[EXO FICTION] ไค ดีโอ "KaiSoo Follow Me My Love" อัพเดตตอนที่ 3 - นิยาย [EXO FICTION] ไค ดีโอ "KaiSoo Follow Me My Love" อัพเดตตอนที่ 3 : Dek-D.com - Writer
×

    [EXO FICTION] ไค ดีโอ "KaiSoo Follow Me My Love" อัพเดตตอนที่ 3

    โดย Protego

    ไรท์เตอร์น้องใหม่ ฝากฟิคของ EXO ด้วยนะคะ ใครที่ชอบคุ่ ไคโด้ ติดตามอ่านและเป็นกำลังใจให้ด้วยน๊า

    ผู้เข้าชมรวม

    1,576

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    10

    ผู้เข้าชมรวม


    1.57K

    ความคิดเห็น


    17

    คนติดตาม


    24
    จำนวนตอน : 2 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  19 ก.พ. 56 / 23:39 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

     
    "KaiSoo Follow Me My Love" ตอนที่ 1








    "ฉันอยากให้แกไปพักผ่อนสักอาทิตย์ คิดทบทวนมันซะ"
    "ก่อนที่จะ come back นายต้องให้คำตอบที่ฉันพอใจ!"



     
     
    บรรยากาศที่เย็นยะเยือก ในห้องผู้จัดการอันโอ่อ่า กว้างขวาง เมื่อเทียบกับตัวเขาแล้วที่เล็กอยู่แล้ว มันช่างให้ความรู้สึกเขว้งขว้างและหว่าเหว่มากยิ่งขึ้นไปอีก

    เครื่องทำความร้อนที่ทำให้ห้องอุ่นขึ้นจากอากาศหนาวข้างนอก มันไทำให้เขาร้อนรนขึ้นไปอีกเมื่อบวกกับไฟแห่งความตกกังวลในใจ
     

    ในห้วงความคิดของเขาหลุดลอยไป เหมือนจะย้อนไปไกลแสนไกล วันแรกที่เข้ามาที่นี้ วันที่เขารู้สึกดีใจเหมือนได้เกิดใหม่วันที่เขามีความสุข วันที่เขาได้พบใครคนนั้นแล้วทำให้ความรู้สึกของเขาเปลี่ยนไป


    วันแล้ววันเล่าผ่านเข้ามาให้หัว แล้ววันเหล่านั้นก็เต็มไปด้วยใครคนนั้น ไม่เคยห่างตัว
    หัวเราะ เจ็บ ร้องไห้ รอยยิ้ม ผ่านเข้ามาในสมองของเขา ภายในหูเขาอื้ออึง ร่างการชาดิกไปชั่วขณะหนึง
    นัยส์ตาที่เคยสดใส บัดนี้จ้องเพียงมองมือสองข้างที่กุมอยู่ที่หน้าตักตัวเอง 
     

    สิ่งที่เขาได้ฟังวันนี้ ไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมาย เขาโดนเตือนมาแล้วหลายครั้ง
    เพียงแต่ครั้งนี้มันกระทบกระเทือนจิตใจรุนแรงและกระทันหันมากไปไม่ทันได้ตั้งตัว
    เมื่อความรู้สึกมันชัดเจนมากยิ่งขึ้นการแสดงออกมันก็ต้องมากเป็นเงาตามตัว เมื่อเขาเลือกที่จะไม่ซ่อนมัน เขาก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เขาทำ



     
    คยองซูเขาเคยคิดแบบนั้น เขาพร้อมที่จะรับผิดชอบทุกอย่างคนเดียว แต่เมื่อมาถึงวันนั้นจริงๆอะไรมันก็ไม่ง่ายเหมือนที่ตัวเองคิดไว้

     
     
    "คยองซู เข้าใจที่พวกเราพูดไหม ?"
     
    ผู้หญิงสูงวัยอีกคนที่เขาคุ้นเคยเอ่ยถามขึ้น เขานั่งถัดจากคยองซูไปเพียงไม่ถึงหนึ่งเมตร 
    ผู้จัดการ จ้องเขาด้วยอีกคนเมื่อไม่มีเสียงตอบกลับ




    เหมือนคยองซูจะไม่ได้ยินอะไรเลย เขาตกอยู่ในห้วงภวังค์ไปเสียแล้ว มารู้ตัวอีกที แฟ้มเล่มหนาลอยมากระทบแขนอย่างแรง เขาเงยหน้า ด้วยความตกใจไม่ทันระวังตัว  เขายืนขึ้นก้มเก็บแฟ้มบนพื่นวางบนโต๊ะตามเดิม


     
    "พวกเราถามแก ไม่ได้ยินหรือไง แกเป็นบ้าอะไร!"
    "ครับ ขอโทษครับ ผมผิดเองครับ" เขายืนขึ้นโค้งตัว เก้าสิบองศา


     
    ผู้จัดการเห็นได้ชัดว่าเขาไม่พอใจมากยิ่งขึ้น สบถถ้อยคำหยาบคายอยู่ในลำคอ 

     
     
    "แกรู้ดี แกเลือกเอา ฉันไม่มีทางสวยหรูให้แกเดินหรอก ฉันไม่สนหรอกแกจะรักใครไม่รักใคร"
     
    "ไปซะ ไปคิดมา แกอยากจะพักอาทิตย์เดียวหรือไม่มีกำหนด ไมได้คำตอบที่ฉันพอใจไม่ต้องมาให้ฉันเห็นหน้า!"


    เขาพูดด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราด 
     
    "แล้วเพลงที่กำลังจะอัดหละครับ จะเข้าก้องอัดพรุ่งนี้แล้วครับ" คยองซูเอ่ยถามมา เขาพูดตะกุกตะกัก พยายามรวบรวมสติ
     
     เขายังยืนอยุ่ข้างโต๊ะ ไม่ได้สบตาคนพูดดวงตาเขาเลื่อนลอย มองไปมาระหว่างเท้าของตัวเองทั้งสองข้าง


     
    "เขาอัดเพลงโดยไม่มีนายได้ นายเป็นใครหละ ทุกอย่างอยู่ที่ฉัน แกก็รู้ถ้าฉันต้องเลือกใครคนหนึง มันไม่ใช่นายอย่างแน่นอน!"

     
    ความรู้สึกของคยองซูด้านช้าไปหมด น้ำตาเขาเริ่มคลอเบ้า แต่สติส่วนลึกก็บังคับไม่ให้มันหยดออกมาจากดวงตา เขาไม่รู้ว่าเขาพาตัวเองออกมาจากห้องอันกว้างใหญ่นั้นได้อย่างไร รู้ตัวเองอีกที เมื่อตัวเองกำลังเดินลงบันไดไปอีกชั้น เพื่อเข้าหอพักจิตใจของเขาเลื่อนลอยไปไกลแสนไกล เรี่ยวแรงที่จะพยุงกายตัวเองให้เดินตรงแทบจะไม่มี ห้องพักมันช่างไกลแสนไกลในวันนี้...
     


    '''
     
     
     
                       จงอินออกจากห้องซ้อมเต้น เขาเต้นพลางเดินพลางมาตามทางเดิน แล้วก็ล้วงโทรศัพท์ออกมา กดโทรออกเบอร์ที่เมมไว้

    "ฮยองเป็นของผม"

     
    ไม่มีใครรับสาย เขาพยายามอยู่สองสามครั้ง แต่พอเดินพ้มมุมทางเดิน เขาก็เห็นคยองซู เดินอยู่ข้างหน้าเขา จงอินเก็บโทรศัพท์และวิ่งเหยาะๆ พร้อมรอยยิ้ม


     
     
    "ฮยอง เป็นไงบ้าง มีอะไรเหรอ เห็น ผู้จัดการเรียกหา" 
     
    เสียงมาพร้อมกับอ้อมแขนที่กดลงที่บ้าอันเคยชินของเขา กลิ่นน้ำหอมที่ละมุมผสมกลิ่นเหงื่อจากการซ้อมเต้น มันเป็นเอกลักษณ์ และเป็นคนเดียวที่ได้ใกล้ชิดกับกลิ่นนี้ทุกวัน คยองซูสุดหายใจลึก พยายามเก็บอารมณ์พลุกพล่านในใจ แล้วเงยหน้ามองจงอิน ฝีนยิ้มอย่างเคย
     
    "อืม หลายเรื่องต้องคุย จงอินนี่ซ้อมเต้นเสร็จแล้วเหรอ"

    รอยยิ้มกลบเกลื่อนทุกอย่างได้แต่ แววตาของเขาเปลี่ยนไปจนใครบางคนต้องแปลกใจ


     
    "เสร็จแล้ว ฮยองเค้าหิวไปกินข้าวกันปะ นะๆ ทำไรให้กินหน่อยดิ " จงอินอ้อน แกล้งทำเป็นกระซิบข้างหู 

     
    "ฮยองของจงอินเหนื่อยแล้ววันนี้ นายไปชวนชานกับแบคนะ ฮยองขอนอนพักสักแปปหนึง" คยองซูฝืนยิ้ม


     
    "ฮยองของผมไม่สบายเหรอ เป็นไรไหม สีหน้าไม่ค่อยดีเลย แล้วนี่แขนฮยองไปโดนอะไรมา"

    จงอินจับแขนข้างที่เป็นร้อยแดงยาวจากสันแฟ้มขึ้นมาดูใกล้ๆ


     
    "ไม่มีไรหรอก ของหล่นใส่หนะ เข้าห้องกันเถอะ" คยองซูดึงแขนตัวเองออกจากมือจงอิน แล้วเดินเข้าห้องไป..


    ....


     
    "ฮยอง ไม่ไปกะเค้าแน่เหรอ" จงอินถามอีกครั้งเมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จเดินออกมาจากห้องน้ำ 

     
     
    ไม่มีเสียงตอบรับจากฮยองของเขาที่นอนอยู่บนเตียง จงอินเดินเข้าไปนั่งข้างๆ เขามองแล้วอมยิ้มอยู่นาน คนที่อยู่ตรงหน้านี้ ช่างบอบบาง ตัวเล็กๆ คนที่อยู่กับเขาแทบทุกวัน แทบจะ 24 ชั่วโมง คนๆนี้ที่เขาอยากจะปกป้อง คนนี้แหละที่ไม่เคยละไปจากสายตาเค้า 

     
    ไม่น่าเชื่อเลยว่าความสุขของเขาที่ไม่เคยได้จากใคร อยู่ตรงหน้าเขาแล้ว..
     
    ร่างการคยองซูนิ่งสนิท เสียงลมหายใจแผ่วเบาสม่ำเสมอบ่งบอกว่าเขาหลับสนิทไปแล้ว แต่ที่หางตาของเขามีน้ำตาไหลออกมาเป็นทาง จงอินมองเห็นแล้วก็แปลกใจเขาเอื้อมมือไปเช็ดให้เบาๆ


    "ฮยองเครียดอะไรหนักหนานะ ผมไม่สบายใจเลย รู้ไหม" 

     
    ริมฝีปากสัมผัสอีกริมฝีปาก มันอาจเป็นเพียงแค่เสี้ยงวินาที ก่อนที่จงอินออกจากห้องไป แต่สำหรับคนที่พยายามสะกดกั้นตัวเองให้หลับ มันคือสิ่งที่ปลุกเร้าน้ำตาให้หลั่งไหลออกมาราวกับหยาดฝน ในความเงียบงัน คยองซูจมอยู่ในห้วงลึกของตัวเอง

    ความรัก การโหยหา ครอบครัว งาน ทุกอย่างประเดดังเข้ามาอย่างไม่ลดละเช่นเดียวกับน้ำตาที่ไม่เคยจะเหือดแห้ง 
    ไปจากดวงตากลมโตคู่นั้น...


    ..



     
     
    คยองซูเริ่มเก็บกระเป๋า เสื้อผ้าของที่จำเป็น เขาเก็บใส่เพียงแค่เป้ใบเดียว เพื่อว่าจะได้ไม่มีใครสงสัยอะไรมากนัก แค่กลับบ้าน แค่พักผ่อนใกล้ๆ เหตุผลแค่นั้นก็คงจะเพียงพอ นานแล้วนะที่เขาไม่ได้พักผ่อนเลย ทำงานไปต่างประเทศมามากมาย นี่เป็นโอกาสดีที่เขาจะได้ใช้ชีวิตของเขาเหมือนกัน


    คำปลอบใจตัวเองที่ฟังแล้วดูจะทำให้เขาฮึดสู้ขึ้นมาเล็กน้อย 
     
     
    "ฮยอง จะไปไหน เห็นซูโฮฮยองบอกว่าพี่ลาพักอาทิตย์หนึง"

    จงอินเปิดประตูเข้ามา สีหน้าบ่งบอกว่าเขากำลังหัวเสีย
    คยองซูไม่กล้าเงยหน้าสบตา เขาทำให้ตัวเองดูยุ่งๆจับของยัดใส่กระเป๋า 


    "อืม พี่ได้พักอาทิตย์หนึง เหนื่อยนะ อยากกลับบ้าน" เค้าตอบเลี่ยงๆ
     
    "แล้วไม่คิดจะบอกผมเหรอ คนอื่นไม่บอกนี่ผมจะรู้ไหม แล้วมันเรื่องอะไรที่ต้องไปตอนกำลำจะอัดเพลง ตกลงพี่เป็นอะไรบอกผมดิ" จงอินเริ่มเสียงแข็งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
    "ก็..จะบอกอยู่นี่ไง อย่าเพิ่งอารมณ์เสียสิ เรื่องแค่นี้เอง"

     
     
    "คยองซูมองหน้าจงอิน" นั่นมันเป็นคำสั่งที่เฉียบขาด ทำให้คยองซูหยุดจัดกระเป๋า

    "นายสั่งฉันเหรอ นายเปลี่ยนไปนะ"

    เขาพูดแล้วก็กลับไปยุ่งกับกระเป๋าต่อ แกล้งหัวเสียบ้างเหมือนกัน
    จงอินก้าวเข้าไปหาเขาอย่างรวดเร็ว เขาขว้างกระเป๋าคของซูสุดแรงไปกระทบผนังห้อง แล้วกระชากมือคยองซูดึงตัวขึ้นมาชิดตัวเขา
     

    "เฮ้ยย! ฉันเจ็บนะ ปล่อยยยย!" คยองซูดิ้น พยายามสะบัดข้อมือออกแต่ไม่สำเร็จ เขาหมดเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้แล้ววันนี้ (วันปกติก็ไม่สามารถสู้ได้)

    "ผมเปลี่ยนไปเหรอ? นายนั่นแหละ จะไปไหนไม่บอก แล้วเหตุผลหละมีให้ไหม จะทิ้งผมไว้งั้นเหรอ พี่เป็นบ้าอะไร" 


    จงอินกระแทกเสียง ยังคงไม่ปล่อยมือ เขาขว้าทั้งสองแขนคยองซูกำไว้แน่น ข้อมือสีขาวคยองซูกลายเป็นสีแดงอย่างเห็นได้ชัด
     


    "พอได้แล้ว ปล่อยนะ เจ็บ พี่เหนื่อยนะวันนี้ ไม่อยากทะเลาะด้วย" คยองซูดิ้นสะบัดมือ แต่จงอินไม่ยอมปล่อยดึงตัวคยองซูเข้ามาหาแล้วกอดไว้แน่น 

    "มันง่ายไปหน่อยมั้ย อยากไปไหนก็ได้งั้นเหรอ แล้วผมหละ ผมเป็นอะไรสำหรับพี่ จะทิ้งไปก็ได้งั้นเหรอ"  
    จงอินหน้าเริ่มแดงขึ้นเขาเริ่มโกรธและขาดความยับยั้งชั่งใจไปชั่วขณะ
     
    "นายก็ซ้อมเต้น อัดเพลงไปดิ จะมาแคร์ทำไม ว่างก็กลับบ้านไปหาพ่อแม่นายบ้าง ไม่กลับมานานเท่าไรแล้ว" 
     

    เค้าเริ่มพูดอะไรที่แรงมากขึ้น เพราะความเจ็บปวดกับร่างกายเขามันเกินจะทนไหว จงอินไม่เคยทำอะไรรุนแรงกับเขาขนาดนี้มาก่อน 
     
    "พี่จัดการกับความรู้สึกตัวเองก่อนดีกว่า แล้วค่อยมายุ่งชีวิตผม ไม่แคร์งั้นเหรอ พูดออกมาได้ยังไง" 


    จงอินโกรธจัดจริงๆ เขาเหวี่ยงคยองจนหงายหลังไปบนเตียงนอน พอดีกับข้อมือของเขาที่พยายามยันตัวเตียงไว้
    แต่สู้แรงไม่ไหวทำให้ร่างกายเขาทับข้อมืออย่างจัง..ความเจ็บปวดจนแทบจะกลั้นน้ำตาไม่ไหวมาเยื่อนอีกครั้ง
     เขาพยายามเบือนหน้าหนี ซ่อนความเจ็บปวด ยันตัวเองขึ้นนั่งที่ปลายเตียง
     
    "คยองซูงี่เง่า!!~ นายเป็นของฉัน ฉํนบอกว่าไม่นายก็ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น"  

    จงอินกำหมัดแน่น อารมณ์ของเขารุนแรงตามลำดับ แต่ก็เหมือนมีบางอย่างสะกดกั้นเขาไว้ 
    ชั่วขณะหนึ่งความรู้สึกนึกคิดเขาก็กลับมา ผู้ชายบอบบาง ตาใส ที่นั่งอยู่ตรงหน้า เขาคือคนที่เรารักนะ นายกำลังทำอะไรเขาอยู่หละตอนนี้..



    "คยองซูทำให้จงอินโกรธนะ จำไว้ ว่าจงอินจะไม่ยอมคืนดีง่ายๆ นายทำเราเจ็บปวดนะ เพราะงั้นนายต้องเจ็บปวดกว่าเราแล้วค่อยมาดีกัน" 


    จงอินพูดอะไรออกไปเหมือนเด็กไม่มีผิด สีหน้าเขาดูตกใจเมื่อเห็นคยองซูเสียหลักล้มลง
     ความละอายและความรู้สึกที่คิดว่าตัวเองทำเกินไปมันกำลังเข้ามาเยือน แต่เขาก็ไม่สามารถจะพาตัวเองเดินเข้าไปหาใกล้ๆและพูดคำว่า "ขอโทษ" ได้
     
     
    "ไปเลย อยากไปไหนก็ไป ไม่ห้ามแล้ว นายไม่แคร์อยู่แล้วนี่ ไม่คิดถึงผมบ้างก็รีบๆไป" 
     
    เขาพูดเสียงอ่อนลงบ้างแล้ว แต่ก็เดินออกจากห้องไปกระแทกประตูตามหลังอย่างแรง  อีกคนหนึ่งที่อยู่บนเตียงนั่งยิ้มทั้งน้ำตา รอยยิ้มมันเปื้อนไปด้วยความสุขและคราบน้ำตา 


    "มีอะไรให้คิดถึงก่อนจะไปสินะ จงอิน" 

     
     เขาพยายามกลั้นน้ำตาอีกครั้ง นวดที่ข้อมือตัวเองอีกครั้ง มันรู้สึกปวดอยู่ เขาเดินไปเก็บกระเป๋าที่กองบนพื้น ไม่มีอะไรที่ต้องเก็บอีกแล้วทุกอย่างคงอยู่ในสภาพเดิม เหมือนเขาไม่ได้ไปไหน นาฬิกาบอกเวลาสี่โมงเย็น แน่นอนข้างนอกรถมารออยู่แล้ว เขาต้องไปสนามบินก่อนหกโมง 

     
    เข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา หยิบหมวกแก๊ปสีดำที่คุ้นเคย สวมลงไปบนศรีษะ เขาจ้องมองไปทั่วห้องอีกครั้ง ถอนหายใจ สะพายกระเป๋า  มือเอื้อมไปปิดไฟและเดินออกจากห้องไป.. 
     
     
    จงอินจะอยู่ที่ไหนไม่มีใครรู้ คยองซูเดินออกไปอย่างเงียบๆ เขาไม่พบเมมเบอร์คนไหนระหว่างทางที่ออกจากบริษัทเลย ทุกคยรู้เรื่องดีพอๆกับเขาอยู่แล้ว 

    ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นกังวล แค่จากไปและกลับมาอย่างเข้มแข็ง เขาบอกตัวเองแบบนั้น
     
     
    ความหนาวเย็นข้างนอกเริ่มรุนแรงขึ้น เมื่อสนธยามาเยือน หิมะขาวโพลนไปทั้งถนน บรรยากาศอันหนาวเหน็บหรือจะสู้หัวใจของคนที่ร้อนรนดังภูเขาไฟรอวันปะทุ
     
    จงอินกลับมาที่ห้องอีกครั้ง หลายชั่วโมงที่เขาพยายามสงบจิตใจตัวเอง และครุ่นคริดเกี่ยวกับ
    ห้องว่างเปล่า ผ้าปุที่นอนราบเรียบ ทุกอย่างในห้องหยุดนิ่ง แต่หัวใจของเขาเริ่มเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ เริ่มรุ้ว่าอะไรที่ตัวเองกำลังจะพบเจอ 

     
    "ฮยองไปไหน ฮยองอยู่ที่ไหน ผมไม่ให้ฮยองไปไหนนะ"

    ในหัวของเขามีแต่ถ้อยคำเหล่านั้นผุดขึ้นมา เขาเหมือนจะเพิ่งรู้ตัวว่า เขาไม่ควรจะหายไปเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว


     
    จงอินวิ่งออกจากห้องตัวเอง ความรู้สึกนึกคิดเพียงอย่างเดียวของเขา สั่งให้เขาวิ่ง ห้องซ้อมเต้น ห้องอาหาร ห้องนั่งเล่น บันไดหนีไฟที่เขาชอบไปนั่งเล่นกับคยองซูบ่อยๆ ห้องแล้วห้องเล่า ที่แล้วที่เรา มากมายผู้คนเอ่ยทักตามทางที่เขาวิ่งผ่าน

    เขาไม่มีเวลาที่จะหยุดคุยกับใคร เขาต้องการพบฮยองของเขาให้เร็วที่สุดก่อนที่อะไรมันจะช้าไปกว่านี้

    ทั่วทุกห้องของบริษัท ทุกที่ที่คิดว่าคยองซูจะไป เขาไปมาหมดทุกที่ แต่ก็ยังไม่เจอ
     
    เขาวิ่งไปที่หน้าประตูของบริษัท กำลังจะออกไปแล้ว แต่พอดีสวนกับซูโฮกับเข้าพอดี


     
    "จงอิน นายจะไปไหนนั่น เฮ้ยเดี๋ยวก่อน" ซูโฮร้องถาม พร้องกับเหนี่ยวแขนไว้
    "ซูโฮฮยอง เห็นฮยองผมไหม เขาไปไหนแล้ว ผมไม่เจอเขาเลย" จงอินถามลุกลี้ลุกลน
     
    "ไปๆ เข้าไปข้างในก่อน ใจเย็นๆ มีเรื่องที่นายต้องรู้หลายเรื่องเลย" ซูโฮพยายามเหนี่ยวแขน รั้งให้เขาต้องเดินเข้าไปข้างในตึกตามเดิม



     
     
    "คยองของแกไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ววันนี้ แกไม่ต้องตามหาหรอก"
     
    ถ้อยคำที่ได้ยินนั้นบาดลึก เหมือนตอกย้ำสิ่งที่เขาพยายามจะซ่อนมันไว้ในใจ
     
    "รู้ไหม เขาไปไหน ผมต้องเจอเขาเดี๋ยวนี้เลย บอกผมเถอะฮยอง"
     
     
    "นายคิดว่าวันนี้ คยองซูยังเจออะไรแย่ๆมาไม่มากพอเหรอ" ซูโฮเอ่ยขึ้น เขาจำเป็นต้องพูดในสิ่งที่คิดว่าจงอินต้องรู้และเขาต้องจัดการมันด้วยตัวเขาเอง

     
    "รู้ไหม วันนี้ผู้จัดการเรียกคยองซูไปพบ เขาบังคับให้คยองซูต้องเลือก ถ้าผู้จัดการเขาเลือกเขาไม่เลือกคยองซูอย่างแน่นอน"

    "นายปล่อยให้พี่เค้าแบกรับเรื่องเหล่านั้นคนเดียวได้ยัง ในเมื่อนายเป็นคนที่น่าจะเข้าใจฮยองซูมากที่สุด"
    "รักกันไม่ใช่เหรอ นายเคยบอกว่าพร้อมจะปกป้องเขาเสมอนี่ แล้วนายทำอะไรอยู่ ไม่คิดจะรับผิดชอบความรู้สึกและความสัมพันธ์ที่นายสร้างมันขึ้นมากับมือเลยเหรอ"

     
    จงอินพูดไม่ออกเลยสักคำเดียว ทุกอย่างมันจุกอยู่ที่อก สีหน้าเขาเย็นชาเหมือนกับเสาหินที่ตั้งอยู่มานับร้อยพันปี



     
    "นายคิดว่ามีอะไรเป็นความลับหละระหว่างคยองซูกับนาย"
    "ทุกคนรุ้หมด แม้กระทั่งครอบครัวของนาย"
     
    "นายรู้ไหมว่าวันนี้พี่นาย เขาเจอกับแม่นายด้วย และทีนี้รู้หรือยังว่าทำไมเขาอยู่ที่นี่ไม่ได้ในคืนนี้"
    ซูโฮ พูดด้วยสีหน้าเรียบตึง บุคลิกช่างน่าเกรงขามเวลาซีเรียสและเป็นงานเป็นการ เขารู้ว่าจงอินแบกรับมันไม่ไหว แต่เขาก็ต้องบอกให้รู้


     
     
    "แม่ผมมางั้นเหรอ ผมไม่รู้เลย ฮยองไม่ได้บอกผมเรื่องนี้เลย" สีหน้าจงอินเริ่มซีดเผือดมากยิ่งขึ้น
    "นายก็เป็นอย่างนี้แหละ เวลามีความสุขนายมีส่วนร่วมกับเขาเสมอ พอเรื่องราวเลวร้าย นายก็ปล่อยเขาไว้ แบกรับคนเดียว นี่เหรอที่บอกว่ารักเขานะ"


     
    "ความสัมพันธ์ทุกอย่างนายเป็นคนเริ่ม นายเป็นคนทำให้เขารักนาย แล้วตอนนี้นายทำอะไรอยู่หละ"
     
    "นายก็รู้ว่าคยองซูเขามีความสุขกับการร้องเพลงมากแค่ไหน เขามาที่นี่เพื่อร้องเพลง แต่วันนี้รู้ไหมเขาต้องเลือกระหว่าง อยู้เป็นนักร้องต่อไปโดยไม่มีความรุ้สึกรัก กับรักต่อไปโดยที่ไม่มีคนที่ชื่อ D.O. ใน EXO อีกต่อไป"

     
    "ชัดเจนอยู่แล้วที่นี่เขาเลือกนาย เขาไม่ได้เลือกเด็กน้อยตัวขาว ตาโต ยิ้มง่าย ร้องเพลงเพราะคนนั้นหนะ"

     คนนั้นที่เขาเคยบอกฉันว่า จงอินนี่คือชีวิตผม"



     
    จงอินไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป ไม่ว่าเขาจะพยายามสะกดกันยังไง น้ำตา..มันไหลโดยไม่รุ้ตัว ทุกอย่างอื้ออึงไปหมด
     


    "คยองซูไปพักอาทิตย์หนึง นายก็ควรจะทบทวนตัวเองด้วย ไม่มีเค้าตอนนี้ เราก็จะไม่ทำอะไรเหมือนกัน" ซูโฮทิ้งท้าย ก่อนที่จะเดินจากไป


    (ท่านลีดเท่ห์และแมนมากกก นับถือ รู้นะคิดไรอยู่ 55  :วงเล็บนี้สร้างขึ้นเพื่อเบรคอารมณ์ดราม่าก่อนจะอ่านต่อไป 555)



     
     
    "ฮยองอยู่ไหน ผมอยากเจอฮยองนะ เด็กน้อยของจงอินอย่าหนีไปไหนนะ"

     
    ในห้วงของความคิด แว่วโสตประสาตขอเขากำลังเรียกหาใครบางคน ซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน 
    จงอินเปิดประตูห้องเข้าไป ความหวังเล็กๆในหัวใจแอบภาวนาให้มีใครคนนอนอยู่บนเตียงอย่างที่เคยเป็น..ห้องว่างเปล่า และเงียบงัน แม้จะมืดแสงไฟจากข้างนอก ส่องให้เห็นว่าเตียงนั้นว่างเปล่า เขาปิดประตู ปล่อยให้ห้องมืดมัวอยู่อย่างนั้น..
     
     
    ห้องมืดสลัว มีเพียงชายคนเดียวนั่งกอดเขาอยู่บนเตียง บ่อยครั้งที่เขาเอาหน้าซุกไประหว่างเข่า และบ่อยครั้งที่เขามองไปยังที่นอนข้างๆเขา



    ความมืด เงียบสงัด และการได้อยู่เพียงคนเดียว ไม่จำเป็นต้องซ่อนรอยน้ำตา และความเสียใจเอาไว้ แว่วเสียงสะอื้นเบาๆ ตอนนี้จงอินเหมือนเด็กที่ถูกทิ้ง จิตใจข้างในได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาก เขาก็แค่เด็กวัยรุ่นคนหนึงเท่านั้นเอง ภายนอกอาจจะเข้มแข็ง
     
    แต่หัวใจก็ต้องมีวันที่อ่อนแอลงไป..ในยามนี้ไม่มีใครสักคนที่จะพูดคุย เขาอ้างว้างเกินไป แต่มันจะเทียบได้หรือเปล่า ในเมื่อคนที่เขารักเจ็บปวดยิ่งกว่าเขาเสียอีก


     
     
    "ผมปกป้องพี่ไม่ได้ใช่ไหม ผมจะทำยังไงดีหละ "

    เขาเอื้อมมือไปลูบผ้าปูที่นอนที่เมื่อก่อน ใครบางคนนอนอยู่ตรงนี้ เขาเริมพูดคนเดียวอยู่อย่างนั้นซ้ำๆ



    "วันนี้ผมจะกอดใครหละ.. ฮยองไม่ได้จับมือผม.. คืนนี้จะนอนหลับไหม"
    ความคริดพรั่งพรูพร้อมกับหยดน้ำตาที่ไม่อาจซ่อนเร้น รูปรสกลิ่นเสียง ที่เคยได้สัมผัส 


    วันนี้มันว่างเปล่าและเดียวดายเหลือเกิน

     
     
    "ผมขอโทษ ผมทำให้พี่เจ็บปวดใช่ไหม ผมไม่ดีใช่ไหม ฮยองอย่าเพิ่งไปหาคนอื่นนะ ฮยองอย่าทิ้งเขาไป.. "


    เสียงของเขาแผ่าเบาระคนเสียงสะอื้น ไม่มีใครสามารถหยุดน้ำตาของเขาได้ ในเมื่อคนที่ทำได้ ไม่อยู่ที่นี่แล้วคืนนี้..



     
    "เวลาผู้ชายร้องไห้ มันไม่น่าดูเลยใช่ไหม ฮยองของผมอยู่ไหน จงอินร้องไห้แล้วนะ มาดูจงอินด้วย.." 


     
     
    "ค..คยองซู!!ผมจะทำยังไง!? "ผมจะทำยังไงดี.."

     
    เสียงสะอื้นดังแว่วเป็นระยะๆ ความเงียบงันค่อยๆกลืนกินทุกอย่างที่อยู่ในห้อง เสียงนั้นเริ่มเบาบางลงไป.. ความพร่ามัวมองเห็นชายหนุ่มคุ๊ดคู๊กอดหมอนอยู่บนเตียงนอน

     
    ในวันที่เจ็บปวดที่สุด ขอเพียงแค่ คนที่เรารัก เข้ามากอด ลูบหลังเบาๆ "ไม่เป็นไรนะ จงอินนี่" แค่นั้นจริงๆ
    เด็กคนหนึงที่โหยหาความรักกำลังเรียกหาหัวใจของเขาที่หลุดลอยไป


     
     
    ..บนท้องฟ้าที่มืดดำในเวลากลางคืน เขาอยู่สูงเกินไปที่จะรับรู้อะไรข้างล่างนั่น มองออกไปหน้าต่างมีมองเห็นเพียงดวงไฟเล็กๆ ระยิบระยับ
    "ที่นี่ที่ไหนนะ อยู่ตรงไหนแล้ว เขาจะไปได้ไกลขนาดไหน เขาพาตัวเองมาไกลขนาดนี้ได้ยังไง"
     
    คยองซูนั่งนิ่งศรีษะพิงหน้าต่าง มองออกไปนอกเครื่องบินที่กำลังนำพาเขาไปยังจุดหมาย ที่ซึ่งเขาอยากจะไป ที่ๆเขาอยากไปกับใครบางคนแต่
    บางทีสิ่งที่เขาวาดฝันเอาไว้ ก็พังทลายลงไปในพริบตา หรือบางทีอาจจะยังไม่ถึงเวลา เขาบอกตัวเองแบบนั้น
    ความสดใสและมองโลกในแง่ดี คือสิ่งที่ติดตัวเขาเสมอมา 
     
    "จงอินจะหลับหรือยังนะ อยู่ไหนแล้วตอนนี้ นายเป็นเด็กดีใช่ไหม"
    เมื่อเลือกที่จะรักแล้วแม้จะเจออะไรที่เลวร้ายแค่ไหน เขาก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงความรู้สึกของตัวเอง และไม่เคยสักครั้งที่จะเกลียดผู้ชายคนนั้น
    "จงอินอย่าโกรธนะ ที่ไม่ได้บอกว่าฮยองไปไหน  เขารู้จงอินต้องโกรธแน่ๆเลย หลับฝันดีนะครับเด็กน้อย"
     
    น้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองข้างของเขา ห่างไกลจากผู้คนและสถานที่ซึ่งเคยชินสักอาทิตย์ นอนหลับโดยไม่ได้กุมมือที่อบอุ่นของใครคนนั้น 
    อ้อมกอดและลมหายใจที่แผ่วเบา กลิ่นที่คุ้นเคยสิ่งต่างๆเหล่านั้น มันจะไม่เกิดขึ้นในคืนนี้และจากนี้ไปอีกอย่างน้อยอาทิตย์หนึง
    เขาไม่รู้เหมือนกัน ว่าเขาจะทนมันได้มากน้อยแค่ไหน เจ็บปวดสำหรับเขา ไม่เท่าไร แต่ถ้าต้องทนอยู่เห็นคนที่ตัวเองรักเจ็บ นั้นเขาคงทนไม่ไหวอย่างแน่นอน
     
    เขาอยากปกป้องเด็กน้อยคนนั้นให้ดีที่สุด แต่ก็ไม่รู้ว่าเขา จะทำมันได้อีกนานแค่ไหน..?
     
     
    ด้วยความเหนื่อยล้าและสิ่งที่เขาพบเจอในวันนี้ ทำให้เขาหมดเรี่ยวแรงแล้วสำหรับคืนนี้ เขาม่อยหลับไป 
    บนชั้น เฟิร์สคาส ผู้คนบางตา ต่างไม่มีใครสนใจกัน ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใคร ผู้คน พนักงานบริการที่ไม่คุ้นเคย นำพาไปยังจุดหมายข้างหน้าโดยไม่ต้องกังวลอะไรอีกต่อไป..
     
     
    สายตาที่เคยมองหา แววตาที่เคยจับจ้อง รอยยิ้มที่เคยส่งผ่านกันและหัน บัดนี้มันช่างอยู่ห่างกันไกลแสนไกล
    มีเพียงหยาดน้ำตาที่หลั่งไหล ที่พวกเขามีร่วมกัน แต่ห่างกันคนละฟากฟ้า 
    เป็นไปได้ไหมที่หยดน้ำตาเหล่านั้นจะส่งผ่านความเจ็บปวดให้เขาทั้งคู่ได้รับรู้ความรู้สึกของกันและกัน  วันนี้ยังคงไม่มีคำตอบสำหรับอะไรหลายๆอย่าง 
    แล้วพรุ่งนี้ที่จะมาถึงหละ มันจะมีคำตอบและทุกอย่างจะดีขึ้นไหม  แผ่นดินจะแน่นหนัก เมื่อฝนกระหน่ำลงมา แล้วความรักหละ 
    เมื่อพายุโหมแรงมากยิ่งขึ้น แค่สองคนยืนต้านพายุจะทำให้พวกเขาแข็งเกร่งขึ้นจริงๆหรือ?
    ...
     
    ..ห้องยังคงมืดสนิท เงียบเสียงสะอื้นมีเพียงเสียงลมหายใจที่แผ่วเบาและสม่ำเสมอ 
    "เราจะอยู่อย่างนี้กันได้เหรอ มันดีแล้วจริงๆเหรอ" ซูโฮเอ่ยเบาๆขณะที่ดึงผ้าห่มมาคลุมให้เด็กน้อยที่นอนคุ๊ดคุ้อยู่ตรงหน้
    เซฮุนยืนกอดอกอยุ่ข้างๆเขา แบคฮยอนยืนพิงชานยอลซึ่งยืนอยู่ข้างหลัง สองมือของชานยอลโอบแน่นที่เอวของแบคยอล พวกเขาเข้ามาดูจงอินสักครุ่แล้ว 
    แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรนอกจากลีดเดอร์ ทุกคนถอนหายใจ... และเดินออกไปอย่างเงียบๆ ชาลยอลดึงมือแบคให้เดินตามออกไป ก่อนเขาจะปิดประตู..
     
     
    ...น้ำตาเพียงเท่านี้ไม่สามารถที่จะหักล้างกับอุปสรรคที่อยู่ตรงหน้าได้ นายจะเข้มแข็งพอมั้ย จะหยืนหยัดในสิ่งที่ตัวเองเลือกไหวไหม..ฉัน...ก็ไม่รู้เหมือนกัน..?





    to be continued.

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น