คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #43 : บทที่ 42 คำขอร้อง
บทที่ 42
คำขอร้อง
หนิงหลงนั่งทำงานอยู่ในห้องนานอยู่หลายชั่วโมงผ่านไปหลายนาที
จนได้ยินเสียงกู่เจิงลอยมาไกลๆจบไปหนึ่งบทเพลง
ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ได้นัดกับองค์หญิงลำดับที่สามแล้ว
หนิงหลงแต่งกายตัวเองเสียใหม่ให้ดูเป็นทางการขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะออกไปพร้อมกับจิ้นอัน
หนิงหลงออกมาที่สวนดอกไม้ของตำหนักตน
เธอจำได้ว่าเมื่อวันก่อนเธอออกมาเดินกับซูฮวา ดอกไม้ในเวลานี้กำลังบานได้ที่
พอคิดว่ามันจะต้องเหี่ยวไปทั้งๆที่ยังอยู่บนต้นแบบนี้หนิงหลงก็เสียดายไม่น้อย
แต่จะเด็กเอามาตกแต่งห้องตัวเองหมดก็คงไม่ไหว
“จิ้นอัน
ข้ามีเรื่องอยากจะให้เจ้าจัดการเสียหน่อย”หนิงหลงเดินดูดอกไม้รอบๆสวนอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยบอกจิ้นอันที่อยู่ข้างกาย
“เพคะองค์หญิง”
“ข้าอยากจะให้เจ้าเอาดอกไม้ในสวนของข้าไปจัดใส่ช่อเล็กๆสี่ช่อ
แล้วส่งไปให้นายสนมของข้าจะได้ไหม?”
“....”
“ข้า...คิดว่าถ้ามันต้องเหี่ยวไปแบบนี้
คงน่าเสียดาย”
หนิงหลงหลบสายตาที่แอบยิ้มกรุ้มกริ่มของจิ้นอันไปอีกทาง
เจตนาของหนิงหลงนั้นใสสะอาดก็จริง
แต่การที่เธอส่งช่อดอกไม้ให้เหล่าสนมเช่นนี้จะต้องมีคนเอาเรื่องไปซุบซิบกันเป็นแน่
แต่บางทีนี้อาจจะเป็นการดีก็เป็นได้!
หนิงหลงมีชื่อเสียงที่ไม่ดีว่าไม่ค่อยใส่ใจนายสนมของตนอยู่บ่อยๆ
หากคนนอกได้รู้ล่ะก็พวกเขาอาจจะเปลี่ยนความคิดที่มีต่อองค์หญิงแม่ชีคนนี้ก็เป็นได้
“รับทราบเพคะองค์หญิง
ข้าจะสั่งการในทันที”จิ้นอันเดินถอยออกไปแล้วเรียกนายกำนัลแถวนั้นมาคุยด้วย
เธอสั่งให้คนมาตัดดอกไม้ที่นี่แล้วนำไปจัดใส่ช่อให้สวยงาม
หนิงหลงมองเหม่อออกไปที่นอกตำหนัก
ช่วงนี้เธอมีเรื่องมากมายให้ต้องคิด จนไม่ได้มีเวลามานั่งคิดเรื่องของตัวเองเลย
ทั้งเรื่องเหตุการณ์วางยาพิษ ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะค่อยๆเงียบลงเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น
ผู้ร้ายก็คงคงลอยนวลแบบนี้ไป
แม้จะพยายามกันสักเท่าไหร่ก็เหมือนเป็นเพียงการงมเข็มในมหาสมุทร
รู้ว่ามีแต่ก็หาไม่พบ...
“องค์หญิงเพคะ
ข้าได้สั่งการนายกำนัลแล้ว วันนี้พวกเขาจะมาตัดดอกไม้ไปให้นายสนมของท่าน องค์หญิง?
องค์หญิงเพคะ?”
“อะ...อื้ม! ขอบใจเจ้ามาก เรารีบไปกันเถอะ
ประเดี๋ยวน้องสามจะรอนาน”
“เพคะองค์หญิง”
หนิงหลงเผลอคิดอะไรๆในหัวจนไม่ได้ยินเสียงของจิ้นอันที่เรียกเธอในตอนแรก
หนิงหลงยิ้มบางๆไปหาจิ้นอันก่อนจะเริ่มก้าวเดินออกจากตำหนักเพื่อไปสู่ตำหนักพยัตขาว
ระหว่างทางหนิงหลงก็ทักทายขุนนางน้อยใหญ่ไปตลอดทาง
จนหนิงหลงได้มาหยุดตรงหน้าตำหนักของน้องสาว
เธอถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปด้วยความวิตกลึกๆ
ที่นั่นมีนายกำนัลออกมาต้อนรับและนำทางหนิงหลงไปยังที่ๆองค์หญิงหลิ่งเฟินรออยู่
หนิงหลงพร้อมด้วยจิ้นอันเดินตามไป
องค์หญิงหลิ่งเฟินกำลังนั่งรออยู่ที่ศาลาพักผ่อนข้างตำหนัก
ที่นั่นมีชายผู้งดงามสองคนกำลังคอยปรนนิบัติเธอไม่ห่าง
องค์หญิงหลิ่งเฟินมีใบหน้าที่ไม่ต่างจากองค์หญิงลำดับที่สี่เท่าไหร่นัก แต่บรรยากาศรอบตัวกลับดูแตกต่างกันยิ่ง
บรรยากาศรอบตัวขององค์หญิงหลิ่งเฟินทำให้รู้สึกยากจะเข้าใกล้
ทั้งๆที่เป็นฝาแผดกับองค์หญิงลำดับที่สี่แท้ๆ...
“...ท่านพี่หนิงหลง
เป็นเกียติยิ่งนักที่ท่านพี่ได้ตอบรับคำเชิญของข้า”องค์หญิงหลิ่งเฟินลุกขึ้นแล้วโค้งตัวทำความเคารพเมื่อได้เดินหนิงหลงกำลังเดินเข้ามาในศาลาแห่งนี้
“อย่ามากพิธีไปเลย
วันนี้เรามาดื่มชากันตามประสาพี่น้อง ทำตัวตามสบายเถอะ”
หนิงหลงก้มหัวเพียงเล็กน้อยแล้วยิ้มให้กับน้องสาม
สายตาของเธอเหลืองไปมองนายสนมทั้งสองที่ใบหน้าเหมือนกันราวกับลอกลายกันมาของน้องสาวตน
พวกเขามีความงามดั่งชายที่เย้ายวน
พอพวกเขาเห็นว่าหนิงหลงได้มาถึงแล้วก็โค้งตัวให้กับเธอช้าๆ
ก่อนจะค่อยๆเดินออกไปอย่างเงียบๆ
“...มีอะไรหรือน้องสาม
เจ้าคงมิได้เรียกข้ามาดื่มชาเฉยๆหรอกใช่ไหม?”หนิงหลงไม่รอรีรีบถามประเด็นสำคัญออกไป
“..สมกับเป็นท่านพี่หนิงหลง
ใช่แล้ว ข้ามีเรื่องที่อยากจะชี้แจงท่าน”
“ชี้แจง?”
หนิงหลงเอียงคอเล็กน้อยก่อนจะหันไปทางจิ้นอัน
แล้วหันกลับมาทางหลิ่งเฟิน ท่าทางของน้องสาวเธอเปลี่ยนไป
สีหน้าขององค์หญิงหลิ่งเฟินดูเศร้าลงไปเล็ดน้อย
เธอถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะตัดสินใจพูด
“...เมื่อไม่นานมานี้
ข้าออกไปที่ด้านนอก เพื่อไปยังหอนายโลม
ข้าคิดว่าท่านก็คงรู้แล้วใช่ไหมท่านพี่หนิงหลง?”
“....เรื่องนั้น”
หลิ่งเฟินพูดออกมาได้อย่างไม่มีความลังเล
ทั้งๆที่เธอไม่ได้เห็นหนิงหลงเลยแท้ๆ เพราะอะไรกัน...หนิงหลงเริ่มรู้สึกระแวงขึ้นมาเพราะเกรงว่า...
เธออาจจะรู้อะไรมากกว่าที่เธอคิด
“..ข้าเห็นท่านจิ้นอันเดินออกมาจากรถม้าแถวๆนั้น
ข้าคิดว่า...ท่านคงจะได้รู้เรื่องนี้จากท่านจิ้นอันแล้ว”
“...ชะ...ใช่
ข้ารู้แล้ว”
เป็นเช่นนี้นี่เอง...
หนิงหลงแอบถอนหายใจออกมาในใจ
ที่แท้ก็เพราะเช่นนี้
อย่างน้อยองค์หญิงหลิ่งเฟินก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เธอออกไปที่หอนายโลม
องค์หญิงหลิ่งเฟินไม่ปล่อยให้ขาดช่วงเธอรีบพูดต่อในทันที
“...ข้าออกไปโดนพละกาลก็จริง
แต่ข้าอยากให้ท่านพี่เข้าใจ ข้าไปเพราะข้ามีเหตุผล”
“...เหตุผล?”
“ใช่แล้ว
ท่านพี่ ข้าไปที่นั่นเพื่อ...ไปเยี่ยมอดีตพี่เลี้ยงของข้าเป็นครั้งสุดท้าย”
เมื่อพูดมาถึงตอนนี้สีหน้าขององค์หญิงหลิ่งเฟินก็เศร้าลงในทันที
ครั้งสุดท้ายที่เธอกล่าวถึงมันคืออะไร? หนิงหลงได้แต่ขมวดคิ้วแล้วจ้องไปที่น้องสามไม่กระพริบตา
“...พี่เลี้ยงคนนี้เลี้ยงข้ามาตั้งแต่เด็ก
แต่ว่าเมื่อสองปีก่อนเขาได้ถูกไล่ออกจากวังหลวงเพราะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยในการขโมยของในตำหนัก
ข้าจึงต้องให้เขาออกไปก่อนที่เรื่องจะปานปลาย ข้ารู้ว่าเขาไม่ใช่คนเช่นนั้น
แต่หากจะให้ปลอดภัยก็มีเพียงวิธีนี้...”
“...”
“แต่ข้าไม่คิดเลยว่าเขาจะหมดทางเลือกจนไปเข้าเป็นนายโลมที่หอนายโลมเช่นนั้น
ข้าได้รับข่าวว่าเขากำลังจะตายเพราะเพราะพิษจากถุงคุมกำเนิดต่ำๆ ข้าจึง...แวะไปหาเขาครั้งสุดท้าย
ท่านพี่หนิงหลง ข้าจะไม่ขอความสงสารจากท่าน
แต่ข้าขอให้ท่านเก็บเรื่องนี้เป็นความลับจะได้รึไม่?”
สายตาของหลิ่งเฟินตั้งมั่นและไม่ละสายตาออกไปทางไหน
น้ำเสียงของเธอก็ดูจริงใจหนักแน่นนัก
ความจริงหนิงหลงเองก็ไม่มีความคิดที่จะบอกเรื่องนี้กับใครอยู่แล้ว พอได้ยินแบบนี้เธอก็ได้แต่ที่มุมปากเล็กๆแล้วส่ายหัวเบาๆ
“น้องสาม
วางใจเถอะ ถึงเจ้าจะไม่ต้องชี้แจง ข้าก็ไม่มีความคิดเอาเรื่องนี้ไปบอกใครอยู่แล้ว”
“...ท่านพี่
ขอบพระคุณเพคะ ท่านพี่”
“ไม่ต้องหรอก
ไม่ต้อง อย่าได้เอ่ยขอบคุณเช่นนั้นเลย...”
หนิงหลงแอบยิ้มอยู่เล็กน้อยก่อนจะพูดคุยกับน้องสาวของตนเองเรื่องสองเรื่องเกี่ยวกับข้อมูลของถุงคุมกำเนิดระดับต่ำที่หลิ่งเฟินพูดถึง
เรื่องนี้หนิงหลงก็ได้ยินมาจากหอนายโลมเช่นกัน
ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้รับการควบคุมจนมีระดับต่ำกว่ามาตรฐาน
และมันกำลังระบาดอย่างรวดเร็วที่หอนายโลม มีคนที่เจ็บป่วยล้มตายเพราะมันไปมากมาย
เป็นที่น่าเศร้าที่ปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไขมานานกว่าครึ่งปี
ไม่มีหน่วยงานไหนยื่นมือเข้าไปจัดการเพราะไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตสำหรับพวกเขา
ในโลกแห่งนี้หากไม่ได้เกี่ยวข้องกับชีวิตของสตรี
บุรุษนั้นเพียงเพศที่อยู่ใต้การปกครอง เทียบชีวิตไม่ได้กับสตรี
หนิงหลงพอได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกหดหู่ใจนัก
ที่นี่เลวร้ายกว่าที่ๆเธอจากมานัก
แม้ชีวิตก็ควรจะเป็นสิ่งที่เท่าเทียมกันไม่ว่าชายหญิง...
เธอเดินออกมาจากตำหนักขององค์หญิงหลิ่งเฟินแล้วคิดบางเรื่องอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้ว
“...จิ้นอัน
ข้าจะเขียนฏีกาถึงท่านแม่ ช่วยไปเตรียมกระดาษผ้าไหมมาให้ข่าหน่อยจะได้ไหม?”
“เพคะ...แต่ท่านจะเขียนอะไรส่งให้จักรพรรดินีหรือเพคะ?”
เมื่อจิ้นอันไถ่ถาม
หนิงหลงก็เงียบลงไปครู่หนึ่ง...
“...ข้าต้องการขอยื่นร่างกฎหมายใหม่”
=============================================================================
อาาาา หายไปหายเลยทีเดียว
ช่วงนี้เรากำลังวุ่นๆกับงานอยู่ แต่จะพยายามกลับมาบ่อยๆนะคะ
ความคิดเห็น