คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : [SF] One-Piece.. ch.5 (จบ)
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
หลังจากแบคโฮผ่านออกไปได้ไม่นาน เสียงเคาะประตูห้องของอารอนก็ดังขึ้นอีกรอบ
“โว๊ะ อะไรอีกว่ะ อะ ไอ้.... อ่าว...นายเองหรอ” นึกว่าแบคโฮกลับมาอีกรอบถ้าใช่จะด่าให้ แต่ว่ามันกลับไม่ใช่..
อารอนเปิดประตูออกไปโดยที่คิดว่าคนที่มาเคาะประตูนั้นจะเป็นแบคโฮ แต่เมื่อประตูเปิดออกก็ได้พบกับคนที่ยืนอยู่นั่นไม่ใช่แบคโฮแต่อย่างใด หากแต่เป็นเร็นต่างหากที่อยู่หน้าห้องเค้าตอนนี้
“อืมฉันเอง ขอเข้าไปหน่อยได้ไหม”
“ได้ดิ”
“ขอบใจนะ ว่าแต่นายไม่กลัวฉันหรอ”
“ทำไมฉันต้องกลัวนายด้วยล่ะเร็น”
“แบคโฮน่าจะบอกนายหมดแล้วนี่”
ถ้าถามว่ากลัวไหมอารอนไม่กลัวเร็นหรอก เพราะถ้าหากเร็นคิดจะทำอะไรจริง ๆ คงทำตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้วแหล่ะ แต่ถ้าเร็นคิดจะทำอะไรอารอนคงไม่ยอมหรอก งานนี้สู้ตายบอกเลย
“ก็ใช่บอกแล้ว แต่ไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลย เราเพื่อนกันนี่นา เดี๋ยวไปเอาน้ำมาให้นะ”
“ไม่ต้องหรอก แค่จะแวะมาคุยแค่แปบเดียว”
“เอางั้นหรอ ว่าแต่นายมาที่นี่มีธุระอะไรหรอ”
“ฉันก็แค่อยากจะมาคุยกับนาย มาบอกเหตุผลว่าทำไมฉันถึงต้องทำแบบนั้น”
“ก็ดีเลยฉันก็สงสัยอยู่ว่าทำไมนายต้องทำแบบนี้ คือฉันกับนายพึ่งจะรู้จักกันได้แค่ไม่นานเองนะ ตั้งแต่นายย้ายมาที่นี่ก็แค่สามเดือนเอง”
“ไม่ใช่ ฉันไม่ได้พึ่งจะรู้จักนายหรอกนะ แต่ฉันหน่ะรู้จักนายมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่เรายังเด็กนายคงจำฉันไม่ได้สินะ”
“เอ๋..รู้จักตั้งแต่เด็ก หมายความว่าไง?” หมายความว่ายังไงกันที่บอกว่ารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ตอนเด็ก ๆ เราเคยรู้จักเร็นด้วยหรอเนี่ย
“ก็หมายความตามนั้นแหล่ะ ฉันจะไม่ย้อนกลับไปเล่าเรื่องพวกนั้นหรอกนะ ในเมื่อเล่าไปมันก็เปลี่ยนแปลงอะไรไมได้อยู่แล้ว เพราะนายก็ไม่ได้รักฉันแถมยังจำฉันไม่ได้เลยอีกต่างหาก แต่ว่าฉันก็ดีใจที่ฉันได้กลับมาที่เกาหลีอีกครั้งแล้วก็ตามหานายจนเจอ ทีแรกฉันก็คิดว่าถ้านายยังไม่ได้ชอบใครหรือมีคนรักอยู่แล้ว ฉันก็จะขอนายเป็นแฟนจะทำให้นายรักฉัน แต่ว่าตั้งแต่เจอนายตอนแรก ฉันก็เหมือนจะอกหักตั้งแต่ตอนนั้นแล้วล่ะนะ” ใช่ ผมกับอารอนรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ผมไม่คิดจะย้อนเรื่องราวและเล่าให้อารอนฟังในเมื่ออารอนจำผมไม่ได้ มันก็ไม่มีความหมายอะไรที่จะไปพูดถึงมันอีก
“แล้วทำไมนายต้องทำแบบนั้นด้วยล่ะ”
ในเมื่อเร็นไม่อยากเล่าก็จะไม่ถามให้มันวุ่นวาย เพราะถ้าเกิดเร็นเล่าเรื่องนั้นออกมา ถ้าหากว่าผมยังจำมันไม่ได้อีกเร็นคงเจ็บปวดกว่าเดิมแน่ ๆ แต่ที่อยากรู้ตอนนี้คือ ทำไมเร็นต้องโกหกด้วย
“แบบไหน”
“ก็เมื่อวาน.. ที่นาย...” จะให้พูดออกไปก็กลัวเร็นจะรู้สึกแย่
“ถ้าฉันไม่ทำฉันจะได้รู้ความจริงไหมล่ะว่าพวกนายสองคนรักกัน สามเดือนเลยนะที่ฉันลองมองพวกนายมา สิ่งที่ฉันทำถ้าพวกนายสองคนไม่ได้รักกันคนที่ได้ประโยชน์ที่สุดก็คือฉันเอง แต่ถ้าพวกนายสองคนรักกันจริงฉันก็จะปล่อยนายไป"
"ขอบใจนะ"
"ขอบคุณเรื่องอะไรล่ะ" เร็นพูดพร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆ กับสายตาซุกซนส่งไปให้อารอน ก็รู้ว่าเรื่องอะไร แต่แค่อยากแกล้งอารอนดูว่าจะยอมพูดไหม
"ก็..เรื่องที่นาย..." เร็นนี่ก็ถนัดแกล้งกันซะจริง ๆ เลยนะ ก็รู้ว่ามันพูดยากยังจะแกล้งกันให้พูดอีก
"เรื่องที่ทำให้นายสองคนยอมสารภาพรักกันได้หน่ะหรอ ฮ่าฮ่าฮ่า" เร็นพูดพร้อมกับหัวเราะ ท่าทางของอารอนดูจะเขินมาก เร็นเลยพูดออกมาแทน
"ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย แต่ก็ขอบใจเรื่องนั้นด้วยแหล่ะ"
"มันคงต้องเป็นอย่างนั้นแหล่ะ ก็นายสองคนนี่ปากแข็งทั้งคู่ แถมยังให้ฉันเกือบเข้าใจผิดไปจริง ๆ ว่านายสองคนไม่ได้รักกัน ไม่มีอะไรแล้ว งั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะ"
"จะกลับแล้วหรอ" หืมมาเพื่อจะพูดแค่นี้เองหน่ะหรอ อะไรกัน
"ใช่ ก็เรื่องที่ฉันอยากพูดก็ได้พูดไปหมดแล้ว ก็กลับได้แล้วล่ะ"
เร็นขอลาอารอนกลับ เพราะเรื่องที่อยากจะพูดอยากจะบอกก็ได้บอกไปหมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องอยู่นานไปกว่านี้แล้ว หากถ้าอยู่นานกว่านี้สิ่งที่เค้าตั้งใจจะทำอาจจะไม่ได้ทำมันก็ได้ นั่นคือตัดใจจากอารอน
"เดี๋ยวไปส่งนะ"
"อืม"
เมื่อเร็นลุกไปอารอนก็ขออาสาไปส่งเร็นกลับ แต่ก็ไปส่งได้แค่เพียงแค่หน้าประตูห้องของตัวเขาเองเท่านั้น
"ส่งแค่นี้ก็พอ"
"เอางั้นหรอ"
"อารอน"
"หืมมีอะไรอีกหรอ"
"ขอกอดหน่อยได้ไหม"
"ว่าไงนะ" หืมกอด ทำไมอยู่ ๆ ก็มาขอกอดกันแบบนี้ล่ะเนี่ย
"ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะ"
"ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ" ก็เพื่อนกันกอดกันทำไมจะได้ล่ะ
อารอนพูดจบก็เป็นฝ่ายเข้าไปกอดเร็นก่อน กอดกันในฐานะเพื่อนแค่นี้ทำไมจะไม่ได้ คำขอของเร็นไม่ได้ยากเลยสักนิด เพียงแต่แค่สงสัยในตอนแรกเท่านั้นเอง
"อารอนดูแลความรักของนายให้ดีนะ ขอให้นายโชคดี"
กอดนี้คงเป็นกอดแรกและกอดสุดท้ายแล้วสินะ ที่จะได้ทำกับอารอนจากนี้ต่อไปจะมีโอกาสได้เจอกันอีกรึเปล่าก็ไม่รู้ หวังเพียงว่าการตัดสินใจทำเรื่องทั้งหมดนี้จะทำให้อารอนมีความสุข และเค้าจะจากไปพร้อมกับความสุขเช่นเดียวกัน
"ได้สิ ขอบคุณนายจริงนะ"
"ไม่เป็นไรหรอก ฉันจะไปแล้วจริง ๆ นะ"
"โชคดีนะเร็น พรุ่งนี้เจอกันที่โรงเรียน" หลังจากผละจากกอดแล้วอารอนก็โบกมือลาเร็นอีกครั้ง
"อืม นายเข้าห้องไปได้แล้วล่ะ แล้วอย่าเผลอปล่อยให้ใครเข้าไปห้องตัวเองได้อีกล่ะ" เร็นแกล้งแซวอารอนก่อนจะไป
"โอเคไม่มีแล้วหน่า นายคนเดียวก็เกินพอ"
"ไปเลยเข้าไปเลย ฉันจะได้ไปซักที" เร็นพูดพร้อมดันอารอนให้กลับเข้าห้องของตัวเองไป
"อืม" อารอนเองก็ทำตามอย่างว่าง่ายเข้าห้องตัวเองไป
"วันนี้เร็นพูดจาแปลก ๆ ทำตัวแปลก ๆ นะเนี่ยแต่ช่างเถอะคงไม่มีอะไรหรอก" เมื่อปิดประตูห้องลง อารอนก็พลางคิดถึงทั้งคำพูดและกระทำของเร็นที่มันทำให้อารอนรู้สึกแปลกอย่างบอกไม่ถูก
"อารอนพรุ่งนี้เราอาจจะไม่ได้เจอกันแล้วนะ ลาก่อน"
เร็นยืนรอจนประตูของห้องปิดลง และทันทีที่ประตูห้องปิดประโยคสุดท้ายจากปากของเร็นก็เอ่ยออกมาเพื่อบอกลาคนด้านใน เป็นประโยคที่ต้องการจะบอก แต่ไม่กล้าที่จะให้อีกคนรู้ว่าตัวเองกำลังจะไปและคงจะไม่ได้เจอกันอีก ได้แต่บอกอยู่ตรงนี้และเดินจากไปอย่างเงียบ ๆ
------------------------------------------
"อะไรกันเนี่ย ทำไมวันนี้คนมองแปลก ๆ ตั้งแต่เดินเข้ามาล่ะมองกันอยู่ได้ ชิปล่ะรึตูไม่ได้รูดซิป" ว่าแล้วอารอนก็ทำการก้มไปสำเร็จดูความเรียบร้อยของตัวทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่เหมือนว่าอารอนจะลืมไปไอ้ที่ยืนสำรวจตัวเองอยู่เนี่ยคนมองอยู่เพียบเลย
"เฮ้ย ไอ้ร่อนทำไรว่ะ มายืนยึกยัก ก้มๆเงยๆอะไรตรงนี้" เมื่อเจอาร์มาถึงก็เอ่ยทัก เพื่อนสนิทตัวเองที่ตอนนี้ยืนก้ม ๆ เงยมองตัวเองอยู่ตรงทางเดินด้านในโรงเรียน นี่ก็ทำบ้าอะไรกลางทางคนมองก็ไม่มีจะอาย วู้!
"มาแล้วหรอไอ้เจอาร์ กูดูความเรียบร้อยของตัวเองอยู่ ตั้งแต่เดินเข้ามาทำไมคนในโรงเรียนมองแปลก ๆ แถมยังซุปซิบแล้วก็หัวเราะคิก ๆ อะไรกันก็ไม่รู้ จะว่าไม่ได้รูดซิปก็ไม่ใช่" เนี่ยเท่าที่ดูก็ไม่มีลืมอะไรนะปกติดี แต่แม่งมองกันทำไมไม่เจ้าใจ
"กูว่านะอาจเป็นเรื่องนี้ว่ะ" อย่าบอกนะไอ้ตัวคนที่เป็นข่าวแม่งไม่รู้เรื่องว่าเค้าซุบซิบอะไรกัน
"อะไรว่ะ" อารอนมองเจอาร์อย่างสงสัย ทำไมหรอมันมีเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับตัวกูเองแล้วกูไม่รู้เรื่องด้วยหรอว่ะเนี่ย
"นี่ไงดูซะนะ รู้สึกเหมือนเค้าจะรู้กันทั้งโรงเรียนแล้วล่ะ กูฟันธง" เจอาร์พูดพร้อมทำการควักโทรศัพท์ตัวเองจากในกระเป๋าแล้วเปิดรูปภาพที่อยู่ในเฟสบุ๊คที่พวกเด็กในโรงเรียนตั้งขึ้น พร้อมยื่นไปให้อารอนดู ดูซะเมื่อวานทำอะไรไว้จะได้รู้ตัว
"เฮ้ย นี่มัน" ทันทีที่เห็นอารอนก็ต้องตกใจ เพราะรูปที่โชว์หราอยู่บนเฟสบุ๊คคือรูปที่แบคโฮจูบเค้าเมื่อวาน
"เมื่อวานไงที่มึงกับไอ้แบคโฮจูบกัน"
"กูรู้แล้ว กูเห็นแล้วมึงจะย้ำเพื่อ แล้วตอนนี้เค้ารู้กันทั้งโรงเรียนเลยหรอ ใครแม่งเสือกถ่ายรูปเอาไปลงว่ะ" อย่าให้รู้นะว่าใครถ่ายไปลงจะด่าแม่งให้หาทางกลับบ้านไม่ถูกเลย มันจะไม่มีปัญหาอะไรถ้าเมื่อวานโดนจูบแล้วกูไม่สลบไปเลยเนี่ย น่าอายชะมัด
"ถูกต้องแล้วคร้าบคุณเพื่อน มึงเล่นจูบกันไม่แคร์สื่อกลางทางเดินเลยนี่เมื่อวาน จะมีคนเห็นแล้วถ่ายรูปเอาไปลงแม่งไม่แปลกเลย" ยังมีหน้ามาถามคนเค้าเห็นกันทั่วว่าทำอะไรกัน ต่อให้ไม่มีภาพคนก็รู้กันทั่วอยู่ดีไอ้เวร ปากคนแม่งไปไวกันจะตาย
"เวรกำจริงกูแล้วงี้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนเนี่ย เพราะไอ้แบคโฮคนเดียวเลย"
"เอาไว้ที่เดิมนั่นแหล่ะ คนเค้าลุ้นคู่มึงกันทั้งโรงเรียน กว่าจะได้กันรอไปจนจะเรียนจบอยู่ล่ะ"
"ได้กันพ่องสิ มึงพูดจบยัง กูจะไปห้องล่ะอยู่ตรงนี้กูรู้สึกเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้เนี่ย มองกันอยู่ได้" ไอ้บ้านี่แค่จูบกันยังไม่ได้มีอะไรสักหน่อยนึง พูดไปเรื่อยกูเสียหายนะเนี่ย ส่วนไอ้พวกคนอื่นแม่งก็มองอยู่ได้ จากที่ปกติคนก็รู้จักกูเยอะอยู่แล้ว คราวนี้คงรู้จักกันทั้งโรงเรียนล่ะ จบกันมารู้จักเพราะเรื่องแบบนี้โธ่
"ไอ้เชี่ยใครว่ะ ขับรถภาษาอะไรจะชนคนอยู่แล้วเนี่ย งี้ต้องมีเรื่องเถอะ" อารอนด่าไล่หลังรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งที่อยู่ ๆ ก็มาขับปาดหน้าเค้าไป ไม่รู้ล่ะวันนี้ต้องมีเรื่องไอ้บ้านี่ใคร ขับรถได้แย่จริง ๆ
ทันที่อารอนก้าวเท้ากำลังจะเดินไปที่ตึกเรียนก็มีรถมอเตอร์ไซค์คันนึงขับปาดหน้าอารอนไปอย่างเฉียดชิว ดีที่รถคันนี้วิ่งไปได้ไวมากมายอารอนจึงหยุดได้ทัน จึงไม่ซุ่มซ่ามไปเดินชนรถเข้า? ห๊ะเดี๋ยวนะรถมันปาดหน้าถ้าคนเดินไปชนรถนี่คือซุ่มซ่าม บ้าไปแล้ว
"โอ้ยไอ้เวร ไหนบอกว่าจะรีบขึ้นห้องยังจะไปมีเรื่องอีก" เจอาร์สบถออกมาทันทีที่เพื่อนรักสาวเท้าอย่างไวไปหาเจ้าของรถมอร์เตอร์ไซที่พึ่งขับปาดหน้าไปเมื่อกี้
"นี่ลงมาเลยนะ ขับรถมาโรงเรียนแล้วยังไม่รู้จักระวังเกือบชนคนแล้วรู้ไหมเนี่ย แล้วว่าแต่แกเป็นใครว่ะเนี่ยเรียนมาตั้งนานยังไม่เคยเจอใครขับไอ้มอไซค์นี่มาโรงเรียนซักกะคน แต่พูดก็พูดเถอะรูปร่างแกนี่มันคุ้น ๆ อยู่นะ" ทันทีที่ตรงมาถึงมอไซค์อารอนก็ต่อว่าพร้อมพิจารณาดูคนขับแต่รถคันนี้ทันที ไอ้รถเนี่ยไม่คุ้นเลยไม่เคยเห็น แต่ไอ้คนขับนี่แม่งโคตรคุ้นใครว่ะ
"ขอโทษนะ"
"แบคโฮแกเองหรอ"
ทันทีที่คนขับถอดหมวกกันน็อคออกมาอารอนก็ถึงกับบางอ๋อ ไอ้ที่คุ้น ๆ นี่คือไอ้แบคโฮเองหน่ะหรอ แล้วมันไปมีไอ้มอไซค์นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่คบกันมาตั้งนานไม่เคยเห็นจะบอกกันเลย
"กรี๊ดพี่แบคโฮ" "พี่แบคโฮโคตรเท่ห์เลยอ่ะ" "อืมใช่ ๆ" "อิจฉาพี่อารอนจังเลยเนอะ" เหล่ารุ่นพี่รุ่นน้องสาว ๆ ที่ทั้งยืนทั้งนั่งเล่นกันอยู่ในบริเวณนั่น ต่างส่งเสียงฮือฮา อื้ออึงกันทันทีที่รู้ว่าคนที่นั่งอยู่บนมอเตอร์ไซค์นี้คือใคร
"แล้วทำบ้าอะไรเนี่ย มาขับรถปาดหน้าทำไม แล้วทำไมอยู่ ๆ ก็ขับมอไซค์มาเรียน แล้วมีไอ้มอไซค์ใหญ่ ๆ นี่ตั้งแต่ตอนไหนทำไมกูไม่รู้ว่ะ" แล้วไอ้ที่กรี๊ด ๆ กันนี่คือไร อิจฉากูคือไร แหมอิจฉาพี่ได้แต่ห้ามยุ่งคนนี้ของพี่บอกเลย
"โอ้ยยาวชิป เอาเป็นว่าถ้ากูไม่ขับปาดหน้ามึงก็หนีกูขึ้นห้องไปก่อนดิไอ้หมี แล้วมอไซค์นี่กูมีมานานแล้วก็แล้วกัน แล้ววันนี้ก็แค่อยากพาแฟนนั่งรถไปเดทก็เลยขับมา"
"ไอ้บ้าใครแฟนแก" ไอ้บ้าพูดอะไรตรงนี้เขินนะโว้ย
"แล้วจะเขิลทำไมก็ไม่ได้บอกซะหน่อยว่าเป็นแก" แล้วดูมันจะเขิลบ้าอะไรเนี่ย แกล้งแม่งเลย อยากน่ารักนักหมั่นไส้
"ไอ้บ้าแบคโฮ ไม่ยุ่งด้วยแล้ว ไอ้เจอาร์ไปเรียนกันเถอะ" เอ๊อไม่ใช่ก็ไม่ใช่ไอ้แบคโฮบ้า ไม่ต้องมายุ่งเลยนะ
"นึกว่าลืมไปแล้วว่ามีกูอยู่ด้วยนะเนี่ย"
"เดี๋ยวสิ จะรีบไปไหนเล่าไม่รอกันเลย" งอนอีกแล้ว คนเริ่มก่อนเมื่อกี้มันไม่ใช่ไงว่ะเนี่ย แกล้งเล่นนิดเดียวก็งอน
"ไม่ต้องตามมาเลย" อารอนหันไปพูดใส่แบคโฮที่กำลังวิ่งตามมา
"อารอนอย่างอนสิ ไม่รู้รึไงว่าเวลาแกงอนมันโคตรน่ารักเลยนะ" โธ่เริ่มก่อนแท้ ๆ ดันมางอนกันได้ นี่ต้องลำบากวิ่งตามอีกอุตส่าห์ขับรถปาดหน้าให้หยุดรอกันแล้วนะ แล้วนี่อะไรเนี่ย
"ไอ้บ้าแบคโฮ" ไม่ต้องมายุ่งเลย คนบ้าอะไรไม่รู้เดี๋ยวก็ทำให้โมโห เดี๋ยวก็ทำให้เขิน โอ้ยพอเป็นแฟนกันแล้วทำไมมันลำบากงี้ว่ะ
"มาแล้วหรออารอน"
"อืมใช่ ถ้ายังไม่มาคงก็คงไม่เห็นหรอกไอ้ห่า" อารอนตอบคำถามของคนที่ถามเค้าไป ไอ้บ้านี่ถ้ายังไม่มาคงจะมายืนอยู่ตรงนี้หรอกเนอะ ถามมาได้
"ทำไมแกทำอย่างนี้"
ทันทีที่อารอนมาถึง เพื่อนคนหนึ่งในชั้นก็เอ่ยทักขึ้น พร้อมพุ่งตรงเข้ามาหาอารอนทันที
"เฮ้ย! ถอยไปเลยแล้วฉันไปทำอะไรให้แก"
"ทำฉันอกหักไง อะไรเผลอแปบเดียวไปจูบกับไอ้แบคโฮซะแล้ว"
"นี่พวกแกก็รู้หรอ" อารอนพูดพร้อมมองไปยังเพื่อนคนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่ในห้องด้วยแล้วทั้งหมดก็เหมือนจะพร้อมใจกันพยักหน้าตอบรับกันเป็นเสียงเดียว
"ก็ใช่สิรู้ แกทำฉันเสียใจนะ"
"เล่นบ้าอะไรเนี่ย ไอ้โดยุน"
โดยุนพูดพร้อมกับซบลงไปที่ไหล่ของอารอนพร้อมทำท่าว่าตนเองนั้นกำลังร้องไห้เสียใจ
"ใช่เล่นอะไร เกรงใจกันบ้าง" แบคโฮที่ตามมาถึงทีหลัง พอดห็นว่าโดยุนกำลังซบไหล่แฟนตัวเองอยู่ก็เลยจัดการขู่ไปนิดหน่อย หึหึ ไอ้นี่เผลอไม่ได้ เผลอทีไรเป็นต้องมายุ่มย่ามกับอารอนทุกที ไม่ชอบบอกเลย
"โหไรว่ะ แค่นี้ต้องมีแฟนมาคุม"
"เออรู้แล้วก็ดี คนนี้แฟนกู" แบคโฮพูดพร้อมกับดึงร่างบาง ๆ ของอารอนเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของตัวเอง
"แบคโฮปล่อยอายชาวบ้านเค้านี่มันห้องเรียนนะ" อารอนพยายามขยับเพื่อให้แบคโฮปล่อยตัวเค้าให้เป็นอิสระ ไอ้บ้านี่มากอดอะไรตรงนี้อายชาวบ้านเค้าเนี่ย
"ไม่เห็นต้องอาย เค้ารู้กันทั้งห้อง ใช่ไหมพวกมึง" แบคโฮพูดกับอารอนที่พยายามดิ้นให้เค้าปล่อย พร้อมกับหันไปขอเสียงเชียร์จากคนอื่น ๆ ในห้องด้วย
"หิ้ววววว" ทันทีที่แบคโฮเอ่ยขึ้น เสียงโห่ร้องตอบรับจากเหล่าบรรดาคนที่อยู่ในห้องก็ดังขึ้นแทบจะทันที
"ไอ้พวกบ้าเงียบไปเลยนะโว้ย" ไอ้พวกบ้าเนี่ยทีเรื่องแบบนี้ลีะสามัคคีกันดีจริง ๆ ไม่มีใครคิดจะช่วยกูเล้ยย
"ฮึ่ยเจ็บใจ อุตส่าห์มองมาตั้งนานโดนไอ้แบคโฮคาบไปจนได้"
"เฮ้ย ๆ พวกมึงมีข่าวใหญ่ข่าวด่วนมาว่ะ"
ในระหว่างที่คู่รักใหม่กำลังจู๋จี๋(?)ท่ามกลางสายตาเพื่อนในห้อง ก็มีเพื่อนคนหนึ่งวิ่งเข้ามาในห้องพร้อมกับความตื่นตระหนก
"ข่าวห่าไรจะด่วนจะใหญ่กว่าข่าวไอ้สองตัวนี้คบกันอีกหรอว่ะ" โดยุนหันไปพูดกับเพื่อนที่พึ่งมาใหม่ ข่าวไอ้สองตัวนี่คบกันยังไม่ใหญ่พออีกหรอว่ะ ยังจะมีอะไรอีก
"ก็ข่าวที่เร็นย้ายไปกลับไปต่างประเทศแล้วไง ใหญ่และด่วนพอไหมไอ้โดยุน ว่าแต่พวกมึงรู้กันยัง"
ทันทีที่พูดจบทุกคนในห้องต่างพากันส่ายหน้า เพราะไม่มีใครในห้องรู้เรื่องนี้แม้แต่คนเดียว แม้กระทั่งอารอนก็ไม่รู้เรื่องนี้เช่นกัน
"ว่าไรนะแกว่าอะไรนะ ไอ้ซึงชอล" อารอนหันไปถามซึงชอลทันทีที่ได้ยิน เป็นไปหรอที่เร็นจะไปแล้ว เมื่อวานที่มาหาก็ไม่เห็นพูดอะไรเลยนี่
"ก็เนี่ย เมื่อกี้ทางบ้านเร็นพึ่งจะมายื่นจดหมายลาออกเมื่อกี้เอง"
"แล้วเร็นล่ะ"
"เหมือนจะไปที่สนามบินแล้วนะ"
"นี่มันเรื่องจริงหรอเนี่ย งั้นตอนนี้เร็นอยู่สนามบินหรอ แบคโฮ" อารอนพูดพร้อมหันไปเรียกแบคโฮที่ยืนนิ่งอยู่ข้าง ๆ
"อะไร ทำไม" จะเรียกทำไม จะเรียกเพื่ออะไร ทำไมรู้สึกเหมือนมีลางไม่ดีกำลังมาเยือน
"พาฉันไปสนามบินทีนะ"
"ทำไมต้องเป็นฉัน" อะไรอยู่จะให้พาไปสนามบินบ้าป่าวใครจะพาไปไม่มีทาง ไม่มีทางที่จะพาอารอนไปหาศัตรูของตัวเองที่สนามยินได้หรอก
"ก็วันนี้แกเอารถมานี่"
"ใช่ แต่จะไปทำไมเล่า" เอ้อนี่ก็รู้ว่าเค้าหลอกแล้วยังจะไปหา ให้มันไป ๆ ซะให้พ้นก็ดีอยู่แล้วนี่
"พาฉันไปเถอะนะขอร้อง"
"ไม่! นี่ไม่ใช่เวลาไปหาใคร นี่มันเวลาเรียน" ไม่มีทางยังไงก็ไม่พาไป จริงก็ไม่ได้อยากนั่งเรียนอะไรมากหรอก แต่จะให้พาอารอนไปหาคนคนนั้นอ่ะนะ ยอมนั่งเรียนยังดีกว่า
"คังแบคโฮ จะพาไปดี ๆ ไหม"
"เออก็ได้ พาไปก็ได้"
อารอนพูดพร้อมกดเสียงต่ำ พร้อมกับใบหน้านิ่งที่มีสีหน้าเรียบเฉย แต่นั่นแหล่ะที่ทำให้แบคโฮยอมพาอารอนไป เพราะอาการแบบนี้น้อยครั้งที่อารอนจะเป็น และถ้าเกิดไม่ทำตามมีหวังระเบิดลูกใหญ่พร้อมพายุที่รุนแรงจากอารอนต้องมาหาแบคโฮแน่ ๆ สำหรับแบคโฮถ้าให้เจอหน้านิ่ง ๆ แบบนี้ยอมให้อารอนโกรธโวยวายแล้วไล่เตะเค้าซะยังดีกว่า
ทำไมนะ ทำไมอยู่ ๆ เร็นถึงตัดสินใจไปแบบไม่ลากันอย่างนี้ รึว่าเมื่อนั่นเร็นตั้งใจจะมาลาเรา ความรู้สึกแปลก ๆ ตอนนั้นคืออย่างนี้เองสินะ อารอนทำไมแกโง่อย่างนี้ทำไมตอนนั้นถึงคิดไม่ได้ หวังว่าที่เร็นจะไปคราวนี้คงไม่ใช่เพราะตัวเค้าและแบคโฮหรอกนะ ไม่งั้นคงรู้สึกผิดไปตลอดแน่ ๆ
"แบคโฮขับเร็ว ๆ หน่อยสิ" อารอนบอกแบคโฮที่ตอนนี้ขับรถได้แบบช้ามากช้าได้อีก เกิดมาก็พึ่งรู้ไอ้รถมอไซค์คันใหญ่นี่แม่งก็ขับช้าได้ด้วย = =
"เนี่ยเร็วสุดล่ะเร็วกว่านี้เดี๋ยวตำรวจเรียก" พอดีเป็นคนรักษากฎหมาย ไม่อยากขับเร็วเดี๋ยวตำรวจจับ
"ย๊า! นี่นะถ้าไปไม่ทันฉันจะฆ่านาย" ขับงี้เร็วสุดพ่อง คนปั่นจักรยานยังปั่นแซงนี่คือคือกวนประสาทกันใช่ไหมเนี่ย ทำเป็นมาอ้างตำรวจเดี๋ยวพ่อจับเหวี่ยงซะนี่ แต่ไม่ได้ซ้อนท้ายรถมันอยู่ เดี๋ยวตายคู่ไม่ดี
"นี่ก็ไม่รู้จะไปทำไม รู้ว่าเค้าหลอกยังจะไปอีก"
"เงียบไปเลย ไม่รู้อะไรอย่าพูด ขับไปเลยรถหน่ะรีบ ๆ ด้วย"
"เฮ๊อะ!" อยากให้เร็วนักใช่ไหม ด้ายยยย
"ว๊ากกกก เฮ้ยช้ากว่านี้ก็ได้" บอกให้ขับเร็ว แต่ไม่ใช่เร็วขนาดนี้ ฮือๆๆ อารอนกลัว
"ก็บอกให้เร็วเองนะ ถ้ากลัวก็กอดแน่น ๆ"
อารอนตอนนี้กอดเอวของแบคโฮไว้แน่น เพราะตอนนี้แบคโฮบิดคันเร่งสุดแรง ก็อยากให้เร็วก็เร็วให้แล้วยังจะโวยวายให้ช้าอีก วู้! ว่าแต่ขับแบบนี้ก็ฟินดีนะ ไอ้หมีกอดเอวแน่นเชียว
"แบคโฮนี่แกแกล้งฉันใช่ไหมเนี่ย" ขับมาซะเร็วขนาดนี้นี่จงใจแกล้วกันชัดเลย
"ป่าวไม่ได้แกล้ง อยากรีบไม่ใช่หรอก็รีบให้ไง" ก็ไม่ได้แกล้งยากรีบก็เลยรีบให้แค่นั้นจริง ๆ
"ฝากไว้ก่อนเถอะ"
ทันทีที่มาถึงอารอนก็โดดลงจากรถแบคโฮพร้อมหันไปคาดโทษอีกคนเอาไว้ ก่อนที่อารอนจะรีบวิ่งเข้าไปยังด้านใน เพื่อตามหาเร็น
"เร็นอยู่ไหนนะ ทำไม่เจอเลยเนี่ย รึว่าจะมาไม่ทัน" อารอนวิ่งเข้ามาด้านในและพยายามตามหาเร็น แต่ก็ไม่เจอ
"ก็ดีแล้วนี่กลับกันดีกว่า" แบคโฮพูดพร้อมจับมือและดึงแขนอารอนให้กลับ ก็ถ้าหาไม่เจอแสดงว่ามาไม่ทันแล้วก็กลับกันสักที แหมรู้สึกโชดดีจริง ๆ ที่มาไม่ทัน
"เดี๋ยวสิ ฉันยังไม่บอกลาเร็นเลยนะ" อารอนยื้อแขนของตัวเองเอาไว้จากแรงดึงของแบคโฮ จะกลับได้ยังไงกันล่ะยังไม่ได้บอกลาเร็นเลย
"ก็แล้วจะทำไมอีกเล่า ไอ้บ้านั่นมันทำอะไรเอาไว้ก็เล่าให้ฟังแล้วไม่ใช่รึไง"
"ก็ใช่ แต่นายรู้ไหมถ้าไม่มีเร็น เราก็คงยังไม่ได้เป็นแบบนี้หรอกนะ"
"อะไรหมายความว่าไง"
"เออหน่าเดี๋ยวเล่าให้ฟัง ช่วยหาเร็นก่อนนะ"
"เออ ๆ ก็ได้" ก็ได้ก็ได้อยาก้จอขนาดนั้นก็ได้ยอมช่วยหาก็ได้
"อารอน"
ยังไม่ทันที่อารอนกับแบคโฮจะได้ออกไปเดินตามหาเร็นอีกรอบก็มีเสียงเรียกเสียงหนึ่งที่คุ้นเคยดังมาจากทางด้านหลังของพวกเขา
"หืม เสียงเร็นนี่"
"ใช่ฉันเอง"
"นายยังไม่ได้ไปหรอเนี่ย ทีแรกฉันนึกว่านายไปแล้ว คิดว่าจะมาไม่ทันซะอีก"
"ยังหรอกพอดีรอดูอยู่ว่าจะมีใครมาส่งบ้างรึเปล่า แต่ตอนนี้ก็เห็นล่ะว่ามีมาตั้งคนนึง เป็นคนสำคัญซะด้วย" ประโยคแรกเร็นพูดกับอารอน แต่ประโยคที่สองเร็นเห็นคนที่ตามอารอนมาด้วยจึงพูดยั่วโมโหไป เพราะเท่าที่สังเกตุจากสีหน้าแบคโฮคงไม่ได้อยากมาส่งตัวเค้าหรอก คงจะโดนบังคับให้มารึไม่ก็ตามมาเพราะหึง
"อื้ม อื้ม" นึกว่าจะไปพ้นแล้วซะอีก ดันจะมาเจอแล้วดูพูดจาวอนจริง ๆ
"อะไรติดคอหรอ" อารอนหันไปพูดกับแบคโฮที่กระแอมเรียกร้องความสนใจให้ตัวเอง
"อ้าววว มาด้วยหรอเนี่ย ทำไมเมื่อกี้ไม่เห็นเลยนะ"
"สาบานว่าแกไม่เห็นฉันจริง ๆ" ดูมันพูดคนตัวเบ่อเริ่มบอกมองไม่เห็น มันน่าไหมเนี่ย
"จำเป็นด้วยหรอ"
"ไอ้.."
"แบคโฮพอเลย" อารอนพูดพร้อมยกมือปรามแบคโฮที่กำลังจะพุ่งเข้าไปหาเร็น
"ชิ" เพราะอารอนห้ามหรอกนะถึงยอม ไม่งั้นมันโดนแน่ ๆ
อารอนห้ามทับทั้งสองคนเอาไว้ก่อนที่จะตีกันมากไปกว่านี้ ปกติก็ไม่ค่อยจะสนิทกันเท่าไหร่ ยิ่งพอมีเรื่องเห็นหน้ากันก็จะตีกันให้ได้ นี่มันนิสัยของพวกเด็ก ๆ จริง ๆ สินะเนี่ย แกล้งกันไปแกล้งกันมา เฮ้อ! ไม่ใช่ไม่รู้หรอกนะว่าเร็นเองพยายามจะแกล้งแบคโฮ แต่ก็นะอย่างแบคโฮนี่ก็หน้ายั่วโมโหอยู่หรอก ยืนทำหน้าหงิกหน้างอเป็นอะไรเลยก็ไม่รู้
"เร็นทำไมจะไปแล้วไม่บอกฉันเลย"
"ก็ไปลาแล้วเมื่อวานไม่ใช่หรอ ที่บ้านนาย" เร็นพูดพร้อมเน้นหนักกับคำว่าที่บ้าน เพราะอยากจะแกล้งแบคโฮที่ตอนนี้ยืนหน้ายับเป็นอะไรแล้วก็ไม่รู้
"อะไรที่บ้านหรอ อารอนหมายความว่าไง" ที่บ้านอะไรยังไง หมายความว่าไงอีกแล้วไอ้บ้านี่แอบไปหาอารอนอีกแล้วหรอ
"เงียบก่อน แบคโฮ" เฮ้อนี่ก็คนเค้าจะคุยกันจะมาหึงอะไรนักหนา
"แต่ว่า..." ยังไม่ทันจะได้พูดจบแบคโฮก็ได้รับสายตาอำมหิตมาจากอารอนซะก่อน เลยทำให้ต้องหยุดพูด
"ก็ใช่นายไปหาฉันมาแต่นายไม่ยอมบอกนี่ว่าจะกลับไปอยู่ต่างประเทศแล้ว"
"ขอโทษนะ ก็คนอกหักจะให้ทนอยู่ได้ยังไงกัน"
"ที่ไปนี่เพราะฉันหรอ" พูดแบบนี้คือที่เร็นจะไปนี่คือเพราะตัวเขาหรอ
"ไม่หรอก ฉันล้อเล่นฉันต้องกลับไปดูแลพ่อแม่หน่ะ"
เมื่อเห็นสีหน้าของอีกคน ที่ดูไม่ดีเพราะกำลังรู้สึกผิด ว่าอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เค้าต้องไปแล้วนั้น เร็นก็รู้สึกผิดขึ้นมาเหมือนกันที่เมื่อกี้พูดอะไรออกไปแบบนั้น
"จริง ๆ นะ ไม่ใช่เพราะฉันแน่นะ"
"อืม ได้เวลาแล้วล่ะฉันต้องไปแล้ว"
"โชคดีนะ"
"เออไอ้แบคโฮฉันมีอะไรจะพูดกับแกนะ"
"มีอะไร"
"ฉันยอมให้แกแล้ว ดูแลอารอนให้ดีอย่าทำให้อารอนเสียใจ ถ้าฉันรู้ว่าเมื่อไหร่แกทำอารอนเสียใจฉันจะกลับมาแย่งอารอนไปจากแกแน่นอน"
"ไม่มีทางหรอก"
"ก็ดี"
"สองคนนี้นี่จะไปอยู่แล้วพูดดี ๆ กันบ้างไม่ได้รึไง เร็นก็เลิกแกล้งแบคโฮซะที"
"ไม่มีทาง"
"สมน้ำหน้า"
"แกด้วยแบคโฮ"
"อารอนอ่า"
"ปัญญาอ่อน! อารอนไปแล้วจริง ๆ นะ"
"โชคดีนะ อย่าลืมกลับมาหากันบ้างนะ"
"อืม ถ้ามีโอกาสจะกลับมา บาย"
"บาย"
"ไปแล้วนะไอ้แบคโฮ"
"รีบไปเลยไปไม่ต้องกลับมาเลยยิ่งดี"
"อารอน" เร็นเรียกอารอนอีกครั้ง ไล่นักใข่ไหมไอ้แบคโฮก่อนไปขออีกสักทีเถอะ หึหึ
"หืม"
"จุ๊บ"
ทันทีที่อารอนหันไปตามเสียงเรียกของเร็น เร็นก็จุ๊บที่แก้มของอารอนทันที โดยที่อารอนเองก็ไม่ทันได้ตั้งตัว แบคโฮเองก็ไม่ได้ตั้งตัวเช่นกัน
"เฮ้ย! ไอ้เวร" ไอ้บ้านี่จะไปอยู่แล้วยังไม่วาย แบคโฮตั้งท่าจะไปเล่นงานมินกิแต่เหมือนจะไม่ทัน
"ฮ่า ๆๆๆ ไปแล้วนะโว้ยไอ้แบคโฮ ขอบใจนะทั้งสองคนที่อุตส่าห์มาส่ง" หลังจากที่เร็นจุ๊บแก้มอารอนทิ้งระเบิดลูกใหญ่เพื่อแกล้งแบคโฮเสร็จแล้วนั้น ก็เดินจากไปทันที
"ย๊านี่อารอนยอมให้มันจุ๊บแก้มได้ไง"
"เอ้าก็ไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย" ก็คนไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ นี่นา
"เรื่องที่มันบอกว่าไปหาที่บ้านมาเมื่อวานก็ยังไม่ได้เคลียเลยนะ"
"ไม่มีอะไรหรอกหน่า กลับกันเถอะ"
"เฮ้ยอย่างี้ดิ บอกมาว่ามันไปหาที่บ้านทำไม"
"ก็คุยอะไรนิดหน่อยแล้วก็บอกลาไง พูดไปแล้วไม่ฟังบ้างเล่า"
"ก็รู้แต่มีอะไรมากกว่านั้นใช่ไหม"
"ไม่มี"
"ไม่มีจริง ๆ หรอ"
"เอ๊ะ จะอะไรนักหนาเนี่ย เมื่อก่อนไม่เห็นวุ่นวายขนาดนี้"
"ก็ตอนนี้แกเป็นแฟนฉันแล้วป่ะ มีผู้ชายคนอื่นมายุ่งกับแฟนตัวเอง มาหาแฟนตัวเองถึงห้องจะนิ่งอยู่ได้หรอ"
"อืมก็เป็นแฟนกันไง เป็นแฟนกันแล้วดังนั้นไม่ต้องกังวลอะไรหรอก ฉันก็มีแค่แกคนเดียวเนี่ย เข้าใจนะ เชื่อใจฉันนะ"
"โอเคเชื่อก็ได้"
"กลับกันได้ยัง"
"ไปสิ"
"แบคโฮจะไปไหนเนี่ยมันไม่ใช่ทางไปโรงเรียนนะ" อารอนเอ่ยถามแบคโฮ เพราะทันทีที่อารอนเห็นเส้นทางที่อีกคนกำลังมุ่งหน้าไป ก็รู้ทันทีว่าเส้นทางนี้ไม่ใช่เส้นทางสำหรับการกลับไปที่โรงเรียน
"แล้วใครว่าจะพากลับโรงเรียน"
"อ่าวแล้วจะพาไปไหนเนี่ย"
"เดี๋ยวก็รู้"
"ถ้าพรุ่งนี้ไปเรียนแล้วโดนจารย์ด่านะ ฉันฆ่าแกแน่"
"ใช่ว่ากลับไปแล้วจะไม่โดนนี่มันเกินเวลาไปนานล่ะ นั่งนิ่ง ๆ ไปเถอะหน่า อยากหลวมตัวชวนฉันออกมาเอง แล้วอีกอย่างนะพรุ่งนี้หยุด" อันนี้ช่วยไม่ได้อยากบังคับให้ออกมาเอง ทีนี้จะพาไปไหนก็ว่ากันไม่ได้แล้วนะ
"ไอ้บ้านี่" โอ้ยไอ้บ้าแบคโฮ จะไม่ยอมก็ไม่ได้ เพราะนั่งซ้อนมอไซค์อยู่ ขืนโดดลงได้มีตาย ไม่รู้ว่าจะพาไปทำไม่ดีไม่ร้ายรึเปล่า อ้ายควักอารอนคิดผิดจริง ๆ ใช่ไหมที่ตกลงเป็นแฟนกับไอ้หมอนี่เนี่ย
"ถึงแล้ว" แบคโฮหันไปบอกอารอนทันทีที่ขับรถมาถึงจุดหมายที่เค้าต้องการจะพาอารอนมา
"นี่มัน... พาฉันมาทำไมเนี่ย"
อารอนมองไปตรงหน้า ก็พบว่าเป็นร้านเสื้อร้านนั้น ร้านเดียวกับที่อารอนเคยยืนมองชุด ๆ หนึ่งที่ชอบ และเป็นร้านเดียวกับที่เจอาร์เคยถาม แล้วแบคโฮบอกว่าชอบคนน่ารักที่เข้ากับชุดที่เค้าชอบ อย่าบอกนะว่าแบคโฮรู้..
"จะซื้อให้"
"ซื้ออะไร"
"ก็ชุดนั้นไงอยากได้ไม่ใช่หรอ" แบคโฮพูดพร้อมมองไปที่ชุด ๆ หนึ่งที่โชว์อยู่หน้าร้าน
"ชุด!? นายรู้หรอ" ชุดนี้ ชุดนี้จริง ๆ ด้วย แบคโฮรู้ รู้จริง ๆ ด้วย
"รู้สิ ก็วันนั้นฉันเห็นนายยืนมองอยู่"
"ก็แค่มอง ฉันไม่กล้าใส่หรอกมันไม่เข้ากับฉันหรอก"
"เคยลองใส่แล้วรึไงถึงได้รู้ว่าไม่เข้ากับตัวเอง"
"ไม่เคย แต่ว่าฉันไม่กล้าใส่หรอก"
"พูดมากจัง มานี่เลย" แบคโฮพูดพร้อมกับคว้ามือบางของอีกคนแล้วพาเดินไปที่ร้าน
"ไปไหน ไม่เอา ไม่ไปนะ" อารอนส่ายหน้าปฏิเสธ พร้อมกับพยายามยื้อ แต่ก็เหมือนจะไม่เป็นผล ก็แรงแบคโฮเยอะขนาดนี้จะไปทำอะไรได้ จึงต้องจำใจเดินตามแบคโฮไป
"มาเถอะหน่า วู้" นี่ก็ไม่เคยมีความมั่นใจอะไรในตัวเองเลย ถ้าไม่บังคับกันแบบนี้ก็คงไม่มีทางกล้าที่จะใส่หรอก ชอบคิดว่าตัวเองไม่น่ารัก ทั้งที่จริง ๆ แล้วตัวเองน่ารักไม่ได้แพ้ใครเลย ยังไงวันนี้อารอนก็ต้องใส่ชุดนี้ให้ได้
"น้าครับผมอยากได้ชุดนั้นอ่ะ ผมจะซื้อให้แฟนผม" ทันทีที่แบคโฮเดินเข้ามาในร้าน ก็บอกพร้อมชี้ไปยังชุดที่ต้องการกับคนขายทันที
"โอ้ชุดนั้นหรอ ตาถึงมากเลยนะเนี่ย แฟนเธอคนนี้หรอถ้าใส่แล้วต้องน่ารักมากแน่ ๆ เลยนะเนี่ย" คนขายก็ตอบรับเป็นอย่าง กระตือรือร้นในการขายเป็นอย่างมาก นีบจัดการเดินไปหยิบชุดที่ลูกค้าบอก มาให้แฟนของลูกค้าได้ลองทันที
"นี่จ้า จะลองเลยไหม"
"ลองเลยคับ"
"แบคโฮไม่เอา"
"เอาไปลองเถอะนะ ใส่ให้ฉันดูหน่อยนะ"
"แต่ว่า"
"นะอารอนนะ"
"เอาไปลองเถอะ ถ้าเธอใส่จะต้องน่ารักมากแน่ ๆ"
แบคโฮพูดพร้อมทำน้ำเสียงอ้อนใส่อารอน และแม่ค้าก็รู้น่าที่เป็นอย่างดีช่วยกันพูดให้อารอนยอมลองชุดแต่โดยดี
"ก็ได้คับ ผมจะลองดู" ก็เล่นพูดกันซะขนาดนี้ จะไม่ยอมเห็นทีจะไม่ได้แล้วล่ะ
อารอนยอมลองชุดที่ตัวเองก็อยากได้ แต่ไม่มีความมั่นใจที่จะใส่ เพราะเสียงสนับสนุนจากเจ้าของร้านและเสียงอ้อนของแฟน?ตัวเอง
"ต้องอย่างนี้สิ" ให้ทันได้อย่างนี้สิ แฟนใครเนี่ยน่ารักจริง ๆ
"อารอนเสร็จรึยังเนี่ย"
"เสร็จแล้ว"
"แล้วทำไมไม่ออกมาสักทีเล่า"
"ก็ไม่กล้านี่หว่า"
"ออกมาเถอะ ถ้าไม่ออกจะเข้าไปลากออกมานะ"
"ไม่ต้อง ไม่ต้อง ไม่ต้อง ออกเองได้"
"ก็รีบออกมาสิ"
"น่ารัก"
หลังจากเวลาผ่านไปร่างบางที่เปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ในห้องลองก็ไม่ยอมออกมาสักที ร่างสูงจึงต้องเอ่ยปากเรียก พร้อมกับบังคับให้อีกคนออกมา ก่อนที่สองเท้าของร่างบางจะค่อย ๆ ก้าวออกมาจากห้องลองเสื้ออย่างเก้ ๆ กัง ๆ ก่อนที่จะออกมายืนอยู่ตรงหน้าของแบคโฮในที่สุด ซึ่งทันทีที่ได้เห็นคำเดียวที่แบคโฮนึกออก แล้วพูดได้อย่างไม่อายเลยคือน่ารัก เมื่ออารอนใส่ชุดนี้แล้วมันน่ารักมากจริง ๆ รวมกับท่ายืนที่ยุกยิกเขินอายของอารอนที่ไม่มั่นใจกับชุดที่ตัวเองใส่อยู่ตอนมันยิ่งทำให้ร่างบางตรงหน้าเขานั้นน่ารักไปอีกหลายเท่าเลยทีเดียว
"ว่าอะไรนะ"
"ก็น่ารักไง"
"บ้าชมกันแบบนี้ก็เขินเป็นนะ แล้วเดี๋ยวแกก็เปลี่ยนด้วยหรอ"
"ก็ใช่สิ เพราะฉันจะพานายไปเที่ยว"
"ไปเที่ยว!?"
"อืม ไปเที่ยว คุณน้าคับผมฝากชุดนักเรียนไว้ที่นี่ก่อนได้ไหมคับ เดี๋ยวผมจะกลับมาเอา"
"ได้สิ ตามสบายเลยนะ จะไปไหนก็ไปเลย เที่ยวให้สนุกนะจ๊ะแบคโฮ กลับก็มีหลานมาฝากน้าด้วยเลยแล้วกัน"
"เร็วไปคับคุณน้า แค่จะเที่ยวกันเฉย ๆ คนนี้รักจริงหวังแต่งไม่มีล่วงเกินอะไรแน่นอนครับ"
"จ้า ๆ ไปเถอะ"
"เดี๋ยว ๆ แบคโฮที่พูดกันเนี่ยหมายความว่าไง" เอิ่มคือทำไมพูดเหมือนสนิทกันจัง แล้วอะไรคือมีหลานมาฝาก ยังมีอะไรในตัวแบคโฮที่กรูไม่รู้อีกแล้วใช่ไหม แหมตั้งแต่เปิดตัวคบกันในฐานะมากกว่าเพื่อนนี่มีเรื่องมาให้เซอร์ไพรส์เยอะจริง ๆ
"ก็เนี่ยร้านน้าฉันเอง ไปกันเถอะ" พูดจบแบคโฮก็ลากอารอนออกจากร้านเลย ไม่ถงไม่ถามสุขภาพอารอนสักคำ
"เอ๊ะ ๆ" โอ้ยนี่ก็ลากอยู่ได้ ห้ามก็ไม่ฟัง ตั้งแต่ตกลงคบกันนี่วันนี้โดนแบคโฮลากไปทำนู่นทำนี่กี่รอบแล้วเนี่ย ห้ามก็ไม่ฟังเอาแต่ใจชะมัด ตกลงคิดถูกรึคิดผิดที่ยอมตกลงเป็นแฟนกันเนี่ยโอ้ย แล้วเดี๋ยวนะถ้าคบกันไปนาน ๆ จะโดนลากขึ้นเตียงด้วยไหมเนี่ย เอ้ย! คิดไกลไปไหนแล้วเนี่ยกรู
"ว้าว ที่นี่ที่ไหนอ่ะแบคโฮบ้านใครอ่ะ"
หลังจากการเดินทางที่ยาวนาน แบคโฮก็ขับพารถพาอารอนมาหยุดมาหยุด ๆ อยู่ที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง เป็นบ้านที่หลังไม่ใหญ่ แต่ว่าตกแต่งอย่างสวยงาม แถมยังเป็นบ้านที่อยู่ติดทะเลอีกต่างหาก บ้านหลังนี้สวยมากจริง ๆ เรียกว่าเป็นบ้านในฝันของใครหลาย ๆ คนเลยล่ะ
"สวยใช่ไหมล่ะ บ้านฉันเอง"
"อืมสวยมากเลย ว่าแต่ไม่เคยยักจะรู้ว่านายจะรวยขนาดนี้นะ" หลังจากพิจารณาดูบ้านหลังนี้แล้ว เป็นบ้านที่หลังไม่ได้ใหญ่มากแต่การตกแต่งภายนอกนั้นดูสวยงาม แถมด้านหน้าของบ้านยังติดทะเลอีกต่างหาก ราคาคงไม่ใช่น้อยแน่ ๆ
"ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องบอกใคร แล้วชอบไหม"
"ชอบ ชอบมากเลยล่ะ" มันแน่อยู่แล้วที่ต้องชอบ บ้านหลังนี้มันเรียกได้ว่าเป็นบ้านในฝันของใครหลาย ๆ คน รวมถึงอารอนเองก็เช่นกัน ถ้าจะบอกว่าไม่ชอบก็คงจะแปลกไปหน่อย
"ฉันดีใจนะที่แกชอบ กว่าฉันจะเจอที่นี่นะรู้ไหมว่ายากแค่ไหน"
"ไม่รู้"
"ก็แน่อยู่แล้วล่ะ แต่ทีหลังไม่ต้องตอบก็ได้นะ คนจะโรแมนติก"
"อ้าวหรอไม่รู้นี่" อารอนตอบไปด้วยความที่เป็นคนซื่อ ๆ ตรง ๆ ก็ถามมาก็ต้องตอบสิ เดี๋ยวไม่ตอบก็กลัวว่าจะว่ากันอีกนี่นา
"ช่างเถอะ แต่อารอน"
"ขออะไรอย่างได้ไหม"
"ขออะไรล่ะบอกมาก่อน" จะให้รับปากเลยทันทีนี่ไม่น่าไว้ใจ เพราะตั้งแต่ตกลงคบกันเป็นแฟนนี่รู้ลึกจะเสียรู้ตลอด ๆ ครั้งนี่ไม่ยอมแล้วบอกเลย โฮ๊ะ ๆๆๆ
"ถอดแว่นหน่อยได้ไหม"
"ถอดทำไมเล่า ถ้าถอดก็มองไม่เห็นสิ" จะบ้าปะเนี่ยอยู่ ๆ ก็มาบอกให้ถอดแว่น ถอดแล้วจะมองเห็นได้ไงกันเล่า
"นี่ก็เรื่องมากจริง" โอเคในเมื่อเรื่องมากนักก็ถอดให้เลยแล้วกันนะ
"เอ้ย เอาคืนมานะ" อารอนพยายามแย่งเอาแว่นของตัวเองที่อยู่ในมือแบคโฮกลับมา แต่ก็เหมือนจะไม่ได้เพราะความสูงที่ต่างกัน = =
"ไม่ให้ ว่าแต่ทำไมพอถอดแว่นแล้วไม่เหมือนในละครเลยเนี่ย"
"อะไรไม่เหมือน" อะไรคือไม่เหมือนในละคร หมายถึงอะไรเนี่ย มาแกล้งคนอื่นแล้วยังจะพูดอะไรแบบนี้อีกหรอ
"ก็เวลาในละครพอนางเอกถอดแว่นแล้วน่ารักขึ้นใช่ป่ะ แต่นี่ทำไมถอดแล้วแย่กว่าเดิม"
"ไอ้บ้าแบคโฮ เอาคืนมาเลยนะ" ย๊าไอ้บ้านี่ มาแกล้งคนอื่นแล้วยังจะพูดจาแบบนี้อีกมันน่าทืบจริง ๆ เลย
"ไม่คืน"
"ก็บอกว่าไม่น่ารักไม่ใช่รึไง"
"ล้อเล่นหน่า ก็แค่อยากให้โมโหเวลาโมโหแล้วน่ารักจะตาย" แบคโฮพูดพร้อมกับใช้สองมือหนาดึงเอวบางของอารอนเข้ามากอดไว้
"ปล่อยนะ โรคจิตอ๋อชอบเวลาโมโหเนี่ย ทำไมชอบฉวยโอกาสอยู่เรื่อยเนี่ย แล้วก็เอาแว่นคืนมาได้แล้ว"
"ไม่คืนได้ไหม"
“เอาคืนมา ฉันมองไม่เห็น”
“ก็ถ้ามองไม่เห็นฉันจะยืนอยู่ใกล้ๆนายแบบนี้ กอดนายไว้แบบนี้ นายจะได้เห็นฉันชัด ๆ ไง”
“เอ้ยไม่เกี่ยวกันสักหน่อย ฉันหมายความว่าฉันจะมองไม่เห็นทางอะไรอย่างงี้ไม่ได้อะไรกับนายสักหน่อย” แก้มใส ๆ ของอารอนเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ เพราะความเขินจากที่อีกคนพูดมาเมื่อ บ้า แบคโฮบ้ามาพูดอะไรแบบนี้เนี่ย เขินนะ
“ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย ถ้านายมองไม่เห็นฉันจะพานายไปเองทุกที่ที่นายต้องการ ฉันจะอยู่ข้างๆนายตลอด”
“แบคโฮ ถ้าหากวันนึงนายเกิดทิ้งฉันไปแล้ว แล้วฉันจะเดินต่อไปยังไง ฉันจะใช้ชีวิตแบบเดิมได้ยังไง ในเมื่อนายทำให้ฉันมองไม่เห็นมันแล้ว” อารอนพูดพร้อมกับมองเข้าไปในดวงตาของอีกคน เพื่อถามหาคำตอบ
“ก็ไม่ยากนี่แกก็ไปตัดแว่นใหม่ หรือไม่ก็ซื้อคอนแทคเลนส์มาใส่สิง่ายจะตาย เห็นไหมล่ะ”
“ไอ้แบคโฮ ไอ้บ้าแกมันมักง่ายจริงๆเลยนะ เอาแว่นฉันคืนมาเลย” ไอ้บ้านี่จะเอาไงแน่จะเอาบทซึ้งรึยังไง ทำไมชอบแกล้งกวนประสาทกันอยู่เรื่อยเลยเนี่ย
“ใจร้อนจริงๆเลยนะอารอน”
“ปล่อยฉันเลยนะไม่ต้องมากอด”
“อารอน”
“อะไร”
“ฉันหน่ะไม่มีทางทิ้งนายไปหรอกนะ ฉันจะอยู่ข้างๆนายตรงนี้ ฉันจะดูแลนายให้ดีที่สุด จะอยู่กับนายตลอดไป”
"สัญญา?"
"ฉันสัญญา ฉันรักนายนะอารอน" แบคโฮพูดพร้อมกับค่อยโน้มตัวลงมาหาคนที่อยู่ในอ้อมกอด
"จะทำอะไร อย่านะ" อารอนร้องห้ามทันที ที่อีกคนเริ่มเข้ามาใกล้มากขึ้น และทันทีที่รู้สึกว่าลมหายใจของอีกคนใกล้เข้ามาจนเกือบที่สัมผัสกัน อารอนก็หลับตาปี๋ด้วยความกลัวบวกกับตื่นเต้น กับการโดนจูบบอกเลยว่าอารอนยังไม่ชินน้าาา แต่ว่า....
"อ่ะอ่าวไม่ได้จะจูบหรอกหรอ" เวลาผ่านไปสักพักอารอนก็ไม่ได้รู้สึกถึงสัมผัสของคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย อารอนเลยลืมตาขึ้นมาก็พบว่าอีกคนกำลังมองหน้าเขาแล้วก็ยิ้มอยู่
"ฮ่าๆ ก็เห็นหลับตาปี๋คิดว่ากลัว"
"อ่าวก็คนมันตื่นเต้นนี่หว่า"
"งั้นถ้าสอนให้ทำบ่อย ๆ คงไม่ตื่นเต้นแล้วสินะ"
"อุ๊ปส์"
คราวนี้แบคโฮไม่รอให้อีกคนได้ตั้งตัว กดจูบลงไปบนฝีปากบางของอีกคน จูบที่แผ่วเบาเพื่อให้อีกคนได้ตั้งตัว ก่อนที่จะค่อยชิมความหวานจากริมฝีปากบางทีละน้อย อารอนค่อย ๆ ตอบรับกับจูบที่แบคโฮมอบให้อย่างเก้ๆ กังๆ เมื่อเห็นว่าอีกคนไม่ได้เป็นแบบครั้งแรก แบคโฮจึงจัดการค่อย ๆ แทรกลิ้นร้อนเข้าไปกวาดชิมความหวานจากด้านใน ลิ้นเล็กก็ตอบรับสัมผัสนั้นเช่นกัน และทั้งสองก็จ่มดิ่งอยู่ในสัมผัสของกันและกันอย่างยาวนาน ท่ามกลางบรรยากาศยามเย็นของท้องฟ้าที่กำลังจะลับขอบฟ้าอันแสนสวยงามที่สามารถพาทั้งสองให้จมลึกไปในสัมผัสของกันและกันได้มากขึ้นไปอีก
"คราวนี้ไม่สลบอีกหรอ"
"จะพูดถึงทำไมเนี่ย อายนะ"
"ว้ากะว่าถ้าสลบไปอีกรอบ จะพาได้พาไปนอนบนเตียงทดสอบความนุ่มซะหน่อย"
"ทะลึ่ง"
"คิดอะไรเนี่ย แค่จะพาไปนอนเฉย ๆ คิดอะไรทะลึ่งนะเรา"
"ไอ้บ้าแบคโฮ ทำไมชอบแกล้งกันอยู่เรื่อยเลยนะ"
"ถึงจะชอบแกล้ง แต่ก็รักใช่ไหม"
"ก็รู้นี่"
"อีกรอบได้ม่ะ"
"อืม"
"ใจง่ายจริงขออีกรอบก็ให้"
"ไอ้บ้าแบคโฮ งั้นก็ปล่อยเลย ไม่ต้องมายุ่งแล้ว"
"โอ๋ อย่างอนดิแค่ล้อเล่นหน่า"
"แล้วดูพูดดิมันน่าไหม ไม่ต้องมาจับเลยนะ"
"ขอโทษนะ ๆ ดีกันนะ จุ๊บ จุ๊บ" แบคโฮพูดชอบกับจุ๊บลงไปบนแก้มใสของอีกคนในอ้อมแขน
"เอ้ย ๆ พอแล้วแก้มช้ำพอดี"
"ก็อยากน่ารักเองทำไมเล่า"
"ก็ช่วยไม่ได้คนมันเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เกิด" เกิดมาไม่เคยพูดอะไรแบบนี้แต่ว่าวันนี้ขอสักรอบเป็นไรไป ไม่ใช่ไหมเขินนะ แต่ดขินม๊ากมากบอกเลย
"ถ้าอย่างนั้นต่อไปนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับคนน่ารักก็ไม่รู้ด้วยแล้วนะ คืนนี้ค้างที่นี่กันเลยแล้วกัน"
"ว๊าก! ปล่อยฉันลงนะ"
ว่าแล้วแบคโฮก็จัดการช้อนตัวอุ้มคนตัวเล็กกว่าขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะทำการวิ่งลงทะเล
"มาเล่นน้ำกันเถอะ!"
.......อ้าว! นึกว่าจะพาเข้าบ้านซะอีก
ถึงแม้ตอนนี้สถานะของเราสองคนก็เป็นอะไรที่มากกว่าเพื่อนกันแล้ว แต่ทุกอย่างยังดำเนินไปเหมือนปกติ แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปคือความรู้สึกของเราที่มีเพิ่มมากขึ้นมากกว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา เพราะตอนนี้เราเป็นแฟนกันแล้วนี่นา ^^
-จบแล้วจ้า-
ถ้ามีอะไรผิดพลาดต้องขออภัยด้วยนะคะ
ความคิดเห็น