คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #42 : บทที่ 41 องค์หญิงลำดับที่สาม
บทที่ 41
องค์หญิงลำดับที่สาม
เมื่อรุ่งเช้ามาถึงหนิงหลงตื่นขึ้นมาพร้อมความรู้สึกที่ยังปวดเมื่อยตามตัว
เมื่อคืนมีงานเข้ามาไม่หยุดแทบไม่ได้พักไม่รู้ว่าจักรพรรดินีขาดแคลนคนดูงานหรืออย่างไร
ไยให้ลูกสาวของตนมานั่งตรวจงานแทนเช่นนี้?
จิ้นอันกล่าวว่านี่อาจจะเป็นการทดสอบจากองค์จักรพรรดินีก็เป็นได้
แต่หนิงหลงกลับรู้สึกว่าท่านแค่อยากจะหาคนดูงานที่ไว้ใจได้ก็เท่านั้นเอง
“อึก...อืม”
ทว่าในยามนี้ไม่ใช่เธอคนเดียวที่ตื่น
คนที่หลับอยู่ข้างกายเธอก็ตื่นด้วยเช่นกัน ซูฮวาขยับกายใต้ผ้าห่มเมื่อสายตาของเขาลืมตื่นขึ้นเขาก็ได้เห็นเสี้ยวหน้าที่งดงามของสตรีที่หลับเคียงกายเขา
หนิงหลงหันมาทางซูฮวาเพราะรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหว
หนิงหลงยิ้มต้อนรับรุ่งเช้าให้เขาบางๆ ซูฮวาแก้มระเรื่อแดงเล็กน้อย
แล้วรีบลุกขึ้นมาจัดทรงผมให้เรียบร้อยก่อน เขาตั้งใจว่าจะตื่นก่อนองค์หญิงแล้วแท้ๆ
ต้องให้องค์หญิงได้เห็นสภาพที่ไม่น่ามอง เส้นผมของเขาแม้จะชี้ฟูเล็กน้อยแต่ต่อหน้าองค์หญิงเขาก็อยากจะดูงดงามอยู่ตลอดเวลา
“ตะ..ตื่นแล้วหรือขอรับ
องค์หญิง”ซูฮวาสางผมตัวเองเบาๆแล้วเหลือบมองมายังสตรีข้างกาย
“อื้ม
เมื่อคืนเจ้าหลับสบายดีรึเปล่าซูฮวา?”
“ขอรับ
ได้อยู่เคียงองค์หญิงแล้ว ข้าก็รู้สึกสบายใจไม่ว่าเมื่อใดขอรับ”
“...ชะ..เช่นนั้นหรือ?”
แม้แต่ซูฮวาที่เป็นคนพูดเองยังรู้สึกเนียมอาย
หนิงหลงที่เป็นคนฟังก็รู้สึกขัดเขินไม่แพ้กัน
แม้เมื่อคืนจะจบลงด้วยความผิดพลาดของเขาก็ตาม
ซูฮวาลุกขึ้นมาหวีผมช้าๆส่วนหนิงหลงก็ขยี้เส้นผมตัวเองเบาๆ
“องค์หญิง
ข้าจะหวีผมให้ท่านนะขอรับ”ซูฮวาลุกขึ้นจากเก้าอี้และเอ่ยเชิญอง๕หญิงมานั่งแทนเขา
“อา...ขอบคุณนะ
ต้องลำบากเจ้าซะแล้ว”
“..ลำบากอะไรกัน!”
หนิงหลงเพียงหยอกล้อซูฮวาเล่นเท่านั้น
แต่เธอก็เดินเข้าไปนั่งที่เก้าอี้แต่โดยดี ซูฮวาจับเส้นผมของหนิงหลงขึ้นอย่างเบามือ
สัมผัสนุ่มลื่นที่ประสานกับปลายหวีมันช่างสบายมือยิ่งนัก
ซูฮวาเห็นเส้นผมสีดำประกายครามอันโดดเด่นงดงามที่อยู่ในมือของเขา
มันยากเย็นนักที่จะต้องปล่อยมันไป
แต่...การที่เขาจะจับเส้นผมขององค์หญิงตามอำเภอใจเช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
“เสร็จแล้วขอรับองค์หญิง..”
“ขอบคุณ
เจ้านี่มือเบายื่งกว่าจิ้นอันเสียอีกนะ”
หนิงหลงหยิบเอาเสื้อนอกขึ้นมาสวมจากนั้นก็ชวนซูฮวาทานข้าวเช้าด้วยกันก่อนแล้วค่อยกลับตำหนักของเขา
หนิงหลงไม่ได้ขัดข้องอะไรหากซูฮวาจะอยู่ที่นี่
แต่การที่เธอให้เขาอยู่ที่ตำหนักของตนเองนานเกินไปอาจจะทำให้ผู้อื่นครหาไม่ดีเกี่ยวกับตัวเธอก็ได้
เธอไม่ได้มีนายสนมแค่คนเดียว แม้จะไม่ได้เป็นนายสนมที่มาจากความตั้งใจของเธอ
แต่การที่เธอให้ใครคนใดคนหนึ่งมาอยู่ที่ตำหนักของตนเองนานๆ
ขุนนางท่านอื่นที่เป็นผู้ปกครองของนายสนมอีกสามคนอาจจะไม่พอใจเอาได้ เรื่องนี้แม้แต่ซูฮวาก็ยังเข้าใจ
อาหารเช้าส่วนใหญ่ของหนิงหลงมักจะเป็นอาหารอ่อนๆ
ยิ่งวันนี้ซูฮวามาพักด้วยหนิงหลงจึงต้องจัดสำรับพิเศษที่เหมาะสำหรับคนที่รักรูปร่างของตนเองมากมาด้วย
อาหารเช้าที่อุดมไปด้วยผักและไขมันน้อย บางทีอาจจะถูกใจเขาอยู่บ้าง แม้จะขัดกับความชอบของเธอไปก็ตาม
“องค์หญิง
ปกติท่านชอบทานผักเยอะๆแบบนี้ด้วยหรือขอรับ?”
ซูฮวานั่งบนเก้าอี้อาหารแล้วมองไปยังโต๊ะอาหารที่มีผักต้มนานาชนิดกับข้าวสวยร้อนๆ
นอกนั้นก็เป็นอาหารที่ทำจากปลา
เขามักจะกินแบบนี้อยู่บ่อยๆเพื่อนรักษาหุ่นแต่นายกำนัลของเขามักจะบอกว่าอาหารแบบนี้คนอื่นๆไม่ค่อยทานนักเพราะมันจืดและไร้รสชาติ
“ไม่บ่อยครั้งหรอก
ครั้งนี้เป็นพิเศษเพราะเจ้ามาค้างด้วยยังไงล่ะ”หนิงหลงนั่งกับเก้าอี้แล้วยิ้มบางๆที่มุมปาก
“...เพราะข้า?”
“เจ้ามาค้างที่ตำหนักข้าครั้งที
ข้าก็อยากให้เจ้าได้ทานอะไรเหมือนกับตอนที่อยู่ตำหนักเจ้าก็เท่านั้นเอง”
“องค์หญิง...”
หัวใจของเขาพองโตขึ้นเมื่อรู้ว่าองค์หญิงใส่ใจเขาถึงขนาดนี้
องค์หญิงยอมกินอาหารจืดเพื่อเขาเช่นนี้..!
...หากว่าไม่นับเรื่องเมื่อคืนแล้วล่ะก็
เขาก็พอใจตื้นตันใจได้อยู่หรอก
เวลาผ่านไปไม่นานนักจิ้นอันก็เข้ามาทักทายซูฮวาอย่างนอบน้อม
วันนี้หนิงหลงตื่นเช้ากว่าปกติจิ้นอันก็แปลกใจอยู่บ้างแต่เพราะเมื่อคืนมีซูฮวามาค้างคืนหากว่ากันตามปกติแล้วคงไม่น่าจะได้ตื่นเช้าแบบนี้
เว้นเสียแต่เมื่อคืน...ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นเลย
ถ้าเป็นองค์หญิงหนิงหลงล่ะก็คงไม่แปลกเท่าไหร่หรอก
มีคนงามล่มเมืองสองคนผลักกันมาค้างห้อง และจบที่เช้ารุ่งไม่มีอะไรเกิดขึ้น คนที่จะทำแบบนี้ได้ก็คงมีแต่องค์หญิงหนิงหลงคนเดียวนั้นแหละ
หนิงหลงเดินออกไปส่งซูฮวากลับตำหนักหลังทานอาหารเช้าเสร็จ เมื่อท้องอิ่มแล้วงานก็ต้องเดินต่อ หนิงหลงเข้าห้องทำงานไปจัดการกับเอกสารในวันนี้ในขณะที่จิ้นอันก็คอยรายงานถึงกำหนดการของวันให้เธอฟังไปด้วย
“องค์หญิงเพคะ
บ่ายนี้มีคำเชิญจากองค์หญิงลำดับที่สามเชิญท่านไปดื่มชาที่ตำหนักพยัคฆ์ขาวเพคะ”จิ้นอันยื่นจดหมายลงที่โต๊ะทำงานของหนิงหลงเบาๆ
“น้องสามกระนั้นหรือ?
จะใช่เรื่องที่หอนายโลมรึเปล่า?”
“ข้าคิดว่าใช่เพคะ
คิดว่าอย่างน้อยก็คงจะสังเกตเห็นข้า
แต่ไม่รู้จุดประสงค์จริงๆที่เชิญไปตำหนักเช่นนี้ ท่านจะตอบรับไหมเพคะองค์หญิง”
“....อืม
ข้าก็คงต้องไปนั่นแหละนะ ก็เป็นน้องสามนี่”
หนิงหลงไม่คิดว่าสงสัยอะไรในตัวน้องของตนเอง
อย่างน้อยๆก็คงไม่สามารถทำร้ายเธอได้
ยิ่งส่งคำเชิญมาเช่นนี้ก็หมายความว่าน้องสามต้องการแสดงถึงความเป็นมิตร
และอยากพูดคุยเสียมากกว่า
แต่อย่างไรเสียก็ประมาทมิได้...
“องค์หญิงเพคะ
องค์หญิงลำดับที่สามเป็นคนที่เข้าถึงยาก
ข้าคิดว่าควรพาองค์รักษ์ไปอย่างเปิดเผยเพื่อก้องกันไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดคิดจะดีกว่านะเพคะ”จิ้นอันเสนอความเห็น
ในบรรดาองค์หญิงทั้งสี่จิ้นอันคิดว่าคนที่สมควรระวังตัวที่สุดเป็นองค์หญิงสาม
เพราะด้วยท่าทางนิ่งเงียบจนไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่
อาจจะคิดอะไรที่เกินการคาดเดาก็เป็นได้
“แค่สองคนก็พอนะ
ข้าไม่อยากให้น้องสามต้องรู้สึกว่าข้าไม่ไว้ใจนาง”
“เพคะ..แล้วก็
ถึงนี่จะไม่ใช่เรื่องที่สำคัญอะไร แต่ข้าได้ยินข่าวที่มีมูลความจริงมา..”
“หืม?
มีอะไรหรือ”
ข่าวจากจิ้นอันอย่างนั้นหรือ?
ช่างเป็นคนที่ไวต่อข่าวลืมในวังเสียจนน่าชื่นชมยิ่งนัก หนิงหลงวางเอกสารในมือแล้วหันมาตั้งใจฟังที่จิ้นอันจะกล่าว
“องค์หญิงหลิ่งเฟินมีนายสนมที่แต่งตั้งอย่างเป็นทางการอยู่แล้วสองคนเพคะ
ทว่านายสนมขององค์หญิงหลิ่งเฟินทั้งสองเป็นฝาแฝดจากหอนายโลมที่ถูกทำรายไป เป็นข้อครหากันอย่างมากเลยทีเดียว
เพราะองค์หญิงลำดับที่สามปฏิเสธไม่รับหมั้นจากจุนนางขั้นผู้ใหญ่ ทำให้ขุนนางท่านนั้นไม่พอใจอย่างมาก
องค์จักพรรดินีจึงสั่งลงโทษขึ้นหนัก ไม่ให้องค์หญิงหลิ่งเฟินเข้าร่วมงานเลี้ยงของราชวงศ์นานสามปี...”
“นี่เป็นเรื่องที่เกิดมาสองปีแล้วมิใช่หรือ?”หนิงหลงขมวดคิ้วแน่น
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนรับรู้กันไปทั้งวังหลวง
“เพคะ
แต่ว่า ข้าได้ข่าววงในมาว่าองค์หญิงหลิ่งเฟินนั้นแทบมิได้ออกจากตำหนัก
ว่ากันว่าองค์หญิงลำดับที่สามหมกวุ่นอยู่กับนายสนมสองคนนั้น
มีข่าวลือหนาหูว่านายสนมที่องค์หญิงเก็บว่ามาปีศาจบ้างก็ว่าองค์หญิงหมดวุ่นนายโลมมากเกินไป รึไม่ก็...วางแผนอะไรบางอย่างอยู่ ข้าคิดวิ่ย่างท้ายน่าจะมีความเป็นได้ได้สูงเลยเพคะ
หลังจากที่ได้เห็นองค์หญิงหลิ่งเฟินที่หอนายโลมแล้ว”
“อื้ม
ก็มีความเป็นไปได้”
“...องค์หญิง
ในงานเลี้ยงมีเพียงองค์หญิงสามที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมงาน ในตอนที่เรายังไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ปองร้ายท่าน
ทุกคนคือผู้ต้องสงสัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ระบุที่อยู่ตนเองไม่ได้”
“....ข้ารู้”
ในงานเลี้ยงที่หนิงหลงถูกวางยา
มีเพียงองค์หญิงลำดับที่สามที่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด
แต่ก็ไม่มีใครสาวเรื่องไปถึงเธอได้เพราะเธอกำลังต้องโทษห้ามเข้าร่วมงานเลี้ยงราชวงศ์อยู่
ในตอนแรกหนิงหลงคิดว่าน้องสามไม่มีทางทำเรื่องเช่นนั้นได้ มันไม่ใช่นิสัยโดนส่วนตัวของน้องสามเลยสักนิด
แต่หากจะเป็นนาง...ก็มิใช่ว่าจะไม่มีทาง
เฮ้อ...เรื่องเก่ายังไม่หายก็มีเรื่องใหม่เข้ามาให้ปวดหัว
หนิงหลงยกเอกสารขึ้นมาตรวจต่อจากนั้นก็ถอนหายใจออกมายาวๆ...เมื่อไหร่จะจบสักทีนะ
ทั้งเรื่องยาพิษ
แล้วก็เอกสารพวกนี้ด้วย...
ณ
ตำหนักพยัคฆ์ขาว
นายกำนัลคนหนึ่งได้เดินขึ้นมาอย่างเงียบๆพร้อมจดหมายฉบับหนึ่งในมือ
เขายืนอยู่ตรงหน้าห้องนอนห้องหนึ่งพร้อมกับกลืนน้ำลายเข้าไปอึกใหญ่ นายกำนัลคนนั้นสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆก่อนจะเคาะประตูเบาๆสองครั้ง
ก๊อก
ก๊อก!
“...เข้ามา”
เสียงของสตรีผู้หนึ่งได้อนุญาตเขาก็เปิดประตูเข้าไปอย่างช้าๆ...
“..อะ...องค์หญิงหลิ่งเฟินขอรับ
ข้านำจดหมายตอรับจากองค์หญิงหนิงหลงมาให้”เสียงของเขาสั่นเครือเล็กน้อยใบหน้าของเขาก้มมองลงไปกับพื้นไม่กล้าสบตาใคร
“มาใกล้ๆสิ
แบบนั้นข้าจะรับจดหมายได้อย่างไร ที่พื้นมีอะไรน่าสนใจอย่างนั้นหรือทำไมไม่มองข้า?”
“...ปะ...เปล่าขอรับ!”
นายกำนัลคนนั้นรีบเงยหน้าขึ้น และเมื่อนั้นเขาก็ได้พบ..กับสตรีท่านหนึ่งผู้แม้จะยังเยาว์วัยแต่ก็งดงาม ใส่เสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยเล็กน้อยเผยผิวที่สะอาดผุดผ่อง เส้นผมดำสนิทแก้มแดงระเรื่อธรรมชาติ ข้างกายของเธอขนาบไว้ด้วยสองหนุ่มที่งดงามสวมเสื้อผ้าสีขาวท่อนบนแทบจะไม่ปกปิดอันใด ใบหน้าของครั้งคู่เหมือนกับราวกับแกะพิมพ์เดียวกันมา
“อุหุหุ
เจ้าคงเพิ่งมาใหม่สินะท่าทางไม่คุ้นหน้าเลย องค์หญิง
ข้าว่าให้ข้าไปรับจดหมายแทนท่านดีไหมขอรับ?”ชายผู้งดงามคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
เขาเอียดกายเข้าไปใกล้องค์หญิงอย่างแนบชิด
“นี่เป็นจดหมายของท่านพี่หนิงหลง
ข้าให้คนอื่นมารับแทนไม่ได้หรอก”องค์หญิงหลิ่งเฟินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแล้วมองไปยังนายกำนัลที่ยืนตัวสั่นไปด้วยความเขินอาย
“แหม...องค์หญิงนี่ใจร้ายจังเลย
นายกำนัลคนนั้นตัวสั่นไปหมดแล้วแท้ๆ คิกๆ”ชายงามอีกคนหนึ่งเอียงเข้าไปกระซิบที่ข้างหูขององค์หญิงสามเบาๆ
“ขะ...ข้า...ข้าน้อย..ขอตัวลาก่อนขอรับ!!”
นายกำนัลผู้นั้นรีบวิ่งเข้าไปมอบจดหมายที่มือขององค์หญิงจากนั้นก็รีบวิ่งออกไปด้วยความเร็วเหนือแสง
นี่ใกล้จะเลยเวลาเช้าไปแล้ว พวกเขายังไม่เลิกระเริงรักกันอยู่อีกหรือ!?
องค์หญิงสาม...เป็นคนหมกวุ่นในกามาอารมณ์จริงๆรึนี่!!?
=====================================================================
กลับ มา แล้ววววว!!!
เย้!!!
ในที่สุดเราก็แต่งเรื่องนั้นจบแล้ว คราวนี้จะกลับมาแต่งเรื่องนี้ยาวๆเลยค่าาาา!!
หะ!! อะไรนะ!! หาบไปนานเกิน เรามีภาพมาด้วยนะ โอ๋ๆ อย่างเพิ่งงอนกัน
คงไม่ต้องทายเนอะ รู้กันอยู่ว่าใคร 555555555555
ความคิดเห็น