ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    องค์หญิงเพี้ยน กับ เหล่านายสนม

    ลำดับตอนที่ #35 : บทที่ 34 เดินทางออกวังหลวง

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.04K
      585
      27 ก.ย. 61

    บทที่ 34

    เดินทางออกวังหลวง


                บัดนี้ร่างของเด็กหนุ่มตัวเล็กได้หายไปจากห้องและได้แปลเปลี่ยนเป็นหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับหนิงหลง เธอมีรูปร่างที่ผอมเพรียวปานต้นไผ่ผิวขาวดั่งหิมะใบหน้างดงามเหมือนกับว่าเทพธิดาได้มาลงเกิดเป็นเธอผู้นี้ เส้นผมสีดำทว่าดวงตาเป็นสีฟ้าสดใสแก้มแดงประหนึ่งกลีบบุปผา

                    หญิงงามในใต้หล้า...

                    ตัวตนของมังกรฟ้าตอนนี้ช่างเหมาะสมกับคำๆยิ่งกว่าอะไร จนทำให้อยากรู้ว่าร่างผู้ชายจะเป็นยังไงไปด้วย...

                    ไม่...ไม่เด็ดขาด...ไม่ได้

                    หนิงหลงห้ามปรามตัวเองเพราะหากมีใครเห็นว่ามีชายแปลกหน้าอยู่ในห้องของชื่อเสียงของเธอก็จะยิ่งขจรกระจายไปในแง่ลบ

                    “ความจริงเจ้าพอใจกับร่างผุ้หญิงมากกว่าสินะ?”มังกรฟ้าขยับคอเสื้อให้พอดีตัวแล้วหันมาจ้องมองหนิงหลงที่นอนกุมท้องที่เตียง

                    “เพราะมันปลอดภัยสำหรับที่นี่มากกว่าน่ะสิ แล้วทำไมเจ้าถึงออกมาล่ะ? ข้ายังไม่ได้เรียกเลยนะ”

                    “เพราะว่าธาตุในกายของเจ้ากำลังเพิ่มขึ้น พลังของเจ้าร้อนดั่งไฟข้าอยู่ในนั้นมิได้”

                    หากเป็นยามปกติมังกรฟ้าสามารถอาศัยภายในจิตใจของเธอได้อย่างสบายแต่ทว่าช่างเป็นเวลาที่ไม่ประจวบเหมาะ เพราะช่วงสามวันนี้คือวันที่ดวงจันทร์เต็มดวงเป็นช่วงเวลาที่พลังจิตของมังกรไหลเวียนอย่างรุนแรงที่สุดและพอดีกับวันแบบนี้หนิงหลงจึงรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าปกติ

                    “เช่นนั้นหรือ...”หนิงหลงพยายามขยับตัวขึ้นมานั่งบนเตียง

                    “ข้ารู้ว่าเจ้ามีความตั้งใจที่จะออกไปภายนอกวังหลวง ทว่าอนาคตที่ข้าเห็นเจ้าจะไม่ได้รับการอนุมัติ”

                    “หา!? ทำไม...!

                    พอได้ยินคำทำนายจากมังกรฟ้าเธอก็ตกใจจนเผลอขยับตัวกะทันหัน ความรู้สึกปวดที่ท้องก็แล่นเข้าสู่สมองในบัดดลเธอมีใบหน้าที่เหยเกด้วยความรู้สึกปวด

                    “กองไฟที่ถูกจุดเพียงเล็กๆสร้างความปั่นป่วนแก่เหล่าผึ้ง...”

                    “กองไฟ....กับผึ้งงั้นเหรอ?”

                    “ข้าเห็นนิมิตเช่นนี้”

                    มังกรฟ้ากล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบคำพูดดั่งปัญหาเชาที่ต้องให้คนมาแก้จึงจะเข้าใจ

                    “...ข้าสามารถพาเจ้าไปข้างนอกได้โดยไม่มีใครรู้ในตอนนี้”

                    “จะ...จริงหรือ!? แต่ข้า...”

                    “ข้ามีพลังสามารถหยุดการไหลของธาตุสตรีได้ชั่งคราวทว่ามันอาจจะส่งผลหลังจากนั้นเล็กน้อย ข้าทำให้เจ้าเดินปกติได้หากเจ้ายินยอม”

                    หนิงหลงหูผึ่งทันทีเมื่อได้ยิน มังกรฟ้าเสนอตัวจะพาเธอแอบออกนอกวังหรือ? ทั้งๆที่เป็นเรื่องไม่ควรกระทำแต่ใจของหญิงสาวกลับรู้สึกว่ามันเป็นไปได้ มังกรฟ้าอาจจะมีเหตุผลที่ทำเช่นนี้รึอาจจะเพียงแค่ตอยสนองความต้องการของเธอเท่านั้น? แต่เรื่องนั้นใครจะสนกันล่ะ!!

                    “ข้ายอมรับ..!

                    เธอตอบไปโดยไม่คิดมาก มังกรฟ้าคือบุคคลที่ไว้ใจได้ที่สุดสำหรับหนิงหลงแต่ทว่าในตอนนั้นเองที่เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงเรียกของคนสนิท

                    “องค์หญิงเพคะ กำลังคุยกับผู้ใดหรือเพคะ?”จิ้นอันที่เพิ่งกลับการจากส่งมอบจดหมายแต่เมื่อเธอได้ยินเสียงขององค์หญิงกำลังพูดคุยกับใครบางคน ท่าทางเวลาคุยกันดูจะไม่มีอันตรายแต่ทว่าคนๆนั้นก็ยังน่าสงสัยอยู่ดี

                    “อะ...เอ่อ”

                    เธอลืมปราการที่สำคัญที่ชื่อจิ้นอันไปได้อย่างไร? ถ้าเธอจะออกนอกวังไม่มีทางที่จิ้นอันจะไม่รู้หากจิ้นอันทราบว่าเธอจะแอบออกนอกวังไปกับมังกรฟ้า

                    เมื่อเห็นองค์หญิงของตนเงียบไปนานคิดเป็นกังวลเธอจึงเปิดประตูเข้าไปทันที และเมื่อเห็นหญิงงามที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ เธอไม่เคยเห็นผู้ใดงดงามเท่านี้มาก่อนจะว่าเป็นขุนนางก็ไม่เคยเห็นมาก่อนดูจากรูปร่างแล้วคงมิใช่ทหารอย่างแน่นอน

                    เธอคนนี้....เป็นใครกัน?

                    “...อะ...เอ่อ จิ้นอัน..นี่คือ มังกรฟ้า”

                    ปิดไว้กับจิ้นอันไม่นานความก็ต้องแตก หนิงหลงจึงแนะนำให้เธอได้รู้จักกับมังกรฟ้าในร่างมนุษย์ไปเสียเลย

                    แต่เมื่อได้รู้ว่าบุคคลตรงหน้าเป็นมังกรฟ้าแล้วจิ้นอันก็พลันร่างกายแข็งทื่อ! สัตว์เทพคู่บ้านคู่เมืองที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นดังตัวตนที่ไม่อาจเอื้อมถึง บัดนี้มังกรฟ้าผู้นั้นมานั่งอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว..!!

                    “ขะ..ขอถวายความเคารพท่านมังกรฟ้า”จิ้นอันก้มกราบคารวะกับพื้นต่อหน้าหญิงสาวผู้งดงามคนนี้

                    “ลุกขึ้น...”

                    เสียงที่สงบนิ่งเอ่ยขึ้นและเปี่ยมด้วยอำนาจ จิ้นอันค่อยๆลุกขึ้นอย่างช้าๆและนอบน้อม ส่วนมากแล้วคอื่นที่นอกจากองค์หญิงจะไม่มีใครได้พบหรือพูดคุยกับมังกรฟ้า เว้นแต่ครั้งนี้ที่ที่บังเอิญมาในตอนที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่พอดิบพอดี

                    หวังว่า...จิ้นอันจะไม่ได้ยินเรื่องนั้นหรอกนะ?

                    เรื่องที่มังกรบอกจะพาเธอออกไปข้างนอกหวังว่าจิ้นอันจะไม่ทันรู้....

                    “ข้าจะพาองค์หญิงออกไปนอกวัง”

                    “...!!

                    มังกรฟ้า!!? ไปบอกทำไม!!!?

                    ใบหน้าหวั่นวิตกของหนิงหลงหันสลับไปมาระหว่างมังกรฟ้าและจิ้นอัน ยิ่งเห็นใบหน้ามึนงงราวกับชนตอไม้ของคนสนิท

                    มังกรฟ้าเป็นผู้มีรับสั่งมาเอง...นี่คือสารจากฟ้าที่ยากจะปฏิเสธ...

                    แม้ภายนอกจะอันตรายแต่ในเมื่อมีมังกรฟ้าภัยอันตรายคงไม่น่าเป็นห่วง เพราะมังกรฟ้าผู้เป็นดั่งเทพเจ้ากล่าวออกมาเอง...มีหรือคนธรรมดาเช่นเธอจะกล้าขัด!

                    “...เพคะ ท่านมังกรฟ้า ทว่า...ข้าจะขอติดตามไปด้วย”จิ้นอันยอมอย่างง่ายดายจนหนิงหลงยังตกใจจนตาแตก

                    “ย่อมได้”

    มังกรฟ้าพยักหน้าและทุกอย่างก็เป็นอันตกลง...

                    นี่ข้าจะคิดมากทำไมล่ะเนี่ย...?

                    หนิงหลงกวาดสายตาไปด้านข้าง ถ้าหากให้มังกรฟ้าขออะไรแล้วก็ได้น่าจะให้มังกรฟ้าเป็นฝ่ายขอตั้งแต่แรกเสียก็ดี!

                   

                    มังกรฟ้าพาทั้งสองออกมาจากประตูวังด้วยพลังในการลวงสายตา คือหายให้เข้าใจหลักการโดยง่ายคือการล่องหนเดินออกมาอย่างสบายๆโดยไม่มีใครเห็น จากนั้นหนิงหลงก็สวมหมวกสานใบใหญ่ที่ประดับด้วยผ้าบางๆสีขาวห้อยยาวจากหมวกมาถึงหัวเข่าทำให้คนข้างนอกนอกหน้าเธอไม่ชัดซึ่งมังกรฟ้าเองก็สวมหมวกเช่นเดียวกัน

                    พวกเธอทั้งสามได้รถม้าจากบ้านของจิ้นอันที่จอดรออยู่หน้าพระราชวังเข้าไปยังตัวเมือง คนสนิทพูดคุยกับคนขับรถม้าว่าเป็นขุนนางที่รู้จักกันเพื่อปกปิดตัวตนของทั้งสอง รถม้าของจิ้นอันมีขนาดกลางๆไม่ใหญ่มากสามารถนั่งภายในได้สามคนพอดิบพอดีและมีข้างหลังเป็นที่วางสัมภาระ .ใช้ม้าสองตัวในการขับเคลื่อนและคนขับม้าที่เป็นสตรีวัยกลางคนคนหนึ่งชื่อว่า มู่อิน

                    เมื่อขึ้นมาที่รถม้าหนิงหลงและมังกรฟ้าก็ถอดหมวกออกเพื่อมิให้เกะกะที่นั่ง แต่เมื่อมีเสียงเรียกจากคนขับเมื่อใดทั้งคู่จะยกพัดขึ้นมาปิดใบหน้าในทันที

                    ด้วยพลังของมังกรฟ้าอารมณ์ปวดท้องเมนและการไหลของเลือดหายไปอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่มังกรฟ้ากล่าวว่าเป็นเพียงการหยุดเพียงชั่วคราวเท่านั้นสุดท้ายแล้วเธอจะกลับมาปวดท้องและมีเลือดไหลเช่นเดิม

                    ภายในเมืองเวลาสายเล็กน้อยเต็มไปด้วยผู้คนคึกคักพอเข้าไปลึกๆในเมืองก็พบบ้านเรือนเต็มสองข้างทาง บ้างก็เป็นร้านค้าบ้างก็เป็นโรงน้ำชา ในเวลาธุรกิจโรงน้ำชากำลังรุ่งเรืองมากเรียกได้ว่าผ่านเปิดมากกว่าห้าร้านในหนึ่งทางถนน

                    อีกทั้งร้านหาบเร่ขายของก็มีให้เห็นอยู่มากมาย อาณาจักรฉางจินนั้นได้ชื่อว่ารุ่งเรืองแต่เมื่อได้มาเห็นกับตาเธอก็เข้าใจแล้วว่าดินแดนแห่งนี้ช่างเป็นไปด้วยความอุดมสมบูรณ์จริงๆ

                    ทว่า...

                    นี่ยังไม่ใช่ทั้งหมดของอาณาจักร แต่จะให้เดินไปทุกๆที่ในวันเดียวก็ไม่สามารถทำได้...

                    “...จิ้นอัน”

                    “เพคะองค์หญิง”

                    “หยุดเลยนะจิ้นอัน...เจ้าห้ามเรียกข้าว่าองค์หญิงเดี๋ยวคนอื่นก็รู้หมดหรอก!

                    “ขะ...ขออภัยเพคะ”

                    จิ้นอันยังคงติดเรียกเธอว่าองค์หญิงอยู่สงสัยว่าจะต้องใช้ชื่อใหม่ที่ไม่มีใครรู้ขึ้นมาเสียแล้ว หนิงหลงจึงเริ่มคิดว่าจะให้จิ้นอันเรียกเธอด้วยนามใดเวลาอยู่ภายนอก

                    “...อืม เจ้าต้องเรียกข้าว่า เสี่ยวหนิง และเรียกมังกรฟ้าว่า เสี่ยวหลง เข้าใจไหม?”

                    “ตะ...แต่ข้าว่าก็ไม่ได้ต่างจากเดิมเสียเท่าไรนะเพคะ?”

                    ก็แน่ล่ะเพราะคำว่า เสี่ยว ที่นำมาติดหน้าชื่อเป็นเพียงคำพูดที่แสดงถึงความสนิทสนมส่วนชื่อยังเหมือนเดิมเลย!

                    “เพียงแค่เจ้าไม่เรียกข้าเต็มชื่อ และเรียกข้าว่าองค์หญิง ผุ้ใดจะรู้เล่าว่าข้าเป็นใคร? ประชาชนทั่วไปข้าแทบไม่เคยได้เห็น แล้วประชาชนคนไหนจะจำหน้าข้าได้?”

                    “...ที่ท่านว่าก็ก็ถูก เข้าใจแล้วเพคะ เอ่อ...เสี่ยวหนิง กับสะ...เสี่ยวหลง”

                    จิ้นอันกล่าวชื่อของมังกรฟ้าอย่างยากลำบาก เธอรู้สึกหนักอกหนักใจเป็นยิ่งนักที่ต้องเรียกสัตว์เทพอย่างสนิทสนมเช่นนี้ เธอไม่ได้ไม่ชอบแต่รู้สึกว่ามันไม่ควรเท่านั้น

                    “แล้วก็ห้ามมีคำว่าเพคะด้วย เดี๋ยวชาวบ้านก็เข้าใจผิดหมด”

                    “ขะ...เข้าใจแล้วเสี่ยวหนิง แล้ว...เสี่ยวหนิงอยากจะไปที่ไหนเล่า ข้าจะให้มู่อินพาไป”

                    จิ้นอันรีบทำตัวให้เคยชินตั้งแต่อยู่ในรถม้า ถึงไม่ถามหนิงหลงก็มีที่ๆเธออยากจะไปอยู่ในใจแล้ว!

                    การมาครั้งนี้จะไม่มีประโยชน์อันใดหากไม่ได้ไปที่นั่น...!!

                    “...ข้าอยากไปหอโคมแดง”

                    “...”

                    “.....”

                    เมื่อหนิงหลงบอกถึงสถานที่ที่ปรารถนาทั้งมังกรฟ้าและจิ้นอันต่างก็เงียบกริบไปตามๆกัน

                    “....ทะ..ทำไม พวกเจ้าคิดอะไร?”หนิงหลงมองทั้งสองว่าเหตุใดต้องทำหน้าแปลกประหลาด?

                    “ในที่สุดท่านก็เข้าสู่ทางโลกแล้วสินะเพคะ..”จิ้นอันเอาชายเสื้อเช็ดที่หางตาเก็บกลั้นความรู้สึกปิติเอาไว้ไม่อยู่

                    “หนิงเอ๋อร์น้อยโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว...”มังกรฟ้าเองก็ลูบหัวองค์หญิงเบาๆราวกับเห็นเธอเป็นเด็กๆ

                    ดะ...เดี๋ยวสิ..!! เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว!!

                    “ข้าไม่ได้จะไปใช้บริการนะ...!!

                    หนิงหลงร้องเสียงดังในรถม้า เห็นเธอเป็นคนเช่นไรกัน!!

                    แค่อยากไปดูความเป็นอยู่ของประชาชนที่นั่นเท่านั้นเองนะ..!!


    ===================================================================

    ลองสักครั้งจะติดใจก็ได้นะเสี่ยวหนิงงงงง!!

    ในที่นี้ขอเปรียบหอโคมแดงเป็นนางโลมนะคะ เพราะบทบาททางเพศสลับกัน


    ไรท์หายไปนานไม่ได้ไปไหน...

    ติดสอบค่ะ...ฮืออออออออออ

    สอบเสร็จสักที!!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×