ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : จุดเริ่มต้นของ .
ตอนที่4 จุดเริ่มต้นของ
.
   
เขาลุกขึ้นมองออกไปนอกหน้าต่าง ม่านสีฟ้าอ่อน ปลิวไปตามสายลมอ่อนๆนั้นเบา  เขาหงุดหงิด  แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
เขาถอนใจเบาๆ  ทำไมมันถึงได้เงียบเหงานัก  เมื่อผู้หญิงคนนั้นไม่พูดกับเขา .เหมือนอย่างเคย
    ฉันหยิบชุดพละของเคนขึ้นมาดมช้าๆ ฮ้าๆ หอมจัง  แล้วค่อยๆใส่ถุงอย่างปราณีต ชิเกะเดินลงมาพอดี  ฉันหันหน้าหนี ก็เห็นสายตา
แม่พอดี ฉันจึงจำใจหันไปทางชิเกะอย่างเดิม  เขาเดินเข้ามาช้าๆ ผมที่ปรกตาของเขาตอนนี้ไม่อาจปิดปังความรู้สึกของเขาได้ มันดูเศร้าจัง 
ฉันรู้สึกได้ 
เฮ้อ ฉันถอนใจ เอ๊ายกนี้นายชนะ  ฉันหันไปยิ้มให้เขาบางๆ
เขาตาโต แล้วยิ้มตอบ แก้มของเขาบุ๋มลงไป ฉันเพิ่งสังเกตว่าเขามีลักยิ้ม
อ้านั้นสิ เขายิ้มแล้วดูดีกว่าเมื่อกี้เยอะ
“เอ่อ สนุกไหมวันนี้” ฉันถามเขา  ดูเขากระตือรือร้นขึ้นเยอะในการตอบ
“อืม วันนี้ผมเรียนคณิตด้วยนะเรียนไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไรหรอก แต่ผมชอบคณิตนะ”
“คณิตเหรอ ว้าว! ฉันก็ชอบ มีอะไรถามฉันได้นะ”
ฉันอยากจะถามจริงว่า วันนี้ทำไมเขาไม่รอฉันอยู่ที่ห้อง แต่ก็ดูจะเห็นแก่ตัวเกินไปจึงเงียบซะ
“วันนี้ขอโทษนะที่ไม่ได้รอแนนไปกินข้าวด้วยกัน พอดีเพื่อนๆรบเร้า ผมปฏิเสธไม่ได้” เขาออกตัวอย่างร้อนรน จนฉันอดหัวเราะไม่ได้
ก็เขาน่ารักอย่างนี้ไงล่ะ
อ่ะเอาเป็นว่าฉันจะยกโทษให้ก็แล้วกัน  เพราะวันนี้ฉันอารมณ์ดีคิกๆๆ
“ไม่เป็นไรหรอก”
พอทานข้าวเสร็จฉันก็ยกจานไปล้าง  ชิเกะเดินตามมา
“ให้ผมช่วยนะ”
“เอาสิ”  ฉันเป็นคนถูน้ำยา ส่วนเขาก็เป็นคนล้าง 
มือของเรากระทบกันไปมา 
ดูหน้าเขาสิ ใกล้กันแค่เนี้ย
ฉันอดใจเต้นไม่ได้ 
เขาพูดไปด้วยล้างไปด้วย 
ยิ้มบ้างบางครั้ง  แต่ดูมีเสน่ห์ ในแบบของเขา
แปลกจัง เคนหายไปไหนหมดนะ ฉันลืมเคนไปเสียสนิท
ฉันเอาขนมมานั่งทานหน้าทีวี  ดูทีวีไปด้วย พร้อมๆกับชิเกะ
“นี้ๆดูนั้นสิ น่ารักไหม” ฉันชี้ไปที่ลูกหมาที่ออกในโฆษณา
“อืม แนนชอบหมาเหรอ”
“อืมชอบ มันน่ารักดี ดูสิ ฮ้าๆ” ฉันพูดไปยิ้มไป
พ่อกับแม่ขึ้นไปนอนแล้วเหลือแต่เราสองคนที่ยังนั่งดูทีวีกันอยู่
“นี้ นายมีพี่น้องเปล่าอ่ะ”
“มีสิ ผมมีน้องชาย”
“เค้าเหมือนนายไหม”
“ไม่เลย เขานะบ้ามาก  และชอบเล่นเกมมากๆ”
“นายไม่บ้างั้นเหอะ” ฉันหัวเราะเบาๆ 
“ฉันนะมีพี่ชาย คนหนึ่ง แต่เขาไปเรียนต่อแล้วล่ะ” ฉันพูดเสียงเบา เมื่อนึกถึงพี่ชาย นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้เจอกัน
เขาหันมามองฉันอย่างสนใจ แล้วหันหน้าไปดูทีวีต่อ
“นายชอบบาสเหรอ”  ฉันถามเขาเมื่อนึกถึงลูกบาสในกระเป๋าของเขา
“ใช่ ชอบมากๆเลยล่ะ ผมเป็นนักแข่งของโรงเรียนเชียวนะ”
“โม้เปล่าเนี้ย” ฉันแกล้งล้อเขาเล่น
“โม้คืออะไรเหรอ” 
“ฮะฮะฮะ ไม่มีอะไรหรอก”
“อ้าว!”
“ดึกแล้วไปนอนเหอะ พรุ่งนี้ต้องรีบไปโรงเรียน  ขี้เกียจจังเลย  เอ่อนี่พรุ่งนี้ตอนเย็นเราไปเที่ยวกันไหม”
“อืม”  แล้วเราก็แยกย้ายกันไปนอน
พรุ่งนี้จะไปเที่ยวไหนดีนะ
ฉันยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องของเคนอย่างชั่งใจ
ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไป
“เอ่อ เธอเคนอยู่รึเปล่า”  ผู้ชายคนนั้นหันมา
“ไอ้เคนเหรอไม่อยู่หรอก มีอะไรเหรอ”
“เอ่อคือ ฝากนี้คืนเขาด้วยแล้วกัน” ฉันยืนถุงเสื้อให้เขา
“อืมแล้วจะเอาให้”
“ขอบใจนะ” แล้วฉันก็เดินออกมา  แหมอดผิดหวังไม่ได้
ก็แหมนี้เป็นโอกาศที่จะได้เจอเคนแล้วนะ
เฮ้อ ฉันถอนหายใจ
“อ้าวแนน”
“เคน” ฉันยิ้มอย่างดีใจ นึกว่าจะไม่ได้เจอซะแล้ว
“ไปไหนมาเหรอ”
“ฉันเอาเสื้อมาคืนนะ อยู่ที่ห้องแล้ว กำลังจะกลับพอดี”
“อ้าวจะกลับแล้วเหรอ” 
อ้า อยากกับฉันเห็นแววผิดหวังในดวงตาของเค้านะ
แต่ทำไม มันถึงแค่แป๊บเดียว
จนฉันไม่แน่ใจ
“อืม” ถ้าไม่อยากให้กลับ อยู่ต่อก็ได้นะ อยากอยู่ต่ออยู่แล้ว 
ฉันคิดในใจ
“แล้วแผลเป็นไงบ้าง ยังเจ็บอยู่ไหม”
“ไม่เป็นไรมากหรอก เจ็บแค่นิดส์เดียวเอง” ฉันตอบพร้อมทำท่าทาง
“นิดส์เดียวเหรอ” เขาหัวเราะเบาๆ
อา! มิน่าเขาถึงถูกโหวตให้เป็นหนุ่มฮ็อต ก็เพราะอย่างนี้นี่เอง
ไม่ว่าทำอะไรก็ดูดีไปหมด  ดูเค้าหัวเราะสิ อย่างกับมีออร่ากระจาย
“แนนมาทำอะไรตรงนี้”  ขิมเดินตรงเข้ามาที่พวกเรายืนอยู่
ไอ้หย๋า ตายแน่คราวนี้ เคนรีบหลบไปเร็ว ฉันภาวนาว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้น
“เฮ้ยนายทำอะไรเพื่อนฉันรึเปล่า”  ขิมถามอย่างหาเรื่อง 
เคนหัวเราะ
“ฉันจะไปทำเพื่อนเธอทำไม”
“ใครจะไปรู้ คนอย่างนายไว้ใจได้ซะทีไหน” 
เคนอึ้ง ยายนี้ทำไมถึงคอยแต่จะหาเรื่องเค้าอยู่เรื่อย
แล้วอยู่ดีๆ มาว่าเขาว่าไว้ใจไม่ได้
มันชักจะมากเกินไปแล้วนะ ยายผู้หญิงปากร้าย
“เธอว่าใคร” เคนถามเสียงเข้ม  ตาจ้องขิมด้วยความไม่พอใจ
“ก็.. ใครเป็น ก็ว่าคนนั้นแหละ” ขิมยักไหล่ แล้วเหยียดยิ้ม
เคนกำมือแน่น  ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครว่าเค้าซักคน
เขาที่เพียบพร้อมทุกอย่าง ตั้งแต่หน้าตา ยันฐานะ
ทุกคนมีแต่จะยกย่องเอาอกเอาใจเขา แต่ยายนี้ไม่!
เขาอดแปลกใจไม่ได้กับความแปลกใหม่ที่เพิ่งเจอ
ผู้หญิงที่ดูยังไงก็คงไม่ชอบเขาแน่
ตัวก็เล็กนิดเดียวทำอวดเก่ง
เขาระบายยิ้มบางอย่างจงใจ แล้วหันไปยิ้มให้กับแนน สาวน้อยหน้าใส เพื่อนของยายปากร้าย  เขาทำเป็นไม่สนใจคนที่ต้องการจะทะเละกับ
เขา
“แนนเธอมีเพื่อนอย่างนี้ด้วยเหรอ”
“ทำไมมีเพื่อนอย่างฉันแล้วทำไม”
เขายักไหล่
“ฉันไปก่อนนะแล้วเจอกันใหม่  ส่วนเธอหวังว่าจะไม่เจอเธออีก” เขาพูดกับแนน แล้วหันไปหาขิม
เขาจากไปแล้วแต่ยายขิมยังเต้นเร้าๆ อย่างแค้นใจ
“ไอ้บ้าาาาาาาาาา” ขิมตะโกนบอกไป  มีแต่เสียงหัวเราะสะใจกับมา
นี้มันอะไรกันเนี้ย
ทำไมยายขิมถึงได้ไม่ชอบขี้หน้า เคนนัก
“ขิมเธอเป็นอะไรรึเปล่า”  ฉันถามเมื่อเห็นขิมยังโกรธไม่หาย  แต่ในความคิดของฉัน
สายตาของยายขิมที่มองตามร่างสูงนั้นไป มันไม่ใช่ความโกรธเลยซักนิด
แต่มันคืออะไรล่ะ
มันเป็นความท้อแท้ใจป่นเศร้าต่างหาก
ทำไมน่ะเหรอ เพราะยายขิมชอบเคนนะสิ
ฉันตัดสินใจอย่างนั้น ต้องใช่แน่ๆ ขิมต้องชอบเคนแน่ๆ
แต่ทำไมต้องทำท่าทางอย่างนั้นด้วยนะ ไม่เข้าใจ
แปลกคนจริงยายขิมเนี้ย
เมื่อลับร่างของชายหนุ่มแล้ว ขิมก็พูดขึ้น
“กลับกันเหอะ”  ฉันพยักหน้า ใช่แน่ๆ ต้องใช่แน่ๆ
แต่ทำไมฉันกลับรู้สึกช้าที่หัวใจอย่างนี้ 
ไม่ได้สิต้องสนับสนุนเพื่อน ฉันจะมาเห็นแก่ตัวไม่ได้
เพราะตั้งแต่คบกันมา ไม่เคยเห็นขิมเป็นอย่างนี้ซักครั้ง
แต่แหมทำไมฉันต้องทำอย่างนี้ด้วยนะไม่เข้าใจ???????
........
พอเลิกเรียนฉันกับชิเกะก็ไปเที่ยวสยามกัน
แหมก็ไม่รู้จะไปไหนดีนี้  ไปตากแอร์เย็นๆดีกว่า
เราเดินดูของไปเรื่อยๆ  ฉันก็ชักหิวแล้วสิ
“นี้ไปหาอะไรกินกันเถอะ ฉันหิวแล้ว”
“นี้  ผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ แนนไปก่อนเถอะ”
“ก็ได้ ที่ร้านนี้นะเร็วๆเข้าล่ะ”
“อืม”
ฉันเดินไปสั่งอาหารรอที่ร้านอาหารในห้างนั้น
ทำไมยังไม่มาอีกนะ นี้มัน ตั้งนานแล้วนะเนี้ย
ฉันชะเง้อมองที่ประตูร้านแต่ไม่มีวี่แววว่าชิเกะจะมาซักที
โอ้ยฉันอยากจะบ้าตาย  หลงรึเปล่านะ
ฉันนั่งรออีกซักพักแต่ชิเกะก็ยังไม่มา
ฉันรู้สึกเป็นห่วงมากๆ เลยจ่ายเงิน แล้วรีบออกจากร้าน
ยังไม่ได้กินซักคำ  เสียตังค์ไปเลยฟรีๆ ตั้งหลายร้อย ฮื่อๆๆ
ฉันเดินไปหาชิเกะที่ห้องน้ำแต่ก็ไม่เจอ
ทำไงดีเนี้ย โทรศัพท์หมอนั้นก็ไม่มี
ฉันแทบจะร้องไห้ออกมากลางห้างเลย
เมื่อไม่เจอเค้า  แม่จ๋าช่วยหนูด้วย
ชิเกะเดินกลับไปที่ร้านเมื่อทำธุระเสร็จ  แต่ก็ไม่เห็นแนน
อ้าวไม่ใช่ร้านนี้เหรอ  เขาเข้าไปถามพนักงาน
แล้วได้คำตอบว่า เธอออกไปแล้ว
อ้าว ทำไงดีล่ะเนี้ย  เขาเดินออกไปหาเธอ
แต่ก็ไม่เจอ  จึงกลับมารอที่หน้าร้านอาหารเหมือนเดิม
ฉันตัดสินใจเดินดูอีกรอบ 0_0
นั้นใช่ไหม ผู้ชายตัวสูงที่ยืนอยู่ตรงนั้นใช่ไหม 
“ชิเกะ!”  ฉันตะโกนเรียกออกไป  แล้วถอนใจอย่างโล่งอก
“แนน” เขายิ้มออกมาทันที
“ไปไหนมาน่ะ นึกว่านายหายไปแล้วซะอีก” ฉันแทบจะหัวเราะออกมาเลยที่เดียว
“ก็..พอกลับมาก็ไม่เห็นแนนแล้วเหมือนกัน  ขอโทษนะ” เขาก้มหัวให้ กลางห้างเลยอ่ะ
ฉันหันไปมองคนรอบๆ แหมที่อย่างนี้แล้วมองกันจังนะ
“ไม่เป็นไรหรอก  ฉันล่ะเป็นห่วงแทบแย่  ฉันว่านายควรมีโทรศัพท์ไว้นะ เผื่อจะได้ติดต่อสะดวก”
“ผมมีโทรศัพท์ แต่มันไม่มีสัญญาณนะ” เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา 0_0 อ่ะ แม่งโคตรสวยเลยอ่ะ หน้าจอใหญ่มากๆ  ไม่เห็นเหมือนของไทย
เลยอ่ะ  อ้า!เนี้ยแหละนะที่เค้าว่าญี่ปุ่นทันสมัยกว่าบ้านเราเยอะเหอะๆๆ หัวเราะอย่างแห้งแล้ง
ฉันอยากจะมีซักเครื่องจังแบบเนี้ย
โอ้ย อยากจะโยนโทรศัพท์ของตัวเองทิ้งลงถังขยะข้างๆนี้จัง
“งั้นเราไปซื้อซิมก็แล้วกัน จะได้ใช้ได้ดีไหมอ่ะ”
“เอางั้นเหรอ”
“อืมไปเหอะ ป่ะ ติดต่อนายยากจะตายไป”
“อืม” 
และแล้วเราก็ได้เบอร์ใหม่ของเค้า แหมเลขเหมือนกับของฉันเลย
เขาเอาซิมใส่แล้วฉันก็ลองโทรเข้า 
“นี้เบอร์ของฉันนะ  เอาไว้นายโทรหาฉันเท่านั้นนะ แล้วเบอร์ของนายเนี้ยห้ามให้สาวที่ไหนล่ะ”
ฉันนี้ชักจะยังไงยังไงอยู่นะเนี้ย
แหะๆก็ไม่รู้ล่ะ ถึงจะเป็นเงินของเค้าแต่ฉันเป็นคนพามาซื้อนี้นา
เขาหัวเราะกับคำพูดของฉัน 
ฉันกับชิเกะกำลังจะเดินออกจากห้าง
แต่แล้วสายตาของฉันก็เหลือบไปเห็น.....เคน!
อ้า!ทำไม ทั้งที่ฉันว่าจะไม่คิดอะไรกับเขาแล้วนะ
แต่พอมาเห็นเค้าเดินกับผู้หญิงอื่นอย่างนี้ก็อดจะเจ็บตรงนี้ไม่ได้
หัวใจของฉันมันช้าไปเลยทีเดียว 
3 ปีของฉัน มันพังทลายตรงหน้าเนี้ย
ทั้งๆที่พยายามตัดใจตั้งแต่รู้ว่ายายขิมชอบเคน
แต่นั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องจริงก็ได้นี้
ขิมอาจจะไม่ได้ชอบเคนก็ได้
ฉันอุตส่าห์ ยืดเวลาออกไปโดยไม่ถามยายขิม
แต่นี้ ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน
ฉันยืนนิ่ง  เอ๊ะ หรือกำลังเดินกันนะ
ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ฉันกำลังทำอะไร
รู้แต่ว่าสายตาของฉันจับจ้องที่คู่นั้นตลอดเวลา
“แนน!”  อยู่ๆก็มีคนมากระชากแขนของฉัน  ฉันเซไปตามแรงดึง
จนชนเขากับอกกว้างเข้า
ฉันยืนนิ่งอย่างนั้น  คิดอะไรไม่ออก
รถวิ่งตัดหน้าฉันไปอย่างหวุดหวิด
เกิดอะไรขึ้นเหรอ  ฉันมองชิเกะงง
หน้าตาของเขาตอนนี้ ทำไมดูเครียดจัง
แล้วฉันเป็นอะไร ทำไมหน้าของชิเกะถึงดูพร่ามัวอย่างนี้
หยาดน้ำตาไหลลงตามล่องแก้มอย่างไม่รู้ตัว
“เป็นอะไรรึเปล่า” ชิเกะถามอย่างเป็นห่วง 
ฉันตอบอะไรไม่ได้ ก็ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันเป็นอะไร และเกิดอะไรขึ้นกับฉัน
ฉันไม่ถอยออกจากอกกว้างนั้น แต่กลับซบลงแล้วร้องไห้เบาๆ
........................................
แหมไม่รู้จะพูดยังไงขอบคุณที่ติดตามนะค่ะ
ปลื้มจัง
อาจจะตกหล่นไปบ้างนะเพราะไม่ได้ทวนเลยไม่มีเวลาจริงๆขอโทษนะค่ะ
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้บ้างแล้วกันนะ^_^
   
เขาลุกขึ้นมองออกไปนอกหน้าต่าง ม่านสีฟ้าอ่อน ปลิวไปตามสายลมอ่อนๆนั้นเบา  เขาหงุดหงิด  แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
เขาถอนใจเบาๆ  ทำไมมันถึงได้เงียบเหงานัก  เมื่อผู้หญิงคนนั้นไม่พูดกับเขา .เหมือนอย่างเคย
    ฉันหยิบชุดพละของเคนขึ้นมาดมช้าๆ ฮ้าๆ หอมจัง  แล้วค่อยๆใส่ถุงอย่างปราณีต ชิเกะเดินลงมาพอดี  ฉันหันหน้าหนี ก็เห็นสายตา
แม่พอดี ฉันจึงจำใจหันไปทางชิเกะอย่างเดิม  เขาเดินเข้ามาช้าๆ ผมที่ปรกตาของเขาตอนนี้ไม่อาจปิดปังความรู้สึกของเขาได้ มันดูเศร้าจัง 
ฉันรู้สึกได้ 
เฮ้อ ฉันถอนใจ เอ๊ายกนี้นายชนะ  ฉันหันไปยิ้มให้เขาบางๆ
เขาตาโต แล้วยิ้มตอบ แก้มของเขาบุ๋มลงไป ฉันเพิ่งสังเกตว่าเขามีลักยิ้ม
อ้านั้นสิ เขายิ้มแล้วดูดีกว่าเมื่อกี้เยอะ
“เอ่อ สนุกไหมวันนี้” ฉันถามเขา  ดูเขากระตือรือร้นขึ้นเยอะในการตอบ
“อืม วันนี้ผมเรียนคณิตด้วยนะเรียนไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไรหรอก แต่ผมชอบคณิตนะ”
“คณิตเหรอ ว้าว! ฉันก็ชอบ มีอะไรถามฉันได้นะ”
ฉันอยากจะถามจริงว่า วันนี้ทำไมเขาไม่รอฉันอยู่ที่ห้อง แต่ก็ดูจะเห็นแก่ตัวเกินไปจึงเงียบซะ
“วันนี้ขอโทษนะที่ไม่ได้รอแนนไปกินข้าวด้วยกัน พอดีเพื่อนๆรบเร้า ผมปฏิเสธไม่ได้” เขาออกตัวอย่างร้อนรน จนฉันอดหัวเราะไม่ได้
ก็เขาน่ารักอย่างนี้ไงล่ะ
อ่ะเอาเป็นว่าฉันจะยกโทษให้ก็แล้วกัน  เพราะวันนี้ฉันอารมณ์ดีคิกๆๆ
“ไม่เป็นไรหรอก”
พอทานข้าวเสร็จฉันก็ยกจานไปล้าง  ชิเกะเดินตามมา
“ให้ผมช่วยนะ”
“เอาสิ”  ฉันเป็นคนถูน้ำยา ส่วนเขาก็เป็นคนล้าง 
มือของเรากระทบกันไปมา 
ดูหน้าเขาสิ ใกล้กันแค่เนี้ย
ฉันอดใจเต้นไม่ได้ 
เขาพูดไปด้วยล้างไปด้วย 
ยิ้มบ้างบางครั้ง  แต่ดูมีเสน่ห์ ในแบบของเขา
แปลกจัง เคนหายไปไหนหมดนะ ฉันลืมเคนไปเสียสนิท
ฉันเอาขนมมานั่งทานหน้าทีวี  ดูทีวีไปด้วย พร้อมๆกับชิเกะ
“นี้ๆดูนั้นสิ น่ารักไหม” ฉันชี้ไปที่ลูกหมาที่ออกในโฆษณา
“อืม แนนชอบหมาเหรอ”
“อืมชอบ มันน่ารักดี ดูสิ ฮ้าๆ” ฉันพูดไปยิ้มไป
พ่อกับแม่ขึ้นไปนอนแล้วเหลือแต่เราสองคนที่ยังนั่งดูทีวีกันอยู่
“นี้ นายมีพี่น้องเปล่าอ่ะ”
“มีสิ ผมมีน้องชาย”
“เค้าเหมือนนายไหม”
“ไม่เลย เขานะบ้ามาก  และชอบเล่นเกมมากๆ”
“นายไม่บ้างั้นเหอะ” ฉันหัวเราะเบาๆ 
“ฉันนะมีพี่ชาย คนหนึ่ง แต่เขาไปเรียนต่อแล้วล่ะ” ฉันพูดเสียงเบา เมื่อนึกถึงพี่ชาย นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้เจอกัน
เขาหันมามองฉันอย่างสนใจ แล้วหันหน้าไปดูทีวีต่อ
“นายชอบบาสเหรอ”  ฉันถามเขาเมื่อนึกถึงลูกบาสในกระเป๋าของเขา
“ใช่ ชอบมากๆเลยล่ะ ผมเป็นนักแข่งของโรงเรียนเชียวนะ”
“โม้เปล่าเนี้ย” ฉันแกล้งล้อเขาเล่น
“โม้คืออะไรเหรอ” 
“ฮะฮะฮะ ไม่มีอะไรหรอก”
“อ้าว!”
“ดึกแล้วไปนอนเหอะ พรุ่งนี้ต้องรีบไปโรงเรียน  ขี้เกียจจังเลย  เอ่อนี่พรุ่งนี้ตอนเย็นเราไปเที่ยวกันไหม”
“อืม”  แล้วเราก็แยกย้ายกันไปนอน
พรุ่งนี้จะไปเที่ยวไหนดีนะ
ฉันยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องของเคนอย่างชั่งใจ
ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไป
“เอ่อ เธอเคนอยู่รึเปล่า”  ผู้ชายคนนั้นหันมา
“ไอ้เคนเหรอไม่อยู่หรอก มีอะไรเหรอ”
“เอ่อคือ ฝากนี้คืนเขาด้วยแล้วกัน” ฉันยืนถุงเสื้อให้เขา
“อืมแล้วจะเอาให้”
“ขอบใจนะ” แล้วฉันก็เดินออกมา  แหมอดผิดหวังไม่ได้
ก็แหมนี้เป็นโอกาศที่จะได้เจอเคนแล้วนะ
เฮ้อ ฉันถอนหายใจ
“อ้าวแนน”
“เคน” ฉันยิ้มอย่างดีใจ นึกว่าจะไม่ได้เจอซะแล้ว
“ไปไหนมาเหรอ”
“ฉันเอาเสื้อมาคืนนะ อยู่ที่ห้องแล้ว กำลังจะกลับพอดี”
“อ้าวจะกลับแล้วเหรอ” 
อ้า อยากกับฉันเห็นแววผิดหวังในดวงตาของเค้านะ
แต่ทำไม มันถึงแค่แป๊บเดียว
จนฉันไม่แน่ใจ
“อืม” ถ้าไม่อยากให้กลับ อยู่ต่อก็ได้นะ อยากอยู่ต่ออยู่แล้ว 
ฉันคิดในใจ
“แล้วแผลเป็นไงบ้าง ยังเจ็บอยู่ไหม”
“ไม่เป็นไรมากหรอก เจ็บแค่นิดส์เดียวเอง” ฉันตอบพร้อมทำท่าทาง
“นิดส์เดียวเหรอ” เขาหัวเราะเบาๆ
อา! มิน่าเขาถึงถูกโหวตให้เป็นหนุ่มฮ็อต ก็เพราะอย่างนี้นี่เอง
ไม่ว่าทำอะไรก็ดูดีไปหมด  ดูเค้าหัวเราะสิ อย่างกับมีออร่ากระจาย
“แนนมาทำอะไรตรงนี้”  ขิมเดินตรงเข้ามาที่พวกเรายืนอยู่
ไอ้หย๋า ตายแน่คราวนี้ เคนรีบหลบไปเร็ว ฉันภาวนาว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้น
“เฮ้ยนายทำอะไรเพื่อนฉันรึเปล่า”  ขิมถามอย่างหาเรื่อง 
เคนหัวเราะ
“ฉันจะไปทำเพื่อนเธอทำไม”
“ใครจะไปรู้ คนอย่างนายไว้ใจได้ซะทีไหน” 
เคนอึ้ง ยายนี้ทำไมถึงคอยแต่จะหาเรื่องเค้าอยู่เรื่อย
แล้วอยู่ดีๆ มาว่าเขาว่าไว้ใจไม่ได้
มันชักจะมากเกินไปแล้วนะ ยายผู้หญิงปากร้าย
“เธอว่าใคร” เคนถามเสียงเข้ม  ตาจ้องขิมด้วยความไม่พอใจ
“ก็.. ใครเป็น ก็ว่าคนนั้นแหละ” ขิมยักไหล่ แล้วเหยียดยิ้ม
เคนกำมือแน่น  ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครว่าเค้าซักคน
เขาที่เพียบพร้อมทุกอย่าง ตั้งแต่หน้าตา ยันฐานะ
ทุกคนมีแต่จะยกย่องเอาอกเอาใจเขา แต่ยายนี้ไม่!
เขาอดแปลกใจไม่ได้กับความแปลกใหม่ที่เพิ่งเจอ
ผู้หญิงที่ดูยังไงก็คงไม่ชอบเขาแน่
ตัวก็เล็กนิดเดียวทำอวดเก่ง
เขาระบายยิ้มบางอย่างจงใจ แล้วหันไปยิ้มให้กับแนน สาวน้อยหน้าใส เพื่อนของยายปากร้าย  เขาทำเป็นไม่สนใจคนที่ต้องการจะทะเละกับ
เขา
“แนนเธอมีเพื่อนอย่างนี้ด้วยเหรอ”
“ทำไมมีเพื่อนอย่างฉันแล้วทำไม”
เขายักไหล่
“ฉันไปก่อนนะแล้วเจอกันใหม่  ส่วนเธอหวังว่าจะไม่เจอเธออีก” เขาพูดกับแนน แล้วหันไปหาขิม
เขาจากไปแล้วแต่ยายขิมยังเต้นเร้าๆ อย่างแค้นใจ
“ไอ้บ้าาาาาาาาาา” ขิมตะโกนบอกไป  มีแต่เสียงหัวเราะสะใจกับมา
นี้มันอะไรกันเนี้ย
ทำไมยายขิมถึงได้ไม่ชอบขี้หน้า เคนนัก
“ขิมเธอเป็นอะไรรึเปล่า”  ฉันถามเมื่อเห็นขิมยังโกรธไม่หาย  แต่ในความคิดของฉัน
สายตาของยายขิมที่มองตามร่างสูงนั้นไป มันไม่ใช่ความโกรธเลยซักนิด
แต่มันคืออะไรล่ะ
มันเป็นความท้อแท้ใจป่นเศร้าต่างหาก
ทำไมน่ะเหรอ เพราะยายขิมชอบเคนนะสิ
ฉันตัดสินใจอย่างนั้น ต้องใช่แน่ๆ ขิมต้องชอบเคนแน่ๆ
แต่ทำไมต้องทำท่าทางอย่างนั้นด้วยนะ ไม่เข้าใจ
แปลกคนจริงยายขิมเนี้ย
เมื่อลับร่างของชายหนุ่มแล้ว ขิมก็พูดขึ้น
“กลับกันเหอะ”  ฉันพยักหน้า ใช่แน่ๆ ต้องใช่แน่ๆ
แต่ทำไมฉันกลับรู้สึกช้าที่หัวใจอย่างนี้ 
ไม่ได้สิต้องสนับสนุนเพื่อน ฉันจะมาเห็นแก่ตัวไม่ได้
เพราะตั้งแต่คบกันมา ไม่เคยเห็นขิมเป็นอย่างนี้ซักครั้ง
แต่แหมทำไมฉันต้องทำอย่างนี้ด้วยนะไม่เข้าใจ???????
........
พอเลิกเรียนฉันกับชิเกะก็ไปเที่ยวสยามกัน
แหมก็ไม่รู้จะไปไหนดีนี้  ไปตากแอร์เย็นๆดีกว่า
เราเดินดูของไปเรื่อยๆ  ฉันก็ชักหิวแล้วสิ
“นี้ไปหาอะไรกินกันเถอะ ฉันหิวแล้ว”
“นี้  ผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ แนนไปก่อนเถอะ”
“ก็ได้ ที่ร้านนี้นะเร็วๆเข้าล่ะ”
“อืม”
ฉันเดินไปสั่งอาหารรอที่ร้านอาหารในห้างนั้น
ทำไมยังไม่มาอีกนะ นี้มัน ตั้งนานแล้วนะเนี้ย
ฉันชะเง้อมองที่ประตูร้านแต่ไม่มีวี่แววว่าชิเกะจะมาซักที
โอ้ยฉันอยากจะบ้าตาย  หลงรึเปล่านะ
ฉันนั่งรออีกซักพักแต่ชิเกะก็ยังไม่มา
ฉันรู้สึกเป็นห่วงมากๆ เลยจ่ายเงิน แล้วรีบออกจากร้าน
ยังไม่ได้กินซักคำ  เสียตังค์ไปเลยฟรีๆ ตั้งหลายร้อย ฮื่อๆๆ
ฉันเดินไปหาชิเกะที่ห้องน้ำแต่ก็ไม่เจอ
ทำไงดีเนี้ย โทรศัพท์หมอนั้นก็ไม่มี
ฉันแทบจะร้องไห้ออกมากลางห้างเลย
เมื่อไม่เจอเค้า  แม่จ๋าช่วยหนูด้วย
ชิเกะเดินกลับไปที่ร้านเมื่อทำธุระเสร็จ  แต่ก็ไม่เห็นแนน
อ้าวไม่ใช่ร้านนี้เหรอ  เขาเข้าไปถามพนักงาน
แล้วได้คำตอบว่า เธอออกไปแล้ว
อ้าว ทำไงดีล่ะเนี้ย  เขาเดินออกไปหาเธอ
แต่ก็ไม่เจอ  จึงกลับมารอที่หน้าร้านอาหารเหมือนเดิม
ฉันตัดสินใจเดินดูอีกรอบ 0_0
นั้นใช่ไหม ผู้ชายตัวสูงที่ยืนอยู่ตรงนั้นใช่ไหม 
“ชิเกะ!”  ฉันตะโกนเรียกออกไป  แล้วถอนใจอย่างโล่งอก
“แนน” เขายิ้มออกมาทันที
“ไปไหนมาน่ะ นึกว่านายหายไปแล้วซะอีก” ฉันแทบจะหัวเราะออกมาเลยที่เดียว
“ก็..พอกลับมาก็ไม่เห็นแนนแล้วเหมือนกัน  ขอโทษนะ” เขาก้มหัวให้ กลางห้างเลยอ่ะ
ฉันหันไปมองคนรอบๆ แหมที่อย่างนี้แล้วมองกันจังนะ
“ไม่เป็นไรหรอก  ฉันล่ะเป็นห่วงแทบแย่  ฉันว่านายควรมีโทรศัพท์ไว้นะ เผื่อจะได้ติดต่อสะดวก”
“ผมมีโทรศัพท์ แต่มันไม่มีสัญญาณนะ” เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา 0_0 อ่ะ แม่งโคตรสวยเลยอ่ะ หน้าจอใหญ่มากๆ  ไม่เห็นเหมือนของไทย
เลยอ่ะ  อ้า!เนี้ยแหละนะที่เค้าว่าญี่ปุ่นทันสมัยกว่าบ้านเราเยอะเหอะๆๆ หัวเราะอย่างแห้งแล้ง
ฉันอยากจะมีซักเครื่องจังแบบเนี้ย
โอ้ย อยากจะโยนโทรศัพท์ของตัวเองทิ้งลงถังขยะข้างๆนี้จัง
“งั้นเราไปซื้อซิมก็แล้วกัน จะได้ใช้ได้ดีไหมอ่ะ”
“เอางั้นเหรอ”
“อืมไปเหอะ ป่ะ ติดต่อนายยากจะตายไป”
“อืม” 
และแล้วเราก็ได้เบอร์ใหม่ของเค้า แหมเลขเหมือนกับของฉันเลย
เขาเอาซิมใส่แล้วฉันก็ลองโทรเข้า 
“นี้เบอร์ของฉันนะ  เอาไว้นายโทรหาฉันเท่านั้นนะ แล้วเบอร์ของนายเนี้ยห้ามให้สาวที่ไหนล่ะ”
ฉันนี้ชักจะยังไงยังไงอยู่นะเนี้ย
แหะๆก็ไม่รู้ล่ะ ถึงจะเป็นเงินของเค้าแต่ฉันเป็นคนพามาซื้อนี้นา
เขาหัวเราะกับคำพูดของฉัน 
ฉันกับชิเกะกำลังจะเดินออกจากห้าง
แต่แล้วสายตาของฉันก็เหลือบไปเห็น.....เคน!
อ้า!ทำไม ทั้งที่ฉันว่าจะไม่คิดอะไรกับเขาแล้วนะ
แต่พอมาเห็นเค้าเดินกับผู้หญิงอื่นอย่างนี้ก็อดจะเจ็บตรงนี้ไม่ได้
หัวใจของฉันมันช้าไปเลยทีเดียว 
3 ปีของฉัน มันพังทลายตรงหน้าเนี้ย
ทั้งๆที่พยายามตัดใจตั้งแต่รู้ว่ายายขิมชอบเคน
แต่นั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องจริงก็ได้นี้
ขิมอาจจะไม่ได้ชอบเคนก็ได้
ฉันอุตส่าห์ ยืดเวลาออกไปโดยไม่ถามยายขิม
แต่นี้ ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน
ฉันยืนนิ่ง  เอ๊ะ หรือกำลังเดินกันนะ
ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ฉันกำลังทำอะไร
รู้แต่ว่าสายตาของฉันจับจ้องที่คู่นั้นตลอดเวลา
“แนน!”  อยู่ๆก็มีคนมากระชากแขนของฉัน  ฉันเซไปตามแรงดึง
จนชนเขากับอกกว้างเข้า
ฉันยืนนิ่งอย่างนั้น  คิดอะไรไม่ออก
รถวิ่งตัดหน้าฉันไปอย่างหวุดหวิด
เกิดอะไรขึ้นเหรอ  ฉันมองชิเกะงง
หน้าตาของเขาตอนนี้ ทำไมดูเครียดจัง
แล้วฉันเป็นอะไร ทำไมหน้าของชิเกะถึงดูพร่ามัวอย่างนี้
หยาดน้ำตาไหลลงตามล่องแก้มอย่างไม่รู้ตัว
“เป็นอะไรรึเปล่า” ชิเกะถามอย่างเป็นห่วง 
ฉันตอบอะไรไม่ได้ ก็ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันเป็นอะไร และเกิดอะไรขึ้นกับฉัน
ฉันไม่ถอยออกจากอกกว้างนั้น แต่กลับซบลงแล้วร้องไห้เบาๆ
........................................
แหมไม่รู้จะพูดยังไงขอบคุณที่ติดตามนะค่ะ
ปลื้มจัง
อาจจะตกหล่นไปบ้างนะเพราะไม่ได้ทวนเลยไม่มีเวลาจริงๆขอโทษนะค่ะ
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้บ้างแล้วกันนะ^_^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น