คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3 สนมคนที่หนึ่ง
บทที่ 3
สนมคนที่หนึ่ง
“ตั้งแต่ที่ท่านอายุครบ 18 ท่านก็ไม่เคยเข้าไปหาพวกเขาเลยอาจจะเป็นปัญหาได้เพคะองค์หญิง ท่านควรใส่ใจเหล่านายสนมของท่านให้มากกว่านี้แม้พวกเขาจะมาจากการแต่งตั้งขององค์จักรพรรดินีก็ตาม”
คำแนะนำเมื่อช่วงเวลาสายของวันยังกวนใจหนิงหลงมาจนถึงตอนเย็น
หนิงหลงใช้เวลาเกือบทั้งวันนั่งอ่านหนังสือที่จิ้นอันเอามาให้แต่ไม่ว่าอ่านเท่าไหร่ตัวหนังสือก็ไม่เข้าหัวเลยสักนิดเพราะเธอเอาแต่คิดมากเรื่องที่ต้องไปหานายสนมคืนนี้
“หากท่านไม่ได้เลือกว่าจะไปหาใครให้ข้าเลือกให้ดีไหมเพคะ?”
เพราะว่าไม่อยากให้เรื่องที่ตนเองไม่ใช่หนิงหลงคนเดิมแดงเธอจึงเออออตามที่จิ้นอันเสนอไปทุกอย่าง
จึงได้ข้อสรุปที่ว่า...คืนนี้เธอต้องไปพบกับนายสนมลำดับหนึ่งของเธอ
ตามข้อมูลแล้วเขาชื่อว่า จินหลัน
เขาได้มาเป็นสนมคนแรกขององค์หญิงหนิงหลงเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
แต่ด้วยอาจจะเพราะเหตุผลส่วนตัวของเธอทำให้หนิงหลงคนก่อนไม่เคยไปเยี่ยมเยียนเขาเลยสักครั้ง
จินหลันเป็นลูกชายคนที่หนึ่งของแม่ทัพ
หย่งฉี ที่เป็นคนใกล้ชิดกับองค์จักรพรรดินีมากที่สุดคนหนึ่งทำให้เขาได้รับการอวยให้เป็นนายสนมเบอร์หนึ่งขององหญิง จิ้นอันกล่าวว่าเขาเป็นชายที่หน้าตางามงดยงกว่าชายใดกิริยาอ่อนช้อยไม่น่าจะสร้างความลำบากใจให้กับเธอมากซ้ำยังเล่นเครื่องดนตรีได้หลายชนิด
และที่สำคัญ...เขาเป็นชายที่มีเส้นผมสีขาวเงินมาตั้งแต่เกิด
คำพูดนั้นทำให้หูของเธอผึ่งในทันที
ผมสีขาวเงินตั้งแต่เกิดอย่างนั้นเหรอ?
อยากเห็นเหมือนกันนะเนี่ย...
แต่คืนนี้มันต้องแบบ...ระ...เรื่องแบบนั้นด้วยเหรอ?
หัวของเธอปวดตรงขมับในทันใด ตั้งแต่อยู่มาจนชีวิตเกือบจะขึ้นเลขสามเธอยังไม่มีประสบการณ์รักๆใคร่ๆเลยสักนิดยิ่งประสบการณ์ยามค่ำคืนยิ่งไม่ต้องพูดถึง
กล้าสาบานได้เลยว่าไม่เคยเห็นอะไรที่ซ่อนอยู่ใต้กางเกงชายเลยสักครั้งเดียว!!
....ฉันคงเป็นหญิงที่เสียคุณสมบัติในการสืบลูกหลาน
หัวสมองซีกขวาของเธอเริ่มปวดระปมขึ้นมาอีกครั้งซะแล้ว
อยากจะขอยาพาราสักเม็ดแต่ที่นี่มันมีเสียที่ไหนเล่า..
ในเวลานั้นเองที่บทบรรเลงของกู่เจิงไพเราะดังมาจากที่ไหนสักแห่งหนึ่ง
เสียงกู่เจิงเบาๆเล็ดลอดมาทางหน้าต่างทิศตะวันออกช่วงทำให้จิตใจที่ว้าวุ่นของหนิงหลงได้ผ่อนคลาย
กระนั้นเธอกลับรู้สึกได้ขึ้นความรู้สึกที่อัดแน่นในถ่วงทำนองที่แสนนุ่มนวล
...เป็นเสียงกู่เจิงของใครกันนะ?
หากเธอได้อยู่ตรงนั้นเธอมั่นใจว่าจะนั่งฟังให้จบแล้วรอปรบมือให้คนๆนั้นเป็นแน่
ดวงอาทิตย์เลื่อนคล้อยจนลับฟ้าไปตามเวลาเหตุไฉนหนิงหลงกลับคิดว่าวันนี้มันช่างรวดเร็วผิดปกติซะเหลือเกิน
อา...ไม่อยากให้ถึงยามค่ำเลย
เธอไม่อยากจะเสียความบริสุทธิ์ที่สะสมมาแรมปียิ่งกว่าแสตมป์เซเว่น
แต่เธอไม่ได้คิดจะเอาไปแลกของสุดพิเศษที่ไหนเพียงแค่ไม่เคยมีใครมารับมันไปเท่านั้นเอง
เหตุใดกันเล่า...!!
วันนี้เธอกลับต้องเป็นคนที่จะไปพรากความบริสุทธิ์จากผู้ชายงั้นเหรอ!?
ในตอนนั้นที่หนิงหลงกำลังกรีดร้องในใจอย่างสังเวชตนเอง
จิ้นอัน คนสนิทของเธอก็มาเยี่ยมเยียนพร้อมทั้งส่งเธอไปลงเขียงในคืนนี้อีกด้วย
เมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่สู้ดีขององค์หญิงจิ้นอันก็พลันรู้สึกผิดขึ้นมาที่เสนอเรื่องที่เธอไม่ชอบพอเช่นนี้ออกไป
“..น้อมถวายบังคมเพคะ องค์หญิง”
“สวัสดียามเย็น จิ้นอัน”
แต่ทั้งอย่างนั้นทั้งสองก็ยิ้มทักทายกันเป็นมารยาท
หนิงหลงกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียงหากด้วยความไม่สงบจิตสงบใจของเธอหนังสือก็เลยหลับหัวมาตั้งแต่แรกที่เธอหยิบอ่าน
“หากท่านไม่ต้องการไปจริงๆข้าก็จะยกเลิกให้นะเพคะองค์หญิง”
“ใครว่าเช่นนั้นกันเล่า
ที่เจ้าเสนอแนะข้ามาล้วนถูกต้อง...อีกอย่างนายสนมนั้นไม่ผิดอันใด
ข้าควรจะไปหาพวกเขาบ้างเท่านั้นเอง”
“...องค์หญิง”
“จะไปตอนนี้เลยไหมล่ะ?”
“ช้าก่อนเพคะ”
จิ้นอันเดินสอยปลายเท้าเข้ามาอย่างมีเล่ห์นัย
มือของเธอสอดเข้าไปในแขนเสื้อในนั้นมีกระดาษสาแผ่นเท่าๆกับกระดาษเอสี่
คนสนิทก้มหัวลงแล้วยื่นกระดาษแผ่นนั้นด้วยสองมือราวกับว่ามันเป็นเอกสารราชการลับ
นะ..นี่มันคืออะไรกัน?
ต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ?
พอคิดว่ามันอาจจะเป็นเอกสารลับสุดยอดหนิงหลงก็ยื่นรับมันอย่างระมัดระรัง
แต่เมื่ออเธอกางกระดาษที่พับครึ่งแผ่นนั้นออกความตื่นตกใจก็ทำให้เธอแทบพ่นน้ำลายมายาออกมา!!
กระดาษแผ่นนั้นคือคือภาพเขียนเกี่ยวกับร่างกายของผู้ชายแบบหมดเปลือกพร้อมทั้งอธิบายจุดสัมผัสที่ดีสุดตามร่างกายนั้นๆ
แถมยังบอกวิธีปลุกเร้าอารมณ์ความต้องการที่บ้าบิ่นที่สุดมากกว่าหนังสือลามกเสียอีก!!
“...พรืด!! นะ...นี่มันอะไรเนี่ย!!? จิ้งอันเจ้าเอาอะไรมาให้ข้าดู!!?”
“เพศศึกษาระดับกลางเพคะ...”
“พะ...เพศศึกษาระดับกลาง!!? นี่มันภาพอนาจารแล้วนะ!!”
“ข้าคิดว่าท่านศึกษาเอาไว้ก่อนไปใช่จริงคงจะดีไม่น้อยนะเพคะ..”
“มะ...มันก็จริง แต่นี่มัน...!!”
นวดต่อมอ่อนไหวด้วยกระบวนท่าวิหกทะยานน้ำสามร้อยครั้งนี่มันอะไรกันห้ะ!!??
ถ้าหากนี่เป็นกระดาษสอนเพศศึกษาแล้วล่ะก็มันคงเป็นการเรียนเพศศึกษาที่ยอดแย่ที่สุดเท่าที่เคยเจอมา!!
แต่ที่แย่กว่าคือเธอดันเข้าใจนี่สิ!!
“โอย...ข้าจะบ้าตาย”หนิงหลงก้มหน้าลงแนบกับมือทั้งสองที่ยกขึ้นลองรับในหน้าที่คนสิ้นหวังอย่างหมดอาลัยตายอยาก
“ไม่ต้องห่วงเพคะองค์หญิง ข้ามั่นใจว่าท่านจะต้องผ่านคืนนี้ไปได้อย่างแน่นอน
แล้วก็...นี่ด้วยเพคะ”
“อะไรอีก..?”
ไม่มีอะไรจะทำให้จิตตกไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว...
หนิงหลงเงยหน้าขึ้นมองกล่องไม้สีแดงแกะสลักลายดอกไม้อย่างสวยงามในมือจิ้นอันมันมีขนาดเท่ากับผ้ามือดูแลพกพาง่าย
เมื่อเธอรับมาเปิดฝาออกก็พบกับถุงผ้าสีแดงเรียบๆขนาดเล็กกว่าผ่ามือสามเท่าวางอยู่ในนั้น12
อันถ้วน
ทำไมกันนะ...ดูคุ้นๆจังเลย?
เธอหยิบมันขึ้นมาแล้วขยี้มันเบาๆ
ทำไมกันนะ...? สัมผัสเด้งๆแบบนี้แถมยังเป็นวงกลมเหมือนกัน..
“นี่คือ....?”
“มันคือถุงคุมกำเนิดสุดหรรษาเจ้าค่ะ”
“...พรวด!!”
นี่มันคือการเรียกถุงยางแบบสุภาพรึว่าเป็นการเรียกแบบพิสดารกันแน่!!?
เดิมทีเรียกถุงคุมกำเนิดก็พอเข้าใจแล้ว
แต่เจ้าคำว่าสุดหรรษาใครมันเป็นคนต้นคิดให้เรียกมันแบบนั้นกันห้ะ!!?
แต่ว่าที่แห่งนี้มีถุงยางด้วยงั้นเหรอ?
ถ้ามันไม่ได้สร้างมาจากพลาสติกแล้วมันสร้างมาจากอะไรกัน!!?
หนิงหลงได้แต่มองสิ่งที่อยู่ในมือด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความนึกคิดที่หลากหลาย
มันคือถุงยางสุดหรรษาที่คนในโลกนี้ใช้กัน...มันคงเป็นเรื่องปกติสินะ?
“ความจริงแล้ว...คำว่าสุดหรรษาเป็นชื่อที่คนสร้างตั้งขึ้นเพื่อให้น่าใช้มากยิ่งขึ้นน่ะเจ้าค่ะ
แต่ข้าคิดว่าไม่ควรเติมมาเลยจะดีกว่า ฮะฮะ”
จิ้นอันหัวเราะแห้งๆด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย
ใช่แล้วจิ้นอัน เธอพูดถูกที่สุดคำว่าสุดหรรษาไม่ได้ช่วยในมันน่าใช้แต่มันทำให้ลำบากใจที่จะใช้มากกว่า
“ขะ...ข้าต้องใช้มันด้วยงั้นเหรอ?”หนิงหลงเก็บถุงคุมกำเนิดสุดหรรษาลงไปในกล่องแล้วปิดฝาเอาไว้ให้มิดชิด
“ท่านจะไม่ใช้มันก็ได้
แต่ในความคิดของข้า..ข้าคิดว่าการมีบุตรในตอนนี้ยังไม่สมควรเพราะร่างกายของท่านยังฟื้นฟูไม่เต็มที่เพคะ”
“นั่นสินะ...เจ้าพูดถูก”
“นี่ใกล้เวลาแล้ว
ข้าคิดว่าพวกเราควรจะรีบไปแล้วเพคะ”
“อื้ม...ไปกันเถอะ”
หนิงหลงและจิ้นอันเดินออกมาจากห้องบรรทมที่ด้านนอกมีผู้ติดตามอีกห้าคนที่เป็นนายกำนัลประจำตำหนักแห่งนี้หนึ่งในนั้นคือนายกำนัลที่ทำชามกระเบื้องแตกเมื่อกลางวัน
เขายังดูประหม่าเมื่อพบหน้าหนิงหลงเธอจึงยิ้มอย่างอ่อนโยนให้แก่เขาเพื่อบอกว่าเขาไม่ต้องกังวลเรื่องที่เกิดขึ้น
แต่สิ่งที่เธอทำกลับทำให้หัวใจของเขาปั่นป่วนเป็นอย่างมาก
พวกเขาเดินผ่านไปตามระเบียงทางเดินในห้วงเวลาพลบค่ำ
เหล่าหิ่งห้อยนับสิบออกมาร่ายรำใต้แสงจันทร์ช่างงดงามจนไม่อยากละสายตาแต่หากทำเช่นนั้นคงจะต้องสะดุดล้มต่อหน้าคนอื่นแน่ๆ
หนิงหลงเลยคิดตั้งใจเดินมากกว่าหันไปมองความงามย่ามไร้ตะวัน
จนในที่สุดเธอก็เดินมาถึงตำหนักของนายสนมจินหลันอย่างรวดเร็ว
ที่นี่ไม่ได้ห่างไกลของตำหนักของเธอมันไม่ใช่ที่ๆใหญ่โตเหมือนตำหนักมังกรฟ้าของเธอแต่ก็ใหญ่มากหากเทียบกับบ้านทั่วไป
“ข้าคงต้องขอตัวลาเพคะองค์หญิง”จิ้นอันโค้งคำนับบอกลาเมื่อเธอพาองค์หญิงมาส่งขึ้นที่แล้ว
“ขอบใจเจ้ามากจิ้งอัน
ฝากสวัสดีสามีของเจ้าด้วยล่ะ”
“เพคะ องค์หญิง”
คนสนิทของเธอเดินจากไปแล้วตอนนี้เธอคงต้องเดินเข้าไปที่นี่ด้วยตัวเองซะแล้ว
แต่...การมีนายกำนันมายืนรอแบนี้มันทำให้เธอรู้สึกไม่ส่วนตัวเองเลยสักนิดหนิงหลงจึงหันไปบอกกับเหล่านายกำนัลด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“ขอบคุณพวกเจ้าที่มาส่งข้า
แต่กลับไปพักผ่อนเถิด พวกเจ้าทั้งหลายล้วนทำงานหนักมากเกินพอในวันนี้แล้ว”
“ขะ...ขอรับ องค์หญิง ขอบคุณในความเมตตา”
นายกำนัลทั้งห้าคนโค้งรับคำสั่งแต่โดยดี
พวกเขาเดินกลับไปทางเดิมอย่างช้าๆเมื่อเห็นแบบนั้นแล้วหนิงหลงก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ
เอาล่ะ...ประตูด่านสุดท้ายของความซิงตลอด 27 ปี!!
ลาก่อนพรหมจรรย์ลูกรัก
แม่จะคิดถึงลูกนะ!
แต่เพียงหนิงหลงก้าวเท้าเข้าไปในประตูตำหนักเสียงกู่เจิงที่แสนไพเราะเหมือนเมื่อตอนนั้นก็ลอยเข้ามาปะทะกับหูของเธอ
เสียงนั้นเป็นมนตร์สะกดให้เธอเดินตามหามัน
เธอเดินไปบนระเบียงตำหนักผ่านบ่อน้ำที่เต็มไปด้วยหิ่งห้อยและพุ่มไม้เบญจมาศสีชมพูอ่อน
ในค่ำคืนที่ไฟทุกดวงล้วนดับสนิทมีเพียงห้องเดียวที่ยังคงสว่างจ้าด้วยไปจากตะเกียง
หากไม่ต้องบอกก็คงรู้ได้ทันทีว่าเป็นเสียงกู่เจิงของใคร...?
หนิงหลงเปิดประตูในห้องๆนั้นออกช้าๆ
ภาพของชายที่มีโฉมงดงามราวกับหลุดออกมาจากภาพวาดของศิลปินชื่อดัง
เขามีสันจมูกที่โด่งสวยและขมตาอันงอนยาวรับเอาริมฝีปากสีผมพูอ่อน
ผิวขาวสว่างราวกับหิมะและที่สำคัญ...เส้นผมยาวระดับอกสีขาวเงินต้องกับแสงตะเกียงถูกปล่อยยาวลงมาคลอกับใบหน้า
ชุดที่สวดใส่อยู่แม้ไม่ได้สวยหรูเป็นเพียงชุดยาวสีขาวแต้มด้วยลายพิมพ์สีฟ้ารูปดอกบ๊วยที่แสนธรรมดาแต่ก็ดึงความงามอย่างเรียบง่าย
ปลายนิ้วของเขาบรรจงบรรเลงเพลงอย่างประณีตทุกท่องทำนอง
ดวงตาทั้งสองหลับนิ่งไม่ได้สนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นนออกกายจิตของเขาตั้งตรงอยู่กับบทกู่เจิงที่เขาเล่นอยู่เท่านั้น
ตรงตามข้อมูลที่ได้รับมา..เขาคือ
จินหลัน อย่างแน่นอน!
แปะ แปะ แปะ!
เมื่อเพลงบรรเลงจบองค์หญิงที่ประทับใจกับบทเพลที่แสนอ่อนหวานเธอปรบมือให้กับผู้บรรเลง
ชายผู้บรรเลงเพลงเงยหน้าขึ้นมาก็ตกใจอย่างมาก
“อะ...องหญิงค์”เสียงอันแหบพร่าแต่ก็แผงไปด้วยความงาม
สายตาของเขาจับจ้องไปยังสตรีตรงหน้า
“เป็นบทเพลงที่ไพเราะดั่งเสียงสวรรค์เลยล่ะ”เธอสร้างความคุ้นเคยด้วยการชื่นชมเขา
รอมยิ้มที่เป็นดั่งเครื่องหมายการค้าของยังเธอไม่เคยพลาดเป้าหมาย!
“หะ..หามิได้
องค์หญิงชมข้าเกินไปแล้ว”
“ข้าเพียงพูดตามที่ได้ฟังเท่านั้น”
หนิงหลงแปะมือให้ดังมากขึ้นส่งผลให้แก้มของชายคนนั้นแดงระเรื่อขึ้นไปด้วย
แต่เหมือนเธอจะหลงลืมบางสิ่งบางอย่างไป...
..ว่าเธอเก็บถุงคุมกำเนิดสุดหรรษาไว้ในแขนเสื้อ
ตุบ!! แผละ!
กล่องสีแดงขนาดเล็กหล่นลงกับพื้นจนฝาหลุดออก
ถุงผ้าสีแดงที่ห่อสิ่งมหัศจรรย์เอาไว้กระจายเต็มพื้นที่ๆเธอยืนอยู่!!
“อะ...”
“...!!!”
หนิงหลงทราบนิสัยของตัวเองดีกว่าเมื่อเธอเจอสถานการณ์ที่หนักใจเธอมักจะซ่อนมันไว้ในหน้ากากรอยยิ้ม
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็มักจะผิดพลาดกับจุดเล็กๆเสมอ
ฉ่า..!
แก้มของจินหลันเห่อแดงขึ้นจนเขาต้องยกแขนเสื้อมาปกปิดเพื่อซุกซ่อนมันเอาไว้
แต่กลับกัน...ใบหน้าของหนิงหลงนั้นซีกเผือกราวกับคนตาย
ถึงจะรู้อยู่แล้ว...ว่ามักผิดพลาดกับเรื่องเล็กน้อย...
แต่นี่...มันไม่ใช่แค่พลาดจุดเล็กๆแล้ว!!
======================================================
เปิดมา 4 ตอนแรกด้วยการเจอนายสนมเลย ยอดเยี่ยมมาก 5555555
สวัสดีค่าาา ไรท์เองนะคะสำหรับคนที่ไม่รู้จักก็ไร์ปลากะพงเองค่ะ
ช่วงนี้อยากแต่งแนวจีนแหวกๆหน่อยก็เลยมาแต่งเรื่องนี้
ถึงจะยังแต่งอีกเรื่องนึงยังไม่จบก็ตาม...//โดนตบ
ความคิดเห็น