ตอนที่ 11 : [Memory 12 Memory of Oni]
[Memory 12 Memory of Oni]
วันต่อมา...
นานาโฮะและฮิจิคาตะเตรียมการกันอย่างดีเรื่องปราสาทเกียวโต พวกเขาจำต้องระวังอย่างมากเพราะโคโดอาจจะเป็นผู้นำความทรงจำของเธอไป รวมทั้งใครก็ตามที่น่าจะเป็นได้ ส่วนกำลังพลของพวกเขาก็คือสี่ ซึ่งประกอบไปด้วยฮิจิคาตะ นานาโฮะ ไซโต้และฮาราดะ ที่มากันเท่านี้เป็นเพราะหากเดินทางมาอึกทึก ความทรงจำของนานาโฮะที่อุตส่าห์ตามหามาเกือบสามปีก็อาจไร้ผล
“ก่อนอื่นข้าจะเข้าไปก่อนแล้วให้เจ้าตามมาทีหลัง ส่วนฮาราดะและไซโต้ก็ตามหลังเจ้ามาอีกที”
ฮิจิคาตะบอกแผนการรบกับนานาโฮะ ซึ่งนางก็พยักหน้าเข้าใจดี
และเพราะพลังของเธอ ตอนนี้ฮิจิคาตะ ไซโต้และฮาราดะก็ปรากฏอยู่ต่อหน้าปราสาทเกียวโตเรียบร้อยแล้ว
“ฮาราดะ เจ้าช่วยระวังหลังให้หน่อยก็แล้วกัน”
นานาโฮะเอ่ยสั่งขณะที่ดึงดาบของตนขึ้นมาจากแขนเสื้อ
ทั้งสี่ที่เข้าใจจุดยืนของตนแล้วก็บุกเข้าไปในปราสาททันที แต่ทันใดนั้น
“ฮิจิคาตะซัง!!!”
เสียงทุ้มอันคุ้นเคยดังขึ้น เฮย์สึเกะในชุดตะวันตกหอบแฮกๆอยู่หน้าพวกเขา เสื้อของเขาเต็มไปด้วยของเหลวสีแดง แต่ไม่ใช่ของเขา
“ฮ...เฮย์สึเกะ?”
ฮิจิคาตะดูจะเหลือเชื่อเล็กน้อยที่พบเขา เฮย์สึเกะรู้ดีว่านี่ไม่ใช่การรวมญาติ เขาจึงรีบเข้าประเด็นทันที
“จิซึรุ จิซึรุถูกจับตัวไปแล้ว!! นางถูกโคโดพาเข้าไปในปราสาท...”
“ดีเลย...เราก็กำลังเข้าไปในปราสาทเช่นเดียวกัน เจ้าจะร่วมทางไปกับเราหรือเปล่า?”
นานาโฮะเอ่ยอย่างเร่งรีบ เพราะเธอสัมผัสได้ว่าบางสิ่งในตัวของเธออยู่ที่นี่แน่นอน ก่อนที่เธอจะรีบดันหลังให้ฮิจิคาตะเข้าไปเมื่อเฮย์สึเกะพยักหน้า
ตอนนี้ ดูเหมือนว่านานาโฮะจะเข้าใจความหมายในคำพูดของฮิจิคาตะที่เอ่ยมาเมื่อวานอย่างดี เนื่องจากเธอไม่มีท่าทีเขินอายหรือแสดงอะไรที่เหมือนกับเป็นคู่รักกับไซโต้เลยสักนิด
และเมื่อพวกเขาก้าวเข้าไปในปราสาทก้าวเดียว เหล่าราเซ็ทซึที่มาจากไหนก็ไม่รู้ก็แห่กันมาขวางพวกเขา ทำให้พวกเขาคงต้องบู๊ล้างผลาญกันเสียหน่อย...
...............................................................................................................................
“ย้ากกกกกกกก!!!!!!!!!!!!”
เฮย์สึเกะคำรามลั่นก่อนจะฟันราเซ็ทซึคนหนึ่งที่ขวางทางและคนอื่นๆ ก่อนที่เขาจะเปิดประตูห้องๆหนึ่งออก ซึ่งที่นั่นมีโคโดและจิซึรุที่เหมือนกำลังเจรจาอะไรบางอย่างอยู่ และเมื่อเขาเข้าไปโวยวายอะไรสักหน่อย ซันนันก็เดินออกมาบ้าง
“โฮ่...มาคนเดียวอย่างนั้นรึ? ใจกล้าน่าดูนี่ แต่ใช้พลังไปขนาดนั้น คงใกล้ถึงขีดจำกัดแล้วสินะ”
โคโดเอ่ยหยาม ฮิจิคาตะและเหล่าคนที่ตามมาทีหลังค่อยๆเดินทยอยเข้ามา
“หึ...มินาโมโต้...เจ้ามาตามคำชวนด้วยอย่างนั้นหรือนี่?”
โคโดเอ่ยอีครั้ง ครานี้ทำให้ทุกๆคนหันไปจับจ้องที่เธออย่างไม่ได้นัดหมาย
“ข้าไม่ได้มาตามคำชวน...ข้ามาเอาความทรงจำของข้าคืน ยูคิมูระ โคโด”
นานาโฮะเอ่ยเรียบ โคโดกระตุกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะดึงขวดยาขวดหนึ่งที่มีสีดำแปลกๆให้นางดู
“หมายถึงเจ้านี่อย่างนั้นหรือ?”
เมื่อนานาโฮะมอง นางก็รู้ทันทีว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่นางต้องการ นางจึงกัดฟันแน่นจนเกิดเสียงกรอดลอดออกมา
“ยูคิมูระ โคโด เจ้า...”
นานาโฮะไม่ว่าอะไรนอกจากนั้น ฮิจิคาตะจึงพูดต่อเอง
“โคโด มอบสิ่งนั้นมาให้เราเสีย”
ฮิจิคาตะเอ่ยขณะที่เตรียมดาบเมื่อเห็นว่ามีราเซ็ทซึจำนวนหนึ่งเริ่มเดินเข้ามาเรื่อยๆ
“อย่าดีกว่านะท่านรอง ในตอนนี้ราเซ็ทซึทั้งหมดทั่วโลกได้มารวมกันที่นี่แล้ว เจ้าไม่มีวันชนะได้หรอก...”
ซันนันเอ่ยขึ้นบ้าง ทำให้ทุกคนเริ่มจะโกรธแค้นมากขึ้นไปอีก
“แล้วถ้าเป็นพวกเราล่ะ...พวกเราจะสามารถชนะได้หรือไม่?”
ไซโต้เอ่ยขึ้นหลังจากเงียบไปนาน ก่อนที่ทั้งห้องจะเต็มไปด้วยความเงียบ
ฉึก ฉึก ฉึก!!!!
เสียงมีดสั้นปักตามจุดตายของราเซ็ทซึสามคนดังขึ้น ทุกๆคนหันไปมองนานาโฮะที่เป็นผู้เริ่มก่อนจะเริ่มทำสงครามทันทีโดนผู้เริ่มคือซันนันที่ใช้ฝักดาบของตนเองแทงอกของราเซ็ทซึตนหนึ่งจนทะลุก่อนจะใช้ดาบฟันราเซ็ทซึอีกคนที่อยู่ใกล้ๆ ทำให้ทุกคนถึงกับอึ้งก่อนจะเข้าใจในเวลาต่อมาว่าเป็นการแสดงละครของซันนันต่อโคโด
“ซันนัน...เจ้า...หนอย...”
โคโดกัดฟันกรอดขณะที่ราเซ็ทซึจำนวนหนึ่งเข้ามาป้องกันเขา
“วันนี้แหละ...ข้าจะจบเรื่องทั้งหมดในวันนี้...”
ซันนันเอ่ยด้วยความมุ่งมั่น ทุกๆคนต่อสู่กันอย่างสุดกำลัง รวมถึงนานาโฮะที่เริ่มฉุนขึ้นมาเกี่ยวกับโคโดที่หลอกเธอ
ทันใดนั้น เสียงของแหลมคมแทงอะไรบางอย่างทะลุก็ดังขึ้นจากด้านหลัง นานาโฮะหันไปก็พบว่าโคโดถูกราเซ็ทซึที่ตนเองสร้างเสียบอกทะลุ ดาบทั้งสามเล่มแทงทุลุอกของเขาง่ายดายจนอาบไปด้วยของเหลวสีแดง จิซึรุที่ถูกป้องกันกรีดร้องด้วยความเสียใจที่พ่อของตนเองตายต่อหน้าต่อตา และทันทีที่ไม่ได้สนใจการรบของตนเอง ราเซ็ทซึตนหนึ่งก็เข้ามาหมายจะทำร้ายเธอ ทุกๆคนเห็น แต่พวกเขาไม่สามารถละมือไปได้เลย
“นานาโฮะ!!!!”
เสียงอันคุ้นหูดังขึ้น นานาโฮะได้สติพอดีกับที่หันกลับมามอง ดวงตาสีแดงเลือดเบิกกว้าง เมื่อคนที่อยู่ตรงหน้าเธอเป็นใคร
“ฮาราดะ...”
เธอเอ่ยเบาๆ เมื่อเห็นว่าด้ามหอกของเขาหักเป็นสองท่อนคามือเพราะคมดาบของราเซ็ทซึ และมันผ่าเข้าไปถึงตัวเขาด้วย
“ชิ...”
ฮาราดะสบถเบาๆ ก่อนจะใช้ด้ามหอกที่มีใบมีดผ่าเข้าที่จุดตายของราเซ็ทซึคนนั้นก่อนจะล้มลงเพราะบาดแผลลึกเกินไป
“ฮาราดะ...ทำอะไร...”
นานาโฮะพึมพำ ก่อนที่เธอจะทรุดลงนั่งข้างๆเขา
“อา...ไม่รู้สิ...ร่างกายมัน...ขยับไปเอง...”
เขาเอ่ยเสียงแหบ คงเป็นเพราะคมดาบของราเซ็ทซึคนเมื่อครู่อาจโดนจุดสำคัญก็เป็นได้
“เจ้าโง่เอ๊ย ข้าเป็นยักษ์นะ ถึงบาดแผลจะหนักเท่าไหร่ก็สามารถหายได้อยู่แล้วล่ะ...”
นานาโฮะโวยวายขณะที่พยายามไม่ให้เขาหลับด้วยการใช้ฝักดาบของเธอกระแทกเข้าที่ขาของเขาอย่างแรงหลายๆครั้ง
“นานาโฮะ...พอเถอะ...ข้าคงไม่รอดแล้ว...”
ฮาราดะเอ่ย ก่อนจะหัวเราะเบาๆ
“อา...สักวันเราคงได้ไปเที่ยวด้วยกันอีกนะ...นานาโฮะ...”
เขาเอ่ยด้วยเสียงที่แทบจะไม่มี นานาโฮะไม่ร้องไห้สักหยด เธอไม่เข้าใจ ว่าทำไมเพื่อนของเธอถึงต้องมาตายกันไปทีละคนทีละคนแบบนี้ด้วย
“อือ...ข้าจะรอนะ...”
นานาโฮะเอ่ย ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นเมื่อเขาหลับตาลง
“นานาโฮะ...เจ้า...”
ไซโต้ที่เพิ่งฟันราเซ็ทซึตัวสุดท้ายเรียบร้อยหันมาหาเธอที่ไหล่สั่นเล็กน้อย เขารู้ดีว่าเธอไม่ได้คิดกับฮาราดะเกินกว่าเพื่อน แต่เธอคงรับไม่ไหว ที่อีกฝ่ายมาตายต่อหน้าต่อตาแบบนี้...
ถ้าเป็นเขา เขาก็เจ็บปวดเหมือนกัน...
นานาโฮะไม่ได้พูดอะไร นางแค่ปาดน้ำตาอันน้อยนิดของตนออกก่อนจะรีบเข้าไปหาโคโดที่หายใจรวยรินอยู่ข้างหลัง
“ยูคิมูระ โคโด เจ้ารู้ใช่หรือไม่ว่าความทรงจำของข้าอยู่ที่ไหน”
นานาโฮะเอ่ยเสียงเรียบ โคโดที่กำลังจะตายส่งยิ้มให้นางเล็กน้อย
“ใช่...ข้ารู้...”
โคโดเอ่ยเบาหวิว ด้านข้างก็มีจิซึรุที่ร้องไห้คร่ำครวญ
“มันไม่ได้อยู่ตรงนี่หรอก...ความทรงจำของเจ้านั้นช่างมีค่าสูงส่ง และอันตราย...”
โคโดเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะสำลักของเหลวสีชาดออกมา
“ถ้าอย่างนั้นมันอยู่ที่ไหน?”
นานาโฮะเอ่ยถาม โคโดยิ้มจางๆ
“มันอยู่ในห้องถัดไป ข้ากำลังวิจัยเกี่ยวกับความทรงจำของเจ้า...อยู่พอดี...”
โคโดไม่พูดอะไรมากกว่านั้นเมื่อนานาโฮะลุกขึ้นยืน ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปในห้องถัดไปที่โคโดว่า และนั่นทำให้เธอพบกับคาซามะอีกครั้ง...
“คา...คาซามะ...เจ้ามาที่นี่ทำไม...”
นานาโฮะเอ่ยตะกุกตะกัก เมื่อเห็นเขายืนอยู่พร้อมกับถือขวดแก้วที่มีของเหลวสีดำเขียวอยู่
“ข้ามาทำลายสิ่งนี้...”
เขาเอ่ยก่อนจะชูของเหลวนั้นขึ้นมา นานาโฮะรู้ทันทีว่านั้นคือความทรงจำของเธอ
“ว่าไงนะ!!!”
นานาโฮะโวยวายทันทีเมื่อเห็นว่าเขาต้องการจะทำลายสิ่งนั้น เธอจึงรีบเข้าไปเพื่อจะแย่งมัน
“ทำไมล่ะคาซามะ ความทรงจำของข้ามันอันตรายขนาดนั้นเลยรึอย่างไร”
นานาโฮะโวยวายเมื่อแย่งมาไม่ได้สักที
“ใช่...ความทรงจำของเจ้าเป็นอันตรายต่อพวกเรามาก...”
คาซามะเอ่ย ก่อนที่เขาจะร่ายคาถาที่ทำให้เธอขยับไม่ได้
“เพราะมันมีสูตรของโอจิมิซึ...”
คาซามะอธิบายสั้นๆ ทำให้เธอต้องกลืนน้ำลายด้วยความไม่เชื่อ
“ข้ารู้มาจากบันทึกของโคโด เขาเขียนบันทึกลงในสมุดของเขา บอกว่าที่เขาชิงความทรงจำของเจ้ามา เป็นเพราะว่าเจ้านั้นมีสูตรในการค้นคว้าโอจิมิซึที่ไม่มีเขียนไว้ในสมุดเล่มไหนๆ จากการคำนวณจากวัตถุดิบง่ายๆที่สามารถหาได้ทั่วไป โคโดที่สนใจจึงวางแผนชิงความทรงจำของเจ้ามา และนำสูตรของโอจิมิซึนั้นมาปรับปรุงให้ดีกว่าเดิม”
คาซามะเอ่ยขณะที่ยกขวดแก้วที่มีความทรงจำของเธอขึ้นมาส่องดู
“แล้วทำไม มันมีสูตรโอจิมิซึก็จริง แล้วความทรงจำตลอดหนึ่งร้อยปีของข้าที่ผ่านมาล่ะ ข้าอยากรู้เกี่ยวกับข้าในสมัยก่อน...”
“เจ้าเชื่อข้าเถอะ เจ้าไม่อยากรู้หรอก...ความทรงจำในอดีตของเจ้ามันขมขื่นเกินไป...ข้าคงให้เจ้าไม่ได้หรอกนะ...”
คาซามะเอ่ยด้วยใบหน้านิ่งๆก็จริง แต่น้ำเสียงของเขาแสดงให้เห็นถึงความเป็นห่วงอย่าชัดเจน
“ข้าพอรู้เรื่องราวคร่าวๆมาจากน้องสาวของเจ้าแล้ว เพราะฉะนั้น เจ้าน่ะ...”
คาซามะเอ่ยก่อนจะปล่อยให้ขวดแก้วนั้นร่วงสู้พื้นห้อง
เพล้ง...
ของเหลวนั้นแตกกระจาย ไม่ทันไรมันก็ระเหยไปจนหมด
“เริ่มความทรงจำใหม่เถอะ...อย่ายึดติดกับอดีตอีกเลยนะ...”
คาซามะเอ่ยเมื่อเห็นนานาโฮะเริ่มร้องไห้ออกมา เขาก็รู้ว่าเธออยากได้ความทรงจำนี้มาก และเขาก็อยากคืนให้กับเธอ แต่เขาไม่อยากให้เธอร้องไห้ไปมากกว่านี้อีกแล้ว
ขอให้นี่ เป็นครั้งสุดท้ายที่เจ้าร้องไห้เพราะข้าเถอะนะ...
คาซามะมองร่างที่ร้องไห้ด้วยความอาวรณ์ เขาไม่คิดว่าจะจับตัวเธอไปสักนิดเดียว เพราะเขารู้แล้วว่าเธอต้องการคนอื่น...ที่ไม่ใช่เขา
“นานาโฮะ!!!”
เสียงเรียกของใครบางคนทำให้คาซามะหันไปมอง ไซโต้ที่รีบถลาเข้ามาประคองนานาโฮะที่นั่งพิงกำแพงและร้องไห้อย่างหนักเริ่มลนลานทำอะไรไม่ถูกที่เธอร้องไห้แถมยังไม่พูดอะไรอีก
“เป็นอะไรรึเปล่า?”
เขาเอ่ยถามนานาโฮะอย่างเป็นห่วง ก่อนจะหันไปหาคาซามะด้วยความไม่พอใจเมื่อเธอไม่ตอบอะไร
“คาซามะ...เจ้า...ทำให้นางร้องไห้อย่างนั้นรึ?”
ไซโต้เอ่ยด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง คาซามะเลิกคิ้วก่อนจะพยักหน้าอย่างจำยอมและรีบยกมือห้ามไม่ให้เขาชักดาบออกมา
“เจ้าดูแลมินาโมโต้ไปเถอะ ข้าจะไปแล้วล่ะ แล้วก็ คาถาของข้าจะทำให้นางขยับกายไม่ได้ไปสักสองวัน ยังไงก็ดูแลนางหน่อยก็แล้วกัน...”
คาซามะเอ่ย ก่อนที่เขาจะเดินออกจากห้องไป และเมื่อไซโต้จะตามเพื่อถามเรื่องราว เขาก็ไม่อยู่เสียแล้ว
....................................................................................................................................................................
หลังจากนั้น ไซโต้ก็ดูแลนานาโฮะอย่างดี เธอไม่สามารถขยับร่างกายได้ตามใจนึกเหมือนที่คาซามะว่าไว้จริงๆ และตอนนี้เธอก็พยายามแทบตายที่จะไม่ร้องไห้
อุตส่าห์ตามหามาตั้งสามปี...มาถูกทำลายง่ายๆซะนี่...
ฮิจิคาตะคิดหลังจากเห็นสภาพของเธอที่ร้องไห้ไม่หยุดตอนที่อยู่ปราสาทเกียวโต
“นานาโฮะ...เป็นอย่างไรบ้าง?”
ไซโต้เอ่ยถามหลังจากที่เพิ่งตื่นขึ้นมาหลังจากนั้นสามวัน นานาโฮะสามารถขยับร่างกายได้ตามใจนึกแล้วก็จริง แต่ก็มีขัดๆบ้างนิดหน่อยทำให้ต้องถูกพยุงไว้ไม่ให้ล้ม
“ก็ดีขึ้นแล้ว...นิดหน่อย...ขอบคุณนะ ฮาจิเมะ”
นานาโฮะเอ่ยขณะที่ยิ้มให้ ถึงจะเป็นยิ้มฝืนๆก็เถอะ
“ไม่เป็นอะไรหรอก มันเป็นความสมัครใจของข้าอยู่แล้ว...”
ไซโต้เอ่ยขณะที่ยกยามาให้พร้อมกับอาหารเช้า
เมื่อสองวันก่อนเขาต้องคอยป้อนข้าวป้อนน้ำให้นาง แต่วันนี้นางสามารถทำอะไรเองได้แล้ว เพียงแต่ไม่คล่องแคล่วนัก
“เจ้ายังไม่เลิกร้องไห้อีกอย่างนั้นหรือ?”
ไซโต้เอ่ยถามหลังจากพบว่าดวงตาของนางยังบวมๆอยู่ นานาโฮะไม่ตอบอะไรก่อนจะหันหน้าไปมองท้องฟ้า
“อา...ข้าแค่รู้สึก...เสียใจ...ที่ความพยายามทั้งหมดของข้ามันสูญหายไป...”
นานาโฮะเอ่ยเรียบ ก่อนที่เธอจะหันมายิ้มให้ไซโต้
“แต่พอนึกถึงเจ้า ข้าก็ร้องไห้ไม่ออกเสียอย่างนั้น”
นานาโฮะเกาแก้มเบาๆและหัวเราะแห้งๆ ก่อนจะเงียบไปเมื่อไซโต้รั้งศีรษะของนางเข้ามาซบอกและกอดเธอไว้
“แค่เจ้าคิดถึงข้าแล้วทำให้เจ้าหยุดร้องไห้ แค่นั้นข้าก็ดีใจแล้วล่ะ...”
ไซโต้เอ่ยแล้วก้มลงสูดกลิ่นเรือนผมของเธอที่หอมกลิ่นแมกไม้เสียเต็มปอด นานาโฮะยิ้มจางๆก่อนจะกอดเขาตอบเช่นกัน
“อา...ข้าก็ไม่อยากขัดหรอกนะพี่สาว...แต่ว่าช่วยหันมาทางนี้หน่อยได้รึเปล่า?”
เสียงที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้นจากระเบียง นานาโฮะและไซโต้เด้งออกจากกันทันทีเมื่อรู้ตัวว่ามีคนมองอยู่ ซึ่งคนๆนั้นเป็นใครก็ไม่รู้ แต่ใบหน้าของเธอคล้ายคลึงกับนานาโฮะเป็นอย่างมาก และตอนนี้เธอกำลังยิ้มอย่างมีความสุข
“ไม่ต้องเขินขนาดนั้นก็ได้นี่...ข้าไม่ได้เป็นคนอื่นคนไกลเสียหน่อย”
ไม่ล่ะ ผิดหมด...
พวกเราไม่เคยพบหล่อนเลยนะ...
ทั้งสองคิดในใจเนื่องจากไม่เคยพบกับสาวน้อยคนนี้จริงๆ
“ไม่ต้องงงหรอก...ข้าเป็นน้องสาวของท่านน่ะ”
นางเอ่ยก่อนจะหัวเราะคิกคักกับท่าทีของพี่สาวและคนรัก
“ข้า...มีน้องสาวด้วยอย่างนั้นหรือ?”
นานาโฮะเอ่ยถามด้วยแววตาเจ็บปวด ขณะที่คิดถึงความทรงจำของเธอเองแต่ก็ใช่ว่าเธอจะซึมลงอย่างเดียว น้องสาวของเธอก็ซึมลงไปด้วย
“อา...นั่นสินะ...เหมือนที่คาซามะ จิคาเงะบอกมาเลย...”
นางเอ่ยพึมพำก่อนจะมองหน้านานาโฮะที่ฉายแววงุนงง ทำให้เธอกลับมายิ้มร่าเริงอีกครั้ง
“ท่านก็ต้องมีน้องสาวสิ ก็ข้านี่ไง แล้วท่านก็มีน้องชายด้วยนะ ไม่ได้มีข้าเพียงผู้เดียวหรอก...”
นางเอ่ยขำๆ ก่อนจะหัวเราะออกมาราวกับคนบ้า...
“เอ่อ...แล้วเจ้า...มีนามว่า?”
ไซโต้ที่เงียบไปนานเอ่ยขึ้น น้องสาวมินาโมโต้กระพริบตาริบๆก่อนจะยื่นหน้าไปใกล้ๆไซโต้ทำให้คนเป็นพี่สาวตกใจเล็กน้อย
“แหม พี่สาวของข้าเนี้ย ความรู้สึกเรื่องเลือกคู่ไม่ผิดจริงๆแฮะ ถึงจะเหมือนคนก่อนไปเสียหน่อย แต่คนนี้หล่อกว่าเยอะ...อ๊ะ ข้ามีนามว่ามินาโมโต้ นานาเสะ เป็นน้องสาวร่วมบิดามารดากับท่านพี่นานาโฮะจ๊ะ”
นางเอ่ยอย่างร่าเริงผิดจากนานาโฮะ ไซโต้กลับรู้สึกว่าเธอขี้เล่นเสียจริง เพราะปกติพี่น้องก็ต้องร่วมบิดามารดากันอยู่แล้วถึงจะทำให้ใบหน้าออกมาเหมือนกันราวกับแกะแบบนี้
“แล้วเจ้ามาทำไมกัน?”
นานาโฮะเอ่ยถามบ้าง นานาเสะยิ้มมุมปากเล็กน้อย
“ไปอยู่กับพวกเราไหม?”
นางเอียงคอถาม โดยไม่สนใจชายหนุ่มที่นั่งข้างๆแต่อย่างใด
“อยู่กับ...พวกเจ้า?”
นานาโฮะทวนคำ เพราะถ้าหากเธอตอบตกลงไปแบบไม่คิด...แล้วชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆนี่ล่ะ?
“ใช่ อยู่กับพวกข้า ท่านพี่ไม่จำเป็นต้องออกรบอีกต่อไป รวมทั้งไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องที่อยู่อีก แถมยังมียักษ์อีกหลายตนเป็นเพื่อนอีกนะ”
นานาเสะเอ่ยด้วยความร่าเริง ทว่านานาโฮะกลับขมวดคิ้วราวกับครุ่นคิดเรื่องหลายๆเรื่อง
ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน นางคงตอบตกลงไปโดยไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ...แต่ว่าคราวนี้...
“แล้ว...ฮาจิเมะล่ะ?”
นานาโฮะเอ่ยถาม ทำให้น้องสาวของตนเลิกคิ้ว ก่อนจะหันไปมองไซโต้ที่นั่งเงียบมาตั้งแต่เมื่อครู่
“ขอโทษนะพี่สาว เราคงพาเขาไปด้วยไม่ได้หรอก...”
สิ้นเสียง ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ ท่ามกลางการครุ่นคิดของนานาโฮะที่จะต้องเลือกเอาระหว่างความรักและครอบครัว
...........................................................................................................................................
ขอเตือนไว้ก่อนว่านี่ไม่ใช่โรมิโอแอนด์จูเลียตนะจ๊ะ
\:)
Shalunla
Thank for Theme
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

23 ความคิดเห็น
-
#10 PoupeE (จากตอนที่ 11)วันที่ 18 สิงหาคม 2555 / 01:40ตอนนี้....นางเอกช่างดราม่าเสียจริง#100