คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [SF] One-Piece.. ch.1
“สวัสดีครับ ผมชเวมินกิพึ่งย้ายมาอยู่ที่โซลนี้ได้ไม่นาน ยังไงก็ฝากตัวด้วยนะครับ” เด็กผู้ชายหน้าหวานสวยราวกับผู้หญิงที่เป็นผู้มาใหม่แนะนำตัวอย่างสุภาพกับทุก ๆ คนในห้อง เรียกความสนใจจากคนที่อยู่ในห้องได้อย่างมากเลยทีเดียว ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย รวมถึงผมและเพื่อนสนิทของผมอีกสี่คนด้วย ก็นะเพื่อนคนใหม่ของผมเนี่ยดวงตากลมโตสวย จมูกคม ปากเล็กเรียวได้รูป ผมยาวสีบรอนด์ทองมัดรวมไว้อย่างทะมัดทะแมงก็นะขนาดนี้ใครจะไม่สนใจ ทั้ง ๆ ที่ผมมองใครบางคนมานานและมองมาตลอดแต่เค้าก็ไม่เคยคิดจะรู้ ผมยังรู้สึกชอบเพื่อนใหม่คนนี้เล้ย
“แล้วมินกิจะไปนั่งตรงไหนดีล่ะ” อาจารย์ประจำชั้นเอ่ยปากถามขึ้น พร้อมมองไปรอบ ๆ ห้องหาพื้นที่ที่เหมาะสมให้กับเด็กใหม่คนนี้
“นั่งตรงนี้ก็ได้ครับ ข้างผมยังว่างอยู่ เดี๋ยวผมดูแลเค้าเอง” อารอนยกมือขึ้นแทบจะทันทีเมื่ออาจารย์พูดขึ้น แต่เพื่อน ๆ ในห้องก็ไม่ได้แปลกใจอะไรหรอกเพราะอารอนเป็นคนที่เข้ากับคนง่ายอยู่แล้ว นิสัยก็น่ารักจนใคร ๆ ก็รักไปซะทุกคน ถ้าเป็นคนอื่นเสนอตัวแรงแบบนี้ทุกคนคงต้องคิดแน่ว่าคนคนนี้คิดอะไรกับเด็กใหม่ชัวน์ ๆ แต่กับอารอนเพื่อนเพื่อนรู้ว่าเค้าไม่มีนิสัยอะไรแบบนั้นเพื่อนจึงไม่ได้ติดใจอะไร
“มินกิ งั้นเธอไปนั่งข้างกับอารอนตรงนั้นก็แล้วกันนะ อารอนฝากเพื่อนใหม่ด้วยล่ะ”
เพื่อนใหม่ในห้องคนนี้ของผมโค้งรับให้กับอาจารย์อย่างสุภาพ แล้วก็เดินตรงมาทางโต๊ะข้าง ๆ ผมเนี่ย
เฮ้อแล้วทำไมไอ้เพื่อนอีกคนของผมที่นั่งโต๊ะด้านข้างอีกฝั่งต้องมองเพื่อนใหม่คนนี้ตาไม่กระพริบเลยนะ แบคโฮนายมองอย่างงี้รู้ไหมมีใครบางคนปวดใจนะ
“สวัสดีครับ ผมขอนั่งข้าง ๆ คุณนะ ^_^” เพื่อนใหม่ของผมพูดกับผมอย่างสุภาพม๊ากกกกกกก พร้อมกับรอยยิ้มที่ส่งมาให้ผม มันเป็นรอยยิ้มที่บอกไม่ถูกแต่ว่ามันทำให้ผมเกือบละลายเลยอ๊ะ เอ๊ะหรือผมจะหวั่นไหวกับผู้ชายหน้าสวย ๆ คนนี้เนี่ย T^T
“อืม ได้สิแต่ว่านายไม่ต้องสุภาพขนาดนี้ก็ได้นะ มันรู้สึกแปลก ๆ อ่ะ พูดแบบธรรมดาธรรมดาดีกว่าจะได้ไม่ดูห่างเหินเนอะ ไหนๆก็จะได้ใช้ชีวิตร่วมกันล่ะ เอาเป็นว่าฉันชื่ออารอนนะ” พูดแล้วก็ยิ้มให้เพื่อใหม่อย่างอารมณ์ดี หารู้ไม่ว่าคนที่นั่งฟังคำพูดเมื่อครู่คิดลึกไปถึงไหน ไอ้ตรงที่ว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกัน พร้อมกับรอยยิ้มหวาน ๆ เนี่ย แต่ก็ยังมีอีกสองคนที่ได้ยินแล้วรู้สึกงึดงึดอยู่ในใจ
“อืม ฉันมินกิ หรือเรียกเร็นก็ได้นะ” เร็นตอบกลับอารอนไปแบบเขิน ๆ เค้ารู้สึกว่าผู้ชายตรงหน้าเค้าเนี่ยน่ารักดีจริง ๆ โดยเฉพาะเวลายิ้มเนี่ย ฟินจริงๆ แถมยังเฟรนลี่อีกต่างหากนี่ขนาดเจอกันครั้งแรกนะเนี่ย
“เร็นหรอ น่ารักดีนะเหมาะกับหน้าตาเลยล่ะ” ว่าแล้วก็เอามือมาเท้าคางตัวเองก่อนจะเอียงคอมองจ้องไปที่คนข้างหน้า โดยมีสายตาดีไม่ค่อยจะดีนักจับจ้องมายังทั้งคู่
ส่วนตอนนี้หน้าคนที่ถูกนั่งจ้องอยู่ตอนนี้ใกล้จะระเบิดอยู่ล่ะ จะจ้องอะไรนักนาเขินนะครับ แล้วยังมาจ้องกันด้วยท่าทางแบบนั้นอีกไม่ไหวน้าเดี๋ยวผมก็เผลอตัวหรอก *คนโดนมองหน้าคิดในใจ*
“พอได้แล้วมองอะไรขนาดนั้น ผมเขิน”
“ก็นายน่ารักดีนี่ อืมนี่เร็นเห็นว่ามาจากที่อื่นหรอ ยังไม่รู้จักใครใช่ไหม งั้นเดี๋ยวฉันแนะนำเพื่อน ๆ ให้ได้รู้จักนะ ซึ่งในเวลานี้ฉันขอแนะนำอย่างเป็นทางการก่อนสองคนแล้วกันเพราะมันนั่งอยู่ตรงนี้ เป็นเพื่อนสนิทฉันเองแหล่ะ คบกันมาก็นานล่ะ คนแรกเลยนะ นี่ แบคโฮ” ว่าแล้วอารอนก็โยกตัวหลบมาพิงที่พนักพิงหลังโต๊ะเพื่อให้เร็นและแบคโฮซึ่งนั่งอยู่โต๊ะถัดจากเค้าไปได้รู้จักและเห็นหน้ากันอย่างเป็นทางการ
‘โหย พูดยาวไม่มีเว้นวรรคอะไรเลย เคยถามบ้างไหมว่าอยากรู้จักใครบ้างรึเปล่า = = แต่ก็เอาเฮอะมีเพื่อนเยอะ ๆ ก็ดีจะได้รู้อะไรเกี่ยวกับที่นี่ให้มากขึ้นด้วย’ เร็นคิดในใจก่อนที่จะยิ้มรับให้กับคนที่อารอนพึ่งแนะนำให้ได้รู้คนแรก พร้อมกับรอยยิ้มตอบรับจากแบคโฮ
‘แบคโฮอ่าทำไมยิ้มหวาน ๆ แบบนี้ฉันไม่เคยได้มันบ้างเลยล่ะ’ ทำไมมองรอยยิ้มบนหน้าของแบคโฮตอนนี้แล้วมันทำให้รู้สึกอิจฉาเร็นได้ขนาดนี้กันนะ
“เร็น ถึงแม้ว่าไอ้แบคโฮเนี่ยมันจะดูเถื่อน ๆ ดูน่ากลัวไปนะแต่ขอบอกว่ามันนะใจดี น่ารักขี้เล่นมากเลยล่ะ เรียกว่าเฟรนลี่ตัวพ่อเลยเรียกว่ารูปร่างกับลักษณะนิสัยไม่ค่อยไปทางเดียวกันเท่าไหร่ แต่ว่านะอย่าให้มันโกรธมันจะดูโคตรน่ากลัวเลย”
“เฮ้ยร่อนพูดแนะนำตัวฉันดี ๆ หน่อยดิว่ะ โหยเอาซะเสื่อมเสียต่อหน้าคนสวยหมด หมดกันภาพลักษณ์ที่ดูดีของฉัน” ‘แบคโฮอ่าชมคนอื่นต่อหน้าฉันเลยหรอ’
“ผมไม่สวย ผมหล่อ และผมก็เป็นผู้ชาย” คนสุภาพพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่ดูน่ากลัวจนคนที่พูดเมื่อกี้เสียวสันหลังวาบ ๆ
“เอ่อ ฉันขอโทษ”
“โหย เร็นโหดเหมือนกันนะเนี่ย เห็นหน้าหวานแบบนี้ ฉันกลัวอ๊ะ” อารอนพูดกับเร็นด้วยท่าทางน่ารัก ๆ เพราะไม่อยากให้บรรยากาศในวันที่พบกันครั้งแรกมันดูอึมครึม เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าอารอนที่หวังดีอยากจะใหเพื่อนได้รู้จักกัน จะกลายเป็นสร้างศัตรูตั้งแต่วันแรกแทน
“ไม่ต้องกลัวผมหรอก ผมออกจะน่ารักจริงไหม” ว่าแล้วคนที่บอกว่าน่ารักก็ทำท่าน่ารัก น่ารักประกอบด้วย
“จะ จะ จริง” โอ้ย ผมถึงกับติดอ่าง โอ้ยเร็นทำท่านางฟ้าใส่ผ้มมมมม
“เฮอะ ทีกับฉันโหดเชียว ทีกับอารอนนะกลับทำน่ารักใส่” คนตัวใหญ่ทำท่าทีแกล้งงอนเพื่อนใหม่ที่ชื่อว่าเร็น
“อุบาท!!” เสียงของคนสองคนพร้อมกันด่าใส่คนตรงหน้า แล้วก็หันมามองหน้ากันเพราะคำพูดที่เอ่ยออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย แล้วก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“โหยดูดิ อารอนอ่าพึ่งรู้จักกับเร็นแท้ ๆ นะเข้ากันดีจังเลยทำยั่งกะรู้จักกันมาเป็นสิบปีงั้นแหล่ะ”
“ไอ้อ้วนงอนหรอ อย่างอนดิฉันก็ต้องทำให้เร็นเค้าคุ้นเคยไว้มาก ๆ จะได้ไม่อึดอัด หรืออาจจะเป็นเพราะเราเกิดมาคู่กันก็ไม่รู้นะ” อารอนพูดออกมาโดยไม่ได้คิดอะไรเลย คือไม่ได้คิดอะไรจริง แค่เป็นการพูดเล่น ๆ ในแบบที่เค้าชอบทำบ่อยๆเท่านั้น แต่คำพูดนี้ทำให้หัวใจหลายดวงรู้สึกแปลบ ๆ เลยทีเดียว
“แล้วก็คนต่อไปเลยแล้วกันนะ นี่มินฮยอนที่นั่งหลับอยู่หน้าฉันเนี่ย” อารอนไม่ได้สนใจกับปฏิกิริยาของคนรอบข้างกับคำพูดที่เค้าพูดไปเมื่อกี้เล้ย แล้วยังแนะนำให้เร็นรู้จักกับเพื่อนคนอื่น ๆ ต่อไปโดยโดยเค้าก็ไม่ได้คิดอะไรกับคำพูดที่พูดไปเมื่อกี้นี้เล้ย โดยหารู้ไหมว่ามีคนหลายคนคิดไปแล้ว
“ครับ คนที่นั่งหลับนี่มินฮยอน แล้วไอ้คนที่ยิ้มหวานให้ผมตลอด ๆ ที่นั่งอยู่หน้าผมเนี่ยชื่ออะไร” ว่าแล้วเร็นก็ไปมองคนตรงหน้าของเค้าที่ยิ้มให้เค้ามานานมากล่ะ ก็เลยสงสัยจริง ๆ ว่าไอ้คนเนี้ยมันชื่ออะไร
“อ๋อ คนนี้เจอาร์เมียไอ้มินฮยอนมันหน่ะ”
“ห๊ะ จริงหรอ” สีหน้าคนฟังตกใจสุดขีด
“บ้า..” คนที่ถูกแนะนำตัวเมื่อกี้กำลังจะแก้ตัวแต่ก็ ยังไม่ทันได้พูดก็มีเหตุการณ์สะเทือนขวัญเกิดขึ้นตรงหน้าซะก่อน
ปั๊ก !
“โอ๊ย ไอ้บ้าเจ็บ หนังสือเล่มไม่ใช่บาง ๆ นะโว้ย ไอ้มินฮยอน” ไอ้มินฮยอนแม่งตื่นมาตอนไหนฟ๊ะ
เสียงโวยวายจากคนที่กำลังแนะนำตัวเมื่อกี้ที่โดนคุณหนังสือจากท่านมินฮยอน ทุ่มเข้าเต็มศรีษะ พร้อมกับลูบที่หัวตัวเองป๊อย ๆ
“ก็แล้วแกไปพูดได้ไงว่าไอ้เจอาร์มันคือเมียฉันหน่ะ” รู้ไหมฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว ไอ้คนไม่เคยรู้อะไรเลย
“เอ๋า รึไม่ใช่” ก็เห็นเล่นตัวอยู่ได้ไอ้เจอาร์มันก็เข้าหาไม่รู้จะยังไงนี่ขนาดช่วยชงแล้วยังไม่คิดจะสนใจไอ้เจอาร์มันอีกโธ่
“อยากโดนอีก รอบใช่ไหม คราวนี้จะเอาสันลงแล้วนะสาด” ว่าแล้วก็ยกหนังสือด้านที่เป็นสันขึ้นมา ตั้งเป็นมุมองศาแบบพอดีหัวคนตรงหน้าเด๊ะ ๆ แบบว่าหนังสือเล่มหนาเล่มนี้พร้อมทุ่มลงหัวคนตรงหน้าอีกรอบ
“เออ เลิกก็ได้ แม่งเล่นแรงอ๊ะ สันหนังสือเลยอ๋อ” พูดพร้อมกับทำแก้มป่อง ๆ แสดงสีหน้าน้อยใจคนตรงหน้าที่เล่นแรงเหลือเกิน
“อะ อะ เออ งั้นคราวหน้าอย่าบอกว่าฉันเป็นอะไรกับไอ้เจอาร์มันอีกก็แล้วกัน” พูดจบแล้วมินฮยอนก็ฟุบลงไปนอนกับโต๊ะเหมือนกับว่าจะไปนอนอีกครั้ง แต่ไม่ใช่หรอกเค้าปิดความเขินของตัวเองมากกว่า เพราะตอนนี้ทำอะไรไม่ถูกสู้หน้าคนตรงหน้าไม่ไหวแล้ว น่ารักเกิ๊น เพราะหนังสือที่ถือจะทุบคนตรงหน้าเมื่อกี้ก็แทบจะร่วงหลุดมือเพราะมือไม้อ่อนไปหมด
“น่ารักจังนะ”
“หืมอะไรนะเร็น” เจอาร์ได้ยินเหมือนเร็นพูดอะไรแว่ว ๆ จึงหันไปถามเร็น
“เปล่า”
“เออ นี่เจอาร์ว่าแต่นายไม่โกรธเลยหรอที่ อารอนเค้าบอกว่านายเป็นเมียมินฮยอนหน่ะ” เร็นถามด้วยความสงสัยเพราะไอ้คนที่หลับอยู่แท้ ๆ โกรธเป็นฝืนเป็นไฟหลับอยู่ยังสามารถได้ยินแล้วส่งหนังสือเล่มโตประเคนลงหัวเพื่อนได้เนี่ย แต่อีกคนเห็นก็ยังนั่งยิ้มอยู่ได้อย่างสบายใจ
“ไม่หรอก” ว่าแล้วก็ยิ้มให้เร็นอย่างสบายใจ แล้วก็หันกลับไปอ่านหนังสือต่อ
‘อะไรของไอ้นี่ว่ะ หรือว่ามันจะชอบ....’
“ใช่ เร็น นอกจากไอ้สี่คนในห้องนี้ที่ฉันแนะนำไปแล้วนะ ยังมีคนอื่นอีกตั้งหลายคนที่ที่ฉันอยากแนะนำให้นายรู้จักนะ ไม่ว่าจะเป็นไอ้ซึงซอล ไอ้โดยุน ไอ้ยูซังห้อง c แล้วก็ยังมี ยองคยอง ซึงโฮ ฮวานซู หมิงหมิง แจฮยอน ...........” = = คุณพระนี่จะแนะนำให้รู้จักหมดโรงเรียนเลยรึไงเนี่ย เยอะไปไหน
“นี่แหล่ะ อารอนรู้จักคนทั่วไปหมด แล้วใคร ๆ ทุกคนที่รู้จักเค้าก็รักเค้าทั้งนั้นแหล่ะ ทำใจไว้แล้วกัน” แบคโฮจับไหล่ของเร็นแล้วพูดกับเร็นเบา ๆ
“-_^” เร็นหันไปมองหน้ากับคนที่พูดกับเค้าเมื่อกี้แบบงง ๆ
“นายช่วยเรียกไอ้บ้าเพื่อนเยอะนี่ไปกินข้าวด้วยแล้วกัน ฉันหิวข้าวแล้วจะไปก่อนล่ะ กว่าแม่งจะพูดจบ” ว่าแล้วแบคโฮก็เดินออกไปด้วยสีหน้าเพลีย ๆ
“เฮ้ย ไอ้แบคโฮรอด้วยดิว่ะ” มินฮยอนที่มันตื่นมาตอนไหนว้า = = ก็ลุกตามไปอีกคน
“เฮ้ย ไปกันแล้วหรอรอฉันด้วยดิ เร็นฝากด้วยนะ” เจอาร์บอกเร็นพร้อมกับวิ่งตามไปอีกคน
“อ้าว เฮ้ย” เชี่ย แม่งทิ้งกันงี้เลยหรอ นี่กูพึ่งมาเรียนวันแรกเลยนะโว้ย เอ้ยแล้วไอ้คุณอารอนนี่เมื่อไหร่จะหยุดพูดรายนามชื่อเพื่อน ๆ เนี่ย ชาวบ้านเค้าไปกันหมดแล้วนะ แล้วฉันจะทำยังไงเนี่ย โธ่ชีวิตเร็น เอาว่ะต้องอดทน เพื่อสิ่งที่ต้องการ เอาว่ะเร็น สู้ ๆ
“อารอนนายเลิกพูดชื่อเพื่อนนายได้แล้วมันเยอะพอแล้วนะ”
“ทำไมหล่ะนี่ยังไม่หมดเลยนะ ฉันอยากให้นายรู้จักกับคนอื่นไว้เยอะ ๆ นายจะได้คุ้นกับที่นี่เร็ว ๆ”
พูดมาเป็นชั่วโมงเพื่อนคุณยังไม่หมดอีกรึ = =
“ไม่เป็นไรหรอก ที่จริงแค่ฉันได้รู้จักนายคนเดียวก็พอแล้ว”
“......” ขณะนี้ควักอารอนติดสตั๊นไปเรียบร้อยแล้ว นิ่งสนิท
“ไปกินข้าวกันเถอะ” ว่าแล้วเร็นก็จับมือคนที่นั่งนิ่งอยู่ข้าง ๆ ดึงขึ้นมาจากโต๊ะ แล้วลากออกจากห้องในสภาพที่ยังคงติดสตั๊นอยู่ = =
‘ฉิบหายล่ะ โรงอาหารไปทางไหนเนี่ย เฮ้ย! อารอนเมื่อไหร่จะเลิกมึนซักที ผมหิวข้าววววววววว’
ความคิดเห็น