ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : วันแรก...นักเรียนแลกเปลี่ยน!
ตอนที่2 วันแรก.....นักเรียนแลกเปลี่ยน!
หลังจากทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ดูเหมือนนายชิเกะจะได้ใจพ่อกับแม่ไปครองซะแล้ว
เห็นคุยกันถูกคอ  แถมให้เรียกพ่อแม่อีกด้วย  เฮ้อฉันกลายเป็นคนนอกไปทันที
ถึงจะชอบ นายนั้นยังไง แต่ก็ไม่พอใจเท่าไรที่พ่อกับแม่ทำอย่างกับฉันไม่ได้อยู่ที่นั้น ฉันเลยขอตัวขึ้นห้อง 
เอ๋ นายญี่ปุ่นนั้นนอนห้องไหนกันนะ
และด้วยความอยากรู้อยากเห็น ฉันเดินไปเปิดประตูห้องนอนที่ว่างอยู่เดิมเป็นของพี่ฉันแต่เค้าไปเรียนต่อต่างประเทศห้องก็เลยว่างอย่างที่
เห็น  ซึ่งติดกับฉันของฉันถัดไปจึงเป็นห้องนอนของพ่อกับแม่
อ้า ใช่จริงๆด้วย กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ใหญ่มากๆเลย วางอยู่บนเตียง ฉันเดินไปที่กระเป๋านั้น  มันเปิดกว้างอยู่ 
ไม่รู้เป็นไง ความอยากรู้อยากเห็นของฉันมันมีมากเหลือเกิน
ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่ถูกต้องที่จะทำอย่างนี้
แต่มันชนะ อ่ะนะขอโทษนะ ขอดูหน่อยเหอะ 
ฉันก้มลงไปดูของในกระเป๋า
อ้าเสื้อผ้าของผู้ชาย  0.O อ้ายบ๊อกเซอร์  ฉันรีบปิดกระเป๋า ลง
เมื่อกี้บ๊อกเซอร์ใช่ไหม  อ่าาาาา  ฉันเปิดกระเป๋าขึ้นดูอีกครั้ง
ถึงจะมีพี่ชายก็เถอะ  แต่ถึงไง ต้องดูอีกรอบ
บ๊อกเซอร์ของเด็กญี่ปุ่นมันจะเหมือนของไทยรึเปล่าน้าาาา
ฉันหยิบมันขึ้นมา  มันก็เหมือนกางขาสั้นทั่วไปนั้นแหละ เชอะ
ฉันโยนมันทิ้งลงไปที่เดิม
เสื้อผ้าไม่ค่อยเยอะหรอกนะ แต่ไหงผ้าขนหนูเยอะอย่างนี้
1    2  3  4  5  6 7 อ่ะ เช็ดผืน โอ้พระเจ้าจอร์ท มันเยอะมาก
ระหว่างที่ฉันรื้อของอยู่นั้นสายตาก็เหลือบไปเห็นอะไรสีส้ม
อ่ะ ลูกบาส เฮ้ย เอามาด้วยทำไมเนี้ย กลัวเมืองไทยไม่มีให้เล่นรึไงเนี้ย
ฉันเอามันกลับไปไว้ที่เดิม
ยังอดสงสัยไม่ได้ว่า ผู้ชายเขาไม่ใส่กางเกงในกันเหรอ ถึงใส่บ๊อกเซอร์นะ 
มันก็โล่งน่าดูนะสิ  อ้ายๆๆๆ ฉันคิดอะไรเนี้ย  ฉันหยิบบ๊อกเซอร์ขึ้นมาดูอีกรอบ
..............
เสียงประตูเปิดเข้ามาพอดี 
เฮ้ย ฉันรีบเอาบ๊อกเซอร์ซ้อนไว้ข้างหลัง
ทำไงดี ทำไงดี
“เอ่อ หวัดๆๆ หวัดดี แหะๆ” ฉันยิ้มแหย่ๆ  เขาเลิกคิ้วขึ้น
“มีอะไรเหรอครับ”
“อ่ะ อ๋อ เอ่อ ฉันมา..ดูความเรียบร้อยในห้องของนายนะ แหะๆ”
“อ๋อ” เขาพยักหน้า  ทำไงดี ไอ้บ๊อกเซอร์มันยังอยู่ในมืออยู่เลย
“เอ่อ.. ปิดประตูซะสิ”
“อ๋อครับ” ฉันรีบฉวยโอกาศนั้น โยนบ๊อกเซอร์ลงที่เดิม 
“ฉันไปก่อนนะ”  จากนั้นฉันก็รีบฉิ่งออกมาทันที
ตายแน่  นี้ถ้าเขาจับได้จะมีผลต่อเด็กและเยาวชนไทยยังไงถ้ารู้ว่าผู้หญิงไทยทำอย่างนี้  อ้ายๆๆตายแน่ๆๆ
..................
“ตื่น  ตื่นได้แล้วยายแนน นี้จะนอนไปถึงไหน ไม่ไปโรงเรียนรึไง ยายลูกขี้เกียจ”
“ฮื่อ แม่อ่ะ นาฬิกายังไม่ปลุกเลย”
“แล้วมันจะปลุกได้ไงในเมื่อแกไม่เคยตั้งมันนะ ตื่นได้แล้วสายแล้วนะ”
“ตื่นก็ได้”  ฉันลุกขึ้นอยากเกียจคร้าน  บิดตัวไปมา ทั้งที่ยังหลับตาอยู่ แม่เดินออกไปจากห้องแล้ว
“อ้าว ชิเกะแต่งตัวเสร็จแล้วเหรอ ดูสิยายแนนยังไม่ตื่นด้วยซ้ำ  นี้ยายแนนเร็วๆนะ” เสียงของแม่ดังขึ้นอยู่ข้างหน้าห้อง
แม่อ่ะจะบอกทำไมว่าฉันเพิ่งตื่นไม่นึกว่าลูกจะอายบ้างรึไงกัน เฮ้อแม่นะแม่
ฉันรีบกระโดดลงจากเตียง  ไม่ได้ไม่ได้คราวหน้าต้องตื่นเช้า จะมาให้นายญี่ปุ่นนั้นตื่นก่อนไม่ได้ ไม่ยอมหรอก
ฉันรีบวิ่งลงไปข้างล่าง  เสียงพูดคุยกันอย่างสนุกสนานในโต๊ะอาหาร  และเสียงหัวเราะที่ดังไม่ขาดสาย นี้บ้านฉันเกิดอะไรขึ้นเนี้ย
“อ้าวมาแล้วเรอะ เร็วๆจะได้รีบไปโรงเรียน ช้าตลอดเลยลูกคนเนี้ย”
“ค่าาาาาาาาาา”  ฉันทำเสียงยานคางแล้วนั่งลงข้างชิเกะ
“สวัสดีตอนเช้าครับ”  0_o  ว่ะฮะฮ้า อะไรนะ สวัสดีตอนเช้า  นายไปเรียนภาษาไทยที่ไหนว่ะ เชยเป็นบ้า ฮ้าๆๆๆๆ
“อ่ะ    อืม สวัสดี”  จากนั้นฉันก็ตั้งหน้าตั้งตากินๆๆๆ
“อ้าวไม่กินล่ะ” ฉันหันไปถาม ชิเกะ
“ผมทานแล้ว” 
“อืม”  แล้วฉันก็กินต่อโดยไม่มองแม่เลยซักนิดว่าส่งสายตาพิฆาตมาให้ฉันทานเร็วๆ
“อ้า อิ่มจัง ไปแล้วนะค่ะ” ฉันดันจานออกจากตัวแล้วลุกขึ้น พรางเก็บจานไปไว้ที่ล้างจาน แล้วเดินไปหน้าบ้าน
“อ่ะสายแล้ว”  ฉันเตรียมใส่เกียร์หมา ถ้าไม่มีใครมาสะกิดไว้ก่อน
“ทำไมเหรอ”
“ไปกันเถอะครับ”  o_0 ห๋าว่าไงนะ อ๋อใช่ๆๆลืมซะสนิทเลย  แม่เดินมาหน้าบ้าน
“ดูแลชิเกะด้วยนะ”
“ค่ะ  ป่ะไปกันเหอะ”  ฉันเดินออกจากตัวบ้านอย่างรีบเร่ง มีชิเกะเดินตามมาอย่างช้าๆ
“เฮ้ เร็วหน่อยสิ โรงเรียนจะเข้าแล้วนะ” 
“อ่ะครับ”  จากนั้นเขาก็เดินขึ้นมาขนาบข้างของฉัน และเดินแซงหน้าไป
โหเดินเร็วเป็นบ้าเลย  ฉันวิ่งตามไปจนทัน
“โหนายทำไมถึงได้เดินเร็วอย่างนี้”
“อ่ะขอโทษครับ ที่ญี่ปุ่นเค้าเดินกันอย่างนี้แหละ”
“แต่นี้มันประเทศไทย  นายต้องเดินรอฉันด้วยเข้าไจ๋”
“อ๋อ”    อืมเข้าใจก็ดี แต่เค้าก็ยังเดินเร็วอยู่ดีนั้นแหละ ถึงจะช้ากว่าเดิมก็ตาม
“นี้ชิเกะ นายอยู่ ม.5 ใช่ไหมอ่ะ ”
“อืม”
“แล้วนายอยู่ห้องไหนอ่ะ ฉันจะได้ไปส่งถูก”  แหมทำไมเวลาพูดกับนายนี้ถึงปวดคออย่างนี้นะ 
เขาค้นกระเป๋า แล้วหยิบสมุดเล่มเล็กขึ้นมา
“อืม ห้อง1 ครับ” โหเก่งไม่เบาแฮะ ห้องหนึ่ง เชอะฉันก็อยู่ห้องหนึ่งล่ะนะ เห็นฉันอย่างนี้ก็เหอะ 
“อืม”    เราเดินไปจนถึงโรงเรียน  ไม่เชิงเดินหรอก กึ่งวิ่งกึ่งเดินต่างหาก
โรงเรียนอยู่ไม่ไกลจากบ้าน เดินไปได้
แต่เมื่อวานฝนตกฉันเลยต้องขึ้นรถเมล์
ทั้งๆที่ไม่ค่อยชอบซักเท่าไหรเลย   
เด็กผู้หญิงหลายคนที่ยืนอยู่หน้าโรงเรียนต่างๆพากันมองมาที่ฉันกันหมด
อ่ะฉันลืมหวีผมหรือไง
“แนน ”  ขิมเพื่อนของฉันเรียกขึ้น  เรามีกันอยู่ 3 คน ฉัน ปาน ขิม สามสาวซ่า 
“หวัดดีขิม แล้วปานล่ะ” ฉันหันไปยิ้มให้กับเพื่อน
“ไอ้ปานนะเหรอ มันไปเอาของที่ห้องนะ แล้วนั้นใครมากับแกเหรอ น่ารักดีนะ”
“อ๋อ ฮั่นแน่ นี้ชิเกะ จะมาอยู่บ้านของฉัน หนึ่งเดือน  อ่ะชิเกะนี้เพื่อนฉันชื่อ ขิม”
“สวัสดีครับพี่ขิม” เขายิ้มอายๆ อ้ายยยทำไมทีกับฉันไม่เห็นเป็นงี้มั่ง
“สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะค่ะ  เฮ้ยแกเป็นคนญี่ปุ่นใช่ม่ะ”
“อืม” ฉันตอบไป 
เสียงออดดังขึ้น  สายตาหลายๆคู่ยังจับจ้องมาทางที่พวกเรายืนอยู่
คงเป็นเพราะชิเกะแน่ๆ
ก็เขาออกจะเหมือนพระเอกการ์ตูนญี่ปุ่นที่พวกเราชอบอ่านกันนักล่ะ 
ทั้งสูง หล่อ ทรงผมรึก็กินใจ โอ้ย ใจละลายใจละลาย
รู้สึกดีไม่ใช่น้อยที่มีคนหล่อๆเดินใกล้ๆ
ฮ้าๆๆ หัวเราะอย่างมีชัย 
พวกเราเดินไปเข้าแถว  แล้วนายนั้นจะไปเข้าแถวที่ไหนล่ะเนี้ย
ฉันเห็นเขายืนเกๆกังๆ เลยเดินเข้าไปจูงมือเขามายืนด้วยกัน
“ไปกับฉันก่อนนะ แล้วจะไปส่ง”  เขายิ้มแล้วพยักหน้า
ใบหน้าแดงก่ำไปจนถึงหู  โอ้ยคนอะไรว่ะน่ารักเป็นบ้าเลย 
“นริศรา ” เสียงอาจารย์ประจำชั้นดังขึ้นข้างหลัง 
“ขาาาา” 
“เธอพาใครมานะ โรงเรียนนะไม่ใช่ที่เล่น”
“โธ่อาจารย์ขา  เปล่าซักหน่อย  นี้นะนักเรียนแลกเปลี่ยนต่างหาก”
“อ้าว แล้วทำไมไม่พาไปที่ห้องล่ะ”
“เดี๋ยวว่าจะพาไปค่ะ”
“อืม” อาจารย์ของฉันเนี้ยบมากค่ะ  ขอย้ำเนี้ยบและโหดดดดดดดดด
พอเข้าแถวเสร็จเสียงฮือฮาก็ดังขึ้น  ทุกคนพากันพูดถึงผู้ชายที่อยู่ข้างๆฉัน 
โอ้ยฉันพลอยมีหน้ามีตาไปด้วย
“ยายแนน นั้นใครนะ” เพื่อนในห้องต่างพากันลุ่มถามฉัน
“เดี๋ยวค่อยบอกนะ ฉันพาเค้าไปส่งก่อน” แล้วฉันก็ชิ่งหนีทันที
“นี้คือตึกของนักเรียนวิทย์  อีกตึกคือพวกศิลป์  เราจะแยกกัน นายมีปัญหาอะไรไหม”
“แล้วแนนเรียนที่ไหนเหรอ”
“แล้วนายคิดว่าที่ไหนล่ะ”
“ไม่รู้สิ ก็ผมถาม ไม่ใช่ให้ถามผมกลับซักหน่อย”
“ฉันเรียนตึกเดียวกับนายนั้นแหละ ไปเหอะ เดี๋ยวไม่ทันเข้าเรียน”
ฉันรีบคว้ามือของเขาวิ่งขึ้นบนตึกเรียนชั้น 3
แฮ็กๆๆ  เหนื่อยเป็นบ้าเลย 
“ขออนุญาตินะค่ะ”  ฉันเดินผ่านประตูห้องพักครูเข้าไปอย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยชิเกะ
“เอ่ออาจารย์คะ  หนูพานักเรียนแลกเปลี่ยนมาส่งคะ”  ฉันไปยืนตรงหน้าอาจารย์ปิง
อาจารย์ประจำชั้นของม.5/1  เมื่อปีที่แล้วแกก็เป็นอาจารย์ของฉันเองแหละคะ
เราค่อนข้างจะซี้กัน
“อ้าว มาแล้วเหรอ เธอใช่ไหมที่เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ที่ชื่อ ชิเกะกิ  ซาโต้”
“ครับ” เขาโค้งให้อาจารย์แบบที่เห็นในทีวี ที่พวกญี่ปุ่นชอบทำกันนักแหละ
“มาส่งแล้วหนูไปได้แล้วใช่ไหมคะ”
“ยังก่อน  ทำไมถึงมาด้วยกันได้ล่ะแนน” อาจารย์ปิงถามฉัน
“อ๋อ ชิเกะเค้าพักบ้านหนูค่ะ”
“เหรอดีจังนะ งั้นครูก็ฝากดูแลเค้าด้วยแล้วกัน มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน”  ทำไมทุกคนถึงต้องให้ฉันดูแลด้วยนะ
นายนั้นนะดูแลตัวเองได้อยู่หรอก 
ไม่อยากจะอยู่ใกล้เท่าไรหรอกนะ เดี๋ยวอดใจไม่ไหว 
แล้วจะหาว่าไม่เตือน คิกๆๆ(หัวเราะแบบนางมาร)
“ค่ะ” แต่ก็ต้องตอบไปอย่างเสียไม่ได้ 
“งั้นหนูไปแล้วนะคะ สวัสดีคะ”
“เดี๋ยวก่อน  เธอช่วยพานายชิเกะไปส่งหน่อยสิ อาจารย์มีสอนห้องอื่นนะ”
“ได้ค่ะ งั้นไปกันเถอะ” โอ้ยเร็วๆหน่อยเหอะ วันนี้วิชาคณิตสุดโปรดของฉันกำลังจะสอนแล้วนะ 
เมื่อออกจากห้องนั้นแล้ว ฉันก็เดินตรงไปยังห้องเรียนของชั้นม.5 
ชิเกะที่ดูไม่ทุกข์ร้อนอะไร เดินตามมาอย่างช้าๆ  ฉันซะอีกที่หันไปเร่งอยู่บ่อยๆ
“แนน” ชิเกะเรียกฉัน  ถึงจะห่างกันแค่ปีเดียวนายควรจะเรียกฉันว่าพี่นะ ไอ้หน้าขาว
“ทำไมเหรอ~~”
“ทำไมต้องทำหน้าอย่างนั้นด้วย ผมแค่จะถามว่าต้องทำยังไงบ้างเวลาเข้าไปในห้องนะ”
“โอ้ยไม่ยากหรอก นายก็แค่เดินเข้าไปแล้วก็แนะนำตัว แค่เนี้ยแหละ แล้วตอนเที่ยงฉันจะมาหานะ ไม่ต้องห่วงหรอก” 
ใบหน้าหล่อๆของเขาคลายความกังวลลงไปเยอะ  แล้วก็ยิ้มน้อยๆ อย่างน่ารัก
ทำเอาฉันอยากเข้าไปหยิกแก้มขาวๆของเขาจัง
“ถึงแล้ว นี้ห้องนายนะ .. ขออนุญาติค่ะ”
“เชิญ”  อาจารย์ในห้องอนุญาติให้เราเข้าไปข้างใน 
“สวัสดีค่ะ หนูมาส่งนักเรียนแลกเปลี่ยนค่ะ” ฉันหันไปยิ้มให้ชิเกะอย่างให้กำลังใจ 
เห็นใบหน้าที่ประหม่า และดูจะอายๆที่ต้องมายืนอยู่หน้าชั้นเรียนอย่างนี้
“นี้ฉันไปล่ะนะ โชคดี  เฮ้ออย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ สู้ๆ”  เขายิ้มให้ฉันแล้วพยักหน้า
ฉันเดินออกมานอกห้อง ได้ยินเสียงแนะนำตัวของชิเกะแว่วออกมา และเสียงกรีดกราด ของเด็กนักเรียนหญิง 
ฉันก้มดูนาฬิกา อ้ายตายแล้ว ฉันรีบวิ่งไปที่ห้องเรียนอย่างรวดเร็ว
เพื่อนๆในห้องต่างหันมาหาฉันเป็นแถว เมื่อฉันเปิดประตูเข้าไป โชคดีที่อาจารย์ยังไม่เข้า
“นี้ยายแนน เด็กผู้ชายที่มากับเธอนะใคร”
“ใช่ๆ น่ารักจังเลยหน้าอย่างกับเด็กญี่ปุ่น”
“แล้วชื่ออะไรเหรอ”
“เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งถามทีล่ะคนสิ ฉันฟังไม่ทัน”
“ชื่ออะไรเหรอคนนั้นนะ”
“ชื่อ ชิเกะ”
“คนญี่ปุ่นเหรอ”
“อืม”
“อุ้ย จริงเหรอมิน่า คนอะไรน่ารักจัง”
“อยู่ม.อะไรเหรอไม่ได้อยู่ม.เดียวกันเราเหรอ”
“ม.5 แล้วจ๊ะ พอแล้วเลิกถามได้แล้ว”
“โธ่ บอกมาก่อนว่าเค้ามากับเธอได้ไง”
“เค้ามาพักที่บ้านฉัน พอแล้วนะไม่ต้องถามแล้ว”
“จริงเหรอ ดีจัง” 
ฉันเดินไปนั่งที่โต๊ะอย่างไม่สนใจคำตอบของเพื่อน
นั้นสินะ ดีจัง แต่ก็นะหยุดทำหน้าตาเพ้อฝันอย่างนั้นได้ไหมยายเพื่อนบ้า
คิดถึงเมื่อวานนี้จังที่อยู่บนรถเมล์  ยังอุตส่าห์ ชอบ ดันอายุน้อยกว่าซะนี้เฮ้อ ถอนหายใจอย่างสุดเซ็ง  ฉันไม่ชอบคนอายุน้อยกว่าหรอกนะ 
มันเหมือนโคแก่กินหญ้าอ่อน
ทั้งที่นั่งเรียนวิชาที่ฉันชอบที่สุดแต่ทำไมมันถึงไม่เข้าหัวเลยซักนิดนะ
ในใจก็คิดถึงแต่นายนั้น จะเป็นไงบ้างนะ ชิเกะ
พอพักเที่ยงฉันก็พุ่งไปที่ประตูทันที
“เฮ้ย ไอ้แนนจะไปไหนว่ะ ปวดฉี่เหรอ”  ขิมตะโกนถาม ขณะเก็บของ
“ไปหาชิเกะ  แกไปกินข้าวกันเลยนะเว้ย เดียวฉันตามไป”  ฉันไม่รอฟังคำตอบของเพื่อนรีบออกจากห้องไปทันที
“นี่ชิเกะ ทางนี้”  ฉันเรียกชิเกะอยู่หน้าห้องของเขา  เขาหันมายิ้มอย่างสดใสในกลุ่มเด็กผู้หญิงที่กำลังรุมถามเขาอยู่
“อ้าแนน ”
“ไปกินข้าวกันป่ะ”  ฉันเดินเข้าไปเมื่อเห็นว่าเค้าคงออกมาไม่ได้แน่
ต้องใช่อำนาจขู่พวกรุ่นน้องที่ยืนเกาะเขาไม่ยอมปล่อยซะหน่อย
“นี้ปล่อยได้แล้วจ๊ะ ชิเกะจะได้ไปกินข้าว” นี้เค้าเรียกว่าขู่เหรอย่ะยายแนน
“โธ่พี่แนนน่ะ เดียวพวกหนูพาไปเองก็ได้ค่ะว่ากำลังจะไปกันพอดี”  ยายเชอร์รี่ รีบบอก
“โอ๊ะไม่ได้หรอก เดียวพี่พาไปเอง ไปเถอะ” ฉันจับมือชิเกะ แล้วลากออกมาทันที
ดูเจ้าของมือที่ฉันจับอยู่จะไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย  เขาเดินตามมาเงียบๆ
มันเงียบเกินไปจนฉันต้องหันไปมอง
โอ้พระเจ้าจอร์จ  เค้าอายอ่ะ  แก้มเงี้ยแดงไ ปจนถึงหู  สายตาของเขาจ้องไปที่มือที่ฉันจับมือของเขาอยู่ 
ฉันรีบปล่อยทันที อย่างกับมันเป็นของร้อน
นายนี้เล่นไสยศาสตร์รึไง  อึ้ย น่ากลัว
ฉันเลยพูดอะไรไม่ออก คนที่ต้องอายมันฉันไม่ใช่เหรอ
แล้วตานั้นอายหาพระหอกอะไร
แต่นั้นทำให้หัวใจฉันเต้นตึกๆๆๆ โอ้ยเป็นบ้าอะไรไปเนี้ยยยยยยยยย
ฉันรีบหันหลังแล้วเดินไปโรงอาหาร
หวังว่าเค้าจะเดินตามมานะ
ฉันสัญญาเลย จะไม่จับมือของเขาอีกแล้ว
เมื่อถึงโรงอาหารฉันก็กวาดสายตา สแกนหาเพื่อนตัวดีทั้งสอง
นั้นไง ฉันรีบเดินตรงเข้าไป 
คนในโรงอาหารหันมามองทางฉันกันหมด
รู้สึกแปลกๆชอบกล 
มองอะไรย่ะ  หันไปเซ่
ฉันรีบนั่งลงที่โต๊ะ  ชิเกะหยุดยืนข้างๆ
“สวัสดีครับพี่ขิม พี่ปาน”
“นั่งสิ” ฉันบอกชิเกะไปอย่างหงุดหงิด 
เห็นเขาทำหน้าหง่อยๆ  โอ้เริ่มสำนึกผิด  ใบหน้าของเขาตอกย้ำอย่างกับฉันทำผิดมากซะงั้นแหละ  ทำไงดีล่ะ
“จะกินอะไรดีเดี๋ยวฉันไปสั่งให้”  ฉันพยายามพูดเพราะและเอาใจที่สุด ในชีวิต
เขาส่ายหน้า
“ไปดูก่อนก็ได้  ป่ะ”  ฉันกับเขาลุกขึ้น เขาเดินตามมาไม่ห่าง
“โห อาหารเยอะจัง อันนี้เค้าเรียกอะไรอ่ะ”  เขาชี้ไปที่แกงเขียวหวาน
“แกงเขียวหวาน ลองกินดูไหม”  เขาพยักหน้า
“ป้าค่ะเอาแกงเขียวหวานจานหนึ่งค่ะ แล้ว ของหนูข้าวมันไก่เหมือนเดิมนะค่ะ”
เหมือนเดิมก็คือไม่เอาหนังไก่ค่ะ    ไม่นาน ข้าวร้อนก็ถูกส่งมาถึงมือเรา
“อร่อยไหม” ฉันถามเขาที่ตั้งหน้าตั้งตากิน
“อืม”
“ขิมเดี๋ยวเราเรียนอะไรต่ออ่ะ”
“เธอนี้ไม่เคยจำเลยนะ เรียนอังกฤษ”
“อ้าาาาาาา อังกฤษเหรอ”
“แค็กๆๆ ” ชิเกะสำลัก เพราะได้ยินเสียงของฉัน 
“0_0เป็นอะไรรึเปล่า” เขาส่ายหน้า รีบดื่มน้ำเข้าไปอึกใหญ่ 
ฉันอดจะขำไม่ได้  ไม่ว่าเขาทำอะไรก็ดูจะน่ารักไปหมด
แก้มขาวๆของเขา ชมพูนิดๆ เพราะอากาศร้อน  เหงื่อที่ออกตามไรผมไหลลงมาลงมาช้าๆ  ฉันหยิบผ้าเช็ดหน้าไปเช็ดให้อย่างลืมตัว
เขานิ่งไปทันที  แล้วหน้าก็แดงอีกแล้ว
โอ้ยยยยย ใครก็ได้ตัดมือฉันทิ้งที ทำไมมันทำอะไรไม่คิดทุกที
ขิมกับปานก็นิ่งไปเหมือนกัน  บรรยากาศมันอึดอัดมากๆเลย
“เอ่ออิ่มแล้วใช่ไหมเอาจานไปเก็บกันเหอะ”
ยายสองตัวนั้นรีบตอบรับทันที 
ชิ่งๆๆ  ฉันรับรู้ถึงสายตาคมกริบของยายสองคนนั้น
“ฉันไปส่งชิเกะก่อนนะ แกไปที่ห้องเลยก็แล้วกัน”  ฉันรีบออกตัวแล้วเดินลิ่วๆไปห้องของชิเกะ  หารู้ไม่ว่า หายนะกำลังจะเกิดในไม่ช้า
ชิเกะเดินตามมาไม่พูดซักคำ
ฉันรู้สึกผิดจังเลย  ไม่เป็นไรวันนี้ฉันจะพานายไปเลี้ยงไอติมก็แล้วกัน
“ตอนเย็นฉันจะเลิกช้าหน่อยนะ นายไปรอที่ประตูโรงเรียนได้ไหม” เขาพยักหน้า
“อืมงั้นฉันไปเรียนก่อนนะ ตั้งใจเรียนล่ะ”
“ครับ” 
แปลกมากๆ เมื่อฉันกลับไปถึงห้อง ยายสองคนนั้นไม่ถามอะไรฉันซักคำ
โอ้ๆๆๆ มันรางไม่ดีเลยแหะ
ยิ่งยายพวกนี้เงียบแสดงว่าต้องมีอะไร
คนอย่างไอ้ขิมนะเหรอไม่มีทางจะเงียบได้หรอก มันนะขวานผ่าซากจะตาย
“กลับกันเหอะ” ยายปานยืนขึ้นเมื่อเก็บของเสร็จ ส่วนฉันก็เสร็จแล้วเหมือนกัน
“Let’s go” ยายขิมพูด 
“ไปดูหนังกันเหอะไม่ได้ดูนานแล้ว” ขิมเดินมาเกาะไหล่เราทั้งสอง
“เย้ๆๆไปๆ” ยายปานรีบตอบ ฉันไม่เห็นแกปฏิเสธสักทีไม่ว่าชวนไปไหนก็เหอะ
“ไม่ได้หรอก ฉันไปไม่ได้  พวกแกต้องเข้าใจนะ ฉันยังมีภาระ”
“ภาระอะไรของแกว่ะ” ขิมหันมาถาม
“ก็ชิเกะไงล่ะ”
“ให้ไปด้วยก็ได้นี้”
“ไม่ดีกว่า เค้าคงเหนื่อย พากลับบ้านดีกว่า พวกแกก็ไปกันสองคนสิ นะนะ”
โกหกหน้าตายเลยฉัน ก็จะพาตานั้นไปกินไอติมนี้นา ขอโทษนะเพื่อนไม่อยากเอาไปเป็นก้างว่ะ เดียวมันติดคอ แหะๆๆ
“แกนี้มันชักจะยังไงยังไงแล้วนะ มีอะไรรึเปล่า”  แน้ยายขิมทำหน้ารู้ทันอีกแล้ว
“เปล่าซะหน่อย”
“ให้มันจริงเหอะ”
“จ้าาาาา  งั้นฉันไปก่อนนะ บ๊ายบาย”  ฉันโบกมือบายบายแล้ววิ่งตรงไปหาชิเกะ
ผู้ชายที่ดูโดดเด่นยืนอยู่ข้างๆประตูโรงเรียนได้อย่างน่าประหลายใจ 
ทำให้ฉันคิดถึงการ์ตูนญี่ปุ่นที่ชอบอ่านบ่อยๆ
อย่างกับยืนรอแฟนอย่างนั้นแหละ แหะๆ คิดไปโน้น
“ไปกันเหอะ วันนี้ฉันจะพานายไปกินไอติม”
“ไอติม?”
“ไอศกรีมนะ  ไปนะร้านนี้อร่อยมากๆเลย” 
เขาเดินคู่ฉันมาไม่พูดจาอะไร
เขาคิดอะไรอยู่นะ  ฉันมองใบหน้าของเขาอย่างค้นคว้า
ผมที่ปกคลุมปิดบังดวงตาสวยไปจนไม่อาจมองเห็นได้ว่าเค้าคิดอะไรอยู่
“อร่อยใช่ไหมล่ะ”  ฉันถามเขาเมื่อเห็นเขากินจนหมดถ้วย
“อืม อร่อยมาก” 
ฉันเพิ่งสังเกตุว่าเค้าพูดน้อยมาก  แทบจะไม่พูดเลยถ้าฉันไม่ถาม
น้ำเสียงที่ฟังดูไม่ค่อยชัดเท่าไรนัก  แต่ก็ถือว่าเก่งทีเดียวที่พูดไทยได้
ฉันอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นมั่งจัง 
“แนน”
“หืม ทำไมเหรอ”  ฉันมองหน้าเค้าเหมือนเค้าต้องการจะพูดอะไรแต่ก็เงียบไปซะงั้น
“ว่าไงเหรอ” ฉันถามซ้ำ แต่สายตาดันเหลือบไปเห็นยายขิมกับยายปานเดินผ่านร้านพอดี
“นี้นั่งลงเร็ว”      ฉันดึงชิเกะลงใต้โต๊ะทันที  สายตาจับจ้องไปที่ขิมกับปาน  ภาวนาว่าพวกนั้นจะไม่เห็นเรา   
ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ลมอุ่นๆที่เป่ารดต้นคออยู่นี้
เป็นลมหายใจของหนุ่มน้อยที่นั่งข้างๆฉัน
เพราะมัวแต่กลั้นหายใจอยู่ตอนที่พวกนั้นเดินผ่านไป
มือที่กำแน่น บีบมือใหญ่ๆแต่นุ่มซะไม่มีของเขาอย่างลืมตัว
ฉันถอนใจอย่างโล่งอก
0_0  อ้ายยยยยยย ฉันทำอะไรไปอีกเนี้ยยยยยยยยย
ฉันรีบปล่อยมือแล้วลุกขึ้นยืนทันที
คราวนี้ไม่ใช่แต่ชิเกะเท่านั้นที่หน้าแดง ฉันว่าของฉันก็คงแดงไม่แพ้กัน
มีอย่างที่ไหน บีบมือเค้าซะแน่นเชียว
ฉันพยายามหายใจช้าๆ ให้เสียงหัวใจที่เต้นถี่ๆอยู่นี้เต้นช้าลง
“ขอโทษ” กว่าจะพูดคำนี้ออกไปได้มันช่างอยากเย็นเหลือเกิน
“ไม่เป็นไร”  เขายิ้มให้กำลังใจ ทั้งๆที่ฉันว่ามันต้องเป็นอะไรแน่
ก็ดูหน้าเขาสิไม่ยอมหายแดงเลย 
ฉันจะยกประโยชน์ให้แดดล่ะนะที่ทำให้ผิวหน้าเขาแดงอย่างนี้ 
พอถึงบ้านฉันก็รีบขึ้นห้องทันที
เฮ้อ วันนี้ฉันเป็นอะไรไปเนี้ย
ฉันกระโดดไปนอนแผ่อยู่บนเตียง
อยากจะกรี๊ดดังๆฉันเป็นอะไรไปเนี้ยยยยยยยยยยยยยยยยย
ใครรู้ช่วยบอกที!!!!!!!
“กี่โมงแล้วเนี้ย” ฉันลืมตาขึ้นมา 
o_o 0_o อ้ากกกกกกกก
ตีสอง  เฮ้ย อะไรฟ่ะ ทำไมแม่ไม่เรียกมั่ง
ขายหน้าชะมัด  ฉันรีบกระโดดลงจากเตียงวิ่งไปเอาผ้าเช็ดตัวแล้วพุ่งไปที่ห้องน้ำทันที
เฮ้อค่อยสบายตัวหน่อย 
เฮ้ย ชุดชั้นในหายไปไหนหว่า  เมื่อกี้ก็เอามาอยู่นี้นา
ฉันหยิบผ้าเช็ดตัวขึ้นมาพันตัว  ไปเปลี่ยนที่ห้องก็ได้
ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำ
อ๊ะ ..นั้นไงอยู่นั้นไง ฉันมองชุดชั้นในที่อยู่ในมือของชิเกะ
เฮ้ย ฉันอ้าปากค้าง    ก้มมองตัวเอง แล้วเงยหน้าดูชิเกะ  ก้มดูตัวเองอีกครั้งแล้วก็ดูหน้าชิเกะ ..
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” 
“คราวหน้าก็หัดระวังหน่อยนะยายแนน โทษชิเกะเค้าก็ไม่ได้ ตัวเองนั้นแหละผิด”
“ค่ะ” ฉันพยักหน้าอย่างเข้าใจ
ก็แหมใครจะไปคิดล่ะว่าตีสองจะมีคนออกมาเข้าห้องน้ำ
และทุกทีก็ไม่เคยเป็นอย่างนี้นี่นา
“ไปนอนได้แล้ว ชิเกะด้วยไม่มีอะไรหรอก แนนเค้าก็เป็นของเค้าอย่างนี้แหละ”
อย่างนี้นะมันอย่างไหนกันแม่ พูดให้มันดีๆหน่อยดิ
ฉันเดินขึ้นไปบนห้องพร้อมๆกับชิเกะ
“ขอโทษนะ” ชิเกะพูดขึ้นตอนที่เดินขึ้นบันได
“ฉันต่างหากล่ะที่ไม่ระวังเอง ขอโทษล่ะกัน”  โอ้ยไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนไอ้แนนเอ๋ย
“ผมไม่ได้ตั้งใจ คือ คือ เอ่อ คือผมไม่รู้ว่ามันเป็นชุดชั้นในของคุณ เห็นมันตกอยู่ก็เลยเก็บขึ้นมาเท่านั้นเอง”  ไม่ต้องย้ำก็ได้ไม่รู้จะพูดหาพระ
แสงอะไร หน้าฉันไปอยู่ไหนแล้วเนี้ย
“อือ ฝันดีนะ” ฉันเดินเข้าห้อง หลังจากบอกเค้าไป
“ฝันดี”  เขาตอบกลับมาด้วยเสียงเบาๆ เป็นเพราะเขารู้สึกผิดรึเปล่า
 
..................................
ว้าทำไมไม่มีคนเมนเลยอ่ะ
ถึงยังไงแค่อ่านก็มีความสุขแล้วแต่ถ้าเมนด้วยจะยิ่งดี
หลังจากทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ดูเหมือนนายชิเกะจะได้ใจพ่อกับแม่ไปครองซะแล้ว
เห็นคุยกันถูกคอ  แถมให้เรียกพ่อแม่อีกด้วย  เฮ้อฉันกลายเป็นคนนอกไปทันที
ถึงจะชอบ นายนั้นยังไง แต่ก็ไม่พอใจเท่าไรที่พ่อกับแม่ทำอย่างกับฉันไม่ได้อยู่ที่นั้น ฉันเลยขอตัวขึ้นห้อง 
เอ๋ นายญี่ปุ่นนั้นนอนห้องไหนกันนะ
และด้วยความอยากรู้อยากเห็น ฉันเดินไปเปิดประตูห้องนอนที่ว่างอยู่เดิมเป็นของพี่ฉันแต่เค้าไปเรียนต่อต่างประเทศห้องก็เลยว่างอย่างที่
เห็น  ซึ่งติดกับฉันของฉันถัดไปจึงเป็นห้องนอนของพ่อกับแม่
อ้า ใช่จริงๆด้วย กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ใหญ่มากๆเลย วางอยู่บนเตียง ฉันเดินไปที่กระเป๋านั้น  มันเปิดกว้างอยู่ 
ไม่รู้เป็นไง ความอยากรู้อยากเห็นของฉันมันมีมากเหลือเกิน
ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่ถูกต้องที่จะทำอย่างนี้
แต่มันชนะ อ่ะนะขอโทษนะ ขอดูหน่อยเหอะ 
ฉันก้มลงไปดูของในกระเป๋า
อ้าเสื้อผ้าของผู้ชาย  0.O อ้ายบ๊อกเซอร์  ฉันรีบปิดกระเป๋า ลง
เมื่อกี้บ๊อกเซอร์ใช่ไหม  อ่าาาาา  ฉันเปิดกระเป๋าขึ้นดูอีกครั้ง
ถึงจะมีพี่ชายก็เถอะ  แต่ถึงไง ต้องดูอีกรอบ
บ๊อกเซอร์ของเด็กญี่ปุ่นมันจะเหมือนของไทยรึเปล่าน้าาาา
ฉันหยิบมันขึ้นมา  มันก็เหมือนกางขาสั้นทั่วไปนั้นแหละ เชอะ
ฉันโยนมันทิ้งลงไปที่เดิม
เสื้อผ้าไม่ค่อยเยอะหรอกนะ แต่ไหงผ้าขนหนูเยอะอย่างนี้
1    2  3  4  5  6 7 อ่ะ เช็ดผืน โอ้พระเจ้าจอร์ท มันเยอะมาก
ระหว่างที่ฉันรื้อของอยู่นั้นสายตาก็เหลือบไปเห็นอะไรสีส้ม
อ่ะ ลูกบาส เฮ้ย เอามาด้วยทำไมเนี้ย กลัวเมืองไทยไม่มีให้เล่นรึไงเนี้ย
ฉันเอามันกลับไปไว้ที่เดิม
ยังอดสงสัยไม่ได้ว่า ผู้ชายเขาไม่ใส่กางเกงในกันเหรอ ถึงใส่บ๊อกเซอร์นะ 
มันก็โล่งน่าดูนะสิ  อ้ายๆๆๆ ฉันคิดอะไรเนี้ย  ฉันหยิบบ๊อกเซอร์ขึ้นมาดูอีกรอบ
..............
เสียงประตูเปิดเข้ามาพอดี 
เฮ้ย ฉันรีบเอาบ๊อกเซอร์ซ้อนไว้ข้างหลัง
ทำไงดี ทำไงดี
“เอ่อ หวัดๆๆ หวัดดี แหะๆ” ฉันยิ้มแหย่ๆ  เขาเลิกคิ้วขึ้น
“มีอะไรเหรอครับ”
“อ่ะ อ๋อ เอ่อ ฉันมา..ดูความเรียบร้อยในห้องของนายนะ แหะๆ”
“อ๋อ” เขาพยักหน้า  ทำไงดี ไอ้บ๊อกเซอร์มันยังอยู่ในมืออยู่เลย
“เอ่อ.. ปิดประตูซะสิ”
“อ๋อครับ” ฉันรีบฉวยโอกาศนั้น โยนบ๊อกเซอร์ลงที่เดิม 
“ฉันไปก่อนนะ”  จากนั้นฉันก็รีบฉิ่งออกมาทันที
ตายแน่  นี้ถ้าเขาจับได้จะมีผลต่อเด็กและเยาวชนไทยยังไงถ้ารู้ว่าผู้หญิงไทยทำอย่างนี้  อ้ายๆๆตายแน่ๆๆ
..................
“ตื่น  ตื่นได้แล้วยายแนน นี้จะนอนไปถึงไหน ไม่ไปโรงเรียนรึไง ยายลูกขี้เกียจ”
“ฮื่อ แม่อ่ะ นาฬิกายังไม่ปลุกเลย”
“แล้วมันจะปลุกได้ไงในเมื่อแกไม่เคยตั้งมันนะ ตื่นได้แล้วสายแล้วนะ”
“ตื่นก็ได้”  ฉันลุกขึ้นอยากเกียจคร้าน  บิดตัวไปมา ทั้งที่ยังหลับตาอยู่ แม่เดินออกไปจากห้องแล้ว
“อ้าว ชิเกะแต่งตัวเสร็จแล้วเหรอ ดูสิยายแนนยังไม่ตื่นด้วยซ้ำ  นี้ยายแนนเร็วๆนะ” เสียงของแม่ดังขึ้นอยู่ข้างหน้าห้อง
แม่อ่ะจะบอกทำไมว่าฉันเพิ่งตื่นไม่นึกว่าลูกจะอายบ้างรึไงกัน เฮ้อแม่นะแม่
ฉันรีบกระโดดลงจากเตียง  ไม่ได้ไม่ได้คราวหน้าต้องตื่นเช้า จะมาให้นายญี่ปุ่นนั้นตื่นก่อนไม่ได้ ไม่ยอมหรอก
ฉันรีบวิ่งลงไปข้างล่าง  เสียงพูดคุยกันอย่างสนุกสนานในโต๊ะอาหาร  และเสียงหัวเราะที่ดังไม่ขาดสาย นี้บ้านฉันเกิดอะไรขึ้นเนี้ย
“อ้าวมาแล้วเรอะ เร็วๆจะได้รีบไปโรงเรียน ช้าตลอดเลยลูกคนเนี้ย”
“ค่าาาาาาาาาา”  ฉันทำเสียงยานคางแล้วนั่งลงข้างชิเกะ
“สวัสดีตอนเช้าครับ”  0_o  ว่ะฮะฮ้า อะไรนะ สวัสดีตอนเช้า  นายไปเรียนภาษาไทยที่ไหนว่ะ เชยเป็นบ้า ฮ้าๆๆๆๆ
“อ่ะ    อืม สวัสดี”  จากนั้นฉันก็ตั้งหน้าตั้งตากินๆๆๆ
“อ้าวไม่กินล่ะ” ฉันหันไปถาม ชิเกะ
“ผมทานแล้ว” 
“อืม”  แล้วฉันก็กินต่อโดยไม่มองแม่เลยซักนิดว่าส่งสายตาพิฆาตมาให้ฉันทานเร็วๆ
“อ้า อิ่มจัง ไปแล้วนะค่ะ” ฉันดันจานออกจากตัวแล้วลุกขึ้น พรางเก็บจานไปไว้ที่ล้างจาน แล้วเดินไปหน้าบ้าน
“อ่ะสายแล้ว”  ฉันเตรียมใส่เกียร์หมา ถ้าไม่มีใครมาสะกิดไว้ก่อน
“ทำไมเหรอ”
“ไปกันเถอะครับ”  o_0 ห๋าว่าไงนะ อ๋อใช่ๆๆลืมซะสนิทเลย  แม่เดินมาหน้าบ้าน
“ดูแลชิเกะด้วยนะ”
“ค่ะ  ป่ะไปกันเหอะ”  ฉันเดินออกจากตัวบ้านอย่างรีบเร่ง มีชิเกะเดินตามมาอย่างช้าๆ
“เฮ้ เร็วหน่อยสิ โรงเรียนจะเข้าแล้วนะ” 
“อ่ะครับ”  จากนั้นเขาก็เดินขึ้นมาขนาบข้างของฉัน และเดินแซงหน้าไป
โหเดินเร็วเป็นบ้าเลย  ฉันวิ่งตามไปจนทัน
“โหนายทำไมถึงได้เดินเร็วอย่างนี้”
“อ่ะขอโทษครับ ที่ญี่ปุ่นเค้าเดินกันอย่างนี้แหละ”
“แต่นี้มันประเทศไทย  นายต้องเดินรอฉันด้วยเข้าไจ๋”
“อ๋อ”    อืมเข้าใจก็ดี แต่เค้าก็ยังเดินเร็วอยู่ดีนั้นแหละ ถึงจะช้ากว่าเดิมก็ตาม
“นี้ชิเกะ นายอยู่ ม.5 ใช่ไหมอ่ะ ”
“อืม”
“แล้วนายอยู่ห้องไหนอ่ะ ฉันจะได้ไปส่งถูก”  แหมทำไมเวลาพูดกับนายนี้ถึงปวดคออย่างนี้นะ 
เขาค้นกระเป๋า แล้วหยิบสมุดเล่มเล็กขึ้นมา
“อืม ห้อง1 ครับ” โหเก่งไม่เบาแฮะ ห้องหนึ่ง เชอะฉันก็อยู่ห้องหนึ่งล่ะนะ เห็นฉันอย่างนี้ก็เหอะ 
“อืม”    เราเดินไปจนถึงโรงเรียน  ไม่เชิงเดินหรอก กึ่งวิ่งกึ่งเดินต่างหาก
โรงเรียนอยู่ไม่ไกลจากบ้าน เดินไปได้
แต่เมื่อวานฝนตกฉันเลยต้องขึ้นรถเมล์
ทั้งๆที่ไม่ค่อยชอบซักเท่าไหรเลย   
เด็กผู้หญิงหลายคนที่ยืนอยู่หน้าโรงเรียนต่างๆพากันมองมาที่ฉันกันหมด
อ่ะฉันลืมหวีผมหรือไง
“แนน ”  ขิมเพื่อนของฉันเรียกขึ้น  เรามีกันอยู่ 3 คน ฉัน ปาน ขิม สามสาวซ่า 
“หวัดดีขิม แล้วปานล่ะ” ฉันหันไปยิ้มให้กับเพื่อน
“ไอ้ปานนะเหรอ มันไปเอาของที่ห้องนะ แล้วนั้นใครมากับแกเหรอ น่ารักดีนะ”
“อ๋อ ฮั่นแน่ นี้ชิเกะ จะมาอยู่บ้านของฉัน หนึ่งเดือน  อ่ะชิเกะนี้เพื่อนฉันชื่อ ขิม”
“สวัสดีครับพี่ขิม” เขายิ้มอายๆ อ้ายยยทำไมทีกับฉันไม่เห็นเป็นงี้มั่ง
“สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะค่ะ  เฮ้ยแกเป็นคนญี่ปุ่นใช่ม่ะ”
“อืม” ฉันตอบไป 
เสียงออดดังขึ้น  สายตาหลายๆคู่ยังจับจ้องมาทางที่พวกเรายืนอยู่
คงเป็นเพราะชิเกะแน่ๆ
ก็เขาออกจะเหมือนพระเอกการ์ตูนญี่ปุ่นที่พวกเราชอบอ่านกันนักล่ะ 
ทั้งสูง หล่อ ทรงผมรึก็กินใจ โอ้ย ใจละลายใจละลาย
รู้สึกดีไม่ใช่น้อยที่มีคนหล่อๆเดินใกล้ๆ
ฮ้าๆๆ หัวเราะอย่างมีชัย 
พวกเราเดินไปเข้าแถว  แล้วนายนั้นจะไปเข้าแถวที่ไหนล่ะเนี้ย
ฉันเห็นเขายืนเกๆกังๆ เลยเดินเข้าไปจูงมือเขามายืนด้วยกัน
“ไปกับฉันก่อนนะ แล้วจะไปส่ง”  เขายิ้มแล้วพยักหน้า
ใบหน้าแดงก่ำไปจนถึงหู  โอ้ยคนอะไรว่ะน่ารักเป็นบ้าเลย 
“นริศรา ” เสียงอาจารย์ประจำชั้นดังขึ้นข้างหลัง 
“ขาาาา” 
“เธอพาใครมานะ โรงเรียนนะไม่ใช่ที่เล่น”
“โธ่อาจารย์ขา  เปล่าซักหน่อย  นี้นะนักเรียนแลกเปลี่ยนต่างหาก”
“อ้าว แล้วทำไมไม่พาไปที่ห้องล่ะ”
“เดี๋ยวว่าจะพาไปค่ะ”
“อืม” อาจารย์ของฉันเนี้ยบมากค่ะ  ขอย้ำเนี้ยบและโหดดดดดดดดด
พอเข้าแถวเสร็จเสียงฮือฮาก็ดังขึ้น  ทุกคนพากันพูดถึงผู้ชายที่อยู่ข้างๆฉัน 
โอ้ยฉันพลอยมีหน้ามีตาไปด้วย
“ยายแนน นั้นใครนะ” เพื่อนในห้องต่างพากันลุ่มถามฉัน
“เดี๋ยวค่อยบอกนะ ฉันพาเค้าไปส่งก่อน” แล้วฉันก็ชิ่งหนีทันที
“นี้คือตึกของนักเรียนวิทย์  อีกตึกคือพวกศิลป์  เราจะแยกกัน นายมีปัญหาอะไรไหม”
“แล้วแนนเรียนที่ไหนเหรอ”
“แล้วนายคิดว่าที่ไหนล่ะ”
“ไม่รู้สิ ก็ผมถาม ไม่ใช่ให้ถามผมกลับซักหน่อย”
“ฉันเรียนตึกเดียวกับนายนั้นแหละ ไปเหอะ เดี๋ยวไม่ทันเข้าเรียน”
ฉันรีบคว้ามือของเขาวิ่งขึ้นบนตึกเรียนชั้น 3
แฮ็กๆๆ  เหนื่อยเป็นบ้าเลย 
“ขออนุญาตินะค่ะ”  ฉันเดินผ่านประตูห้องพักครูเข้าไปอย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยชิเกะ
“เอ่ออาจารย์คะ  หนูพานักเรียนแลกเปลี่ยนมาส่งคะ”  ฉันไปยืนตรงหน้าอาจารย์ปิง
อาจารย์ประจำชั้นของม.5/1  เมื่อปีที่แล้วแกก็เป็นอาจารย์ของฉันเองแหละคะ
เราค่อนข้างจะซี้กัน
“อ้าว มาแล้วเหรอ เธอใช่ไหมที่เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ที่ชื่อ ชิเกะกิ  ซาโต้”
“ครับ” เขาโค้งให้อาจารย์แบบที่เห็นในทีวี ที่พวกญี่ปุ่นชอบทำกันนักแหละ
“มาส่งแล้วหนูไปได้แล้วใช่ไหมคะ”
“ยังก่อน  ทำไมถึงมาด้วยกันได้ล่ะแนน” อาจารย์ปิงถามฉัน
“อ๋อ ชิเกะเค้าพักบ้านหนูค่ะ”
“เหรอดีจังนะ งั้นครูก็ฝากดูแลเค้าด้วยแล้วกัน มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน”  ทำไมทุกคนถึงต้องให้ฉันดูแลด้วยนะ
นายนั้นนะดูแลตัวเองได้อยู่หรอก 
ไม่อยากจะอยู่ใกล้เท่าไรหรอกนะ เดี๋ยวอดใจไม่ไหว 
แล้วจะหาว่าไม่เตือน คิกๆๆ(หัวเราะแบบนางมาร)
“ค่ะ” แต่ก็ต้องตอบไปอย่างเสียไม่ได้ 
“งั้นหนูไปแล้วนะคะ สวัสดีคะ”
“เดี๋ยวก่อน  เธอช่วยพานายชิเกะไปส่งหน่อยสิ อาจารย์มีสอนห้องอื่นนะ”
“ได้ค่ะ งั้นไปกันเถอะ” โอ้ยเร็วๆหน่อยเหอะ วันนี้วิชาคณิตสุดโปรดของฉันกำลังจะสอนแล้วนะ 
เมื่อออกจากห้องนั้นแล้ว ฉันก็เดินตรงไปยังห้องเรียนของชั้นม.5 
ชิเกะที่ดูไม่ทุกข์ร้อนอะไร เดินตามมาอย่างช้าๆ  ฉันซะอีกที่หันไปเร่งอยู่บ่อยๆ
“แนน” ชิเกะเรียกฉัน  ถึงจะห่างกันแค่ปีเดียวนายควรจะเรียกฉันว่าพี่นะ ไอ้หน้าขาว
“ทำไมเหรอ~~”
“ทำไมต้องทำหน้าอย่างนั้นด้วย ผมแค่จะถามว่าต้องทำยังไงบ้างเวลาเข้าไปในห้องนะ”
“โอ้ยไม่ยากหรอก นายก็แค่เดินเข้าไปแล้วก็แนะนำตัว แค่เนี้ยแหละ แล้วตอนเที่ยงฉันจะมาหานะ ไม่ต้องห่วงหรอก” 
ใบหน้าหล่อๆของเขาคลายความกังวลลงไปเยอะ  แล้วก็ยิ้มน้อยๆ อย่างน่ารัก
ทำเอาฉันอยากเข้าไปหยิกแก้มขาวๆของเขาจัง
“ถึงแล้ว นี้ห้องนายนะ .. ขออนุญาติค่ะ”
“เชิญ”  อาจารย์ในห้องอนุญาติให้เราเข้าไปข้างใน 
“สวัสดีค่ะ หนูมาส่งนักเรียนแลกเปลี่ยนค่ะ” ฉันหันไปยิ้มให้ชิเกะอย่างให้กำลังใจ 
เห็นใบหน้าที่ประหม่า และดูจะอายๆที่ต้องมายืนอยู่หน้าชั้นเรียนอย่างนี้
“นี้ฉันไปล่ะนะ โชคดี  เฮ้ออย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ สู้ๆ”  เขายิ้มให้ฉันแล้วพยักหน้า
ฉันเดินออกมานอกห้อง ได้ยินเสียงแนะนำตัวของชิเกะแว่วออกมา และเสียงกรีดกราด ของเด็กนักเรียนหญิง 
ฉันก้มดูนาฬิกา อ้ายตายแล้ว ฉันรีบวิ่งไปที่ห้องเรียนอย่างรวดเร็ว
เพื่อนๆในห้องต่างหันมาหาฉันเป็นแถว เมื่อฉันเปิดประตูเข้าไป โชคดีที่อาจารย์ยังไม่เข้า
“นี้ยายแนน เด็กผู้ชายที่มากับเธอนะใคร”
“ใช่ๆ น่ารักจังเลยหน้าอย่างกับเด็กญี่ปุ่น”
“แล้วชื่ออะไรเหรอ”
“เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งถามทีล่ะคนสิ ฉันฟังไม่ทัน”
“ชื่ออะไรเหรอคนนั้นนะ”
“ชื่อ ชิเกะ”
“คนญี่ปุ่นเหรอ”
“อืม”
“อุ้ย จริงเหรอมิน่า คนอะไรน่ารักจัง”
“อยู่ม.อะไรเหรอไม่ได้อยู่ม.เดียวกันเราเหรอ”
“ม.5 แล้วจ๊ะ พอแล้วเลิกถามได้แล้ว”
“โธ่ บอกมาก่อนว่าเค้ามากับเธอได้ไง”
“เค้ามาพักที่บ้านฉัน พอแล้วนะไม่ต้องถามแล้ว”
“จริงเหรอ ดีจัง” 
ฉันเดินไปนั่งที่โต๊ะอย่างไม่สนใจคำตอบของเพื่อน
นั้นสินะ ดีจัง แต่ก็นะหยุดทำหน้าตาเพ้อฝันอย่างนั้นได้ไหมยายเพื่อนบ้า
คิดถึงเมื่อวานนี้จังที่อยู่บนรถเมล์  ยังอุตส่าห์ ชอบ ดันอายุน้อยกว่าซะนี้เฮ้อ ถอนหายใจอย่างสุดเซ็ง  ฉันไม่ชอบคนอายุน้อยกว่าหรอกนะ 
มันเหมือนโคแก่กินหญ้าอ่อน
ทั้งที่นั่งเรียนวิชาที่ฉันชอบที่สุดแต่ทำไมมันถึงไม่เข้าหัวเลยซักนิดนะ
ในใจก็คิดถึงแต่นายนั้น จะเป็นไงบ้างนะ ชิเกะ
พอพักเที่ยงฉันก็พุ่งไปที่ประตูทันที
“เฮ้ย ไอ้แนนจะไปไหนว่ะ ปวดฉี่เหรอ”  ขิมตะโกนถาม ขณะเก็บของ
“ไปหาชิเกะ  แกไปกินข้าวกันเลยนะเว้ย เดียวฉันตามไป”  ฉันไม่รอฟังคำตอบของเพื่อนรีบออกจากห้องไปทันที
“นี่ชิเกะ ทางนี้”  ฉันเรียกชิเกะอยู่หน้าห้องของเขา  เขาหันมายิ้มอย่างสดใสในกลุ่มเด็กผู้หญิงที่กำลังรุมถามเขาอยู่
“อ้าแนน ”
“ไปกินข้าวกันป่ะ”  ฉันเดินเข้าไปเมื่อเห็นว่าเค้าคงออกมาไม่ได้แน่
ต้องใช่อำนาจขู่พวกรุ่นน้องที่ยืนเกาะเขาไม่ยอมปล่อยซะหน่อย
“นี้ปล่อยได้แล้วจ๊ะ ชิเกะจะได้ไปกินข้าว” นี้เค้าเรียกว่าขู่เหรอย่ะยายแนน
“โธ่พี่แนนน่ะ เดียวพวกหนูพาไปเองก็ได้ค่ะว่ากำลังจะไปกันพอดี”  ยายเชอร์รี่ รีบบอก
“โอ๊ะไม่ได้หรอก เดียวพี่พาไปเอง ไปเถอะ” ฉันจับมือชิเกะ แล้วลากออกมาทันที
ดูเจ้าของมือที่ฉันจับอยู่จะไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย  เขาเดินตามมาเงียบๆ
มันเงียบเกินไปจนฉันต้องหันไปมอง
โอ้พระเจ้าจอร์จ  เค้าอายอ่ะ  แก้มเงี้ยแดงไ ปจนถึงหู  สายตาของเขาจ้องไปที่มือที่ฉันจับมือของเขาอยู่ 
ฉันรีบปล่อยทันที อย่างกับมันเป็นของร้อน
นายนี้เล่นไสยศาสตร์รึไง  อึ้ย น่ากลัว
ฉันเลยพูดอะไรไม่ออก คนที่ต้องอายมันฉันไม่ใช่เหรอ
แล้วตานั้นอายหาพระหอกอะไร
แต่นั้นทำให้หัวใจฉันเต้นตึกๆๆๆ โอ้ยเป็นบ้าอะไรไปเนี้ยยยยยยยยย
ฉันรีบหันหลังแล้วเดินไปโรงอาหาร
หวังว่าเค้าจะเดินตามมานะ
ฉันสัญญาเลย จะไม่จับมือของเขาอีกแล้ว
เมื่อถึงโรงอาหารฉันก็กวาดสายตา สแกนหาเพื่อนตัวดีทั้งสอง
นั้นไง ฉันรีบเดินตรงเข้าไป 
คนในโรงอาหารหันมามองทางฉันกันหมด
รู้สึกแปลกๆชอบกล 
มองอะไรย่ะ  หันไปเซ่
ฉันรีบนั่งลงที่โต๊ะ  ชิเกะหยุดยืนข้างๆ
“สวัสดีครับพี่ขิม พี่ปาน”
“นั่งสิ” ฉันบอกชิเกะไปอย่างหงุดหงิด 
เห็นเขาทำหน้าหง่อยๆ  โอ้เริ่มสำนึกผิด  ใบหน้าของเขาตอกย้ำอย่างกับฉันทำผิดมากซะงั้นแหละ  ทำไงดีล่ะ
“จะกินอะไรดีเดี๋ยวฉันไปสั่งให้”  ฉันพยายามพูดเพราะและเอาใจที่สุด ในชีวิต
เขาส่ายหน้า
“ไปดูก่อนก็ได้  ป่ะ”  ฉันกับเขาลุกขึ้น เขาเดินตามมาไม่ห่าง
“โห อาหารเยอะจัง อันนี้เค้าเรียกอะไรอ่ะ”  เขาชี้ไปที่แกงเขียวหวาน
“แกงเขียวหวาน ลองกินดูไหม”  เขาพยักหน้า
“ป้าค่ะเอาแกงเขียวหวานจานหนึ่งค่ะ แล้ว ของหนูข้าวมันไก่เหมือนเดิมนะค่ะ”
เหมือนเดิมก็คือไม่เอาหนังไก่ค่ะ    ไม่นาน ข้าวร้อนก็ถูกส่งมาถึงมือเรา
“อร่อยไหม” ฉันถามเขาที่ตั้งหน้าตั้งตากิน
“อืม”
“ขิมเดี๋ยวเราเรียนอะไรต่ออ่ะ”
“เธอนี้ไม่เคยจำเลยนะ เรียนอังกฤษ”
“อ้าาาาาาา อังกฤษเหรอ”
“แค็กๆๆ ” ชิเกะสำลัก เพราะได้ยินเสียงของฉัน 
“0_0เป็นอะไรรึเปล่า” เขาส่ายหน้า รีบดื่มน้ำเข้าไปอึกใหญ่ 
ฉันอดจะขำไม่ได้  ไม่ว่าเขาทำอะไรก็ดูจะน่ารักไปหมด
แก้มขาวๆของเขา ชมพูนิดๆ เพราะอากาศร้อน  เหงื่อที่ออกตามไรผมไหลลงมาลงมาช้าๆ  ฉันหยิบผ้าเช็ดหน้าไปเช็ดให้อย่างลืมตัว
เขานิ่งไปทันที  แล้วหน้าก็แดงอีกแล้ว
โอ้ยยยยย ใครก็ได้ตัดมือฉันทิ้งที ทำไมมันทำอะไรไม่คิดทุกที
ขิมกับปานก็นิ่งไปเหมือนกัน  บรรยากาศมันอึดอัดมากๆเลย
“เอ่ออิ่มแล้วใช่ไหมเอาจานไปเก็บกันเหอะ”
ยายสองตัวนั้นรีบตอบรับทันที 
ชิ่งๆๆ  ฉันรับรู้ถึงสายตาคมกริบของยายสองคนนั้น
“ฉันไปส่งชิเกะก่อนนะ แกไปที่ห้องเลยก็แล้วกัน”  ฉันรีบออกตัวแล้วเดินลิ่วๆไปห้องของชิเกะ  หารู้ไม่ว่า หายนะกำลังจะเกิดในไม่ช้า
ชิเกะเดินตามมาไม่พูดซักคำ
ฉันรู้สึกผิดจังเลย  ไม่เป็นไรวันนี้ฉันจะพานายไปเลี้ยงไอติมก็แล้วกัน
“ตอนเย็นฉันจะเลิกช้าหน่อยนะ นายไปรอที่ประตูโรงเรียนได้ไหม” เขาพยักหน้า
“อืมงั้นฉันไปเรียนก่อนนะ ตั้งใจเรียนล่ะ”
“ครับ” 
แปลกมากๆ เมื่อฉันกลับไปถึงห้อง ยายสองคนนั้นไม่ถามอะไรฉันซักคำ
โอ้ๆๆๆ มันรางไม่ดีเลยแหะ
ยิ่งยายพวกนี้เงียบแสดงว่าต้องมีอะไร
คนอย่างไอ้ขิมนะเหรอไม่มีทางจะเงียบได้หรอก มันนะขวานผ่าซากจะตาย
“กลับกันเหอะ” ยายปานยืนขึ้นเมื่อเก็บของเสร็จ ส่วนฉันก็เสร็จแล้วเหมือนกัน
“Let’s go” ยายขิมพูด 
“ไปดูหนังกันเหอะไม่ได้ดูนานแล้ว” ขิมเดินมาเกาะไหล่เราทั้งสอง
“เย้ๆๆไปๆ” ยายปานรีบตอบ ฉันไม่เห็นแกปฏิเสธสักทีไม่ว่าชวนไปไหนก็เหอะ
“ไม่ได้หรอก ฉันไปไม่ได้  พวกแกต้องเข้าใจนะ ฉันยังมีภาระ”
“ภาระอะไรของแกว่ะ” ขิมหันมาถาม
“ก็ชิเกะไงล่ะ”
“ให้ไปด้วยก็ได้นี้”
“ไม่ดีกว่า เค้าคงเหนื่อย พากลับบ้านดีกว่า พวกแกก็ไปกันสองคนสิ นะนะ”
โกหกหน้าตายเลยฉัน ก็จะพาตานั้นไปกินไอติมนี้นา ขอโทษนะเพื่อนไม่อยากเอาไปเป็นก้างว่ะ เดียวมันติดคอ แหะๆๆ
“แกนี้มันชักจะยังไงยังไงแล้วนะ มีอะไรรึเปล่า”  แน้ยายขิมทำหน้ารู้ทันอีกแล้ว
“เปล่าซะหน่อย”
“ให้มันจริงเหอะ”
“จ้าาาาา  งั้นฉันไปก่อนนะ บ๊ายบาย”  ฉันโบกมือบายบายแล้ววิ่งตรงไปหาชิเกะ
ผู้ชายที่ดูโดดเด่นยืนอยู่ข้างๆประตูโรงเรียนได้อย่างน่าประหลายใจ 
ทำให้ฉันคิดถึงการ์ตูนญี่ปุ่นที่ชอบอ่านบ่อยๆ
อย่างกับยืนรอแฟนอย่างนั้นแหละ แหะๆ คิดไปโน้น
“ไปกันเหอะ วันนี้ฉันจะพานายไปกินไอติม”
“ไอติม?”
“ไอศกรีมนะ  ไปนะร้านนี้อร่อยมากๆเลย” 
เขาเดินคู่ฉันมาไม่พูดจาอะไร
เขาคิดอะไรอยู่นะ  ฉันมองใบหน้าของเขาอย่างค้นคว้า
ผมที่ปกคลุมปิดบังดวงตาสวยไปจนไม่อาจมองเห็นได้ว่าเค้าคิดอะไรอยู่
“อร่อยใช่ไหมล่ะ”  ฉันถามเขาเมื่อเห็นเขากินจนหมดถ้วย
“อืม อร่อยมาก” 
ฉันเพิ่งสังเกตุว่าเค้าพูดน้อยมาก  แทบจะไม่พูดเลยถ้าฉันไม่ถาม
น้ำเสียงที่ฟังดูไม่ค่อยชัดเท่าไรนัก  แต่ก็ถือว่าเก่งทีเดียวที่พูดไทยได้
ฉันอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นมั่งจัง 
“แนน”
“หืม ทำไมเหรอ”  ฉันมองหน้าเค้าเหมือนเค้าต้องการจะพูดอะไรแต่ก็เงียบไปซะงั้น
“ว่าไงเหรอ” ฉันถามซ้ำ แต่สายตาดันเหลือบไปเห็นยายขิมกับยายปานเดินผ่านร้านพอดี
“นี้นั่งลงเร็ว”      ฉันดึงชิเกะลงใต้โต๊ะทันที  สายตาจับจ้องไปที่ขิมกับปาน  ภาวนาว่าพวกนั้นจะไม่เห็นเรา   
ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ลมอุ่นๆที่เป่ารดต้นคออยู่นี้
เป็นลมหายใจของหนุ่มน้อยที่นั่งข้างๆฉัน
เพราะมัวแต่กลั้นหายใจอยู่ตอนที่พวกนั้นเดินผ่านไป
มือที่กำแน่น บีบมือใหญ่ๆแต่นุ่มซะไม่มีของเขาอย่างลืมตัว
ฉันถอนใจอย่างโล่งอก
0_0  อ้ายยยยยยย ฉันทำอะไรไปอีกเนี้ยยยยยยยยย
ฉันรีบปล่อยมือแล้วลุกขึ้นยืนทันที
คราวนี้ไม่ใช่แต่ชิเกะเท่านั้นที่หน้าแดง ฉันว่าของฉันก็คงแดงไม่แพ้กัน
มีอย่างที่ไหน บีบมือเค้าซะแน่นเชียว
ฉันพยายามหายใจช้าๆ ให้เสียงหัวใจที่เต้นถี่ๆอยู่นี้เต้นช้าลง
“ขอโทษ” กว่าจะพูดคำนี้ออกไปได้มันช่างอยากเย็นเหลือเกิน
“ไม่เป็นไร”  เขายิ้มให้กำลังใจ ทั้งๆที่ฉันว่ามันต้องเป็นอะไรแน่
ก็ดูหน้าเขาสิไม่ยอมหายแดงเลย 
ฉันจะยกประโยชน์ให้แดดล่ะนะที่ทำให้ผิวหน้าเขาแดงอย่างนี้ 
พอถึงบ้านฉันก็รีบขึ้นห้องทันที
เฮ้อ วันนี้ฉันเป็นอะไรไปเนี้ย
ฉันกระโดดไปนอนแผ่อยู่บนเตียง
อยากจะกรี๊ดดังๆฉันเป็นอะไรไปเนี้ยยยยยยยยยยยยยยยยย
ใครรู้ช่วยบอกที!!!!!!!
“กี่โมงแล้วเนี้ย” ฉันลืมตาขึ้นมา 
o_o 0_o อ้ากกกกกกกก
ตีสอง  เฮ้ย อะไรฟ่ะ ทำไมแม่ไม่เรียกมั่ง
ขายหน้าชะมัด  ฉันรีบกระโดดลงจากเตียงวิ่งไปเอาผ้าเช็ดตัวแล้วพุ่งไปที่ห้องน้ำทันที
เฮ้อค่อยสบายตัวหน่อย 
เฮ้ย ชุดชั้นในหายไปไหนหว่า  เมื่อกี้ก็เอามาอยู่นี้นา
ฉันหยิบผ้าเช็ดตัวขึ้นมาพันตัว  ไปเปลี่ยนที่ห้องก็ได้
ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำ
อ๊ะ ..นั้นไงอยู่นั้นไง ฉันมองชุดชั้นในที่อยู่ในมือของชิเกะ
เฮ้ย ฉันอ้าปากค้าง    ก้มมองตัวเอง แล้วเงยหน้าดูชิเกะ  ก้มดูตัวเองอีกครั้งแล้วก็ดูหน้าชิเกะ ..
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” 
“คราวหน้าก็หัดระวังหน่อยนะยายแนน โทษชิเกะเค้าก็ไม่ได้ ตัวเองนั้นแหละผิด”
“ค่ะ” ฉันพยักหน้าอย่างเข้าใจ
ก็แหมใครจะไปคิดล่ะว่าตีสองจะมีคนออกมาเข้าห้องน้ำ
และทุกทีก็ไม่เคยเป็นอย่างนี้นี่นา
“ไปนอนได้แล้ว ชิเกะด้วยไม่มีอะไรหรอก แนนเค้าก็เป็นของเค้าอย่างนี้แหละ”
อย่างนี้นะมันอย่างไหนกันแม่ พูดให้มันดีๆหน่อยดิ
ฉันเดินขึ้นไปบนห้องพร้อมๆกับชิเกะ
“ขอโทษนะ” ชิเกะพูดขึ้นตอนที่เดินขึ้นบันได
“ฉันต่างหากล่ะที่ไม่ระวังเอง ขอโทษล่ะกัน”  โอ้ยไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนไอ้แนนเอ๋ย
“ผมไม่ได้ตั้งใจ คือ คือ เอ่อ คือผมไม่รู้ว่ามันเป็นชุดชั้นในของคุณ เห็นมันตกอยู่ก็เลยเก็บขึ้นมาเท่านั้นเอง”  ไม่ต้องย้ำก็ได้ไม่รู้จะพูดหาพระ
แสงอะไร หน้าฉันไปอยู่ไหนแล้วเนี้ย
“อือ ฝันดีนะ” ฉันเดินเข้าห้อง หลังจากบอกเค้าไป
“ฝันดี”  เขาตอบกลับมาด้วยเสียงเบาๆ เป็นเพราะเขารู้สึกผิดรึเปล่า
 
..................................
ว้าทำไมไม่มีคนเมนเลยอ่ะ
ถึงยังไงแค่อ่านก็มีความสุขแล้วแต่ถ้าเมนด้วยจะยิ่งดี
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น