ตอนที่ 2 : S.Fic Kagerou Project [TsukihikoxAzami]
Fic Kagerou Project TsukihikoxAzami
ร่างเล็กของหญิงสาวแปลกประหลาดคนหนึ่งยืนอยู่หน้าสระน้ำ เรือนผมของเธอดำขลับและยาวจรดพื้นดิน แต่ที่น่าฉงนก็คือมันสามารถขยับได้เองโดยที่เธอยังไม่ได้แม้แต่จะขยับส่วนใดของร่างกาย
เธอก้มมองลงไปในสระน้ำ มองดูเงาของตนเองซึ่งกำลังสะท้อนอยู่บนกระจกธรรมชาติที่กระเพื่อมเพราะสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ภายในนั้น เธอเห็นดวงตาสีแดงสดของตนเอง...ดวงตาที่เธอคิดว่าเป็นจุดเด่นและทำให้เธอเหนือกว่ามนุษย์ธรรมดาๆ
เพราะมันสามารถทำให้มนุษย์บอบบางนั้นกลายเป็นหินเพียงชั่วพริบตาที่จ้องมอง
ใช่แล้ว...เธอคือ เมดูซ่า
สิ่งมีชีวิตในตำนานซึ่งมีผมเป็นงู และมีพลังในการทำให้ร่างกายของมนุษย์กลายเป็นหิน
เธอเป็นอมตะ...
เธอจึงไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับพวกมนุษย์เท่าใดนัก...
"เพราะมนุษย์นั้นอ่อนแอ" เธอเคยกล่าว
"ถ้าหากต้องอยู่คนเดียวไปจนหมดอายุขัย กับผูกพันกับใครแล้วเหลือรอยเอาไว้ ฉันเลือกข้อแรกดีกว่า..." และนี่คืออีกคำพูดของเธอ
นับวันเธอเริ่มพูดน้อยลง จนในวันหนึ่งเธอก็แทบจะจำเสียงของตัวเองไม่ได้เลย...
แต่ช่วงนี้...เธอคิดว่าเธอคงจะไม่สามารถเงียบได้อีกแล้ว
"อาซามิ~~~" เสียงสดใสร่าเริงของชายหนุ่มดังขึ้นจากด้านหลัง อาซามิสะดุ้งจนตัวโยนเมื่อจู่ๆก็ถูกกอดเข้าเต็มรัก ใบหน้าของเขาถูกับเรือนผมงูของเธอเอง งูบางตัวบนศีรษะของเธอขู่ฟ่อๆใส่เขาแต่ก็ไม่ทำอะไร และนั่นทำให้เธอชักเร่ิมขยะแขยงขึ้นมา
"หนอย...ออกไปนะสึกิฮิโกะ!!!" เธอใช้ผมของตนเองดันเขาไปไกลๆ แต่ชายหนุ่มผมขาวกลับยิ้มให้แล้วเริมดั้นด้นดาหน้าเข้ามากอดอีกครั้ง "บอกให้ปล่อยไงล่ะยะ!!"
"เอ๋~~? จะให้ผมปล่อยจริงๆอ่ะ? จริงๆหรอ??" เขาถามทีเล่นทีจริง อาซามิชะงักปากก่อนจะสะบัดหน้าหนี ชายหนุ่มยิ้มพอใจแล้วก้มลงมองสระน้ำตรงหน้าเช่นกัน "ว่าแต่อาซามิทำอะไรอยู่น่ะ? มองสระน้ำหรอ?"
"เห็นฉันเด็ดมะเขืออยู่รึไงเล่า..." สาวผมงูเอ่ยด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง ก่อนจะมองเงาที่สะท้อนในสระต่อ "ฉันมองเงาในสระน่ะ...เงาของฉัน..."
"เงาของอาซามิทำไมหรอ? หรือว่าหน้ามีอะไรติด? ให้ผมเอาออกให้มั้ย?"
ช่างเป็นชายหนุ่มที่ร่าเริงจนรู้สึกอึดอัดเสียจริง...อาซามิคิด
"ไม่มีอะไรหรอก...ฉันก็แค่มองเงาของตัวเอง...เงาของปีศาจน่ะ..."
"อย่าพูดอย่างนั้นสิ...อาซามิไม่ใช่ปีศาจสักหน่อย"
หญิงสาวตัวเล็กหันไปมองคนตัวสูง เขาส่งยิ้มให้ ก่อนจะเอื้อมมือปิดตาหญิงสาวแผ่วเบา ทัศนีย์ภาพเบื้องหน้าที่ควรจะเป็นถูกบดบังเอาไว้กลายเป็นสีดำ
"อาซามิเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดสำหรับผมเสมอ...เธอมีผมงูที่ขยับได้ แต่ละตัวก็ต่างนิสัย อย่างเช่นอลิซาเบธก็มักจะผงกหัวให้ผมทุกครั้งที่เจอกัน อย่างทอเรชก็มักจะขู่ฟ่อๆไม่ให้ผมเข้าหาคุณ" อาซามิเผลอทำหน้าเหวอ นี่เธอถูกชายหนุ่มคนนี้ตั้งชื่องูแต่ละตัวบนผมเธอโดยไม่รู้ตัวงั้นหรอ? "เธอมีดวงตาที่ผมไม่สามารถมองตรงๆได้แต่มันกลับสวยจนผมต้องแอบมองหลายๆครั้ง เธอมีใบหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ เธอมีความคิดที่ชัดเจน และที่สำคัญที่สุด..." เขายิ้ม เปิดสิ่งที่ปิดกั้นดวงตาของเธอออก
"เธอเป็นผู้หญิงที่ผมรัก..."
แก้มทั้งสองข้างของเธอขึ้นริ้วสีแดง ดวงตาคู่สวยสั่นระริก ก่อนที่เธอจะหลบตาเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเกรงจะทำให้เขาแย่
"แล้วไงเล่า..." เธอเอ่ยเสียงแผ่วเบา ถึงสึกิฮิโกะจะไม่เห็นแต่เดาได้แน่ๆว่าหน้าของเธอต้องแดงเหมือนทาสีอยู่แน่ๆ "ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่คิดจะมีความรัก...แค่การมาผูกพันกับนายมันก็ทำให้ช่วงเวลาพันกว่าปีของฉันที่อุตส่าห์สร้างมาเสียเปล่าแล้ว"
"แรงจนผมเจ็บเลยนะเนี้ย..." สึกิฮิโกะเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มๆ เขากระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น "ผมเองก็เหมือนอาซามินั่นแหละ...ถึงจะไม่เป็นอมตะหรือมีพลังวิเศษใดๆ...แต่ผมก็มีแค่อาซามิคนเดียว..."
ช่วงครึ่งปีก่อน...เป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง...
อาซามิยังคงอยู่คนเดียวในบ้านชายป่าของเธอ ช่วงนั้นใบไม้จากต้นไม้เร่ิมร่วงลงมา เธอเองไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ แต่พอรู้ตัวอีกที ใบไม้สดปนแห้งพวกนั้นก็เกลื่อนรอบบ้านจนแทบจะไม่เหลือที่ยืน
เธอจึงหยิบไม้กวาดมากวาดใบไม้ไปกองๆเอาไว้ข้างๆบ้าน คิดว่าหากเข้าฤดูหนาวคงจะใช้เป็นเชื้อเพลิงในการจุดไฟ ไม่ก็เอาไปเป็นปุ๋ยให้แปลงที่กำลังคิดจะปลูกในเร็วๆนั้น
แซ่ก...
เสียงแปลกๆดังขึ้นจากอีกฟาก หญิงสาวรีบเงยหน้าขึ้นพร้อมกับงูตัวหนึ่งบนศีรษะของเธอ มันอ้าปากราวกับจะพูดอะไรสักอย่าง เธอจึงลูบมันเบาๆแล้วกวาดใบไม้ต่อ
ถ้าหากเธอไม่สนใจ...พวกนั้นก็ไม่สนใจเช่นกัน...
แซ่ก...
เธอเพิ่งรู้ว่าเสียงนั่นมาจากพุ่มไม้ที่กั้นระหว่างเธอกับหมู่บ้านของชาวบ้าน ดวงตาสีแดงสดจ้องมองไปที่พุ่มไม้ใหญ่ที่สั่นไหวก่อนจะลงมือกวาดใบไม้ต่อ
อย่างไรซะ...ถ้าหากคนๆนั้นไม่มีเจตนาไม่ดีก็คงไม่เป็นอะไร...
"เฮ้...มีใครอยู่ตรงนั้นรึเปล่าน่ะ?" เสียงทุ้มดังออกมาจากหลังพุ่มไม้นั่น เธอไม่ได้สนใจอีกครั้งและกวาดใบไม้ต่อ "นี่! ถ้ามีช่วยบอกหน่อย! แบบว่าตอนนี้ผมกำลังแย่สุดๆเลยอ่ะนะ..."
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสนใจ พุ่มไม้นั่นสั่นไหวไปมาราวกับจะขุดตัวเองออกจากดิน หญิงสาวพ่นลมหายใจออกแล้วเดินเข้าไปใกล้ๆ
"มีอะไรไม่ทราบ?" เธอเอ่ยถามออกไป
"เอ๋? มีคนจริงดิ? เอ้ย ไม่ใช่...แบบว่าตอนนี้ผมกำลังติดกิ่งไม้อยู่...ออกไปไม่ได้...ถ้ายังไงก็ช่วย..."
"ได้สิ..." หญิงสาวเอ่ยพร้อมกับหยิบมีดแถวๆนั้นขึ้นมา "ถ้านายหลบได้น่ะนะ..."
ฉัวะ!!
คมมีดถูกฟันออกไปอย่างไม่ลังเล จากครั้งแรกก็ตามด้วยครั้งที่สอง และครั้งที่สาม ไม่ทันไรนักร่างของชายหนุ่มร่างสูงที่กำลังหน้าซีดอยู่ก็ปรากฏให้เห็น ดูเหมือนว่าเขาจะถูกกิ่งไม้เกี่ยวเอาไว้จนไม่สามารถจะขยับได้จริงๆ
"คือจะดีใจมากเลย...ถ้าคุณช่วยเล็งให้มันดีๆไม่หวิดขาหรืออวัยวะบนตัวผมน่ะนะ..."
"ตอนนี้นายอยากหัวกุดสินะ?"
"อึ๋ยยย!!? ขอโทษครับบบบบ!!!!!!"
หลังจากที่หลุดออกมาได้แล้ว ชายหนุ่มในสภาพที่มีกิ่งไม้และใบไม้ติดเต็มหัวเหมือนรังนกก็มานั่งแหมะกับพื้น เขาหอบนิดหน่อยพอเป็นพิธีแล้วมองหญิงสาวที่เดินเอามีดไปเก็บ
"ไม่นึกเลยว่าจะมีคนอยู่ที่นี่จริงๆ..." เขาเอ่ยพร้อมทั้งมองไปรอบๆ ดูเหมือนว่าจะเป็นที่สงบสุขที่หนึ่งเลยทีเดียว "ยังไงซะผมต้องขอบคุณมากเลยนะครับ..."
"กองไว้ตรงนั้นแหละ...แล้วก็ไสหัวกลับไปได้แล้ว..." อาซามิเอ่ยเสียงเรียบขณะที่กำลังเขี่ยใบไม้ให้ไปกองรวมกัน
ชายหนุ่มชะงักไปนิดหน่อยที่เจอวาจาไร้สุภาษิตของเธอเข้าไปเต็มๆ แต่แทนที่เขาจะโกรธ
เขากลับยิ้มออกมาแทน
"เอ่อ...ผมเองก็อยากไปตามที่สั่งน่ะนะครับ..." เขาเอ่ยพร้อมทั้งชี้ไปที่ที่เขาเพิ่งเข้ามา "แต่เมื่อกี้ผมถูกไล่แกล้ง...ถ้ากลับไปตอนนี้ผมคงแย่แหงๆ ขออยู่สักพักแล้วจะกลับไปแน่ๆครับ..."
อาซามิไม่ตอบอะไร เธอยังคงกวาดใบไม้อยู่
"แต่ถ้าคุณอยากให้ผมกลับ..."
"อยู่นี่แหละ..." หญิงสาวเอ่ยขัด หยุดการขยับมือของเธอในการกวาดใบไม้บนพื้น "แต่ถ้าอยู่จนพอใจแล้วฉันจะเชิญนายออกจากบ้านฉันทันที"
"ขอบคุณครับ~" เขาเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
แล้วทั้งคู่ก็ไม่มีผู้ใดเริ่มต้นบทสนทนาบทใหม่เสียที
อาซามิยังคงกวาดใบไม้อย่างขยันขันแข็ง ขณะที่สึกิฮิโกะนั่งนิ่งๆราวกับรูปปั้นมาได้เกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว
"ให้ผมช่วยมั้ย?" เขาเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าใบไม้กองโตนั้นคงเกินกำลังของเธอแน่ หญิงสาวหันมามองเขาก่อนจะกลับไปสนใจใบไม้ที่อยู่ตรงหน้าต่อ "ถ้าคุณไม่พูดผมจะคิดว่าตกลงนะ..."
"จะทำอะไรก็ทำ" เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก...แต่กระนั้นสึกิฮิโกะก็ยังเข้ามาใกล้ๆแล้วช่วยยกกองใบไม้ไปหลังบ้าน
"จริงสิ...ผมชื่อสึกิฮิโกะ...แล้วคุณล่ะ?" ชายหนุ่มหันมาถาม เขาเห็นว่าริมฝีปากของเธอบ่นงึมงำอะไรบางอย่างมาสักพัก
"อาซามิ..."
"อาซามิจัง?"
"ขืนเรียกแบบนั้นอีกแม่เอาตายแน่"
"ผมคงกลัวมีดไปอีกนานเลยล่ะครับ..."
หญิงสาวพ่นลมหายใจออกเบาๆ คิดว่าจะไล่ไอ้ตัวน่ารำคาญนี่ไปเสียที
"นายน่ะ...กลับไปได้แล้วไป..." เธอเริ่มไล่ แต่เขายังคงนั่งอยู่บนพื้นหญ้าอยู่ "อยู่ที่นี่ไปรังแต่จะรบกวนกันเปล่าๆ รีบๆกลับไปได้แล้ว"
"แหม...พูดไม่มีเกรงใจกันเลยนะครับ..."
"ฉันสิควรได้รับความเกรงใจจากนาย..."
แล้วระหว่างทั้งคู่ก็เงียบไป
"ว่าแต่อาซามิอยู่ที่นี่คนเดียวหรอ?"
"ก็คนเดียวไง"
"เป็นผู้หญิงเนี้ยนะ?"
"ก็แหงล่ะ"
"แถมยังเป็นเด็กด้วย..."
เหมือนได้ยินเสียงอะไรขาด อาซามิหันควับมามองชายหนุ่มก่อนจะกระชากคอเสื้อของเขาขึ้นโดยที่พยายามเลี่ยงจะไม่สบตากับเขา
"เด็กบ้านนายสิ ถึงจะสูงแค่นี้แต่ฉันอายุมากกว่านายหลายเท่านะยะ!"
"งั้นก็คุณย่า..."
"อยากโดนใบไม้ยัดปากมากสินะ?"
"ว่าแต่งูบนผมคุณขยับแล้วนะ..."
อาซามิชะงักกึกเมื่อได้ยินคำพูดของเขา หญิงสาวรีบปล่อยมือจากคอเสื้อของเขาทันที
"อะไรนะ!?" เธอพึมพำ "บ้ารึไง"
"บ้า..? อะไรบ้าหรอ?"
อาซามิจับเรือนผมของตนที่เป็นงูเบาๆ
"ก็นายนั่นแหละ...บ้ารึเปล่า!?" เธอเอ่ยขณะก้าวหนี "เห็นฉันเป็นแบบนี้แล้วยังจะอยู่ด้วยอีกรึไง!?"
"เอ๋...? ทำไมล่ะ?" แต่ดูเหมือนชายหนุ่มจะยังไม่เข้าใจ
"ฉันเป็นเมดูซ่านะเจ้าโง่!!! แค่สบตาก็กลายเป็นหินแล้วไม่รู้รึไง!?"
"เรื่องนั้นรู้อยู่แล้วล่ะ..."
ชายหนุ่มเอ่ยแล้วลุกยืน
"ทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว...แล้วทำไม..."
"เพราะผมเองก็เป็นปีศาจเหมือนกัน..."
อาซามิชะงัก เธอมองไปที่เขา เรือนผมสีขาวสะอาดนั่น...
"ถึงจะไม่ใช่ที่ความสามารถ...แต่ลักษณะภายนอกของผมคือปีศาจ...ทุกๆคนเขาว่ากันแบบนั้น..." สึกิฮิโกะอธิบาย "โดยเฉพาะผมสีขาวของผมนี่แหละ คนอื่นเลยพากันรังเกียจผมกันไปหมด..."
"แต่ยังไงนายก็ไม่ใช่ปีศาจ!" เธอเอ่ย "ปีศาจที่แท้จริงน่ะมันยืนอยู่ตรงนี้!!"
เขาเงียบไป ดูเหมือนจะไร้ข้อโต้แย้งใดๆทั้งสิ้น
"ผมไม่มีใคร..." เขาเอ่ย "ผมไม่มีใครจริงๆ..."
"แต่ผมปราถนาจะมีใครสักคนเคียงข้าง..."
"ทั้งๆที่มันเป็นไปไม่ได้..."
"ผมเกลียดตัวเอง...เกลียดรูปลักษณ์บ้าๆนี่..."
"แต่ผมต้องอยู่กับมัน..."
สิ้นคำพูด เขาก็ไม่พูดอะไรอีก หญิงสาวไม่ว่าอะไร เธอเพียงแค่ฟังนิ่งๆ
"ฉันอายุปาเข้าไปพันกว่าปี..." เธอเอ่ย "ถ้าจะมีเพื่อนสักคน...คนๆนั้นก็ไม่ขอเป็นคนแบบนายดีกว่า..."
เธอเดินเข้าบ้านไป แต่แทนที่จะทิ้งไว้เพียงความสิ้นหวัง เธอกลับเหลียวกลับมาอีกครั้ง
"แต่ถ้านายต้องการ...จะมาที่นี่อีกสักกี่ครั้งก็ได้..."
เธอไม่มีทางรู้เลยว่าเขาจะทำหน้าดีใจขนาดไหน...เธอได้ยินเพียงเสียงเอ่ยถามจากด้านนอกประตูก็เท่านั้น
"อย่ามาทำท่ารำลึกความหลังเอาเดี๋ยวนี้นะยะ..." อาซามิเอ่ยพร้อมทั้งใช้งูตัวหนึ่งตบศีรษะของชายหนุ่มเบาๆ เขาหัวเราะนิดๆแล้วสวมกอดเธอแน่นขึ้น ฝังใบหน้าคมลงบนไหล่เล็กๆ
"ก็อาซามิไม่ยอมรับรักสักทีนี่นา..." เขาเอ่ยเสียงอู้อี้ "รอจนหงอกจะขึ้นแล้วเนี้ย"
"เผื่อนายจะลืม ผมนายมันหงอกมาตั้งแต่เกิด..."
"รู้ได้ไงเนี้ย? อยู่ตอนที่ผมเกิดหรอครับคุณย่า?"
"นายอยากโดนรองเท้ายัดปากจริงๆสินะ?"
"ถ้าเป็นรองเท้าของอาซามิล่ะก็นะ..."
"งั้นก่อนหน้านั้นฉันจะเอาไปชุบโคลนก่อนก็แล้วกัน"
"อึ๋ย...ใจร้าย..."
"มันเป็นลักษณะต้นๆของปีศาจ..." เธอเอ่ยแล้วยักไหล่ สึกิฮิโกะหัวเราะเบาๆ
"แต่คุณอ่อนโยนออก..."
"จะเอาไงกันแน่?"
"มาดูกันไหมครับว่าอ่อนโยนจริงมั้ย?"
สึกิฮิโกะเอ่ยพร้อมทั้งพลิกตัวอาซามิให้หันมาประจันหน้ากับตนเอง หญิงสาวผงะไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นว่าใบหน้าของชายหนุ่มตรงหน้าอยู่ห่างจากเธอไม่เท่าไหร่นัก
"เ...เดี๋ยวสิ..." เธอเอ่ยตะกุกตะกักเมื่อใบหน้าคมเริ่มค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้ ไม่รู้ว่ามีแรงดึงดูดหรืออะไร แต่ตอนนี้เธอเองก็เริ่มจะคล้อยตามเสียแล้ว
"ไม่รอแล้วครับ..." เขาเอ่ย "ผมรออาซามิมาเกือบปีแล้วนะ..."
"ก็รออีกนิดหนึ่งสิ..." เธอเริ่มถ่วงเวลา "อย่างเช่นรอให้ครบปี..."
"ถ่วงเวลาผมไม่สำเร็จหรอกครับ..." ชายหนุ่มเอ่ยทั้งรอยยิ้ม ก่อนจะบรรจงประทับริมฝีปากลงบนกลีบปากบางที่เย็นเฉียบ
ดวงตาของเขาหลับพริ้มเพื่อจะได้ไม่สบตาเธอตรงๆ ก่อนจะกดริมฝีปากให้แน่นขึ้น ประคองใบหน้าซึ่งประดับด้วยเกล็ดงูของเธอด้วยมือข้างหนึ่ง ขณะที่อีกข้างก็โอบเอวของเธอเอาไว้ อาซามิหลับตาปี๋และเม้มปากแน่นเมื่อรู้สึกอุ่นๆที่ริมฝีปาก มันขยับไปมาอย่างน่าขยะแขยง
"อย่าเกร็งสิ..." เขากระซิบ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรมันถึงทำให้เธอทำตาม
ลิ้นอุ่นแทรกเข้ามาในโพรงปากอย่างรวดเร็วและไม่ทันตั้งตัว อาซามิสะดุ้งพร้อมทั้งพยายามจะผลักเขาออกแต่ไม่เป็นผล จนในที่สุดเธอก็กลับกลายมาอยู่ในการคอนโทรลของเขาอีกครั้ง
"ฮ้า!!" หญิงสาวโกยอากาศเข้าปอดทันทีเมื่อหลุดจากการครอบครอง ร่างเล็กทรุดฮวบซบอกของชายหนุ่ม เขาลูบเรือนผมของเธอก่อนจะประทับริมฝีปากเบาๆ
"ผมรักอาซามิ..." เขากล่าวเบาๆทว่ากลับได้ยินชัดเจน "อยู่กับผมนะ..."
ช่วงเวลาที่อ้างว้างโดดเดี่ยวมาตลอดพันปี...
ถูกเติมเต็มได้เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ...
เพียงแค่มีเขาอยู่ด้วยเท่านั้น...
"อื้อ!!"
……………………………………………….…
ฮึ้ชชชชชช
คู่ตายายทวดค่ะ ฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

12 ความคิดเห็น
-
#2 Meo-Meow (จากตอนที่ 2)วันที่ 19 เมษายน 2557 / 20:46คู่ทวดแหละ~~~ แต่น่ารักมากเลยนะคะ หรือเป็นเพราะสกิลของเจ๊แมว!?#20