซ์กระโดดขึ้นเตียงมาและปิดปากเธอไว้แน่น "ระวังคำพูดหน่อยยัยหนู" พร้อมกับส่ายนิ้วชี้ไปมาอีกแล้ว นั่นยิ่งทำให้เธอรู้สึกโมโหไม่หยุด

    "ฉันจะบอกให้ก็ได้ ว่าทำไม ทำไม ทำไม ฉันไม่กินเธอซะตอนนั้น" 

    "เรามีเวลาเล่นสนุกด้วยกันตั้งเหลือเฟือ" 

    "เพราะกว่าจะถึงตอนนั้น รสชาติเธอก็คงอร่อยและน่ากินกว่าตอนนี้เอามากๆด้วย"

     ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นเป็นจังหวะที่แคโรลกำลังจะเปิดประตูเข้ามา เสียงเคาะได้ช่วยชีวิตแอกเนสไว้และมันเรียกความสนใจของทั้งคู่ เพนนี่ไวซ์ชำเลืองหางตามองไปทางประตูและรับรู้ได้ถึงฝีเท้า เขาจึงหายไป ทิ้งความกลัวและวิตกไว้ให้แอกเนสแทน

    แคโรลเดินเข้ามาที่ห้องลูกสาว เธอนั่งลงข้างๆเตียงก่อนที่มือเรียวจะวางทับลงที่ขาของลูกแสดงออกถึงความห่วงใย สีหน้าดูซีดเซียวยังคงกังวลเรื่องแอกเนสไม่หาย บางครั้งการเป็นแม่คนมันก็ทำใจลำบาก แคโรลเริ่มถามไถ่ลูกสาวถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

    "เป็นไง ดีขึ้นบ้างรึยัง?"

    "เราเพิ่งทำแผลให้ลูกเสร็จเมื่อชั่วโมงที่แล้ว ถ้ายังเจ็บก็บอกได้นะ"

    แอกเนสจ้องมองไปที่ดวงตาของแม่ เธอเห็นความจริงใจและอบอุ่นแฝงอยู่ในนั้น นั่นทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยทุกครั้งที่อยู่คุยกับแม่ มอร์ติเมอร์ที่ขึ้นบันไดตามมาดูลูกสาวแววตาของพ่อต่างจากแม่โดยสิ้นเชิง แอกเนสรู้ได้ทันทีว่าเขาไม่ได้มาดูเพราะว่าเป็นห่วงแต่มาสมเพชลูกสาว

    "โชคดีที่ลูกไม่ได้ติดเชื้อจากแผล ไม่งั้นเราคงได้ตัดขาลูกทิ้ง" มอร์ติเมอร์กล่าว แคโรลที่ได้ยินสามีพูดแบบนั้นก็ชักสีหน้าไม่พอใจทันที เธอเลยต่อว่าเขาก่อนจะไล่ตะเพิดให้ออกไป

    "หุบปากน่า"

    "ความผิดคุณนะรู้มั้ยที่ไม่ได้อยู่ดูแลแอกเนส"

    "ถ้าขึ้นมาแล้วไม่เกิดประโยชน์อะไร ก็ช่วยออกไปทีเถอะ"

    แอกเนสชำเลืองมองพ่อของเธอที่เดินออกจากห้องไป เขาไม่ถือสาหรือสนใจ ซึ่งเป็นไปตามปกตินิสัยเขา  ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ? ที่เธอรู้สึกชินแล้วกับพฤติกรรมของเขาที่มีต่อคนในครอบครัว

    "หนูว่าหนูโอเคค่ะ ยังคงเจ็บอยู่แต่ไม่มากแล้วล่ะ" เธอตอบคำถามแม่

    "โอ้ จริงหรอ ดีจัง- แม่กะว่าถ้าลูกยังไม่หายเจ็บ ลูกสามารถหยุดเรียนได้นะ"

    "หนูไปโรงเรียนได้ จริงๆนะ ถ้าได้นอนพักเดี๋ยวคงหายค่ะ"

    "มันก็แค่แผลเล็กๆ แค่แผลไกลหัวใจ..."

    "แม่ภูมิใจที่มีลูกสาวเป็นคนเข้มแข็งจ่ะ" ก่อนจะจูบบอกฝันดีที่หน้าผากเด็กสาวแล้วปล่อยให้เธอนอนพักผ่อน

    ถึงแม้จะต้องข่มตาหลับเพื่อเอาแรงก็ตาม แต่ใครมันจะไปหลับลงกันเมื่อคิดได้ก็ไม่น่าบอกออกไปแบบนั้นเลย น่าจะให้แม่อยู่เป็นเพื่อนกับเธอตลอดทั้งคืน ใช่...เธอกำลังหวาดกลัว กลัวว่าไอ้ตัวบ้านั่นจะโผล่มาอีก ในหนังสือนิทานปรัมปราส่วนใหญ่ตัวที่จะมาเป็นฝันร้ายของเด็กๆมักเป็นบูกี้แมนเสมอมา แต่กับแอกเนสในตอนนี้แล้วบูกี้แมนคงไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวสำหรับเธอ แต่เป็น "มัน"

    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×