คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #37 : ค่ำคืนแห่งการกลับมา(พิเศษ)
ชายผมสีเทามองไปนอกหน้าต่างจากคฤหาสน์นักแม่นปืน(Musketeer) ไปยังสวนคฤหาสน์ของจอมเวทย์ (Warlock,Wizard)หญิงสาวผมสีทองยาวยิกในชุดกระโปรงธรรมดาสีฟ้าขาว เดินร่าเริงอยู่ในสวน ไม่นานก็มีเด็กชาย(Ramio)วิ่งมาตามเธอแล้วบอกอะไรบ้างอย่างกับเธอ
หญิงสาวรีบวิ่งเข้าคฤหาสน์ไป ชายหนุ่มจึงตัดสินใจเดินออกจากคฤหาสน์ที่ตนอยู่แล้วไปยังคฤหาสน์จอมเวทย์
“ดีใจจัง ที่คุณเมกุมิกับคุณเหม่ยมาเยี่ยม”
“เราก็คิดถึงเธอเลยมาเยี่ยมเธอ (ตอนแรกกะจะมาคนเดียว แต่เหม่ยรู้ทันเลยตามมา)”
ชายหนุ่มเดินไปยืนข้างๆหญิงสาวผมยิก ตรงหน้าของเค้าคือหญิงสาวผมทองตรงในชุดสีน้ำตาลสวมหมวก อีกคนเป็นหญิงสาวผิวคล้ำผมขาวยาว
“สวัสดีค่ะ คุณคันมูริไม่ได้เจอกันนานเลยนะค่ะ”
“หวัดดี”
ชายหนุ่มมองหญิงสาวตรงแล้วโอบไหล่หญิงสาวข้างๆ ทั้ง 4 เดินออกจากห้องเดิม ไปข้างนอกคราวนี้มีชายหนุ่มฝาแฝดกับชายผมยาวสีน้ำตาลเดินมาพอดี
“เมกุมิ!”
ชายผมทองสั้นเห็นหญิงสาวผมขาว แค่ 0.1 วินาที ก็วิ่งเข้าไปกอดหญิงสาวทันที เพราะไม่ได้เจอกันตั้ง 7 วัน คันมูริใช้โอกาส ดึงแขนแอนออกจากกลุ่ม
“โอย! คุณคันมูริมีอะไรเหรอค่ะ.........”
“ออ..............ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงได้ดีใจที่ยัยพวกนั้นมาด้วย ตอนเธออยู่กับฉันเธอไม่เห็นจะดีใจขนาดนี้เลย”
“เอ๊ะ! หมายความว่าไง...................?”
หญิงสาวยืน งง ชายหนุ่มก็ใช้ความคิดที่จะพูดตอบ แล้วก็คิดคำตอบได้แค่ว่า..........
“เธออยู่ที่นี่ไม่มีความสุขก็อย่าฝืนอยู่สิ!”
เสียงของชายหนุ่มดังจนกลุ่มพูดคุยซึ่งอยู่ห่างพอสมควรได้ยืนอย่างชัดเจน หญิงสาวเดินถอยออกมาจากชายหนุ่ม
“ปากนาย............ไม่พูดอะไรออกไปจะดีกว่านะ”
เหม่ยหญิงโหด(ในความคิดของใครหลายคน) เอ๋ยปากพูดหลังจากที่ไม่ได้พูดอะไรเลย หญิงสาวยืนจับหมวก เมกุมิเดินไปหาแอนที่ยังทำหน้าอึ้งอยู่ คันมูริไม่รู้ว่าตนพูดอะไรออกไปเค้ามองหน้าโมโกมอนกับคาเสะคาเงะซึ่งคือเป็นคนทีมเดียวกัน กลุ่มหญิงสาวพาแอนเดินกลับเข้าคฤหาสน์ไป
แอนตัวสั่นเพราะกลัวในคำพูดที่หลุดออกจากปากของคันมูริ เมกุมินั่งมองหญิงสาวไม่นานเธอก็บอกเรื่องที่แอนทำใจไม่ได้เหมือนกัน
“แอนพวกเราอยู่ที่นี่ได้แค่ วันนี้เท่านั้น คืนนี้พวกเราก็ต้องกลับกันแล้ว”
“เอ๊ะ! ทำไมล่ะค่ะ คุณเมกุมิ”
“ก็เมกุมิมีเรื่องที่จะต้องทำอีกมาก พวกด้านมืดจะมาเมื่อไรก็ไม่รู้ เพื่อตอบโต้พวกมันอีก 5 วันพวกเราจะมีการประชุมฉันกับเมกุมิมาก็เพื่อจะบอกเธอแค่นี้แหละ”
เหม่ยหญิงสาวผู้เป็นมือซ้ายของเมกุมิพูด แอนรู้สึกว่าอยากให้เวลาวันนี้หมุนไปช้าเพราะเธอมีเรื่องมากมายที่อยากคุยกับเมกุมิ ไม่นานทั้งสามก็เดินออกจากคฤหาสน์แล้ววาร์ปไปยังท่าเรือ
“สวัสดีค่ะ โซโฮ วันนี้เอาของมาให้ตีหลายอย่างเลย”
“อ้าว!คุณแอนไม่เจอกันนานเลยนะครับ มีของอะไรบ้างครับ”
“ก็มีดาบ 2 โล่1 กำไลของฉัน 3 อัน ดาบมือเดียว 1 ชุดเกราะอีก 3 ช่วยหน่อยนะ”
“ได้คับ ได้”
หญิงสาวผมยิกยาวในชุดประจำ (ชุดเกราะแดง) เธอมองไปตรงท่าเรือซึ่งเมืองนี้เป็นเมืองที่เธอชอบเมืองหนึ่งเลยที่เดียว หญิงสาวยืนรอของและเพื่อนสาวของเธอ
“แอน! มานี่สิ”
“ค่ะคุณเหม่ย”
หญิงสาววิ่งไปอย่างช้าๆ สาวผมทองตรงหน้าเธอยื่นการ์ดใบหนึ่งให้แอน หญิงสาวตกใจเล็กน้อย เธอดูชื่อการ์ด
“นี่เป็นการ์ดทหารนี่ค่ะ คุณเหม่ย”
“ก็ ตามความจริงถ้า Ramio อยู่กับทหารจะช่วยได้มากเลย”
แอนพยักหน้าแล้วเก็บการ์ดไว้กับตัว เธอรับของจากโซโฮแล้วนำชุดเกราะและอาวุธไปให้เหม่ย หญิงสาวทั้งสามกลับไปยังคฤหาสน์ ตะวันตกดิน............. แอนนั่งคิดว่าเวลามันไปเร็วเหลือเกิน ชายผมยาวสีน้ำตาลเดินมาทางพวกเมกุมิซึ่งอยู่ตรงบ่อน้ำพุ
“อ้าว! คุณโมโกมอนมีอะไรค่ะ ไม่ได้อยู่กับคาเสะคาเงะตามปรกติเหรอค่ะ”
“คือผมมีปากเสียงกับเค้านิดหน่อยนะครับ...............”
เมกุมิมองอย่างลังเลใจ ว่าวันนี้มีแต่คนทะเลาะกัน หรือเป็นเพราะเธอถึงเป็นแบบนี้ พระจันทร์ส่องแสงบนฟากฟ้า หญิงสาวผิวคล้ำเดินไปนั่งข้างเพื่อนสาว
“แอนเธอน่ะ อย่าทำให้ฉันลำบากใจเรื่องเธอกับคันมูริ ได้ไหม”
“เอ๊ะ! คุณเมกุมิ”
“เธอต้องเข้าใจนะ การมาของฉันวันนี้ฉันไม่ต้องการให้มันเป็นเหตุผลในการทะเลาะของเธอกับคันมูริ ฉันว่าความรักอาจจะเริ่มต้นได้ไม่ดีแต่มันเป็นการสร้างความมั่นคง ตอนที่ฉันกับเซเมะกำลังจะเริ่มคบกัน ฉันก็เจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด”
เมกุมิ ย้อนกลับไปอดีตประมาณ 5 ปีก่อน หญิงสาวทั้ง 5 อยู่ในแดนที่มีแต่หิมะปกคลุม เลือดสีแดงสดไหลลงพื้นสีขาว บาดแผลบนไหล่ของหญิงสาวที่ป่นกับน้ำตา หญิงสาวที่โดนแทงคือเมกุมิ ผู้ที่แทงเธอเป็นชายผมน้ำตาล เซเมะ ชายที่เธอไว้ว่าใจ เค้าดึงมีดออกจากไหล่หญิงสาวอย่างไร้อารมณ์ ร่างหญิงสาวเอนตกหน้าผาไป ต่อหน้าเหม่ย
“เมกุมิได้ยินเสียงไหม”
“เสียง มันดังมาก เหมือนจะ อาละวาด ด้วยนะ”
เหม่ยยืนอิงแล้วมองไปทางกำแพง รอยร้าวของกำแพงเริ่มเห็นได้ชัดขึ้น จนมันแตกกระจายหลังกำแพงเป็นเงาของสิ่งประหลาดร่างใหญ่
ตึง!ตึง!ตึง!
เสียงเท้าของมันที่ก้าวเข้ามาเรื่อยๆ มาพร้อมกับการสั่นไหว เหม่ยเดินมาจากจุดเดิม เมกุมิหลับตาเหมือนทำสมาธิเพื่อครู่เดียว เธอลืมตาพร้อมกับดวงตาสีแดงเพลิงทั้งสองเดินออกจากจุดเดิม แอนกับโมโกมอนลุกขึ้นอึ้งกับร่างปีศาจที่เป็นหินและใหญ่จนน่ากลัว
“แอน กับ โมโกมอนจัดการเรื่องระยะไกลด้วยฉันกับเหม่ยจะดูแลระยะประชิดเอง”
“ค่ะ คุณเมคุมิ”
หญิงสาวผมขาวดวงตาสีแดงชักมีดทั้งสองตั้งท่ารับ เหม่ยค่อยๆดึงดาบคู่ของเธอขึ้น แอนสวมกำไลแห่งไฟ และโมโกมอนบรรจุกระสุน พร้อมยิง
ฟ้าว!!!!!!!!!
ฉัวะ!!!!!!!
หญิงสาวผมขาวเข้าวิ่งไปทางปีศาจอย่างรวดเร็วแล้วเข้าฟันพร้อม กระโดดหนีแขนที่เป็นหินอันทรงพลังของปีศาจหินตนนี้ เหม่ยวิ่งเข้าพร้อมฟันอย่างรวดเร็ว
ปัง!ปัง!ปัง!
โมโกมอนเล็งไปทางร่างปีศาจแล้วยิง เหมือนว่าจะไม่ค่อยมีผลแต่ก็ช่วยป้องกันเพื่อนที่อยู่ใกล้ตัวปีศาจทั้งสองได้ แอนสะบัดข้อมือเพลิง ที่ออกมาจากกำไลพุ่งไปหาปีศาจทำให้มันตกใจแต่ก็ไม่ได้ช่วยทำให้มันอ่อนแอลง เสียงปืนของโมโกมอนทำให้คนในคฤหาสน์ข้าง หันมามองว่าเกิดอะไรขึ้น
“กรรรรรรรรร!!!!!”
“อ๊ะ!!อาก!!!”
ปีศาจคำรามแล้วสะบัดแขนมันไปมาฟาดโดนร่างเมคุมิชนกับกำแพง เหม่ยเองก็พอหลบได้แต่ก็โดนแขนฟาดเข้าที่หน้าเอาจนมึนไป มันเดินมาทางโมโกมอนกับแอนและยกแขนทั้งสองทุบลงใส่ร่างของทั้งสอง(เฮ้ย!สองคนนี่ยิ่งเลือดน้อยอยู่ด้วยนะ) ไม่นานมันก็ยกแขนขึ้น ร่างของโมโกมอนทับร่างแอนเหมือนเค้าพยายามจะปกป้องหญิงสาว
“คุณโมโกมอน คุณโมโกมอนค่ะ แย่แล้ว”
แอนพยายามปลุกชายหนุ่มที่อยู่บนร่างเธอ ปีศาจก็แล้วกางแขนที่เป็นหินของมันเข้าเพื่อจะซัดร่างทั้งสอง แอนพยายามกอดร่างของชายหนุ่มไว้
ตูม!!!!
เสียงปืนใหญ่ที่อยู่บนมือของหญิงสาวผมดำสั้น ยิงใส่ขาของปีศาจเอาจนเกือบทรุด แอนเงยหน้ามองคนที่ช่วยเธอแต่หญิงสาวไม่ได้มาคนเดียวยังมี คันมูริ คาเสะคาเงะ เซเมะและอันโดมีด้า สตรีผู้เชี่ยวชาญการรบ เหม่ยพยายามพยุงร่างตัวเอง มองไปทางเมกุมิที่พึ่งจะฟื้น ปีศาจเริ่มยกแขนทั้งสองอีกครั้งเพื่อจะทุบร่างแอน
“สายฟ้า!!!!!!!!!”
แอนสะบัดข้อมือซัดเวทย์แห่งสายฟ้าใส่ร่างปีศาจเอาร่างมันกระเด็นล้มลง โมโกมอนค่อยลุกขึ้นมองร่างปีศาจ
“โมโกมอน!!! นายเป็นอะไรหรือเปล่า”
“นายอย่ายุ่งได้ไหม คาเสะคาเงะฉันมันเป็นยังไงก็ช่างสิ”
“นายจะบ้าเหรอคนอย่างฉันจะไม่ทิ้งนายเมื่อเวลาไหนทั้งนั้น ฉันสัญญากับนายแล้ว ไม่ว่านายจะดื้อยังไงฉันก็จะอยู่ข้างนาย”
โมโกมอนมองหน้าชายที่เข้ามาพยุงเค้า ทำเอาเค้าหน้าแดงไปตามๆ กับ แอนยิ้มให้ทั้งคู่เธอมองไปทางปีศาจ หญิงสาวยกแขนไว้แนบหน้าอกแล้วสะบัดข้อมือออกไปทำให้มีแสงสีขาวใต้เท้าทุกคน(เป็นเวทย์สนับสนุนของ warlock ในการเพิ่มพลังให้กับพวกพ้องในธาตุกำไลที่ตนใส่มีเงื่อนไขว่าต้องมี ลูกแก้วธาตุ 1 ลูกถึงจะใช้ได้)
ทั้งหมดไม่จำเป็นต้องใช้แผน พวกเค้าเริ่มเข้าโจมตีแบบไม่คิดชีวิตโดยมีผู้รักษา สอง คนปีศาจเริ่มอ่อนแรงเพราะการเข้าโจมตีพร้อมกัน ทำให้มันสับสน เหม่ยกระโดดขึ้นตั้งพร้อมยกดาบที่แขนขึ้นข้างหูแล้วซัดใส่หัวปีศาจทำให้ร่างมันแตกกลายเป็นหิน ทุกคนปลอดภัยมีแต่ เมกุมิที่มีรอยช้ำ เหม่ยเองก็แค่บาดเจ็บเล็กน้อย แต่แอนกับโมโกมอนค่อนข้างหนักกว่าคนอื่น คาเสะคาเงะประคองเพื่อนหนุ่มแล้วยื่นยาให้ ส่วนแอนนั่งมองกองก้อนหินซึ่งเป็นชิ้นส่วนของปีศาจ คันมูรินั่งลงข้างแอน
“เธอเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”
“ปะ...เปล่าค่ะ ไม่ได้บาดเจ็บอะไรทั้งนั้น คุณไปดูคุณโมโกมอนดีกว่านะค่ะ”
“หึ ปากแข็งจริงๆ หมอนั้นฉันไม่ต้องไปดูหรอก”
คันมูริดึงแขนข้างซ้ายของแอนมาหญิงสาวเองก็พยายามขัดขืน แต่ไงซะแรงผู้ชายก็เยอะกว่า
“โอย! เจ็บนะ มันเจ็บมากๆเลยนะ”
“ไหนว่าไม่เจ็บอะไรไง .....แขนเธอกระดูกหักนี่ แต่ไม่ร้ายแรงอะไรมากหรอก”
ชายหนุ่มเปิดกระเป๋าแล้วหยิบผ้าพันแผลมาพันแขน(แต่พันไม่เก่ง) หญิงสาวรู้สึกว่าไว้ใจเค้าอย่างมาก เมกุมิรักษาตัวเองและเหม่ย เซเมะเดินมาทางหญิงสาวแล้วใช้มือเค้าแตะไหล่เมกุมิเบาๆ
“เซเมะ ฉันว่าฉันทำเรื่องซะแล้วล่ะ”
“หมายความว่าไง? เธอก็ไม่ได้ผิดอะไรนี่”
“ฉันเห็น.......อนาคตอันใกล้ ไม่สิ อีก 1 ปี ความทรมาน ทรยศ สงครามจะเกิดขึ้นที่นี่ เป็นเหตุมาจากฉัน... ฉันจะทำไงดี เซเมะ ฉันไม่น่านำความเดือดร้อนมานี่เลย”
ชายหนุ่ม โอบกอดหญิงสาว แบบปลอบโยน เหม่ยเดินออกจากจุดเดิมไปยังคฤหาสน์เธอไม่สงสัยเลยว่าทำไมไม่นักเวทย์สักคน เพราะพวกเค้าต่างก็พากันไปทำภารกิจกันหมด เหม่ยหันไปมองนาฬิกา จวนจะเที่ยงคืนแล้วเธอรอแต่เพียงว่า ผ่านเที่ยงคืนแล้วพวกเธอจะกลับทันที
เมกุมิวิ่งไปหาเหม่ย เธอหันมามองแอนซึ่งเธอมีคันมูริอยู่ข้าง แอนพยายามอ้อนวอนให้เมกุมิอยู่กับเธอต่อ
“คุณเมกุมิ ได้โปรดอย่าพึ่งไปได้ไหมค่ะฉัน อยากได้คำปรึกษาจากคุณอีก”
“แอนฉันไม่มีอะไรจะให้คำตอบเธอ ฉันจะบอกเธอก็ได้แค่เชื่อใจกันและกันเหมือนที่ฉันยังคงเชื่อใจเซเมะตลอดไม่ว่าเราจะอยู่ไกลกัน หากเธอเข้าใจทุกอย่างก็จะไปได้ คุณโมโกมอนถึงฉันจะรู้ว่าความรักของคุณจะเป็นรูปแบบที่ไม่ค่อยมีคนเป็นบ่อยนัก ฉันก็ไม่รังเกียจที่จะให้คำแนะนำว่า การที่มีปากเสียงกันไม่ได้หมายความว่าจะเป็นรอยร้าว แต่มันเป็นรอยต่อแห่งความเข้าใจ”
เหม่ยยิ้ม แล้วเดินไปในคฤหาสน์ เมกุมิเองก็วิ่งตามเหม่ยเข้าไป แอนรู้ว่าอีก 4 วันจะได้พบกับเมกุมิอีกแน่ๆ เธอจึงเชื่อมั่นในสิ่งนั้นมาตลอด เธอรู้ดีว่าที่คันมูริส่งเสียงใส่เธอ เป็นเรื่องธรรมดาของคู่รักที่คบกันใหม่ๆ อีก 1 ปีข้างหน้าจะเป็นยังไง
ความคิดเห็น