ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    องค์หญิงเพี้ยน กับ เหล่านายสนม

    ลำดับตอนที่ #45 : บทที่ 44 ระยะห่างที่สั้นลง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.23K
      558
      22 เม.ย. 62

    บทที่ 44

    ระยะห่างที่สั้นลง



                กึก กึก กึก...

                    ปลายพู่กันอันเล็กจรดเขียนลงบนกระดาษสีขาวขนาดใหญ่อย่างไม่หยุดมือ หนิงหลงขมวดคิ้วจกจ้องไปยังหน้ากระดาษอย่างถี่ถ้วนเพื่อไม่ให้คำใดตกหล่นรึผิดพลาดไป หากผิดไปคำหนึ่งจะไม่สามารถลบแก้ใหม่ได้ต้องเขียนใหม่ทั้งหมด หนิงหลงเคยประสบปัญหาในช่วงแรกๆมันทำให้เธอหัวเสียทุกคืน แต่ตอนนี้เธอสามารถใช้ได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว

                    จินหลันมองดูสีหน้าที่เคร่งเครียดของหนิงหลงก็รู้สึกหน่ายใจที่ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเธอได้ ทำได้เพียงคอยระวังไม่ให้น้ำชาในแก้วเย็นก็เท่านั้น

                    “องค์หญิง ท่านรู้สึกปวดเมื่อยตรงไหนรึไม่ขอรับ?”

                    “เอ๊ะ?”

                    ในตอนที่หนิงหลงกำลังจกจ่อกับตัวหนังสือในหน้ากระดาษ เสียงของจินหลันก็เอ่ยขึ้นถามด้วยแววตาที่ตั้งมั่น บุรุษนั้นถูกห้ามมิให้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการบ้านการเมือง แม้ว่าเขาจะอยากรู้ว่าอะไรทำให้องค์หญิงต้องเคร่งเครียดผิดปกติถึงเพียงนี้ก็มิอาจจะกล้าถามออกไปได้

                    หากแต่อย่างน้อยเขาก็อยากจะช่วยอำนวยความสบายให้แก่เธอ คงจะมีแต่การนวดที่เขามั่นแกมั่นใจเป็นยิ่งเท่านั้น

                    “หนะ...เมื่อยหรือ? ก็...คงจะเป็นที่ไหล่กระมัง?”หนิงหลงก็อยากจะบอกไปว่า ไม่เป็นไรหรอก แต่ด้วยสายตาที่รบเร้ายิ่งกว่าทำให้เธอไม่กล้าจะปฏิเสธออกไป

                    “เช่นนั้น..! ข้าขออนุญาตนวดไหล่ให้ท่านจะได้ไหมขอรับ?”

                    “อื้ม ได้สิ”

                    แก้มของหนิงหลงมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นมาสองสามเม็ด เธอเปิดประเด็นให้ขนาดนี้จะให้ปฏิเสธได้อย่างไรกันเล่า? เธอเองก็มิได้รังเกียจที่จะให้เขามานวดไหล่ แต่พื้นฐานแล้วเธอเป็นพวกบ้าจี้ที่ต้นคออยู่ด้วยนี่สิ...

                    จินหลันขยับกายมาทางด้านหลังของหนิงหลงแล้ววางมือทั้งสองข้างลงที่หันไหล่ ปลายนิ้วของเขาจับไปตามเส้นกระดูกอย่างเบามือ หนิงหลงเกร็งหัวไหล่เล็กน้อยอย่างไม่คุ้นชิน

                    “...องค์หญิง วันนี้ท่านทำงานมานานเท่าไหร่แล้วขอรับ? ไหล่ของท่านเกร็งมากเลย”

                    “ก็...ไม่นานเท่าไหร่หรอก”

                    ความจริงเป็นเพราะเธอเองต่างหากที่เผลอเกร็งไหล่ไปโดยไม่ได้ตั้งใจ จินหลันยังมีความพยายามจะนวดลงไปอย่างเบามือจนกล้ามเนื้อที่เกร็งของหนิงหลงคลายลง ฝีมือการนวดของเขาไม่ธรรมดาจริงๆเธอเชื่อว่ามันต้องมาจากการนวดให้ท่านแม่ทัพบ่อยๆแน่ๆ

                    หนิงหลงจ้องกระดาษในมืออย่างถี่ถ้วน อีกนิดเดียวเอกสารก็จะเสร็จสมบรูณ์ เพื่อจะได้ไม่ต้องให้จินหลันมานอนดึกเพราะเธอหนิงหลงจึงลงไม้ลงมือรีบเขียนให้เร็วกว่าเดิม เมื่อเธอวางพู่กันลงกับแท่นหยกเธอจึงอ่านเอกสารให้ถี่ถ้วนอีกครั้ง อันที่จริงแม้จะเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเท่าไหร่ที่จะให้จินหลันอยู่ที่นี่ในตอนนี้ แต่ที่ผ่านมาจินหลันไม่เคยอ่านเอกสารของเธอแม้สักฉบับเดียว อีกทั้งเขายังเป็นลูกชายของแม่ทัพเขาคงไม่กล้าทำเรื่องผิดธรรมเนียมหรอก

                      ที่เหลือก็แค่รอเวลานัดวันกับท่านแม่เพื่อยื่นฎีกาก็เท่านั้น..

                      แม้จะเป็นธิดาของจักรพรรดินีแต่ก็ให้ว่าจะสามารถขอเข้าพบได้ตามใจชอบ การเป็นลูกในสายเลือดมีข้อดีตรงที่สามารถยื่นฎีกาใดๆได้โดยตรง ปกติหากจะยื่นฎีกาแก่เจ้าแผ่นดินจะต้องผ่านการตรวจจากขุนนางกว่าสิบคนกว่าจะผ่านไปได้ นั่นก็กินเวลาไปกว่าอาทิตย์เต็มๆ!

                    ฎีกานี้จะสมบรูณ์ได้ก็ต่อเมื่อนำไปเย็บกับผ้าไหมให้เรียบร้อยก็น่าจะทันเวลาที่ขอยื่นได้พอดิบพอดี หนิงหลงห่อม้วนกระดาษใบนั้นอย่างเบามือแล้วใส่มันลงไปในที่เก็บเอกสารข้างๆโต๊ะปิดฝากล่องแต่ใส่กุญแจอย่างดี ก่อนจะหันมายิ้มให้จินหลันเบาๆ

                    “นี่ค่ำมากแล้ว พวกเราควรจะไปนอนกันได้แล้วล่ะ”

                    “ขอรับองค์หญิง”

                    ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ช่องว่างระหว่างเธอและเขาลดลงเกินเท่านี้ ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใดที่จินหลันใกล้ชิดเธออย่างตรงไปตรงมา เขาเป็นผู้ชายที่เนียมอายอยู่ตลอดเวลาที่เธอเข้าใกล้ในครั้งแรก ทว่าตอนนี้แม้ต้นแขนของทั้งสองแนบชิดติดกันเขาก็ไม่แสดงท่าทางเคอะเขินอีกต่อไป

     อีกทั้งทุกเช้าที่เขามาค้างที่นี่หนิงหลจะตื่นมาพบว่าตัวเองกำลังถูกท่อนแขนของจินหลันโอบรัดไว้เบาๆ ถึงมันจะทำให้เธอตกใจมากก็ตามเถอะแต่ในฐานะของเราสองการกระทำนั้นไม่ได้ถือว่าเกินเลยอะไร

    แต่จะว่าไปแล้วครั้งล่าสุดที่ซูฮวามาค้างนั่นก็เล่นทำเอาทำหัวใจเธอแทบวายไปข้างหนึ่ง เพราะเช้าตื่นมาเธอก็พบกับสภาพที่ตัวเองถูกกอดทับแน่นเกือบจะขยับไม่ได้

    แต่พวกเขาเป็นนายสนมของเธอนี่ หากจะให้เรียกโดยง่ายพวกเขาก็คือสามีของเธอตามกฎหมาย

    “องค์หญิงขอรับ..?”

    “อะ..อ้า! มะ...มีอะไรหรือจินหลัน?”

    หนิงหลงคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนลืมไปว่าตอนนี้พวกเธอได้เดินมาถึงห้องนอนเป็นที่เรียบร้อย หนิงหลงยืนอ้ำๆอึ่งๆอยู่ข้างเตียงในขณะที่จินหลันเตรียมตัวรออยู่บนเตียงแล้ว

    ปับ ปับ

    “รีบนอนกันเถอะขอรับ”

    “...!!

    มุมปากของชายหนุ่มยกขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับตบมือเรียกเธอที่เตียงเบาๆ หนิงหลงรู้สึกถึงพลังทำลายล้างที่ยากเกินจะประมวลได้ มันมีผลดั่งการสะกดจิตให้เธอทำตามโดยไม่อาจโต้แย้ง!

    “ข้า...เอ่อ ต้องถอดเสื้อนอก..อ้า!

    กึง!

    หนิงหลงรีบถอดเสื้อนอกออกจนเผลอเหวี่ยงศอกไปกระแทกหัวเตียงโดยไม่ได้ตั้งใจ...!!

    ตุบ!

    “องค์หญิง..!!”จินหลันสะดุ้งด้วยความตกใจ เขากำลังจะรีบลุกออกไปทางองค์หญิงทว่าหนิงหลงกลับห้ามเอาไว้เสียก่อน

    “ไม่! ไม่เป็นไร ข้าไม่เป็นไร”

    หนิงหลงกุมข้อศอกของตัวเองเบาๆ ในตอนนั้นเองที่จินหลันสังเกตไปเห็นของบางสิ่งที่เลื่อนตกลงมาจากหัวเตียง สีนั่นคือกระบี่เล่มเล่นที่ประดับหัวเตียงของหนิงลหงเอาไว้ จินหลันคิดว่ามันเป็นกระบี่ประดับมาตลอด แต่ทว่านี่กลับเป็นกระบี่จริงๆ!

    “อะ..องค์หญิงกระบี่เล่มนี้..?”

    “อะ นั่นหรือ? จิ้นอันให้ข้าเอาไว้เพื่อยามจำเป็นน่ะ”

    “...เช่นนั้นหรือขอรับ?”

    สายตาของจินหลัยจ้องกระบี่เล่มนั้นไม่วางตา หนิงหลงเดินเข้ามานั่งที่ขอบเตียงแล้วจินหลันยังมองกระบี่เล่มนั้นอยู่เลย หนิงหลงไม่เคยเห็นเขาท่าทางสนอกสนใจอะไรขนาดนี้มาก่อน รึว่าตัวเขาจะเป็นพวกสนใจในกระบี่งั้นหรือ?

    “เจ้าชอบกระบี่หรือ..?”หนิงหลงเอ่ยถาม

    “ปะ...เปล่าขอรับ!”จินหลันส่ายหัวไปมาแล้วรีบยกเอากระบี่นั้นกับไปวางกระดับหัวเตียงเช่นเดิม “องค์หญิงแขนท่านล่ะขอรับ? ได้โปรดให้ข้าดูแผลของท่าน...”

    “...ไม่ได้...เป็นอะไรมากหรอก พรุ่งนี้เช้าก็หายแล้ว”

    หนิงหลงยื่นแขนข้างที่กระแทกกับหัวเตียงให้จินหลันดู  เขาดึงเสื้อแขนเธอออกช้าๆแล้วดูตรงส่วนที่มีรอยแผลบวมแดงขึ้นมา

    “...อา แดงไปหมดเลย องค์หญิง ท่านต้องทายานะขอรับ”

    “ไม่ต้องหรอก อีกอย่างตอนนี้ก็ไม่เจ็บแล้ว”

    “...เข้าใจแล้วขอรับ”

    “นอนกันเถอะ นะ?”

    หนิงหลงยิ้มเบาๆแล้วซุกตัวนอนเข้ากับผ้าห่ม จินหลันเอียงตัวนอนตามลงมา ความเหนื่อยล้าทำให้หนิงหลงหลับไปอย่างรวดเร็วทว่า...

    “....”

    จินหลันแกล้งทำเป็นหลับใหลไปเริ่มเขามั่นใจว่าองค์หญิงหลับแล้วเขาก็ลืมตาขึ้น แล้วลุกกายขึ้นไปจากเตียงช้าๆไม่ให้หนิงหลงรู้สึกตัว มือของเขาควานหาของจากตู่เล็กๆอย่างเงียบเชียบจนเขาคว้ากระปุกสีขาวได้

    จินหลันรู้ว่ายาตัวนี้เอาไว้ทาแผลฟกช้ำ นี่เป็นยาที่เผลดีที่ขุนนางส่วนใหญ่ชอบใช้กัน เมื่อได้ของที่ต้องการแล้วเขาก็เดินเข้าไปหาหญิงสาวบนเตียงเงียบๆแล้วดึงแขนเสื้อขึ้นเล็กน้อยเพื่อทาแผลที่ข้อศอกให้อย่างเบามือ

    ทั้งๆที่ดูบอบบางขนาดนี้...  

    จินหลันปิดกระปุกยาแล้วคิดในใจ เมื่อเขาได้มองไปยังองค์หญิงเธอดูแข็งแกร่งและสุขุมอยู่เสมอ ทว่าในใจหนึ่งเขาก็รู้สึกว่าเธอช่างบอบบางนัก แม้ว่าเขาจะไม่ได้ช่วยให้งานของหนิงหลงน้อยลงรึเบาขึ้นแต่ว่าอย่างน้อย แม้เป็นเรื่องเล็กๆเขาก็อยากจะดูแลเธอ

    ในฐานะ...ของนายสนม

    “ราตรีสวัสดิ์ขอรับองค์หญิง”

    จินหลันค่อยๆปีนกายขึ้นไปนอนเช่นเดิม ในคืนนี้...เขาขอให้พวกเรามีความฝันที่ดีร่วมกัน...


    ===============================================================

    จินหลันเป็นเด็กดื้อ...!!

    อะไรนะ!! เรือจินหลันแรงมากจนว่ายตามไม่ทัน!!

    งั้นเรามาหาเรื่องเบรคเรือกันหน่อยไหม??//โดนตบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×