NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    องค์หญิงเพี้ยน กับ เหล่านายสนม

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3 สนมคนที่หนึ่ง

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ค. 64


    บทที่ 3

    สนมคนที่หนึ่ง


                       “ตั้งแต่ที่ท่านอายุครบ 18 ท่านก็ไม่เคยเข้าไปหาพวกเขาเลยอาจจะเป็นปัญหาได้เพคะองค์หญิง ท่านควรใส่ใจเหล่านายสนมของท่านให้มากกว่านี้แม้พวกเขาจะมาจากการแต่งตั้งขององค์จักรพรรดินีก็ตาม”


                    คำแนะนำเมื่อช่วงเวลาสายของวันยังกวนใจหนิงหลงมาจนถึงตอนเย็น หนิงหลงใช้เวลาเกือบทั้งวันนั่งอ่านหนังสือที่จิ้นอันเอามาให้แต่ไม่ว่าอ่านเท่าไหร่ตัวหนังสือก็ไม่เข้าหัวเลยสักนิดเพราะเธอเอาแต่คิดมากเรื่องที่ต้องไปหานายสนมคืนนี้


                    “หากท่านไม่ได้เลือกว่าจะไปหาใครให้ข้าเลือกให้ดีไหมเพคะ?”


                    เพราะว่าไม่อยากให้เรื่องที่ตนเองไม่ใช่หนิงหลงคนเดิมแดงเธอจึงเออออตามที่จิ้นอันเสนอไปทุกอย่าง จึงได้ข้อสรุปที่ว่า...คืนนี้เธอต้องไปพบกับนายสนมลำดับหนึ่งของเธอ


                    ตามข้อมูลแล้วเขาชื่อว่า จินหลัน เขาได้มาเป็นสนมคนแรกขององค์หญิงหนิงหลงเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่ด้วยอาจจะเพราะเหตุผลส่วนตัวของเธอทำให้หนิงหลงคนก่อนไม่เคยไปเยี่ยมเยียนเขาเลยสักครั้ง


                    จินหลันเป็นลูกชายคนที่หนึ่งของแม่ทัพ หย่งฉี ที่เป็นคนใกล้ชิดกับองค์จักรพรรดินีมากที่สุดคนหนึ่งทำให้เขาได้รับการอวยให้เป็นนายสนมเบอร์หนึ่งขององหญิง จิ้นอันกล่าวว่าเขาเป็นชายที่หน้าตางามงดยงกว่าชายใดกิริยาอ่อนช้อยไม่น่าจะสร้างความลำบากใจให้กับเธอมากซ้ำยังเล่นเครื่องดนตรีได้หลายชนิด


                    และที่สำคัญ...เขาเป็นชายที่มีเส้นผมสีขาวเงินมาตั้งแต่เกิด คำพูดนั้นทำให้หูของเธอผึ่งในทันที


                    ผมสีขาวเงินตั้งแต่เกิดอย่างนั้นเหรอ?


         อยากเห็นเหมือนกันนะเนี่ย...


                    แต่คืนนี้มันต้องแบบ...ระ...เรื่องแบบนั้นด้วยเหรอ?


                    หัวของเธอปวดตรงขมับในทันใด ตั้งแต่อยู่มาจนชีวิตเกือบจะขึ้นเลขสามเธอยังไม่มีประสบการณ์รักๆใคร่ๆเลยสักนิดยิ่งประสบการณ์ยามค่ำคืนยิ่งไม่ต้องพูดถึง กล้าสาบานได้เลยว่าไม่เคยเห็นอะไรที่ซ่อนอยู่ใต้กางเกงชายเลยสักครั้งเดียว!!


                    ....ฉันคงเป็นหญิงที่เสียคุณสมบัติในการสืบลูกหลาน


                    หัวสมองซีกขวาของเธอเริ่มปวดระปมขึ้นมาอีกครั้งซะแล้ว อยากจะขอยาพาราสักเม็ดแต่ที่นี่มันมีเสียที่ไหนเล่า..


                    ในเวลานั้นเองที่บทบรรเลงของกู่เจิงไพเราะดังมาจากที่ไหนสักแห่งหนึ่ง เสียงกู่เจิงเบาๆเล็ดลอดมาทางหน้าต่างทิศตะวันออกช่วงทำให้จิตใจที่ว้าวุ่นของหนิงหลงได้ผ่อนคลาย กระนั้นเธอกลับรู้สึกได้ขึ้นความรู้สึกที่อัดแน่นในถ่วงทำนองที่แสนนุ่มนวล


                    ...เป็นเสียงกู่เจิงของใครกันนะ?


                    หากเธอได้อยู่ตรงนั้นเธอมั่นใจว่าจะนั่งฟังให้จบแล้วรอปรบมือให้คนๆนั้นเป็นแน่



                   

                    ดวงอาทิตย์เลื่อนคล้อยจนลับฟ้าไปตามเวลาเหตุไฉนหนิงหลงกลับคิดว่าวันนี้มันช่างรวดเร็วผิดปกติซะเหลือเกิน อา...ไม่อยากให้ถึงยามค่ำเลย เธอไม่อยากจะเสียความบริสุทธิ์ที่สะสมมาแรมปียิ่งกว่าแสตมป์เซเว่น แต่เธอไม่ได้คิดจะเอาไปแลกของสุดพิเศษที่ไหนเพียงแค่ไม่เคยมีใครมารับมันไปเท่านั้นเอง


                     เหตุใดกันเล่า...!!


                    วันนี้เธอกลับต้องเป็นคนที่จะไปพรากความบริสุทธิ์จากผู้ชายงั้นเหรอ!?


                    ในตอนนั้นที่หนิงหลงกำลังกรีดร้องในใจอย่างสังเวชตนเอง จิ้นอัน คนสนิทของเธอก็มาเยี่ยมเยียนพร้อมทั้งส่งเธอไปลงเขียงในคืนนี้อีกด้วย เมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่สู้ดีขององค์หญิงจิ้นอันก็พลันรู้สึกผิดขึ้นมาที่เสนอเรื่องที่เธอไม่ชอบพอเช่นนี้ออกไป


                    “..น้อมถวายบังคมเพคะ องค์หญิง”


                    “สวัสดียามเย็น จิ้นอัน”


                    แต่ทั้งอย่างนั้นทั้งสองก็ยิ้มทักทายกันเป็นมารยาท หนิงหลงกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียงหากด้วยความไม่สงบจิตสงบใจของเธอหนังสือก็เลยหลับหัวมาตั้งแต่แรกที่เธอหยิบอ่าน


                    “หากท่านไม่ต้องการไปจริงๆข้าก็จะยกเลิกให้นะเพคะองค์หญิง”


                    “ใครว่าเช่นนั้นกันเล่า ที่เจ้าเสนอแนะข้ามาล้วนถูกต้อง...อีกอย่างนายสนมนั้นไม่ผิดอันใด ข้าควรจะไปหาพวกเขาบ้างเท่านั้นเอง”


                    “...องค์หญิง”


                    “จะไปตอนนี้เลยไหมล่ะ?”


                    “ช้าก่อนเพคะ”


                    จิ้นอันเดินสอยปลายเท้าเข้ามาอย่างมีเล่ห์นัย มือของเธอสอดเข้าไปในแขนเสื้อในนั้นมีกระดาษสาแผ่นเท่าๆกับกระดาษเอสี่ คนสนิทก้มหัวลงแล้วยื่นกระดาษแผ่นนั้นด้วยสองมือราวกับว่ามันเป็นเอกสารราชการลับ


                    นะ..นี่มันคืออะไรกัน? ต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ?


                    พอคิดว่ามันอาจจะเป็นเอกสารลับสุดยอดหนิงหลงก็ยื่นรับมันอย่างระมัดระรัง แต่เมื่ออเธอกางกระดาษที่พับครึ่งแผ่นนั้นออกความตื่นตกใจก็ทำให้เธอแทบพ่นน้ำลายมายาออกมา!!


                    กระดาษแผ่นนั้นคือคือภาพเขียนเกี่ยวกับร่างกายของผู้ชายแบบหมดเปลือกพร้อมทั้งอธิบายจุดสัมผัสที่ดีสุดตามร่างกายนั้นๆ แถมยังบอกวิธีปลุกเร้าอารมณ์ความต้องการที่บ้าบิ่นที่สุดมากกว่าหนังสือลามกเสียอีก!!


                    “...พรืด!! นะ...นี่มันอะไรเนี่ย!!? จิ้งอันเจ้าเอาอะไรมาให้ข้าดู!!?


                    “เพศศึกษาระดับกลางเพคะ...”


                    “พะ...เพศศึกษาระดับกลาง!!? นี่มันภาพอนาจารแล้วนะ!!


                    “ข้าคิดว่าท่านศึกษาเอาไว้ก่อนไปใช่จริงคงจะดีไม่น้อยนะเพคะ..”


                    “มะ...มันก็จริง แต่นี่มัน...!!


                    นวดต่อมอ่อนไหวด้วยกระบวนท่าวิหกทะยานน้ำสามร้อยครั้งนี่มันอะไรกันห้ะ!!??


                    ถ้าหากนี่เป็นกระดาษสอนเพศศึกษาแล้วล่ะก็มันคงเป็นการเรียนเพศศึกษาที่ยอดแย่ที่สุดเท่าที่เคยเจอมา!!


                    แต่ที่แย่กว่าคือเธอดันเข้าใจนี่สิ!!


                    “โอย...ข้าจะบ้าตาย”หนิงหลงก้มหน้าลงแนบกับมือทั้งสองที่ยกขึ้นลองรับในหน้าที่คนสิ้นหวังอย่างหมดอาลัยตายอยาก


                    “ไม่ต้องห่วงเพคะองค์หญิง ข้ามั่นใจว่าท่านจะต้องผ่านคืนนี้ไปได้อย่างแน่นอน แล้วก็...นี่ด้วยเพคะ”


                    “อะไรอีก..?”


                    ไม่มีอะไรจะทำให้จิตตกไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว...


                    หนิงหลงเงยหน้าขึ้นมองกล่องไม้สีแดงแกะสลักลายดอกไม้อย่างสวยงามในมือจิ้นอันมันมีขนาดเท่ากับผ้ามือดูแลพกพาง่าย เมื่อเธอรับมาเปิดฝาออกก็พบกับถุงผ้าสีแดงเรียบๆขนาดเล็กกว่าผ่ามือสามเท่าวางอยู่ในนั้น12 อันถ้วน


                    ทำไมกันนะ...ดูคุ้นๆจังเลย?


                    เธอหยิบมันขึ้นมาแล้วขยี้มันเบาๆ ทำไมกันนะ...? สัมผัสเด้งๆแบบนี้แถมยังเป็นวงกลมเหมือนกัน..


                    “นี่คือ....?”


                    “มันคือถุงคุมกำเนิดสุดหรรษาเจ้าค่ะ”


                    “...พรวด!!


                    นี่มันคือการเรียกถุงยางแบบสุภาพรึว่าเป็นการเรียกแบบพิสดารกันแน่!!?


                    เดิมทีเรียกถุงคุมกำเนิดก็พอเข้าใจแล้ว แต่เจ้าคำว่าสุดหรรษาใครมันเป็นคนต้นคิดให้เรียกมันแบบนั้นกันห้ะ!!?


                    แต่ว่าที่แห่งนี้มีถุงยางด้วยงั้นเหรอ? ถ้ามันไม่ได้สร้างมาจากพลาสติกแล้วมันสร้างมาจากอะไรกัน!!? หนิงหลงได้แต่มองสิ่งที่อยู่ในมือด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความนึกคิดที่หลากหลาย มันคือถุงยางสุดหรรษาที่คนในโลกนี้ใช้กัน...มันคงเป็นเรื่องปกติสินะ?


                    “ความจริงแล้ว...คำว่าสุดหรรษาเป็นชื่อที่คนสร้างตั้งขึ้นเพื่อให้น่าใช้มากยิ่งขึ้นน่ะเจ้าค่ะ แต่ข้าคิดว่าไม่ควรเติมมาเลยจะดีกว่า ฮะฮะ”


                    จิ้นอันหัวเราะแห้งๆด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย ใช่แล้วจิ้นอัน เธอพูดถูกที่สุดคำว่าสุดหรรษาไม่ได้ช่วยในมันน่าใช้แต่มันทำให้ลำบากใจที่จะใช้มากกว่า


                    “ขะ...ข้าต้องใช้มันด้วยงั้นเหรอ?”หนิงหลงเก็บถุงคุมกำเนิดสุดหรรษาลงไปในกล่องแล้วปิดฝาเอาไว้ให้มิดชิด


                    “ท่านจะไม่ใช้มันก็ได้ แต่ในความคิดของข้า..ข้าคิดว่าการมีบุตรในตอนนี้ยังไม่สมควรเพราะร่างกายของท่านยังฟื้นฟูไม่เต็มที่เพคะ”


                    “นั่นสินะ...เจ้าพูดถูก”


                    “นี่ใกล้เวลาแล้ว ข้าคิดว่าพวกเราควรจะรีบไปแล้วเพคะ”


                    “อื้ม...ไปกันเถอะ”


                    หนิงหลงและจิ้นอันเดินออกมาจากห้องบรรทมที่ด้านนอกมีผู้ติดตามอีกห้าคนที่เป็นนายกำนัลประจำตำหนักแห่งนี้หนึ่งในนั้นคือนายกำนัลที่ทำชามกระเบื้องแตกเมื่อกลางวัน เขายังดูประหม่าเมื่อพบหน้าหนิงหลงเธอจึงยิ้มอย่างอ่อนโยนให้แก่เขาเพื่อบอกว่าเขาไม่ต้องกังวลเรื่องที่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่เธอทำกลับทำให้หัวใจของเขาปั่นป่วนเป็นอย่างมาก


                    พวกเขาเดินผ่านไปตามระเบียงทางเดินในห้วงเวลาพลบค่ำ เหล่าหิ่งห้อยนับสิบออกมาร่ายรำใต้แสงจันทร์ช่างงดงามจนไม่อยากละสายตาแต่หากทำเช่นนั้นคงจะต้องสะดุดล้มต่อหน้าคนอื่นแน่ๆ หนิงหลงเลยคิดตั้งใจเดินมากกว่าหันไปมองความงามย่ามไร้ตะวัน


                    จนในที่สุดเธอก็เดินมาถึงตำหนักของนายสนมจินหลันอย่างรวดเร็ว ที่นี่ไม่ได้ห่างไกลของตำหนักของเธอมันไม่ใช่ที่ๆใหญ่โตเหมือนตำหนักมังกรฟ้าของเธอแต่ก็ใหญ่มากหากเทียบกับบ้านทั่วไป


                    “ข้าคงต้องขอตัวลาเพคะองค์หญิง”จิ้นอันโค้งคำนับบอกลาเมื่อเธอพาองค์หญิงมาส่งขึ้นที่แล้ว


                    “ขอบใจเจ้ามากจิ้งอัน ฝากสวัสดีสามีของเจ้าด้วยล่ะ”


                    “เพคะ องค์หญิง”


                    คนสนิทของเธอเดินจากไปแล้วตอนนี้เธอคงต้องเดินเข้าไปที่นี่ด้วยตัวเองซะแล้ว แต่...การมีนายกำนันมายืนรอแบนี้มันทำให้เธอรู้สึกไม่ส่วนตัวเองเลยสักนิดหนิงหลงจึงหันไปบอกกับเหล่านายกำนัลด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน


                    “ขอบคุณพวกเจ้าที่มาส่งข้า แต่กลับไปพักผ่อนเถิด พวกเจ้าทั้งหลายล้วนทำงานหนักมากเกินพอในวันนี้แล้ว”


                    “ขะ...ขอรับ องค์หญิง ขอบคุณในความเมตตา”


                    นายกำนัลทั้งห้าคนโค้งรับคำสั่งแต่โดยดี พวกเขาเดินกลับไปทางเดิมอย่างช้าๆเมื่อเห็นแบบนั้นแล้วหนิงหลงก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ เอาล่ะ...ประตูด่านสุดท้ายของความซิงตลอด 27 ปี!!


                    ลาก่อนพรหมจรรย์ลูกรัก แม่จะคิดถึงลูกนะ!


                    แต่เพียงหนิงหลงก้าวเท้าเข้าไปในประตูตำหนักเสียงกู่เจิงที่แสนไพเราะเหมือนเมื่อตอนนั้นก็ลอยเข้ามาปะทะกับหูของเธอ เสียงนั้นเป็นมนตร์สะกดให้เธอเดินตามหามัน เธอเดินไปบนระเบียงตำหนักผ่านบ่อน้ำที่เต็มไปด้วยหิ่งห้อยและพุ่มไม้เบญจมาศสีชมพูอ่อน ในค่ำคืนที่ไฟทุกดวงล้วนดับสนิทมีเพียงห้องเดียวที่ยังคงสว่างจ้าด้วยไปจากตะเกียง


                    หากไม่ต้องบอกก็คงรู้ได้ทันทีว่าเป็นเสียงกู่เจิงของใคร...?


                    หนิงหลงเปิดประตูในห้องๆนั้นออกช้าๆ ภาพของชายที่มีโฉมงดงามราวกับหลุดออกมาจากภาพวาดของศิลปินชื่อดัง เขามีสันจมูกที่โด่งสวยและขมตาอันงอนยาวรับเอาริมฝีปากสีผมพูอ่อน ผิวขาวสว่างราวกับหิมะและที่สำคัญ...เส้นผมยาวระดับอกสีขาวเงินต้องกับแสงตะเกียงถูกปล่อยยาวลงมาคลอกับใบหน้า ชุดที่สวดใส่อยู่แม้ไม่ได้สวยหรูเป็นเพียงชุดยาวสีขาวแต้มด้วยลายพิมพ์สีฟ้ารูปดอกบ๊วยที่แสนธรรมดาแต่ก็ดึงความงามอย่างเรียบง่าย


                    ปลายนิ้วของเขาบรรจงบรรเลงเพลงอย่างประณีตทุกท่องทำนอง ดวงตาทั้งสองหลับนิ่งไม่ได้สนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นนออกกายจิตของเขาตั้งตรงอยู่กับบทกู่เจิงที่เขาเล่นอยู่เท่านั้น


                    ตรงตามข้อมูลที่ได้รับมา..เขาคือ จินหลัน อย่างแน่นอน!


                    แปะ แปะ แปะ!


                    เมื่อเพลงบรรเลงจบองค์หญิงที่ประทับใจกับบทเพลที่แสนอ่อนหวานเธอปรบมือให้กับผู้บรรเลง ชายผู้บรรเลงเพลงเงยหน้าขึ้นมาก็ตกใจอย่างมาก


                    “อะ...องหญิงค์”เสียงอันแหบพร่าแต่ก็แผงไปด้วยความงาม สายตาของเขาจับจ้องไปยังสตรีตรงหน้า


                    “เป็นบทเพลงที่ไพเราะดั่งเสียงสวรรค์เลยล่ะ”เธอสร้างความคุ้นเคยด้วยการชื่นชมเขา รอมยิ้มที่เป็นดั่งเครื่องหมายการค้าของยังเธอไม่เคยพลาดเป้าหมาย!


                    “หะ..หามิได้ องค์หญิงชมข้าเกินไปแล้ว”


                    “ข้าเพียงพูดตามที่ได้ฟังเท่านั้น”


                    หนิงหลงแปะมือให้ดังมากขึ้นส่งผลให้แก้มของชายคนนั้นแดงระเรื่อขึ้นไปด้วย แต่เหมือนเธอจะหลงลืมบางสิ่งบางอย่างไป...


                    ..ว่าเธอเก็บถุงคุมกำเนิดสุดหรรษาไว้ในแขนเสื้อ


                    ตุบ!! แผละ!


                    กล่องสีแดงขนาดเล็กหล่นลงกับพื้นจนฝาหลุดออก ถุงผ้าสีแดงที่ห่อสิ่งมหัศจรรย์เอาไว้กระจายเต็มพื้นที่ๆเธอยืนอยู่!!


                    “อะ...”


                    “...!!!


                    หนิงหลงทราบนิสัยของตัวเองดีกว่าเมื่อเธอเจอสถานการณ์ที่หนักใจเธอมักจะซ่อนมันไว้ในหน้ากากรอยยิ้ม แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็มักจะผิดพลาดกับจุดเล็กๆเสมอ


                    ฉ่า..!


                    แก้มของจินหลันเห่อแดงขึ้นจนเขาต้องยกแขนเสื้อมาปกปิดเพื่อซุกซ่อนมันเอาไว้ แต่กลับกัน...ใบหน้าของหนิงหลงนั้นซีกเผือกราวกับคนตาย


                    ถึงจะรู้อยู่แล้ว...ว่ามักผิดพลาดกับเรื่องเล็กน้อย...


         แต่นี่...มันไม่ใช่แค่พลาดจุดเล็กๆแล้ว!!         

    ======================================================

    เปิดมา 4 ตอนแรกด้วยการเจอนายสนมเลย ยอดเยี่ยมมาก 5555555

    สวัสดีค่าาา ไรท์เองนะคะสำหรับคนที่ไม่รู้จักก็ไร์ปลากะพงเองค่ะ

    ช่วงนี้อยากแต่งแนวจีนแหวกๆหน่อยก็เลยมาแต่งเรื่องนี้

    ถึงจะยังแต่งอีกเรื่องนึงยังไม่จบก็ตาม...//โดนตบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×