ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ความร่วมมือ
3 อาทิตย์ต่อมา
ตอนนี้เพื่อนๆป้อมอัศวิน มารวมตัวกันในห้องนั่งเล่นอย่างไม่ได้นัดหมาย ดูเหมือนจะมีบางอย่างที่ค้างคาใจอยู่ในตัวของแต่ละคน ในเมื่อทุกคนไม่พูดอะไร ครี้ดที่มีความอดทนต่ำที่สุดในห้องก็ตัดสินใจพูดขึ้น
“ เฮ้ย คิล เดี๋ยวนี้คาโลกับเฟรินเป็นอะไรของมันหวะ”
เมื่อครี้ดพูดจบ คำภามนี้ก็เรียกความสนใจจากเพื่อนๆป้อมอัศวิน เป็นอย่างมาก
“ไม่รู้เหมือนกันดิ”  คิลตอบอย่างสบายๆ
“อ้าว แล้วพวกนายเป็นเพื่อนกันภาษาอะไรเนี่ย เพื่อนเป็นอะไรยังไม่รู้”
“อ้าว เป็นเพื่อนก็ไม่ใช่จะรู้ทุกอย่างนิ นี่ถ้านายอยากรู้นะก็ไปถามพวกมันเองสิ”
“แต่ฉันว่านะ เดี๋ยวนี้มันดูแปลกๆยังไงก็ไม่รู้  ดูเฟรินเงียบผิดปกติ” กัสออกความเห็น
“ใช่ เฟรินกับคาโลเป็นอย่างนี้ เราไม่ค่อยสบายใจเลย”มาทิลด้าพูด
“อืม แต่คาโลฉันว่าไม่เป็นหรอกนะ นิสัยมันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ แต่เฟรินนะสิ มันเงียบแล้วทำให้พวกเราเหงาไปด้วย” ครี้ดพูดอย่างเป็นวิชาการครั้งแรก ทำให้เพื่อนๆรู้สึกผิดปกติ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“เฮ้ย !!!! พวกนายมีใครรู้ไหมว่าเฟริน กับคาโลมันเป็นอะไรกัน”ครี้ดถามพวกที่เหลือ
“อ้าว ก็เฟรินกับคาโลมันก็เป็นเพื่อนกัน เอ๊ะหรือว่าเป็นแฟนกันนะสิ นายไม่รู้รึไง”คิลตอบอย่างแกล้งๆ
“โธ่โว้ย!!! ฉันไม่ได้หมายความว่างั้น ฉันหมายถึงว่ามันเป็นอะไรกัน ไม่ใช่มันเป็นอะไร ถึงได้เงียบผิดปกติเท่านั้นเอง นายก็บ้านะคิล”ครี้ดตอบอย่างอารมณ์เสีย อุตส่าห์ห่วงเพื่อนทั้งที ดันโดนย้อนจนได้
“เอาละๆ พอซะทีเถอะ นายเองก็เลิกบ้าได้แล้วคิล” มาทิลด้าว่าเพื่อนๆอย่างเหนื่อยใจ
“ตกลงมีใครรู้ไหมว่าเฟรินกับคาโลมัน....เอ๊ย..ทำไมมันถึงเงียบเงียบผิดปกติ
“.............”
“เอ๊ะ หรือว่าเราจะถาม คุณคาโลกับคุณเฟรินดีครับ” ซีบิลถามอย่าง อินโนเซนต์
“จะบ้าเหรอซีบิล ถามแบบนี้ใครเขาจะบอกกัน ถ้าเป็นคนอื่นว่าไปอย่างแต่นี่มันเฟรินกับคาโลนะ ถ้ามันหลุดบอกก็แปลกแล้ว” กัสเอ่ยปากเป็นครั้งแรก
“งั้นเราจะทำยังไงกันดีละครับ ก็ในเมื่อไม่มีทางอื่นแล้วไม่ใช่เหรอ”ซีบิลถามอีกที
“..............”
ไม่มีคำตอบจากเพื่อนๆ สักพักก็มีเสียงหนึ่งเอ่ยแทรกขึ้นมา
“คือ...” เสียงเอ่ยจากเจ้าหญิงผู้อ่อนหวาน เรียบร้อยที่สุดในป้อม
“มีอะไรหรือเรนอน”มาทิลด้าถามด้วยความสงสัย
“คือ เรนอนรู้ค่ะ ว่าทำไมคุณเฟรินกับคุณคาโลถึงได้เงียบๆไป แต่เรนอนแค่เดานะคะ ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกับเรื่องที่เรนอนรู้มาหรือเปล่า”
“อืม ไม่เป็นไร เล่าๆมาเหอะ”มาทิลด้าพูดอย่างใจร้อน
“ค่ะ......คือ เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อตอนปิดเทอม ที่คุณคาโลขอกษัตริย์บาโรว่าจะหมั้นคุณเฟลิโอน่าค่ะ....แค่กษัตริย์บาโรไม่ยอม เพราะเห็นอะไรก็ไม่รู้คะ เรื่องเหตุผลก็คงต้องถามคุณคาโลค่ะ เรนอนก็รู้แค่นี้ค่ะ”
“อืม มิน่ามันถึงได้ซึมกันทั้งคู่ แต่คาโลมันไวจริงๆเลยหวะ ยังไม่ทันจบจะหมั้นแล้ว”ครี้ดพูดขึ้น
แต่แล้วเสียงต้องหยุดเมื่อมาทิลด้าเปรยสายตาเหี้ยมโหดมา
“แฮะๆ ฉันก็แค่พูดเล่นๆเท่านั้นเอง”ครี้ดแก้ตัว
“เอาละ เอาเป็นว่าเรามาช่วยหาวิธีทำให้ 2 คนนั้น ร่าเริงขึ้น และวิธีที่จะทำให้กษัตริย์บาโรยอมรับ  เฟรินดีกว่า ใครเห็นด้วยบ้าง”
สิ้นเสียงมือทั้งหมดของคนที่อยู่ในห้องก็ยกขึ้นมา
“เอาเป็นว่า ทุกคนเห็นด้วยนะ”
“อืม แต่ว่าผมมีคำถามครับ” คำพูดมาจากซีบิลเจ้าเดิม
“อะไรอีกละซีบิล !!!” มาทิลด้าพูดอย่างอดกลั้นความรู้สึกไม่อยู่ ทำให้เพื่อนๆรู้ว่า เธอรำคาญเป็นที่สุด
“คือ.....แล้ว..เราจะบอกให้..คุณคาโลกับคุณเฟรินรู้ยังไงดีละครับ”
“อืม ฉันว่านะ อย่างเฟรินกับคาโลบอกตรงๆไปเลยดีกว่า ถ้าพูดอ้อมๆกับคาโลยังพอไหวนะ แต่กับเฟรินนะสิพูดให้ตายชาติจะรู้ความหมายหรือเปล่าก็ไม่รู้”คิลออกความเห็น
“อืม ก็ได้ นายเป็นคนสนิทกับพวกนั้นที่สุดนี่ ตามใจนายละกัน”มาทิลด้าพูด
“งั้น ฉันว่า เราบอกพวกมันพรุ่งนี้เลยดีกว่า พวกมันจะได้สบายใจขึ้นเร็วๆ”แองจี้ พูดบ้างหลังจากเงียบมานาน
“โอเค งั้นฉันมีแผน”ครี้ดพูด ทำให้ทุกคนคิดว่าให้ครี้ดคิดแผนงานจะดีหรือจะล้มกันแน่คราวนี้ แต่พอเห็นท่าครี้ดทำท่าจริงจังก็อดชมในใจไม่ได้ ว่ามันเองก็รักเพื่อนเหมือนกัน
“เข้าใจหรือเปล่า” ครี้ดพูดขึ้นหลังจากบอกแผนให้ทุกคนรู้แล้ว ใครมีข้อสงสัยอะไรบ้าง
“...................”
“เอาเป็นว่าไม่มีนะ ตกลงแยกกันไปพักผ่อนได้แล้ว”ครี้ดพูดอย่างเป็ทางการแต่ก็ถูกขัดด้วยเสียงๆหนึ่ง
“เฮ้ยครี้ด นายไม่ได้เป็นหัวหน้าซะหน่อย มาสั่งแทนฉันได้ไง” มาทิลด้าถามอย่างเอาเรื่อง....... ก็ในเมื่อคนที่ไม่เคบยทำตัวเป็นผู้นำกลับทำได้ดีในคราวนี้ และมาแย่งหน้าที่ของเขาเฉย โดยไม่ได้บอกกันสักนิด
“เฮ้ย มาทิลด้า ขอโทษที คือ...มีนอินไปหน่อยนะ เลยลืมตัว  แฮะๆ ”  ครี้ดแก้ตัวน้ำขุ่นๆ แต่มาทิลด้าไม่อยากหาเรื่องด้วย เลยช่างมันไปก่อน ( ก็สงสารนิคะในเรื่องครี้ดซวยมาตั้งหลายครั้งแล้วนิ)
สรุปทุกคนก็แยกย้ายกันไปนอน แล้วคิลก็คิดขึ้นว่า ใครจะไปมีคำถามได้ยังไง ก็ในเมื่อคนที่เป็นตัวแสดงมีอยู่ 3-4 คน ที่เหลือก็นั่งอยู่ในห้องเฉยๆ อย่างนี้ใครไม่เข้าใจก็โง่ตายแล้ว.....
******************************************************
ถือโอกาสอัพ 2 ตอนเลยละกัน ไม่แน่อาจจะไม่ได้อัพนาน โทษทีนะถ้ามันไม่นุกอะ
ตอนนี้เพื่อนๆป้อมอัศวิน มารวมตัวกันในห้องนั่งเล่นอย่างไม่ได้นัดหมาย ดูเหมือนจะมีบางอย่างที่ค้างคาใจอยู่ในตัวของแต่ละคน ในเมื่อทุกคนไม่พูดอะไร ครี้ดที่มีความอดทนต่ำที่สุดในห้องก็ตัดสินใจพูดขึ้น
“ เฮ้ย คิล เดี๋ยวนี้คาโลกับเฟรินเป็นอะไรของมันหวะ”
เมื่อครี้ดพูดจบ คำภามนี้ก็เรียกความสนใจจากเพื่อนๆป้อมอัศวิน เป็นอย่างมาก
“ไม่รู้เหมือนกันดิ”  คิลตอบอย่างสบายๆ
“อ้าว แล้วพวกนายเป็นเพื่อนกันภาษาอะไรเนี่ย เพื่อนเป็นอะไรยังไม่รู้”
“อ้าว เป็นเพื่อนก็ไม่ใช่จะรู้ทุกอย่างนิ นี่ถ้านายอยากรู้นะก็ไปถามพวกมันเองสิ”
“แต่ฉันว่านะ เดี๋ยวนี้มันดูแปลกๆยังไงก็ไม่รู้  ดูเฟรินเงียบผิดปกติ” กัสออกความเห็น
“ใช่ เฟรินกับคาโลเป็นอย่างนี้ เราไม่ค่อยสบายใจเลย”มาทิลด้าพูด
“อืม แต่คาโลฉันว่าไม่เป็นหรอกนะ นิสัยมันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ แต่เฟรินนะสิ มันเงียบแล้วทำให้พวกเราเหงาไปด้วย” ครี้ดพูดอย่างเป็นวิชาการครั้งแรก ทำให้เพื่อนๆรู้สึกผิดปกติ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“เฮ้ย !!!! พวกนายมีใครรู้ไหมว่าเฟริน กับคาโลมันเป็นอะไรกัน”ครี้ดถามพวกที่เหลือ
“อ้าว ก็เฟรินกับคาโลมันก็เป็นเพื่อนกัน เอ๊ะหรือว่าเป็นแฟนกันนะสิ นายไม่รู้รึไง”คิลตอบอย่างแกล้งๆ
“โธ่โว้ย!!! ฉันไม่ได้หมายความว่างั้น ฉันหมายถึงว่ามันเป็นอะไรกัน ไม่ใช่มันเป็นอะไร ถึงได้เงียบผิดปกติเท่านั้นเอง นายก็บ้านะคิล”ครี้ดตอบอย่างอารมณ์เสีย อุตส่าห์ห่วงเพื่อนทั้งที ดันโดนย้อนจนได้
“เอาละๆ พอซะทีเถอะ นายเองก็เลิกบ้าได้แล้วคิล” มาทิลด้าว่าเพื่อนๆอย่างเหนื่อยใจ
“ตกลงมีใครรู้ไหมว่าเฟรินกับคาโลมัน....เอ๊ย..ทำไมมันถึงเงียบเงียบผิดปกติ
“.............”
“เอ๊ะ หรือว่าเราจะถาม คุณคาโลกับคุณเฟรินดีครับ” ซีบิลถามอย่าง อินโนเซนต์
“จะบ้าเหรอซีบิล ถามแบบนี้ใครเขาจะบอกกัน ถ้าเป็นคนอื่นว่าไปอย่างแต่นี่มันเฟรินกับคาโลนะ ถ้ามันหลุดบอกก็แปลกแล้ว” กัสเอ่ยปากเป็นครั้งแรก
“งั้นเราจะทำยังไงกันดีละครับ ก็ในเมื่อไม่มีทางอื่นแล้วไม่ใช่เหรอ”ซีบิลถามอีกที
“..............”
ไม่มีคำตอบจากเพื่อนๆ สักพักก็มีเสียงหนึ่งเอ่ยแทรกขึ้นมา
“คือ...” เสียงเอ่ยจากเจ้าหญิงผู้อ่อนหวาน เรียบร้อยที่สุดในป้อม
“มีอะไรหรือเรนอน”มาทิลด้าถามด้วยความสงสัย
“คือ เรนอนรู้ค่ะ ว่าทำไมคุณเฟรินกับคุณคาโลถึงได้เงียบๆไป แต่เรนอนแค่เดานะคะ ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกับเรื่องที่เรนอนรู้มาหรือเปล่า”
“อืม ไม่เป็นไร เล่าๆมาเหอะ”มาทิลด้าพูดอย่างใจร้อน
“ค่ะ......คือ เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อตอนปิดเทอม ที่คุณคาโลขอกษัตริย์บาโรว่าจะหมั้นคุณเฟลิโอน่าค่ะ....แค่กษัตริย์บาโรไม่ยอม เพราะเห็นอะไรก็ไม่รู้คะ เรื่องเหตุผลก็คงต้องถามคุณคาโลค่ะ เรนอนก็รู้แค่นี้ค่ะ”
“อืม มิน่ามันถึงได้ซึมกันทั้งคู่ แต่คาโลมันไวจริงๆเลยหวะ ยังไม่ทันจบจะหมั้นแล้ว”ครี้ดพูดขึ้น
แต่แล้วเสียงต้องหยุดเมื่อมาทิลด้าเปรยสายตาเหี้ยมโหดมา
“แฮะๆ ฉันก็แค่พูดเล่นๆเท่านั้นเอง”ครี้ดแก้ตัว
“เอาละ เอาเป็นว่าเรามาช่วยหาวิธีทำให้ 2 คนนั้น ร่าเริงขึ้น และวิธีที่จะทำให้กษัตริย์บาโรยอมรับ  เฟรินดีกว่า ใครเห็นด้วยบ้าง”
สิ้นเสียงมือทั้งหมดของคนที่อยู่ในห้องก็ยกขึ้นมา
“เอาเป็นว่า ทุกคนเห็นด้วยนะ”
“อืม แต่ว่าผมมีคำถามครับ” คำพูดมาจากซีบิลเจ้าเดิม
“อะไรอีกละซีบิล !!!” มาทิลด้าพูดอย่างอดกลั้นความรู้สึกไม่อยู่ ทำให้เพื่อนๆรู้ว่า เธอรำคาญเป็นที่สุด
“คือ.....แล้ว..เราจะบอกให้..คุณคาโลกับคุณเฟรินรู้ยังไงดีละครับ”
“อืม ฉันว่านะ อย่างเฟรินกับคาโลบอกตรงๆไปเลยดีกว่า ถ้าพูดอ้อมๆกับคาโลยังพอไหวนะ แต่กับเฟรินนะสิพูดให้ตายชาติจะรู้ความหมายหรือเปล่าก็ไม่รู้”คิลออกความเห็น
“อืม ก็ได้ นายเป็นคนสนิทกับพวกนั้นที่สุดนี่ ตามใจนายละกัน”มาทิลด้าพูด
“งั้น ฉันว่า เราบอกพวกมันพรุ่งนี้เลยดีกว่า พวกมันจะได้สบายใจขึ้นเร็วๆ”แองจี้ พูดบ้างหลังจากเงียบมานาน
“โอเค งั้นฉันมีแผน”ครี้ดพูด ทำให้ทุกคนคิดว่าให้ครี้ดคิดแผนงานจะดีหรือจะล้มกันแน่คราวนี้ แต่พอเห็นท่าครี้ดทำท่าจริงจังก็อดชมในใจไม่ได้ ว่ามันเองก็รักเพื่อนเหมือนกัน
“เข้าใจหรือเปล่า” ครี้ดพูดขึ้นหลังจากบอกแผนให้ทุกคนรู้แล้ว ใครมีข้อสงสัยอะไรบ้าง
“...................”
“เอาเป็นว่าไม่มีนะ ตกลงแยกกันไปพักผ่อนได้แล้ว”ครี้ดพูดอย่างเป็ทางการแต่ก็ถูกขัดด้วยเสียงๆหนึ่ง
“เฮ้ยครี้ด นายไม่ได้เป็นหัวหน้าซะหน่อย มาสั่งแทนฉันได้ไง” มาทิลด้าถามอย่างเอาเรื่อง....... ก็ในเมื่อคนที่ไม่เคบยทำตัวเป็นผู้นำกลับทำได้ดีในคราวนี้ และมาแย่งหน้าที่ของเขาเฉย โดยไม่ได้บอกกันสักนิด
“เฮ้ย มาทิลด้า ขอโทษที คือ...มีนอินไปหน่อยนะ เลยลืมตัว  แฮะๆ ”  ครี้ดแก้ตัวน้ำขุ่นๆ แต่มาทิลด้าไม่อยากหาเรื่องด้วย เลยช่างมันไปก่อน ( ก็สงสารนิคะในเรื่องครี้ดซวยมาตั้งหลายครั้งแล้วนิ)
สรุปทุกคนก็แยกย้ายกันไปนอน แล้วคิลก็คิดขึ้นว่า ใครจะไปมีคำถามได้ยังไง ก็ในเมื่อคนที่เป็นตัวแสดงมีอยู่ 3-4 คน ที่เหลือก็นั่งอยู่ในห้องเฉยๆ อย่างนี้ใครไม่เข้าใจก็โง่ตายแล้ว.....
******************************************************
ถือโอกาสอัพ 2 ตอนเลยละกัน ไม่แน่อาจจะไม่ได้อัพนาน โทษทีนะถ้ามันไม่นุกอะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น