คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #28 : บทที่ 27 วังที่สงบสุข
บทที่ 27
วังที่สงบสุข
หลังจากที่แขนของหนิงหลงหายดีแล้วทุดวันในวังก็มีร่มเย็นจนเงียบเฉียบ
หากไม่นับเรื่องทะเบาะเบาะแว้งเล็กน้อยที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอก็ไม่มีเรื่องอื่นเข้ามา
ในช่วงนี้เธอต้องรับงานบางส่วนของท่านแม่มาทำเนื่องจากมีรับสั่ง
แต่จะให้ปฏิเสธได้อย่างไรล่ะ?
ก็ในเมื่อพอเช้ามาก็มีงานมาวางไว้ที่ห้องแล้วแบบนี้!!
...ถ้ารู้ว่าหายดีแล้วเป็นแบบนี้
น่าจะสำออยอีกสักสองสามวัน
เธอวางเอกสารชิ้นสุดท้ายไปเก็บที่ข้างโต๊ะ
แม้งานจะไม่ได้หนักเหมือนกับคราวก่อนแต่ก็เป็นงานที่ต้องใช้พลังงานสมองมากมายพอตัว
วันนี้เอกสารถูกส่งมาห้าฉบับ แม้จะดูน้อยแต่ก็รายละเอียดยิบย่อยของงานก็เยอะเอาเรื่อง
พอรู้ว่าเธอใช้งานได้ก็ใช้งานใหญ่เชียวนะ ในใจเธอแอบคิดขุ่นเคืององค์จักรพรรดินีแต่จะให้ทำเช่นไรได้
....ใครจะกล้าเมินเฉยงานที่องค์เหนือหัวสั่งลงมาล่ะ?
“งานเสร็จก่อนเวลาที่คาดเอาไว้อีกนะเพคะองค์หญิง”จิ้นอันเอ่ยขึ้นในขณะที่คอยตรวจงานไปพรางๆ
“เฮ้อ...แต่จะดีกว่านี้นะถ้าจะช่วยลดงานลงหน่อย”หนิงหลงเอนกายพิงกับเก้าอี้ของเหนื่อยล้า
“หากองค์จักรพรรดินีได้รู้ถึงความสามารถของท่านแบบนี้ตำแหน่งรัชทายาทก็คงอยู่แค่เอื้อมแล้วล่ะเพคะ”
....รู้ว่าไม่อยากเป็นเท่าไหร่เลยแหะ...รัชทายาทอะไรนั่น...
แต่ในสถานะแบบนี้ไม่เป็นก็คงไม่ได้...
ยังมีอีกหลายเรื่องที่เธอต้องปรับตัว แต่ในเบื้องต้นนั้นยังไม่มีอะไรทียากเกินไป
ทว่าในอนาคตคงมีหลายสิ่งหลายอย่างเข้ามาอย่างแน่นอน
แม้ในตอนนี้เธอจะยังไม่ทราบว่าจะต้องปรับตัวกับมันเช่นไรแต่การทำตอนนี้ที่ออกมาดีเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
ในตอนนี้หนิงหลงมีความคิดที่อยากจะออกไปเที่ยวชมเมืองข้างนอกบ้าง
ว่ากันว่าหากจะดูเมืองก็ต้องดูจากจุดที่ยากจนที่สุดไปหาจุดที่ร่ำรวยที่สุด
การเป็นองค์หญิงของเมืองแต่กลับไม่เคยได้ออกไปดูเมืองของตนเองกับตาเป็นเรื่องที่น่าอายยิ่งนัก
ไม่รู้ว่าพี่น้องคนอื่นๆได้ออกไปนอกเมืองกันบ้างรึเปล่า
แต่ในหัวของหนิงหลงไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องนั้นสักนิดเดียว
ถึงอยากจะทำเรื่องขอออกไปแต่ก็คงต้องถูกห้ามแน่ๆ
ในตอนนี้ไม่ว่าอย่างไรก็คงยังทำไม่ได้ทว่าอีกสิ่งหนึ่งที่ติดอยู่ในใจเธอ...
....ตอนนี้ซูฮวาจะเป็นยังไงบ้างนะ?
ช่วงนี้เธอมีแต่งานเข้ามาไม่หยุดไม่หย่อนจนแทบไม่ได้ก้าวขาออกจากตำหนักเลย
พอคิดถึงใบหน้าที่มีบาดแผลตื้นๆ
แม้จะเป็นเพียงแผลที่ไม่ได้ลึกมากแต่ยังไงซะใบหน้าของนายสนมก็เป็นสิ่งที่ล้ำค่ามันไม่ควรจะถูกทำให้เป็นรอย
...ตอนนี้ยังมีเวลาเหลือเยอะ
หนิงหลงหันไปมองดวงอาทิตที่แตะขอบฟ้าพรางคิดในใจและยืดกายละทิ้งความเมื่อยล้า
“จิ้นอัน
ข้าจะไปเยี่ยมซูฮวาสักหน่อย”เธอกล่าวขึ้นในขณะที่คนสนิทกำลังจัดเก็บเอกสารเพื่อไปส่ง
“...ไปตอนนี้เลยหรือเพคะ?
ท่านจะค้างคืนที่นั่นด้วยรึไม่เพคะ?”
“...อะ...เปล่าหรอก ไม่ได้ค้าง”
“แบบนั้นท่านซูฮวาคงเสียใจแย่..”
คำพูดของจิ้นอันทำให้เธอต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น
ความจริงเธอคิดจะนอนค้างที่คำหนักของตนเองแต่ก็ลืมคิดไปว่าหากไปพบนายสนมในยามนี้แล้วไม่พักค้างที่ตำหนักพระสนมคงจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกน้อยใจแค่ไหน
“..ถะ...ถ้าเจ้าว่าแบบนั้น
คืนนี้ข้าค้างที่ตำหนักของซูฮวาก็แล้วกัน”
“เพคะองค์หญิง”
ในขณะที่จิ้นอันกำลังเรียงเอกสารอยู่นั้น...จู่ๆเธอก็นึกเรื่องบางเรื่องขึ้นได้
“องค์หญิงเพคะ ข้ามีเรื่องสำคัญต้องบอกท่าน...”
“...หือ?”
“ท่านแม่ทัพอยากจะชวนท่านไปดื่มน้ำชาในวันพรุ่งนี้พร้อมกับพระสนมจินหลันเพคะ”
“...อา
เหมือนจะเคยพูดแบบนั้นเอาไว้อยู่”
ในตอนที่เธอกับท่านแม่ทัพพบกันโดนบังเอิญเหมือนว่าเธอจะพูดเป็นแนวๆว่าอยากจะเจอเธอพร้อมกับจินหลันอยู่
แต่ไม่คิดว่าจะรวดเร็วปานนี้ดูท่าว่าธุระที่ชายแดนของท่านแม่ทัพจะจบลงแล้ว
แต่จะให้พูดก็พูดเถิด...วันนี้ไปหาชายอีกคนพอพรุ่งนี้ก็ไปหาชายอีกคนไม่ว่ายังไงเธอก็ยังไม่เคยชินกับมันเสียที
ในยุคของเธอที่การที่หลายภรรยามากสามีเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ
บวกกับนิสัยของหนิงหลงไม่ใช่ฝ่ายที่จะชอบเข้าหาชายด้วยเรื่องเกี้ยวราศียิ่งทำให้รู้สึกกระอั่กกระอ่วนใจทุกครั้งที่ต้องทำเช่นนี้
สำหรับที่นี่มันคงไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่การที่เธอไม่ไปหานายสนมนี่คงแปลกยิ่งกว่า
...เฮ้อ
มีแต่ต้องทำสินะ...?
หนิงหลงลุกขึ้นเดินไปพร้อมๆกับจิ้นอัน
วันนี้เธอไม่ได้ส่งข่าวไปบอกซูฮวาก่อนเพราะเป็นเวลาเร่งด่วนเล็กน้อย
จิ้นอันเองก็อาสาเอาเอกสารไปส่งแทนหลังจากที่พาหนิงหลงไปที่ตำหนักของซูฮวาแล้ว
ในวันนี้เธอไม่ได้พานายกำนัลคนใดมาด้วย
ถึงจะไม่เห็นแต่ก็สัมผัสได้ว่าองค์รักษ์ยังคงอยู่รอบๆ
บางครั้งเธอก็มักจะเห็นชุดขององค์รักษ์โผล่ออกมาตามที่ซ่อนแล้วเผลอทักทายไปบ้าง
พวกเธอทั้งหลายดูตื่นตกใจสุดๆที่ถูกองค์หญิงทักในขณะที่ซ่อนตัวอยู่
ในวันนี้ตำหนักของซูฮวาดูเงียบกว่าปกติเพราะระหว่างนี้ได้มีการตรวจสอบนายกำนัลที่ตำหนักยกใหญ่
และดูคล้ายว่าจะต้องยกย้ายนายกำนัลเก่าออกไปเพื่อความปลอดภัยของซูฮวาด้วย
เมื่ออกออกไปที่ด้านข้างตำหนักในจุดนี้เธอก็เห็นหลังคาตำหนักของจินหลัน
ช่วงนี้เขาก็ยังคงบรรเลงเพลงกู่เจิงที่ไพเราะไปถึงตำหนักของเธออยู่เสมอ
บทเพลงที่เรียนค้างเอาไว้ยังไม่ได้เรียนให้จบเลย
รู้สึกผิดขึ้นมาเสียแล้วสิ...
...หนิงหลงหอนหายใจเป็นรอบที่หกของวัน
ฮึบ...ฮึบ...ฮึบ...!
“เก้าสิบสี่ เก้าสิบห้า เก้าสิบหก...”
ในตอนนั้นเองที่หนิงหลงเดินมาถึงหน้าห้องของซูฮวา
เสียงแปลกๆของชายสองส่งออกมางึมงำจนจับใจความไม่ค่อยได้
แต่หนึ่งในเสียงนั้นคงเป็นซูฮวาแน่...
“อ้ะ!! เจ็บ!”
“พระสนม!!”
จนกระทั่งเสียงนั้นชัดเจนมากในช่วงเวลาหนึ่ง
เสียงร้องเจ็บนั่นเป็นเสียงของซูฮวาตามที่คิดไว้!!
ระ...รึว่าเปิดที่หน้าของเขาจะยังไม่หายดี? ผะ...แผลเปิดงั้นเหรอ!!?
หนิงหลงไม่รอช้ารีบเปิดประตูเข้าไปโดยพลัน!!
ปึง!!!
“ซูฮวา! เป็นอะไรรึเปล่า!?”
ทว่าเมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบแต่ความเงียบกริบ
ในตอนนี้ซูฮวากำลังอยู่ในท่าที่เอามือทั้งสองพาดที่หลังคอ ตัวขดงอพร้อมแก่การออกกำลัง
มีนายสนมคนสนิทกำลังจับข้อเท้าทั้งสองข้างเอาไว้แน่น
เม็ดเหงื่อชุ่มไปทั่วกายที่สวมเพียงเสื้อบางๆจนทะลุโปร่งเห็นไปไหนต่อไหน
แถมเส้นของของเขาก็ยุ่งเหยิงเพราะออกกำลังยกกายขึ้นลงกับพื้นหลายครั้ง สภาพที่ยังไม่พร้อมแก่การพบผู้ใดแบบนี้กลับถูกองค์หญิงมาเห็นเข้า..
แก้มของเขาเริ่มแดงตั้งแต่แก้มไปถึงใบหู...!!
“...อะ...องค์หญิง...”
“...อะ...เอ่อ ข้าจะออกไปข้างนอกก่อน...ก็แล้วกันนะ”
หนิงหลงขยับตัวออกจากประตูไปข้างหลังทีละน้อยจนเลยผ่านประตู
จากนั้นก็ปิดบานประตูลงอย่างช้าๆ...
“เวยเว่ย!!
นี่เจ้าไม่บอกข้าเหรอว่าวันนี้องค์หญิงจะมา!!”เสียงโวยวายของซูฮวาดังขึ้นทันทีที่หนิงหลงปิดประตูลง
“มะ..ไม่ใช่นะขอรับ!!
ข้าเองก็ไม่ทราบเช่นกันว่าองค์หญิงจะมา!!”เสียงกระวนกระวายของนายกำนัลตัวน้อยก็ตามมาติดๆ
“อย่ามัวชักช้าไปเตรียมซะเดี๋ยวนี้!!”
“..ขะ...ขอรับ!!”
ดะ..ดูเหมือนข้าจะก่อเรื่องเข้าเสียแล้วสิ..?
หนิงหลงยืนรอซูฮวาเตรียมตัวเสร็จอยู่ด้านหลังประตู
ภายในห้องมีเสียโครมครามดังไปหมดคงเพราะการมาโดยไม่บอกกล่าวของเธอครั้งนี้
ไว้ค่อยอธิบายหลังจากนี้ก็แล้วกัน...
=======================================================================
หายกันไปนานแต่เรากลับมาแล้วนะคะ!!
ตอนนี้นิยายเรื่องนึงของไรท์จบไปแล้วเลยยุ่งๆสักหน่อย
แต่จะกลับมาอัพบ่อยๆนะคะ!!
ความคิดเห็น