ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    องค์หญิงเพี้ยน กับ เหล่านายสนม

    ลำดับตอนที่ #43 : บทที่ 42 คำขอร้อง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.81K
      562
      11 มี.ค. 62

    บทที่ 42

    คำขอร้อง


                หนิงหลงนั่งทำงานอยู่ในห้องนานอยู่หลายชั่วโมงผ่านไปหลายนาที จนได้ยินเสียงกู่เจิงลอยมาไกลๆจบไปหนึ่งบทเพลง ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ได้นัดกับองค์หญิงลำดับที่สามแล้ว หนิงหลงแต่งกายตัวเองเสียใหม่ให้ดูเป็นทางการขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะออกไปพร้อมกับจิ้นอัน

                    หนิงหลงออกมาที่สวนดอกไม้ของตำหนักตน เธอจำได้ว่าเมื่อวันก่อนเธอออกมาเดินกับซูฮวา ดอกไม้ในเวลานี้กำลังบานได้ที่ พอคิดว่ามันจะต้องเหี่ยวไปทั้งๆที่ยังอยู่บนต้นแบบนี้หนิงหลงก็เสียดายไม่น้อย แต่จะเด็กเอามาตกแต่งห้องตัวเองหมดก็คงไม่ไหว

                    “จิ้นอัน ข้ามีเรื่องอยากจะให้เจ้าจัดการเสียหน่อย”หนิงหลงเดินดูดอกไม้รอบๆสวนอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยบอกจิ้นอันที่อยู่ข้างกาย

                    “เพคะองค์หญิง”

                    “ข้าอยากจะให้เจ้าเอาดอกไม้ในสวนของข้าไปจัดใส่ช่อเล็กๆสี่ช่อ แล้วส่งไปให้นายสนมของข้าจะได้ไหม?”

                    “....”

                    “ข้า...คิดว่าถ้ามันต้องเหี่ยวไปแบบนี้ คงน่าเสียดาย”

                    หนิงหลงหลบสายตาที่แอบยิ้มกรุ้มกริ่มของจิ้นอันไปอีกทาง เจตนาของหนิงหลงนั้นใสสะอาดก็จริง แต่การที่เธอส่งช่อดอกไม้ให้เหล่าสนมเช่นนี้จะต้องมีคนเอาเรื่องไปซุบซิบกันเป็นแน่ แต่บางทีนี้อาจจะเป็นการดีก็เป็นได้! หนิงหลงมีชื่อเสียงที่ไม่ดีว่าไม่ค่อยใส่ใจนายสนมของตนอยู่บ่อยๆ หากคนนอกได้รู้ล่ะก็พวกเขาอาจจะเปลี่ยนความคิดที่มีต่อองค์หญิงแม่ชีคนนี้ก็เป็นได้

                    “รับทราบเพคะองค์หญิง ข้าจะสั่งการในทันที”จิ้นอันเดินถอยออกไปแล้วเรียกนายกำนัลแถวนั้นมาคุยด้วย เธอสั่งให้คนมาตัดดอกไม้ที่นี่แล้วนำไปจัดใส่ช่อให้สวยงาม

                    หนิงหลงมองเหม่อออกไปที่นอกตำหนัก ช่วงนี้เธอมีเรื่องมากมายให้ต้องคิด จนไม่ได้มีเวลามานั่งคิดเรื่องของตัวเองเลย ทั้งเรื่องเหตุการณ์วางยาพิษ ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะค่อยๆเงียบลงเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น ผู้ร้ายก็คงคงลอยนวลแบบนี้ไป แม้จะพยายามกันสักเท่าไหร่ก็เหมือนเป็นเพียงการงมเข็มในมหาสมุทร

                    รู้ว่ามีแต่ก็หาไม่พบ...

                    “องค์หญิงเพคะ ข้าได้สั่งการนายกำนัลแล้ว วันนี้พวกเขาจะมาตัดดอกไม้ไปให้นายสนมของท่าน องค์หญิง? องค์หญิงเพคะ?”

                    “อะ...อื้ม! ขอบใจเจ้ามาก เรารีบไปกันเถอะ ประเดี๋ยวน้องสามจะรอนาน”

                    “เพคะองค์หญิง”

                    หนิงหลงเผลอคิดอะไรๆในหัวจนไม่ได้ยินเสียงของจิ้นอันที่เรียกเธอในตอนแรก หนิงหลงยิ้มบางๆไปหาจิ้นอันก่อนจะเริ่มก้าวเดินออกจากตำหนักเพื่อไปสู่ตำหนักพยัตขาว ระหว่างทางหนิงหลงก็ทักทายขุนนางน้อยใหญ่ไปตลอดทาง

                    จนหนิงหลงได้มาหยุดตรงหน้าตำหนักของน้องสาว เธอถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปด้วยความวิตกลึกๆ ที่นั่นมีนายกำนัลออกมาต้อนรับและนำทางหนิงหลงไปยังที่ๆองค์หญิงหลิ่งเฟินรออยู่ หนิงหลงพร้อมด้วยจิ้นอันเดินตามไป

                    องค์หญิงหลิ่งเฟินกำลังนั่งรออยู่ที่ศาลาพักผ่อนข้างตำหนัก ที่นั่นมีชายผู้งดงามสองคนกำลังคอยปรนนิบัติเธอไม่ห่าง องค์หญิงหลิ่งเฟินมีใบหน้าที่ไม่ต่างจากองค์หญิงลำดับที่สี่เท่าไหร่นัก แต่บรรยากาศรอบตัวกลับดูแตกต่างกันยิ่ง

                    บรรยากาศรอบตัวขององค์หญิงหลิ่งเฟินทำให้รู้สึกยากจะเข้าใกล้ ทั้งๆที่เป็นฝาแผดกับองค์หญิงลำดับที่สี่แท้ๆ...

                    “...ท่านพี่หนิงหลง เป็นเกียติยิ่งนักที่ท่านพี่ได้ตอบรับคำเชิญของข้า”องค์หญิงหลิ่งเฟินลุกขึ้นแล้วโค้งตัวทำความเคารพเมื่อได้เดินหนิงหลงกำลังเดินเข้ามาในศาลาแห่งนี้

                    “อย่ามากพิธีไปเลย วันนี้เรามาดื่มชากันตามประสาพี่น้อง ทำตัวตามสบายเถอะ”

                    หนิงหลงก้มหัวเพียงเล็กน้อยแล้วยิ้มให้กับน้องสาม สายตาของเธอเหลืองไปมองนายสนมทั้งสองที่ใบหน้าเหมือนกันราวกับลอกลายกันมาของน้องสาวตน พวกเขามีความงามดั่งชายที่เย้ายวน พอพวกเขาเห็นว่าหนิงหลงได้มาถึงแล้วก็โค้งตัวให้กับเธอช้าๆ ก่อนจะค่อยๆเดินออกไปอย่างเงียบๆ

                    “...มีอะไรหรือน้องสาม เจ้าคงมิได้เรียกข้ามาดื่มชาเฉยๆหรอกใช่ไหม?”หนิงหลงไม่รอรีรีบถามประเด็นสำคัญออกไป

                    “..สมกับเป็นท่านพี่หนิงหลง ใช่แล้ว ข้ามีเรื่องที่อยากจะชี้แจงท่าน”

                    “ชี้แจง?”

                    หนิงหลงเอียงคอเล็กน้อยก่อนจะหันไปทางจิ้นอัน แล้วหันกลับมาทางหลิ่งเฟิน ท่าทางของน้องสาวเธอเปลี่ยนไป สีหน้าขององค์หญิงหลิ่งเฟินดูเศร้าลงไปเล็ดน้อย เธอถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะตัดสินใจพูด

                    “...เมื่อไม่นานมานี้ ข้าออกไปที่ด้านนอก เพื่อไปยังหอนายโลม ข้าคิดว่าท่านก็คงรู้แล้วใช่ไหมท่านพี่หนิงหลง?”

                    “....เรื่องนั้น”

                    หลิ่งเฟินพูดออกมาได้อย่างไม่มีความลังเล ทั้งๆที่เธอไม่ได้เห็นหนิงหลงเลยแท้ๆ เพราะอะไรกัน...หนิงหลงเริ่มรู้สึกระแวงขึ้นมาเพราะเกรงว่า...

                    เธออาจจะรู้อะไรมากกว่าที่เธอคิด

                    “..ข้าเห็นท่านจิ้นอันเดินออกมาจากรถม้าแถวๆนั้น ข้าคิดว่า...ท่านคงจะได้รู้เรื่องนี้จากท่านจิ้นอันแล้ว”

                    “...ชะ...ใช่ ข้ารู้แล้ว”

                    เป็นเช่นนี้นี่เอง...  

                    หนิงหลงแอบถอนหายใจออกมาในใจ ที่แท้ก็เพราะเช่นนี้ อย่างน้อยองค์หญิงหลิ่งเฟินก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เธอออกไปที่หอนายโลม องค์หญิงหลิ่งเฟินไม่ปล่อยให้ขาดช่วงเธอรีบพูดต่อในทันที

                    “...ข้าออกไปโดนพละกาลก็จริง แต่ข้าอยากให้ท่านพี่เข้าใจ ข้าไปเพราะข้ามีเหตุผล”

                    “...เหตุผล?”

                    “ใช่แล้ว ท่านพี่ ข้าไปที่นั่นเพื่อ...ไปเยี่ยมอดีตพี่เลี้ยงของข้าเป็นครั้งสุดท้าย”

                    เมื่อพูดมาถึงตอนนี้สีหน้าขององค์หญิงหลิ่งเฟินก็เศร้าลงในทันที ครั้งสุดท้ายที่เธอกล่าวถึงมันคืออะไร? หนิงหลงได้แต่ขมวดคิ้วแล้วจ้องไปที่น้องสามไม่กระพริบตา

                    “...พี่เลี้ยงคนนี้เลี้ยงข้ามาตั้งแต่เด็ก แต่ว่าเมื่อสองปีก่อนเขาได้ถูกไล่ออกจากวังหลวงเพราะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยในการขโมยของในตำหนัก ข้าจึงต้องให้เขาออกไปก่อนที่เรื่องจะปานปลาย ข้ารู้ว่าเขาไม่ใช่คนเช่นนั้น แต่หากจะให้ปลอดภัยก็มีเพียงวิธีนี้...”

                    “...”

                    “แต่ข้าไม่คิดเลยว่าเขาจะหมดทางเลือกจนไปเข้าเป็นนายโลมที่หอนายโลมเช่นนั้น ข้าได้รับข่าวว่าเขากำลังจะตายเพราะเพราะพิษจากถุงคุมกำเนิดต่ำๆ ข้าจึง...แวะไปหาเขาครั้งสุดท้าย ท่านพี่หนิงหลง ข้าจะไม่ขอความสงสารจากท่าน แต่ข้าขอให้ท่านเก็บเรื่องนี้เป็นความลับจะได้รึไม่?”

                    สายตาของหลิ่งเฟินตั้งมั่นและไม่ละสายตาออกไปทางไหน น้ำเสียงของเธอก็ดูจริงใจหนักแน่นนัก ความจริงหนิงหลงเองก็ไม่มีความคิดที่จะบอกเรื่องนี้กับใครอยู่แล้ว พอได้ยินแบบนี้เธอก็ได้แต่ที่มุมปากเล็กๆแล้วส่ายหัวเบาๆ

                    “น้องสาม วางใจเถอะ ถึงเจ้าจะไม่ต้องชี้แจง ข้าก็ไม่มีความคิดเอาเรื่องนี้ไปบอกใครอยู่แล้ว”

                    “...ท่านพี่ ขอบพระคุณเพคะ ท่านพี่”

                    “ไม่ต้องหรอก ไม่ต้อง อย่าได้เอ่ยขอบคุณเช่นนั้นเลย...”

                    หนิงหลงแอบยิ้มอยู่เล็กน้อยก่อนจะพูดคุยกับน้องสาวของตนเองเรื่องสองเรื่องเกี่ยวกับข้อมูลของถุงคุมกำเนิดระดับต่ำที่หลิ่งเฟินพูดถึง เรื่องนี้หนิงหลงก็ได้ยินมาจากหอนายโลมเช่นกัน ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้รับการควบคุมจนมีระดับต่ำกว่ามาตรฐาน และมันกำลังระบาดอย่างรวดเร็วที่หอนายโลม มีคนที่เจ็บป่วยล้มตายเพราะมันไปมากมาย

                    เป็นที่น่าเศร้าที่ปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไขมานานกว่าครึ่งปี ไม่มีหน่วยงานไหนยื่นมือเข้าไปจัดการเพราะไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตสำหรับพวกเขา ในโลกแห่งนี้หากไม่ได้เกี่ยวข้องกับชีวิตของสตรี บุรุษนั้นเพียงเพศที่อยู่ใต้การปกครอง เทียบชีวิตไม่ได้กับสตรี

                    หนิงหลงพอได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกหดหู่ใจนัก ที่นี่เลวร้ายกว่าที่ๆเธอจากมานัก แม้ชีวิตก็ควรจะเป็นสิ่งที่เท่าเทียมกันไม่ว่าชายหญิง... เธอเดินออกมาจากตำหนักขององค์หญิงหลิ่งเฟินแล้วคิดบางเรื่องอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้ว

                    “...จิ้นอัน ข้าจะเขียนฏีกาถึงท่านแม่ ช่วยไปเตรียมกระดาษผ้าไหมมาให้ข่าหน่อยจะได้ไหม?”

                    “เพคะ...แต่ท่านจะเขียนอะไรส่งให้จักรพรรดินีหรือเพคะ?”

                    เมื่อจิ้นอันไถ่ถาม หนิงหลงก็เงียบลงไปครู่หนึ่ง...

                    “...ข้าต้องการขอยื่นร่างกฎหมายใหม่”


    =============================================================================

    อาาาา หายไปหายเลยทีเดียว

    ช่วงนี้เรากำลังวุ่นๆกับงานอยู่ แต่จะพยายามกลับมาบ่อยๆนะคะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×