ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : อร่อยดีนะ..อาหารญี่ปุ่น
ตอนที่6 อร่อยดีนะอาหารญี่ปุ่น
ว้า มาพูดกันก่อนนะค่ะ
ขอโทษที่แต่งไม่ค่อยได้เรื่อง(ชักน้อยใจ ไม่ค่อยมีคนโหวตกับเมนเลยอ่ะ) แต่ก็จะพยายามนะ ^.^
“นี้ชิเกะ ไปร้องคาราโอเกะกันเหอะ”
ฉันกระโดดไปรอบโซฟา ที่เขานั่ง  เมื่อคิดหาวิธีคลายเศร้าทั้งฉันและเขาได้
เราเดินไปร้องคาราโอเกะที่ร้านใกล้ๆบ้าน
มันเป็นตู้เล็กๆ เข้าไป 2 คนก็เต็มแล้ว
ฉันหยอดเหรียญ ลงไป แล้วกดหมายเลขเพลง
แล้วก็เริ่มแหกปากร้องซะดังลั่น
~ยอมรับ เคยรักเธอจนหมดใจ ไม่เคยคิดจะแบ่งใจ หรือเผื่อใจมาก่อน
เธอรู้ เธอก็เลยทำตัวได้ใจ ไม่เคยง้อไม่สนใจ ไม่เคยเห็นในความสำคัญ~
~หนักใจและฝืนทนไม่ไหว ฉันทนมามากไป อึดอัดใจมาแสนนาน
วันนี้ฉันขอเป็นฝ่ายไป ไม่เหลือแล้วหัวใจ ขอเป็นคนทิ้งเธอ~
ฉันเป็นผู้หญิงที่ใจง่ายยยยยยยยยย เป็นคนที่เธอเคยได้จายยยยยยยยย
เพราะความหวั่นไหว ต้องทนอ่อนใจเพราะใจอ่อน
ต่อไปจากนี้ไม่มีแล้ว ไม่ยอมไม่ทนเหมือนวันก่อนนนนนนน
ฉันคงต้องเลือกไป จะบอกว่าฉันเป็นคนใจง่ายก็ไม่แครรรรรรรรรรรร์
ก่อนนี้รักเธอง่ายไป เพราะเธอเคยดีกับฉัน
ตอนนี้ฉันต้องขอลา เพราะเธอเปลี่ยนไป และเธอไม่เคยแคร์
ฉันเป็นผู้หญิงที่ใจง่ายยยยยยยยยย เป็นคนที่เธอเคยได้จายยยยยยยยย
เพราะความหวั่นไหว ต้องทนอ่อนใจเพราะใจอ่อน
ต่อไปจากนี้ไม่มีแล้ว ไม่ยอมไม่ทนเหมือนวันก่อนนนนนนน
ฉันคงต้องเลือกไป จะบอกว่าฉันเป็นคนใจง่ายก็ไม่แครรรรรรรรรรรร์
แฮ็กๆ มันเหนื่อยเหมือนกันนะเนี้ย
ก็ฉันเล่นตะโกนมากกว่าจะร้องดีๆนี้น่า
พอหันไปมองชิเกะฉันก็อดหัวเราะไม่ได้
ก็เขานะ ตาค้างไปเลยล่ะ
แหมฉันร้องเพราะขนาดนั้นหรือไง
ไม่ต้องชมก็ได้ คิกๆๆๆ 
แต่เพลงนี้ได้ใจจังเลย ฉันชอบ
~ฉันเป็นผู้หญิงที่ใจง่ายยยยยยยย~
~จะบอกว่าฉันเป็นคนใจง่ายก็ไม่แคร์!~
“นี้ชิเกะไม่ร้องเหรอ”
เขาทำหน้ายุ่ง ส่ายหัวทันที
แหมๆๆ นี้ฉันรู้หรอกนะว่าคนหล่อๆส่วนใหญ่เค้าร้องเพลงเพราะ
มาม่ะ มาร้องให้ฉันฟังเป็นบุญหูหน่อยเถอะ
ฉันเข้าไปลากเขาเข้ามาร้อง
เขาถอยทันทีเหมือนกันที่ฉันเข้าถึงตัว
โอ้..เจ้าพระคุณทูนหัว มาเถอะม่ะ อยากฟังจะแย่แล้ว
แล้วสุดท้าย นางเอก(นางมารล่ะไม่ว่า)ก็ต้องชนะวันยังค่ำ ฮ้าๆๆๆ
“ไม่เอา  ผมร้องไม่ได้ ไม่เอา”
“เหอะน่า  ฉันเชื่อฝีมือนาย” ฉันยิ้มให้กำลังใจ
โชคดีที่เครื่องนี้มีเพลงญี่ปุ่น ไม่งั้นก็ไม่รู้จะให้เค้าร้องเพลงอะไรดี
แต่ 0_o ไหงมันไม่เหมือนที่คิดว่ะ
เสียงเค้าแปร่งๆอ่ะ เสียงแหลมเล็ก อย่างกับเด็กเลย
แต่มันก็เพราะอยู่หรอกน่ะ  เพลงอ่ะไรนะ
ไม่ทันได้ดู
แหมแต่เล่นเอาฉันเคลิ้มไปได้เหมือนกัน
จากนั้นเขาก็กดเพลงต่อ
ฮ้าคราวนี้ไม่ยอมปล่อยไมค์ให้ฉันบ้างเลย
เราแย่งกันร้อง สลับกันไปมา
แก้มของเขาเป็นสีชมพู  เหงื่อไหลเป็นทาง เขาเสยผมที่ฟูของเขา แต่มันยิ่งฟูขึ้นไปใหญ่
เขาสวมเสื้อยืด สีเทา สกีนลายตัวหนังสือภาษาอังกฤษ พาดทับกันไปมา  ที่คอเสื้อมีเชือกเส้นเล็กๆร้อยอยู่          เสื้อส่วนใหญ่ของเขาจะเป็นแบบนี้แหละ
เขาสวมกางเกงยีนตัวใหญ่ๆ ใส่รองเท้าแตะสีเหลือง 
เราออกจากตู้คาราโอเกะ แล้วหัวเราะกันใหญ่
บางครั้งฉันก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าเขามองฉันอยู่
แต่บางครั้งฉันก็อดน้อยใจไม่ได้ ก็เขาไม่เคยเดินรอเลยนะสิ
แปลกคนจริงผู้ชายญี่ปุ่นเนี้ย
แรกๆเขาจะไม่เดินรอฉันเลยซักนิด 
แต่พักหลังก็เริ่มเดินด้วยกันบ่อยขึ้น เป็นเพราะฉันเดินเร็วขึ้นหรือเขาเดินช้าลงก็ไม่รู้
แต่นึ้ถือว่าเป็นพัฒนาการที่ดีเลยทีเดียว
เขามักจะเดินแกว่งแขนสบายๆ  ก้าวเท้ายาวๆ
ผมที่ดูฟูๆของเขา เหมือนจะไม่เป็นทรง แต่มันก็เข้ากับเขาได้เป็นอย่างดี
แก้มขาวๆ ที่ผู้หญิงอย่างฉันยังต้องอิจฉา
ริมฝีปากบางๆ แต่เป็นสีอมชมพูระเรื่อ น่าจูบชะมัด
เขาไม่ได้ดูผอมแห้งแรงน้อย แต่หุ่นดีมีกล้าม เพราะเล่นกีฬา
สูงตั้ง 181 จนฉันปวดคอเวลาพูดด้วย 
บางครั้งฉันจะยืนบนเก้าอี้ แล้วพูดกับเขา จะได้ดูยิ่งใหญ่หน่อย
ฉันมักจะแหย่เขาเล่นเสมอ ก็เขานะขี้อาย
พอฉันถามว่า มีแฟนรึยังเขาก็อายม่วนแล้วม่วนอีก
แต่ก็ปฏิเสธว่าไม่มี ฉันแอบดีใจเล่นน้อย
ก็มันน่าเสียดายนี้ถ้าคนหล่อๆมีแฟนไปซะหมด
ระหว่างที่เดินกันอยู่ จู่ๆเขาก็หยุดเดินกะทันหัน
“เคยกินอาหารญี่ปุ่นไหม”
“เคยสิถามได้” 
“อยากกินไหมล่ะ ”เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วก็ถาม
แหมเล่นเอาตกใจหมดเลย 
“ยะ อยากกินสิ”
เขาดีดนิ้ว แล้วยักคิ้วให้ทีหนึ่ง
“งั้นไป  เราไปซื้อของกัน” แล้วเขาก็ลากฉันให้เดินตามไป
“จะไปไหนเนี้ย”
“ซุปเปอร์แถวนี้มีใช่ไหม”
“มีดิ ตรงไปอีกนิดเดียวก็ถึง”
เขายิ้ม แล้วก็ตรงดิ่งไปซุปเปอร์มาเกต แถวบ้านทันที
เขาหยิบตะกร้า แล้วเดินไปหยิบของไปทั่ว
เขาจะทำอะไรเนี้ย  อย่าบอกนะว่าจะทำอาหารเองนะ
“นายจะทำอะไรน่ะ?”
“ทำอาหารญี่ปุ่นยังไงล่ะ”
“ว้าว นายทำเป็นด้วยเหรอ นี้ๆๆ แล้วทำอะไรล่ะ”
“เทมปุระต้มยำ”
ชื่อก็คุ้นๆหรอกนะ แต่มันเป็นไงเหรอ ไอ้เทมปุระต้มยำเนี้ย มันเหมือนต้มยำกุ้งบ้านเราเปล่าอ่ะ
ฉันเห็นเขาเดินไปซื้อกุ้ง แล้วก็แป้งทอดกรอบ  เครื่องต้มยำ
แล้วก็ไอ้ขวดสีดำๆ ไอ้นี้ฉันไม่รู้หรอกว่าฉันคืออะไร  และก็ผัก
ส่วนฉันก็ได้แต่เดินตามต้อยๆ ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี
ถ้าฉันทำอาหารเป็นก็ดีสิ จะได้ทำให้เขาทานบ้าง
ทำเป็นก็แต่ทอดไข่อ่ะ อยากทานไหมชิเกะ
พอเขาหยิบโน้นหยิบนี้เข้าใส่ตะกร้าเสร็จก็ไปจ่ายตังค์กัน
“เพิ่งรู้นะเนี้ยว่าชิเกะก็ทำอาหารเป็นเหมือนกัน”
“ไม่ค่อยเป็นหรอก แต่ก็อยากทำให้แนนทาน ลองดูว่ามันอร่อยไหม”
“ได้เลยเจ้าค่ะ เดี๋ยวจะตัดสินให้”
พอกลับถึงบ้าน เขาก็เดินเข้าครัวทันที
“แม่ค่ะ วันนี้ชิเกะจะทำอาหารให้ทานค่ะ”
“เหรอจ๊ะ จะทำอะไรล่ะ” แม่ถามชิเกะ
“เทมปุระต้มยำครับ  แต่ไม่ค่อยอร่อยหรอกนะครับ คุณแม่ผมชอบทำให้ทาน”
“เหรอจ๊ะ”
“ครับ  พี่นน ก็ชอบทานเหมือนกันนะครับ”
“พี่!” เฮ้ยพี่ชายฉันก็ชอบทานอย่างนั้นเหรอ แล้วพี่ไปรู้จักกับนายได้ไงอ่ะ
ทุกคนหันมามองหน้าฉันใหญ่
“พี่ชาย รู้จักกับนายเหรอ”
“อืม ก็เค้าพักอยู่ที่บ้านของฉันไงล่ะ”
อ้ากกกกกกกกกไม่จริ๊ง ทำไมฉันไม่รู้เรื่อง
ทำไมฉันไม่เคยเห็นพี่เอารูปของชิเกะให้ดูบ้างนะ
“อยู่บ้านนาย จริงเหรอค่ะแม่”
“อืม  แม่ไม่ได้บอกลูกเหรอ” 
ทุกทีสิน่า  แม่ไม่เคยบอกอะไรฉันซักอย่าง แม่นะแม่
พี่ชายของฉันนะ ไปเรียนที่ญี่ปุ่น  ได้ หลายปีแล้ว
แต่ไหงฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย
ฉันนั่งงงเป็นไก่ตาแตก ระหว่างที่ชิเกะทำเทมปุระต้มยำ ส่วนแม่ก็ทำกับข้าวของแม่ไป
ปล่อยให้ฉันเรียบเรียงเรื่องราวต่างๆในหัวคนเดียว
ไม่นานพ่อก็กลับมา
“พ่อ  พ่อรู้รึเปล่าว่าพี่พักอยู่ที่บ้านของชิเกะนะ”
“รู้สิ แกนี้ถามแปลกๆนะยายแนน” 
“อ้าวพ่อก็ แล้วทำไมหนูไม่รู้ล่ะ”
“พ่อก็ไม่เห็นแก่จะรู้อะไรซักอย่างเลยนี้”  แหมพ่อฉันนี้ก็กัดเจ็บเหมือนกันนะเนี้ย
หาว่าฉันโง่เหรอ
เชอะๆๆๆๆโป่งๆๆๆๆๆพ่อแล้ว แม่ และ ชิเกะด้วยยยยยยยยยย
ระหว่างที่เถียงกับพ่ออยู่ แม่ก็มาเรียกให้ไปกินข้าว
อะไรหอมๆว่ะ  ฉันเดินเข้าไปนั่ง
“ไหนล่ะ เทมปุระต้มยำ”
“ว้าวน่าทานจัง”  แต่มันก็เหมือนกุ้งทอดนั้นแหละน่ะ มีซีอิ๊วญี่ปุ่นใส่ถ้วยเล็กๆวางข้างๆ
ฉันลองทานดู  อร่อยกว่าที่คิด  ตอนแรกคิดว่ามันจะเหมือนต้มยำกุ้งซะอีก
“อร่อยจัง ไว้คราวหน้าสอนฉันทำมั่งนะ”
“ได้เลย”
“แล้วเมื่อกี้ทำไมไม่เข้าไปดูล่ะจ๊ะ” แม่ถาม อ้าวก็มัวแต่คุยกับพ่ออยู่นี้
“แม่อ่ะ”
แล้วพวกเค้าก็หัวเราะฉันกันใหญ่ 
เอ๊าเข้าไป รุ่มกันได้ก็เอากันใหญ่เชียว อย่าให้ถึงคราวฉันมั่งเหอะ หืมมมมม
..............................................................
แล้วจะรีบมาอัพนะ  บ๊ะบาย^_^
ว้า มาพูดกันก่อนนะค่ะ
ขอโทษที่แต่งไม่ค่อยได้เรื่อง(ชักน้อยใจ ไม่ค่อยมีคนโหวตกับเมนเลยอ่ะ) แต่ก็จะพยายามนะ ^.^
“นี้ชิเกะ ไปร้องคาราโอเกะกันเหอะ”
ฉันกระโดดไปรอบโซฟา ที่เขานั่ง  เมื่อคิดหาวิธีคลายเศร้าทั้งฉันและเขาได้
เราเดินไปร้องคาราโอเกะที่ร้านใกล้ๆบ้าน
มันเป็นตู้เล็กๆ เข้าไป 2 คนก็เต็มแล้ว
ฉันหยอดเหรียญ ลงไป แล้วกดหมายเลขเพลง
แล้วก็เริ่มแหกปากร้องซะดังลั่น
~ยอมรับ เคยรักเธอจนหมดใจ ไม่เคยคิดจะแบ่งใจ หรือเผื่อใจมาก่อน
เธอรู้ เธอก็เลยทำตัวได้ใจ ไม่เคยง้อไม่สนใจ ไม่เคยเห็นในความสำคัญ~
~หนักใจและฝืนทนไม่ไหว ฉันทนมามากไป อึดอัดใจมาแสนนาน
วันนี้ฉันขอเป็นฝ่ายไป ไม่เหลือแล้วหัวใจ ขอเป็นคนทิ้งเธอ~
ฉันเป็นผู้หญิงที่ใจง่ายยยยยยยยยย เป็นคนที่เธอเคยได้จายยยยยยยยย
เพราะความหวั่นไหว ต้องทนอ่อนใจเพราะใจอ่อน
ต่อไปจากนี้ไม่มีแล้ว ไม่ยอมไม่ทนเหมือนวันก่อนนนนนนน
ฉันคงต้องเลือกไป จะบอกว่าฉันเป็นคนใจง่ายก็ไม่แครรรรรรรรรรรร์
ก่อนนี้รักเธอง่ายไป เพราะเธอเคยดีกับฉัน
ตอนนี้ฉันต้องขอลา เพราะเธอเปลี่ยนไป และเธอไม่เคยแคร์
ฉันเป็นผู้หญิงที่ใจง่ายยยยยยยยยย เป็นคนที่เธอเคยได้จายยยยยยยยย
เพราะความหวั่นไหว ต้องทนอ่อนใจเพราะใจอ่อน
ต่อไปจากนี้ไม่มีแล้ว ไม่ยอมไม่ทนเหมือนวันก่อนนนนนนน
ฉันคงต้องเลือกไป จะบอกว่าฉันเป็นคนใจง่ายก็ไม่แครรรรรรรรรรรร์
แฮ็กๆ มันเหนื่อยเหมือนกันนะเนี้ย
ก็ฉันเล่นตะโกนมากกว่าจะร้องดีๆนี้น่า
พอหันไปมองชิเกะฉันก็อดหัวเราะไม่ได้
ก็เขานะ ตาค้างไปเลยล่ะ
แหมฉันร้องเพราะขนาดนั้นหรือไง
ไม่ต้องชมก็ได้ คิกๆๆๆ 
แต่เพลงนี้ได้ใจจังเลย ฉันชอบ
~ฉันเป็นผู้หญิงที่ใจง่ายยยยยยยย~
~จะบอกว่าฉันเป็นคนใจง่ายก็ไม่แคร์!~
“นี้ชิเกะไม่ร้องเหรอ”
เขาทำหน้ายุ่ง ส่ายหัวทันที
แหมๆๆ นี้ฉันรู้หรอกนะว่าคนหล่อๆส่วนใหญ่เค้าร้องเพลงเพราะ
มาม่ะ มาร้องให้ฉันฟังเป็นบุญหูหน่อยเถอะ
ฉันเข้าไปลากเขาเข้ามาร้อง
เขาถอยทันทีเหมือนกันที่ฉันเข้าถึงตัว
โอ้..เจ้าพระคุณทูนหัว มาเถอะม่ะ อยากฟังจะแย่แล้ว
แล้วสุดท้าย นางเอก(นางมารล่ะไม่ว่า)ก็ต้องชนะวันยังค่ำ ฮ้าๆๆๆ
“ไม่เอา  ผมร้องไม่ได้ ไม่เอา”
“เหอะน่า  ฉันเชื่อฝีมือนาย” ฉันยิ้มให้กำลังใจ
โชคดีที่เครื่องนี้มีเพลงญี่ปุ่น ไม่งั้นก็ไม่รู้จะให้เค้าร้องเพลงอะไรดี
แต่ 0_o ไหงมันไม่เหมือนที่คิดว่ะ
เสียงเค้าแปร่งๆอ่ะ เสียงแหลมเล็ก อย่างกับเด็กเลย
แต่มันก็เพราะอยู่หรอกน่ะ  เพลงอ่ะไรนะ
ไม่ทันได้ดู
แหมแต่เล่นเอาฉันเคลิ้มไปได้เหมือนกัน
จากนั้นเขาก็กดเพลงต่อ
ฮ้าคราวนี้ไม่ยอมปล่อยไมค์ให้ฉันบ้างเลย
เราแย่งกันร้อง สลับกันไปมา
แก้มของเขาเป็นสีชมพู  เหงื่อไหลเป็นทาง เขาเสยผมที่ฟูของเขา แต่มันยิ่งฟูขึ้นไปใหญ่
เขาสวมเสื้อยืด สีเทา สกีนลายตัวหนังสือภาษาอังกฤษ พาดทับกันไปมา  ที่คอเสื้อมีเชือกเส้นเล็กๆร้อยอยู่          เสื้อส่วนใหญ่ของเขาจะเป็นแบบนี้แหละ
เขาสวมกางเกงยีนตัวใหญ่ๆ ใส่รองเท้าแตะสีเหลือง 
เราออกจากตู้คาราโอเกะ แล้วหัวเราะกันใหญ่
บางครั้งฉันก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าเขามองฉันอยู่
แต่บางครั้งฉันก็อดน้อยใจไม่ได้ ก็เขาไม่เคยเดินรอเลยนะสิ
แปลกคนจริงผู้ชายญี่ปุ่นเนี้ย
แรกๆเขาจะไม่เดินรอฉันเลยซักนิด 
แต่พักหลังก็เริ่มเดินด้วยกันบ่อยขึ้น เป็นเพราะฉันเดินเร็วขึ้นหรือเขาเดินช้าลงก็ไม่รู้
แต่นึ้ถือว่าเป็นพัฒนาการที่ดีเลยทีเดียว
เขามักจะเดินแกว่งแขนสบายๆ  ก้าวเท้ายาวๆ
ผมที่ดูฟูๆของเขา เหมือนจะไม่เป็นทรง แต่มันก็เข้ากับเขาได้เป็นอย่างดี
แก้มขาวๆ ที่ผู้หญิงอย่างฉันยังต้องอิจฉา
ริมฝีปากบางๆ แต่เป็นสีอมชมพูระเรื่อ น่าจูบชะมัด
เขาไม่ได้ดูผอมแห้งแรงน้อย แต่หุ่นดีมีกล้าม เพราะเล่นกีฬา
สูงตั้ง 181 จนฉันปวดคอเวลาพูดด้วย 
บางครั้งฉันจะยืนบนเก้าอี้ แล้วพูดกับเขา จะได้ดูยิ่งใหญ่หน่อย
ฉันมักจะแหย่เขาเล่นเสมอ ก็เขานะขี้อาย
พอฉันถามว่า มีแฟนรึยังเขาก็อายม่วนแล้วม่วนอีก
แต่ก็ปฏิเสธว่าไม่มี ฉันแอบดีใจเล่นน้อย
ก็มันน่าเสียดายนี้ถ้าคนหล่อๆมีแฟนไปซะหมด
ระหว่างที่เดินกันอยู่ จู่ๆเขาก็หยุดเดินกะทันหัน
“เคยกินอาหารญี่ปุ่นไหม”
“เคยสิถามได้” 
“อยากกินไหมล่ะ ”เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วก็ถาม
แหมเล่นเอาตกใจหมดเลย 
“ยะ อยากกินสิ”
เขาดีดนิ้ว แล้วยักคิ้วให้ทีหนึ่ง
“งั้นไป  เราไปซื้อของกัน” แล้วเขาก็ลากฉันให้เดินตามไป
“จะไปไหนเนี้ย”
“ซุปเปอร์แถวนี้มีใช่ไหม”
“มีดิ ตรงไปอีกนิดเดียวก็ถึง”
เขายิ้ม แล้วก็ตรงดิ่งไปซุปเปอร์มาเกต แถวบ้านทันที
เขาหยิบตะกร้า แล้วเดินไปหยิบของไปทั่ว
เขาจะทำอะไรเนี้ย  อย่าบอกนะว่าจะทำอาหารเองนะ
“นายจะทำอะไรน่ะ?”
“ทำอาหารญี่ปุ่นยังไงล่ะ”
“ว้าว นายทำเป็นด้วยเหรอ นี้ๆๆ แล้วทำอะไรล่ะ”
“เทมปุระต้มยำ”
ชื่อก็คุ้นๆหรอกนะ แต่มันเป็นไงเหรอ ไอ้เทมปุระต้มยำเนี้ย มันเหมือนต้มยำกุ้งบ้านเราเปล่าอ่ะ
ฉันเห็นเขาเดินไปซื้อกุ้ง แล้วก็แป้งทอดกรอบ  เครื่องต้มยำ
แล้วก็ไอ้ขวดสีดำๆ ไอ้นี้ฉันไม่รู้หรอกว่าฉันคืออะไร  และก็ผัก
ส่วนฉันก็ได้แต่เดินตามต้อยๆ ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี
ถ้าฉันทำอาหารเป็นก็ดีสิ จะได้ทำให้เขาทานบ้าง
ทำเป็นก็แต่ทอดไข่อ่ะ อยากทานไหมชิเกะ
พอเขาหยิบโน้นหยิบนี้เข้าใส่ตะกร้าเสร็จก็ไปจ่ายตังค์กัน
“เพิ่งรู้นะเนี้ยว่าชิเกะก็ทำอาหารเป็นเหมือนกัน”
“ไม่ค่อยเป็นหรอก แต่ก็อยากทำให้แนนทาน ลองดูว่ามันอร่อยไหม”
“ได้เลยเจ้าค่ะ เดี๋ยวจะตัดสินให้”
พอกลับถึงบ้าน เขาก็เดินเข้าครัวทันที
“แม่ค่ะ วันนี้ชิเกะจะทำอาหารให้ทานค่ะ”
“เหรอจ๊ะ จะทำอะไรล่ะ” แม่ถามชิเกะ
“เทมปุระต้มยำครับ  แต่ไม่ค่อยอร่อยหรอกนะครับ คุณแม่ผมชอบทำให้ทาน”
“เหรอจ๊ะ”
“ครับ  พี่นน ก็ชอบทานเหมือนกันนะครับ”
“พี่!” เฮ้ยพี่ชายฉันก็ชอบทานอย่างนั้นเหรอ แล้วพี่ไปรู้จักกับนายได้ไงอ่ะ
ทุกคนหันมามองหน้าฉันใหญ่
“พี่ชาย รู้จักกับนายเหรอ”
“อืม ก็เค้าพักอยู่ที่บ้านของฉันไงล่ะ”
อ้ากกกกกกกกกไม่จริ๊ง ทำไมฉันไม่รู้เรื่อง
ทำไมฉันไม่เคยเห็นพี่เอารูปของชิเกะให้ดูบ้างนะ
“อยู่บ้านนาย จริงเหรอค่ะแม่”
“อืม  แม่ไม่ได้บอกลูกเหรอ” 
ทุกทีสิน่า  แม่ไม่เคยบอกอะไรฉันซักอย่าง แม่นะแม่
พี่ชายของฉันนะ ไปเรียนที่ญี่ปุ่น  ได้ หลายปีแล้ว
แต่ไหงฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย
ฉันนั่งงงเป็นไก่ตาแตก ระหว่างที่ชิเกะทำเทมปุระต้มยำ ส่วนแม่ก็ทำกับข้าวของแม่ไป
ปล่อยให้ฉันเรียบเรียงเรื่องราวต่างๆในหัวคนเดียว
ไม่นานพ่อก็กลับมา
“พ่อ  พ่อรู้รึเปล่าว่าพี่พักอยู่ที่บ้านของชิเกะนะ”
“รู้สิ แกนี้ถามแปลกๆนะยายแนน” 
“อ้าวพ่อก็ แล้วทำไมหนูไม่รู้ล่ะ”
“พ่อก็ไม่เห็นแก่จะรู้อะไรซักอย่างเลยนี้”  แหมพ่อฉันนี้ก็กัดเจ็บเหมือนกันนะเนี้ย
หาว่าฉันโง่เหรอ
เชอะๆๆๆๆโป่งๆๆๆๆๆพ่อแล้ว แม่ และ ชิเกะด้วยยยยยยยยยย
ระหว่างที่เถียงกับพ่ออยู่ แม่ก็มาเรียกให้ไปกินข้าว
อะไรหอมๆว่ะ  ฉันเดินเข้าไปนั่ง
“ไหนล่ะ เทมปุระต้มยำ”
“ว้าวน่าทานจัง”  แต่มันก็เหมือนกุ้งทอดนั้นแหละน่ะ มีซีอิ๊วญี่ปุ่นใส่ถ้วยเล็กๆวางข้างๆ
ฉันลองทานดู  อร่อยกว่าที่คิด  ตอนแรกคิดว่ามันจะเหมือนต้มยำกุ้งซะอีก
“อร่อยจัง ไว้คราวหน้าสอนฉันทำมั่งนะ”
“ได้เลย”
“แล้วเมื่อกี้ทำไมไม่เข้าไปดูล่ะจ๊ะ” แม่ถาม อ้าวก็มัวแต่คุยกับพ่ออยู่นี้
“แม่อ่ะ”
แล้วพวกเค้าก็หัวเราะฉันกันใหญ่ 
เอ๊าเข้าไป รุ่มกันได้ก็เอากันใหญ่เชียว อย่าให้ถึงคราวฉันมั่งเหอะ หืมมมมม
..............................................................
แล้วจะรีบมาอัพนะ  บ๊ะบาย^_^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น