NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    องค์หญิงเพี้ยน กับ เหล่านายสนม

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4 คืนแรก

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ค. 64


    บทที่ 4

    คืนแรก


                     “ขะ..ขอโทษด้วยนะ ข้า...ไม่ได้ตั้งใจ”หนิงหลงพยายามอธิบายความผิดพลาดแก่นายสนมผู้งดงามตรงหน้า


                    “อะ..องค์หญิงโปรดอย่ากล่าวคำขอโทษกับข้าเลย..”


                    เขาค่อยๆเงยหน้าขึ้นจากแขนเสื้อโดยที่แก้มทั้งสองยังอายด้วยสีดั่งกลีบดอกบ๊วยสีแดงอยู่เล็กน้อย เขาคือนายสนมขององหญิงจะมีสิทธิ์ให้เธอมาขอโทษเขาได้อย่างไร? ที่สำคัญการกว่านั้นเพียงแค่เธอมาหาเขาที่นี่ก็เป็นบุญคุณมากเกินพอแล้ว


                    องหญิงหนิงหลงไม่เคยมาหาเขาตั้งสองปี! จนคนภายนอกเริ่มสงสัยแล้วว่าเขาจะไม่ได้รับความชอบพอจากองค์หญิงนั่นเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุดที่เขาอาจจะถูกทำให้ออกจากตำแหน่งนายสนมได้เลย


                    “ดะ...ดื่มชากันเถอะ! ข้าเพิ่งเดินมาจากตำหนักอยากจะดื่มชาดับกระหายสักหน่อย..”หนิงหลงเปลี่ยนเรื่องให้ดูแนบเนียนที่สุดเท่าที่จะทำได้ในขณะที่ตัวเองก็พยายามเก็บซากความอับอายที่ตนก่อให้ลงไปนอนในกล่องจนหมด


                    “อ้ะ..! ขะ..ขออภัยองค์หญิง! ข้า...ไม่เคยรับรองใครที่ห้องตัวเองมาก่อน ปะ...โปรดรอสักครู่พะย่ะค่ะ!”จินหลันลุกขึ้นจากที่นั่งเล่นกู่เจิงอย่างลนลาน เพราะเขามัวแต่ปล่อยกายใจลอยไปกับการบรรเลงจนลืมไปว่าองค์หญิงกำลังจะมาเยือนที่นี่ตามสารที่ได้รับ


                    “อย่ารีบร้อนไปเลย ไม่ว่านานแค่ไหนข้าก็รอได้”


                    “อะ...องค์หญิง”


                    เธอช่างอ่อนโยนกว่าที่เขาคิดเอาไว้มากนัก...


                    จินหลันได้แต่นึกสงสัยเพราะว่าข่าวที่เขาได้ทราบมามีทั้งจริงบ้างเท็จบ้างหรือแม้กระทั่งข่าวลือลอยๆที่อาจจะจริงหรือไม่ก็ได้ พวกกล่าวกันว่าองค์หญิงหนึ่งเป็นสตรีที่ลึกลับเข้าหายาก แม้เธอจะไร้ข้อบกพร่องในการทำงานแต่เธอกลับไม่เคยข้องแวะกับชายคนไหนจนลือกันไปทั่วว่าองค์หญิงหนิงหลงเป็นพวกรังเกียจเพศชาย แม้นายสนมที่องค์จักรพรรดินีประทานก็ไม่เคยเข้าไปหาเลยแม้สักครั้งเดียว


                    ทว่าเมื่อได้พบกับเธอในวันนี้แล้วความคิดนั้นของเขาก็เปลี่ยนไป เขามั่นใจว่าองค์หญิงจะต้องรังเกียจจนไม่มาหาเขาแน่ๆแต่เธอกลับ แสดงถึงความเอาใจใส่ต่อเขามากมายเพียงนี้หน่ำซ้ำยังได้เห็นมุมสะเพร่ากับเรื่องเล็กน้อยของเธออีกด้วย มันช่างให้ความรู้สึกว่าเธอน่ารักอะไรแบบนี้อย่างช่วยไม่ได้


                    “ท่านโปรดจะรับชาอะไรหรือพะยะค่ะ องค์หญิง?”เขาเดินตรงไปที่ชั้นวางเครื่องชงชาแล้วจึงหันมาถาม


                    “อืม...ข้าอยากดื่มชาที่เจ้าชอบที่สุด ช่วยเอามาให้ข้าได้หรือไม่?”


                    “พะย่ะค่ะ...!


                    จินหลันยิ้มกว้างแล้วหยิบชาที่อยู่ใกล้มืออย่างเชี่ยวชาญ เขาเลือกชาพูเอ่อร์ที่มาจากยอดเขาทางตอนเหนือของอาณาจักรอย่างไม่ลังเล ชานี้ได้ชื่อว่าเป็นชาที่มีราคาแพงที่สุด น้อยคนนักที่จะได้มันมาในครอบครองเนื่องจากเป็นของที่หายากซ้ำยังเป็นชาที่ต้องใช้เวลาหมักยาวนานเป็นปีกว่าจะได้รสชาติที่ติดลิ้นหอมละมุนเช่นนี้


                    เขายกสำรับชาที่เพิ่งชงเสร็จร้อนๆมาวางที่โต๊ะกลมกลางห้องที่มีหนิงหลงนั่งอยู่ที่เก้าอี้ฝั่งขวา กลิ่นของชาที่เพียงแค่อยู่มกล้ก็ยังแตะจมูกแบบนี้นี่คงเป็นชาที่ราคาแพงมากเป็นแน่ หนิงหลงไม่ได้มีความรู้เรื่องชามากมายนักแต่ก็เคยดื่มชามาหลายประเภททำให้พอแยกออกระหว่างชาเกรดยอดเยี่ยมและยอดแย่ได้


                    “หอมมากเลย ขอบคุณเจ้ามากนะจินหลัน”เธอยกถ้วนชาขนาดเล็กกว่าฝามือขึ้นดื่นและกล่าวขอบคุณเขา


                    “อย่าได้กล่าวขอบคุณข้าเลยพะย่ะค่ะ องค์หญิง”


                    “แต่ว่านะ...เจ้าน่ะเป็นสนมของข้า เวลาที่อยู่ด้วยกันเพียงสองคนแบบนี้ข้าอนุญาตให้พูดตามสบายกับข้าได้ เจ้าเข้าใจหรือไม่?”


                    “วะ...ว่าอย่างไรนะพะย่ะค่ะ?”


                    จินหลันที่กำลังยกถ้วยชาขึ้นจิบก็ต้องชะงักในทันที นี่เขาคงไม่ได้หูฟาดไปหรอกใช่ไหม? องค์หญิงหนิงหลงคนนี้...กำลังบอกให้เขาทำตัวเสียมารยาทต่อหน้าเธอก็ได้งั้นเหรอ?


                    “มะ...ไม่ต้องใช้คำว่าพะย่ะค่ะกับข้าหรอก อย่างน้อย...ก็ตอนที่เราอยู่กันแค่สองคนก็ได้”


                    “ระ...เรื่องแบบนั้น!!?


                    “....ทำไม่ได้ งั้นเหรอ?”


                    “...อึก!


                    สายตาที่คาดหวังของหญิงสาวสั่นคลอนหัวใจของเขาราวกับเกิดพื้นดินไหว ในเมื่อเธอขอถึงขนาดนี้แล้วในฐานะนายสนมของเธอแล้ว...เขาจะต่อต้านได้อย่างไรกันเล่า?


                    “ดะ...ได้ขอรับ องค์หญิง”


                    “ดีมาก”


                    เมื่อเห็นเธอยิ้มเขาก็พลอยที่ความสุขไปด้วย ทำไมกันนะ...ทั้งๆที่เขาเพิ่งจะเคยพูดคุยกับเธอเป็นครั้งแรกแต่กลับรู้สึกผ่อนคลายราวกับเป็นคนคุ้นเคยกันมานาน


                    แต่ในขณะนั้นเองที่หนิงหลงกำลังคิดหัวแทบแตกว่าจะชวนคุยเรื่องอะไรดี เธอคุ้นเคยกับการปฏิสัมพันธ์แบบการค้า สร้างความคุ้นเคยพื้นฐานก่อนจะเริ่มงานจะสร้างความน่าเชื่อถือแก่ลูกค้าได้อย่างดี แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...พอหมดเรื่องคุยแล้วบรรยากาศก็เริ่มจะอึดอัดขึ้นมาซะแล้วสิ..


                    จินหลันมีความสามารถในการเล่นกู่เจิงสูงเช่นนั้นแล้วต้องลองพูดคุยเรื่องที่เขาถนัดก่อน..


                    “เสียงกู่เจิงนั่นได้ยินไปถึงตำหนักของข้า มันไพเราะมากๆล่ะ”


                    “ดะ...ดังถึงเพียงนั้น..!?


                    “ไม่ต้องตกใจไป ข้าชอบฟังนะ...มันทำให้ข้าผ่อนคลายมากเลยทีเดียว”


                    จินหลันเล่นกู่เจิงเพียงเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ของตนเท่านั้นจนลืมนึกไปเลยว่าตำหนักข้างเคียงอาจจะได้ยินเสียงกู่เจิงที่เขาเล่น ตั้งแต่ก่อนไม่เคยมีใครบอกเขาว่าเสียงกู่เจิงไปรบกวนอันใดเขาจึงไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้มากนัก แต่องค์หญิงไม่ได้โกรธเธอพอใจกับดนตรีที่เขาบรรเลง สำหรับนักดนตรีแล้วเขารู้สึกเหมือนได้ลอยขึ้นไปยังชั้นฟ้าม่านสวรรค์ก็มิปาน


                    ยิ่งรู้สึกว่าองค์หญิงอ่อนโยนกับเขาเพียงใดเขาก็ยิ่งกังวลจากขึ้นเท่านั้น...ก็ในเมื่อคืนนี้


                    เขาจะต้องปรนนิบัติให้เธอได้รับความสุขถ้าเขาไม่สามารถทำให้เธอพอใจเธอก็คง...!


                    ตัวเขาที่อ่อนประสบการณ์ซ้ำยังปวกเปียกอย่างนี้จะทำให้องค์หญิงสำราญใจได้อย่างไร!?


                    “จะ...จริงด้วยสิ!


                    “เอ๊ะ...?”


                    อยู่ๆเสียงร้องของหนิงหลงก็พาเขาตื่นจากห้วงความคิด เธอเอากำปั้นทุบฝ่ามือแล้วยิ้มออกมาอย่างเริงร่า


                    “ความจริงแล้วข้าอยากลองเล่นกู่เจิงดูบ้าง จินหลันคืนพรุ่งนี้เจ้าพอจะมีเวลาว่างสอนให้ข้าได้หรือไม่?”


                    “นะ...แน่นอนขอรับองค์หญิง”


                    ความฝันวัยเด็กของหนิงหลงครั้งที่ยังอยู่ในโลกเก่าเธอฝันว่าจะได้เล่นดนตรีจีนสักครั้งแต่เพราะทั้งวันๆเธอมีแต่ตารางเรียนพิเศษแน่นเอี๊ยดจนไม่มีเวลาเผื่อให้กับงานอดิเรกเลยแม้แต่น้อย นี่เป็นโอกาสที่ดีที่เธอจะได้ทำเรื่องที่ชอบได้เสียทีแถมข้างกายก็ยังมีอาจารย์ที่เก่งกาจอยู่ตรงนี้ทั้งคน!


                    “วันนี้ข้ามาช้าเกินไปหน่อย...คุยกันได้ครู่เดียวก็เริ่มดึกเสียแล้ว”


                    “อะ...นะ...นั่นสิขอรับ พวกเราควรจะ...นอนได้แล้วสินะขอรับ”


                    “อะ...อื้ม! นั่นสินะ”


                    “....”


                    อา...ไม่นึกเลยว่าจะต้องมีวันนี้


         หนิงหลงคิดมาเสมอว่าจะต้องเก็บครั้งแรกของเธอให้กับชายที่แต่งงานด้วยแล้วเท่านั้น แต่ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอคนนี้หากนับลำดับความสัมพันธ์เขาก็กลายเป็นสามีของเธอไปครึ่งหนึ่งแล้ว ในโลกที่แปลกเพี้ยนไปจากโลกเก่าเธอต้องทำหน้าที่แทนผู้ชายมันรู้สึกขัดแย้งชอบกล


         เธอถอดสายรัดและเสื้อนอกของตัวเองออกภายในคือชุดสำหรับนอนสีขาวฟ้า เธอนั่งลงที่ขอบเตียงพร้อมจังหวะหัวใจที่เต้นระรัว


         ตุบ..!


         “...อะ!


         จู่ๆร่างของหนิงหลงก็ถูกฝ่ามือใหญ่กดไหล่ทั้งสองให้แผ่นหลังแนบกับเตียงเธอร้องเสียงหลงออกมาเบาๆแล้วจึงช้อนสายตาขึ้นไปมองต้นเหตุ ร่างกายของชายที่งดงามดั่งภาพวาดกดคร่อมกายของเธอด้วยใบหน้าที่แดงจัดไปจนถึงใบหู


         “อะ..องค์หญิง มะ...แม้นี่จะเป็นครั้งแรกของข้า...ข้าจะพยายาม”แก้มเขาเห่อร้อนเหมือนกำลังจะป่วยไปแล้ว ดวงตาสีนิลก็สั่นไหวพร้อมกับเหงื่อที่ผุดไปตามใบหน้า


         “จะ...จินหลัน...”


         “ข้า...จะไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวัง”


         “มะ...ไม่ต้องฝืนก็ได้นะ..!


         “ขะ..ข้าไม่ได้...”


         “....!!


         แปะ...แปะ...


         ดวงตาคู่สวยของเขาหลั่งหยดน้ำออกมา เขากำลังร่ำร้องกับตัวเองในใจว่าเหตุใดจึงได้ขลาดและอ่อนแอเพียงนี้ เขากังวลจนสงบใจไม่ได้ภายในหัวก็เอาแต่คิดวิธีทำให้องค์หญิงพึงใจไม่ว่าจะถามตัวเองสักเพียงไหนก็ไม่มีคำตอบกลับออกมาเลย


         ได้แต่หวาดกลัว...


         นี่เป็นโอกาสดีวันนี้องค์หญิงตั้งใจมาหาเขาแท้ๆ!!


         “...ข้าไม่ได้...ฝืน”ปากเขาขยับไปตามสมองสั่งการแต่น้ำตาที่หลั่งจากความรู้สึกก็ไม่หยุดไหลรินเสียที ตอนนี้เขาได้สร้างความลำบากให้องค์หญิงจนได้ จากนี้เขาคง...คงได้ถูกถอดออกจากต่ำแหน่งสนมเป็นแน่..!!


         “พะ...พอก่อนเถอะจินหลัน!”เธอรีบเอาชายเสื้อของตัวเองเข้าไปซับหางตาที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำอย่างลุกลี้ลุกลน แต่ยิ่งเธออ่อนโยนกับเขาแบบนี้แทนที่เขาจะหยุดร้องมันกลับให้ผลที่ตรงกันข้าม


         “...ข้า...ข้า....ข้าขอโทษขอรับ..องค์หญิง ฮึก..”


         “มะ..ไม่เป็นไรหรอก! อยะ...อย่าร้องไห้เลยนะ!


         พอเห็นชายหนุ่มร้องไห้ออกมาไม่หยุด ในตอนนี้หนิงหลงคิดจนหัวหมุนว่าจะทำเช่นไรเขาถึงจะรู้สึกดีขึ้น เธอไม่ได้รังเกียจเขาที่ซื่อตรงกับความรู้สึกตรงกับตนเองแบบนี้หรอกเพียงแต่ไม่ได้เห็นเขาต้องร้องไห้เพราะมันเหมือนกับว่าเธอเป็นต้นเหตุอย่างไรอย่างนั้น


         “พะ...พวกเราไม่จำเป็นต้องฝืนทำเรื่องแบบนั้นทั้งๆที่ยังไม่พร้อมก็ได้นะ รู้ไหม!? นี่ก็เป็นครั้งแรกของข้าเหมือนกัน!


         “องค์หญิง...”


         “เรามาเริ่มสร้างความสัมพันธ์จากก้าวเล็กๆกันดีกว่า เริ่มจาก...ใช่แล้ว! นอนจับมือกันดีไหม?”


         “นอน...จับมือ?”


         “ใช่แล้ว แค่จับมือกันเฉยๆ นี่ไง...ส่งมือของเจ้ามาสิ จินหลัน”


         เธอแบมือข้างซ้ายออกแล้วรอให้ชายหนุ่มวางฝ่ามือลงบนฝ่ามือของเธอ จินหลันใช้ชายเสื้อตัวเองเช็ดหยดน้ำตาออกไปแล้ววางมือไปตามที่หนิงหลงบอก


         มือขององค์หญิง...นุ่มมากเลย...


         เพียงแค่ได้สัมผัสบาๆความไออุ่นจากเธอก็ทำให้เขาคลายความกังลใจไปเกือบทั้งหมด เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนดั่งแสงตะวันความคิดที่น่ากวนใจก็หายไปในบันดล


         “นอนกันเถอะ...”องค์หญิงกล่าวเชิญเชื้อก่อน


         “...ขอรับ”


         เมื่อเธอเอนตัวลงนอนก็ตามไปด้วยจินหลันไปพวกเขานอนตะแคงข้างเข้าหากัน แม้เพียงเล็กน้อย...หัวใจทั้งสองเหมือนกับได้เข้าถึงกันและกันอยู่ครู่หนึ่ง


         “..ขอบพระคุณมากขอรับ...องค์หญิง”


         “ขอบคุณเรื่องอะไรกัน?”


         “ท่านไม่ได้เกลียดข้า...ที่เป็นแบบนี้ใช่ไหมขอรับ?”


         “เกลียด? ไม่เลย...ทำไมต้องเกลียดล่ะ?”


         “ก็ข้า...”


         “เจ้าออกจะงดงามขนาดนี้...ข้าจะเกลียดเจ้าลงได้ยังไงกัน”


         ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก!!


         หากเปรียบจังหวะการเต้นหัวใจของเขาเป็นสัตว์ป่าล่ะก็...ตอนนี้มันคงดิ้นพล่านเป็นกวางน้อยที่กำลังจะถูกเสือจับกินเป็นแน่! เขาไม่เคยใจเต้นกับคำว่างดงามที่ใครต่อใครพูดแต่เมื่อมันออกมาจากปากของเธอหัวใจของเขาก็ไม่อาจทนอยู่เฉยได้เลย!!


         นี่มัน...คืออะไร?


         ความรู้สึกที่เหมือนกับหัวใจจะหลุดออกมาแบบนี้...


         “นอนกันเถอะ...ราตรีสวัสดิ์”


         “ขอรับ...ทะ...ท่านก็เช่นกัน”


         ดวงตาทั้งสองของหนิงหลงปิดลงไปเรียบร้อยพร้อมกับเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอ มือของทั้งสองกันคงจับกันแน่ไม่ปล่อยแม้เธอจะหลับไปแล้ว


         องค์หญิง...ผู้ที่งดงามน่ะ


         จินหลันกุมมือของเธอให้แน่นยิ่งขึ้นก่อนจะปิดตาทั้งสองลงอย่างช้าๆ...


         ...คือท่านต่างหาก

     


    =======================================================

    เพื่อนไรท์ : ทำไมนางเอกดูแมนๆ?

    ไรท์เอง : นั่นสิ ทำไมน้อ?


    เอาเป็นว่าเป็นคาร์ที่เราไม่ได้ตั้งใจให้เกิดแต่เกิดมาแล้วก็ดีเหมือนกันค่ะ 55555

    เพิ่งเปิดเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่พยายามแต่งแนวจีนเลย //ถึงจะไม่ใช่แนวอดีตก็เถอะ 

    1 คอมเม้นต์ เท่ากับ 1 ล้านกำลังใจ อยากให้ไรท์ปรับปรุงแก้ต้องไหนไรท์อ่านทุกคอมเม้นแน่นอนค่าา! แต่ส่วนใหย่ไม่ได้ตอบต้องขอโทษด้วยนะคะ บางทีก็ตันๆไม่รู้จะตอบอะไรดี ;w; 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×