คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ลองอ่านเรื่องราว บทที่1เริ่ม....
เอเฟียเรียส ภาค โรงเรียนเวทนาเทียน่า
ณ พระราชวังในลีเซีย ประเทศใหญ่หนึ่งในห้าของเอเฟียเรียส เมืองที่มีอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี ต้นพืชต่างๆล้วนมีสีทองบ้างส้มบ้างดั่งสีของดวงอาทิตย์ ทำให้เมืองนี้ยิ่งดูงดงาม จนได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองแห่งแสงสว่าง
แสงสีทองของเช้าวันใหม่สาดส่องเข้ามาในห้องนอนห้องหนึ่งของพระราชวัง แสงแดดส่องกระทบกับใบหน้าของเด็กหนุ่มผมทองผู้นอนหลับใหลอยู่ ใบหน้านั้นงดงามตามแบบฉบับของชายหนุ่มผู้ดี
ในตอนนั้นเอง ประตูห้องนอนก็เปิดออก พร้อมๆกับร่างของเด็กหนุ่มที่มีใบหน้าและอายุไม่ต่างกับเด็กหนุ่มผู้นอนหลับอยู่
ร่างของเด็กหนุ่มผู้มาใหม่เดินตรงไปยังเตียงที่เด็กหนุ่มอีกคนหลับใหลอยู่ ก่อนที่จะตะโกนเสียงดังเพื่อปลุกเด็กหนุ่มอีกคนให้ตื่นจากนิทรา
“เฮ้ย! ลูซัสตื่นได้แล้ว นายจะนอนกินบ้านกินเมืองไปอีกนานไหมเนี่ย” เด็กหนุ่มพูดพลางเขย่าตัวเด็กหนุ่มที่ตนเองเรียกว่าลูซัส
“อื่มๆ ขออีก10นาทีนะเคย์ซัสนะ” ลูซัสพูดอย่างงัวเงีย
“นี่ นายลืมไปแล้วใช่ไหม วันนี้พวกเราสองคนต้องออกเดินทางกันแล้วนะ เฮ้ยตื่นสิ” เด็กหนุ่มนามเคย์ซัสพูดพลางดึงผ้าห่มสีครีมออกจาร่างของลูซัส ก่อนที่เด็กชายจะเริ่มรู้หน้าที่ เด้งตัวขึ้นจากตียงอย่างรวกเร็วด้วยสีหน้าตกใจเมื่อรู้ว่าตัวเองได้ลืมวันสำคัญไป
“ซวย”
10 นาทีผ่านไป
ร่างของเด็กหนุ่มนามลูซัส อาเซียน่า เจ้าชายรัชทายาทแห่งลีเซีย ก็อยู่ในชุดเดินทางเตรียมพร้อม แต่ทว่าก่อนที่เท้าของเขาจะก้าวขึ้นเกวียนสุรเสียงของเสด็จพ่อสุดที่รักก็ดังขึ้น
“ลูชัส ลูกลืมอะไรไปรึเปล่า” คนถูกเรียกหันหน้าไปตามเสียงที่ได้ยิน กำไลข้อมือสีทองสว่างวงเล็กไม่มากนักอยู่ในพระหัตถ์ของผู้เป็นกษัตริย์
“ใช่ ลูซัส นายลืมไปรึเปล่าว่านายเองไม่ได้ไปในนามของลูซัส อาเซียน่า เจ้าชายแห่งลีเซียเสียหน่อย”เคย์ซัสน้องชายฝาแฝดของเขาที่เหมือนกับเขาแทบทุกประการ ยกเว้นแต่ดวงตาสีทองโชคดีที่มันตาสีม่วงไม่งั้นคงงงกันแย่ และอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ทุกๆคนแยกพวกเขาออก คือนิสัยที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คนตรงหน้าถนัดนักเรื่องกวนประสาตคนอื่นแล้วตอนนี้มันก็กำลังกวนประสาตเขาอยู่ ใช่แล้วเขาไม่ได้ไปในฐานะเจ้าชายแห่งลีเซียแต่ทว่ากลับเป็น......
ย้อนไปเมื่อ 2 เดือนก่อน
นาเทียน่าโรงเรียนชั้นเยี่ยมแห่งเอเฟียเรียส ผู้ที่จะเข้าเรียนในโรงเรียนนี้ได้นั้นต้องมีอายุ 17 ปี และที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ว่าใครจะเข้าก็เข้าได้ คนที่จะเรียนที่นี้ได้นั้นต้องได้รับบัตรเชิญจากทางโรงเรียนโดยตรง ทุกคนที่จบจากที่นี้ล้วนมีหน้าตาและชื่อเสียงในสังคมรวมถึงตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีอีกด้วย เพราะฉะนั้นในทุกๆปี พ่อแม่ผู้ปกครองที่มีลูกหลานอายุครบ 17 ปี จึงได้รอคอยจดหมายเชิญอันทรงเกียติจากโรงเรียนกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่ที่ลีเซียเจ้าชายฝาแฝดทั้งสองพระองค์ที่ปีนี้จะมีอายุครง 17 ปีพอดี
ขณะที่พวกเขา เจ้าชายฝาแฝดแห่งลีเซียกำลังฝึกดาบกันอยู่นั้น อยู่ดีๆก็มีจดหมายเวทมนตร์ลอยมาตรงหน้าของทั้งสอง เคย์ซัสคว้าจดหมายทั้งสองไว้ในมือก่อนก้มลงอ่านหน้าซอง
“นี่มัน จดหมายของทางนาเทียน่านิ ลูซัส” เคย์ซัสว่าพร้อมกับเริ่มแกะจดหมายที่จ่าหน้าซองถึงตัวเองออกพร้อมยื่นจดหมายอีกฉบับให้เขา
โรงเรียนเวทนาเทียน่า
ถึง เจ้าชายลูชัส อาเซียน่าแห่งลีเซีย
“เขาไม่รอช้า รีบแกะซองจดหมายออกทันที แน่ล่ะเด็กทุกคนในเอเฟียเรียสอยากเข้าเรียนที่นี้กันทั้งนั้น แต่ทว่ายังไม่ทันที่จะก้มลงอ่านเนื้อความในจดหมาย เจ้าเคย์ซัสตัวดีก็ฉกจดหมายเอาไปดื้อๆซะงั้น
ไม่พอเมื่ออ่านจดหมายของเขาแล้ว เจ้าตัวยังหัวเราคิกคัดชอบใจก่อนที่จะเดินไปหาเสด็จพ่อที่เดินตามมาพอดี และแน่นอนทั้งคู่หัวเราะพร้อมกัน ก่อนที่เขาจะสงสัยและเดินตามไปเอาจดหมายคืน แต่เมื่อเขาเห็นข้อความในจดหมายเท่านั้นเขารู้ทันทีถึงสาเหตุที่ทั้งคู่หัวเราะ แต่เขาสิไม่ขำด้วย
โรงเรียนเวทนาเทียน่า
เรียน เจ้าชายลูซัส อาเซียน่า แห่งลีเซีย
ทางโรงเรียนเวท์นาเทียน่าขอแสดงความยินดีที่ท่านมีคุณสมบัติผ่านการคัดเลือกเป็นนักเรียนของเราโรงเรียนเวทนาเทียน่าโรงเรียนที่ดีที่สุดในเอเฟียเรียส แต่ด้วยเหตุผลบางประการที่ทางเราไม่ประสงค์ที่จะแจ้งให้ทราบ ทางเราของให้ท่านมาในนาม ลูเชียน่า เมโลน่า สุภาพสตีผู้แสนน่ารักจากลูเซียแทน
ด้วยเหตุนี้ในอีก 2 เดือนข้างหน้าในวันเปิดเรียนของโรงเรียนขอให้ท่านไปรายงานตัวในนามของ ลูซียน่า เมโลน่า แห่งลีเซีย ด้วย หวังว่าจะเจอท่านมายื่นใบเรียนเชิญที่มอบมาด้วยนี้ที่หน้าโรงเรียน
ขอบคุณ
กิลเบิร์ด เอ ดีม่อน
กิลเบิร์ด เอ ดีม่อน
อาจารย์ใหญ่โรงเรียนนาเทียน่า
นั่นล่ะเหตุผลที่ต้องไปในนามของ ลูเซียน่า เมโลน่า แห่งลีเซีย แทนที่จะเป็น ลูซัส อาเซียน่าเจ้าชายแห่งลีเซีย
“ลูกรู้ไหมกำไลวงเนี่ยเป็นของมีค่ามากๆของลีเซียเลยนะ” ผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเสด็จพ่อกำลังอธิบายสรรพคุณของกำไลในมืออย่างออกรส โดยไม่สนใจว่าจะมีใครฟังบ้างไหม
“เอ๊า ไปได้แล้วจ๊ะลูกรัก เสื้อผ้าแม่เตรียมเอาไว้ให้เองเลยนะ รักษาตัวด้วย” หญิงสาวร่างบางผมสีทองอร่ามกับดวงตาสีน้ำตาลใส ผู้มีศักดิ์เป็นราชินีแห่งลีเซีย ตรัสกับลูกๆทั้งสองคน พร้อมส่งกำไลในมือของสวามียื่นให้กับลูซัส
เกวียนค่อยๆเคลื่อนออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆ จนภาพหอคอยปราสาทเลือนหายไป เกวียนเดินทางไปอย่างช้าๆ จนเข้าสู่เขตแดนของเมืองนาเทียน่าที่คึกคักคงเป็นเพราะในวันพรุ่งนี้ โรงเรียนเวทนาเทียน่าจะเปิดไม่สิถ้าพูดให้ถูกต้องเป็นวันรายงานตัวของเหล่านักเรียนโรงเรียนเวทนาเทียน่าจะถูกต้องกว่า
ยอดปราสาทสีน้ำเงินตั้งตระหง่านกลางหมู่บ้านเรือนที่รอมรอบ บทกำแพงหินสีเทามีธงลายวิจิตรสี ทอง,ขาว,ดำ,แดง,ฟ้าและเงินปักอยู่รายรอบกำแพง ธงมากมายโบกสะบัดตามแรงลมยิ่งทำให้ที่นี้ดูน่าเกรงขามยิ่งขึ้น ซึ่งที่แห่งนี้จะเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจากโรงเรียนเวทนาเทียน่าโรงเรียนชั้นเยี่ยมแห่งเอเฟียเรียส
“ลูซัสๆ เฮ้ยตื่นสิ เฮ้ยลูซัส” เคย์ซัสเขย่าตัวของฝาแฝดเบาๆจนแรงขึ้นตามลำดับแต่จนแล้วจนรอกดูเหมือนคนที่หลับอยู่จะไม่มีวี่แววตื่นขึ้นมาเสียที
‘ทำไมหมอนี่มันตื่นยากนักนะ หึหึสงสัยคงต้องแกล้งซักหน่อย’ เท่าความคิดเคย์ซัสหยิบกำไลที่อยู่ในห่อผ้าออกมา ดวงตาสีม่วงเป็นประกายวิบวับ
‘หึหึ ยังไม่เคยเห็นตอนมันเป็นผู้หญิงซักที ทีตอนที่ได้มาจากเสด็จพ่อครั้งแรกมันก็ไม่ให้เราดูมัน คราวนี้ล่ะ’
กำไลงานมถูกสวมไปตรงข้อมือของคนนอนหลับ โดยที่คนนอนหลับไม่รู้สึกตัววักนิด ทำใดนั้นร่างของคนที่นอนอยู่ก็ค่อยๆเล็กลง ผมที่ยาวระต้นคอยาวขึ้นจนถึงหลัง ร่างกายที่เรียบตรงเริ่มมีส่วนเว้าโค้งตามที่ผู้หญิงทั่วไปมี ใบหน้าเริ่มเรียวสวยขนตาแพยาว ปากบางกลายเป็นปากเล็กอวบอิ่ม
เคย์ซัสมองร่างบางที่นอนหลับอยู่อย่างตกตะลึงซึ่งพูดได้คำเดียวว่า สวย ในขณะที่เคย์ซัสกำลังตกตะลึงในความ งาม ของพี่ชายฝาแฝดอยู่นั้น ร่างบางในเสื้อตัวหลวมโคร่งพลิกตัวไปมาก่อนจะลืมตาขึ้นเหมื่อนคนเพิ่งตื่นนอน
“หาว ถึงไหนแล้ว” ลูซัส อาเซียน่า ในร่างของเด็กสาวผมทองพูดขึ้นอย่างงัวเงีย
“ถึงเขตตรงเรียนเวทนาเทียน่าแล้ว แต่ว่าวันนี้เราคงต้องหาที่พักแถวนี้ก่อน แล้วพรุ่งนี้ไปรายงานตัวกัน” เคย์ซัสว่าพร้อมชี้มือไปยังยอดปราสาทที่อยู่ไกลออกไป “แล้วก็คืนนี้เราจะพักกันที่นี้” นิ้วมือของเคย์ซัสชี้ไปยังโรงแรมขนาดย่อม ซึ่งตกแต่งอย่างดี
ลูซัสในร่างของเด็กสาวยืนขึ้นและเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าของตัวเองแต่แล้วความรู้สึกบางอย่างบอกว่าในตอนนี้มีบางอย่างแปลกออกไป ไม่ว่าจะเป็นเส้นผมที่ยาวขึ้นนิ้วหนาๆที่เรียวขึ้น แพขนตาที่ยามจนรู้สึกได้ เท่านั้นมือเรียวก็เริ่มลดมือมาจับบริเวณหน้าอกของตัวเอง แล้วดวงตาสีทองก็เบิกกว้าง และยิ่งกว้างมากขึ้นเมื่อก้มลงไปมองสิ่งที่ตัวเองกำลังจับต้องอยู่
‘ใช่แล้วร่างกายแบบนี้ ผมแบบนี้ ใช่!เขากลายเป็นผู้หญิงไปแล้ว’
ลูซัสเงยหน้าขึ้นและหันไปมองเจ้าน้องชายตัวดีที่กำลังยิ้มหน้าบานอยู่ข้างๆ อย่างมีความสุขเมื่อเห็นกริยาของพี่ชายฝาแฝด
“เฮ้ย! นายใช่ไหมเคย์ซัสที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้”
“เปล่านิ กำไลต่างหาก ฉันไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย” เคย์ซัสว่า
ลูซัสก้มลงมองกำไลสีทองในข้อมือของตัวเอง เขาพยายามดึงมันออกมา แต่ทำยังไงมันก็ไม่ยอมหลุดออกมาเสียนี่
ฝ่ายเคย์ซัสที่ยืนมองกริยาของลูซัสที่เริ่มหน้าเบื่อขึ้นเรื่อยๆบวกกับความเหนื่อยจากการนั่งขับเกวียนมาทั้งวัน ตอนนี้เขาเริ่มอยากพักเต็มแก่
“เอาน่า ยังไงตอนนายไปเรียนก็ต้องอยู่ในร่างนี้อยู่ดีนั่นล่ะ ตอนนี้ก็หัดทำตัวให้ชินซะจะเป็นอะไร” เคย์ซัสพูดกับพี่ชายฝาแฝด เมื่อไหร่เขาจะได้พักเสียทีนะ ลูซัสหันหน้ามามองเคย์ซัส ไม่ว่าจะทำอย่างไรกำไลเจ้ากรรมนี่ก็ไม่ยอมออกเสียทีแถมเหตุผลที่เคย์ซัสว่ามาก็มีน้ำหนักไม่เบา สงสัยต้องปล่อยไปเลยตามเลย ยังไงซะขาก็ต้องไปเรียนในนามสาวน้อย ลูเซียน่า อยู่แล้ว
“ไปเช่าห้องกันได้แล้ว มัวแต่ห่วงสวยอยู่ได้”
-ผึง- เส้นอารมณ์ของคนห่วงสวยขาดผึง
หากตอนนี้ใครอยู่แถวๆหน้าโรงแรมนาเซียล่ะก็ ก็คงจะเห็นเด็กสาวผมทองในชุดเด็กผู้ชายตัวหลวมโคร่งวิ่งไล่เด็กหนุ่มผมทองหน้าตาดีเข้าไปในโรงแรมด้วยอารมณ์โกรธสุดๆ .....
ความคิดเห็น