คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : [SF] One-Piece.. ch.3
สามเดือนผ่านไปไวเพราะโกหก
“ทุกคนวันนี้ไปเที่ยวกันนะ เลิกเรียนไปเที่ยวกันเฮอะไปเดินเล่นกัน” เสียงแจ้ว ๆ จากใครบางคนที่เพื่อนเยอะมากเอ่ยปากชวนเพื่อน ๆ ทุกคนไปเดินเที่ยวด้วยกันเพราะ ณ เวลานี้อารอนเบื่อมากกก
“โหย ไอ้ร่อนมึงมาชวนกะทันหันแบบนี้ กูไปไม่ได้ว่ะ” เสียงเพื่อนในห้องคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
“กูก็ไปไม่ได้ว่ะกูมีนัด”
“กูก็มีธุระ”
“กูด้วย”
“ฉันก็มี”
หลังจากอารอนเอ่ยปากชวนเพื่อนจบ ก็ได้รับกระแสตอบรับการชวนดีมากเริ่มจากเสียงแรกมาจนถึงตอนนี้ก็เกือบจะคนสุดท้ายและที่บอกกับเค้าว่าไปไม่ได้ = =
“อ๋อ สรุปนี่พวกมึงไม่มีใครอยากไปเที่ยวกับกูเลยใช่ไหม ไอ้พวกเพื่อนเฮงซวย T^T ทำไมอารอนน่าสงสารอย่างงี้” ว่าแล้วอารอนก็เบะปากทำหน้าตาน่าสงสาร น้อยใจเพื่อน ๆ ในห้อง
“พวกกูไม่ผิดนะ อารอนที่น่ารักอยากชวนแบบกระทันเองนินา พวกกูก็เลยไปไม่ได้ ขอโทษนะไว้โอกาสหน้าแล้วกัน”
“เออ กูมันผิดเองแหล่ะที่ชวนไม่รู้เวล่ำเวลา พวกมึงจะไปไหนก็ไปกันเฮอะกูไม่รบกวนแล้ว”
“น้อยใจหรอว่ะ”
“กูเปล่า”
“เออ งั้นกูไปก่อนนะโว้ย”
อารอนก็ปัดมือหยอย ๆ เพื่อเป็นการไล่พวกเพื่อน ๆ ที่สุดแสนจะน่ารักให้ไปไว ๆ โธ่อารอนอุตส่าห์ชวนไม่มีใครไปกับอารอนคนนี้เลยหรอ ทำไมน้อผมช่างเป็นอารอนน้อยน่ารักที่น่าสงสารอะไรอย่างงี้ T^T
ฮึฮึฮึ แต่ว่ายังเหลืออีกสี่คนที่จะเป็นเหยื่อได้
“แบคโฮ ไปเที่ยวกันนะ” เหยื่อรายแรกของอารอนที่อยากให้ไปด้วยมากที่สุด
“ไม่เอาไม่ไปฉันอยากกลับไปพัก”
“แบคโฮ นี่นายไม่อยากไปกับฉันหรอ”
“เปล่านี่ ฉันแค่อยากไปพักจริง ๆ นายก็น่าจะกลับไปพักสิ”
“อืม ไม่อยากก็ไม่เป็นไร” แบคโฮจะไปเป็นเพื่อนหน่อยก็ไม่ได้ ชริ
“เร็น ฉันรู้ว่าเร็นต้องไปกับฉันแน่ ๆ ใช่ไหม” คราวนี้เป็นเร็นอารอนไม่ขอ แต่ออกแนวบังคับซะมากกว่า
“ไปสิ ไปเดินเล่นก็น่าสนุกดีกลับบ้านเร็วบางทีก็น่าเบื่อ"
“เย้ เร็นน่ารักที่สุดเล้ย ไม่มีใครกับฉันแค่เร็นไปกับฉันคนเดียวก็ได้เน๊อะ” ว่าแล้วอารอนก็กระโดดเกาะแขนเร็นโดยไว
“นี่อารอนจะไปกับเร็นแค่สองคนไม่คิดจะถามฉันกับไอ้มินมันบ้างเลยหรอ”
“ถามสิ ต้องถามว่าแต่นายจะไปด้วยกันใช่ป่ะ เจอาร์”
“ฉันไป” เสียงมินฮยอนพูดขึ้นโดยไม่รอคำถามจากอารอน
"....." และความเงียบก็ก่อตัวพร้อมกับสายตาทุกคู่ที่จ้องไปยังมินฮยอน
“โอเคงั้นเราสี่คนไปกัน เที่ยวให้สนุกไปเลย ปล่อยไอ้อ้วนมันไปนอนอืดที่บ้านคนเดียว”
และแล้วเราทั้งห้าคนก็เดินมาเรื่อย ๆ (ไม่ผิดหรอก มันคือห้าคนจริง ๆ เพราะมีคนที่บอกว่าไม่อยากมาแต่ก็เดินตามมาด้วย ซะอย่างงั้น) จนถึงย่านร้านค้าย่านวัยรุ่นแถวโรงเรียนที่หลาย ๆ คนจะชอบมาเดินเล่นกันตอนเย็น ๆ เพราะมันอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนที่พวกเค้าเรียนมากนัก
“นี่แบคโฮอ่า ที่แกมาเนี่ยเพราะว่าหึงฉันเพราะเร็นมาด้วยใช่ไหมล่ะ” คนตัวเล็กแซวไอ้เพื่อนที่บอกว่าจะไม่มาแต่ไฉนเลยกลับเดินตามมาด้วยก็ไม่รู้ ด้วยในใจก็หวังจะให้คำตอบคือคำว่าใช่ นั่นหมายถึงว่าแบคโฮคงจะมีใจให้เค้าบ้าง
“อื้อ”
“ห๊ะ” คนตัวเล็กตกใจจากเสียงตอบรับที่ได้ยิน ถึงกับหยุดนิ่งไป
“นี่แกเชื่อฉันด้วยหรอ ไอ้ซื่อบื้อ” ว่าแล้วคนตัวสูงก็เดินมาขยี้หัวคนตัวเล็กกว่าก่อนที่จะเดินแซงนำหน้าไป
“ไอ้บ้า ใครจะไปเชื่อแก แล้วฉันก็ไม่ได้ซื่อบื้อด้วยโว้ย” คนตัวเล็กกว่าได้แต่ว่าไล่หลังคนตัวสูงไปแต่ในใจชีช้ำมั๊ก ‘แบคโฮ อย่ามาล้อเล่นกับความรู้สึกกันแบบนี้ ถ้านายไม่ได้คิดอะไรจริง ๆ’
“เป็นอะไรรึเปล่าอารอน” เร็นที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กับอารอน ถามขึ้นเพราะว่าสีหน้าอารอนตอนนี้ดูไม่ดีเท่าไหร่
“เปล่า เราไปกันเถอะ” แล้วอารอนก็คว้าแขนของเร็นมาควงไว้แล้วก็รีบเดินให้แซงหน้าแบคโฮไป ได้ไม่ได้คิดอะไรใช่ไหมงั้นเดินควงกันแบบนี้ก็คงไม่คิดอะไรอีกสินะ
“มินฮยอนเรามาควงกับแบบคู่นั้นไหม น่ารักดีออกนะ” เจอาร์ไม่ได้พูดเปล่า แต่ว่าเดินเข้าไปจับมือมินฮยอนมาควงเอาไว้แล้วล่ะ
“น่ารักกับผีสิ”
“หึงหรอ เห็นอารอนเมื่อกี้อยากเข้าไปปลอบแต่ทำไม่ได้เพราะมีเร็นอยู่ใช่ไหมล่ะ"
“หุบปากไปเลยไอ้เจอาร์” นี่ถ้ามึงพูดอีกกูจะรับประทานหัวคุณมึงแล้วนะไอ้เจอาร์
“พูดแทงใจดำล่ะสิ ก็แล้วทำไมแกไม่หัดมองคนข้างตัวบ้างล่ะ มองแต่คนนั้นอ่ะคนที่เค้าไม่ได้รักแก”
“ไอ้..”
“แล้วที่มาเนี่ยเพราะอยากมากับเขาใช่ไหมล่ะ แล้วเจ็บไหม ถึงเค้าไม่ได้ควงคนที่เค้าแอบชอบ แต่คนที่เค้าควงก็ไม่ใช่แกอยู่ดี”
“เจอาร์!” มินฮยอนตวาดใส่เจอาร์เพราะรู้สึกว่าไอ้นี่มันจะพูดแทงใจมากไปล่ะ
“เฮ้ย อะไรกันว่ะไอ้สองตัวนี่” แบคโฮที่เดินนำสองคนนี้อยู่ไม่ไกลมากนัก หันมาแซวเพราะเห็นอะไรงุ้งงิ้งกันสองคนมาสักพักและ
“ก็ไอ้เชี่ยนี่พูดกวนประสาท”
“กวนประสาทหรือว่าแทงใจดำ”
“พวกมึงก็จะจีบกันทั้งทีจะทะเลาะกันหาไรว่ะ” แบคโฮก็แซวไปกลัวไอ้สองคนนี้มันตีกันตายซะก่อน
“จีบกับผีสิ มึงก็ปล่อยแขนกูได้แล้ว เกาะอยู่ได้รำคาญ” ว่าแล้วมินฮยอนก็หันไปบอกไอ้คนที่เกาะแขนเค้าอยู่เพราะรู้สึกว่ามันจะนานไปล่ะ
“เออปล่อยก็ได้ กูมีเรื่องสนุกให้ต้องทำอีก” ว่าแล้วก็ปล่อยมือออกพร้อมกับยิ้มด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
‘ไอ้นี่มันจะทำอะไรอีกว่ะ’ ความคิดของมินฮยอนตอนนี้ที่มีให้เจอาร์คือความไม่ไว้ใจ เพราะดูจากสายตาเจอาร์แล้วไม่น่าไว้ใจเลยจริง ๆ
“ว่าแต่นี่มึงนะไหนบอกว่าอยากกลับบ้านไปพักผ่อน แล้วไมมาแรดอยู่ตรงนี้” มินฮยอนเปลี่ยนเรื่องมาถามไอ้คนที่บอกว่าจะไม่มาแต่ดันมาเดิน แรดอยู่แถวนี้
“นี่แหล่ะการพักผ่อนอีกรูปแบบนึงที่กูพึ่งคิดได้”
“แถชิบหาย ที่มาเนี่ยมึงตั้งใจตามใครมามากกว่า” เจอาร์ผู้ที่ยังคงพูดแทงใจคนอื่นไปเรื่อย และพร้อมจะดำเนินแผนการขั้นต่อไป
“ปากมึงนี่วอนจริงนะไอ้เจอาร์ รู้อะไรก็เก็บ ๆ ไว้เฮอะ” แบคโฮตอกกลับไป
“มึงชอบใคร มึงก็บอกเค้าไประวังจะโดนสุนัขคาบไปไม่รู้ตัวนะไอ้แบคโฮ” เจอาร์บอกกับแบคโฮไปเพราะเค้ารู้ว่าแบคโฮหน่ะชอบใคร แต่ก็ปากแข็งไม่ยอมบอกไปซักที (เรื่องที่เจอาร์รู้ไม่ได้มีแค่นี้หรอกนะ แต่เจอาร์หน่ะรู้ทุกเรื่อง)
“แบคโฮ” และในระหว่างที่เดินกันอยู่นั้น จู่ ๆ เจอาร์ก็โพล่งเรียกแบคโฮขึ้นมาซะอย่างงั้น
“อะไรว่ะ”
“สเป็คมึงเป็นแบบไหน”
“ห๊ะ!” แบคโฮตกใจกับคำถามที่เพื่อนตั้งให้อย่างไม่ทันตั้งตัว
“มึงชอบคนแบบไหน ตอบมาสิ”
‘ไอ้เจอาร์มึงคิดจะทำอะไร มาถามห่าไรตอนนี้ว่ะไอ้เวร แล้วกูจะบอกว่าอะไรว่ะเนี่ย’
“กูไม่ตอบได้ไหม กูคิดไม่ออก”
“ไม่ได้ มึงต้องตอบเดี๋ยวนี้” เจอาร์พูดอย่างหนักแน่น และเน้นเสียงต่ำกับคำว่าเดี๋ยวนี้
‘มึงจะคิดทำอะไรเจอาร์’ มินฮยอนคิดในใจและมองเจอาร์ที่ไม่รู้ว่าตอนนี้เจอาร์กำลังคิดจะทำอะไรกันแน่ อย่างที่บอกเจอาร์รู้ทุกอย่างที่คนอื่นไม่รู้
“กูชอบ ชอบ....”
ตอนนี้ทุกคนต่างก็กำลังลุ้นคำตอบของแบคโฮ รวมทั้งอารอนที่เดินนำสามคนนี้อยู่แต่ก็หยุดฟังเพราะเค้าก็อยากจะรู้เหมือนกัน
“ชอบคนที่เหมาะกับชุดนั้น” ว่าแล้วแบคโฮก็ชี้ไปที่ชุดที่โชว์อยู่หน้าร้านร้านหนึ่ง ‘ก็ไม่รู้ว่าจะบอกยังไงนี่ เห็นชุดนั้นก็เลยชี้ ไปก่อนล่ะ’
“งั้นแสดงว่ามึงชอบคนที่น่ารักงั้นสิ” เจอาร์หันไปถามอีกครั้ง
“คงงั้นมั้ง” แบคโฮตอบส่ง ๆ แล้วเดินหนีไป
แม้ว่าตอนนี้คนอื่นจะเดินไปแล้วตอนนี้เหลือแต่อารอนกับเร็นที่ยังยืนอยู่ที่หน้าร้านเสื้อร้านนั้น
ทำไมอารอนถึงยังยืนอยู่หรอ ก็เพราะว่าชุด ๆ นี้มันชุดเดียวกับที่อารอนหยุดดูเมื่อวันนั้น
‘งั้นหรอ แบคโฮชอบคนที่น่ารัก น่ารักที่เข้ากับชุดนี้หรอ งั้นคงไม่ใช้ชั้นหน่ะสิ’
“ชุดนี้มันน่ารักมากเลยนะ” เร็นพูดขึ้นมาพร้อมกับมองไปที่ชุดที่แบคโฮพูดถึงเมื่อกี้ด้วย
“อืม น่ารักมาก” อารอนหันไปมองเร็นที่กำลังมองชุดนี้ก็พบว่าคนตรงหน้าเค้าตอนนี้ก็น่ารักมาก
คนที่น่ารักเข้ากับชุดนี้หรอ
เร็นก็น่ารัก ดูแล้วน่าจะเหมาะกับชุดนี้ที่สุด หรือว่า...
แบคโฮจะชอบ....
เฮ้อ คงไม่ใช่หรอก อารอนอย่าคิดมากไปเอง
“อย่าทำอะไรแบบที่คิดเพราะว่ามันจะไม่มีทางสำเร็จ” เจอาร์เดินไปข้าง ๆ เร็นแล้วพูดกับเร็นเบา ๆ
เร็นหันไปมองคนข้าง ๆ อย่างรวดเร็ว นี่มึงรู้ว่ากูจะทำอะไรใช่ไหม
“เฮ้ย นั่นพี่ยูอีAfter schoolนี่หว่า ตัวจริงโคตรสวย มาทำอะไรนี้ว่ะ” เจอาร์ซึ่งเปลี่ยนโหมดของตัวเองได้ไวมาก = =
“แล้วไง” มินฮยอนกันไปถามคนข้าง ๆ แบบเพลีย ๆ ไอ้บ้านี่บางทีมันก็บ้าดาราใช่เล่น = =
“ไม่แล้วไง กูจะตามไปดู”
“เฮ้ย มึงจะทิ้งเพื่อนงี้หรอว่ะ”
“เออ กับพวกมึงกูเจอตอนไหนก็ได้ แต่พี่ยูอีไม่ได้เจอง่าย ๆ นะโว้ย” พอพูดจบก็วิ่งไปเลยไม่ได้มีความใยดีเพื่อน ๆ สักนิด
“เชี่ยแม่งเอ้ย ไอ้เวรนี่ เดี๋ยวกุตามมันไปเอง พวกมึงสามคนไปก่อนเลย เดี๋ยวมีอะไรกุโทรไป” เจอาร์มึงนี่จะทำอะไรอีก แล้วทำไมกุจะต้องตามมึงด้วยว่ะกุไม่เข้าใจตัวเองเล้ยจริง ๆ มินฮยอนบ่น ๆ ในใจ แต่ก็ตามเจอาร์ไปอยู่ดี = =
สามคน อารอน เร็น แบคโฮ
เออก็ดีแม่งทิ้งให้อยู่กันสามคนเนี่ยนะ ดีจริง ๆ
“เออนี่อ้วน แกบอกว่า แกชอบคนที่เหมาะกับชุดนั้นใช่ไหม” ไม่รู้ทำไมอยู่อารอนก็อยากถามคำถามนี้กับแบคโฮขึ้นมา อาจเป็นเพราะว่าเค้าเป็นคนที่สงสัยอะไรแล้วต้องรู้ให้ได้ คำถามตอบของแบคโฮจะเป็นยังไงกันนะ
“อืม”
“แล้วฉันเหมาะกับชุดนั้นป่ะ”
“ไม่” คำตอบของแบคทำเอาอารอนแทบจะเป็นลม อารอนแกบ้าไปแล้วแน่ ๆ ถามคำถามเพื่อทำร้ายตัวเองทำไม๊
“งั้น ถ้าเป็นเร็นล่ะ”
“อ้าวแล้วทำไมต้องเอาฉันไปเกี่ยวด้วย”
“ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่ถามดูเฉย ๆ หน่ะ”
“ก็คงเหมาะ เพราะว่าเร็นน่ารักนี่” อยากได้คำตอบแบบนี้ใช่ไหมอารอน ถ้าตอบแบบนี้นายคงจะพอใจและหยุดถามได้สินะ ไม่รู้จะถามเพื่ออะไร
“อืมใช่เนอะ เร็นน่ารักและเหมาะกับฉันที่สุด ไม่เหมาะกับนาย” อารอนหันไปบอกแบคโฮแล้วไปควงแขนเร็นเอาไว้ แล้วส่งสายตาไปหาแบคโฮบอกว่าคนนี้ของฉัน
“เป็นอะไรรึเปล่า” เร็นหันไปถามอารอนที่กำลังเกาะแขนเค้าอยู่ เพราะจากความรู้สึกตอนนี้คนข้าง ๆ เค้าดูไม่ดีเท่าไหร่
“เปล่า ^_^” อารอนหันไปบอกพร้อมรอยยิ้มเล็ก ๆ ให้เร็น แต่รู้ไหมดวงตากลมโตคู่สวยอันนั้นมันบอกความรู้สึกของเค้าตอนนี้ออกมาหมดเลย
‘นายชอบแบคโฮมากสินะ ฉันจะทำให้นายตัดใจเอง อารอน’
“เออนี่ว่าแต่พวกเราจะเดินกันอีกนานไหม ไปหาที่นั่งรอสองคนนั้นกันดีกว่า” เร็นพูดขึ้นเพราะว่าเค้ารู้สึกว่าตอนนี้อากาศมันเริ่มเย็นขึ้นมากแล้ว
“ไปดิ อากาศเริ่มหนาวขึ้นและ” อารอนตอบกลับไปพร้อมลูบไปที่ต้นแขนของตัวเองเบา ๆ เพราะลมที่พัดมาประทะกับตัวตอนนี้ยิ่งทำให้รู้สึกเย็นเข้าไปใหญ่
“ไปนั่งที่ร้านกาแฟร้านนั่นป่ะ จะได้ไปหาอะไรร้อน ๆ ดื่มด้วย” พอได้ยินอารอนพูดไปแบบนั้นเร็นจึงเอ่ยปากชวนให้เข้าไปที่นั่งที่ร้านกาแฟซึ่งอยู่ไปไกลนักจากที่พวกเค้ายืนอยู่
“อืม” อารอนตอบตกลงอย่างว่าง่ายเพราะตอนนี้เค้าหนาวมากแล้วจะให้ไปที่ไหนก็ได้ แม้แต่ร้านกาแฟที่เค้าไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับมันสักเท่าไหร่
“เดี๋ยวก่อนนายจะไปจริงหรอ” คนตัวโตที่นิ่งดูสองคนนี้ตกลงกันอยู่แปปนึงเอ่ยถามเพื่อนตัวเล็กขึ้น เพราะแบคโฮรู้ว่าไอ้ตัวเล็กนี่มันไม่ถูกกับร้านกาแฟเล้ย
“ก็เออดิ” จะถามทำไมเนี่ยคนหนาวจะตายอยู่แล้ว
“แต่นายกำลังจะไปร้านกาแฟนะ”
“ร้านกาแฟแล้วไง” คนตัวเล็กตอบกลับไปแบบส่ง ๆ เพราะอากาศที่หนาวเริ่มประทะตัวมากขึ้น คือแบบว่าฉันอยากไปให้พ้นจากกลางถนนนี่
“ก็นายกินกาแฟไม่ได้ไม่ใช่หรือไง”
“ร้านกาแฟไม่ได้มีกาแฟอย่างเดียว โอเค๊ ว่าแต่จะมาห้ามฉันเนี่ย นายเป็นห่วงฉันมากใช่ไหมล่ะ” ในใจตอนนี้อารอนก็แอบดีใจบ้างว่าที่แบคโฮถามแบบนี้คงต้องเป็นห่วงเค้าแน่ ๆ
“เปล่า ฉันก็แค่ไม่อยากลำบากไม่อยากยุ่งยากถ้าเกิดแกเกิดเป็นอะไรไป”
“เออ ฉันก็ไม่น่าถามแกเลย” ไอ้แบคโฮคอยดู๊แม่จะสั่งกาแฟมากินเอาให้น็อคตายคาร้านเลยดูสิจะสนใจไหม ชริ
แล้วทั้งสามก็เข้ามาที่ร้านกาแฟ ที่บรรยากาศดูสงบ ตกแต่งแบบสบาย ๆ ภายในร้านก็อบอุ่น แล้วก็มีกลิ่นหอม ๆ ของกาแฟก็ฟุ้งกระจายไปทั่วร้าน ใช่ที่นี่คือร้านกาแฟแล้วก็มีกลิ่นกาแฟไปทั่วร้าน
กลิ่นกาแฟที่ใครก็ว่าหอมแต่สำหรับอารอนมันก็หอมจริง แต่กลิ่นนี้มันก็ทำให้เค้ามึนหัวด้วยเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าอารอนจะไม่ชอบกาแฟ เค้าชอบและอยากกินมันมาก แต่ทุกครั้งที่กินเค้าไปเค้าก็จะรู้สึกมึนหัวแล้วก็ง่วงทุกครั้งเลย คนอื่นอาจเมาเหล้าแต่อารอนนั้นเมากาแฟ (แปลกดีจริง ๆ)
“พวกนายไปนั่งรอตรงนั้นนะ เดี๋ยวฉันไปสั่งมาให้เอง" อารอนที่เข้ามาถึงในร้านก็บอกให้เร็นและแบคโฮไปนั่งที่โต๊ะที่อยู่มุมร้านติดกับกระจก ซึ่งสามารถมองเห็นข้างนอกได้อย่างชัดเจน
“เดี๋ยวฉันไปเองไอ้หมีแกไปนั่งรอเถอะ” แบคโฮบอกกับอารอนให้ไปนั่งน่าจะดีกว่า ร้านกาแฟก็ไม่ค่อยจะได้เข้าเท่าไหร่จะไปสั่งให้แล้วจะสั่งถูกไหม
“ไม่ต้อง ไม่ต้องพวกนายไปนั่งเถอะ แล้วจะกินอะไรบอกมา”
“เออ ก็ได้ ฉันเอากาแฟร้อนแก้วนึงก็พอ”
“ส่วนฉันเอาลาเต้นะ” เร็นตอบ
“โอเค”
แล้วอารอนก็เดินไปยังเคาน์เตอร์บาร์เพื่อไปสั่งกาแฟ โดยปล่อยให้สองคนไปนั่งจ้องหน้ากันอยู่ที่โต๊ะเพียงลำพัง
"นี่แบคโฮ" หลังจากที่เงียบอยู่แปบนึงเร็นก็เป็นฝ่ายพูดก่อน
"อะไร"
"นายกับอารอนเป็นอะไรที่มากกว่าเพื่อนรึเปล่า" อยู่ ๆ เร็นก็ตั้งคำถามนี้ขึ้นมาถามคนตรงหน้าซะอย่างงั้น
"ไม่นี่ เราก็เพื่อนกัน ทำไมนายมีอะไร" แบคโฮสงสัยคนตรงหน้าอยู่ ๆ ทำไมมาถามอะไรแบบนี้
"อ๋อ เห็นนายสองคนสนิทกันมากฉันก็เลยแอบคิดว่าบางทีนายอาจจะชอบอารอนมากกว่าเพื่อนก็ได้"
"เปล่า ฉันไม่ได้คิดอะไรมากกว่านั้นหรอก"
"จริงนะ ช่วยยืนยันอีกทีได้ไหมว่านายไม่ได้คิดอะไรกับอารอนมากกว่าเพื่อนจริงๆ"
"ก็จริงสิ"
"ขอบใจนะ" ว่าแล้วก็ส่งรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่แอบแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ไปให้คนตรงหน้า ก่อนที่จะเอียงตัวไปทักคนที่ตอนนี้อยู่ด้านหลังแบคโฮ
"อ้าวอารอนมาแล้วหรอ นายนั่งกับแบคโฮแล้วกันนะ" พูดพร้อมมองไปที่อารอนแสร้งทำเป็นว่าพึ่งเห็นอารอนเดินมาที่โต๊ะ
คนตัวใหญ่ที่นั่งหันหลังให้กับคนที่อยู่ในบทสนทนาเมื่อกี้ ไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองคนที่เป็นเพื่อนสนิท 'แล้วเมื่อกี้ไอ้ร่อนมันได้ยินไหมว่ะเนี่ย'
"อื้อ" คนตัวเล็กตอบพร้อมกับค่อย ๆ นั่งลงไปที่ว่างข้าง ๆ เพื่อนคนที่แอบรัก ตอนนี้หน้าของอารอนแทบจะทำอะไรไม่ถูก ไม่อยากนั่งตรงนี้ไม่อยากเลย ไม่กล้าจะมองหน้าคนตรงหน้าเลยตอนนี้ แม้ความรู้สึกตอนนี้อาจจะไม่ใช่ความผิดของแบคโฮเลยก็ตาม อาจเป็นความผิดของเค้าคนเดียวที่แอบรักคนคนนี้อยู่ข้างเดียว
แม้จะเป็นฝ่ายแอบรักมาตลอด แต่อารอนก็แอบมีความหวังว่าแบคโฮอาจจะรู้สึกอะไรกับเค้าบ้าง เพราะการกระทำบางอย่าง แต่เมื่อได้ยินที่แบคโฮพูดเมื่อกี้ อารอนแทบจะใจสลาย ใช่บทสนทนาระหว่างเร็นและแบคโฮเมื่อกี้อารอนได้ยินทั้งหมดและได้ยินมันตั้งแต่เริ่มต้น
'หึ อารอนนายได้ยินทั้งหมดแล้วสินะ' เร็นที่เห็นอารอนเดินมาตั้งแต่ทีแรก และก็เป็นคนตั้งใจจะถามเรื่องนี้ให้อารอนได้ยิน ซึ่งต่างจากแบคโฮที่นั่งหันหลังให้กับเคาน์เตอร์ของร้าน จึงไม่เห็นว่าอารอนเดินมาที่โต๊ะแล้ว
“ไอ้หมี เป็นไรป่าวเมากาแฟอีกไง หน้าดูมึน ๆ นะแกอ่ะ” แบคโฮถามอารอนไปตามปกติแบบที่เค้าจะทำ แต่ในใจก็ยังคิดอยู่ว่าอารอนจะได้ยินที่เค้าพูดเมื่อกี้ไหม แต่ถึงได้ยินก็คงไม่เป็นไรใช่ไหมเพราะนายก็คงไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉันเหมือนกันใช่ไหมอารอน
“คงจะใช่แหล่ะกลิ่นกาแฟอาจทำให้ฉันมึนหัว” อารอนตอบไปแบบนั้นเพราะดูแล้วมันคงเป็นคำตอบที่น่าเชื่อที่สุดแล้ว
“เออถ้าแกจะเมาจึงนะ พูดจาดีกับฉันได้เนี่ย”
‘อารอนนี่นายคงจะแค่มึนเพราะกาแฟจริง ๆ ใช่ไหม นายคงจะไม่ได้กินที่ฉันพูดเมื่อกี้แล้วซึมแบบนี้หรอกนะ เพราะนายคงจะไม่ได้ชอบฉันนะ’
"ทานให้อร่อยนะคะ" พนักงานสาวเดินนำเครื่องดื่มและเค้กที่อารอนสั่งมาเสิร์ฟให้
หลังจากพนักงานสาวนำเครื่องดื่มและเค้กที่สั่งมาให้อารอนก็จัดแจงเลื่อนของที่สั่งไปให้แบคโฮและเร็น โดยอารอนสั่งเค้กมาให้ด้วยคนล่ะชิ้น เพราะเห็นว่ามันน่ากินดี น่าจะอร่อย
“กาแฟของพวกนายแล้วก็เค้กฉันสั่งมาด้วยเห็นว่ามันน่าอร่อยดี เออแล้วใครก็ได้โทรถามไอ้มินฮยอนทีดิว่าจะเอายังไง ฉันอยากกลับบ้านแล้ว”
“ก็ดีเหมือนกัน ดูหน้านายไม่ค่อยดีเลยนะ” เร็นบอก
“ฉันคงปวดหัวเพราะไอ้กาแฟเนี่ยแหล่ะ” อารอนก็ยังคงอ้างเรื่องกาแฟต่อไป คำพูดเมื่อกี้ทำให้อารอนแทบจะทำอะไรไม่ไหวแล้วตอนนี้เหมือนแรงที่มีทั้งหมดมันถูกดูดหายออกไปจนหมด
‘อยากอยู่ต่อ อยากเที่ยวกับเพื่อนรักต่อ แต่สิ่งที่ได้ยินเมื่อกี้มันทำให้ไม่มีแรงจะทำอะไรแล้วจริง ๆ’
“งั้น เดี๋ยวฉันโทรเอง” แบคโฮอาสาเป็นคนที่จะโทรตามเอง
ตื้ดดดดดด ตื้ดดดดดดด ตื้ดดดดดดด แบคโฮเมื่อพูดจบก็กดโทรศัพท์ไปหามินฮยอนทันทีแต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีคนรับ
อารอนที่ซึ่งกำลังนั่งรอคำตอบก็ตักเค้กของตัวเองกินไปเรื่อย ๆ
แต่ไอ้เค้กนี่รสชาติมันขม ๆ คุ้น ๆ นะ สงสัยคงเป็นเพราะได้กินกาแฟอยู่ใกล้ ๆ นี่ล่ะมั้ง
“มันรับรึยังอ่ะ”
“ยัง”
แบคโฮยังคงกดโทรออกอีกหลายครั้ง จนเวลาผ่านไปสักพักปลายสายก็ตอบรับโทรศัพท์เสียที
“เฮ้ยพวกมึงอยู่ไหนแล้วว่ะ นี่กูรออยู่นะ แล้วเป็นบ้าอะไรโทรไปตั้งหลายรอบแล้วไม่รับ”
[รอกูอยู่หรอ พวกมึงกลับไปก่อนเฮอะ ไอ้ห่าเจอาร์แม่งไม่รู้หายไปไหนอีกแล้วเนี่ย]
“เฮ้ยอารอนเป็นอะไร”
[อะไร ไอ้แบคโฮ ไอ้ร่อนมันเป็นอะไร] คนปลายสายตกใจเมื่อได้ยินอีกคนตะโกนขึ้นมา
“เออ มินฮยอนงั้นแค่นี้ก่อนนะมึง เจอกันพรุ่งนี้” พูดจบแบคโฮก็ตัดสายไปทันทีแล้วหันไปดูเพื่อนที่นั่งข้าง ๆ แทน
ตู้ดดดดดด
[อ้าวแม่ง วางไปทำไมว่ะ เลยไม่รู้เลยไอ้ร่อนเป็นไงมากรึเปล่า แล้วไอ้เจอาร์แม่งไปตายที่ไหนแล้วว่ะเนี่ย]
เสียงบ่นจากคนปลายสายที่ตอนนี้ยังหาเพื่อนอีกคนไม่เจอ = =
อารอนคงไม่เป็นอะไรมากหรอก ถึงอย่างงั้นคงจะมีทั้งเร็นกับแบคโฮคอยช่วย แต่ไอ้เวรเจอาร์ มึงไปตายที่ไหนแล้วว่ะเนี่ย
“เฮ้ยอารอนเป็นอะไร”
[อะไร ไอ้แบค ไอ้ร่อนมันเป็นอะไร] คนปลายสายตกใจเมื่อได้ยินอีกคนตะโกนขึ้นมา
“เออ มินฮยอนงั้นแค่นี้ก่อนนะมึง เจอกันพรุ่งนี้” พูดจบแบคโฮก็ตัดสายไปทันทีแล้วหันไปดูเพื่อนที่นั่งข้าง ๆ แทน
“ง่วง” อารอนอย่างงัวเงียตอบพร้อมตั้งท่าจะนอนล่ะ
“เมื่อกี้แกกินกาแฟหรอ กินรึเปล่า”
“กาแฟ……..เค้กนี่ป่ะ” เมื่อถามถึงกาแฟอารอนถึงหยุดคิดสักพัก ก็มานึก ๆ ขึ้นได้ไอ้รสขม ๆ ที่เค้กมันน่าจะเป็นกาแฟนั่นแหล่ะ
“เฮ้ยเร็นแกดูดิ่ นี่มันเค้กอะไร”
“เออได้”
“เฮ้ย นี่มันทีรามิสุ แบคโฮแกบอกว่าอารอนกินกาแฟไม่ได้ใช่ไหม”
“เออใช่ทำไม”
“ก็ไอ้เค้กเนี่ยแม่งกาแฟทั้งนั้น"
“ฉิบหายล่ะ แล้วไอ้หมีนี่มันดันกินไปซะเกลี้ยงเลย ไม่รู้บ้างไงว่ะเนี่ย” แล้วแบคโฮก็มองไปยังเพื่อนคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เค้าแบบเอือมระอา ซึ่งตอนนี้ก็หลับไปแล้วเรียบร้อย
“แล้วจะเอายังไงดี แบคโฮแกรู้จักบ้านของอารอนไหม”
“รู้”
“งั้น แกไปส่งอารอนที่บ้านที”
“แล้วทำไมฉันต้องลำบากไปส่งมันด้วยล่ะ”
“ถ้าลำบากนายมากให้ฉันพาอารอนไปพักที่บ้านฉันก่อนก็ได้ เอางี้ไหมล่ะ”
“ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันไปส่งเอง”
“งั้นฝากด้วยแล้วกันนะ” เร็นพูดกับแบคโฮก่อนจะยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปากโดยที่แบคโฮอาจจะไม่ได้สังเกตเห็น
“ไอ้หมีนะไอ้หมีกินกาแฟไม่ได้แล้วยังจะไปกินไอ้เค้กบ้าเค้กบอนั่นอีก ดูดิฉันต้องมาลำบากเพราะแกอีกแล้ว กินกาแฟทีไรหลับเป็นตายแบบนี้ทุกที แล้วคนเหนื่อยก็กูทุกที” แบคโฮบ่นมาตลอดทางที่เค้าเดินแบกอารอนมา
แบคโฮเลือกที่จะแบกอารอนที่หลับไม่รู้เรื่องไว้บนหลังเพื่อไปส่งอารอนที่บ้านหรือหอพักที่อารอนพักอยู่นั่นแหล่ะ เพราะมันก็อยู่ไม่ไกลย่านชอบปิ้งนี้เท่าไหร่ แล้วระหว่างทางที่เดินผ่านมาคนที่เห็นแบคโฮที่กำลังแบกอารอนไว้บนหลังก็ต่างพากันยิ้มให้กับความรักของภาพที่เห็น ทั้งที่แค่โบกแท็กซี่ให้มาส่งก็จบแล้ว แต่แบคโฮเลือกที่จะแบกอารอนกลับมาเองแทน
“แล้วดูแม่งกอดซะอย่างกับกูเป็นหมอนข้างแหน่ะ ทั้งกอดทั้งซุก จั๊กจี๋เป็นนะโว้ย” แบคโฮที่ยังบ่นอยู่ตลอด เพราะอารอนที่อยู่บนหลังเค้ากอดคอเค้าไว้แน่น เหมือนกับว่ากำลังนอนกอดหมอนข้างนุ่ม ๆ อยู่อย่างงั้นแหล่ะ
ถึงแม้ว่าจะบ่นมาตลอด แต่แบคโฮก็ยังยิ้มอยู่ตลอดในขณะที่แบกอีกคนเอาไว้
ณ หอพักของที่อยู่อาศัยของอารอน
“แม่งตัวก็นักแล้วอะไรเนี่ย ต้องแบกมาตั้งแต่ร้านจนมาถึงหอกู ต้องมาแบคมึงขึ้นบันได้ตั้งสองชั้นอีกหรอว่ะเนี่ย” แบคโฮยังคงบ่นไม่หยุดส่วนคนที่อยู่บนหลังก็หลับอย่างสบาย <เอิ่ม คือได้ข่าวว่าหอนี้มีลิฟท์นะแบคนะทำไมไม่พาขึ้นลิฟท์จะบ่นเพื่ออะไร>
“นี่ ที่กูแบกมึงขึ้นบันไดไม่ขึ้นลิฟท์ ไม่ใช่เพราะพิศวาสนะ แบบว่ากูช่วยชาติประหยัดพลังงานเพราะเดินแค่สองชั้นและออกกำลังกายไปในตัวด้วยนะมึง” แบคโฮพูดกับคนที่อยู่บนหลังราวกับว่าคนข้างหลังเค้าจะรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นตอนนี้อยู่งั้นแหล่ะ
พอมาถึงหน้าห้องแบคโฮก็นั่งแล้วค่อย ๆ วางอารอนไว้ที่พื้นก่อนจะค่อย ๆ ล้วงหาคีย์การ์ดในกระเป๋าของอารอนเพื่อจะเปิดประตู
“คนอื่นมาเห็นสภาพมึงกับกูตอนนี้ คงคิดว่ากูมอมเหล้าแล้วอุ้มมึงมาทำอะไรแน่เลย แล้วดูท่าอุ้มกูตอนนี้ดิ อย่างกับเจ้าบ่าวอุ้มเจ้าสาวเข้าห้องหอ ซวยชิบเลยกู แต่ดีนะไม่มีใครมาเห็นไม่งั้นไม่รู้กูจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน” แบคโฮยังคงบ่นต่อไป เพราะดูจากสภาพตอนนี้มันช่างน่าคิดยิ่งนัก เพราะท่าที่แบคโฮอุ้มอารอนเข้าห้องคือท่าที่ใคร ๆ เรียกว่าท่าเจ้าหญิงอ่ะ
แบคโฮค่อยๆวางอารอนที่หลับไม่รู้เรื่องลงบนเตียง อย่างเบามือ แล้วค่อย ๆ จัดท่าทางของอีกคนให้นอนได้อย่างสบาย จากนั้นก็ห่มถ้าห่ม และค่อยๆถอดแว่นของอีกคนออกมาอย่างเบามือ
“มึงนี่นะ เล่นเอาก็แทบไม่มีแรงเลย” แบคโฮพูดพร้อมนั่งลงไปบนเตียงของอารอน แล้วมองคนที่นอนหลับอย่างสบาย
“ตกลงนี่มึงกินกาแฟหรือกินยานอนหลับกันแน่นะ หลับไม่รู้เรื่องขนาดนี้ ทำไมชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อยเลย” แบคโฮนั่งมองคนที่หลับแล้วก็ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
“อารอนทำไมมึงชอบบอกว่าตัวเองไม่น่ารักนะ มึงรู้ไหมมึงหน่ะน่ารักมาก” แบคโฮค่อย ๆ เอามือไปลูบที่แก้มอารอนอย่างเบามือ
“เฮ้ย! ไอ้หมีมึงปล่อยกูนะ กูไม่ใช่เหมือนข้างมึงนะ” แบคโฮตกใจเมื่ออยู่ ๆ คนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องก็ดึงเค้าลงไปกอดโดยที่ไม่ได้ตั้งตัว แต่เหมือนคนที่กอดเค้าอยู่จะไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด
ถึงแม้จะพูดออกไปแบบนั้น แต่ไม่รู้ทำไมแบคโฮเลือกจะนอนอยู่ในอ้อมกอดของอีกคน ไม่พยายามที่จะลุกออกมา ได้แต่นอนนิ่ง ๆ อยู่อย่างงั้นและยิ้มออกมา
สักพักคนตัวเล็กก็ปล่อยอีกคนแล้วพลิกตัวไปทางอื่น ทำให้อีกคนหลุดออกจากพันธนาการ?
เมื่อคนตัวเล็กกว่าปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระแล้ว แบคโฮก็ลุกขึ้นมานั่งแล้วมองไปที่คนตัวเล็กที่นอนหลับไม่รู้เรื่องเลย
“อย่าไปเป็นแบบนี้กับใครที่ไม่ใช่ฉันนะ ฉันอยากเห็นภาพแบบนี้คนเดียว อารอนตอนที่น่ารักที่สุดแบบนี้ ขอแค่ฉันได้เห็นคนเดียวนะ ฉันจะกลับแล้ว ฝันดีนะครับ” ประโยคสุดท้ายแบคโฮก้มไปกระซิบข้าง ๆ หูของคนตัวเล็กที่นอนหลับอยู่เบา ๆ
“อือ”
แบคโฮตกใจรับหันไปมองคนบนเตียงทันที เมื่อได้ยินเสียงตอบรับกลับมา แต่ก็โล่งใจเมื่อเห็นคนบนเตียงยังคงนอนหลับเป็นตายอยู่เลย
“คงจะละเมอสินะ” ขออย่าให้ได้ยินจริง ๆ เลยนะ
-เช้าวันรุ่งขึ้น-
“อ้า มึนหัวจัง” อารอนที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการมึนนิด เอามือจับที่หน้าผากตัวเองเบา
ก็รู้สึกยังมึน ๆ หัวอยู่อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ของกาแฟเมื่อวาน
“ว่าแต่ฉันกลับมานอนที่ห้องได้ยังไงเนี่ย” หลังจากตั้งตัวเริ่มได้อารอนก็มองไปรอบ ๆ พบว่าตอนนี้ตัวเองนอนอยู่ที่ห้องของตัวเองแล้ว
“นี่ตกลงเมื่อวานฉันกินกาแฟไปจริง ๆ หรอเนี่ย ถึงได้หลับไม่รู้เรื่องอะไรเลยขนาดนี้” อารอนพึมพำกับตัวเองแล้วหยิบแว่นตามาใส่แล้วเดินออกไปจากห้องเพื่อจะล้างหน้าล้างตา
“ตื่นแล้วหรอครับ” เสียงของคนคนหนึ่งเอ่ยทักเมื่อเห็นอารอนเดินออกมาจากห้องนอน
“เฮ้ย! เร็น นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
“ก็ฉันเป็นคนมาส่งนายเองไง นายเล่นหลับไม่รู้เรื่องนายจะไปจำอะไรได้ยังไงกัน”
---------------------------------------------------------------
ถ้ามีอะไรผิดพลาดไปก็อภัยด้วยนะคะ
ความคิดเห็น