ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    องค์หญิงเพี้ยน กับ เหล่านายสนม

    ลำดับตอนที่ #26 : บทที่ 25 หนุ่มน้อย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.84K
      845
      19 พ.ค. 64

    บทที่ 25

    หนุ่มน้อย


                     เวลาที่สงบสุขกลีบคืนมาอย่างรวดเร็ว หนิงหลงหายดีจากอาการบาดเจ็บที่แขนแล้วเธอกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวและอีกไม่นานก็คงกลับไปเป็นปกติได้


                    จิ้นอันยังคงมาดูแลเธอไม่ห่างพร้อมกับจัดการเรื่องส่วนตัวแทนเธอไปด้วย ช่วงนี้หนิงหลงสนใจเรื่องประวัติศาสตร์พออยู่นิ่งๆไม่มีอะไรทำก็ไปหาหนังสือมาอ่านอีกเช่นเคย ลู่ซือมาเยี่ยมเธอบ่อยขึ้นเขามักจะมาพร้อมกับหนังสือที่น่าสนใจอยู่เสมอ เขานั้นเป็นนักอ่านตัวยงพอได้คุยกับคนที่ชอบหนังสือด้วยกันแล้วก็รู้สึกเหมือนในโลกมีแค่สองคน


                    ในบ่ายวันนี้ก็เช่นกันลู่ซือมาที่นี่พร้อมกับหนังสือสุดวิเศษเขาแทบจะจองเวลาน้ำชายามบ่ายขององค์หญิงไปเสียแล้ว พวกเขาทั้งสองนั่งจิบชากันในศาลากลางในภายในตำหนักของหนิงหลง


                    “หนังสือเล่มนี้มาจากแดนตะวันตก เอามาแปลงเป็นภาษาของคนที่นี่ขอรับองค์หญิง”รวมทั้งการพูดที่ดูสนิทสนมกันมากขึ้นลู่ซือเป็นคนที่มาหาเธอสุดในช่วงนี้


                    “แหม...ขอบใจนะ ฉันไม่รู้มาก่อนมามีหนังสือแปลแบบนี้ด้วย”


                    หนิงหลงรับหนังสือที่ภายในเต็มไปด้วยกระดาษสาหลายแผ่นเย็บติดกัน นอกจากจะมีเนื้อหาที่อัดแน่นแล้วซ้ำยังมีรูปวาดประกอบอย่างละเอียดอีก เป็นหนังสือที่หาได้ยากในสมัยนี้


                    “มันเป็นของขวัญจากท่านแม่ ข้าอ่านหลายครั้งจนเบื่อไปแล้วข้าให้ท่านยืมอ่านจนกว่าจะได้พอเลยขอรับ”


                    “ข้าจะพยายามอ่านให้ไวนะ ขอบคุณเจ้ามากลู่ซือ”


                    “ไม่ต้องรีบหรอกขอรับ เรายังมีเวลาร่วมกันอีกยาวนานเลยทีเดียว...”


                    “...!!


                    ชายหนุ่มขยับกายเข้ามาแนบชิดเธอพร้อมส่งสายตาและน้ำเสียงแสนยั่วยวน วันนี้เป็นวันที่อากาศดีชายหนุ่มคนนี้แต่งกายด้วยเสื้อผ้าแนบเนื้อและค่อยข้างบางเล็กน้อยเผยให้เห็นสัดส่วนที่งานราวรูปปั้นแกะสลักชิ้นโบว์แดง


                    ลู่ซือมักจะหยอกเล่นเธอแบบนี้อยู่เสมอ เขาเล่นกับท่าทีที่ตื่นตระหนกของหญิงสาวอย่างเพลิดเพลินในวังหลวงที่แสนน่าเบื่อหน่ายแห่งนี้ก็ยังมีเรื่องสนุกให้ทำอยู่บ้าง เขาคิดเช่นนั้นเมื่อมองไปยังแก้มหญิงสาวที่เห่อแดงเล็กน้อย


                    “ข้าคงต้องกลับตำหนักแล้ว ขอให้ท่านกลับมาหายดีไวๆนะขอรับองค์หญิง”เขาขยิบตาถอยออกไปข้างช้าๆแล้วหันมาส่งยิ้มอันอันงามอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้น


                    “...อะ...อื้ม ข้าจะให้องค์รักษ์ของข้าไปส่งเจ้า”


                    “...ขอรับองค์หญิง”


                    หนิงหลงเรียกให้องค์รักษ์สองคนมาช่วยนำทางลู่ซือกลับไปตำหนักของตนเอง หนิงหลงเดินกลับไปยังห้องพักนับจากวันที่ซิ่วเหว่กลับบ้านไปนายกำนัลที่นี่ก็ถูกเปลี่ยนทั้งหมด


    นายกำนัลที่เข้ามาใหม่ต่างวิ่งกันไปมาในตำหนักอันเงียบสงบพวกเขาคงตื่นเต้นกับตำหนักมังกรฟ้าไปสักพักกว่าจะทำตัวให้เคยชินได้ พวกเขามักเข้ามาตามและแวะมารับใช้หนิงหลงอยู่บ่อยๆจนไม่มีเวลาเป็นส่วนตัว


                    ....แบบนี้ก็รู้สึกไม่สบายนิดๆเหมือนกันนะ


                    เวลาที่มีคนมาคอยถามอยู่ตลอดเข้ามาเคาะประตูอยู่ตลอดว่า ต้องการอะไรไหมพะย่ะค่ะ แล้วจะต้องสะดุ้งทุกครั้งที่มีคนถามแบบนี้


                    วันนี้ออกไปอ่านหนังสือข้างนอกดีกว่า...


                    พอคิดได้แบบนั้นหนิงหลงก็หิ้วหนังสือที่ลู่ซือให้มาเดินออกจากห้องส่วนตัว ที่นอกตำหนักไปเล็กน้อยที่นั่นมีที่นั่งกลางสวนไผ่ที่เงียบสงบอยู่หากเป็นที่นั่นคงไม่มีใครไปรบกวน อีกอย่างเอาแต่นั่งอยู่ในห้องตัวเองมาตลอดออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้างก็คงดีไม่น้อย


                    “อะ...องค์หญิงจะไปที่ใดรึพะย่ะค่ะ”นายกำนัลที่ดูมีอายุเล็กน้อยเขาน่าจะอยู่ในวัย 19-20 ปีได้เดินโค้งเข้ามาหาองค์หญิงช้าๆอย่างนอบน้อม


                    “ข้าจะไปที่สวนไผ่สักหน่อย ไม่ต้องเตรียมชาเดี๋ยวข้าจะกลับมา”


                    “ตะ..แต่!”องค์หญิงจะไปเพียงลำพังโดยไม่มีผู้ติดตามไม่ได้..!! เขาอยากจะพูดเช่นนั้นทว่าก็ถูกพูดแทรกขึ้นมาก่อน


                    “ไม่ต้องห่วง องค์รักษ์จะตามข้าไป พวกเจ้าอยู่ตำหนักก็ฝากดูแลด้วยล่ะ”


                    แม้จะไม่เห็นแต่ก็รู้ได้ถึงการเคลื่อนไหวรอบตัว องค์รักษ์มากความสามารถเหล่านี้สามารถคุ้มครองเธอได้จากที่ไกลๆโดยไม่ทำลายความเป็นส่วนตัวของเธอ


                    หนิงหลงเดินออกมาจากตัวตำหนักปกติจะมีจิ้นอันตามมาด้วยทว่าตอนนี้จิ้นอันกำลังทำหน้าที่แทนเธอที่ตำหนักของขุนนางฝ่ายบู้คนหนึ่งอยู่ ด้วยสภาพร่างกายของเธอยังไม่เต็มร้อยจึงไม่สามารถไปร่วมได้


                    ...แต่ตอนนี้ก็ไม่ค่อยเป็นอะไรแล้ว ก็คล้ายๆกับการกาข้ออ้างโดดงานชัดๆ


                    เธอนั่งลงที่เก้าอี้หินอ่อนสีขาวกลางสวนเปิดหนังสืออ่านในอ้อมกอดของต้นไผ่ที่รายล้อม สายลมพัดอย่างช้าๆลอดลำต้นเกิดเสียงกระทบของใบไผ่เบาๆยิ่งฟังก็ยิ่งผ่อนคลาย เนื้อหาในหนังสือเรื่องนี้น่าสนใจมาก ชาวตะวันตกในหนังสือมีวิถีชีวิตที่คล้ายกับโลกของเธอมาก หากไม่มีเรื่องการใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ล่ะก็นี่ก็คงคล้ายกับสมัยเก่าแก่ของโลกเดิมนัก


                    ชาวตะวันตกรึที่มักเรียกกันที่นี่ว่า ชาวอาร์ค มีเส้นผมสีทองผิวขาวดวงตาสีฟ้า เหมือนกับลู่ซือ บางที่เขาอาจจะเป็นลูกครึ่งเพราะใบหน้าของเขายังมีเชื้อของชาวฉางจินอยู่เกือบครึ่ง


                    ดินแดนใกล้เคียงนามว่า เฟียร์ เป็นชนชาติที่มีผิวคลำเล็กน้อยเส้นผมมักเป็นสีน้ำตาลต่างจากชาวฉางจินที่ส่วนใหญ่มักจะผิวขาว ดำคล้ายกันชาวฉางจินทว่าร่างกายจะแข็งแรงและสูงใหญ่ ทว่าชนชาตินี้ถูกแบ่งออกเป็นสามดินแดน...


                    สิ่งนี้เธอเคยอ่านในหนังสือทั่วไปของที่นี่อยู่พอสมควรแต่หนังสือเล่มนี้ช่วยให้เข้าใจในเรื่องที่เธอไม่รู้ได้มากขึ้น ตั้งแต่วิถีชีวิตไปจนถึงประเพณี


                    กึก..!!


                    “...ใครน่ะ!?


                    ในระหว่างที่หนิงหลงกำลังอ่านหนังสืออย่างจดจ่อเสียงของกิ่งไม้แห้งก็ดังขึ้นบ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวของบางสิ่งโดยรอบ


                    อาภรณ์สีฟ้าอ่อนพริ้วไหวออกมาจากที่หลบซ่อน เด็กหนุ่มคนหนึ่งแอบมองหนิงหลงอยู่หลังต้นไผ่


                    ดวงตาสีเขียวหยกชะโงกมาดั่งลูกกวางน้อย เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนถูกมัดเป็นเปียหลวมๆยาวถึงกลางหลัง ผิวขาวอมชมพูแก้มแดงระเรื่อเล็กน้อยริมฝีปากเล็กร่างกายสูงประมานต้นแขนของหนิงหลงได้


    เขาดูคล้ายกับตุ๊กตาแสนน่ารัก นี่คนจริงๆใช่ไหมนี่..!!


    หากเขานั่งเฉยๆคงคิดว่าเป็นตุ๊กตาแน่ๆแต่ตุ๊กตาตนนั้นกำลังมองมาที่เธอด้วยสายตาหวาดระแวง เด็กคนนี้เป็นลูกชายของขุนนางคนอื่นรึเปล่านะ? เขาน่าจะอายุราวๆ 13 ปี หนิงหลงยิ้มให้กับเด็กคนนั้นเพราะดูเขาจะกลัวเธออยู่เล็กน้อย


    “มาทำอะไรที่นี่จ้ะ? หลงทางมาหรือ?”


    “....”เขาส่ายหน้าไปมาแล้วก็กลับมาจ้องมองหนิงหลงต่อ


    “....มานั่งกับข้าได้นะ มาสิ”หนิงหลงขยับตัวแล้วตบที่นั่งข้างกายเบาๆ


    “...ได้...เหรอ?”เสียงดั่งกระวานเปล่งออกมาอย่างช้าๆ


    ดวงตากวางน้อยเป็นประกายวิบวับทำเอาหัวใจของหนิงหลงเต้นไม่เป็นกระส่ำ เดิมทีเธอยิ่งเป็นคนรักเด็กอยู่แล้วด้วย เคยฝันเอาไว้ว่าอยากจะเป็นคุณครูขั้นอนุบาลรึไม่ก็ชั้นประถมแต่เพราะอาชีพครูเงินเดือนไม่โดนใจก็เลยเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นดีกว่า

    “ได้สิจ้ะ...”


    พอเธออนุญาตแล้วเขาก็เดินเข้ามาอย่างช้าๆ ถึงเขาจะมานั่งอยู่ข้างๆแล้วเขาก็ยังคงจับจ้องหนิงหลงด้วยดวงตาเป็นประกายและจ้องแบบไม่กระพริบตา...


    “...มาที่นี่...มาหาใครเหรอจ้ะ? มาคนเดียวแบบนี้คนอื่นๆหายไปไหนหมด?”หนิงหลงเอ่ยปากและพยายามต้านทานดวงตาที่มีอนุภาพแรงกล้าของเขาไปด้วย


    “....”เขาไม่พูดอะไรออกมาเขาเพียงจับแขนเสื้อของหนิงหลงเอาไว้


    “....หือ?”


    “มาหา...คุณภรรยา”


    “หา?”


    หนิงหลงถึงตกอยู่ในห้วงของงุนงง เขาบอกว่ามาหา..ภรรยา?


    เด็กอายุเท่านี้....มีภรรยา!!?


    แต่ก็ไม่แปลกตั้งแต่ที่น้องสี่มีลูกแล้วจะมาตกใจอะไรให้มากมายด้วยล่ะ...?


    “...ภะ...ภรรยา?”เธอยังไงคงไม่เข้าสิ่งที่เด็กคนนี้พูดออกมา


    จนกระทั่ง...


    “นายน้อย...!!


    ในตอนนั้นเองทีหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่งเดินฝ่าสวนไผ่เข้าเขา เขาสีเส้นผมสีดำยาวระดับไหล่แต่มัดรวบเอาไว้ ผิวขาวกำลังดีใบหน้านับว่าหล่อเหลาแต่ก็ไม่ได้งดงามปานดอกไม้ มาหยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะหินอ่อน


    “...ซูเว่ย”เด็กหนุ่มที่นั่งข้างกายเธอเรียกเรียกของชายคนนั้นเอาออกเบาๆ


    “นายน้อย..!! อะ...องค์หญิง ขออภัยที่เสียมารยาทพะย่ะค่ะ”


    ชายคนนั้นหันมาเห็นหนิงหลงกำลังนั่งอยู่เขาดูรีบร้อนมากคงเพราะมาตามหาเด็กคนนี้อยู่แน่ๆ หนิงหลงส่ายหน้าแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนแก่พวกเขาทั้งคู่


    “นะ...นายน้อยขอรับ ได้เวลาต้องกลับแล้วนะขอรับ”


    “....อืม...รู้แล้ว”


    เมื่อซูเว่ยบอกถึงเวลากลับเด็กคนนั้นก็มุ่ยหน้าลงเขาดูไม่อยากจะกลับเท่าไหร่แต่ก็ยอมกลับแต่โดย แต่ก่อนหน้านั้นเขาก็หันมาหาหนิงหลง..


    “....อยากเจออีก...ได้รึเปล่า?”นสียงช่างเหมือนลูกแมวน้อยที่น่ารักอะไรอย่างนี้นะ ใจของหนิงหลงเกือบจะละลายกลายเป็นลาวาไปซะแล้ว..!!


    “ได้สิจ้ะ”


    “...ลี่หลินดีใจ”


    เขายิ้มเล็กน้อยและเอ่ยออกมาด้วยเสียงเบาๆจากนั้น...


    จุ๊บ!


    “...!!


    เขาชิงหอมแก้มของหนิงหลงก่อนที่จะลุกเดินออกจากเก้าอี้นั่งแล้วเดินนำหน้าชายที่เป็นเหมือนข้ารับใช้ของเขา สัมผัสร้อนๆของริมฝีปากเด็กหนุ่มยังติดที่แก้มของเธออยู่แม้เขาจะหายไปแล้ว


    อะไรกัน...ตกใจหมดเลย


    หนิงหลงเอามือลูบแก้มตัวเองเบาๆ ก่อนจะไปเขาพูดชื่อว่า ลี่หลิน นั่นคือชื่อของเขาหรือ? แล้วที่บอกว่ามาหาคุณภรรยา...


    ...คะ...คงไม่ใช่ข้าหรอก


    แม้ตนเองจะไม่แน่ใจนักแต่ยังไงหนิงหลงคนก่อนก็คงไม่ได้คิดจะรับเด็กมาเป็นนายสนมหรอก....


    ....ใช่ไหม?



     

    ในขณะเดียวกันนั้น ชายสองคนนั้นก็กำลังเดินผ่านไปตามโถงทางเส้นของตำหนัก


    “นายน้อยขอรับ ออกไปข้างนอกคนเดียวแบบนี้ไม่สมควรเลยนะขอรับหากนายหญิงรู้เข้าคงตำหนิข้า...”ซูเว่ยเอ่ยขึ้นในขณะที่กำลังเดินตามนายน้อยอายุน้อยของตนไปตามทาง


    “....ข้ารู้”


    “อย่าน้อยก่อนจะออกมาก็บอกข้าด้วยนะขอรับนายน้อย”


    ทว่าอยู่ๆ ลี่หลิน ก็หยุดเดินแล้วหันมาหาข้ารัยใช้คนสนิท...


    “...ข้าไม่ใช่นายน้อยแล้ว ข้าบอก...ให้เรียกว่า พระสนม ...”


    “ขะ...ขออภัยขอรับ”


    ซูเว่ยก้มหัวขออภัยเพราะเขาดูแลนายน้อยแต่แต่เล็กแต่น้อยจู่ๆจะให้เปลี่ยนไปเรียกพระสนมก็ยังม่เคยชินเท่าไหร่นัก...


    “...แล้วเรื่องนั้นล่ะ...เรียบร้อยดีไหม?”ลี่หลินเดินเข้าไปใกล้แล้วกระซิบคุยกับเบาๆให้ได้ยินแค่สองคนแม้ตรงนี้จะไม่มีผู้คนเดินผ่านก็ตามที


    “...ขอรับ...ข้าจัดการส่งพวกเขาทั้งสองลงคูน้ำไปแล้ว ไม่เหลือร่องรอยอะไรไว้ขอรับ”


    ลี่หลินยิ้มเล็กที่มุมปากดวงตาสีหยกของเขาก็มืดลง เด็กหนุ่มที่มีใบหน้าใส่ซื่อน่าเอ็นดูคนนี้...


    ...มีอีกด้านที่แอบซ่อนเอาไว้


    “...คนที่ทำให้คุณภรรยาต้องลำบาก...ต้องจัดการทิ้ง...”


    ปีศาจตัวน้อยส่งพิมพ์ยิ้มและเดินกลับไปยังตำหนักของตน


    ....สุดท้ายแล้วผู้บุกรุกทั้งสองก็ถูกตัดสินว่าพวกเขากระโดดคูน้ำตายด้วยตนเอง


    ==============================================================

    กินเด็กแล้วเป็นอมตะ

    นายสนมคนที่สี่ออกมาแล้วจร้าาาา 

    ค่าตัวแพงกว่าจะเอาเข้าฉากได้ก็กินไปหลายตอน

    ตอนต่อไปจะเป็นตอนพิเศษของจิ้นอัน เผื่อใครยังไม่รู้ว่าจิ้นอันมีสามีแล้วนะเออออ!!

    เป็นยังไงเหรอ....ไม่เอา ไม่สปอยยยย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×