คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : บทที่ 11 ตามง้อ?
บทที่ 11
ตามง้อ?
จ๋อม..
หนิงหลงออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเธอใส่ชุดบางๆแต่เป็นสีน้ำเงินเข้มเพื่อไม่ให้เปิดเผยผิวกายมากเกินไปเมื่อโดนน้ำ
แล้วจึงค่อยทอดกายลงไปแน่ในบ่อน้ำร้อน
ไอร้อนจากน้ำแตะที่แก้มทั้งสองของหญิงสาวจนเห่อร้อน
ทว่าตอนนี้เธอไม่แน่ใจแล้วว่าสาเหตุที่แก้มมันร้อนระอุได้ขนาดนี้เป็นเพราะบ่อน้ำร้อน...รึชายที่อยู่ข้างๆกันแน่
“องค์หญิง
นี่เป็นเหล้าบ๊วยชั้นหนึ่งจากแคว้นยุนซูพะย่ะค่ะ”ซูฮวายกขวดสุราแก้วสีขาวทึบขนาดเท่าฝ่ามือลงในจอกเหล้าขนาดเล็กและวางมันบนถาดไม้ที่กำลังลอยอยู่บนผิวน้ำ
“ขะ..ขอบคุณ”เธอรับจอกเหล้านั้นมาแม้ตอนนี้จะไม่ค่อยอยากจิบเสียเท่าไหร่แต่เมื่อถูกยื่นสุรามาให้แล้วการไม่รับไว้คือการหักหน้าผู้ให้ยิ่ง
กลิ่นหอม...กว่าเหล้าทั่วไป
ก่อนจะปล่อยให้เหล้าผ่านคอเธอสูดเหล้าจากขอบจอกเล็กน้อยก่อนจะดื่มมันลงไปทั้งหมด
ความหวานที่แผ่ไปตั้งแต่ปลายลิ้นมันไม่ใช่ความหวานโดยน้ำตาลเป็นความหวานธรรมชาติจากบ๊วยช่างเป็นสุราที่รสเลิศเสียนี่กระไร!
“รสเลิศมากเลย ซูฮวา”
“ข้าเองก็ดีใจที่ท่านชอบพะย่ะค่ะ
องค์หญิง”
เมื่อดวงตาของทั้งสองเหลือบมาพบกันเหตุไฉนดวงตาของเธอจึงมองลงไปที่ผิวเสื้อบางที่ชุ่มด้วยน้ำด้านล่างกันเล่า!!? ไม่ใช่นะ! ข้าไม่ใช่พวกโรคจิต!! เธอแย้งกับตัวเองในใจ หญิงวัย 27
ที่ไร้ชายขาดรักมายาวนานตามอายุคนนี้จะมาสนอกสนใจเรือนร่างชายอะไรเอาป่านนี้!!?
หนิงหลงหันไปมองสิ่งอื่นแทน
เธอมองฟ้า มองต้นไม้ มองทุกสิ่งทุกอย่างที่จะตัดตนเองออกมาความฟุ้งซ่าน
เพราะเธอเอาแต่มองไปรอบความเงียบก็ก่อกำเนิดระหว่างการสนทนาของทั้งคู่
ทำไมมันน่าอึดอัดขนาดนี้...?
เป็นความผิดของเธอเองที่ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเขา
ท่าทางตอนนี้ซูฮวาก็ดูเหมือนจะเบื่อๆขึ้นมาเสียแล้วด้วย
เขาถอนหายใจเบาๆแล้วยกเหล้าบ๊วยขึ้นจิบทีละนิดพอเห็นแบบนั้นความรู้สึกผิดที่อัดแน่นในใจก็เพิ่มพูน
“ซูฮวา ตอนนี้ท้องฟ้าเปิดแล้ว
พระจันทร์เสี้ยวงดงามมากเลยล่ะ เจ้าเห็นไหม?”แม้จะไม่เจอหนทางก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีหนทาง
เธอตั้งหัวข้อสนทนาที่แสนเรียบง่ายขึ้นเพื่อทลายความเงียบนี้ลง
“พะย่ะค่ะ วันนี้เป็นวันที่จันทร์เสี้ยวงดงามที่สุด”
“จะว่าไป
วันนี้อากาศก็เย็นกว่าทุกวันด้วยทางดีที่เราไม่ควรแช่นาน...”
ในขณะที่เธอกำลังพูดไปเรื่อยเปื่อยวงแขนของชายหนุ่มก็โอบเข้ามาที่เอวแล้วถึงตัวเธอเข้าไปแนบชิดกาย
“อากาศวันนี้ค่อนข้างหนาว
พวกเราควรอยู่ใกล้ๆกันเข้าไว้ดีกว่าพะย่ะค่ะองค์หญิง”
รอยยิ้มของซูฮวาแผงไปด้วยความเย้ายวน
เธอกลายเป็นดั่งผึ้งที่ถูกดอกไม้หอมดึงดูดไม่ใช่ขยับกายไปไหน แต่ไม่ได้..!! เธอจะต้องมีสติอยู่ตลอดสิ!!
“อะ...อย่างที่เจ้าว่า
วันนี้อากาศหนาวยิ่งนัก เจ้าออกมาอยู่ข้างนอกนานๆเดี๋ยวเจ้าจะไม่สบายได้นะซูฮวา หมดเหล้าจอกนี้พวกเรากลับขึ้นไป...”
“..เฮ้อ ท่านพึ่งจะมาเองแท้ๆ อยากกลับไปมากขนาดนั้นเลยหรือ? องค์หญิง”
“หา...?”
น้ำเสียงของซูฮวาแข็งกร้าวขึ้นทั้งๆที่เขามักจะพูดว่าพะย่ะค่ะลงท้ายเสมอแต่ครั้งนี้เขากลับกว่างด้วยน้ำเสียงที่ราวไม่พอใจอย่างมาก
“กับจินหลันท่านอยู่ได้ทั้งคืน
แต่กับข้าท่านมาแค่ไม่ถึงชั่วโมง!”
“ซะ...ซูฮวา เจ้าใจเย็น..”
“ท่านบอกข้ามาสิว่าข้าด้อยกว่าชายคนนั้นตรงไหน
ข้างดงามน้อยกว่าจินหลันตรงไหน!!?”
“...”
ใบหน้าของหนิงหลงมีหยดน้ำไหลลงข้างแก้ม
สองหยด สามหยด ตามลงมาติดๆ ไม่ว่าเหงื่อนี่เกิดจากบ่อน้ำร้อนรึความร้อนจากเธอเอง
ดวงตาของหนิงหลงกำลังลอกแล่กไปซ้ายทีขวาทีในหัวก็เริ่มคิดหาวิธีทำให้ซูฮวาใจเย็นลง
ควรจะว่าไปตรงดีไหมนะ? ไม่!! นั่นเป็นวิธีที่แย่ที่สุด!
‘โอ้! ไม่เลยในโลกนี้จะมีใครงามไปกว่าเจ้า!’ แบบนั้นก็ดูไม่มีความจริงใจเลยสักนิด
รึปลอบใจ...? ในประสบการณ์ทำงานไม่คิดว่าแผนปลอบใจจะใช้ได้ผลกับคนแบบนี้ซะด้วยสิ
“ขออภัยพะย่ะค่ะองค์หญิง!! ข้าคงทำให้ท่านลำบากใจ”
ซูฮวาเดินย่างเท้าผ่านผิวน้ำขึ้นไปยังบันไดหินที่ขอบบ่อน้ำ
ในใจของเขาตอนนี้มีแต่ความเคืองขุ่นวนเวียนในใจ
ช่างน่าเจ็บใจเหลือเกิน...
เขานึกย้อนกลับไปในวันนั้นที่เขาและนายกำนัลรับใช้ได้เดินผ่านตำหนักของจินหลันโดยเหตุจำเป็น
ในตอนนั้นเขาได้ยินเสียงพูดคุยอย่างมีความสุขขององค์หญิงและจินหลันในสวนย่อม
พวกเขาดูไม่มีความประหม่าต่อกันเลยแต่ถึงอย่างนั้น...
พอมาอยู่กับเขาเหตุใดจึงไม่เหมือนกันเลย..!!?
องค์หญิงแทบไม่มองหน้าเขาเลยด้วยซ้ำไป..!
เพราะอะไร?
เพราะเขายังงดงามไม่พอ? เพราะเขายังดีสู้จินหลันไม่ได้?
‘ข้าน่ะ...เป็นถึงองค์ชายเชียวนะ!’
ตั้งแต่เด็กเขารู้ตัวเองดีว่าจะต้องแต่งงานกับองค์หญิงหนิงหลง ถวายกายและใจให้องค์หญิงแม้ไม่เคยพบหน้ากัน แม้การพบกันครั้งแรกเธอจะดูเย็นชาต่อเขาแต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิดตราบใดที่ในใจองค์หญิงไม่มีใครเข้าไปแทรกแซงเขาก็ยังสามารถเป็นหนึ่งในใจของนางได้!!
แต่แล้วทำไม...ข้าถึงรู้สึกว่ามันไม่มีทางไปถึงจุดนั้นได้เลยทั้งๆที่เพิ่งเริ่มเดินแบบนี้..
“ดะ...เดี๋ยวก่อนซูฮวา!!”
หนิงหลงเดินตามไปอย่างยากลำบากเพราะตัวยังอยู่ในน้ำจะขยับรึวิ่งก็ไม่ได้ดั่งใจไปเสียหมด!
เธอกระโดดตัวเองเพื่อคว้าชายหนุ่มเอาไว้ดั่งในละครแนวรักที่ฉายในทีวีหลังข่าว
ทว่าฉากนี้ความจริงมันต้องเป็นฝ่ายชายที่คว้าหญิงสาวตรงหน้าเอาไว้แต่เธอกลับต้องรับบทเป็นพระเอกเสียแทน
ควับ..!
พรึ่บ!!
ร่างของซูฮวากำลังก้าวขึ้นบันไดไปฝ่ามือของหนิงหลงจึงเอื้อมเข้าไปคว้าส่วนให้มือที่สุดมา
ในตอนแรกเธอคิดว่าจะคว้ามือของเขาเอาไว้แต่สิ่งที่ได้กลับมามีเพียงชุดคลุมสีขาวที่เปียกปอนไปด้วยน้ำเท่านั้น...
...ช้าก่อน ถ้านี่เป็นเสื้อคลุมล่ะก็งั้น...
เธอจำได้ว่าซูฮวาใส่ชุดคลุมสีขาว...และชุดคลุมนั้นตอนนี้ก็อยู่ในมือของเธอ...
แสดงว่า...
“อะ...องค์หญิงคนบ้า!! อย่าหันมาเชียวนะ!!”เสียงของซูฮวาดังเมื่อตอนนี้ใบหน้าของเขาแดงเป็นเกือบจะเป็นสีเดียวกับเนื้อแตงโมมือทั้งสองข้างยกขึ้นมาปกปิดของสงวนแต่หากมีเท่านั้นจะไปปิดมิดได้อย่างไร!!?
ใจหนึ่งก็หันกลับไปมองอยู่หรอก...
หากเธอเงยหน้าขึ้นไปมองตอนนี้ก็คงได้เจอของดีนอกตำราเป็นแน่! เธอจึงหันหลังให้แก่เขาในตอนนั้นเสียงวิ่งของซูฮวาก็ดังไปที่ตรงห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
จากนั้นเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นเสียงฝีเท้าก็ดังไล่ไปจนถึงทางเข้าบ่อน้ำร้อน
เขาไปแล้ว...
หญิงสาวค่อยๆหันกลับมาที่แห่งนี้ไม่เหลือผู้ใดนอกจากเธอ
เสียงลมที่พักหวิวๆยิ่งเย็นเหน็บไปถึงข้างใน
หากกลับตอนนี้เธอก็กลัวว่าจะยังไม่ไม่ได้ไขความข้องใจที่มีต่อซูฮวา
ครั้งนี้เธอเป็นฝ่ายผิดที่ไม่ยอมพบหน้าเขาสำหรับการเข้าสังคมมันเป็นดั่งการปฏิเสธคู่สนทนาทางอ้อม
แต่เนื้อหนังมังสาที่หลอกล่อสายตาของเขามันกวนสมาธิของเธอจนทำใจมองตรงๆไม่ได้อยู่ดี
จะทำเช่นไรดี?
อยู่ๆเธอก็รู้สึกว่า...
ต้องไปง้อซะแล้วสิ...?
ตึง ตึง ตึง!
เสียงกระแทกเท้าดังสนั่นไปทั่วตำหนักของพระสนมซูฮวา ทำเอาเหล่านายกำนัลในตักหนักอกสั่นขวัญหายกันไปหมดกับการกลับมาของผู้เป็นนายที่ดูเหมือนว่าเขาจะฉุนเฉียวกว่าปกติมาก
“พระสนม..!!”
นายกำนัลคนสนิทเห็นของตนเดินเข้ามาในตำหนักด้วยสภาพเส้นผมเปียกปอนซ้ำยังเสื้อผ้าหลุดลุ่ยไม่เรียบร้อยอีกต่างหาก
เขาตกใจมากจนทำอะไรไม่ถูกจึงได้แต่เดินตามเขาไป
มันเกิดอะไรขึ้นกับท่านซูฮวากันเขาได้แต่ตั้งคำถามในใจ
แต่ไม่ทันได้ถามเจ้านายของเขาก็ปิดประตูห้องหนีไปเสียงแล้ว
“อย่ามายุ่งกับข้า! ข้าจะอยู่คนเดียว!!”
ปึง!!
ประตูปิดลงต่อหน้านายกำนัลคนนั้น
ใจหนึ่งรู้ดีกว่าท่านซูฮวาอารมณ์หงุดหงิดง่ายเพียงไหนหากเข้าไปคงต้องเจอระเบิดลูกใหญ่เป็นแน่แต่ลึกๆแล้วในใจก็ยังเป็นห่วงมากมายนัก
ภายในห้องซูฮวาเดินเข้าไปนั่งอยู่บนขอบเตียง
เขาทิ้งท่าทีอันสง่างามไปต่อหน้าองค์หญิงแล้วจากนี้เธอจะไม่มาหาเขาอีกก็คงมิใช่เรื่องแปลก...
แต่ก็ช่างไปสิ!!
อย่างมากเขาก็แค่ถูกส่งกลับแคว้นเท่านั้นเอง!
....เท่านั้นเอง...งั้นหรือ?
มันไม่ใช่แค่นั้นเองเลยสักนิด!! เสด็จแม่จะว่าอย่างไรหากเขาถูกส่งกลับไป!
ในฐานะองค์ชายแล้วเขาจะมีหน้ามีตาในสังคมได้อย่างไร!!?
ตะ...แต่มันไม่ใช่ความผิดข้าสักหน่อย!
ก๊อกๆ..
“ซูฮวา...ข้าขอเข้าไปนะ”
“...!!”
หลังบานประตูเสียงของหญิงสาวอันคุ้นเคยดังขึ้นมา
ซูฮวารู้ได้ทันทีว่าองค์หญิงหนึ่งอยู่หลังบานประตูนั้นจะเข้าไม่ให้เข้ามาก็คงไม่ได้ในฐานะรัชทายาทที่นี่ก็คือบ้านขององค์หญิง
เขาจัดแจงตนเองให้เรียบร้อยแม้จะไม่เรียบร้อยเท่าไรนัก
“..พะย่ะค่ะ
องค์หญิง”เขาตอบรับทันทีหลังมั่นใจว่าสภาพตอนนี้ไม่ได้ดูน่าเกียจเกิดมอง
แอ๊ด...
หนิงหลงค่อยๆเปิดประตูเข้ามาช้าๆ
เธอเห็นชายหนุ่มกำลังนั่งอยู่บนขอบเตียง ในหัวของเธอกำลังรวบรวมถ้อยคำต่างๆนาๆ
“ซูฮวา..เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง?
วิ่งออกมาทั้งๆแบบนั้นเดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก”
“ขอบคุณในความห่วงใยพะย่ะค่ะองค์หญิง
ข้าไม่ได้เป็นอะไร”
เธอเดินเข้าไปใกล้เขาอย่างช้าๆ
ใบหน้าก็แต้มรอยยิ้มการค้าเอาไว้เพื่อสร้างความน่าเข้าหาทว่าชายหนุ่มกลับเบือนหน้าหนี...
“ขะ...ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อตำหนิหรอกนะ..ข้าเพียงแค่...เอ่อ...ข้าขอโทษที่ไม่ยอมมองเจ้าตรงๆ
แต่ข้ามีเหตุผล”หญิงสาวเดินมาหยุดตรงหน้าเขาแล้วย่อเข่าลงเพื่อลดความกดดันลง
“...เหตุผล?
เหตุผลอันใดล่ะองค์หญิง”
“เหตุผล..เอ่อ...ก็เพราะ..”
เพราะจิตใจด้านมืดของข้าอย่างไรเล่า..!!
ต่อให้เจ้าจะไม่เคยรึไม่อยากมองร่างกายของชายแต่เชื่อข้าเถอะ...ไม่ว่าจะยุคไหนโลกไหนสตรีก็ยังเป็นสัตว์กินเนื้อที่น่ากลัวอยู่เสมอ!!
เธอยังจำได้เลยว่าเธอเคยมีเพื่อนคนหนึ่งในสมัยมัธถยมที่บอกว่าไม่ชอบมองร่างกายผู้ชาย
และเมื่อเพื่อนเอาหนังสือรูปปกนิตยาสารที่มีชายเปลือยท่อนบนให้ดู
เธอติดตาทั้งคู่ด้วยมือทว่านิ้วของเธอนั้นแอบแยกออกเล็กน้อย
แต่นั่นไม่ใช่เรื่องของเธอแม่แต่น้อย
ยังไงซะหญิงโสดนั้นมีความต้องการมากกว่าสตรีที่แต่งงานแล้ว
...เหมือนกับยอมรับไปครึ่งตัวแล้วว่าตนเองก็ต้องการมองเหมือนกัน
ดะ...เดี๋ยวสิทำไมตอนนี้มันถึงมีแต่ความคิดลามกๆอยู่เต็มหน้าเลยล่ะ!! ข้าไม่ใช่ผู้หญิงจอมหื่นนะ!!
“พะ...เพราะเจ้างดงามเกินไป..ขะ...ข้าก็เลยมองตรงๆไม่ได้น่ะ”
“....”
จากการคัดกรองคำพูดทั้งหมดหนิงหลงก็เปล่งถ้อยคำที่หนักแน่นและดูจริงใจที่สุดออกไปแม้มันจะดูสิ้นคิดอยู่ดีก็เถิด
เธอเบนสายตาไปทางอื่นแก้มทั้งสองก็แดงระเรื่อขึ้นเล็กน้อย
“งะ...งามเกินไป!? พูดอะไรของท่านน่ะองค์หญิง..ขะ..ข้า”เฉดสีแดงไล่จากคอของซูฮวาไปถึงหน้าผาก
สาเหตุที่เธอไม่ยอมสบตาเขามาตลอดคือเหตุผลเพียงเท่านี้เองงั้นเหรอ!!? แต่ทำไมกลับรู้สึกดีแทนที่จะโกรธ!?
“และที่สำคัญ...ข้าคิดว่าเจ้าไม่ต้องพูดว่าพะย่ะค่ะแล้วก็ได้
มันคงจะดีถ้าเราได้สนิทกันโดยไม่ต้องคิดถึงยศในตอนที่เราอยู่กันแค่สองคนนะ”
“องค์...หญิง”
หนิงหลงนั่งลงข้างๆชายหนุ่มโดยไม่ได้เว้นระยะห่างมากเกินไปแต่ก็ไม่ได้แนบชิดติดกัน
เรือนผมของซูฮวายังเปียกชื้นอยู่ซ้ำยังมีหยุดน้ำหยดลงเตียงอีกต่างหาก
ท่าทางตอนออกมาเขาจะรีบร้อนมากเลยทีเดียว
ในตอนนั้นเองที่ฝ่ามือของซูฮวาเอื้อมเข้ามาจับไหล่ทั้งสองของเธอเอาไว้ราวกับจะบังคับให้หันมามองที่เขา
“หะ...หาท่านไม่มองข้าแล้ว
ข้าจะมีความงามเอาไว้ทำอะไรกันเล่า...องค์หญิง”
หากความงดงามนี้ไม่ได้มีไว้ให้ท่านได้เชยชมล่ะก็...ความงามนี้จะมีประโยชน์อันใด?
“หากเป็นท่านล่ะก็...ท่านจะมองรึสัมผัสข้ายังไงก็ได้...”ชายหนุ่มปลดคอเสื้อลงไปด้านล่างเผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่ขาวผุดผ่องดั่งจันทร์เสี้ยว...
“ดะ...เดี๋ยวก่อน! ซูฮวา
ข้า...มะ..มีเรื่องที่ต้องบอกเจ้า”หนิงหลงยกมือขึ้นห้ามปรามก่อนที่เขาจะปลดเปลื้องกายไปมากกว่านี้
“สิ่งใดหรือ องค์หญิง?”
“ขะ...ข้า วันนี้ข้ารีบมาก
ก็...ก็เลยลืมเจ้านั่นเพราะฉะนั้น...คะ...คืนนี้..”
“เจ้านั่น..?”
“เจ้านั่นน่ะเจ้านั่น”
เธอก้มหน้ามองพื้นไม่กล้าเงยขึ้นสบตากับชายหนุ่ม
จะให้เธอพูดออกมาอย่างเต็มปากได้อย่างไรว่าเธอไม่ได้เอาเจ้านั่นมา...!!
“...?”ซูฮวาเอียงคอมององค์หญิงด้วยความไม่เข้าใจ
จนในที่สุดหนิงหลงก็ตัดสินใจสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วเอ่ยออกมาว่า...
“ก็....ถะ...ถุงคุมกำเนิดสุดหรรษาไง”
รู้สึก....อายจนอยากจะมุดดินหนี
==================================================================
กลับมาแล้ววววววว
หายไปนานคิดถึงกันไหนเอ่ยยย ไรท์เพิ่งกลับจากต่างจังหวัดมาล่ะค่าาา
เอาซูฮวาคนเซ็กซี่มาเสริฟฟฟฟ
ความคิดเห็น