คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #26 : บทที่ 25 หนุ่มน้อย
บทที่ 25
หนุ่มน้อย
เวลาที่สงบสุขกลีบคืนมาอย่างรวดเร็ว หนิงหลงหายดีจากอาการบาดเจ็บที่แขนแล้วเธอกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวและอีกไม่นานก็คงกลับไปเป็นปกติได้
จิ้นอันยังคงมาดูแลเธอไม่ห่างพร้อมกับจัดการเรื่องส่วนตัวแทนเธอไปด้วย
ช่วงนี้หนิงหลงสนใจเรื่องประวัติศาสตร์พออยู่นิ่งๆไม่มีอะไรทำก็ไปหาหนังสือมาอ่านอีกเช่นเคย
ลู่ซือมาเยี่ยมเธอบ่อยขึ้นเขามักจะมาพร้อมกับหนังสือที่น่าสนใจอยู่เสมอ เขานั้นเป็นนักอ่านตัวยงพอได้คุยกับคนที่ชอบหนังสือด้วยกันแล้วก็รู้สึกเหมือนในโลกมีแค่สองคน
ในบ่ายวันนี้ก็เช่นกันลู่ซือมาที่นี่พร้อมกับหนังสือสุดวิเศษเขาแทบจะจองเวลาน้ำชายามบ่ายขององค์หญิงไปเสียแล้ว พวกเขาทั้งสองนั่งจิบชากันในศาลากลางในภายในตำหนักของหนิงหลง
“หนังสือเล่มนี้มาจากแดนตะวันตก
เอามาแปลงเป็นภาษาของคนที่นี่ขอรับองค์หญิง”รวมทั้งการพูดที่ดูสนิทสนมกันมากขึ้นลู่ซือเป็นคนที่มาหาเธอสุดในช่วงนี้
“แหม...ขอบใจนะ
ฉันไม่รู้มาก่อนมามีหนังสือแปลแบบนี้ด้วย”
หนิงหลงรับหนังสือที่ภายในเต็มไปด้วยกระดาษสาหลายแผ่นเย็บติดกัน
นอกจากจะมีเนื้อหาที่อัดแน่นแล้วซ้ำยังมีรูปวาดประกอบอย่างละเอียดอีก
เป็นหนังสือที่หาได้ยากในสมัยนี้
“มันเป็นของขวัญจากท่านแม่
ข้าอ่านหลายครั้งจนเบื่อไปแล้วข้าให้ท่านยืมอ่านจนกว่าจะได้พอเลยขอรับ”
“ข้าจะพยายามอ่านให้ไวนะ
ขอบคุณเจ้ามากลู่ซือ”
“ไม่ต้องรีบหรอกขอรับ
เรายังมีเวลาร่วมกันอีกยาวนานเลยทีเดียว...”
“...!!”
ชายหนุ่มขยับกายเข้ามาแนบชิดเธอพร้อมส่งสายตาและน้ำเสียงแสนยั่วยวน
วันนี้เป็นวันที่อากาศดีชายหนุ่มคนนี้แต่งกายด้วยเสื้อผ้าแนบเนื้อและค่อยข้างบางเล็กน้อยเผยให้เห็นสัดส่วนที่งานราวรูปปั้นแกะสลักชิ้นโบว์แดง
ลู่ซือมักจะหยอกเล่นเธอแบบนี้อยู่เสมอ
เขาเล่นกับท่าทีที่ตื่นตระหนกของหญิงสาวอย่างเพลิดเพลินในวังหลวงที่แสนน่าเบื่อหน่ายแห่งนี้ก็ยังมีเรื่องสนุกให้ทำอยู่บ้าง
เขาคิดเช่นนั้นเมื่อมองไปยังแก้มหญิงสาวที่เห่อแดงเล็กน้อย
“ข้าคงต้องกลับตำหนักแล้ว
ขอให้ท่านกลับมาหายดีไวๆนะขอรับองค์หญิง”เขาขยิบตาถอยออกไปข้างช้าๆแล้วหันมาส่งยิ้มอันอันงามอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้น
“...อะ...อื้ม
ข้าจะให้องค์รักษ์ของข้าไปส่งเจ้า”
“...ขอรับองค์หญิง”
หนิงหลงเรียกให้องค์รักษ์สองคนมาช่วยนำทางลู่ซือกลับไปตำหนักของตนเอง หนิงหลงเดินกลับไปยังห้องพักนับจากวันที่ซิ่วเหว่กลับบ้านไปนายกำนัลที่นี่ก็ถูกเปลี่ยนทั้งหมด
นายกำนัลที่เข้ามาใหม่ต่างวิ่งกันไปมาในตำหนักอันเงียบสงบพวกเขาคงตื่นเต้นกับตำหนักมังกรฟ้าไปสักพักกว่าจะทำตัวให้เคยชินได้
พวกเขามักเข้ามาตามและแวะมารับใช้หนิงหลงอยู่บ่อยๆจนไม่มีเวลาเป็นส่วนตัว
....แบบนี้ก็รู้สึกไม่สบายนิดๆเหมือนกันนะ
เวลาที่มีคนมาคอยถามอยู่ตลอดเข้ามาเคาะประตูอยู่ตลอดว่า
‘ต้องการอะไรไหมพะย่ะค่ะ’
แล้วจะต้องสะดุ้งทุกครั้งที่มีคนถามแบบนี้
วันนี้ออกไปอ่านหนังสือข้างนอกดีกว่า...
พอคิดได้แบบนั้นหนิงหลงก็หิ้วหนังสือที่ลู่ซือให้มาเดินออกจากห้องส่วนตัว
ที่นอกตำหนักไปเล็กน้อยที่นั่นมีที่นั่งกลางสวนไผ่ที่เงียบสงบอยู่หากเป็นที่นั่นคงไม่มีใครไปรบกวน
อีกอย่างเอาแต่นั่งอยู่ในห้องตัวเองมาตลอดออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้างก็คงดีไม่น้อย
“อะ...องค์หญิงจะไปที่ใดรึพะย่ะค่ะ”นายกำนัลที่ดูมีอายุเล็กน้อยเขาน่าจะอยู่ในวัย
19-20 ปีได้เดินโค้งเข้ามาหาองค์หญิงช้าๆอย่างนอบน้อม
“ข้าจะไปที่สวนไผ่สักหน่อย
ไม่ต้องเตรียมชาเดี๋ยวข้าจะกลับมา”
“ตะ..แต่!”องค์หญิงจะไปเพียงลำพังโดยไม่มีผู้ติดตามไม่ได้..!!
เขาอยากจะพูดเช่นนั้นทว่าก็ถูกพูดแทรกขึ้นมาก่อน
“ไม่ต้องห่วง องค์รักษ์จะตามข้าไป
พวกเจ้าอยู่ตำหนักก็ฝากดูแลด้วยล่ะ”
แม้จะไม่เห็นแต่ก็รู้ได้ถึงการเคลื่อนไหวรอบตัว
องค์รักษ์มากความสามารถเหล่านี้สามารถคุ้มครองเธอได้จากที่ไกลๆโดยไม่ทำลายความเป็นส่วนตัวของเธอ
หนิงหลงเดินออกมาจากตัวตำหนักปกติจะมีจิ้นอันตามมาด้วยทว่าตอนนี้จิ้นอันกำลังทำหน้าที่แทนเธอที่ตำหนักของขุนนางฝ่ายบู้คนหนึ่งอยู่
ด้วยสภาพร่างกายของเธอยังไม่เต็มร้อยจึงไม่สามารถไปร่วมได้
...แต่ตอนนี้ก็ไม่ค่อยเป็นอะไรแล้ว
ก็คล้ายๆกับการกาข้ออ้างโดดงานชัดๆ
เธอนั่งลงที่เก้าอี้หินอ่อนสีขาวกลางสวนเปิดหนังสืออ่านในอ้อมกอดของต้นไผ่ที่รายล้อม
สายลมพัดอย่างช้าๆลอดลำต้นเกิดเสียงกระทบของใบไผ่เบาๆยิ่งฟังก็ยิ่งผ่อนคลาย
เนื้อหาในหนังสือเรื่องนี้น่าสนใจมาก
ชาวตะวันตกในหนังสือมีวิถีชีวิตที่คล้ายกับโลกของเธอมาก หากไม่มีเรื่องการใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ล่ะก็นี่ก็คงคล้ายกับสมัยเก่าแก่ของโลกเดิมนัก
ชาวตะวันตกรึที่มักเรียกกันที่นี่ว่า
ชาวอาร์ค มีเส้นผมสีทองผิวขาวดวงตาสีฟ้า เหมือนกับลู่ซือ
บางที่เขาอาจจะเป็นลูกครึ่งเพราะใบหน้าของเขายังมีเชื้อของชาวฉางจินอยู่เกือบครึ่ง
ดินแดนใกล้เคียงนามว่า เฟียร์
เป็นชนชาติที่มีผิวคลำเล็กน้อยเส้นผมมักเป็นสีน้ำตาลต่างจากชาวฉางจินที่ส่วนใหญ่มักจะผิวขาว
ดำคล้ายกันชาวฉางจินทว่าร่างกายจะแข็งแรงและสูงใหญ่
ทว่าชนชาตินี้ถูกแบ่งออกเป็นสามดินแดน...
สิ่งนี้เธอเคยอ่านในหนังสือทั่วไปของที่นี่อยู่พอสมควรแต่หนังสือเล่มนี้ช่วยให้เข้าใจในเรื่องที่เธอไม่รู้ได้มากขึ้น
ตั้งแต่วิถีชีวิตไปจนถึงประเพณี
กึก..!!
“...ใครน่ะ!?”
ในระหว่างที่หนิงหลงกำลังอ่านหนังสืออย่างจดจ่อเสียงของกิ่งไม้แห้งก็ดังขึ้นบ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวของบางสิ่งโดยรอบ
อาภรณ์สีฟ้าอ่อนพริ้วไหวออกมาจากที่หลบซ่อน เด็กหนุ่มคนหนึ่งแอบมองหนิงหลงอยู่หลังต้นไผ่
ดวงตาสีเขียวหยกชะโงกมาดั่งลูกกวางน้อย
เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนถูกมัดเป็นเปียหลวมๆยาวถึงกลางหลัง
ผิวขาวอมชมพูแก้มแดงระเรื่อเล็กน้อยริมฝีปากเล็กร่างกายสูงประมานต้นแขนของหนิงหลงได้
เขาดูคล้ายกับตุ๊กตาแสนน่ารัก นี่คนจริงๆใช่ไหมนี่..!!
หากเขานั่งเฉยๆคงคิดว่าเป็นตุ๊กตาแน่ๆแต่ตุ๊กตาตนนั้นกำลังมองมาที่เธอด้วยสายตาหวาดระแวง
เด็กคนนี้เป็นลูกชายของขุนนางคนอื่นรึเปล่านะ? เขาน่าจะอายุราวๆ 13 ปี หนิงหลงยิ้มให้กับเด็กคนนั้นเพราะดูเขาจะกลัวเธออยู่เล็กน้อย
“มาทำอะไรที่นี่จ้ะ? หลงทางมาหรือ?”
“....”เขาส่ายหน้าไปมาแล้วก็กลับมาจ้องมองหนิงหลงต่อ
“....มานั่งกับข้าได้นะ มาสิ”หนิงหลงขยับตัวแล้วตบที่นั่งข้างกายเบาๆ
“...ได้...เหรอ?”เสียงดั่งกระวานเปล่งออกมาอย่างช้าๆ
ดวงตากวางน้อยเป็นประกายวิบวับทำเอาหัวใจของหนิงหลงเต้นไม่เป็นกระส่ำ
เดิมทีเธอยิ่งเป็นคนรักเด็กอยู่แล้วด้วย เคยฝันเอาไว้ว่าอยากจะเป็นคุณครูขั้นอนุบาลรึไม่ก็ชั้นประถมแต่เพราะอาชีพครูเงินเดือนไม่โดนใจก็เลยเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นดีกว่า
“ได้สิจ้ะ...”
พอเธออนุญาตแล้วเขาก็เดินเข้ามาอย่างช้าๆ ถึงเขาจะมานั่งอยู่ข้างๆแล้วเขาก็ยังคงจับจ้องหนิงหลงด้วยดวงตาเป็นประกายและจ้องแบบไม่กระพริบตา...
“...มาที่นี่...มาหาใครเหรอจ้ะ? มาคนเดียวแบบนี้คนอื่นๆหายไปไหนหมด?”หนิงหลงเอ่ยปากและพยายามต้านทานดวงตาที่มีอนุภาพแรงกล้าของเขาไปด้วย
“....”เขาไม่พูดอะไรออกมาเขาเพียงจับแขนเสื้อของหนิงหลงเอาไว้
“....หือ?”
“มาหา...คุณภรรยา”
“หา?”
หนิงหลงถึงตกอยู่ในห้วงของงุนงง เขาบอกว่ามาหา..ภรรยา?
เด็กอายุเท่านี้....มีภรรยา!!?
แต่ก็ไม่แปลกตั้งแต่ที่น้องสี่มีลูกแล้วจะมาตกใจอะไรให้มากมายด้วยล่ะ...?
“...ภะ...ภรรยา?”เธอยังไงคงไม่เข้าสิ่งที่เด็กคนนี้พูดออกมา
จนกระทั่ง...
“นายน้อย...!!”
ในตอนนั้นเองทีหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่งเดินฝ่าสวนไผ่เข้าเขา
เขาสีเส้นผมสีดำยาวระดับไหล่แต่มัดรวบเอาไว้
ผิวขาวกำลังดีใบหน้านับว่าหล่อเหลาแต่ก็ไม่ได้งดงามปานดอกไม้ มาหยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะหินอ่อน
“...ซูเว่ย”เด็กหนุ่มที่นั่งข้างกายเธอเรียกเรียกของชายคนนั้นเอาออกเบาๆ
“นายน้อย..!! อะ...องค์หญิง ขออภัยที่เสียมารยาทพะย่ะค่ะ”
ชายคนนั้นหันมาเห็นหนิงหลงกำลังนั่งอยู่เขาดูรีบร้อนมากคงเพราะมาตามหาเด็กคนนี้อยู่แน่ๆ
หนิงหลงส่ายหน้าแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนแก่พวกเขาทั้งคู่
“นะ...นายน้อยขอรับ ได้เวลาต้องกลับแล้วนะขอรับ”
“....อืม...รู้แล้ว”
เมื่อซูเว่ยบอกถึงเวลากลับเด็กคนนั้นก็มุ่ยหน้าลงเขาดูไม่อยากจะกลับเท่าไหร่แต่ก็ยอมกลับแต่โดย
แต่ก่อนหน้านั้นเขาก็หันมาหาหนิงหลง..
“....อยากเจออีก...ได้รึเปล่า?”นสียงช่างเหมือนลูกแมวน้อยที่น่ารักอะไรอย่างนี้นะ
ใจของหนิงหลงเกือบจะละลายกลายเป็นลาวาไปซะแล้ว..!!
“ได้สิจ้ะ”
“...ลี่หลินดีใจ”
เขายิ้มเล็กน้อยและเอ่ยออกมาด้วยเสียงเบาๆจากนั้น...
จุ๊บ!
“...!!”
เขาชิงหอมแก้มของหนิงหลงก่อนที่จะลุกเดินออกจากเก้าอี้นั่งแล้วเดินนำหน้าชายที่เป็นเหมือนข้ารับใช้ของเขา
สัมผัสร้อนๆของริมฝีปากเด็กหนุ่มยังติดที่แก้มของเธออยู่แม้เขาจะหายไปแล้ว
อะไรกัน...ตกใจหมดเลย
หนิงหลงเอามือลูบแก้มตัวเองเบาๆ ก่อนจะไปเขาพูดชื่อว่า ลี่หลิน
นั่นคือชื่อของเขาหรือ? แล้วที่บอกว่ามาหาคุณภรรยา...
...คะ...คงไม่ใช่ข้าหรอก
แม้ตนเองจะไม่แน่ใจนักแต่ยังไงหนิงหลงคนก่อนก็คงไม่ได้คิดจะรับเด็กมาเป็นนายสนมหรอก....
....ใช่ไหม?
ในขณะเดียวกันนั้น ชายสองคนนั้นก็กำลังเดินผ่านไปตามโถงทางเส้นของตำหนัก
“นายน้อยขอรับ ออกไปข้างนอกคนเดียวแบบนี้ไม่สมควรเลยนะขอรับหากนายหญิงรู้เข้าคงตำหนิข้า...”ซูเว่ยเอ่ยขึ้นในขณะที่กำลังเดินตามนายน้อยอายุน้อยของตนไปตามทาง
“....ข้ารู้”
“อย่าน้อยก่อนจะออกมาก็บอกข้าด้วยนะขอรับนายน้อย”
ทว่าอยู่ๆ ลี่หลิน ก็หยุดเดินแล้วหันมาหาข้ารัยใช้คนสนิท...
“...ข้าไม่ใช่นายน้อยแล้ว ข้าบอก...ให้เรียกว่า ‘พระสนม’ ...”
“ขะ...ขออภัยขอรับ”
ซูเว่ยก้มหัวขออภัยเพราะเขาดูแลนายน้อยแต่แต่เล็กแต่น้อยจู่ๆจะให้เปลี่ยนไปเรียกพระสนมก็ยังม่เคยชินเท่าไหร่นัก...
“...แล้วเรื่องนั้นล่ะ...เรียบร้อยดีไหม?”ลี่หลินเดินเข้าไปใกล้แล้วกระซิบคุยกับเบาๆให้ได้ยินแค่สองคนแม้ตรงนี้จะไม่มีผู้คนเดินผ่านก็ตามที
“...ขอรับ...ข้าจัดการส่งพวกเขาทั้งสองลงคูน้ำไปแล้ว
ไม่เหลือร่องรอยอะไรไว้ขอรับ”
ลี่หลินยิ้มเล็กที่มุมปากดวงตาสีหยกของเขาก็มืดลง
เด็กหนุ่มที่มีใบหน้าใส่ซื่อน่าเอ็นดูคนนี้...
...มีอีกด้านที่แอบซ่อนเอาไว้
“...คนที่ทำให้คุณภรรยาต้องลำบาก...ต้องจัดการทิ้ง...”
ปีศาจตัวน้อยส่งพิมพ์ยิ้มและเดินกลับไปยังตำหนักของตน
....สุดท้ายแล้วผู้บุกรุกทั้งสองก็ถูกตัดสินว่าพวกเขากระโดดคูน้ำตายด้วยตนเอง
==============================================================
กินเด็กแล้วเป็นอมตะ
นายสนมคนที่สี่ออกมาแล้วจร้าาาา
ค่าตัวแพงกว่าจะเอาเข้าฉากได้ก็กินไปหลายตอน
ตอนต่อไปจะเป็นตอนพิเศษของจิ้นอัน เผื่อใครยังไม่รู้ว่าจิ้นอันมีสามีแล้วนะเออออ!!
เป็นยังไงเหรอ....ไม่เอา ไม่สปอยยยย
ความคิดเห็น