ตอนที่ 10 : SF Honkai Impact 3rd [Fu Hua x Kiana] Jingwei’s sorrow
Fic honkai impact 3rd (Fu Hua x Kiana)
*ดราม่า
*ในเรื่องนี้ฟูกะและเคียน่าเป็นคนรักกัน
*spoil alert
—ความในใจของจิงเว่ย แด่เธอผู้เป็นที่รัก—
—————————
เคียน่า คาสลาน่า มนุษย์ที่มีอัญมณีแกนกลางของผู้คุมกฎลำดับที่2อยู่ในร่างกาย
ทั้งๆที่รู้เรื่องนั้นอยู่แล้ว พอเด็กสาวคนนั้นทำท่าเหนียมอายตอนที่บังเอิญไปเดตด้วยกันที่ริมน้ำ ปากกลับตรงกับใจขึ้นมาและขอเธอคนนั้นคบหาดูใจกันเสียนี่
ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าระยะเวลาของความสุขมันไม่จีรัง
แต่กระนั้น 50,000 ปีที่ผ่านมา กลับไม่เคยพบกับใครคนไหนที่เหมือนกับเธอมาก่อน
ไม่สิ อาจจะเคยพบก็ได้ ความทรงจำที่หายไปมันบอกเช่นนั้น
50,000 ปีที่โดดเดี่ยว เพื่อนๆล้มหายตายจาก เธอปกป้องแผ่นดินจีนจากเหล่าฮงไก ต่อสู้ในสงครามศักดิ์สิทธิ์ และได้พบกับมนุษย์จอมดื้อด้าน ออตโต อะโพคาลิปส์ และ คาเลน คาสลานา
ให้ตายเถอะ ชีวิตของเธอจะวนเวียนอยู่แต่กับคนพวกนี้น่ะหรอ
แต่ถึงอย่างนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าช่วงหลังนี่เธอจะต้องพึ่งพาเขามากจนน่าหงุดหงิดเหมือนกัน
เป็นการพึ่งพาปีศาจที่ทำให้เธอพบเจอช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิต
ครั้งแรกที่เธอได้พบกับเคียน่า ก็เป็นตอนที่เด็กคนนั้นย้ายเข้ามาในห้องเรียนกลางเทอมหลังจากการเกิดเหตุการณ์ผู้คุมกฎปรากฏตัว เธอเป็นหนึ่งในคนที่หยุดการระเบิดนั้นและสุดท้ายก็ได้เข้ามาเรียนที่เซนท์เฟรย่า ห้องเดียวกัน
แน่นอนว่าฟูกะที่เป็นหัวหน้าห้องจะต้องคอยแนะนำเธอและเมย์กับโบรเนียในเรื่องต่างๆ เมย์กับโบรเนียน่ะไม่เท่าไหร่ แต่เคียน่าน่ะสิ เด็กแสบประจำห้องเลยล่ะ
เธอเป็นผู้ฝึกสอนศิลปะการป้องกันตัวให้เคียน่า เป็นเพื่อนที่ดี และเป็นคนรักที่มีความสุข
—————————
เมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต ขอบตาก็ร้อนผ่าวขึ้นมา ร่างกายในชุดเกราะยังคงขยับได้ เธอก้าวเท้าต่อไป ดูรันดาลเปิดทางให้เธอแล้ว ไม่มีริต้าคอยขัดขวางแล้ว ประสบการณ์กว่าห้าหมื่นปีสั่งให้เธอกล้ำกลืนน้ำตาร้อนๆที่กำลังเอ่อล้นจากขอบตา
—————————
วันนั้นเป็นวันฟ้าโปร่ง เคียน่าที่ออกมาเดินเที่ยวบังเอิญได้เจอกับฟูกะที่ออกมาซื้อของแต่เหมือนว่าร้านค้าจะปิด พวกเธอเลยตัดสินใจไปเที่ยวต่อด้วยกัน มันไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ในเมื่อพวกเธอก็สนิทสนมกันระดับหนึ่ง
พวกเธอเดินเที่ยวด้วยกันจนเหนื่อย ฟูกะไม่เคยมาสำรวจละแวกอื่นนอกจากรอบตัวโรงเรียน เคียน่าที่พาเธอเที่ยวนั้นรู้แทบทุกซอกทุกมุม และแนะนำเธอได้อย่างดี
พวกเธอนั่งพักกันที่ริมแม่น้ำ อากาศกำลังดีทำให้ฟูกะหันเหความสนใจไปที่ธรรมชาติรอบตัว กระทั่งเคียน่ายกแขนขึ้นมาเกาหัวตัวเองแกรกๆพลางส่งเสียง “เอ่อ...”
“มีอะไร? คาสลาน่า?” ฟูกะเอ่ยถาม เว้นระยะห่างระหว่างความสัมพันธ์ที่เรียกว่าเพื่อนร่วมห้องของพวกเขาอย่างสมบูรณ์แบบพลางหันไปมอง เจ้าของเรือนผมสีขาวเม้มปากเล็กน้อย
“วันนี้ หัวหน้าห้องดูแปลกไปนะ...?”
ฟูกะเลิกคิ้ว แปลก? อะไรคือแปลก เธอก็หน้าตาเหมือนเดิมไม่ใช่หรือไง?
“ก็...วันนี้หัวหน้าห้องแต่งตัวแบบ...สุดยอดเลย”
คิ้วที่ขมวดคลายลง ถึงเคียน่าจะพูดอย่างนั้น ฟูกะก็แค่สวมเสื้อยืดกางเกงยีนส์กับแจ็คเกตสีดำเท่านั้นเอง
“สุดยอดแบบไหนล่ะ?” ฟูกะถามต่อ แวบหนึ่งเธอเห็นริ้วสีแดงจางๆบนแก้มของเคียน่า
“ก็...เท่ดีล่ะมั้ง?”
ขอบคุณความพูดตรงๆของเด็กคนนี้จริงๆ ตอนนี้ฟูกะก็ชักเขินขึ้นมาบ้างแล้ว
“อา ขอบใจนะ” ฟูกะกล่าวก่อนจะส่งยิ้มที่มุมปากให้ เคียน่าดูเลิ่กลั่กขึ้นมาจนสังเกตได้
ฟูกะไม่ใช่คนโง่ เธอใช้ชีวิตมาห้าหมื่นปี ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเด็กคนนี้รู้สึกอย่างไรกับเธอ ห้าหมื่นปีระหว่างที่แฝงตัวอยู่กับมนุษย์เธอก็ผ่านสถานการณ์แบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
“อืม...เดี๋ยวฉันมา” ฟูกะหยัดกายขึ้น เคียน่าเริ่มล่กอีกครั้ง
“จะไปไหนน่ะ?”
“กาแฟ” ฟูกะสอดมือลงในกระเป๋าเสื้อแล้วเดินตรงไปยังคาเฟ่ที่อยู่ใกล้ๆ เธอผลักประตูเข้าไปแล้วสั่งกาแฟกับพนักงานก่อนจะมองผ่านกระจกร้าน ซึ่งเธอเห็นเจ้าเด็กน้อยเคียน่าที่นั่งรอและกำลังแกว่งขาไปมา
เธอรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป มันจะไม่จบอย่างมีความสุขเป็นแน่หากเธอยังยอมให้เคียน่าเข้ามามีบทบาทในชีวิตแบบนี้ ก่อนหน้าที่จะมีปัญหา เมื่อเด็กคนนั้นเข้ามาเรียน เธอยังตามติดไรเด็น เมย์ จนน่าปวดหัว พูดซ้ำๆว่าจะแต่งงานกัน แต่สักพักมันก็เริ่มเงียบไป และกลายเป็นว่าฟูกะเริ่มได้รับการปฏิบัติตัวที่แปลกไปจากเคียน่าแทน
ทั้งสายตา ทั้งคำพูด และยังสีหน้าตรงไปตรงมาพวกนั้นอีก หากไม่รู้ตัวก็คงจะซื่อบื้อเกินไปแล้ว
เธอควรส่งข้อความบอกเคียน่าว่าถูกเรียกตัว แล้วก็กลับหอก่อนที่มีโอกาสอะไรๆมันจะมากไปกว่านี้
พนักงานยกแก้วกาแฟวางบนเคาท์เตอร์ เธอหยิบขึ้นมาและยกแก้วกาแฟร้อนแตะริมฝีปาก จ้องมองไปที่เคียน่าซึ่งกำลังแกว่งขาและมองออกไปที่แม่น้ำ
เธอควรที่จะทำแบบนั้น...
“หัวหน้าห้องมาช้าจัง” เด็กสาวเรือนผมสีขาวพึมพำขึ้นหลังจากที่รอเด็กสาวอีกคนมาเป็นเวลาค่อนข้างนานแล้ว
“โดนทิ้งแล้วรึยังนะ” เคียน่าพึมพำแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนดู นอกจากข้อความโวยวายของเมย์กับโบรเนียที่ตามหาตัวเธอก็ไม่มีอะไรอีกจนต้องถอนหายใจ
ทันใดนั้นสัมผัสเย็นๆก็ถูกแตะข้างแก้มเนียน เคียน่าสะดุ้งโหยงพร้อมกับหวีดร้องเสียงหลงและถอยกรูดเพื่อมองว่าอะไรที่มาแตะแก้ม
“ตกใจเกินไปรึเปล่า?” ฟูกะอมยิ้ม ในมือถือแก้วช็อกโกแลตเย็นและยื่นมาข้างหน้า “ถอนหายใจอะไรน่ะ?”
“นึกว่าหัวหน้าห้องจะทิ้งฉันไว้ซะแล้วน่ะสิ” เคียน่างอแงก่อนที่เธอจะสังเกตว่าฟูกะถือแก้วเครื่องดื่มทั้งสองมือ “นั่นซื้อให้ใครหรอ?”
“อ้อ นี่หรอ?” ฟูกะยื่นแก้วช็อกโกแลตมาตรงหน้าเด็กสาวพร้อมแกว่งแก้วเบาๆทำให้น้ำแข็งในแก้วชนกันไปมาเสียงดังกร๊อกแกร๊ก “ซื้อให้เธอนั่นแหละ”
“เอ๊ะ? ให้ฉัน?” เคียน่าดูเอ๋อในน้ำเสียงและสีหน้าแบบนี้ชะมัด
“มีคนอื่นแถวนี้รึไงล่ะ?” ฟูกะแกว่งแก้วเร่งอีกครั้ง “เอาสิ”
“ขอบคุณ...” เคียน่าจับแก้วในมือของฟูกะ เมื่อเธอประคองมันได้ฟูกะก็ปล่อยมือและทิ้งตัวลงนั่งข้างๆเด็กสาวและดื่มกาแฟอึกหนึ่ง
“ในร้านคนเยอะน่ะ กว่าจะได้กาแฟก็นานมาก โทษทีนะ” เธอกล่าว รสขมของกาแฟเข้ากันได้ดีกับนมช่วยทำให้เธอรู้สึกใจเย็นลง
อย่างน้อยเคียน่าก็เป็นเพื่อนร่วมงานของเธอ ถ้าแตกหักกันไปตอนนี้ล่ะก็ลำบากแน่ๆ
“ไม่เป็นไร อร่อยมากเลยล่ะ” เคียน่ากล่าวพร้อมกับยิ้มแฉ่งอย่างออกนอกหน้า แค่ดูก็รู้ว่าดีใจขนาดไหน “ขอบคุณนะหัวหน้าห้อง”
ฟูกะยักไหล่ ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเมื่อรู้สึกถึงแรงสั่น
ตัวอักษรแจ้งเตือนบนหน้าจอดูโหวกเหวกโวยวายไปหน่อย เมย์กับโบรเนียบอกว่าออกไปเที่ยวกับเคียน่า แต่ระหว่างนั้นเคียน่ากลับหายไปและติดต่อไม่ได้
เหมือนจะเข้าใจอะไรขึ้นมานิดๆ...ฟูกะยิ้มแห้งๆก่อนจะตอบข้อความของสองคนนั้น
「เธออยู่กับฉัน ไม่ต้องห่วง」
น่าแปลกที่ห้องแชทกลับเงียบไปแทบจะทันทีที่เธอตอบไป ถึงแม้จะมีว่าขึ้นอ่านแล้วก็ตาม
แค่นี้ก็หายห่วง ฟูกะกดล็อคหน้าจอสมาร์ทโฟนแล้วเก็บมันลงไปในกระเป๋าเสื้อ เมื่อลองมองไปที่เคียน่าก็เห็นว่าเธอกำลังดื่มช็อคโกแลตจนพร่องไปครึ่งแก้ว
“เพื่อนๆตามหาอยู่นะ” ฟูกะเตือนเด็กสาว เธอสะดุ้งเฮือกทันทีที่ทัก
“พวกนั้นฟ้องหัวหน้าห้องหรอ!?”
“ก็ใช่ เขาเป็นห่วงเธอกันทั้งนั้นแหละน่า” ฟูกะตอบสบายๆแล้วยกแก้วกาแฟจรดริมฝีปาก “แล้วทำไมถึงหนีมาล่ะ?”
ฟูกะเลิกคิ้ว เด็กสาวตรงหน้าจากที่จะทำท่าโวยวายกลับหุบปากฉับ ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อแต้มลิปกลอสจางๆเม้มเข้าหากันก่อนจะคาบหลอดต่อ
“ไม่เกี่ยวกับหัวหน้าห้องนี่นา”
คนที่อายุจริงมากกว่าหัวเราะแผ่วเบาในลำคอก่อนจะพูดสิ่งที่เธอไม่คิดจะพูดออกมา
“เธอนี่นะ ทั้งๆที่เมื่อก่อนก็ตามติดไรเด็นแจขนาดนั้นแท้ๆ ทำไมตอนนี้ไม่รีบวิ่งตามหาอีกล่ะหืม?”
เคียน่าชะงัก พวงแก้มขึ้นสีแดงเรื่อ
และฟูกะก็รู้ตัวว่าตนพลั้งปากพูดในสิ่งที่คิดไปเสียแล้ว
“ก็...ไม่ได้ชอบแล้ว แต่ไม่ได้เกลียดนะ! ก็ชอบนั่นแหละ! แต่ไม่ใช่ชอบแบบนั้นแล้วนี่นา!” เธอม้วนปอยผมสีขาวที่ถักเปียลวกๆไปมา ฟูกะมองเธอไม่วางตา ท่าทางที่ดูเขินอายทำให้สายตาของฟูกะเผลอมองไปที่สาวน้อยอย่างดึงดูด
ปฏิเสธไม่ได้เลย ว่าใจของเธอก็ตรงกับเด็กคนนี้จริงๆนั่นแหละ
เคียน่าเป็นเด็กผู้หญิงที่ดึงดูดผู้คนรอบๆให้เข้ากันได้ เธอเป็นจุดร่วมสำหรับทุกคน เป็นเด็กที่มุ่งมั่นและไม่มีหน้าหรือหลัง สามารถเชื่อใจได้
ฟูกะชอบที่เธอเป็นแบบนั้น
กระนั้นเมื่อนึกถึงสิ่งที่บิชอปจะทำกับเธอ บางอย่างก็เหมือนจะปะทุขึ้นมา
“งั้นหรอ” ฟูกะรับคำ เธอลุกขึ้นแล้วโยนแก้วกระดาษที่ว่างเปล่าลงไปในถังขยะใกล้ๆมือก่อนจะหยัดกายลุกขึ้น
“เคียน่า คาสลาน่า”
เธอกล่าวออกมาขณะที่หยุดยืนตรงหน้าเด็กสาวผมสีขาวก่อนจะย่อตัวลงคุกเข่าพร้อมผสานสายตากับเด็กสาว
เธออยากทำให้เคียน่ามีความสุข
‘ห้ามรู้สึกอะไรกับตัวทดลอง’
ถึงแม้ว่าจะทำให้ทุกอย่างมันพังเละเทะก็ตาม
“คบกับฉันได้ไหม”
แต่กระนั้นเธอก็อยากให้เคียน่ามีความสุขที่สุด
และเธอก็ทำได้ดีเสียด้วย
————————————
แต่ละหมัดที่กำและปล่อยออกไปถูกตอบแทนด้วยน้ำตา
เธอกำลังทำร้ายเคียน่า เธอกำลังทรมานตัวเอง แต่กระนั้นสิ่งที่เธอทำอยู่ก็เพื่อหยุดสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นต่อจากนี้
ออกไปจากเคียน่า ออกไปจากร่างกายแสนบริสุทธิ์นี่ซะ
เคียน่าไม่ควรได้รับสิ่งนี้
เธอไม่ควรจะถูกกลืนกิน
เธอควรที่จะได้รับความสุข
ไม่ใช่แบบนี้!
“เอาคืนมา!” ฟูกะคำราม ปล่อยหมัดออกไปราวกับคนเสียสติ
“คืนเคียน่ามา!!”
แต่เธอในตอนนี้ยังแข็งแกร่งไม่พอ
ร่างในชุดเกราะสีส้มทรุดลงไปกับพื้น ปีศาจที่สิงในร่างของเคียน่าหัวเราะเสียงแหลมสูงด้วยความสะใจและกลอกดวงตามองมาที่เธออย่างเหยียดหยาม
หยุดนะ
ห้ามใช้เสียงของเธอหัวเราะอย่างน่ารังเกียจแบบนั้น
หยุดใช้ดวงตาของเธอ ทำเรื่องสกปรกแบบนั้น
หัวใจของฟูกะถูกบีบจนแทบแหลกเหลว
หากเป็นไปได้
เธอจะขอชิงชังพระเจ้าได้ไหม
ชิงชังพระเจ้าที่แย่งสิ่งสำคัญไปจากเธอ
ชิงชังที่ทำให้เธอปกป้องสิ่งสำคัญไว้ไม่ได้
ชิงชังเหลือเกิน...ที่ลิขิตให้มนุษย์ที่ชั่วร้ายยิ่งกว่าปีศาจตนนี้สั่งการเธอ
“ท่านบิชอป...” ฟูกะหอบเสียงแผ่ว มองร่างของชายหนุ่มที่ยืนตรงหน้าเธอด้วยแววตาประหลาดหลังจากที่ผู้คุมกฎจากไป
“หมดสภาพเลยนี่ ฟูกะ” เขาก้าวเข้ามาพร้อมใบหน้าที่นิ่งเฉย
“มันก็เพราะใครกันล่ะที่ปลุกผู้คุมกฎขึ้นมา” เธอส่งสายตากลับ
“ไม่คิดเลยว่าเธอจะมีความสัมพันธ์แบบนั้นกับตัวทดลอง” ออตโตเค้นเสียงหัวเราะในลำคอ แววตาเย็นยะเยือกถูกส่งกลับมา “เพราะแบบนี้เธอถึงลังเลและตั้งใจจะทำลายแผนของผมสินะ”
ฟูกะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวหมากที่ใช้การไม่ได้ ต่อให้พูดอะไรไป มันก็ไม่มีผลอีกแล้ว
“จะทำอะไรก็รีบทำสิ”
ฟูกะแย้มรอยยิ้ม นึกถึงความทรงจำที่มีความสุขที่สุด
ปืนสีดำเมื่อมปรากฎขึ้นในมือของมัจจุราชตรงหน้า แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอหวั่นไหวแม้แต่น้อย
เพื่อนๆจากห้าหมื่นปีก่อน การผจญภัย เพื่อนๆในปัจจุบัน
รอยยิ้มของเธอ
—ขอโทษที่ไม่อาจทำให้เธอยิ้มได้อีกแล้ว
นิ้วของออตโตสอดเข้าที่โกร่งไกปืน แต่เธอเหนื่อยเกินกว่าจะขยับตัวหลบหนี
—ขอโทษที่ไม่อาจอยู่ข้างกายเธอได้อีกแล้ว
แต่ว่านะ เคียน่า
ช่วยมีชีวิตต่อไป และยิ้มอย่างมีความสุขหลังจากนี้เถอะนะ...
สิ่งนี้เป็นทางเดียวที่จะช่วยปลดบาปของฉันที่กระทำต่อเธอมานานแสนนาน
“ลาก่อน จิงเว่ย”
เสียงลั่นไกก็ดังก้องไปทั่วบริเวณที่รกร้างนั้นอย่างเงียบงัน
กระนั้นเสียงแผ่วเบาที่ยังลอยไปตามสายลมนั้นก็ราวกับกระจายไปทั่วทุกทิศ กลายเป็นส่วนหนึ่งของลมที่พัดหวีดหวิว
“ฉันรักเธอ เคียน่า”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
